ใครเคยเจอผีตอนที่บวชเป็นพระอยู่ครับ ? เข้ามาเเชร์กันได้ครับ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 12 กันยายน 2008.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ผมยังไม่เคยบวชพระหรอกครับ เคยเเต่เณร เเต่ไม่เคยเห็นอะไรครับ เเต่ตอนที่บวชเป็นเณรนั้น มีหลวงพี่คนหนึ่งที่บวชก่อนหน้าผมนิดหนึ่ง ท่านเล่าว่า ท่านได้ยินเสียงคนมาเคาะหน้าต่าง ( กุฏิที่เราอยู่นั้น อยู่ถัดจากเมรุเผาศพครับ ) ผมจําไม่ค่อยได้เเล้วว่า ท่านเล่าว่าอย่างไรบ้าง เเต่คิดว่า ท่านเห็นเป็นคนอยู่ตรงหน้าต่างหรืออะไรประมาณนี้ครับ ใครที่เคยมีประสบการณ์เจอผีหรือวิญญาณมาขอส่วนบุญในระหว่างที่บวชอยู่ ก็เข้ามาเเชร์ได้ครับ อนุโมทนาทุกท่านด้วยครับ ณ ที่นี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • skelwalk.gif
      skelwalk.gif
      ขนาดไฟล์:
      17.9 KB
      เปิดดู:
      2,623
  2. แทนคุณ

    แทนคุณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +333
    ไม่ได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างหรอกนะ แต่ได้ยินเพียงเสียงเดิน แบบคนลงเท้าหนักๆ บนพื้นปูน
    เดินมาหยุดตรงข้างหลัง ขณะที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ พอหันหลังไปดู ( ทีแรกนึกว่าเพื่อนพระด้วยกันมาหา)
    ก็ไม่เห็นใครเลย เสียงเดินค่อนข้างแรงมาก จนพื้นปูนสะเทือน แต่ไม่มาก เพียงพอให้สัมผัสได้เท่านั้นครับ
     
  3. kkkub

    kkkub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2006
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +193
    ผมเจออำครับ ตอนกลางวันผมฉันเพลเสร็จ ผมก้อไปอ่านหนังสือที่เปล ใกล้ๆโรงเก็บเรือยาว พอสักพัก หลับแล้วได้ยินเสียงเด็กมาวิ่งเล่นรอบๆเปล ตอนที่สัมผัสได้ตอนแรกนึกว่าเป็นเณรมาเล่นทำกัน พอเราจาตื่นมาดุเณรกลับตื่นไม่ได้ ผมเข้าใจว่าเป็นเด็ก แต่ทำไมต้องอำกันด้วย
     
  4. marutnacpaladfg

    marutnacpaladfg Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +98
    มีคนมาเคาะที่กุติทุกคืนมองไปดูไม่เหนมีใคร กลัวก็เลยย้ายกุติครับ
     
  5. ทาโร่

    ทาโร่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +126
    บวชพระมา 1 พรรษาครับ
    ตอนนั้นมีความตั้งใจเรียนกรรมฐานและปฎิบัติเคร่งครัดมาก
    พื้นที่วัดก็เป็นป่าช้า(วัดป่า)มีแต่คนอื่นหรือพระที่เคยบวช บอกว่า
    เคยเจอผีต่าง ๆ ผมก็กลัว แต่ก็ไม่มาก พระอาจารย์บอกว่า ผีไม่
    หลอกหรอก เพราะถ้ามาทำให้พระตกใจ ก็เป็นบาปของเค้า และ
    บอกว่า ไปเดินจงกรม หรือนั่งสมาธิที่ไหน ก็ให้สวดมนต์แผ่เมตตา
    ด้วยเสมอ ดังนั้นจึงมีกำลังใจปฎิบัติเต็มที่ ไม่วอกแวกกับเรื่องผีอีก
    แต่ถึงแม้จะพอทนได้ แต่เวลาอยู่คนเดียวในป่าช้านี่มันจิตหลอนมาก ๆ
    ครับ ปรุงแต่งสุด ๆ โดยเฉพาะเวลาได้ยินเสียงใบไม้หล่นหรือได้ยินเสียง
    เหมือนคนเดินไป เดินมาใกล้ ๆ หรือได้ยินเสียงพวกสัตว์กลางคืนที่ออก
    หากินในบริเวณที่ปักกลดนั้น
    ประสบการณ์ตอนเป็นพระนั้น ทำให้กลัวผีน้อยลง มีเหตุผลและใช้สติมากขึ้น
    แต่พอสึกมาก็เจอบ้าง เวลาขับรถดึก ๆ อาจจะไม่ใช่ผีก็ได้ครับ แต่เป็นคนที่
    เดินข้างถนน ตอนดึก ๆ ไม่มีไฟฉาย ไม่มีหมู่บ้านคน และก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไร
    ที่ข้างถนนนั่น ตอนเวลาดึก ๆ อย่างนั้นด้วย พอเจอเสร็จก็กำหนดจิตแผ่เมตตาให้
    เราก็สบายใจด้วย
     
  6. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    มีคืนนึงครับนอนๆอยู่สะดุ้งตื่นมาตอนกลางดึกเลยครับ
    รุ้สึกเจ็บจี๊ดๆตรงหลังต้นคอ เอามือลูบๆไปเจอเลยครับ
    ปลวก!!!!! มากัดต้นคอครับ บาปกรรมมากมากัดพระได้
     
  7. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794


    555555555555555555+;aa14
     
  8. bigbasna

    bigbasna สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +10
    แม้กระทั่งหนังสือธรรมะยังโดนกัดเลยครับกัดทะลุพื้นมากินหนังสือเลย คงเป็นเพราะปลวกไม่มีตาเลยต้องกินเผื่อจะจำได้ ในห้องที่ผมนอนตอนเป็นพระไม่มีอะไรเลย มีหมอนใบนึง
    คิดแล้วเศร้าไปเทียบกะห้องท่านเจ้าคุณช่างต่างกั๊นต่างกัน
     
  9. โคกผักหวาน

    โคกผักหวาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +1,041
    ตอนบวช บวชที่วัดป่า เป็นวัดของหลวงปู่ขาวอนาลโย ลาบวชในช่วงเข้าพรรษา ต้องการความสงบก็เลยย้ายไปอยู่กุฏิ บนชง่อนผา จะเรียกว่ากุฏิก็ไม่น่าจะถูกเพราะลักษณะเป็นกระต๊อบ อยู่ตรงชง่อนผา ถ้าขาดสติงัวเงีย ออกจากกุฏิมีหวังตกเขาตาย เพราะประตูอยู่ปากชง่อนผาพอดี กระต๊อบเล็กๆตอนนอนหรือจำวัดนี้ ศรีษะจะติดที่ฝา ส่วนเท้าก็จะติดฝาอีกด้าน เล็กแต่สงบและน่าอยู่
    คืนแรกไปพักอยู่ก็เป็นเรื่อง กำลังเคลิ้มๆปรากฏว่ามีร่างสีดำกระโดดเข้ามาทับที่หน้าอก แล้วบีบที่คอของเรา
    ไม่ยอมปล่อย เราดิ้นรน พยายามต่อสู้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ยิ่งโดนบีบคอหนักเข้าเรื่อยๆ สวดมนต์ก็แล้ว สวดไม่รู้กี่คาถา เขาไม่สะดุ้งเสทือนเลย
    คิดในใจว่า เออ ไหนๆทำอะไรไม่ได้ ดิ้นรนก็เปล่าประโยชน์ สวดมนต์ก็แล้ว ก็เลยตัดใจว่า ใหนๆจะมาให้ตายแล้ว ก็ฆ่าซะ เรายอมตาย เราก็เลยปล่อยวาง ปล่อย อะไรจะเกิดให้มันเกิด แน่จริงก็ฆ่าให้ตายซะ
    ปรากฏว่าเขาคงละอายใจ ก็เลยลุกหนีออกไป เอ ไม่น่าเชื่อว่าวิธีการนี้ได้ผลนะ อยากฆ่า ก็ปล่อยวาง ยอมให้ฆ่า
    แต่ปรากฏว่า เขาหนีไปเลย......
    เจอเรื่องแปลกประหลาดพิศดาร หลายเรื่อง แล้วจะมาเล่าให้ฟัง
     
  10. oho021

    oho021 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +6
    ผมบวชได้คืนที่สามครับก็เจอเหตุการณ์แปลกๆคือ พอเข้าจำวัดก็หลับไปมาสะดุ้งตื่นเอาตอนเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ เพราะมีคนมาเขย่าประตูหน้าห้องที่ผมจำวัด เขย่าเป็นช่วงๆแล้วก็เงียบไป แล้วก็เขย่าใหม่เป็นช่วงๆ ผมกลัวมากนอนคลุมโปงเลยครับ ในใจก็ท่องนะโมผิดๆถูกๆ เหงื่อแตกพลักด้วยความกลัว และก็คิดไปว่าคืนนี้คงโดนดีเข้าแน่ๆ แต่พอซักพักได้ยินเสียงหลวงลุงข้างห้องเปิดประดูออกมา และได้ยินเสียงเหมือนก้อนหินหรือขอนไม้อะไรซักอย่างมากระแทกเข้ากับประตูหน้าห้องผมอย่างจัง พร้อมกับเสียงร้องโหยหวนปนความเจ็บดัง เอ๋งๆๆๆๆ พร้องเสียงด่าของหลวงลุงบอกว่า พระเจ้าเขาจะหลับจะนอนสอกมานอนเกาขี้เลื้อนอยู่ได้ แล้วสุนักเจ้ากรรมก็กระโดดลงกุฏิไป แล้วหลวงลุงก็ตะโกนคุยกับผมว่า " ท่านไม่รำคาญบ้างหรอปล่อยให้มันเกาขี้เลื้อนอยู่หน้าห้องได้ตั้งนานสองนาน" ผมงี้พูดไม้ออกบอกไม่ถูกเลยครับว่าสิ่งที่ผมกำลังกลัวเนี่ยมันคือไอ้ด่างขี้เลื้อนที่ผมเอาข้าวให้มันกินในช่วงเย็น มันเลยรู้คุณมานอนเฝ้าให้หน้าห้องอะครับ แต่มันเป็นขี้เลื้อนมันคงคันก็เลยเก่า ฮิๆๆๆ ตกใจหมดเลย ไม่กล้าบอกใครว่าโดนผีหมาขี้เลื้อนหลอกอะครับ
     
  11. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
    เคยเจอเหมือนกันครับ แต่ จะเรียกว่าผีหรืออะไรไม่รู้ ตอนบวชพระ (ผมบวชนาน บวช 10 พรรษา) เรื่องที่เจะเล่านี้ เป็นเรื่องครั้งแรกเลยที่ผมเจอและเห็นอะไรที่แปลก คือผมเป็นคนชอบลองของมากๆแล้วก็เป็นคนไม่กลัวผี ชอบตั้งแต่เด็กๆแล้ว พอตอนบวชก็ได้โอกาสเลย ลองดะ เขาว่าให้เอาไม้กวาดไปลากรอบเมรุ 3 รอบตอนเที่ยงคืนแล้วมาก้มดูตรงหน้าเตาแล้วจะเห็นผี ผมลองเลยตอนนั้นบวชได้ประมาณ 20 วัน พอลองลากครบ 3 รอบ ก็มาก้มดูเลย ผลปรากฏว่า ปกติ ไม่มีอะไรก็ไปบอกเพื่อนพระด้วยกันว่าปกติ(มีคนรอลุ้นเพียบ)อีกคืนนึงลองใหม่ ไปที่ป่าช้าเอาอาหารไปเซ่นแล้วเรียกผีมากิน(สัปเหร่อบอกมา)แล้วมาแอบดู ก็ไม่มีอีก และก็ลองอีกหลายวิธีครับไม่เห็นมีอะไร ปกติมาก ที่ป่าช้า เมรุ ทางสามแพร่ง สี่แพร่ง ต้นไม้ใหญ่ๆ ผมลองมาทุกที่(แถวๆวัด) อ้อ ลืมบอกไปตอนไปลองนั้นไปตัวเปล่านะครับ ไม่มีวัตถุมงคลหรือพระเครื่องติดตัวอยู่เลยไม่ได้ลบหลู่ครับ แค่อยากรู้จัด ว่า "ผี" ที่คนเขากลัวกันจะมีจริงๆใหมและจะออกมายังไง แล้วอีกอย่างนึงตอนนั้นยังบวชใหม่ๆด้วย ยังสงสัยอยู่ ว่า วิญญาณ ผี นรก สวรรค์ ภพภูมิต่างๆ มีจริงรือไม่ ผมก็ลองอยู่หลายๆวิธีมาก ผลคือ "ไม่เจออะไรเลย" เวลาก็ผ่านๆไป จนไปเข้าเรียนกรรมฐาน ก็ติดใจครับ รู้สึกชอบ สงบดี ชอบนั่งสมาธินั่งใหม่ๆ ก็ปวดก็ชา เมื่อยขบไปหมด พอนานๆๆไปทำติดต่อกันไปทุกๆวันเริ่มวันแรก15นาทีก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มไปเรื่อย จน นั่งได้3-4 ช.ม (ตอนนั้นประมาณพรรษา3หรือ4นี่ล่ะครับ)แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่ามีจริงไหมพวกวิญญาณต่างๆขนาดตอนนั้นบวชได้หลายปีแล้วเรียนนักธรรมก็จบเอกแล้วด้วย แต่ก็ยังสงสัยเพราะไม่เคยเจอสงสัยอยู่เกือบทุกวัน ที่ๆผมชอบไปนั่งนั้นคือ "โบถส์" หลังจากสวดมนต์ตอนเย็นๆเสร็จจะมีการนั่งกรรมฐานต่อเลย สวดมนต์เย็นประมาณ 5 โมงเย็นพอ 6 โมงครึ่งเลิก แล้วใครจะนั่งต่อหรือขึ้นไปพักผ่อนก็ได้ ผมชอบนั่งสมาธิ ก็อยู่ต่อจะเหลือผมคนเดียวประจำทุกวันไม่ขาดนอกจากป่วย ก็นั่งภาวนาไปๆครับ ไม่คิดอะไร มีอยู่วันหนึ่ง ขณะนั่งทำสมาธิอยู่เป็นปกตินั้น เวลาประมาณ 2 ทุ่มได้มังครับ ผมนั่งอยู่คนเดียวในโบถส์ ผมรู้สึกว่ามีคนหรืออะไรซักอย่างอยู่ตรงหน้าผมห่างจากหน้าผมไม่น่าจะเกิน 10 เซ็น(ความรู้สึกมันบอก แล้วในโบถส์ก็ไม่ได้เปิดไฟด้วย)ตอนแรกก็เฉยๆครับ ไม่นึกกลัวหรือคิดอะไรเพราะรู้ว่าเราอยู่ในโบถส์ แต่ก็ไม่ได้ลืมตามาดู นั่งภาวนาเรื่อยไป พอสักพักมีความรู้สึกว่า ใคร หรือ อะไร ที่นั่งจ้องหน้าผมอยู่ยืนขึ้นแล้วมีเสียงเหมือนกระทืบเท้าเสียงดัง "ตึ่บ" หนักๆอยู่ตรงข้างหน้าผม ตอนนี้ล่ะเริ่มๆรู้สึกแปลกๆแล้ว ตอนแรกคิดไปว่า เพื่อนพระด้วยกันมาแกล้งแต่มาคิดอีกทีตอนเขาออกไปเขาปิดประตูโบถส์ไว้แล้ว ผมก็เห็นตอนเขาออกไปเขาปิดประตูไว้ ประตูโบถส์เป็นประตูไม้บานใหญ่มาก เวลาเปิดปิดจะมีเสียงดังแอ๊ดดังมาก ส่วนหน้าต่างโบถส์นั้นอยู่สูงและมีลายปูนปั้นอยู่มากมายถ้าใครปืนเข้ามาลายพังแน่ครับ และก็ต้องได้ยินเสียงแน่ๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนเข้ามาแล้วผมไม่รู้ แต่ก็ยังเฉยครับ ยังไม่ไปไหนนั่งอยู่ต่อ พออีกสักประมาณ 10 นาที ตอนนี้ล่ะแปลกครับมีเสียงเหมือนคน วิ่ง อยู่หน้าผมเสียงนั้นชัดมากเสียงเหมือนคนวิ่งกันหลายๆคนวิ่งอยู่หน้าผมแล้วก็วิ่งๆวนรอบตัว ทีนี้ชักกลัว แต่ยังไม่กล้าลืมตา ก็เลยถามในใจไปว่า เป็นใครครับ มาทำไม .................... หลายนาทีผ่านไป ไม่มีเสียงตอบมา มีแต่เสียงกระทืบเท้าอีก จึงถามใหม่ ถามว่า จะมาบอกว่า วิญญาณมีจริงใช่ใหม "ตึ๊บ" เสียงกระทืบเท้า เสียงดังกว่าเดิม ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมกลัวมาก แล้วก็มีเสียงเหมือนคนวิ่งกระโดดไปมาอยู่หลายๆคน(ในโบถส์)ผมจึงตั้งสติ แล้วคิดว่า เอาน่ะก็เราอยากเห็นไม่ใช่เหรอ ลืมตาดูสิ ตามันไม่ยอมลืมครับอยากเห็นก็อยาก เวลาผ่านไปสักพัก ผมจึงค่อยๆลืมตามา ภาพตรงหน้าที่ผมเห็น เป็นเงาคนรูปร่างใหญ่มากๆครับ อยู่บนหัถบาตที่พระนั่ง เป็นเงาดำ พอเพ่งดู ภาพนั้นก็ค่อยๆหายไป ผมจึงแผ่เมตตา กรวดน้ำอุทิศไปให้ แล้วจึงค่อยๆลุกเดินไปปิดหน้าต่างด้านหลังโบสถ์ แล้วจิตนึกกลัว ก็เลยไม่ปิดหมดเดินกลับมากะว่าจะเปิดประตูไว้ก่อน(กลัว) ก็เดินกลับมาเปิดประตูไว้แล้วเดินไปปิดหน้าต่างบานที่เหลือ แล้วผมจึงเดินออกมา ตอนปิดประตูนั้นกำลังจะล็อคกุญแจ ผมได้ยินเสียงดัง เพล้งๆๆๆๆ ในโบสถ์เสียงเหมือนจานหลายๆใบตกลงมาแตก เลยเปิดประตูดู(ตอนนี้เริ่มกลัวเพิ่มละ)พอเปิดประตูดู ไฟครับ เปิดเองเฉยเลย แล้วก็ปิด แล้วก็เปิด แล้วก็ปิด อยู่ประมาณ 4-5 ครั้ง ผมเลยรีบปิดประตูแล้วเดินออก(โดยเร็ว)ผมจึงไปถามเจ้าอาวาส ท่านก็บอกว่าไม่มีอะไรหรอก ผมคิดไปเอง ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกครับ ผมอยากจะบอกกับท่านเหลือเกินว่า ผม " ไม่ได้คิดไปเอง " แต่ผมก็ไม่อยากเถียงท่านจึงเฉย ก็เป็นเรื่องจริงที่แปลกครับ พอเช้าประมาณ 8 โมงผมเข้าไปใหม่เพื่อจะดูว่ามีอะไรแตก เพราะได้ยินเสียง เพล้งดังมาก ปรากฏว่าไม่มีอะไรแตกครับ ทุกอย่างอยู่ดี แล้วของส่วนใหญ่จะเป็นทองเหลือง(ยังสงสัยว่าอะไรแตก) สถานที่ที่น่าจะเจอ ไม่เจอ สถานที่ๆไม่ควรเจอที่สุดกลับเจอ แต่ผมไม่คิดว่าเป็นผี นะครับคิดว่าน่าจะเป็นเทวดารักษาโบสถ์เขามาล้อเล่นมากกว่า(คิดเอง)หลังจากนั้นพอวันถัดมา ผมก็นั่งเหมือนเดิมอีกกลัวก็กลัวอยากรู้ก็อยากว่าเราอุปทานไปเองหรือเปล่า ปรากฏว่าเวลาผ่านไป 1 ช.มเองครับ "ตึ่บ" เสียงเดิมมาอีก แล้วไฟก็เปิดเอง แล้วก็ปิด เปิดๆ ปิดๆ อยู่พักนึง ผมจึงอธิษฐานในใจว่า ผมเชื่อแล้ว ว่ามีจริงขออย่าได้มากวนผมเลยผมเชื่อแล้วผมกลัวแต่ถ้าผมทำไม่ถูกเอาเลยครับเอาเต็มที่เลย แต่ถ้าทำถูกขอให้อนุโมทนาร่วมกัน อย่าแกล้งผมเลย (ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ) ปรากฏว่าได้ผลครับ เงียบ..........สนิท..........ไม่มีเสียงอะไรไฟก็ไม่เปิดอีกเลยนับตั้งแต่นั้นมา นี่ก็คือเรื่องจริงตอนบวชพระครับ ตอนเจอเรื่องแปลกๆครั้งแรก และยังมีต่ออีกหลายครั้งครับที่เจอแบบ "จะๆ" ไม่ต้องท้าทายไม่ต้องขอ มาให้เจอเลย เห็นด้วยตาเนื้อเลย ตอนนี้ ผมเชื่อเกิน 100 เปอเซ็นแล้ว ว่า ภพภูมิ ทั้งหลายต่างๆนั้น มีจริง บาบมี บุญมีไม่สงสัยเลยสักนิดเดียว ทุกวันนี้ บุญก็ทำ กรรมก็สร้างครับ แต่พยามยามทำบุญมากหน่อยสร้างกรรมให้น้อยเข้าไว้ ก็เล่าสู่กันฟังครับ.. ^^
     
  12. BlueBlur

    BlueBlur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,664
    ค่าพลัง:
    +1,568
    ตอนที่ผมบวชใหม่ๆ วันแรกตอนหลังจากห่มรับห่มผ้ากาสาวพัตร ช่วงนั้นได้ยินเสียงแหลมๆในหู แหลมมากๆ มาเล่าให้ท่านเจ้าอาวาสฟังตอนหลังท่านบอกว่าเปรตมาขอส่วนบุญด้วย
    และในช่วงที่บวชใหม่ต้องในโบสร์ 3 ถึง 7 วัน คืนแรกผมเจอดีเลย นอนอยู่ในโบสร์เงียบๆคนเดียว พอตกดึก ครึ่งหลังครึ่งตื่น นอนพลิกกลับตัวไปอีกข้างหันหน้ามาเจอ ผู้หญิงผมยาว แต่งชุดไทยโบราณสีครีม นุ่งสไบทับสีม่วงๆ มานั่งคุกเขามองมายังที่ผมนอน ห่างกันระยะ 4-5 เมตร เกือบใกล้ละครับ หน้าตาเธอสวยครับ แต่ที่แปลกใจคือตาเธอหลุดไปข้างหนึ่ง หายออกไปจากเบ้าตา ผมมองแต่ไม่กลัวนะ แล้วก็นอนพลิกกลับไปอีกข้างหนึ่ง ไม่ได้สนใจและกลัวเธอเลย ก็ตื่นมาตอนเช้า ถามหลวงพี่เจ้าอาวาส เรื่องเมื่อคืนที่เห็นหญิงสาวตาโบ๋ ท่านก็แจงให้ผมฟังว่า สงสัยเป็นตนเดียวกัน เพราะตอนที่ท่านมาบวชจำพรรษาอยู่วัดใหม่ๆ คืนแรกท่านก็เจอคล้ายๆกับผม แต่ผีผู้หญิงไทยตนนั้น ห้อยหัวลงมาจากขื่อด้านบนวิหาร ท่านก็เปรยๆว่า เป็นผู้หญิงอะไรไปอยู่บนหัวพระหัวเจ้า หลวงพี่เห็นก็แผ่เมตตาให้ หลังจากนั้นก็ไม่พบเจออีกเลย สรุปได้ความมาว่า ไม้ที่สร้างเป็นขื่อพระวิหาร คือไม้ตะเคียน คนรุ่นเก่านำมาถวายแล้วสร้างไว้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีในการบวชของผมเลยครับ
     
  13. ครรชิต

    ครรชิต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมบวชตอนที่ผมเรียนจบ เป็นการบวชแก้บนนะครับ คือ เรียนจบปุ๊บบวชปั๊บเลย
    เพราะว่ากลัวเมื่อได้งานทำแล้วจะไม่มีเวลามาบวช แต่ผมก็กลับมาบวชวัดใกล้บ้าน
    ตอนเข้าโบสถ์นั้นเขาบวช 2 รูป คือ ผม กับ หลวงนิน แต่เราไม่รู้จักกันหรอก
    บวชเสร็จเราก็มาจำวัดที่วัดเดียวกันและกุฏิเดียวกันด้วยแต่ได้นอนเป็นเพื่อนกันคืนเดียวพระรูปนั้นก็ไปจำวัดที่วัดอื่นส่วนผมก็อยุ่ทีวัดเดิม
    โดยกุฏิของผมตอนนั้นเป็นสองชั้น ผมนอชั้นล่างเพราะขี้เกียจเดินขึ้นบันได แต่ผมก็เดินขึ้นไปสำรวจด้านบน มีจีบงปูไว้กับพื้นอยู่ก่อนแล้ว เหมือนเมื่อก่อนมีคนมานอนชั้นบนแต่ยังไม่ได้เก็บ
    กุฏิใกล้ห้องเก็บของ และไม่มีกุฏิของพระรูปอื่นอยู่ใกล้ ถ้ากลางวันไม่น่ากลัวมาก แต่พอกลางคืนมันน่ากลัวครับ ผมก็ไม่คิดอะไรมาก ผมเลยต้องเปิดไฟนอนทุกคืนเลย
    คืนที่สอง ผมก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าผมฝันหรือว่าตื่นจริงๆๆ ผมจำได้ว่าผมนอนอยู่ ก็มีเป็นดวงไฟเล็กขนาดเท่ากำปั้น ลอยจากฝาข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง ผมก็หันมองตามไปแล้วก็หลับไป โดยไม่ได้รุ้สึกกลัวเลยสักนิด
    แล้วมีเด็กมีเด็กวัดเล่าให้ฟังว่ากุฎิที่ผมอยู่มีพระ สูงอายุมรณะภาพชั้นบน
    ผมคิดในใจว่าท่านคงมาทักทายปกติ มาให้กำลังใจ ดีนะที่มาแค่ดวงไฟ ถ้ามาเป็นตัวคงวิ่งไม่คิดชีวิตแล้ว
     
  14. Pure_Heart

    Pure_Heart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2005
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +171
    ไม่น่าเชื่อเลยว่า
    สถานที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    กลับกลายเป็นสถานที่มีผีเยอะที่สุด
     
  15. ซึมดีจัง

    ซึมดีจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +67
    ผมไม่เคยบวช แต่พอผมบอกว่าตอนบวช ที่กุฎิเป็นห้องที่ติดกัน 3 ห้อง พ่อผมอยู่ห้องกลาง ห้องด้านซ้ายเป็นพระบวชใหม่ ห้องด้านขวาไม่มีใครอยู่เป็นห้องว่าง แต่ตอนกลางคืนพ่อของผมจะได้ยินเสียงลากตู้ ลากเตียง ลากเก้าอี้ จากห้องนี้เกือบทุกคืนเลยอ่ะ โดยเฉพาะวันพระ เหมือนเค้ากำลังจัดอะไรอยู่
     
  16. channarong_wo

    channarong_wo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ขอร่วมด้วยคนครับ....
    ครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่ได้บวชพระเป็นครั้งแรก เหตุการนั้นประมาณซักอยู่ในข่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา ผมได้บวชที่วัดป่าแห่งหนึ่ง เมื่อครั้งบวชผมก็มีความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมอย่างแรงกล้าที่จะปฏิบัติธรรมตามรอยพระพุทธะ หลังจากที่ผ่านพิธีการบวชเสร็จ ผมก็ได้ขออนุญาติครูบาอาจารย์ท่านเข้าไปอยู่กุฏิในป่า ที่ได้ชื่อว่า...พระที่ไปอยู่ที่นั่นโดนมาแล้ว....แต่มันก็เป็นเพียงคำล่ำลือ อย่ากะนั้นเลย ...ลุย...เมื่อทุกอย่างลงตัว ได้รับการอนุญาติจากครูบาอาจารย์ท่านแล้วผมก็ได้จัดแจงสิ่งของเท่าที่จำเป็นสำหรับสมณะสารูป ก้าวแรกที่ย่างเข้าไปถึงที่แห่งนั้น ผมสัมผัสได้ถึงความสงบเงียบ น่ารื่นรม น่าเข้าไปอาศัยอยู่มาก กุฏิแห่งนี้สร้างอยู่บนเนินเขาน้อยๆ ผมต้องเดินผ่าผืนป่าทึบ และไล่ระดับความสูงไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงกุฏิที่พัก สภาพของกุฏิ เป็นกุฏิ 2 ชั้น ชั้นบนเป็นที่พักชั้นล่างเป็นห้องน้ำที่เปิดโล่ง ไม่มีไฟฟ้า เมื่อผมย่างกายขึ้นไปด้านบน พอเปิดประตูเข้าไป ผมก็เห็นเตียงสำหรับเป็นที่นอนสำหรับผู้เข้าพักอาศัย ข้างๆมีพระพุทธรูปขนาดหน้าตักประมาณ 5 นิ้วองค์นึงวางบนหิ้ง ก่อนจะย่างก้าวเข้าไปด้วยความที่เป็นมือใหม่ ผมก็เลยยกมือไหว้แสดงความนอบน้อมก่อน จากนั้นผมย่างก็เข้าไป วางสัมภาระที่นำมาด้วย ก่อนจะทำการใดๆผมก็ก้มลงกราบพระพุทธรูป ฝากเนื้อฝากตัวกับสิ่งศักสิทธิ์เทพเทวาทั้งหลายก่อน...ก็ยังยืนยันไม่ได้กลัวนะ แต่เพื่อความปลอดภัย ม่ายยยยเสี่ยงครับ....เมื่อทุกอย่างวางเข้าที่เข้าทาง ขยับขยายถอดชุดนักบวช แล้วก็เริ่มปฏิบัติธรรมในบัดดล สวดมนต์ นั่งสมาธิ และก็ลงมาเดินจงกลมด้านล่าง ขึ้นชื่อว่าป่า พอเริ่มหัวค่ำซัก 4 โมงเย็น มันก็เย็นดั่งเวลา หมู่แมลงเริ่มออกมาเปล่งเสียงแข่งกัน มันไม่เงียบอย่างที่คิดเลย เสียงมันดังมากแต่สักพักมันก็เริ่มชิน แต่ที่ไม่ชินเลยคือยุง สุดยอด มันมาจากไหนเนี่ย เยอะแยะไปหมด ยากันยุงที่มีอยู่ ก็เอาไม่อยู่ ทนไม่ไหวก็เลยต้องเดินกลับไปเอา ธูปมาช่วย ดีครับยุงก็หายเพราะทนกลิ่นธูปไม่ไหว แน่นอนคนจุดก็แทบตายเช่นกัน เพราะไม่ได้จุดแค่ดอกสองดอก เราว่ากันเป็นกำ และหลายๆกำ ดีครับรสชาดของชีวิต ด้วยความฟิต อีกทั้งได้รับการบอกเล่าว่า หากใครไปอยู่ที่กุฏินี้ จะมัวมานั่งๆนอนๆ เสร็จแน่ ไอ้ความที่เราเป็นคนไม่อยากเสี่ยง ก็เลยเอาเป็นเอาตาย จวบเที่ยงคืน ด้วยความอ่อนล้า ก็เลยหยุด อาบน้ำอาบท่าเตรียมเข้านอน จำไม่ได้ว่าผมขึ้นไปนอนด้านบน ในห้องในวันแรกหรือนอนกลดก่อน เอาเป็นว่าในวันที่เกิดเหตุผมนอนในกลดเป็นวันแรก ด้วยความที่อยากให้อานิสงค์ของผู้ที่ได้ถวายกลดมา ผมจึงลงมานอนข้างล่างนอนในกลด...ทดสอบจิตใจ...เมื่อทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จ กางกลดเตรียมที่หลับปัดที่นอน ตรวจสภาพความพร้อมก่อนทิ้งตัวลงนอน งูตะขาบ มีหรือเปล่า อันตรายอยู่ในป่า เผลอประมาทไม่ตายก็เจ็บตัวได้ เมื่อทุกอย่างพร้อมก่อนทิ้งตัวลงนอน ผมก็นั่งสมาธิเจริญสติอีกนิดหน่อย เมื่อสภาพร่างกายเริ่มประท้วง เริ่มต่อต้าน ผมก็เลยพลิกตัวเพื่อทำการพักผ่อนร่างกายด้วยความมีสติ แต่แล้วเพียงแค่หลับตา เจริญสติกับการนอน ไม่ถึง 5-10 นาที มีบางสิ่งกระโดด ต้องบอกว่าพุ่งเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เห็นเป็นร่าง ร่างนึงหน้าตาบอกว่าน่าจะเป็นผีหรือวิญญาณ มีเพียงแค่ครึ่งตัว พุ่งเข้ามาหาผม ฉับพลันผมก็ยกมือคว้าไปที่ข้อมือของวิญญาณตนนั้น ซึ่งเค้าก็พยายามจะเข้าร่างเราให้ได้ หมุนเคว้งอยู่บนอากาศรอบตัวเรา สู้กันสักพักใหญ่ๆ เค้าก็หยุดและก็ไปในทีสุด เมื่อเค้าไปแล้วผมก็สดุ้งตื่นขึ้นมา เฮ้ย..ฝันไปหรือนี่ทำไมมันเหมือนจริงจังเลย แล้วผมก็ไปคว้าเอานาฬิกามาดู มันพึ่งผ่านไปไม่เกิน 10 นาทีมานี่เอง เป็นไปไม่ได้ทั้เราจะหลับ..ถ้าอย่างงี้ไม่ฝันแน่ แต่ทำไมมันเหมือนสู้กันนานเหลือเกิน หากเพื่อนจะถามว่าช่วงที่สู้กัน กลัวไหม้ ผมไม่รู้หรอกว่ากลัวหรือเปล่า แต่ผมรู้ว่า มนต์/บทสวดต่างๆ เท่าที่จำได้ ถูกนำมาใช้หมด แต่ขอโทษท่องผิดท่องถูก ใอ้ที่เคยท่องได้ มันผ่ามาลืม สลับหน้าสลับหลังมั่วไปหมด ก็พอมีสิ่งที่ช่วยได้น่าจะเป็นพระสติที่อยู่กะตัวเรานี่ล่ะที่ช่วยเอาใว้ เหงื่อกาฬแตกพลักเมื่อลืมตาขึ้นมา สักพักเมื่อใจเริ่มสงบก็เลยข่มตาหลับอีกครั้ง แต่แล้วพอเคลิ้มๆจะหลับ เอาอีกจนได้ เหมือนใครมาเปิดลำโพงข้างหูอย่างรุนแรง เสียงดังมาก โอ้โฮอยากจะกระโจนออกจากกลดวิ่งหนีให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ตกใจมาก เพื่อนๆเคยไหม้ครับ เหมือนผมหรือเปล่า คราที่เรานั่งสมาธิในห้องพระ เมื่อจิตกำลังสงบเสียงจิ้งจกร้องขึ้นมา โอ้...ใจเต้นยังกะตีกลอง ขนาดอยู่ที่บ้านเรานะ ยังแค่นี้ แต่นี่อยู่ที่ป่า เที่ยงคืนมันเงียบและยะเยือกบอกไม่ถูก...แต่เพราะชุดที่สวมเป็นชุดนักรบอันยิ่งใหญ่ ขืนวิ่งเสียฟอร์มแย่ นอนไม่ได้แล้ววุ้ยขืนเป็นอย่างงี้ ผมก็เลยลุกนั่งเทศให้ฟังมันซะเลย " พวกคุณรู้ไหม้ ทำไมผมถึงมาบวช ผมมาที่นี่เพื่อต้องการสร้างบุญ สร้างบารมี หากผมช๊อคตายไปตอนนี้พวกคุณนะจะบาปใหญ่ ทำไมถึงทำอย่างงี้ " อะไรประมาณนั้นนะ แต่จำไม่ได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่ก็พักนึงอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อที่เกิดขึ้นนั่นก็คือ พอหลังจากที่ผมเทศเสร็จคืนนั้น จวบจนวันผมลาสิกขา ไม่เกิดขึ้น ไม่มาหาอีกเลย...ประสปการณ์เล็กๆครับ
     
  17. หนีทุกข์

    หนีทุกข์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +70
    อ่านเพลินเลยค่ะ..อยากอ่านอีกจังเลย มีผู้ใดจะเมตตามาเล่าให้ฟัง(อ่าน)อีกไหมคะ......

    อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านที่สละเวลามาเล่าให้อ่านนะคะ สาธุ ^__^
     
  18. Sonaz

    Sonaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +348
    ผมนี้เด๊ะ อ่านแล้วเสียว ไม่นานนี้จะหาฤกษ์บวชอยู่แล้วเชียว เล่นซะไขว้เขว่ หมดเลย
     
  19. int4

    int4 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +2
    ตอนที่ผมบวช ระยะเวลาแค่สิบกว่าวัน ครับ ที่วัดมีคนตายไป 3 ศพ ไม่น่าเชื่อแถมศพที่ 3 ต้องรอ ศพที่ 2 เผาเสร็จก่อนถึงจะทำพิธีต่อได้ ไม่รู้ว่าช่วงนั้นในหมู่บ้านเกิดอะไรขึ้น แล้วดันมาตรงกับตอนที่ผมบวชด้วยสิ ที่วัดก็มีพระแค่ 3 องค์เอง กลางคืนจึงเงียบมาก

    บวชเสร็จตอนกลางวัน ตอนบ่ายได้งานแรกเลยครับ ขึ้นทอดผ้าก่อนเลย ท่องบทก็ยังไม่เป็น
    ส่วนกลางคืนก็ขึ้นสวดศพทุกคือเลย ทั้งเช้า กลางวัน สรุปมีงานตลอด

    เรื่องผีกลางคืนนั้นเงียบมากครับ แต่ไม่เคยเจอจริงๆ ไม่มีเสียงอะไรให้น่ากลัวทั้งนั้น กุฏิที่อยู่ก็ข้างๆ ศาลาที่สวดศพนั้นแหละ ผมว่าไม่มีอะไรหรอกครับ คิดไปเองกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...