แก้ปัญหานานาประการเกี่ยวกับภัยพิบัติด้วย "กำลังจักรพรรดิ"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 12 พฤษภาคม 2012.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379

    ~ให้นึกถึงหลวงปู่(ดู่)แล้ว สวดพระคาถามหาจักรพรรดิในใจ
    ระหว่างนั้นก็ให้นึกถึงปัญหานั้นๆไปด้วย
    โดยอาจจะนึกถึงหลวงปู่สลับกับนึกถึงปัญหานั้นๆ
    หรือจะนึกถึงหลวงปู่ไปพร้อมๆกับนึกถึงปัญหานั้นก็ได้
    แล้วสวดในใจไปด้วย
    พอสวดพระคาถามหาจักรพรรดิจบก็เริ่มสวดใหม่
    วนไปวนมาอย่างนี้ จะกี่รอบก็ได้~



    วันนี้จะนำเรื่องการปฏิบัติธรรมมาใช้แก้ปัญหาในยุคภัยพิบัติ
    นั่นคือการสวดมนต์บทกำลังจักรพรรดิเพื่อใช้แก้ปัญหาต่างๆที่ท่านติดขัด
    ซึ่งท่านผู้อ่านสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาเกี่ยวกับภัยพิบัติ เช่นปัญหาว่า.....
    - ภัยพิบัติใหญ่จะเกิดวันไหน
    - จะต้องอพยพเมื่อไหร่ ที่ไหนปลอดภัย
    - บอกแล้วคนในครอบครัวไม่มีใครเชื่อเลย
    - ภาระหนี้สินมากมายไม่รู้จะไปได้อย่างไร ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร
    - ลูกยังเล็ก พ่อแม่แก่แล้ว มีคนป่วยต้องดูแล คงไปไหนไม่ได้
    - ไม่มีคนรู้จัก ไม่มีญาติอยู่ต่างจังหวัดเลย
    และปัญหาอีกนานาประการ....

    ทั้งที่บางปัญหามันเป็นปัญหาเพราะเราปล่อยวางไม่ได้ คือปัญหามันมาจากใจ

    ยกตัวอย่างปัญหาเช่น บางทีบอกว่าไม่มีคนรู้จักหรือไม่มีญาติอยู่ต่างจังหวัดเลย
    ทั้งที่อันที่จริงยังมีบางสถานที่เขายินดีต้อนรับให้เป็นที่พักพิง
    โดยการไปเป็นอาสาสมัครแลกกับอาหารและที่พัก
    เรื่องไม่มีที่ไปหรือกลัวจะอดตาย ไม่มีงานทำจึงเป็นอันตกไป
    ติดปัญหาตรงคือมันอาจไม่สะดวกสบาย
    คือมันอาจไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆเหมือนในเมือง


    บรรยายขยายความเป็นตัวอย่างมาแบบนี้ บางทีก็อาจจะมีผู้ไม่เห็นด้วย
    ผู้ไม่เห็นด้วยก็จะว่าทำไมไปแนะนำให้คนหนีความตาย
    ควรจะมาแนะนำให้คนอยู่กับปัจจุบันหรือมาปฏิบัติธรรมก็จะดีกว่า

    อันที่จริงผู้เขียนก็เคยแนะนำไปทั้งเรื่องการเตรียมรับภัยพิบัติและการปฏิบัติธรรม
    คือมีทั้งการเตรียมกาย เตรียมใจ และเตรียมจิต

    ผู้เขียนได้อ่านบทความเรื่อง " รวย...!ด้วยบทสวดพระมหาจักรพรรดิ "
    เห็นว่ามีผู้เรียบเรียงไว้ได้ดีมากจึงอยากขอคัดลอกมาแบ่งปัน

    ข้อความต่อไปนี้คัดลอกจากกระทู้ รวย...!ด้วยบทสวดพระมหาจักรพรรดิ



    [​IMG]


    ••• หลวงตาวรงคต(ม้า) วิริยธะโร ลูกศิษย์พระเดชพระคุณหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญนั้น
    ท่านเคยเมตตาสอนวิธีแก้ปัญหาทางโลกต่างๆนาๆให้กับบรรดาลูกศิษย์ด้วยวิธีการ สวดมนต์บทพระมหาจักรพรรดิ
    ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเงินเรื่องทอง ปัญหาเรื่องครอบครัว ปัญหาเรื่องการกระทบกระทั่งกันของหมู่คณะ
    ซึ่งลูกศิษย์ที่ปฏิบัติตามด้วยความเคารพศรัทธาล้วนประสบเห็นผลประจักษ์ตามานักต่อนักแล้ว


    [​IMG]
    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    ตัวผมเองนั้นจะขอเรียบเรียงเอาวิธีต่างๆเหล่านี้ที่หลวงตาท่านเคยได้สอน
    ทั้งจากการที่ท่านเคยสอนโดยตรงและจากการที่อาศัยครูพักลักจำเวลาท่านสอน ศิษย์ท่านอื่น
    ด้วยตัวผมเองนั้นยังถือว่าไม่ได้เรื่องได้ราวและยังมีสิ่งที่ไม่รู้อีกมาก
    ดังนั้นหากมีสิ่งใดผิดพลาดหรือกระทบกระเทือนต่อความดีอันวิสุทธิ์ของครูบาอาจารย์หลวงปู่หลวงตาแล้วไซร้
    ผมขอกราบขอขมาพระรัตนไตรด้วยเทอญ •••

    หลักการอย่างนี้สามารถอธิบายได้ง่ายๆคือ เมื่อเรานึกถึงหลวงปู่แล้วสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ
    บุญแห่งการสวดมนต์ภาวนาและบุญแห่งกำลังพระมหาจักรพรรดิก็จะเกิดขึ้นที่ตัวเรา
    หากเราต้องการจะส่งบุญนี้ไปที่แห่งใด หรือจะส่งให้ใครก็ตาม ก็เพียงแค่นึกถึงที่แห่งนั้นหรือคนๆนั้น
    บุญที่ได้เกิดขึ้นแล้วในตัวเรา ก็จะไป ณ ที่แห่งนั้นในทันที

    เปรียบเทียบง่ายๆ ก็เหมือนตอนที่เราตักบาตร เมื่อเราตักบาตร
    บุญแห่งการถวายทานกับพระสงฆ์ก็เกิดขึ้นที่ตัวเรา
    หากเราจะส่งไปให้ใครก็เพียงแค่นึกในใจว่า
    ขออุทิศบุญนี้ให้กับนาย/นาง..(ชื่อ)...... เพียงเท่านี้บุญนั้นก็จะถูกส่งไปให้บุคคลๆนั้นแล้ว

    แต่บุญแห่งการทำทานจะต่างจากบุญแห่งการสวดมนต์ภาวนาตรงที่น้อยกว่ามาก
    และยิ่งถ้าตอนที่เราสวดมนต์ภาวนานั้นเรานึกถึงหลวงปู่
    ก็จะได้กำลังบารมีของหลวงปู่เข้ามาช่วยตรงนี้ด้วย
    อีกทั้งบทที่เราสวดคือบทกำลังพระมหาจักรพรรดิ
    เราก็จะได้กำลังของพระมหาจักรพรรดิเข้ามาช่วยด้วย
    หากท่านใดสงสัยว่าพระมหาจักรพรรดิเป็นยังไง
    หลวงตาท่านเคยบอกว่า เวลาพระพุทธเจ้าท่านจะปราบผู้มีฤทธิ์
    ท่านจะเนรมิตกายเป็นพระมหาจักรพรรดิ แล้วจึงค่อยปราบ
    และอีกครั้งหนึ่งที่ท่านเคยบอกว่า
    กำลังของจักรพรรดิสามารถช่วยได้ทั้งทางโลกและทางธรรม


    •เมื่อประสบกับปัญหาต่างๆในชีวิต•

    ให้นึกถึงหลวงปู่(ดู่)ไว้ก่อนแล้วก็บอกท่าน ขอให้ท่านช่วย
    หลวงตาม้าท่านเคยบอกได้ใจความว่า คนที่มีปัญหาปุ๊ป
    แล้วนึกถึงพระเลยเนี่ย แสดงว่าคนๆนั้นยึดหมั่นพระเป็นสรณะ(ที่พึ่ง)
    ดังคำที่เราท่องบ่นเป็นประจำว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิฯ

    ให้เราตั้งสติดีๆแล้วลองคิดทบทวนแก้ไขปัญหานั้นดู
    แต่ถ้าเป็นปัญหาที่มีสถานการณ์คับขันบีบรัดให้ต้องตัดสินใจ ณ เดียวนั้นเลย
    ก็ให้นึกถึงหลวงปู่แล้วตัดสินใจลงไปเลย

    แต่ถ้าเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกคิดไปก็ป่วยการ รังแต่จะทำให้ทุกข์ใจเปล่าๆ
    หรือ เป็นปัญหาประเภทที่ว่าคิดหาทางออกได้เรียบร้อยแล้ว
    แต่ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า ยิ่งคิดยิ่งกังวลใจ หลวงตาม้าท่านสอนได้ใจความว่า

    ~ให้นึกถึงหลวงปู่(ดู่)แล้ว สวดพระคาถามหาจักรพรรดิในใจ
    ระหว่างนั้นก็ให้นึกถึงปัญหานั้นๆไปด้วย
    โดยอาจจะนึกถึงหลวงปู่สลับกับนึกถึงปัญหานั้นๆ
    หรือจะนึกถึงหลวงปู่ไปพร้อมๆกับนึกถึงปัญหานั้นก็ได้
    แล้วสวดในใจไปด้วย
    พอสวดพระคาถามหาจักรพรรดิจบก็เริ่มสวดใหม่
    วนไปวนมาอย่างนี้ จะกี่รอบก็ได้~


    ดังนั้นหากเรานึกถึงหลวงปู่แล้วสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ
    ระหว่างนั้นถ้าเรานึกถึงปัญหาที่เรากำลังประสบ
    บุญที่เกิดจากการสวดจะถูกส่งไปที่ปัญหานั้นๆ
    ปัญหาจะต้องมีทางออกอย่างแน่นอน!

    สวดยังไงให้ได้ผลดีและแก้ปัญหาได้เร็วที่สุด?

    นี่คงเป็นคำถามที่ค้างคาใจพี่ๆน้องๆหลายท่านเลยทีเดียว
    คำตอบง่ายๆครับคือสวดด้วยอารมณ์ใจสบาย
    อารมณ์สบายจะเป็นอารมณ์ที่เป็นสมาธิได้ง่ายที่สุด
    หลวงตาม้าท่านเคยกล่าวได้ใจความว่า
    ใจสบายยังไม่สบายเลย แล้วจะไปมีสมาธิได้ยังไง

    ปกติแล้วคนที่ถูกปัญหากลุ้มรุมหน่วงเหนี่ยวใจให้กังวล
    จะให้ใจสบายนั้นยากมาก แนะนำว่าให้นึกถึงหลวงปู่แล้วสวดพระคาถามหาจักรพรรดิไปเรื่อยๆ
    พร้อมๆกับนึกถึงปัญหานั้นไปด้วยก็ได้ ใจจะค่อยๆสบายขึ้นเอง
    ยิ่งใจไม่สบายยิ่งต้องสวด ถ้าไม่สวดแล้วเมื่อไหร่ใจจะสบาย...
    แต่เวลาสวดไม่ต้องไปเร่งรัดอยากให้ใจมัน สบายนะครับ
    ยิ่งเร่งรัดอย่างนั้นใจจะยิ่งเครียด

    เคยมีลูกศิษย์ท่านหนึ่งถามหลวงตาว่า
    หลวงตาครับ ถ้าเราตั้งใจสวดดีๆ สวดด้วยใจสบาย แต่สวดแค่นิดเดียว...

    ยังพูดไม่จบหลวงตาก็พูดตอบขึ้นมาว่า

    ดีกว่าสวด108จบอีก~!

    ส่วนระยะเวลาในการแก้ปัญหาจะเร็วหรือช้านั้น
    ขึ้นอยู่กับหลายๆอย่างขึ้นอยู่กับปัญหานั้นๆ ขึ้นอยู่กับกรรม
    ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง และขึ้นอยู่กับศรัทธาด้วย
    ว่าเราเชื่อมั่นในพระรัตนไตรหรือเปล่า เราเชื่อมั่นในหลวงปู่ดู่หรือเปล่า
    บางคนสวดวันเดียวปัญหาก็คลี่คลายมีทางออกสมดั่งใจ
    แต่บางคนก็ต้องใช้ระยะเวลาเหมือนกัน


    จากวิธีการที่สวดพระคาถามหาจักรพรรดิอย่างที่ได้เขียนเอาไว้แล้วในโพสแรก ของกระทู้นี้
    สามารถนำไปช่วยเหลือคนอื่นได้ คือแม้จะไม่ใช่ปัญหาของตัวเราเอง
    แต่เราก็สามารถที่จะสวดพระคาถามหาจักรพรรดิแล้วนึกถึงหลวงปู่
    พร้อมๆกับนึกถึงเรื่องหรือปัญหาของผู้ที่เราต้องการจะช่วย
    เพียงเท่านี้พลังงานที่เราสวดพระคาถามหาจักรพรรดิก็จะส่งเข้าไปปรับเรื่องนั้นๆอยู่เรื่อยๆ
    หากมีศรัทธาเชื่อมั่นจริง ก็จะเห็นผลได้ในไม่ช้าอย่างแน่นอน

    การสวดพระคาถามหาจักรพรรดิแล้วนึกถึงหลวงปู่ดู่
    ไปพร้อมๆกับนึกถึงปัญหาเรื่องนั้นๆ สำหรับตัวของผู้เขียนเองนั้น
    เคยบอกกับหลวงตาว่า บางทีก็ขี้เกียจนึกถึงปัญหา คืออยากจะเอาแต่ความสงบอย่างเดียว
    อยากจะเพียงแค่นึกถึงหลวงปู่แล้วสวดพระคาถามหาจักรพรรดิแค่นั้นก็พอ
    ไม่อยากนึกถึงปัญหาใดๆ ทำอย่างนี้แล้วใจสบายดี...

    หลวงตาม้าจึงบอกกับผมได้ใจความว่า


    ~งั้นก็นึกถึงปัญหาหรือคนที่เกี่ยวข้องกับปัญหาก่อนจะสวดสิ
    ทีนี้ตอนสวดไปก็ไม่ต้องนึกก็ได้ ด้วยกำลังของครูบาอาจารย์(หลวงปู่ดู่หลวงตาม้า)
    แม้เราจะไม่ได้นึกถึงระหว่างสวด แต่เรานึกก่อนสวดมันก็ได้เหมือนกัน มันมีกระแสอยู่ ได้เหมือนกัน
    แต่ว่าถ้าสวดไปด้วย นึกถึงปัญหาไปด้วย อย่างนั้นมันก็จะดีกว่า~


    อีกครั้งหนึ่งท่านเคยบอกผมได้ใจความว่า

    •บทพระมหาจักรพรรดินี้ หลวงปู่ดู่ท่านบอกหลวงตาว่า
    มีทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ในบทนี้ ใครที่สวดเป็นจะเอาอภิญญาสมาบัติก็ยังได้เลย•



    •การสวดพระคาถามหาจักรพรรดิตอนสองทุ่มครึ่ง•

    การสวดพระคาถามหาจักรพรรดิตอนสองทุ่มครึ่งนั้น
    หลวงตาท่านเคยบอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องสวดตอนสองทุ่มครึ่งเป๊ะๆก็ได้
    แม้จะเลยเวลาสองทุ่มครึ่งไปแล้วนิดหน่อย ก็ยังสามารถสวดได้
    หลวงตาม้าท่านว่า สองทุ่มครึ่งเนี่ย ไม่ว่าเราจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนก็ตาม
    แม้เดินๆอยู่ก็สามารถนึกมาสวดที่ถ้ำก็ได้ สวดในใจก็ได้

    การสวดพระคาถามหาจักรพรรดิตอนสองทุ่มครึ่งนั้น
    หากเราทำเป็นประจำทุกวัน จะส่งผลดีต่อเราอย่างไม่น่าเชื่อที่เดียว
    นอกจากจะเป็นการสร้างสมบุญบารมีในตัวเองแล้ว
    แม้แต่เทวดาเทพพรหมท่านก็ช่วยเหลืออย่างแน่นอน
    หลวงตาม้าท่านบอกผมได้ใจความว่า สองทุ่มครึ่งนี้
    ถ้าเราสวด เทวดาก็จะปกปักษ์รักษาเรา
    ไปที่ไหนเรามีเทวดาเทพพรหมเป็นพวก ไม่เห็นจะต้องกลัวใคร
    เผลอๆเขาให้โชคให้ลาภเราด้วย


    แน่นอนว่าเมื่อมีเทวดาเทพพรหมมาให้การช่วยเหลือ
    ปัญหาในชีวิตที่เกิดขึ้นก็จะลดหย่อนผ่อนปรนลงไปหรือมีทางออกในที่สุด...
    หลวงตาม้าท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งเอาไว้ว่า
    สวดจักรพรรดิตอนสองทุ่มครึ่งเนี่ย ถ้าสวดดีๆ จะเอารวยก็ยังได้เลยนะ!


    การสวดพระคาถามหาจักรพรรดินั้น ไม่ว่าจะเป็นเวลาสองทุ่มครึ่งหรือไม่ก็ตาม
    ไม่จำเป็นว่าเมื่อมีปัญหาแล้วจึงจะมาสวด
    แต่ขอให้ทำอย่างสม่ำเสมอ(ทำทุกวัน)
    และตั้งใจเอาไว้ว่าเราทำถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    เราทำถวายให้กับหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า เราทำเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเราเองและผู้อื่น

    ผู้ใดที่ไม่มีความเดือดร้อน ก็สามารถมาสวดได้เช่นกัน
    ยกตัวอย่างเช่น ไม่มีความเดือดร้อนด้านธุรกิจการงานที่กำลังทำอยู่
    แต่ก็สามารถที่จะมาสวดพระคาถามหาจักรพรรดิพร้อมๆกับนึกถึงงานที่กำลังทำอยู่ก็ได้
    แม้ว่างานนั้นๆจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราก็ตาม หากทำอย่างนี้จะยิ่งส่งผลดีต่อหน้าที่การงานนั้นๆยิ่งๆขึ้นไป


    •บุญต่อบุญ•

    หากรายได้ที่เราหามาได้นั้น เหลือเก็บหรือเหลือพอใช้
    ก็ให้แบ่งทำบุญกับพระพุทธศาสนาไปบ้าง จะมากหรือน้อยก็ได้ตามแต่กำลังของแต่ละท่าน
    อานิสงค์จากการให้ทานนี้จะส่งผลดีต่อเราอย่างยิ่ง
    นอกจากนี้จะเป็นการลดความตระหนี่ถี่เหนียวในใจเราได้เป็นอย่างดี
    ส่งผลต่อการปฏิบัติธรรมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป



    มีเกร็ดเล็กๆน้อยที่เคยได้ยินท่านหลวงตาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเรื่องโชคเรื่องลาภ
    จึงขอนำมาเล่าให้พี่ๆน้องๆฟังกันอีกทีนะครับ

    หลวงตาม้าท่านเคยบอกกับลูกศิษย์ท่านหนึ่งว่า เวลาถูกหวยหรือล็อตเตอรรี่
    ให้แบ่ง1ใน3ของส่วนที่ได้ไปทำบุญ แล้วครั้งต่อไปจะถูกอีก! เป็นบุญต่อบุญไง

    และอีกครั้งหนึ่ง ท่านเคยบอกได้ใจความว่า
    บางคนที่ไปขูดขอหวยตามต้นไม้เนี่ย บางคนก็เห็นเป็นตัวเลข
    แต่บางคนก็ไม่เห็นนะ มันต้องเป็นคนที่มีบุญจะได้ตังค์ มันถึงจะมองเห็น


    บางทีเวลาเราไปขอหวยหรือขอเรื่องทรัพย์กับเทวดาเนี่ย
    เขาก็อยากให้เราเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้นะ
    แต่คนบางคนเนี่ย มันไม่เคยให้ทานมาก่อนเลย
    เทวดาเขาก็มองไม่เห็นบุญ เลยไม่รู้จะให้ยังไง

    ดังนั้นเวลาไปขอเรื่องทรัพย์หรือเรื่องหวยกับเทวดาเนี่ย
    ก่อนจะขอนั้น ให้เรานึกถึงบุญที่เราเคยทำทานมาก่อน
    เอาทานที่มันใหญ่ๆที่เราเคยทำมา นั่นแหละ เทวดาเขาจะมองเห็นบุญเรา แล้วเขาจะให้ได้

    จากที่หลวงตาม้าท่านกล่าวนั้น ที่ท่านบอกว่า ให้นึกถึงทานที่มันใหญ่ๆ
    ที่เราเคยทำมา บางท่านอาจจะไม่ทราบว่าอย่างไหนที่เรียกว่าทานอย่างใหญ่
    ผมขอยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ เช่น ร่วมสร้างวิหาร ร่วมสร้างวัด
    ร่วมสร้างพระแล้วแจกฟรี หรือให้ธรรมะเป็นทาน อย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นบุญใหญ่ทั้งนั้น

    ที่เป็นบุญใหญ่เพราะ อย่างการสร้างวัดนี้
    ใครก็ตามที่เข้าไปทำบุญใดๆที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนี้
    เราก็มีส่วนได้บุญด้วยทั้งหมด เพราะเราเป็นเหตุให้เขาได้บุญ
    เอาแค่ว่ามีคนไปกวาดลานวัด เราก็ได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ

    หรือการให้ธรรมะเป็นทานนั้น เช่น ถ้าเราไปสอนใครสวดมนต์
    แล้วเขาคนนั้นนำไปสวด ทุกครั้งที่เขาสวด เราก็มีส่วนได้บุญด้วย เพราะเราเป็นเหตุ

    หลวงตาม้าท่านเคยบอกผมว่า

    หลวงปู่(ดู่)ท่านสอนว่า เวลาจะทำอะไรให้เลือกทำที่มันยาวๆจะดีกว่า

    เมื่อเห็นผมทำหน้างง ท่านก็เมตตาพูดต่อได้ใจความว่า อย่างการสร้างพระพุทธรูปเนี่ย
    พระพุทธรูปบางองค์อยู่ได้เป็นหลายร้อยปีเลยนะ ภายในระยะเวลาหลายร้อยปีนั้น
    ผู้ใดก็ตามที่มากราบพระพุทธรูปองค์นี้หรือมาทำบุญกับพระพุทธรูปองค์นี้
    คนที่สร้างจะมีส่วนได้บุญทั้งหมด เพราะเป็นเหตุให้เขาได้กราบหรือได้ทำบุญ


    อย่างครูบา(ศรีวิชัย)เนี่ย ท่านไปสร้างวัดใช่ไหม ใครก็ตามที่ทำบุญใดๆที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับวัดนั้น
    ท่านครูบาได้ด้วยหมดเลย(หัวเราะ)

    หรืออย่างหลวงตาสร้างพระเนี่ย ใครก็ตามที่เอาพระของหลวงตาไปกำทำสมาธิ
    หลวงตาก็ได้บุญด้วยหมดเลยนะ ตอนนี้หลวงตาใจสบายตลอดเวลาเลยเนี่ย
    เพราะมีคนสวดให้ตลอดเวลา(หัวเราะ)

    เมื่อหลวงตาท่านพูดอย่างนี้ ผมจึงได้เข้าใจ การทำบุญใดๆที่ทำแล้วส่งผลเป็นระยะยาว


    อานิสงค์ย่อมได้มากกว่าบุญที่ทำแล้วจบลงตรงนั้นเลย บางท่านอาจจะคิดว่า
    เอ...เรื่องนี้เกี่ยวข้องกันยังไงกับชื่อกระทู้ที่บอกว่า
    รวย..!ด้วยบทพระคาถามหาจักรพรรดิ ก็ต้องขอตอบว่า
    รวยนี้มีรวยหลายอย่าง คนสวดจักรพรรดิจะเอารวยทางด้านโลก(เงิน)ก็ได้หรือจะเอารวยทางบุญก็ยังได้


    ไฟล์เสียง MP3 นำสวดมนต์ 108 จบ เพื่อใช้ในยุคภัยพิบัติ + ไฟล์ PDF


    เสียงนำสวดมนต์ 108 จบ (ไฟล์เสียง MP3)

    <fieldset class="fieldset"><legend>ไฟล์แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody><tr> <td width="20"><input id="play_70975" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=70975" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>01_สวดจักรพรรดิ 108 จบ.mp3

    </td></tr><tr> <td width="20"><input id="play_70976" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=70976" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>02_สวดสัพเพ 5 จบ.mp3

    </td></tr><tr> <td width="20"><input id="play_70977" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=70977" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>สวดไตรสรณคมน์ 108 จบ เสียงหลวงปู่ดู่.mp3

    </td></tr><tr> <td width="20"><input id="play_70978" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=70978" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>สวดไตรสรณคมน์ 30 min เสียงหลวงปู่ดู่.mp3

    </td></tr><tr> <td width="20"><input id="play_70979" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=70979" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>สวดไตรสรณคมน์ ช้า เสียงหลวงปู่ดู่.mp3

    </td></tr><tr> <td width="20"><input id="play_70980" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=70980" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>เสียงหลวงปู่ดู่ให้ศีล-ให้พร.mp3

    </td></tr><tr> <td width="20"><input id="play_70981" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=70981" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>สวดอิติปิโส 108 จบ.mp3

    </td></tr><tr> <td width="20"><input id="play_70982" name="Music" value="attachment.php?attachmentid=70982" type="RADIO">ฟัง</td> <td>[​IMG]</td> <td>สวดอิติปิโส 108 จบ_ตัดบทนำ.MP3

    </td></tr></tbody></table></fieldset>

    ไฟล์ PDF บทสวดและธรรมะจากหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า

    <fieldset class="fieldset"> <legend>ไฟล์แนบข้อความ</legend> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="3"> <tbody><tr> <td>[​IMG]</td> <td>บทสวดจักรพรรดิ.pdf
    </td> </tr><tr> <td>[​IMG]</td> <td>หนังสือ ใครจะใหญ่เกินกรรม.pdf
    </td> </tr><tr> <td>[​IMG]</td> <td>ไตรรัตนญาณ จักรพรรดิเปิดโลก_A5.pdf
    </td> </tr><tr> <td>[​IMG]</td> <td>คติธรรมคำสอนจากหลวงตาม้า.pdf
    </td> </tr><tr> <td>[​IMG]</td> <td>การใช้พระผงกรรมฐาน.pdf
    </td></tr></tbody></table></fieldset>


    วัดถ้ำเมืองนะ แจกพระผงจักรพรรดิ และบทสวดจักรพรรดิ จัดส่งให้ทั่วโลก โดยหลวงตาม้า



    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2012
  2. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    บทสวดจักรพรรดิเป็นคนละบทกับบทสวดชินบัญชรนะครับ
    แต่ที่ยกมาแสดงไว้เพื่อให้เห็นว่าการสวดมนต์นั้นช่วยแก้ปัญหาทางโลกได้


    สรพงษ์ ชาตรี สวดพระคาถาชินปัญชร


    ได้ข่าวว่าสวดคาถาชินบัญชรวั<wbr>นละเป็น 1,000 จบ?

    คือเมื่อก่อนสวดวันละ 100 จบ ถ้าขอพรก็จะบอกไว้ว่าถ้างานนี้<wbr>สำเร็จจะถวาย 1,000 จบ อย่างงานโฆษณาที่ผ่านมาก็<wbr>ขอ พรหลวงปู่ว่าถ้าเขาให้ค่าตัว 1,500,000 บาท ผมจะถวายหลวงปู่ 500,000 บาทแล้วเอาไว้ใช้ส่วนตัวล้านนึง แล้วจะถวายชินบัญชร 1,000 จบ โฆษณาชิ้นนี้เขาให้มา 1,400,000 บาท ผมก็ถวายท่าน 400,000 บาท แล้วสวด 1,000 จบ นั่งรถก็สวด ทำอะไรอยู่ก็สวดในใจไปเรื่อยๆ


    คัดลอกจากกระทู้ สรพงษ์ ชาตรีสวดพระคาถาชินปัญชร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2012
  3. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
  4. ไกด์ธรรมะ

    ไกด์ธรรมะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +157
    มีเรื่องเล่าแปลกประหลาดมาเล่าสู่กันฟังค่ะ ดิฉันเองศึกษาธรรมะจากภาษาบาลีแล้วตีความไม่แตก จึงได้หันไปศีึกษาพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เนื่องจากเป็นภาษาที่อ่านแล้วทำให้ดิฉันเข้าใจได้ง่ายกว่า ดิฉันศึกษาพระคัมภีร์อยู่ประมาณ 3 ปีกว่า ๆ ในช่วงปีที่แล้วได้มีโอกาสเข้ามาอ่านข้อมูลในเว็ปบอร์ดพลังจิต มีหลายคนนำธรรมะมาอธิบายและทำให้ดิฉันเข้าใจ เห็นภาพได้เร็วกว่าเมื่อก่อนมาก จึงได้ติดตามอ่านอยู่อย่างสม่ำเสมอ วันหนึ่งได้มีโอกาสอ่านเรื่องคาถาจักรพรรดิ และเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงตาม้า วัดถ้ำเมือง ซึ่งส่วนตัวไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อหลวงตาม้ามาก่อน จึงได้เข้าgoogleหาวัดถ้ำเมือง และได้เข้าไปดูเว็ปบอร์ด ตอนนั้นก็ยังไม่ได้รู้สึกถึงอะไร เป็นการดูข้อมูลไปเรื่อย ๆ กลับมาดูข้อมูลในเว็ปพลังจิตใหม่ เห็นคนโพสต์เรื่องคาถาจักรพรรดิ และหลวงปู่ดู่อีก จึงเกิดความสนใจ ตามไปหาข้อมูลใน google อีกครั้ง ครั้งนี้ค้นหารูปเลยเพราะไม่เคยเห็นหลวงปู่ดู่ ไม่รู้จัก พอเห็นรูปของหลวงปู่ดู่ ขนลุกทันที ไม่รู้ว่ามีอะไรดลบันดาลให้ดิฉันหาข้อมูลเกี่ยวกับหลวงปู่ดู่เพิ่มเติมไปอีก หลัีงจากอ่านประวัติของท่านเกิดความศรัทธา จึงได้ให้ลูกน้องช่วยprintรูปของหลวงปู่ดู่มาใส่กรอบ วางไว้ที่โต๊ะที่ทำงาน สิ่งที่อยากจะเล่าให้ฟังคือว่า บนโต๊ะที่ดิฉันนั่งทำงานจะมีต้นกวักมรกต 1 ต้น วางอยู่ตรงนั้นมา 4 - 5 ปีไม่เคยออกดอก หลังจากที่ดิฉันนำรูปของหลวงปู่ดู่วางไว้บนโต๊ะทำงาน อัศจรรย์เกิดขึ้นจริง ๆ แม่บ้านจูงมือดิฉันเข้าห้องทำงานแต่เช้าให้รีบเข้าไปดูว่ามีอะไรที่โต๊ะทำงาน ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ ดอกกวักมรกตออกมา 1 ดอก ที่สำคัญคือ ช่อดอกไม่ได้ออกมาตรง ๆ แต่ดอกที่ออกมาแทงช่อเลื้อยไปอยู่ใกล้รูปหลวงปู่ พนักงานสองสามคนไม่เคยเห็น เดินเข้า ออกห้องดิฉัน กราบไหว้หลวงปู่ดู่ และดอกไม้กันเป็นเรื่องอัศจรรย์มาก ตอนนี้ดิฉันกำลังหัดท่องคาถาจักรพรรดิอยู่ค่ะ จึงอยากจะแนะนำให้ทุกคนที่เข้ามาในกระทู้นี้ได้รับรู้ถึงอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น จากบารมีของหลวงปู่ดู่ สำคัญที่สุดคือความศรัทธาของตัวเรา ดิฉันยกให้หลวงปู่ดู่เป็นพระอรหันต์ที่ดิฉันระลึกถึงตลอดเวลา ไม่ใช่เพราะอัศจรรย์ที่เกิดกับต้นไม้นะคะ แต่ดิฉันสัมผัสได้ถึงความเมตตาจากหลวงปู่ดู่ทุกครั้งที่มีโอกาสจ้องมองรูปของท่าน
     
  5. Scorpius

    Scorpius เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +647
    ผมยืนยันด้วยคนนะครับ ว่าบทนี้ดีจริงไม่อิงนิยาย
    จากการสวดมา ๓-๔ วัน (เท่านั้น) เห็นความก้าวหน้าทางธรรมได้ชัดเจนพอควร

    แล้วถ้าทางธรรมดี ทางโลกจะไม่ดีได้อย่างไร ?
     
  6. ตาลเดี่ยว

    ตาลเดี่ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +425
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ประสบความสำเร็จแล้ว และท่านทั้งหลายที่กำลังจะประสบความสำเร็จในภายภาคหน้าครับ
     
  7. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]

    [​IMG]



    [​IMG]
    [​IMG]





    ให้พยายามภาวนาไปเรื่อย ๆ ไม่ว่ายืน เดิน นั่ง นอน ทำได้ตลอดเวลาถ้าเราจะทำ ดีกว่านั่งร้องเพลง
    จะซักผ้า หุงข้าว ต้มแกง นั่งรถ ทำได้ทั้งนั้น เขาเรียกว่าพยายามเกลี่ยจิตใจให้เข้าที่
    ถ้าจะรอเวลาปฏิบัติ (นั่งสมาธิ) ทีเดียวมันยาก เพราะจิตมันแตกมาตลอด

    คำสอนของ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ





    [​IMG]


    ภายใน 1 วันเราอาจสวดมนต์บทจักรพรรดิได้ 300 - 500 จบหรือมากกว่านั้น


    ผู้เขียนตกลงกับแฟนว่า เรามาแข่งกันสวดมนต์กัน
    สวด 1 จบก็กดเครื่องนับ 1 ที แล้วเรามาดูกันว่า ใน 1 วันใครสวดมนต์ได้มากกว่ากัน



    ( อุปกรณ์ชิ้นนี้ราคา 60 บาท จำหน่ายที่ร้าน Dasio Shop )

    การสวดนมนต์ที่ดีนั้นอันที่จริงไม่ได้อยู่ที่ปริมาณเพียงอย่างเดียว
    คุณภาพ คือ การทำใจให้สบายและมีความตั้งใจและศรัทธาก็เป็นสิ่งสำคัญ
    ดังนั้นจุดประสงค์ที่แท้จริงจึงไม่ใช่ว่าจะแข่งเพื่อมุ่งเอาชนะกัน
    แต่เป็นกุศโลบายในการเตือนให้ทำความเพียร เร่งรัดตัวเองในการปฏิบัติภาวนา





    รวมบทความและกระทู้โดย 'กาขาว'






    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]



    </FIELDSET>

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2012
  8. tippawanJr

    tippawanJr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +165
    ขอยืนยันด้วยคนค่ะ เพิ่งเริ่มสวดได้ไม่กี่วัน แต่ความทุกข์ที่เคยมีมันลดน้อยถอยลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งหมั่นดูรูปหรือหมั่นระลึกถึงท่าน จะรู้สึกถึงความเมตตาที่ท่านมีต่อมวลสรรพสัตว์ ลองดูนะคะ
     
  9. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]




    การสวดมนต์ ภาวนา หลวงตาท่านสอนเสมอ ว่าจะใช้บทไหนก็ได้
    ซึ่งพลังงานของบทสวดแต่ละบทจะไม่เหมือนกัน
    ขึ้นอยู่กับความหมายของบทสวดนั้<wbr>นๆ ผู้ที่จะดึงพลังงานมาใช้
    จะต้องรู้และเข้าใจในความหมาย
    ยิ่งเข้าใจมาก ก็ยิ่งดึงพลังงานมาใช้ได้มาก

    การกำหนดภาพหลวงปู่ดู่ เพื่อดึงพลังงานของท่านมาใช้
    หากท่านสามารถจับภาพท่านได้ยิ่ง<wbr>ชัดเจนมากเท่าไหร่ และสามารถนึกถึงท่านได้ตลอด
    จิตที่น้อมไปหาท่าน ยิ่งมาก พลังงานของท่านที่เราจะดึงมาใช้ก็จะมากตามไปด้วย
    นี่คือวิธีการดึงพลังงานของหลวง<wbr>ปู่มาใช้

    การดึงพลังงานของบทพระมหาจักรพร<wbr>รดิ์ ก็เช่นเดียวกัน
    สิ่งที่ผู้ภาวนาควรจะรู้คือ ความหมายของจักรพรรดิ์
    หากท่านรู้ความหมาย รู้ว่าจักรพรรดิ์มีอะไร รู้ว่ากำลังจักรพรรดิ์มีมากแค่ไ<wbr>หน
    และท่านน้อมเอาพลังงานนั้นมาใช้<wbr> ทั้งในทางโลกและทางธรรม
    เพื่อประโยชน์ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็จะเป็นประโยชน์มหาศาล

    หลวงตากล่าวสอนเสมอ กำลังที่เราจะได้ คือ กำลังใจ
    ยิ่งปฎิบัติได้มาก ก็ยิ่งมาก ยิ่งปฎิบัติสม่ำเสมอ ก็ยิ่งสะสม
    ผู้ที่ไม่ละเลยในการภาวนา ในการสวดมนต์ ย่อมเป็นผู้มีประโยชน์ต่อสามแดนโลกธาตุ
    ผลที่จะได้รับก็ยิ่งมากเป็นทวีคูณ นี่คือประโยชน์ที่จะได้กับตัวท่<wbr>านเอง กับผู้ปฎิบัติทั้งหลาย
    ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะทำหรือไม่ เท่านั้น ตัวท่านคือผู้กำหนดเอง

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2012
  10. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ตัวอย่างการสวดมนต์ที่ช่วยแก้ปัญหาได้


    <table id="post6145882" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">tamsak [​IMG]
    ทีมพระไตรปิฏก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2004
    สถานที่: Bangkhen, Bangkok
    อายุ: 48
    ข้อความ: 7,824
    Groans: 132
    Groaned at 55 Times in 42 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 95,868
    ได้รับอนุโมทนา 149,486 ครั้ง ใน 6,682 โพส
    พลังการให้คะแนน: 9157 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_6145882" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>ภาวนาคาถาชินบัญชรจนได้อภิญญา

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> <ins style="display:inline-table;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"></ins></ins>
    ถาม: ได้สมาธิอยู่ค่ะ เวลาสวดมนต์เราน้อมจิตสวด...ถูกไหมคะ ? มีบทพาหุงฯ มงคลจักรวาฬน้อย ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก แต่จะดูหนังสือด้วย จะสวดยาวโดยไม่ดูหนังสือไม่ได้ บทที่จำได้มีแค่ชินบัญชร

    ตอบ : จ้ะ...เอาให้ได้ก็แล้วกัน ครูของอาตมาภาวนาคาถาชินบัญชรวันละ ๕๐๐ จบ ท่านเป็นครูสอนอาวุธศึกษาให้กับอาตมาสมัยเป็นฆราวาส มีอยู่ช่วงหนึ่งท่านหมดลมไปแล้วและไปเจอพระ คือ หลวงพ่อโต วัดระฆัง

    หลวงพ่อโตท่านถามว่า "ต้องการให้ช่วยอะไร"
    ครูก็เลยบอกว่า "เขียนนิยายเรื่องยาวยังไม่จบ (ท่านเขียนเรื่องเพชรพระอุมา) ถ้าหากว่าหลวงปู่ช่วยให้มีชีวิตอยู่จนเขียนนิยายจบได้ ตั้งแต่ฟื้นขึ้นไป จะภาวนาคาถาชินบัญชรถวายวันละ ๕๐๐ จบ"

    แล้วครูก็ฟื้นกลับมาจริง ๆ ตั้งแต่นั้นมาท่านก็ภาวนาคาถาชินบัญชรทุกวัน ๆ ละ ๕๐๐ จบ จะไปทำงานทำอะไร สติจะอยู่กับการภาวนาตลอด เวลาท่านขับรถไปทำงาน ไปสำนักพิมพ์ หรือไม่ก็ออกไปทดสอบอาวุธตามสนามอาวุธต่าง ๆ หรือหน่วยทหาร ไปถึงตรงไหนภาวนาได้กี่จบท่านจะรู้ตลอด ท่านมีสมาธิขนาดนั้น คราวนี้ผลไปเกิดตรงที่ว่า พอสมาธิขนาดนั้นก็เกิดอภิญญาขึ้นมาเอง เพราะว่าตอนเด็กท่านมีพื้นฐานเรื่องคาถาจากปู่ จากพ่อแล้วก็ครูพรานสอนมาอยู่แล้ว ก็พลอยทำให้ได้ผลมากขึ้น

    ครั้งหนึ่งฝรั่งเขาเอากระจกกันกระสุนมาให้ลอง จะเป็นแบบติดรถยนต์สำหรับผู้นำประเทศ เขายิงด้วยเอ็ม. ๑๖ จ่อยิงแล้วไม่เข้า ครูเขาบอกว่า ใครเขาทดสอบแบบนั้น ยิงแบบนี้ไม่เข้าแน่นอนเพราะไปจ่อยิง ปืนจะมีขีปนวิถี คือระดับความเร็วของกระสุน หากทรงตัวได้ระดับ ถึงจะแสดงอานุภาพออกมาเต็มที่

    ครูเขาถอยออกมาประมาณ ๑๐ เมตร ยิงทะลุฉลุยไปเลย ฝรั่ง (บริษัทการ์เดียน) เขาไม่ยอม กลับไปผลิตมาใหม่หนา ๒ นิ้ว คราวนี้ใช้ปืนอะไรก็ยิงไม่ทะลุ กระทั่งปืนไรเฟิลยิงช้าง ขนาด .๔๕๘ แม็กนั่ม ก็ยิงไม่ทะลุ ยิงไปก็แค่ร้าวเป็นรอยแบบใยแมงมุมเท่านั้น เขาลองยิงจนกระทั่งมั่นใจว่าปืนสั้นปืนยาวกี่ชนิดยิงไม่ทะลุแน่ ครู เขาว่าขอลองอีกที แล้วก็หยิบกระสุนขึ้นมาหนึ่งนัด เป็นกระสุนเล็ก ๆ ขนาด .๓๐๘ วินเชสเตอร์แม็กนั่มแค่นั้น เป่าพ่วง..! แล้วยิงทะลุฉลุยเลย ฝรั่งยืนงง..! ครูเขาบอกว่าไม่ต้องกลัว เรื่องแบบนี้ในประเทศไทยมีคนทำได้ไม่มากนัก..!

    เมื่อท่านยอมทุ่มเทภาวนาคาถาชินบัญชรวันละ ๕๐๐ จบทุกวัน จึงเกิดฤทธิ์เกิดอภิญญาขึ้นมาเอง ฉะนั้น..เรื่องของคนที่เคยทำ มีของเก่าเอาไว้ ถึงวาระ ถึงเวลา สมาธิถึงเมื่อไร ก็ขนของเก่ากลับมาใช้ได้หมดเลย


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนมิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๕



    ที่มา : ภาวนาคาถาชินบัญชรจนได้อภิญญา - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน



    </td></tr></tbody></table>
     
  11. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    <table id="post6145835" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">tamsak [​IMG]
    ทีมพระไตรปิฏก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Sep 2004
    สถานที่: Bangkhen, Bangkok
    อายุ: 48
    ข้อความ: 7,824
    Groans: 132
    Groaned at 55 Times in 42 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 95,868
    ได้รับอนุโมทนา 149,486 ครั้ง ใน 6,682 โพส
    พลังการให้คะแนน: 9157 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_6145835" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>อานิสงส์การสวดมนต์

    </center>
    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> <ins style="display:inline-table;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"></ins></ins>
    ถาม : อานิสงส์การสวดมนต์ได้มากไหมคะ ?

    ตอบ : ถ้าทำเป็นก็ถึงพระนิพพาน สำคัญว่าทำเป็นไหม ?

    การสวดมนต์ อันดับแรกได้สมาธิ ถ้าหากว่าเราสมาธิไม่ดีจะสวดผิด
    อันดับสองได้ทิพจักขุญาณ ถ้าหากสวดไปนึกถึงตัวหนังสือไป เห็นตัวหนังสือชัดเท่าไร เราก็เห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเท่านั้น

    อันดับสามถ้าเราแปลในสิ่งที่สวดได้ ตั้งใจตัด ตั้งใจละตามไป โอกาสเข้าถึงธรรมก็มีสูง

    อันดับสุดท้ายถ้ายกจิตขึ้นพระนิพพานได้ ให้ไปสวดถวายพระข้างบนเลย ตายตอนนั้นก็ไปพระนิพพานตอนนั้น เพราะฉะนั้น..ก็อยู่ที่เราว่าจะเอาระดับไหน


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕


    ที่มา : อานิสงส์การสวดมนต์ - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน





    </td></tr></tbody></table>
     
  12. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    เวลาสวดมนต์บทพระมหาจักรพรรดิ ผมไม่ได้ใช้นาฬิกากดนับ
    แต่ใช้การการจำ สวดไปเรื่อยๆจำไปเรื่อยๆ บางวันเคยได้สูงสุด
    ถึงห้าร้อยกว่าจบ แต่บางวันถ้าฟุ้งกับงานมาก งานเข้า ก็จะได้ไม่กี่จบ
    สวดไปเรื่อยๆครับ สวดไปนับไป เป็นการฝึกสติอีกอย่างหนึ่่ง
    สำหรับอานิสงค์ของการสวดบทพระมหาจักรพรรดิ เยอะมากๆ

    ท่านที่ไม่เคยสวด ลองสวดดู แล้วท่านจะเห็นได้ด้วยตนเอง
    และท่านจะเชื่อมั่นและศรัทธา ในคุณของพระพุทธ พระธรรม
    พระสงฆ์..เป็นที่พึ่งได้ทั้งทางโลก และทางธรรม ลองดูครับ
    แล้วจะไม่ผิดหวัง...ขออนุโมทนากับทุกๆท่านครับ

    หมายเหตุ การสวดบทจักรพรรดิ หากมีพระผงจักรพรรดิด้วยจะดีมาก
    http://palungjit.org/threads/พุทธคุ...พระคุณหลวงปู่ดู่-พรหมปัญโญและหลวงตาม้า.66104/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2012
  13. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
  14. คุณยายแอ

    คุณยายแอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +415
    อนุโมทนากับทุกท่านด้วยค่ะ จากการสวดก็ได้เจอเหตุการณ์มหัศจรรย์หลายๆอย่างกับตัวเองเช่นกันค่ะ ศักสิทธิ์จริงๆแต่มาเจอกับเหตุการณ์บางอย่างเข้า คือเห็นเป็นเงาร่างดำๆผู้ชายสูงใหญ่เค้ามาหา มาเีรียกชื่อเรา แต่ในความรู้สึกเค้ามาดีนะคะ แต่เราไม่กล้าลืมตามองให้ชัดๆ หลังจากนั้นก็เลยเลิกสวดไปเลยเพราะกลัวเห็นแล้วทำใจไม่ได้เดี๋ยวขวัญกระเจิงก่อน ตอนนี้ก็กำลังรวบรวมกำลังใจจะเริ่มสวดใหม่ค่ะ สู้ๆ เผื่อจะได้รู้ได้เห็นอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง
     
  15. dong2002

    dong2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +2,600
    มาช่วยยืนยันอีกคนครับ สวดคาถาพระมหาจักรพรรดินี้ แล้วสัพเพฯ อาราธนาพระเข้าตัว ต่อด้วยอธิษฐานจิต เพื่อแผ่เมตตาไปทั้งสามโลกนั้น ดีจริงๆ...

    คิดง่ายๆว่า ได้ในเรื่อง สมถะกรรมฐาน ทั้งตอนสวดมนต์หรือนั่งสมาธิ ตอนสัพเพฯ แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลแล้วกัน แต่การอธิษฐานจิตเพื่อแผ่เมตตา ก็คือการสร้างเมตตาบารมี เป็นการบุญกุศลนี่แหละ... ทำไปเถอะได้ประโยชน์อย่างน้อยๆที่เห็นก็กับตัวเราเอง

    ยังเป็นพุทธานุสสติ หรือ สังฆานุสสติ ด้วย กรณีการสวด การภาวนา นึกถึงพระพุทธรูปหรือหลวงปู่ดู่...

    ส่วนเรื่องทิพจักขุญาน หรือการได้ฤทธิ์ หรือปาฏิหารย์ใดๆในขณะสวด ผมขอให้เป็นเรื่องส่วนบุคคล รู้ได้เฉพาะตนแล้วกันครับ
     
  16. coolkid35

    coolkid35 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +156
    อนุโมทนาบุญกับการเผยแพร่ธรรมะและบทสวดมนต์ด้วยครับ ผมกำลังอยากได้บทสวดพระมหาจักรพรรดิอยู่พอดี หลายวันมานี้รู้สึกอยากสวดมนต์บทนี้ครับ ไม่ทราบว่าเพราะอะไร ขอบพระคุณจริงๆ ครับ
     
  17. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    บทสวดมนต์จักรพรรดิ...

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2012
  18. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    ผมสงสัย ขอนอกเรื่องนิดนึง ทำไมหลวงตาม้าต้องเอาผ้าคาดเต็มตัวไปหมดละครับ ผมไม่เคยเห็นพระรูปอื่นทำเลยสงสัย
     
  19. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    [​IMG]

    พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า)
    วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
    หน่อพุทธภูมิ ผู้สืบสานกระแสพลังเหนือพลังแห่งหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ



    เป็นการครองจีวรชนิดหนึ่งเรียกว่าห่มดอง
    นิยมห่มในภาคเหนือของประเทศไทย (ครูบาศรีวิชัยก็ห่มดอง)
    อ้างอิงจาก ห่มดอง - วิกิพีเดีย

    พระทางเหนือจะมีผ้าคลุมไหล่ทั้งสองข้างและผ้าปิดบริเวณไหล่ขวาด้วย
    เพราะอากาศทางเหนือจะหนาวกว่าทางภาคกลาง


    ไตรครอง ได้แก่ อันตรวาสก อุตราสงค์ สังฆาฏิ กายพันธน์ ผ้าอังสะ และผ้ารัดอก
    อันตรวาสก คือ ผ้าสบง (สำหรับนุ่ง)
    อุตราสงค์ คือ ผ้าจีวร (สำหรับห่ม)
    สังฆาฏิ คือ ผ้าสำหรับห่มซ้อนนอกเวลาอากาศหนาว ปกติพระสงฆ์ท่านจะพับไว้แล้วพาดซ้อนบ่า
    เวลาห่มดอง (เป็นการห่มจีวรอีกแบบหนึ่งของพระ)
    กายพันธน์ คือ ผ้าประคดรัดเอว
    ผ้าอังสะ คือ ผ้าสีเหลือง ลักษณะคล้ายเสื้อใช้คล้องไหล่เฉียงบ่าปิดไหล่ซ้าย
    พระจะใช้เมื่อเวลาอยู่ที่วัดตามลำพัง (ไม่ต้องห่มจีวรคลุมร่างทั้งผืน)
    ผ้ารัดอก คือ ใช้สำหรับรัดจีวรเมื่อเวลาห่มดอง
    นอกจากนี้ยังมีผ้ากราบ ใช้สำหรับรองเมื่อเวลากราบและใช้ปูรับของเมื่อเวลาผู้หญิงประเคนของถวาย


    อ้างอิงจาก เครื่องอัฐบริขาร ๘ - พุทธะดอทคอม


    [​IMG]


    ขออภัยหากชี้แจงผิดพลาด


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2012
  20. รัตนกมล

    รัตนกมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +211
    เริ่มสวดได้สัปดาห์แล้ว
    ไม่ยากครับ ลองตามเข้าไปฟังเขาสวดจริงๆ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=RWRcSDRVI40&feature=related]บทสวดมหาจักรพรรดิ - YouTube[/ame]

    ก็ได้
    ก็พยายามสวดตอนสองทุ่มครึ่ง จะได้พลังมากขึ้นๆๆ
    พร้อมอธิษฐานให้ในหลวงด้วย ดีมากครับ

    สาธุกับเจ้าของกะทู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...