ภาพนี้เหมาะสมหรือไม่ พระท่านจะไม่ตบะแตกเหรอครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ptteppawong, 5 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819


    ลองอ่านดูครับ หลวงพ่อปาน พุทธภูมิ นะคับ

    คิดเห็นเป็นเช่นใด เสื่อม ไม่ เสื่อม อยู่ที่ตัวบุคคล ว่ามองอย่างไร จิตคิด อกุศล คิดว่าเสื่อม ก็เป็นที่ตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับ พุทธศาสนา
    จะมี กรรมหนัก ก็เพราะตัวบุคคล ที่คิดไปในทางเสื่อมๆ

    ยิ่งถ้าไปคิด เสื่อมๆ กับ พระที่ ทรง สมาธิ ทรง ฌาน โดยที่เราไม่รู้จริง ไม่ได้ตั้งใจ อ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ ดิ่งลงนรกอย่างเดียว หลวงพ่อฤาษี ลิงดํา บอกไว้


    หลวงพ่อปาน พุทธภูมิ นะคับ

    หลวงพ่อฤาษี ลิงดํา พุทธภูมิ




    ลองอ่านดูครับ .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2012
  2. kin99problem

    kin99problem สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +5



    :cool::cool::cool::cool:
     
  3. kin99problem

    kin99problem สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +5
    มองโลกในเเง่ดีไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่พิจารณาไปด้วย เเล้วเเต่บุคล
     
  4. lunglang

    lunglang สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +20
    แล้วคนสมัยก่อน ใส่เสื้อผ้าจนนมปลิ้นออกมา พระไม่ตะบะแตกหมดเหรอ ก็อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านว่า หลังจากปี 2500 เทวดา จะเป็นผู้สืบทอดศาสนา การจัดทำพีธีต่างๆก็เพื่อให้คนยังสืบทอดศาสนาต่อไป และพระจะสำเร็จมรรผลต่างๆได้ ก็ต้องได้รับการทดสอบจิตใจ จากมารต่างๆ จากกิเลสทั้งหลายเป็นของธรรมดา
     
  5. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    ขอบคุณ คุณSaber ที่นำเรื่องอย่างนี้มาเล่า มากๆ นะครับ ฯ สาธุ สาธุ สาธู

    ผมเรียนทางธรรม สอบได้ ป.ธ. 6 ทางโลกจบปริญญาตรี แยกแยะเป็นว่าความจริงเป็นอย่างไร
    เมื่อเหตุการณ์จริงเกิดขึ้น ต้องแก้ด้วยวิถีของชีวิต จริง ๆ ผู้ใดไม่โดนกับตัวเองไม่รู้ความจริงหรอกครับ ฯ

    แฟนผมเธอทำงานหน้าที่ผู้ช่วยพยาบาล ที่อเมริกา เธอโดนรอบทำร้ายหมายเอาชีวิตด้วยวิธีไสยศาสตร์เหมือนกัน
    คนร้ายเขาไปจ้างให้คนทำ น้องสะใภ้รับสารภาพ น้องสะใภ้บอกว่ารู้เรื่องทุกอย่าง แต่พูดไม่ได้ เขาจะฆ่าเอา ก็ต้องยอมสามี ช่วยป้า(พี่สาวสามี) ไม่ได้ ฯ
    คือเขาจะให้ตายภายใน 9 เดือน เพราะต้องการสมบัติ ดูซิเขาคิด ช่าง.......อะไรเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่พี่สาวเลี้ยงมาแท้ ๆ ไม่รู้จะเรียกว่าอย่างไร หาคำเรียกไม่ได้ ไม่เรียกดีกว่า.....ฯ แฟนผมต้องไปรักษา ทั่วบ้านทั่วเมือง คือได้ยินว่าหมอโรงพยาบาลไหนดี ก็วิ่งไปจนเหนื่อยที่จะไป แต่ในที่สุด บุญเธอช่วย เธอทำบุญมาตลอด วันนั้นเธอคิดถึงแม่มากกว่าปกติ (ไม่ทราบเหตุ เพราะก็ไปเยี่ยมแม่เกิอบทุกวัน) เธอเตรียมอาหารที่แม่ชอบแล้วเดินไป ผมมองเห็นตุ๊กตาหุ่นที่เขาทำพิธีบาป(คุณไสย์) ที่เขานำไปวางไว้ใต้ต้นมะยมหน้าบ้าน บุญช่วยเธอให้เรารู้เหตุการณ์ว่ามีคนปองร้ายแล้ว พวกเราชอบทำบุญ ไปแต่วัด ไปเที่ยวก็ไปวัด อยู่ ทำ ก็ล้วนแต่เกี่ยวข้องการบุญทั้งนั้น บุญจึงช่วยเราไว้ คือ มีลุงคนนึงเขาแนะนำไปหาพ่อหมอ (ท่านห้ามเปิดเผย ทั้ง ๆที่มีคนต้องการท่านให้ช่วย แต่ผมก็บอกไม่ได้) ผมพากันไปรักษาหายมาแล้ว สิ่งที่เห็นออกมาจากร่างกายของแฟนผม มี เข็มแย็บผ้าหลายเล่มจำไม่ได้ มีตะปู 10 ดอก มีลวดตระแกงร่อนข้าวโรงสีออกจากปาก มีด้าย มีน้ำมันพราย ออกมากับวัตถุของใช้พ่อหมอเห็น ๆ เลย น่ากลัวมาก หลังจากโดนของเขา อาการที่ปรากฏชัดคือ เราทะเลาะกันบ่อย โดยเฉพาะเธอนั้นจับผิดผมอยู่ตลอด ผมทำอะไรก็ผิดไปหมด เพราะหมอผีต้องการให้เธอตาย ให้ผมหนี แล้วพวกเขาก็จะมายึดครองทรัพย์สิน (เขาคิดแบบป่าเถือน) ....บ้านเมืองมีขื่อมีแปอยู่ ตาขวางเหมือนคนบ้า หน้าเหลืองไม่มีสีสรรค์ คอยแต่จะทะเลาะ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่เป็นอย่างนั้น ผมก็แปลกใจมาก และเธอก็ยอมรับว่าช่วงที่ยังไม่ได้เอาของออกนั้น เธอเกลียดผมมาก ซึ่งผิดจากเมื่อก่อนเธอไม่เป็นเช่นนั้น พอเอาของออกแล้วก็ดีเหมือนเดิม (พวกเรามีความสุขจากการได้ทำบุญ เข้าวัดรักษาศีล ทำสมาธิภาวนา ตามโอกาส และมองหาโอกาสเสมอ มีความสุขด้วยธรรมดี
    จนกระทั่งทุกวันนี้ )

    เราต้องออกจากบ้านไปนอนทรมาน ที่บ้านคนอื่น เจ็บปวดหัวใจมาก ผมน้ำตาตกใน ได้แต่ปลอบใจกัน ว่าคงดีขึ้น และไม่มีปัญหาเช่นนี้อีก เพราะเราให้อภัยเขา ด้วยการไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนเหล่านั้นอีกเลย ฯนี่เป็นเรื่องจริง เมื่อปี 2552 ครับ

    เรื่องนี้มีจริง ผมเห็นมาตลอด เพราะผมอยู่ต่างจังหวัด แต่ในกรุงเทพ ฯ อาจไม่ค่อยได้เห็น หรือย่างไรไม่ทราบ ฯ
    ก็ต้องแก้หลายวิธีเหมือนกัน วิธีสุดท้ายก็แบบที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ หลวงปู่ท่านเมตตาช่วยนี่แหละครับ ฯ

    เดชานุภาพบุญช่วยพวกเราไว้
    คิดแล้ว ก็เป็นหนี้บุญคุณชีวิต คุณพ่อหมออยู่มากทีเดียว ครับผมฯ

    คำแนะนำ ด้วยหวังดี นะครับ
    ท่านใดที่
    ยังไม่เข้าใจเรื่องอย่างนี้ อย่าเพิ่งปรามาสผู้มีฤทธิ์ เพราะมีสิทธิ์ก่อบาปให้ตัวเอง นะครับ
    ถ้าเราต้องการรักษาพระศาสนาที่ถูกต้อง เราต้องรักษาด้วยการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของเราเอง
    นั่นพระศาสนา พระธรรมวินัย อยู่นั่น อยู่ที่กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของเรา นั่นแหละ ครับผม


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กุมภาพันธ์ 2012
  6. thai966

    thai966 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +14
    แสดงความคิดเห็นเป็นกลาง ๆ นะครับ.........เหมือนร่างกายเรา กว่าจะเข้าถึงหัวใจ ต้องผ่านผิวหนัง.............อะไร หลาย ๆ อย่างจึงจะเข้าถึงหัวใจ
    ต้นไม้กว่าจะเข้าถึงแก่น หรือแกนกลางต้องผ่านผิว เปลือก และ อะไร ๆ หลายอย่าง.......
    พระพุทธศาสนาก็เหมือนกันนะครับ(ผมว่า) กว่าจะเข้าถึง "แก่น"(หัวใจ) ก็คงต้องผ่านอะไร ๆ หลาย ๆ อย่างเหมือนกัน มองกลางครับ
    อยู่ ๆ จะเข้าถึง "แก่น แกนกลาง หัวใจ" คงไม่ได้ครับ (บารมีไม่ถึง)
     
  7. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    ขอบใจนะ..ที่เตือน เราจะคิดเป็นกลางไม่สนับสนุนใครแล้วนะ..
    คือว่าเราเองก็เคยสะเดาะห์เคราะห์นะ โดยพระทำพิธีให้ แต่พระท่านไม่ได้รดน้ำมนต์ให้จากโอ่งเหมือนในรูป แล้วก็แต่งตัวปกติไม่ได้โจมอก พระท่านนำน้ำมนต์ที่ทำพิธีแล้วมาผสมน้ำในถัง แล้วให้เรากับแม่นั่งพนมมือ พระท่านก็ทำการรดมาจากเหนือหัวของเราจนหมดถังแล้วเอาถังมาครอบหัว และพระท่านแนะนำให้เราทำบุญทำทาน ปล่อยสัตว์
    เป็นพิธีกรรมมีความเชื่ออยู่ในตัว เราเข้าใจและที่ได้ตกลงทำ ก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ตัวเอง คิดว่าไม่เสียหายอะไร..
    ประเด็นสำคัญ คือ สะเดาะเคราะห์ ~ อาบน้ำมนต์....ชำระบาปได้จริงหรือ ?
    พระพุทธเจ้า : “......พราหมณ์.....เธอทำอะไร ?...”

    พราหมณ์ : “......อาบน้ำชำระบาป....ขอรับ..”

    พระพุทธเจ้า : “......ถ้าการอาบน้ำชำระบาป...
    >>>…ทำให้คนบริสุทธิ์ได้จริง...
    >>>…กุ้งหอยปูปลา...มิเป็นเทวดาผู้บริสุทธิ์กันหมดแล้วหรือ..”

    พราหมณ์ : “.......ทำไม..เป็นเช่นนั้นล่ะ..ขอรับ..”

    พระพุทธเจ้า : “.......ก็.....สัตว์น้ำ คือ กุ้ง..หอย..ปู..ปลา..
    >>>…มีเวลาอาบน้ำตลอดชีวิตไง..”

    ที่มา : ธรรมะนอกธรรมาสน์ : ท่าน ว. วชิรเมธี

     
  8. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    <TABLE height=30 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD align=left>***บาปชำระไม่ได้ด้วยน้ำมนต์ แต่ชำระได้ด้วยใจและการกระทำ***</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR width="100%" color=#cccccc SIZE=1>ท่านพุทธทาส สอนไว้ว่าน้ำมนต์ที่ดีที่สุด คือ เหงื่อของตนเอง:cool:
     
  9. virgin killer

    virgin killer Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +28
    บาป เวรกกรมไม่ได้ชําระด้วยการอาบนํ้ามนต์
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

     
  11. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ........................
     
  12. hackyz

    hackyz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2010
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +243
    ขอตามดูเฉยๆครับ ไม่ขอออกความเห็น
     
  13. toteaa

    toteaa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +11
    ไม่รู้ไม่ใช่พระ 5555555
     
  14. wuti7952

    wuti7952 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +0
    อยู่ที่เจตนาพระ และผู้รับการอาบว่าจิตใจคิดไปในทางไหน
    บางทีคนเราก็ต้องการที่พึ่ง ระดับการรับรู้และปฎิบัติธรรมแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน
    ใ้ห้เค้ามีที่ยึดเหนี่ยวบ้างในบางครั้ง ขอแค่คิดดีมีสัมมาทิฐิและมีความพยายามตั้งใจก็พอ
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,423
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ความคิดคุณก็ดีครับ..............
     
  16. zlVvolFlz

    zlVvolFlz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +44
    คือมันมองได้หลายแง่มุมนะครับ ก็อย่างที่มีคนเคยบอก 24+25 ลองให้เด็กอนุบาลกับเด็กประถมคิดหาคำตอบดู เด็กอนุบาลบางคนต้องนับนิ้วมือหรือหาเครื่องมือช่วยแต่เด็กประถมอาจคิดเอาในใจก็ได้ ประสบการณ์ภูมิปัญญาเขาต่างกัน การเข้าถึงธรรมะมันมีหลายขั้น หลายคนยังต้องการเครื่องมือเครื่องยึดเหนี่ยวในการภาวนาครับ แต่ถ้ามองในรูปแล้วมันไม่เหมาะสมจริง ๆ มันมีวิธีที่เป็นทางออกอื่นอยู่ คือให้เลี่ยงการกระทำแบบนี้ เช่น การรดน้ำมนต์เฉย ๆ ก็ได้ หรือถ้าเขาอยากอาบก็ให้ทำน้ำมนต์ใส่ขวดหรือภาชนะอื่น ๆ ที่เหมาะสมให้นำกลับไปอาบที่บ้านก็ได้ หรือถ้าเขาต้องการอาบที่วัดเพื่อให้เขาสบายใจก็ต้องหารางน้ำ เพื่อให้มีระยะห่างมีที่บดบังตัวพระจากโยมบ้างก็จะดี เพื่อไม่ให้เกิด โลกวัชระ แบบนี้ มันมีที่มาหมดแหละครับ แต่ก่อนพระอานนท์ได้ถามพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติอย่างไรเมื่อต้องเจอสตรี พระพุทธเจ้าท่านก็ได้พูดไว้แล้ว มันเข้มกว่านี้เยอะ ก็อย่างว่ามันเป็นไปตามยุคตามสมัยครับ "ตถตา" มันเป็นเช่นนั้นเอง หลาย ๆ อย่างมันต่างไปจากเมื่อก่อนมาก อย่างบางคนถามว่าสมัยก่อนแต่งตัวผ้ารัดอกแบบนั้นพระไม่ตบะแตกหรือคือพระสมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกันมาก ๆ ครับ ความเป็นอยู่ตอนเิกิดตอนอยู่ก็ต่างกันสิ่งปรุงแต่งรอบข้างก็ต่างกัน สมัยก่อนมีแต่สงครามความเป็นอยู่ยากเข็น มันเป็นการฝึกแบบไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ มีคนตายให้เห็น มีศพอยู่ตามป่าตามสนามรบ ทุกวันนี้หาดูยากมาก ในหนังสือพิมพ์ก็เซ็นเซอร์ ในงานศพก็ใส่โลงสวย ๆ อย่างดี ใครหล่ะจะสังเวชในความตายบ้างครับ น้อยคนนัก

    และอีกอย่างครับ โลกวัชระ พระพุทธเจ้าให้สิทธิให้ความสำคัญกับคำนี้มากครับ ตอนผมบวชอยู่หลวงพ่อจะพูดคำนี้ให้ฟังอยู่บ่อย ๆ ว่าอย่าไปเผลอทำเข้ามันไม่ดี ถึงเราไม่รู้ เราไม่เจตนา เราไม่มีจิตคิดร้าย เขาพูด เขากล่าวหาว่าทำ เขาจะบาป มันจะเป็นกรรม
     
  17. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    :cool:i'm with you:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...