ทำบุญใหญ่แล้วกำลังใจตก แก้อย่างไรดี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย รวยน้อยไป, 26 เมษายน 2012.

  1. รวยน้อยไป

    รวยน้อยไป สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +21
    ผมชอบทำบุญ รักษาศีล เจริญภาวนาตามสมควร

    ในส่วนของการถวายทานแด่สงฆ์ ผมถูกจริตกับการถวายสังฆทาน(แบบเวียน) หรือตักบาตร ที่วัดใกล้บ้านมากๆ ทำง่าย ทำสะดวก ปลื้มใจ ถึงแม้ว่าท่านจะไม่สำรวมบ้าง หรือไม่ใช่พระปฏิบัติ แต่ผมก็ถวายเป็นสังฆทานอยู่แล้ว ตั้งใจขยายไปทั่วสังฆมณฑล

    กลับกันกับการไปทำบุญใหญ่ๆกับพระปฏิบัติ เช่นสร้างมหาเจดีย์ หล่อองค์พระใหญ่โต ผมจะรู้สึกเหนื่อยจากการเดินทาง คนเยอะดูวุ่นวาย ร้อนบ้าง หรือแม้กระทั่งการคิดว่างานบุญท่านใหญ่โตมาก เราทำบุญได้นิดเดียวเอง ไม่สมกับงานบุญนี้เลย จิตก็ตกอีกแล้ว


    อย่างนี้แล้ว ผมจะได้บุญจากงานบุญอย่างไหนมากกว่ากัน แล้วผมควรแก้ไขปัญหาอย่างไรดี

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 เมษายน 2012
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เวลาเราทำบุญกับพระสงฆ์ให้ระลึกว่าพระสงฆ์เป็นผู้สืบอายุของพระพุทธศาสนา สืบทอดการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เวลาเราทำบุญไม่ว่ามากหรือน้อยผมจะคิดว่าเราได้มีส่วนร่วมในการสืบอายุพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธศาสนาอยู่ได้ด้วยทาน คนไม่ให้ทานพระสงฆ์ก็อยู่ไม่ได้ ส่วนเรามีศรัทธาที่จะทำแค่ไหนมันเป็นเรื่องของเรา บางคนมีไม่มากแต่ศรัทธามากทำมาก บางคนศรัทธาน้อยกว่าทำน้อยก็ไม่เป็นไร แต่เราทำอย่าให้นึกเสียดายภายหลังจะเป็นโทษเหมือนกรณีท่านอาคันตุกะเศรษฐีได้ ต้องรู้ตัวเอง แต่ถ้าเราอยากได้บุญมากๆ เราอาจจะทำบ่อยๆ หรือมีส่วนช่วยเขาทำงานบุญเพราะเจตนาทำดีของเราต่อเนื่อง
     
  3. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    อนุโมทนาบุญกับท่านเข้าของกระทู้ และท่านที่ตอบกระทู้ครับ
     
  4. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    บุญเกิดที่ใจ ครับ จิตตก ย่อมได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
     
  5. Aooder

    Aooder เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +450
    บางครั้งผมก็เป็นเหมือนกันครับ เวลาจะทำบุญเลยต้องสำรวจใจตัวเองให้ดี ถ้ามันจะตกจะยังไม่ทำ ไม่รู้คิดถูกไหม
     
  6. พยัคฆ์ร้าย

    พยัคฆ์ร้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,411
    ค่าพลัง:
    +161
    อนุโมทนาสาธุครับ สำหรับผม ผมจะคิดว่าผมทำบุญให้พระสงฆ์ให้พระสงฆ์ไปปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วทะนุบำรุงศาสนาด้วยนะครับเพราะทำให้พระสงฆ์มีชีวิตอยู่ทำให้เกิดพระรัตนตรัยครบ3ประการครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 เมษายน 2012
  7. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    บุญ ทาน พวกนี้....ศาสนาพุทธ ไม่เคยกำหนดว่า เล็ก หรือ ใหญ่...นี่เป็นโมคคลาหลงทิศกันไปใหญ่แล้ว....
    ..พุทธศาสนาสอนหลักว่า...ควรทำกับเนื้อนาบุญ...จึงจะได้บุญมากกว่า ที่ไม่ใช่เนื้อนาบุญ....(คือทำบุญกับสมมุติสงฆ์ก็ได้...แต่ได้น้อยเพราะท่านยังมีกิเลศอยู่เต็มดวงจิต...ทำบุญกับอริยะสงฆ์ได้โสดาบันขึ้นไป ก็ได้บุญมากกว่า ทำนองนี้)
    ...แต่ที่ทำสร้างมหาเจดีย์สูงเทียมฟ้า....ผลลัพธ์ตายไปแล้วอาจเป็นแค่เทวดาล้างเท้า...แต่ยายแก่คนจน ทำบุญด้วยจิตบริสุทธิ์ และดันทำกับพุทธองค์หรือ อรหันต์ ตายเป็นเทวดามาให้พวกสร้างมหาเจดีย์สูงเทียมฟ้าล้างเท้าให้ เพราะเป็นเทวดาชั้นใหญ่กว่า...
    ...เพราะเจดีย์สูงนั้น ดันไปทำกับสมมุติสงฆ์ทั้งเพ....ฮา
     
  8. อภิราม

    อภิราม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +9,005
    ลองคิดแบบนี้สิครับ

    หากเราทำบุญแล้วหวังผลบุญ เราจะได้บุญน้อย
    หากเราทำแล้วไม่หวังผลบุญ เราจะได้บุญเยอะ

    ทำบุญอะไรก็ได้ ไม่ต้องหวังผล
    ทำเพื่อให้จิตใจเราสงบ ผ่อนคลายจากปัญหาการงานต่างๆ

    เราเจอคนดีเราก็ทำบุญ
    เจอคนไม่ดีเราก็ทำบุญ
    เราไม่สนใจว่าเขาจะดีหรือไม่ดี
    เพราะเราทำบุญเพื่อตัวเราเอง

    ลองคิดแบบนี้ครับ ว่าเราไม่สนใจผลของบุญ
     
  9. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    เห็นด้วยกับคำตอบนี้ครับ
    เพราะการทำบุญหรืออีกอย่างก็คือทาน ดังที่ท่านเจ้าของกระทู้ตั้งนั้น ท่านให้ทำเพื่อละครับ ไม่ใช่เพื่อเอา ท่านเจ้าของกระทู้ยังจะเอา ผลมันก็เลยไม่มาก แต่ถ้าทำเพื่อละ เพื่อคลาย อย่างนี้ได้เยอะกว่าครับ ไม่จำเป็นว่าต้องทำมากเป็นหมื่นเป็นแสน ทำแค่บาทเดียวยังมีผลมากกว่า ถ้าทำเพื่อละ คิดว่าคำตอบแค่นี้คงจะพอเข้าใจนะครับ เพราะท่านเจ้าของกระทู้ก็เป็นผู้มีปัญญาอยู่แล้ว นำคำตอบของทุกคำตอบไปต่อยอดเอาเองเลยนะครับ ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  10. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ไม่เคยทำบุญแบบที่เรียกว่าสังฆทานเวียนเลยค่ะ
    หากจะถวายสิ่งของเครื่องใช้แด่พระภิกษุสงฆ์ จะไปเลือกซื้อสิ่งของนั้นแล้วมาจัดห่อเอง

    สำหรับวัดใกล้บ้าน ก็ทำบุญเกือบทุกวัด แต่ไม่ประจำ
    วัดที่ทำบุญประจำ จะเป็นวัดที่พระท่านปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบ
    บุญใหญ่ๆ ที่ไปไกลๆ ทำยากๆ ก็ทำค่ะ แต่ไม่ให้ตนเองเดือดร้อน
    ไม่เคยน้อยใจว่าเราทำได้น้อย
    ได้แต่อนุโมทนากับท่านที่ทำบุญมากๆ และยินดีกับเขาจริงๆ
    และคิดว่า หากเรามีปัจจัย มีโอกาส เราก็จะทำอย่างนั้นบ้าง


    มีครั้งหนึ่ง มีอุบาสิกาผู้ร่ำรวยมากๆ มาจากชลบุรี
    เธอนำผอบขนาดใหญ่มาก มาถวายพระอาจารย์(น่าจะราคาหลายหมื่น)
    ถวายพระไตรปิฎก ถวาย...สารพัด ล้วนแล้วแต่เป็นทานอันประณีตทั้งสิ้น
    เราก็ยกมืออนุโมทนากับเธอ พลอยยินดีกับเธอด้วยที่มีโอกาสนี้
    และขอโอกาสทำบุญร่วม โดยเอาเงินเล็กน้อยที่เรามี ใส่ซองให้เธอ
    แค่นั้น ก็จำไม่รู้ลืมแล้วค่ะ
    คิดถึงคราวใดก็มีความสุขได้ทุกครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2012
  11. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ถามว่าจะได้บุญจากงานบุญไหนมากกว่ากัน ตรงนี้เปรียบเทียบได้ยาก เพราะในส่วนที่เป็นสังฆทาน คุณบอกเองว่า พระท่านอาจไม่สำรวมบ้าง หรืออาจไม่ปฏิบัติบ้าง ตรงนี้ถือว่าบกพร่องในองค์ประกอบในส่วนที่เป็นเนื้อนาบุญบริสุทธิ์

    ส่วนที่ไปสร้างพระใหญ่ จิตคุณไปมีกังวลมากเกินไป เมื่อใจไม่เป็นสุข บุญก็ลดน้อยถอยลง องค์ประกอบในเรื่องความยินดีในผลบุญหรือที่เรียกว่าปิติก็พร่องไป

    คำถามของคุณน่าจะอยู่ในส่วนของการไปร่วมในพิธีใหญ่ๆมากกว่า ว่าเกิดปัญหาอย่างโน้นอย่างนี้ทำให้ใจคุณตก จะแก้ไขอย่างไร

    วิธีแก้ง่ายๆก็คือ
    1 ไปเพราะเต็มใจไป ไปเพราะอยากทำบุญอย่างแท้จริง
    2 เมื่อไปแล้ว ก็อย่าไปคิดถึงเรื่องไม่สบายใจซิ อย่าไปคิดถึงมัน....ก็แค่นั้นเอง
     
  12. j_samsen

    j_samsen สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +4
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อภิราม [​IMG]
    ลองคิดแบบนี้สิครับ

    หากเราทำบุญแล้วหวังผลบุญ เราจะได้บุญน้อย
    หากเราทำแล้วไม่หวังผลบุญ เราจะได้บุญเยอะ

    ทำบุญอะไรก็ได้ ไม่ต้องหวังผล
    ทำเพื่อให้จิตใจเราสงบ ผ่อนคลายจากปัญหาการงานต่างๆ

    เราเจอคนดีเราก็ทำบุญ
    เจอคนไม่ดีเราก็ทำบุญ
    เราไม่สนใจว่าเขาจะดีหรือไม่ดี
    เพราะเราทำบุญเพื่อตัวเราเอง

    ลองคิดแบบนี้ครับ ว่าเราไม่สนใจผลของบุญ

    เห็นด้วยกับข้อความนี้ค่ะ
     
  13. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    การทำบุญ ทำให้ง่ายทำให้สะดวกเข้าไว้ ผลบุญก็ได้ง่ายได้สะดวก<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT>
    ถาม: หลวงพ่อคะ เมื่อก่อนตอนเป็นเด็กเวลาทำสังฆทานเขาก็จะมีพิธีครบหมดเลย แต่ว่าเดี๋ยวนี้ก็บางครั้งแค่ยกไปวาง เอาเงินใส่ถัง จะมีผลเหมือนกันไหมคะ ?

    ตอบ: ขึ้นอยู่กับกำลังใจของเราจ้ะ

    คำถามนี้เคยมีญี่ปุ่นคนหนึ่ง เขาไปที่ วัดท่าซุง แล้วเขาข้องใจมากเลย เขาหาคนตอบคำถามไม่ได้ บังเอิญไปเจอกับอาตมา เขาก็ถาม แต่พ่อเจ้าประคุณพูดไทยฟังยากเป็นบ้า ต้องแปลเป็นไทยอีกรอบหนึ่ง คือเขาพูดไทยสำเนียงญี่ปุ่นเร็วปรื๋อเลย

    เขาถามว่า "ที่ประเทศญี่ปุ่นของเขา เวลาคนจะทำบุญจะมีกล่องบริจาคอยู่ ให้เราไปยืนอธิษฐานจนกว่าเราจะพอใจ เสร็จแล้วก็โยนเงินใส่กล่อง แต่ที่วัดท่าซุงนี่คุณมีโอกาสยืนอยู่หน้า หลวงพ่อวัดท่าซุงไม่ถึง ๓ วินาที เหมือนกับวิ่งทำบุญกันเลย ทำไมต่างกันขนาดนี้ ?"

    ก็บอกกับเขาบอกว่า "คุณเคยเห็นเด็กเล็กๆ ไหม ?"
    เขาบอกว่า "เคยครับ เคยเลี้ยงน้อง"

    บอกเขาต่อว่า "ตอนที่เขาหัดเดินใหม่ๆ เราต้องจูงเขาใช่ไหม ?"
    เขาตอบว่า "ใช่"

    ก็เลยบอกเขาบอกว่า "ประเทศญี่ปุ่นของคุณ ทำบุญแบบจูงเด็กเดิน แต่ที่นี่เขาเป็นผู้ใหญ่ เขาวิ่งทำบุญกันแล้ว"

    จึงขึ้นอยู่กับกำลังใจของเรา ถ้าหากว่ากำลังใจของเรายิ่งดีเท่าไร ผลบุญก็มากเท่านั้น ถ้ากำลังใจของเราเศร้าหมองผลบุญจะลดลง ดังนั้น..การทำบุญจึงต้องทำให้ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด

    ยกตัวอย่างเช่น การถวายสังฆทานที่นี่ เมื่อมาถึงก็ ผาติกรรม แลกเปลี่ยนของ เอาสตางค์วางลงได้ก็ยกมาถวายเลย แต่ขณะเดียวกันลองคิดดูว่า

    อันดับแรก ถ้าเราต้องไปซื้อเอง จำนวนเงินที่เราทำบุญที่นี่จะซื้อของไม่ได้เท่าที่ผาติกรรม

    อันดับที่สอง ถ้าหากว่าของที่ขายแพงไป ต่อรองกันไม่ได้ เดี๋ยวจะไปโกรธคนขายเขาอีก กำลังใจเราก็แย่..ใช่ไหม ?

    อันดับสาม ถ้าเกิดขึ้นรถเมล์รถแท็กซี่มาข้าวของเกะกะ เขาบ่นเราหน่อย เราก็ไปโกรธเขาอีกก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

    ตกลงว่า ทำบุญ ทำให้ง่าย ทำให้สะดวกเข้าไว้ ถึงเวลาเมื่อผลบุญมาสนอง เราก็ได้อะไรง่ายๆ ได้สะดวกไปด้วย




    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕
     
  14. ปักธงชัย

    ปักธงชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    584
    ค่าพลัง:
    +3,721
    ผมเอา เงินใส่ซอง เขียนหน้าซองว่า ทำบุญสังฆทาน (ไม่มีถังสังฆทาน) ก็กล่าวคำถวายสังฆทานตามพระท่านนำ ร่วมกับคนอื่น ๆ แล้วก็ถวาย , กวดน้ำ เสร็จพิธีครับ
     
  15. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204

    อนุโมทนาบุญค่ะในคำตอบ...


    อยากสอบถามความคิดเห็นนะคะ
    แล้วถ้าเราเจอคนพาลล่ะคะ ควรทำอย่างไร....
    ควรกรวดน้ำให้ด้วย ไหมค่ะ...:d
     
  16. poysian

    poysian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,140
    ค่าพลัง:
    +2,422
    ถ้าเป็นผม..ผมจะไม่คิดหรอก มากหรือน้อยเราก็ทำไปแล้ว...บางทีก็เป็นเหมือนเจ้าของกระทู้เป็นน่ะครับ..แต่ก็ช่างอารมณ์และความคิดมัน..จิตมันจะตกก็ช่างมัน..พอเวลาผ่านไปๆ มาคิดอีกที ดันมีความปลื้มใจขึ้นมากับบุญอันนี้..เราก็เออ แต่ละวันอารมณ์และความคิดไม่เหมือนกันเลยย.......ทำไปเถอะครับ บางทีมันก็ปลื้ม บางทีมันก็ตก..จะไปห้ามอารมณ์และความคิดมันได้อย่างไร ในเมื่อกำลังของจิตเรามันเพิ่งได้แค่นี้...ถ้ากำลังของจิตมันดีขึ้นดีขึ้น มันก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอกครับ......ในเมื่อกำลังปัจจุบัน ณ ตอนนั้นมันได้แค่นี้ก็เอาแค่นี้ สบายใจดี....สาธุและอนุโมทนาที่ได้ทำบุญต่อเนื่องนะครับ.
     
  17. ๐Novice๐

    ๐Novice๐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    62
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +357
    แนะนำครับ

    กันเหนียวไว้ก่อนครับ

    ถ้าไม่สบายใจเรื่องพระ

    ยังไงผม[และลูกศิษหลวงพ่อหลายๆคน]มั่นใจว่าพระวัดหลวงพ่อ[ท่าซุง] ปฏิดีปฏิบัติชอบแน่นอน

    ทางวัดก็มีให้ทำบุญออนไลน์ กับทางวัด


    http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=350
     
  18. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่ใจที่ยิ่งใหญ่

    การสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่ใจที่ยิ่งใหญ่ เป็นอย่างไร?

    ใจเราปรารถนาสิ่งใดที่ยิ่งใหญ่ เราจักได้ สิ่งนั้น

    เราปรารถนาบุญใหญ่ เราก่ต้อง ให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่แก่ธรรมชาติ และทุกสรรพสิ่ง
    ที่กว้างขวาง ออกไปด้วยใจที่ยิ่งใหญ่ด้วย

    เรื่องของพิธีกรรมยังเป็นเรื่องรอง อาทิ ปริมาณหรือจำนวนเงินเป็นเรื่องที่ยังไม่สำคัญเท่าใจของตนทำ

    อาทิ

    การทำบุญตักบาตรแด่ พระ ทำเพื่อ อะไร - ให้ท่านได้ไตร่ตรอง 4 ข้อ

    1. เพื่อทำนุบำรุงศาสนา

    2. เพื่อให้พระ ได้มีแรงกาย แรงใจ ศึกษาคำสอนขององค์พระศาสดา
    ได้รู้ในธรรมะ ขององค์พุทธะที่ได้ตรัสรู้ และ ดำเนินการสั่งสอนธรรม
    แก่ผู้ไม่รู้ ธรรม

    3. เพื่อให้พระ ได้มีแรงกาย แรงใจ ศึกษาคำสอนขององค์พระศาสดา
    ได้รู้ในธรรมะ ขององค์พุทธะที่ได้ตรัสรู้ และ ดำเนินการสั่งสอนธรรม
    แก่ผู้ไม่รู้ ธรรม เพื่อให้สังคมที่ อยู่เป็นสังคมที่น่าอยู่

    4. เพื่อให้พระ ได้มีแรงกาย แรงใจ ศึกษาคำสอนขององค์พระศาสดา
    ได้รู้ในธรรมะ ขององค์พุทธะที่ได้ตรัสรู้ และ ดำเนินการสั่งสอนธรรม
    แก่ผู้ไม่รู้ ธรรม เพื่อให้สังคมที่ อยู่เป็นสังคมที่น่าอยู่ ให้โลกทั้งหมด
    ได้รับความสงบสุข ทั่วหน้า

    ถามว่า

    ใน 4 ข้อ นี้ อย่างไหนเป็น แรงปรารถนาที่ น่าชื่นชมมากกว่ากัน

    ถ้าหาก ว่า ขณะที่กำลังตักบาตร อยู่ นั้น ได้มีการชุมนุม
    เหล่า อรหันต์ทั้งหลาย องค์พุทธะ ทั้งหลาย มาดำรง ต่อ หน้า
    ท่านคิดว่า อรหันต์ทั้งหลาย และ องค์พุทธะ ทั้งหลาย จักสรรเสริญ
    และ โมทธนาบุญที่ กระทำในข้อใด ดีล่ะ

    การทำบุญตักบาตร เรา ก่ ต้องน้อมจิตหรือความตั้งใจในการทำบุญ
    นี้ ให้ เจตนาของเราเป็นจริง โดย ผ่าน อรหันต์ และ พุทธะ (กระทำการ
    อาราธนาก่อน โดย สวดมนต์ นโม...เพื่อเปิดมิติ ...และน้อมอัญเชิญ)

    ให้อาหารและน้ำที่ เราทำบุญไปนี้ เพื่อ ไปยังความสงบสุขของโลกมนุษย์
    โลกเทวดา โลกพรหม โลก..... ส่ง ไป ให้ ไกล ไป ให้ ถึง ทุก ที่
    ผ่าน บารมี จาก อรหันต และ องค์พุทธะ ที่ เรา อัญเชิญ

    เพื่อ ให้ ทุกสรรพสัตว์ เจริญใน ธรรมทั้งปวง มีผลให้เกิดความสงบสุข ทั้งกายและใจ ด้วยเทอญ

    ส่งใจให้ถึง ผ่านบารมี.... ตั้งวัตถุประสงค์ ให้ใหญ่

    หมายเหตุ การสวดมนต์เพื่อเปิด มิติให้กว้าง ต้องทำให้ถูกต้อง ด้วย

    เมื่อ เรา ทำ สิ่ง ดี งาม แล้ว อย่าง ถูก ต้อง แล้ว ทุก สรรพสิ่ง จัก ได้ รับ
    ทั่ว ถึง เอง .....จัก ไม่ ถูก รุม ทึ้ง จาก อมนุษย์ ให้ จิต ตก ได้
     
  19. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    การสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่ใจที่ยิ่งใหญ่

    การสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่อยู่ที่ใจที่ยิ่งใหญ่ เป็นอย่างไร?

    ใจเราปรารถนาสิ่งใดที่ยิ่งใหญ่ เราจักได้ สิ่งนั้น

    เราปรารถนาบุญใหญ่ เราก่ต้อง ให้สิ่งที่ยิ่งใหญ่แก่ธรรมชาติ และทุกสรรพสิ่ง
    ที่กว้างขวาง ออกไปด้วยใจที่ยิ่งใหญ่ด้วย

    เรื่องของพิธีกรรมยังเป็นเรื่องรอง อาทิ ปริมาณหรือจำนวนเงินเป็นเรื่องที่ยังไม่สำคัญเท่าใจของตนทำ

    อาทิ

    การทำบุญตักบาตรแด่ พระ ทำเพื่อ อะไร - ให้ท่านได้ไตร่ตรอง 4 ข้อ

    1. เพื่อทำนุบำรุงศาสนา

    2. เพื่อให้พระ ได้มีแรงกาย แรงใจ ศึกษาคำสอนขององค์พระศาสดา
    ได้รู้ในธรรมะ ขององค์พุทธะที่ได้ตรัสรู้ และ ดำเนินการสั่งสอนธรรม
    แก่ผู้ไม่รู้ ธรรม

    3. เพื่อให้พระ ได้มีแรงกาย แรงใจ ศึกษาคำสอนขององค์พระศาสดา
    ได้รู้ในธรรมะ ขององค์พุทธะที่ได้ตรัสรู้ และ ดำเนินการสั่งสอนธรรม
    แก่ผู้ไม่รู้ ธรรม เพื่อให้สังคมที่ อยู่เป็นสังคมที่น่าอยู่

    4. เพื่อให้พระ ได้มีแรงกาย แรงใจ ศึกษาคำสอนขององค์พระศาสดา
    ได้รู้ในธรรมะ ขององค์พุทธะที่ได้ตรัสรู้ และ ดำเนินการสั่งสอนธรรม
    แก่ผู้ไม่รู้ ธรรม เพื่อให้สังคมที่ อยู่เป็นสังคมที่น่าอยู่ ให้โลกทั้งหมด
    ได้รับความสงบสุข ทั่วหน้า

    ถามว่า

    ใน 4 ข้อ นี้ อย่างไหนเป็น แรงปรารถนาที่ น่าชื่นชมมากกว่ากัน

    ถ้าหาก ว่า ขณะที่กำลังตักบาตร อยู่ นั้น ได้มีการชุมนุม
    เหล่า อรหันต์ทั้งหลาย องค์พุทธะ ทั้งหลาย มาดำรง ต่อ หน้า
    ท่านคิดว่า อรหันต์ทั้งหลาย และ องค์พุทธะ ทั้งหลาย จักสรรเสริญ
    และ โมทธนาบุญที่ กระทำในข้อใด ดีล่ะ

    การทำบุญตักบาตร เรา ก่ ต้องน้อมจิตหรือความตั้งใจในการทำบุญ
    นี้ ให้ เจตนาของเราเป็นจริง โดย ผ่าน อรหันต์ และ พุทธะ (กระทำการ
    อาราธนาก่อน โดย สวดมนต์ นโม...เพื่อเปิดมิติ ...และน้อมอัญเชิญ)

    ให้อาหารและน้ำ ที่ เราทำบุญไปนี้ เพื่อ ไปยังความสงบสุขของโลกมนุษย์
    โลกเทวดา โลกพรหม โลก..... ส่ง ไป ให้ ไกล ไป ให้ ถึง ทุก ที่
    ผ่าน บารมี จาก อรหันต และ องค์พุทธะ ที่ เรา อัญเชิญ

    เพื่อ ให้ ทุกสรรพสัตว์ เจริญใน ธรรมทั้งปวง มีผลให้เกิดความสงบสุข ทั้งกายและใจ ด้วยเทอญ

    ส่งใจให้ถึง ผ่านบารมี.... ตั้งวัตถุประสงค์ ให้ใหญ่

    หมายเหตุ การสวดมนต์เพื่อเปิด มิติให้กว้าง ต้องทำให้ถูกต้อง ด้วย

    เมื่อ เรา ทำ สิ่ง ดี งาม อย่าง ถูก ต้อง แล้ว ทุก สรรพสิ่ง จัก ได้ รับ
    ทั่ว ถึง เอง .....จัก ไม่ ถูก รุม ทึ้ง จาก อมนุษย์ ให้ จิต ตก ได้
     
  20. al-qaeda

    al-qaeda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +25
    บางทีผมก็มีอาการ เหมือนกันบางครั้งตั้งใจ ไปวัด ที่เคารพหลวงพ่อที่ชื่นชม (พระพุทธรูป) คนเยอะ ๆ
    แต่เวลาใส่ บาตรพระแถวบ้าน หรือเห็นพระบิณฑบาต มักจะกลัวว่าพระจะได้อาหารพอฉัน หรือเปลาหนอ
    เป็นกังวลตลอด
    แต่เวลาปล่อยปลา. จะบอกแค่ว่า อย่าให้ใครจับได้อีก
    ไม่ฝากผี ฝากไข้ เพราะเกิดเป็นปลาก็ลำบากอยู่แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...