***กสินใน 1 วัน / อรูปฌาน4 ใน 1 วัน***

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย GluayNewman, 18 ธันวาคม 2011.

  1. DanaiT

    DanaiT Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +42
    สาธุให้ ครับ คุณ GluayNewman อธิบาย เข้าใจง่าย ซึ่งผมก็ ว่าเข้าใจง่าย ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็ยังมี คนที่ เข้าใจยาก อัตตา สูง ยังพยายาม มาก่อกวน ก็ เห็น ได้ชัดว่า คุณ GluayNewman ยัง ยืนหยัดอยู่ได้ นั่นก็เพราะ เหตุ แห่ง ธรรม ที่ ทำมาดี ขอให้ ตัดกิเลส ตัด ภพ ให้จบ กิจ ในชาตินี้ นะ ครับ ขออนุโมทนา
     
  2. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    อนุโมทนาด้วยครับ
    ผมก็ปรารถนาให้ทุกๆ คนพ้นทุกข์ในชาตินี้ ทั้งหมด ทั้งสิ้นเลยนะครับ
    อะไรที่พอจะช่วยได้ ก็บอกมาเลย ยินดีจะช่วยเต็มที่

    ขอแจ้งตรงนี้เลยนะครับ ผมจะลาออกจากงานประจำ มาทำงานเผยแพร่ธรรมะเต็มตัว
    เริ่มตั้งแต่ มีนาคม ก็จะมีเวลาเขียนบทความเต็มที่
    สิ่งอื่นๆ ที่จะทำก็คือ
    1 ทำคลิ๊ปเผยแพร่ธรรมะของครูบาอาจารย์
    2 จัดปฏิบัติธรรมเชิงเสวนา ทั้งใน กทม และ ตจว เพื่อความพ้นทุกข์
    3 จัดทริปธรรมะ ไปพบครูบาอาจารย์
    4 พิมพ์หนังสือธรรมะแจก
    5 สอนความรู้อื่นๆ เพื่อพัฒนาชีวิต เช่น ไทเก็ก มวยไชยา จักระ กสิน
    รวมทั้งสัมมาอาชีวะที่ผมพอจะแนะนำได้ เช่น ถ่ายภาพ กราฟฟิคดีไซน์ การขาย การตลาด ฯลฯ
    การประกอบอาชีพที่อยู่บนพื้นฐาน... สติ

    โดยทั้งหมดจะทำเป็นการกุศลนะครับ
    ใครจะมาร่วมก็ยินดีต้อนรับนะครับ
     
  3. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    สำหรับงานเสวนา ที่นิมนต์หลวงพ่อสมบูรณ์เอาไว้

    ตกลงหลวงพ่อรับนิมนต์แล้วนะครับ<wbr>...
    ขอเชิญมาตามเวลาได้เลย

    ยังไงช่วยลงชื่อ หรือตอบรับ ไว้ใน Event ของเฟซบุ๊ค


    หรือลงชื่อที่นี่ก็ได้...
    จะได้ทราบจำนวนคนที่แน่นอน จะได้จัดที่นั่งได้ถูกครับ


    กาย เวทนา จิต ธรรม | Facebook
     
  4. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ขอคุยแบบเปิดใจซักหน่อยนะครับ

    ในสังคมออนไลน์ เช่นในเว้ปนี้ ก็เป็นที่รวมของคนหลายๆ ประเภท
    ก็เป็นสังคมของคนแปลกหน้า ที่ไม่เคยพบกันมาก่อน
    เป็นธรรมดา ที่หลายๆ คนก็ต้องมีการ รักษาฟอร์ม หรือ การระมัดระวังในการแสดงความเห็น
    หรือ บางทีก็มีการมาลองกัน มายุแหย่กัน แซว เสียดสี รวมถึงติเตียน ตามประสาของคนแปลกหน้า ไม่รู้จักกัน และความเห็นไม่ตรงกัน

    แต่ในอีกมุม การมีสังคมออนไลน์ ก็มีส่วนดี ตรงที่ช่วยการเผยแพร่ในสิ่งดีๆ ได้เร็ว และกว้างขวาง
    ผมเห็นประโยชน์ตรงนี้ จึงมาเปิดเผยประสบการณ์ และแนะนำครูบาอาจารย์ให้ทราบกัน
    รู้ว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ไฝ่ธรรมบางท่าน ที่สนใจและถูกจริต
    หวังว่า จะมีคนได้รับประโยชน์บ้าง

    ซึ่งก็มีหลายๆ คนได้รับประโยชน์นะครับ
    ส่วนผมเองก็ได้เพื่อนดีๆ จากที่นี่ เพื่อนที่เปรียบเสมือนอาจารย์ มาสอนวิชาจักระให้ผม และก็มารักษาโรคให้แม่ผมด้วย
    เพราะผมถือเอาประโยชน์จากสังคมออนไลน์ได้ เห็นประโยชน์
    ไม่สนใจเรื่องการเสียดสี ตำหนิ ติเตือน อย่างไม่มีเหตุผลสมควร
    มุ่งแต่ยังประโยชน์แก่ผู้อื่น พยายามให้ พยายามช่วยคนให้มากที่สุด แชร์ประสบการณ์ที่ดีๆที่ทำให้ชีวิตดีขึ้น ตามกำลังสติปัญญาที่มี เช่น การชักชวนไปพบครูบาอาจารย์ แบบนี้แหละครับ


    ที่มาเปิดใจนี้ จะบอกว่า ถ้าเราช่วยกันจรรโลงแต่สิ่งดีๆ ให้แก่กัน
    เราก็จะมีสังคมที่ดี ที่มีความสงบสุข ชีวิตของเราก็จะดีขึ้นๆ
    คิดดี ทำดี แก่กันและกัน ....ลด ละ การขัดแย้งกัน
    รับรองว่า เราจะมีความผาสุกขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนเลย

    แต่จะเป็นอย่างนี้ได้ ต้องอาศัยธรรมะ มากล่อมเกลาจิตใจ
    ต้องฝึกหัดตน อย่าปล่อยให้ไหลไปตามกระแสกิเลส มีความเพียร
    มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา อย่าย่อหย่อน ท้อถอย
    อย่าปล่อยตัวตามกระแส ให้กิเลสครอบงำ

    ถ้าทุกคนมีปณิธานจะลด ละ กิเลส มุ่งสู่ชีวิตที่ดีที่สุด ชีวิตที่ปราศจากทุกข์
    สังคมก็จะดีขึ้นเอง ไม่เป็นแบบที่เป็นอยู่นี้....

    มาช่วยกัน ดีไม๊ครับ ได้ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน... ได้ 2 ต่อทีเดียว
    เริ่มจาก หมั่นฝึกฝนตนก่อน แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง

    ด้วยความปรารถนาดี
     
  5. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ขอคาระวะท่าน จขกท.ที่เคารพ
    กระทู้นี้เป็นภูมิใหม่ที่ข้าพเจ้าจะหมั่นโคจรเข้ามา
    เพื่ออบรมบ่มเพาะกุศลจิตเพื่อเป็นปัจจัยไปสู่การ
    สิ้นภพสิ้นภูมิ สาธุอนุโมทามิ
     
  6. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ยินดีครับ เดินทางไปด้วยกันนะครับ


    วันนี้ ให้ระวังความคิดนะครับ
    ความคิดนี่แหละที่สร้างสภาวะต่างๆ ในจิตใจ มาให้เราหลงได้อย่างสุดๆ

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]ความคิดทั้งหลาย ไม่ว่าจะดีเลิศเพียงใด ละเอียดสุขุม น่ายกย่อง น่าสรรเสริญในความคิดนั้นเพียงไร [/FONT]
    [FONT=&quot]ก็เป็นแค่ความคิด เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นบนโลกนี้ แล้วก็ดับสลายไป ไม่ได้เป็นสิ่งที่จริงจังอะไร [/FONT]
    [FONT=&quot]แต่เราส่วนมากมักจะยึดมัน จนตกลงไปในบ่วงแห่งความปรุงแต่ง กลายเป็นสิ่งตัดสินการใช้ชีวิตของเราไปในที่สุด[/FONT]

    [FONT=&quot]ถ้าเรามีสติอย่างถูกวิธีจะเห็นความจริงที่ว่าได้ ว่ามันเป็นเพียงอะไรอย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้น[/FONT]
    [FONT=&quot]เราก็จะถอนตัวจากคามยึดมั่นในสิ่งนี้ และสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ ไม่ใช่ให้มันใช้เราไปทำอะไรๆ อย่างที่เคยเป็นมา[/FONT]

    [FONT=&quot]ผมถึงแนะนำให้ฝึกสติตามแบบฉบับหลวงพ่อสมบูรณ์เพื่อจะถอนตัวออกจากบ่วงแห่งความคิด
    เห็นความจริง หายสงสัยในชีวิต กลายเป็นผู้ลิขิตชีวิตเอง ไม่ใช่โดนลิขิต [/FONT]
    [FONT=&quot]แบบนั้น ไม่พ้นบ่วงแห่งมารไปได้ครับ[/FONT]
     
  7. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    เมื่อวานไปถึงงานช้าไปหน่อยเลยอดฟังช่วงแรกๆ ยังไงตัดต่อวิดีโอเสร็จแจ้งด้วยนะครับพี่กล้วย :)
     
  8. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ครับ เสร็จแล้ว เดี๋ยวมาโพสให้ที่นี่เลยครับ
     
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    รอและติดตามองค์ความรู้วิธี "การฝึกสมาธิด้วยกองกสิณ"
    เนื่องจากนั่ง"พุทโธ"ยังไม่เดินหน้าเลยมัวแต่ปวดหลังปวดขาปวดแข้ง
    ง่วงนอนเป็นกำลัง พอได้นอนลงไปแล้วความเมื่อยปวด
    ความง่วงเหงามันหายไปหมดเลยนอนอยู่กับลมหายใจเข้าออกอยู่ประมาณ ๕ นาที
    จากนั้นก็ไร้ความรู้สึกจนได้เวลาตื่น เมื่อลุกขึ้นมา
    ก็ได้ระลึกพุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามิ แล้วออกจากที่นอน
    ระหว่างวันก็ตรึกถึงความไม่แน่นอนของชีวิตและสรรพสิ่งว่า
    ไม่เที่ยง ไม่มั่นคง มีการแตกสลาย มีผุพัง ถล่มทลาย
    มีชีวิตเกิดใหม่ มีล่วงลับดับไป รู้สึกว่าพัฒนาช้าไป
    จึงอยากหาทางเดินใหม่ๆ ดูบ้าง
    กรุณาช่วยสงเคราะห์ด้วยครับ
    ปกติฟังธรรมจากพระอริยะบ่อยมาก
    จากวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน
    จากวัดป่าบ้านตาด จ.อุดร
    โดยเฉพาะช่วงเช้าๆ ด้วยหูฟังไม่รบกวนใคร
    ฟังเข้าใจโดยตลอดถึงเส้นทางเดินสู่อรหัตมรรค
    อรหัตผลของท่านอาจารย์หลวงตา
    โดยเฉพาะธรรมที่แสดงให้กับหมู่คณะสงฆ์ที่ท่านอบรม
    เป็นธรรมเข้มข้นเคร่งครัด น่าบันเทิงในมรรคในผล ที่จะได้รับจากการปฏิบัติตามยิ่ง
    แต่เมื่อมาคิดถึงข้อธรรม"ปัจจัตตัง"ก็ลดความกระหายไปทันที

    เพราะพบว่าในส่วนตัวเองแล้วแม้ขณิกสมาธิ ใจนี้ก็ยังไม่ได้สัมผัส
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2012
  10. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ได้ครับ...ลองดูนะครับ เผื่อถูกจริต ก็จะไปได้ดี

    งั้นกสินต่อเลยครับ
    อย่างที่บอก จิตต้องบริสุทธิ์ จึงจะก้าวหน้าได้

    ทีนี้ มาถึงข้อสงสัยว่า ทำอย่างไรจิตจะสะอาดบริสุทธ<wbr>ิ์
    คำตอบก็คือ ไม่ต้องไปทำอะไรครับ...งงไม๊ครับ

    จิตเอง มีลักษณะ สะอาด บริสุทธิ์ เป็นคุณสมบัติพื้นฐานของจิต<wbr> ที่เรียกว่า “จิตเดิมแท้” อยู่แล้ว
    เพียงแต่มีกิเลสจรเข้ามา แล้วจิตไม่รู้จัก ไปปรุงแต่ง และไปยึดมันเอาไว้ มันก็โดนกิเลสห่อหุ้มไว้ จิตก็เลยเสียความบริสุทธิ์
    (จิตเสียความบริสุทธิ์ ไม่ใช่ร่างกายเสียความบริสุ<wbr>ทธิ์นะ 55)

    ทีนี้ จะให้จิตกลับมาบริสุทธิ์เหม<wbr>ือนเดิม ก็ง่ายๆ เลิกปรุงแต่งซะ มีสติรู้สึกตัว หยุดการกระทำทางจิต ทิ้งให้หมด
    ก็ให้สบายๆ และก็มาดูร่างกายว่าอยู่ในอ<wbr>ิริยาบถไหน ดูเฉยๆ รู้เฉยๆ แค่นี้ ก็เริ่มหยุดการปรุงแต่งแล้ว
    ต่อไปก็ไปดูว่ามันมีความปวด<wbr>เมื่อย มีเวทนาตรงไหน ดูเฉยๆ
    ให้จิตเค้ารู้เอง สบายๆ ทำหน้าที่เป็นผู้ดู อย่าไปเจ็บไปปวดกับมัน แค่นี้ จิตก็ไม่ยึดแล้วครับ

    ไม่ปรุง ไม่ยึด แค่นี้ จิตก็ค่อยๆ กลับสู่ภาวะเดิมของมันเองคื<wbr>อว่าง สะอาด บริสุทธิ์
    มันว่างๆ ไม่มีอะไร นั่นแหละครับ สะอาด และบริสุทธิ์แล้ว
    ก็ใช้จิตแบบนั้นแหละ ฝึกกสินไป ค่อยๆ ลองเอาธาตุต่างๆ มาปรับเปลี่ยนเวทนาในร่างกา<wbr>ย
    ได้ก็ช่าง ไม่ได้ก็ช่าง ให้จอตบริสุทธิ์ไว้ มันจะพัฒนาไปของมันเอง อย่าเร่งครับ
    เร่ง หรือหวังผลกิเลสก็จะแทรก จิตก็ไม่บริสุทธิ์ ไม่ว่างแล้ว มันก็ไม่สำเร็จครับ

    ถ้ามีปัญหา ถามมาได้เลยครับ....หรือโทรคุยก็ได้นะครับ
     
  11. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    สำหรับผู้ที่ไม่ได้เจ็บป่วย

    แม้จะไม่ได้เจ็บป่วย ก็สามารถฝึกกสิน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นได้
    อวัยวะที่สำคัญที่สุดอย่างห<wbr>นึ่งคือสมอง เวลาเราใช้สมองเยอะๆ สมองจะร้อน หรือจะตึงๆ ครับ
    แต่เราอาจไม่เคยสังเกตุ ไม่เคยรู้...
    ลองสังเกตุซิครับ ตอนนี้ก็ได้ ไปรู้ที่กระโหลกศีรษะ อาจพบว่าสมองของเรา มีลักษณะไม่สดชื่น

    อันนี้ก็ใช้ กสินเย็น หรือกสินลม เข้าไปจัดการในสมองของเราดู
    อย่าไปนึกถึงความเย็นจัดๆ หรือลมแรงๆ นะครับ เอาเบาๆ เย็นน้อยๆ
    ค่อยๆ ให้ความเย็น หรือให้ลม เข้าไปพัด กระจายๆ ไปในสมอง เริ่มจากตรงไหนก็ได้ ตามถนัด
    ค่อยๆ กระจายไปให้ทั่วสมอง คอยดูนะครับ ถ้าเย็นไปก็ลดลงหน่อย หรือลมแรงไปก็ปรับลง
    ปกติ จิตจะปรับของเค้าเองให้เหมา<wbr>ะสม โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ถ้าเราไม่ได้ใส่ความตั้งใจเ<wbr>กินพอดี

    ให้กสินแผ่ให้เต็มสมอง....ส<wbr>มองจะค่อยๆ ผ่อนคลาย เบาสบายขึ้น บางทีก็ง่วงเลย แสดงว่าใช้งานมาหนัก
    ง่วงก็พักซักงีบนะครับ สมองได้ผ่อนคลายบ่อยๆ เราจะมีสติปัญญามากขึ้น
    คิดอะไรได้เร็ว สมองโปร่ง ยิ่งขึ้น อารมณ์ก็ดีขึ้น

    หมั่นคอยสังเกตุบ่อยๆ จะชำนาญขึ้นนะครับ
    ใหม่ๆ อาจทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่เป็นไร ค่อยๆ ฝึกไป รับรองมีประโยชน์แน่นอน
    พอทำได้แล้ว เป็นปุ๊ป แก้ไขปั๊ป สดชื่นขึ้นทันที

    ผมเอง ค่อนข้างชำนาญ พอรู้สึกว่าสมองเริ่มจะตึงๆ<wbr> ก็หายใจยาวๆ (นึก)ให้ลมไหลเข้าไปในสมองโดยตรง<wbr>เลย
    เข้าไปผ่อนคลาย ไหลไปตามร่องกระโหลก ไปตามเนื้อสมอง โปร่งเบาขึ้นได้อย่างรวดเร็<wbr>ว

    มันก็เป็นเรื่องประหลาด หากไปพูดให้ใครฟังว่า หายใจเอาลมเข้าไปในสมองได้.<wbr>..
    ...ลองดูครับ...พิสูจน์เองดีที่สุด
     
  12. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    ขอคำชี้แนะในการเจริญสติ ตอนนอนมี หลักการอย่างไรบ้างครับ
    ขอบคุณครับ
    อนุโมทนา สาธุ ขอรับ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2012
  13. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    ดูความรู้สึกครับ
    ดูว่าขณะนั้น รู้สึกอย่างไร ดูเฉยๆ นะครับ
    ไม่ตามความรู้สึก แต่ไม่ห้าม ไม่ต้องคิวิพากษืวิจารณ์ หรือวืเคราะห์มัน
    ลองฟังหลวงพ่อฯ ดูนะครับ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=RZgXe9Chxqo]หลวงพ่อสมบูรณ์01 - YouTube[/ame]
     
  14. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
  15. หัดเดิน

    หัดเดิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ ผมอ่านได้เพียง3หน้าแรก แต่อยากร่วมแสดงความเห็นมากครับ เพราะรู้สึกว่าจริตผมจะเป็นแบบเดียวกับที่ท่านเจ้าของกระทู้ได้บอกคือ
    1.ทำสมถะนานปีแต่กลับรู้สึกไม่ก้าวหน้า รู้สึกเหมือนล้มลุกคลุกคลานอยู่กับที่

    2.เมื่อทำความรู้สึกตัว อันนี้ผมเรียกเองว่าตั้งสติ คือกำหนดจิตให้เฝ้าดูรู้พร้อมแต่ต้องมีสัมมาทิฏฐิกำกับด้วย(ยิ่งพิมพ์ยิ่งอธิบายยากครับ เอาเป็นว่าผมเข้าใจว่านี่คือตัวศีลครับเพราะมันจะต้อนเราให้อยู่ในศีลไปในตัวไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจก็จะอยู่ในกรอบจำกัด) ผมกลับรู้สึกว่าจิตมีความแน่นหนามั่นคงและคล่องตัวกว่าการฝึกสมถะครับ

    3.เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นอุบัติเหตุ จิตจะทำงานเองเป็นอัตโนมัติ(จิตรักษา) ประมาณว่าจิตจะประเมินทางเลือกที่ดีที่สุดและเราจะเห็นว่าควรจะทำสิ่งใดจึงจะดีที่สุดในขณะนั้นในชั่วพริบตา เช่นครั้งหนึ่งผมขับรถด้วยความเร็วแล้วมีรถปาดหน้า จิตผมขณะนั้นได้เห็นทางออกคือ บีบแตร มองกระจกหลัง เหยียบเบรคแต่อย่าจม เปลี่ยนเกียร์ว่างกันเครื่องดับ ดูไลน์ที่ว่างด้านหน้า พอความเร็วได้ที่ให้หักหลบไปทางที่ไม่มีรถหลังสวนมา แต่อย่าให้รถหยุดเพราะจะเสียกำลังเพราะจะหักหลบไม่พ้น (ทั้งหมดนี้เกิดในเวลาน่าจะน้อยกว่า1วินาทีจติขณะนั้นไม่มีคำพูดเป็นภาษานะครับ และผมจำเหตุการณ์และความคิดขณะนั้นได้ทั้งหมด)

    ที่ผมบอกมาเพียงแค่จะยืนยันอีกหนึ่งเสียงครับว่าสิ่งที่ท่านทำและรู้เห็น มีผมอีกหนึ่งเสียงที่เห็นด้วยว่าเป็นทางเดินที่ดีจริงสำหรับคนที่มีจริตแบบนี้ครับ แต่ภูมิจิตผมขณะนี้ก็ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่เช่นเดิม และไม่บังอาจจะไปตัดสินภูมิของท่านเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2012
  16. หัดเดิน

    หัดเดิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +1
    สาธุครับ ด้วยภูมิอันน้อยนิดของผม ผมเข้าใจว่าท่านเป็นพระอริยะอย่างน้อยต้องโสดาบันแน่นอน ขอให้อยู่เป็นที่พึ่งในเวบนี้และที่อื่นๆด้วยนะครับ คนโง่อย่างผมยังต้องการท่านครับ
     
  17. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    จริตของคุณหัดเดิน ใกล้กับผมมากครับ
    มาเดินทางด้วยกันเลยครับ ยินดีๆ

    เรื่องที่ว่า ผมเป็นอะไรนั้น ผมขอบอกว่า ผมเป็นอะไรก็ได้นะครับ
    ขอให้ท่านพ้นทุกข์ ผมเป็นได้หมด
    เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นอาจารย์ เป็นพระอริยะ ฯลฯ อะไรก็ได้ แม้แต่เป็นหมูเป็นหมาก็ได้นะครับ
    ถ้าช่วยให้คนอื่นพ้นทุกข์ได้ เป็นได้หมดเลยครับ

    ในส่วนตัวผมเอง ไม่มีอะไรมีความหมายแล้วนะครับ ไม่ได้มีความหมายมั่นว่าจะเป็นอะไร จะได้อะไร หรือมีก็น้อยมากๆ
    ...ขอมุ่งทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด....ในการช่วยคนอื่น

    ผมทราบเพียงว่า เป็นเพียงคนธรรมดาๆ หนึ่ง
    เพียงแต่มีประสบการณ์ที่บากบั่นมา ได้ผลที่เห็นแล้วว่ามีประโยชน์กับผู้อื่น
    มีประโยชน์ที่สุด มีค่ามากที่สุด ก็เลยพยายามเผยแพร่ ชี้แนะ ให้นะครับ

    ผมกล้ารับประกันว่า ถ้าัรารู้จักทางที่ถูกต้องจริงๆ แล้ว
    ความทุกข์ที่เกิดขึ้น มันไม่สามารถเบียดเบียนจิตใจได้จริงๆ
    จะทุกข์หนา สาหัสอย่างไร ไม่มีผลกับจิตใจเลย
    ที่สำคัญ เป็นเอง โดยอัตโนมัติด้วย ไม่ได้ข่มกด หลบเลี่ยง หรือไปเปลี่ยนความคิด
    อันนี้ทดสอบกับผัสสะที่ยากๆ ยากที่สุด อาทิเช่น ทะเลาะกับคนใกล้ชิด ป่วยหนักๆ เหตุการณ์คับขัน ฯลฯ
    จิตไม่สะเทือนเลยครับ ปกติของมันอยู่อย่างนั้น ภายนอกดูโกรธ เครียด แต่ภายในนิ่ง สงบ ปกติ
    แม้กิเลสจะยังไม่หมด แต่เบื้องต้นความทุกข์มันขาดจากจิตใจได้จริงๆ ถ้าเข้าถึงแล้ว

    พูดจริงๆ ผมไม่เคยเชื่อสภาวะที่เกิดกับจิตของผมเลย มันจะพิศดารสักแค่ไหน ต่อให้เห็นนิพพานก็เหอะครับ
    มันต้องมาทดสอบกันที่ผัสสะ ที่ชีวิตจริงแบบนี้ มันถึงจะบอกตัวเองได้จริง
    กล้าการันตีได้ อย่างองอาจ แบบไม่กลัวโดนโจมตีเลย (โดนด่าก็ไม่ทุกข์อยู่แล้วนะครับ)
    ผมเคยทะเลาะกับแฟนทางโทรศัพท์หนักๆ พอวางสาย ล้มตัวนอน หลับได้ทันทีเลยครับ
    หรือป่วยหนักๆ จนเดินแทบไม่ตรง มันก็รู้สึกว่า มันก็ทุกข์อย่างงั้นๆ ไม่มีอะไร จิตมันปกติดีอยู่ แบบนี้ครับ

    และนอกจากนั้น ทุกอย่างในโลกก็พลันหมดความหมายลง ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ แม้แต่ความสุข
    ไม่รู้จะมีมันไปทำไมเลยครับ รู้สึกแบบนี้จริงๆ มีแล้วเป็นภาระซะเปล่าๆ ด้วยซ้ำ
    แค่ขอมีปัจจัย พอกินพอใช้ไป อยู่ง่ายๆ กินง่ายๆ .....
    แต่องอาจครับ เลือกในสิ่งดีๆให้กับชีวิต ไม่มอซอด้วย
    ทุกอย่างบนโลกนี้ มันขาดจากจิตใจไปได้จริงๆ
    แม้อาจไม่หมด แต่ก็เหลือน้อยมากๆ ชีวิตที่เหลือเหมือนดูกีฬา ที่เราเป็นเพียงผู้ดู ไม่ใช่ผู้ลงสนาม
    เบาสบาย อิสระ ไม่แบกภาระ...แต่ก็น่าศึกษานะ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
    เป็นอิสระจากโลกธรรม มันอิสระสุดๆ เลยครับ ไม่มีอะไรมาเบียดเบียนจิตใจได้เลย แม้ความตาย
    และอะไรๆ ที่ยังค้างคาในจิตก็คงหมดไปๆ เรื่อยๆ ตามสติ สมาธิ ปัญญา ที่ค่อยๆ พอกพูนขึ้นเอง อย่างเป็นธรรมชาติ
    รู้สึกได้ครับ วันนึงมันต้องหมดเกลี้ยง บริสุทธิ์ล้วนๆ ได้แน่ๆ ถ้าไม่ตายก่อน
    นี่คือความรู้ึสึกจริงๆ จากผม ไม่ใช่อ่านตำรามาบอก


    มันเป็นแบบนี้ ก็เลยมาเผยแพร่ ชี้แนะ กันตรงนี้ เพื่อประโยชน์แก่ทุกท่านให้พ้นทุกข์พ้นภัย
    จะทำแบบนี้ และจะทำต่อไปจนกว่าจะหมดลม หรือเห็นว่า ตัวเองไม่มีประโยชน์แล้วนะครับ

    แต่ทั้งนี้ แล้วแต่ผู้ที่เข้ามาอ่านนะครับ ถ้าเห็นว่า ไม่เข้าท่า ไม่ถูกจริต หรือเป็นทางที่ผิด
    อันนี้ก็ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ต้องการจะมาเอาชนะคะคานใครอยู่แล้ว
    ไม่ได้ต้องประกาศว่า ฉันถูก คนอื่นผิด แบบนั้น
    ใครเห็นว่าเป็นทางที่ "ใช่" หรือ "น่าลอง" ก็มาเลยครับ
    ยินดีช่วยเต็มที่ และให้ลองได้ ไม่ต้องเชื่อก็ได้นะครับ
    แค่มีใจเข้ามาศึกษากันจริงๆ ต้องได้ผลครับ ได้ผลมาเยอะแล้วด้วย
    เคยบอกไปแล้ว ขอ 6 เดือน ถ้าไม่ได้ผล ก็แยกย้ายกันไป ไม่มีอะไรผูกมัดกัน
    ผมง่ายๆ ครับ...ดีไม๊ครับ แบบนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2012
  18. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    บอกกล่าวหน่อยครับ...อันนี้สำคัญ

    คือผมมาโพสการปฏิบัติไว้ที่นี่ แบบไม่ได้เรียบเรียงไว้เป็นหมวดหมู่ ปนๆ กัน
    ผู้สนใจ ให้แยกแยะแบบนี้นะครับ

    1 ถ้าเป็นผู้มีจริตที่เจริญสติได้ดี เป็นวิปัสสนายานิก ก็ให้เลือกดูเฉพาะโพสการเจริญสตินะครับ
    2 สำหรับสมถยานิก ที่ทำสมาธิได้ดี ได้ไว ก็ลองดูเรื่องการฝึกกสิน ต่อไปจะลงเรื่องการฝึกจักระ ให้เป็นทางเลือกเพิ่มเติมด้วยนะครับ
    3 ถ้าต้องการฝึกทั้งหมด เจริญสติ ฝึกกสินไปด้วย ก็สามารถทำได้ครับ ไม่ขัดแย้งกัน มีพื้นฐานเดียวกัน ทั้งสัมมาสติ และสัมมาสมาธิครับ

    ผมจะประจำอยู่ที่กลุ่มหลวงพ่อสมบูรณ์นะครับ มีกิจกรรมปฏิบัติธรรมโดยรูปแบบที่เหมาะกับปี 2012 เรียกว่า ปฏิบัติธรรมออนไลน์กันเลย

    นอกจากนั้นก็จัดเสวนา ทริปไปพบครูบาอาจารย์ ไปปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์เก่งๆ
    มีสอนวิชาอื่นๆ ให้อีก เช่น ไทเก็ก มวยไชยา รวมทั้งวิชาและความรู้ทางโลก เช่น ถ่ายภาพ วาดรูป การดูแลสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก ฯลฯ มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มาช่วยกันครับ
    ทั้งนี้ ต้องเป็นวิชาที่ประกอบด้วยธรรมะครับ เป็นสัมมาอาชีวะ ไม่ใช่เรียนไปเบียดเบียนคนอื่นครับ

    พบกันได้ที่นี่ครับ ผมชื่อ กล้วย ธรรมเพื่อคุณ
    เข้าสู่ระบบ | Facebook
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2012
  19. ครึ่งชีวิต

    ครึ่งชีวิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,178
    ค่าพลัง:
    +15,103
    ขอบคุณครับ
    อนุโมทนา สาธุ กับ ทุกท่าน ขอรับ
     
  20. GluayNewman

    GluayNewman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +747
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าสอนอะไร[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]พระพุทธเจ้าสอน ความพ้นทุกข์ ครับ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าจำแนกย่อยเป็น 2 สิ่งคือ ทุกข์ และความพ้นทุกข์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าจำแนกย่อยเป็น 4 สิ่งคือ ทุกข์ เหตุให้เกิดทุข์ ความพ้นทุกข์ และทางให้พ้นทุกข์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]หรือที่เรียกว่า อริยสัจ 4[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]เป็นเรื่องเดียวกัน แล้วแต่จำแนกย่อยลงไป[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าเรารู้จักความพ้นทุกข์เสียแล้ว คือสภาวะที่พ้นทุกข์แล้ว [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ก็คือจบ ตามพุทธประสงค์ที่ทรงสอน ...เราก็พ้นทุกข์.... แม้ในชั่วขณะ[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ผมเอง มีบ่อยๆ ที่กล่าวออกไปถึงสภาวะที่พ้นทุกข์ ....ไม่มีทุกข์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ก็ถูกท้วงติงว่า ไม่ใช่ ต้องเห็นทุกข์ก่อน ต้องเห็นความเกิดดับอะไรอย่างนี้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ไปเห็นสภาวะพ้นทุกข์เลยไม่ได้..........เป็นงั้นไป[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ก็พระพุทธเจ้าสอนให้เราพ้นทุกข์นี่ครับ ไม่ใช่สอนให้แค่เห็นทุกข์ หรือแค่เห็นเหตุแห่งทุกข์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ผมว่าเขาอาจหลงประเด็นกัน ไปจับอยู่กับเรื่องความทุกข์ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่ได้มุ่งประเด็นไปที่ความพ้นทุกข์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าเราพบความไม่มีทุกข์แล้ว การรู้จักทุกข์ รู้จักเหตุแห่งทุกข์ รู้จักทางปฏิบัติให้พ้นทุกข์ ก็ถูกรวมอยู่ในนั้นเองแล้วโดยอัตโนมัติ [/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าไม่รู้จักทุกข์ จะรู้เหรอครับว่าตอนนี้ไม่มีทุกข์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้ารู้จักความพ้นทุกข์แล้ว จะไม่รู้หรือครับว่าเหตุของมันคืออะไร[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]และถ้ารู้จักความพ้นทุกข์แล้ว ก็ต้องรู้ซิครับว่าปฏิบัติอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ได้[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot].........มันเป็นเรื่อง Simpleๆ อยู่แล้ว[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ปฏิบัติธรรม ยังมีเยอะๆ ครับที่หลงประเด็นกันอยู่[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]พยายามไปรู้นู้น รู้นี่ เห็นนู้น เห็นนี่[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ลืมไปเลยว่าจุดประสงค์คือ ปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่ใช่ปฏิบัติเพื่อให้รู้อะไรมากๆ[/FONT]
    [FONT=&quot] [/FONT]
    [FONT=&quot]ก็คงต้องย้ำคำพูดหลวงพ่ออีกที "ไม่มีทุกข์แล้วจะเอาอะไรอีก"[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     

แชร์หน้านี้

Loading...