ด้วยพุทธบารมีอันมากล้นเหลือประมาณ พระพุทธองค์ จะช่วยกอบกู้ภัยพิบัติของโลกอย่างไร

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ลุงมหา, 16 พฤษภาคม 2011.

  1. ดิดาว

    ดิดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +327
    (การบำเพ็ญบารมีแบบวิริยาธิกะ ของในหลวง)มาฝากครับ

    ในหลวงเคยเกิดเป็น พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า และ พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า และเคยเกิดเป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าตวันอธิราช และ พระเจ้าพรหมมหาราช ("พระเจ้าตวันอธิราช" ไปเกิดเป็น "พระเจ้าพรหมมหาราช") ทั้ง ๒ ครั้ง ดังนี้

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]พ.ศ. ๒๔๖ สมัยสุวรรณภูมิ ในหลวงเกิดเป็นพระราชโอรส องค์แรก ของ พระเจ้าตวันอธิราช มีพระนามว่า [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]ต่อมา พ.ศ. ๙๐๐ สมัยเชียงแสน พระเจ้าตวันอธิราช เกิดเป็น "พระเจ้าพรหมมหาราช" ส่วน พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ตามไปเกิดเป็นพระราชโอรสองค์แรกนามว่า "พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า" แต่สิ้นพระชนม์ในสมัยทรงพระเยาว์ พระราชสมบัติจึงตกแก่พระโอรสองค์รองคือ "พระเจ้าชัยสิริ" (หลวงปู่ธรรมชัย) ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์จักรกรี สืบสันติวงศ์ถึงปัจจุบัน พระเจ้าพรหมมหาราช มีพระเชษฐาคือ "พระเจ้าทุกขิตะ" (หลวงปู่คำแสนเล็ก วัดดอนมูล)[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]ย้อนกลับมาสมัยสุวรรณภูมิ พ.ศ.๒๔๖ พระโพธิสัตว์ทั้ง ๒ พระองค์นี้ได้บำเพ็ญบารมีร่วมกัน (พ่อ-ลูก) พระเจ้าตวันอธิราช กษัตริย์ผู้ครองกรุงสุวรรณภูมินี้ ได้วางรากฐานการสร้างพระบารมีไว้ให้พระราชโอรสของพระองค์ ในฐานะที่จะทรงเป็นกษัตริย์ต่อไปภายภาคหน้า อาทิ [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]- การสร้างบ้านแปลงเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ปรับปรุงกองทัพให้เข้มแข็ง ส่งเสริมอาชีพของราษฏร โรงพยาบาลเพื่อสงเคราะห์พสกนิกร ฯลฯ [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]- ส่วนด้านพระพุทธศาสนา ได้โปรดสร้างวัด โรงเรียนปริยัติธรรมสำหรับพระภิกษุสามเณร โดยมี พระโสณะ กับ พระอุตตระ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีการมอบ "พัศยศ" สำหรับผู้สอบบาลีได้[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]- ต่อมาก็มีการแต่งตั้งพระสงฆ์ไทยขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระองค์แรกของเมืองไทย จนได้สืบต่อวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ มาจนถึงบัดนี้[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]- อีกทั้งพระองค์ได้เสด็จประพาสไปยังนานาประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง และที่อยู่ห่างไกลออกไป ส่วนภายในประเทศอาณาเขตของพระองค์ ก็เสด็จเยี่ยมเยือนไปตามหัวเมืองต่าง ๆ อีกด้วย[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]- พระราชจริยวัตรของ พระเจ้าตวันอธิราช นี้ มีลักษณะที่ทรงปฏิบัติคล้ายกับพระราชจริยวัตรของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ของพระเจ้ากรุงสยาม ทุกประการ[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]- ฉะนั้น ขนบธรรมเนียมประเพณีในด้านพระศาสนา เช่น พิธีกวนข้าวทิพย์ การสวดมนต์ หรือ พิธีการนิมนต์พระไปเจริญพระพุทธมนต์ที่บ้าน ตลอดถึงพิธีกรรมต่าง ๆ ตามโบราณราชประเพณี เรามีการสืบทอดวัฒนธรรมอันเป็น มรดก มานานนับพันปี[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif](ทั้งหมดนี้เป็น รากฐาน ที่พระเจ้าตวันอธิราช วางไว้ให้ พระราชโอรสคือ พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ทั้ง ๒ พระองค์ต่างก็เป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเข้มข้น)[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]ต่อมา หลังจากพระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ก็ทรงมีพระราชหฤทัยที่ดำเนินรอยตามพระยุคคลบาทของสมเด็จพระราชบิดา ในฐานะที่พระองค์ก็ทรงเป็น พระโพธิสัตว์ เช่น เดียวกัน และก่อนที่ พระโสณะ จะนิพพาน ก็ยังได้พยากรณ์ไว้อีกว่า[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]"พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า จะมาเกิดที่ "กรุงเทพมหานคร" เมื่อนั้น "สุวรรณภูมิ" จะฟื้นชื่อมีคนรู้ทั่ว..."[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]- สอดคล้องกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม องค์ปัจจุบันที่ได้ทรงตรัสพยากรณ์ไว้ดังนี้[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]"ดูก่อนอานนท์..ตถาคตสงสารสัตว์เป็นล้นพ้น ที่มีอายุขัยอยู่ใกล้ยุคกึ่งสมัย คือในหลังพุทธกาลนี้ แต่ในเวลานั้น จะมี "พระมหากษัตริย์ธรรมิกราช" ผู้เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง จะเกิดภายในอุปถัมภ์ของ [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]"พระมหาเถระโพธิสัตว์" [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]- พระโพธิสัตว์สองพระองค์นั้น จะเสด็จเข้ามาบำรุงพระพุทธศาสนาของตถาคต สมณชีพราหมณ์จะตามเสด็จเป็นอันมาก ในระยะนี้จะเป็นยุค "ชาวศรีวิไล" ดังนี้[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif](หลักฐานหนึ่ง ทางด้านโบราณวัตถุได้แก่ กระเบื้องจาร ที่ขุดได้จาก ซากเมือง คูบัว จ.ราชบุรี ก็ได้ยืนยันว่า พ่อกับลูกคู่นี้ ทรงเป็นหน่อเนื้อพระบรมพงศ์พระโพธิสัตว์ทั้งสองพระองค์ ได้ตั้งความปรารถนา "พุทธภูมิ" ประเภท วิริยาธิกะ คือจะต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า ใช้เวลา ๑๖ อสงไขย กับแสนกัปล์ จึงจะบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ)[/FONT]



    [FONT=trebuchet ms,sans-serif][​IMG] [/FONT]



    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]ภาพจากเว็ป พระรัตนตรัย[/FONT]



    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]นชาติปัจจุบัน ของ พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า (พระบาทสมเด็จภูมิพลอดุลยเดชมหาราช)[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]หลวงพ่อเคยถวายพระพรไว้ ณ พระตำหนักภุพิงค์ราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๒๐... ในตอนหนึ่งที่พระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อว่า[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]"เขาพูดกันว่าผมปรารถนาพุทธภูมิเป็นความจริงไหมครับ..?"[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]หลวงพ่อถวายพระพรว่า...[/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ พระองค์ปรารถนามานาน..แต่เวลานี้บารมีเป็น "ปรมัตถบารมี" แล้ว ก็เหลืออีก ๕ ชาติ และที่พระองค์ปฏิบัติมามันเลยแล้ว..ไม่ใช่ไม่สำเร็จ..! [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]"พุทธภูมิ" นี่ต้องบำเพ็ญกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น "วิริยาธิกะ" วิริยาธิกะนี่..ต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป นี่บำเพ็ญมาเกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว "แสนกัป" อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ"[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]ในขณะนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้ตรัสถามหลวงพ่อว่า [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]"พระ เจ้าอยู่หัวก็ดี หม่อมฉันก็ดี ก็มีความเคารพในพระคุณ พระราชวงศ์จักรี อยู่ตลอดเวลา ที่ท่านจะทรงสามารถจะทรงความเป็นเอกราชไว้ได้ ก็อยากจะทราบว่าทั้งสององค์นี่..จะทรงชาติกับศาสนาไว้ได้ไหม..? "[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]หลวงพ่อถวายพระพรว่า "ก็ได้..ประเทศเราไม่มีเกณฑ์จะต้องตกเป็นเหยื่อคอมมิวนิสต์" [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]แล้วพระองค์ก็ตรัสถามอีกว่า [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]"ฉันทั้งสององค์นี่ ทั้งพระเจ้าอยู่หัวด้วยและฉันด้วย จะต้องตายเพราะการที่เขามุ่งจะฆ่าไหม..? "[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]พอตรัสถามตรงนี้ หลวงพ่อท่านบอกว่าพระดลใจให้ตอบว่าดังนี้..[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]"ก็ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี่ เป็นนักรบฝีมือดีมาจากสุโขทัย และมาเกิดคราวนี้ ต้องการจะเกิดเพื่อจรรโลงให้คงอยู่ให้ชาติมีความร่มเย็นเป็นสุข แล้วเรื่องอะไร..ที่ต้องตายเพราะคมอาวุธล่ะ..ถ้าจะเจ็บตายเอง.งเป็นเรื่อง ธรรมดา และต้องตายด้วยเรื่อง "คมอาวุธ" อันนี้ไม่มี..!"[/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]สรุป..ในหลวงเกิดเป็น พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ในสมัยสุวรรณภูมิ และเกิดเป็น พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า ในสมัยเชียงแสน ปรารถนา พุทธภูมิ ประเภท วิริยาธิกะ ตอนนี้บารมีใก้ลเต็ม และต้องเกิดสร้างบารมีอีก[/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif] ๕ ชาติ[/FONT]


    ศ.ธรรมทัสสี
    ขอขอบคุณ คุณ ศ.ธรรมทัสสี สำหรับบทความดีๆ เผยแผ่เป็นธรรมทาน เพื่อลูกหลานหลวงพ่อ และพุทธศาสนิกชนทุกท่านครับ
     
  2. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    ผมเชื่อครับว่าในหลวงทรงเป็นพระโพธิสัตว์จริง บารมีของท่านเป็นที่ประจักษ์ได้ชัดเจน ไม่ว่าจะด้านปัญญา เมตตา วิริยะ หรือขันติ
    พระองค์ทรงใช้ 1 ใจ 1 สมอง 2 แขน 2 ขา แบบคนทั่วไป แต่ก็ทรงช่วยเหลือชาวไทยได้อย่างมาก ครูบาอจารย์หลายท่านก็ช่วยยืนยันตรงกัน

    ต่างกับที่ลุงมหาเล่าว่าอาจารย์ทิพากรที่อ้างว่าเป็นโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีมาเต็มขั้นแล้ว แต่ครูบาอาจารย์ไม่มีใครพูดถึง แถมอ้างว่ามีญาณทัศนะแจ่มใสกว่าพระอรหันต์อย่างหลวงปู่มั่นหลวงตาบัวที่ช่วยเรื่องภัยพิบัติไม่ได้ มีแต่อาจารย์ที่ช่วยได้ ก็เลยสงสัยว่าเก่งกว่าพระอรหันต์แค่เรื่องทิพยจักขุญาณหรือมีอภิญญาด้านอื่นด้วย ถ้ามีอภิญญาด้านอื่นก็แสดงให้ดูหน่อยจะได้มั่นใจได้มากขึ้น เพราะเรื่องพระใหญ่นี่รู้ดีอยู่คนเดียว คนอื่นไม่รู้ พูดไปคนอื่นก็ไม่รู้จริงไม่จริง ตรวจสอบไม่ได้ ต้องใช้ความเชื่ออย่างเดียว จะเป็นการหลงผิดของอาจารย์คนเดียวรึเปล่าก็ไม่รู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2012
  3. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    งานใหญ่ก็ต้องมีมารมาขวางเป็นธรรมดา ปล่อยให้เค้าร้องแรกแหกกระเชอไปครับ ลุงมหา
     
  4. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    บัวมี 4 เหล่า จริงๆ
    เหตุผลไม่ต้อง เชื่อไว้ก่อน
    ศาสนาพุทธต่างจากศาสนาอื่นเพราะพูดเรื่องจริง พิสูจน์ได้ ถกเถียงได้ ต่างจากศาสนาอื่นห้ามพูดห้ามค้าน พอค้านก็หาว่าบาป หาว่าเป็นแม่มด สุดท้ายถูกเผา หรือจับขังคุก ซึ่งผมไม่อยากเห็นชาวพุทธเป็นแบบนั้นครับ
    เตือนด้วยความหวังดี ใครอยากหลงอยากงมงายต่อก็เชิญ แต่ถ้าจะร่วมแสดงความเห็นก็ยินดีเสมอนะ

    ปล. http://palungjit.org/threads/ในหลวงกับหลวงพ่อฤาษีฯและพระสุปฏิปันโน.340281/
    ยิ่งกระทู้นี้ยิ่งชัดว่าในหลวงสร้างบารมีแบบพระโพธิสัตว์อย่างไรบ้าง คนด่าท่านก็วางเฉยเพราะมีพรหมวิหารอย่างสมบูรณ์ ใช้ปัญญา ความเพียรแก้ปัญหา มีธรรมขั้นสูงก็ไม่เที่ยวมาประกาศว่ามีฤทธิ์เดช ต่างกับพวกแอบอ้างบอกบารมีเต็ม แต่ใครด่าไม่ได้เป็นมารทันที ปัญญาแก้ปัญหาไม่ต้อง ใช้ความเชื่อหลอกศรัทธาอย่างเดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  5. นิติทอง

    นิติทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +585
    ปุ่มอนุโมทนาหายไปแล้ว แต่ทั้งสี่เหล่า สุดท้ายปลายทาง ก็มีแต่เพียงนิพพาน แต่อาจใช้เวลามากๆ เช่นผมเอง(ค่อยๆไป ยังไม่เห็นทุกข์)
     
  6. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ปากก็อ้างคำพระมาพูด จริงๆก็ขวางบุญเค้านั่นแหละ ก็ไม่รู้ว่างานนี้ใครจะได้เป็นเทวทัตกันแน่ ลูกศิษย์เทวทัตมาเกิดเยอะ มีผู้เคยฝากด่ามานานแล้ว พอเอามาลงในเวบไซต์นี้เท่านั้นแหละ วันรุ่งขึ้นมีเรื่องเลย

    สร้างกรรมกันเข้าไปนะ รอผลบุญหมดเมื่อไหร่ ค่อยรับกรรมทีเดียว หรือก็ต้องรอให้ผู้มีบุญมาโปรด เพราะจิตที่คิดตามขวางบุญใหญ่ ก็เลยเป็นห่วงผูกพันให้ต้องรับกรรมอีกนานแสนนาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  7. ลุงมหา

    ลุงมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,092
    ภาคที่3 มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคีอภิมหากุศล ประจำปี 2555

    ภาคที่3 มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ โดยท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ ผ้าป่าสามัคคีอภิมหากุศล ประจำปี 2555

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ได้จัดให้มีการทอดผ้าป่าสามัคคีอภิมหากุศล ประจำปี พ.ศ. 2555 ขึ้น
    มีวัตถุประสงค์ในการรวบรวมผู้มีจิตศรัทธา เป็นบุญ เป็นกุศล

    ร่วมถวายปัจจัย ในการสร้างพระพุทธปฏิมาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

    การสร้างพระใหญ่ชัยภูมินั้น อยู่ในระยะของการ ขุดเจาะพื้นหิน เพื่อเทเสาฐานราก ทั้งหมดจำนวน 636 ต้น
    กำหนดแล้วเสร็จส่วนนี้ ภายในปี 2555

    ค่าใช้จ่ายต่อต้น ประมาณ 200,000 บาท

    รวมค่าใช้จ่ายส่วนของการทำเสาฐานราก ประมาณ 127,200,000 บาท


    ทางทีมงานได้ทำการถ่ายทำ วีดีโอ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 9 ตอนใหญ่ โดยมีตอนย่อยๆทั้งหมดรวม 21 ตอนย่อย


    (ต้องกราบขออภัยต่อญาติธรรมทุกๆท่าน ที่ทางทีมงานไม่สามารถถ่ายทำให้ครบถ้วนทั้งหมดได้)

    ซึ่งก็จะทยอยนำลงให้ได้ชม ตามเว็บลิ้งค์ข้างล่างกันนะครับ

    ขอเชิญญาติธรรม ผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศล ร่วมรับชม รับฟัง
    พร้อม กับ อนุโมทนา สาธุการ เพื่อรับกุศลผลบุญโดยทั่วหน้า ทุกท่านเทอญ


    ในภาคที่3 นี้จะมี 2 ตอนใหญ่ แบ่งเป็น 4 ตอนย่อย ตามรายชื่อตอนข้างล่าง

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 7/9 ส่วนที่ 1/2 แห่สำเภาเงิน สำเภาทอง
    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 7/9 ส่วนที่ 2/2 แห่สำเภาเงิน สำเภาทอง
    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 8/9 ส่วนที่ 1/2 เปิดบุญนักษัตร ปีมะเมีย มะแม วอก
    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 8/9 ส่วนที่ 2/2 เปิดบุญนักษัตร ปีมะเมีย มะแม วอก

    โปรดติดตามชม ตอนข้างล่าง


    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 7/9 แห่สำเภาเงิน สำเภาทอง

    ตอนที่7/9 พิธีแห่สำเภาเงิน สำเภาทอง
    จากอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล
    เข้าสู่พุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ
    วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๕
    เริ่มงาน ๑๕:๐๐น.

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 7/9 ส่วนที่ 1/2 แห่สำเภาเงิน สำเภาทอง

    ตอนที่ 7/9 ส่วนที่ 1/2
    พิธีแห่สำเภาเงิน สำเภาทอง
    บรรยากาศการร่วมทำบุญ ที่ศาลาพระบรมสารีริกธาตุ
    บรรยากาศการแห่ สำเภาเงิน สำเภาทอง เข้าสู่พุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=XsA8INFr-xo&feature=channel&list=UL]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 7/9 ส่วนที่ 1/2 แห่สำเภาเงิน สำเภาทอง - YouTube[/ame]


    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 7/9 ส่วนที่ 2/2 แห่สำเภาเงิน สำเภาทอง

    ตอนที่ 7 ส่วนที่ 2/2
    พิธีแห่สำเภาเงิน สำเภาทอง
    บรรยากาศการแห่สำเภาเงิน สำเภาทอง เข้าสู่พุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ
    ฉลองชัยแห่สำเภาเงิน สำเภาทอง เสร็จสมบูรณ์

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ukk1l3Z8CxA&feature=channel&list=UL]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 7/9 ส่วนที่ 2/2 แห่สำเภาเงิน สำเภาทอง - YouTube[/ame]

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 8/9 เปิดบุญนักษัตร ปีมะเมีย มะแม วอก ระกา
    ตอนที่ 8/9
    วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๕
    เริ่มงาน ๑๙:๓๐น.

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 8/9 ส่วนที่ 1/2 เปิดบุญนักษัตร ปีมะเมีย มะแม วอก ระกา

    ตอนที่ 8/9 ส่วนที่ 1/2
    เปิดบุญนักษัตร ปีมะเมีย มะแม วอก ระกา
    บรรยากาศของงาน
    จุดพลุไฟ ฉลองผ้าป่าสามัคคีอภิมหากุศล
    รำบวงสรวงเทพเทวา ชุดที่ 1,2,3

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=7xgV99rUimA&feature=channel&list=UL]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 8/9 ส่วนที่ 1/2 เปิดบุญปีมะเมีย มะแม วอก ระกา - YouTube[/ame]

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 8/9 ส่วนที่ 2/2 เปิดบุญนักษัตร ปีมะเมีย มะแม วอก ระกา

    ตอนที่ 8/9 ส่วนที่ 2/2
    พิธีเปิดบุญ-บารมี
    เปิดบุญทิศทั้งสี่ เริ่มจากทิศตะวันออก
    เปิดจักรวาล เปิดพระแม่ธรณี
    เปิดพลังอธิฐาน
    เปิดของบวงสรวง-โอสถทิพย์
    เปิดการงาน เปิดกิจการของท่าน ญาติ บริวาร
    เปิดกระเป๋าเงิน กระเป๋าทอง
    แจกของบวงสรวง-โอสถทิพย์

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=CCD1w0RZ0ls&feature=channel&list=UL]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 8/9 ส่วนที่ 2/2 เปิดบุญปีมะเมีย มะแม วอก ระกา - YouTube[/ame]

    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่าน ตลอดถึงผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศล ผู้ร่วมโมทนา สาธุการทุกๆท่าน
    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับเจ้าภาพทุกๆท่าน
    ขออนุโมทนา
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  8. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    อนุโมทนาด้วยครับ ลุงมหา ผมก็กำลังเร่งบำเพ็ญบารมี อีก 2 ครั้งใหญ่ก็จะครบในส่วนของผม ยังไม่นับการบำเพ็ญบารมีอย่างอื่นอีก ทั้งหมดขอเป็นเพียงการปิดทองใต้ฐานพระ สุดท้ายทุกอย่างก็จะเป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น
     
  9. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    ตกลงเหตุผลเป็นไงไม่ต้อง เอาความเชื่อเข้าว่าอย่างเดียวสินะ
    แล้วถ้าฝ่ายอาจารย์ทิพากรผิด หลอกลวงคน คุณไปร่วมหลอกด้วยก็เป็นกรรมเหมือนกันไม่คิดบ้างเหรอ
    ผมชี้แจงแล้วว่าความคิดผมมีที่มาอย่างไร ที่อ้างพระก็เพราะเป็นพยานบุคคล ไม่ได้กล่าวลอยๆ ผิดถูกก็ว่ากันไป จะเป็นเทวทัตหรือไม่ก็ดูที่บิดเบือนคำสอนพระพุทธเจ้ารึเปล่า ชี้แจงมาสิว่าบิดเบือนยังไง ถ้าเป็นชาวพุทธจริงก็ต้องรู้จักใช้ปัญญาพิจารณาบ้าง
    ผมถึงได้บอกว่าอยากเป็นเหมือนธรรมกายเหรอ อ้างว่าเป็นศาสนาพุทธแต่สุดท้ายกลายเป็นลัทธิต้มตุ๋น แบบนั้นเรียกว่าบุญมั้ยล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  10. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    มีปากอยากถามก็ถามไป แต่คำถามที่ไม่มีคำตอบ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องตอบและป่วยการที่จะตอบ จะถามสักกี่ครั้งกี่หน ก็ตามสบาย

    แต่ถ้าแน่จริง ต้องไปถามอาจารย์ทิพากรด้วยตัวเอง และต้องถามกลางหมู่คนที่ไปร่วมในงานพิธีพระใหญ่ด้วย ถามออกไมค์ไปเลย แต่ถ้ายังมาถามในนี้ ภาษาวัยรุ่นเค้าเรียกว่า ป๊อด หรือภาษาสมัยเก่ายิ่งกว่านั้น เค้าเรียกใจตุ๊ด คือ ไม่แน่จริง
     
  11. นิติทอง

    นิติทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +585
    หากเป็นกรรมของมนุษย์ ที่เป็นเหตุแห่งภัยพิบัติแล้ว และหากทำบุญแล้วภัยไม่เกิด
    แล้วกระนั้นเราควรหนีกรรมนั้นหรือ
     
  12. สักการะ

    สักการะ ชิวิตดั่งอาทิตย์อัศดง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,919
    ค่าพลัง:
    +5,742
    ยังงัยก็ อนุโมทนาด้วยครับ
    หากการสร้างพระพุทธรูป มีผลบุญเกิดต่อกรรมรวมของประเทศ แม้จะเเค่เลื่อนออกไปก็ยังดีครับ อย่างน้อยก็ยังมีคนที่กลับตัวกลับใจ และมีเวลาเหลือให้พอปฏิบัติได้บ้าง เพื่อเป็นเสบียงบุญติดตัวไปในภพหน้า
     
  13. นิติทอง

    นิติทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +585
    คือกลัวว่าเลื่อนไปแล้วคนไม่ดีเพิ่มขึ้น หลงทางมากขึ้น ข่าวพระผิดศีลผิดวินัยมากขึ้นเรื่อยๆ ฆ่ากันตายบ่อยขึ้น ควรหรือที่จะขยายเวลาภัยพิบัติเพื่อให้คนอื่น ทำผิดอีก คนที่กลับใจมาเป็นคนดี น้อยกว่าที่เริ่มทำผิดเพราะสังคมและเศรษฐกิจ
     
  14. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    - คนมีปัญญาเค้าคงไม่ไปพูดท่ามกลางสาวกลัทธิหรอก ถ้าไม่มีปัญญาจะตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้ ผมก็ถามคนที่เค้ารู้ข้อมูล อย่างลุงมหาเห็นบอกว่าอยู่วงในใกล้ชิด ไม่ตอบก็ไม่เป็นไรคิดซะว่าเป็นข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะละกัน
    - พุทธศาสนิกชนที่ดี ย่อมต้องทำบุญในพุทธศาสนา ดังนั้นต้องแยกให้ได้ว่าสิ่งใดเป็นศาสนาพุทธที่แท้จริง
    - ถ้าทำแล้วเลื่อนภัยพิบัติได้ก็ดีสิ แต่ที่สงสัยคือเลื่อนได้จริงอย่างที่บอกรึเปล่า
    - ผมเพิ่งถามพระท่านหนึ่ง ท่านบอกว่าไม่มีภัยพิบัติร้ายแรงหรอก ประเทศเรามีแต่จะเจริญขึ้นเรื่อยๆ ให้เชื่อมั่นในความดี ดังนั้นถ้าภัยพิบัติไม่เกิดก็อย่าได้อ้างว่าเป็นเพราะสร้างพระใหญ่เสร็จล่ะ
    ปล. หายแปลกใจแล้วครับว่าทำไมพระอริยะอย่าหลวงตาบัวไม่พูดถึง ก็เพราะไม่มีไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2012
  15. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    จริงๆเรื่องภัยพิบัติว่าจะเกิดหรือไม่เกิด เกิดที่ไหน เมื่อไหร่ เถียงกันไม่จบ และถ้าจะว่าไปแล้ว อย่าไปเพรียกหาภัยพิบัติ เพราะเหมือนเป็นการดึงดูดสิ่งไม่ดีเข้าหาตัว

    ขอให้พยายามทำความดีแล้วกัน ถ้ามันไม่เกิดก็แล้วไป ถ้ามันเกิด และเราไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ อย่างน้อยก็มีเสบียงไว้เลี้ยงตัว ที่สำคัญเราต้องมีสติ เพราะเมื่อความตายมาอยู่ต่อหน้า ถ้าไม่รู้จักฝึก หรือกำลังไม่พอแล้ว ก็อาจสติแตกได้
     
  16. ลุงมหา

    ลุงมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,092
    กิเลส,เวรกรรม,กุศลผลบุญ มาจากไหน

    ขออนุญาตครับ

    ก่อนอื่นต้องขอร่วมอนุโมทนาบุญร่วมกับ ทั้งท่าน khomeraya, ท่านสักการะ
    ตลอดจนท่านอื่นๆ รวมไปถึง ญาติธรรมพลังเงียบทุกๆท่าน


    เมื่อครั้งมีคนจ้างพวก คนเลว เดินตามด่า พระพุทธองค์ เวลาพระองค์ท่านเดินบาตร
    พระอานนท์รำคาญและกลัวว่าเขาเหล่านั้นจะเป็นบาปมากขึ้นๆ
    จึงทูลเชิญพระพุทธองค์หนีไปเมืองอื่น
    พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสตอบว่า


    "หนีไปไหนก็ต้องเจอเหมือนเดิม"

    ท่านอาจารย์ปู่ หลวงปู่มหาบัวท่านสอนว่า

    คนมีบุญทำบุญได้ง่าย ทำบาปได้ยาก

    คนมีบาปทำบาปได้ง่าย ทำบุญได้ยาก

    กิเลสมันเกิดขึ้นที่ใจ

    มันเกิดขึ้นจากสังขารฝ่ายกิเลส เมื่อเกิดขึ้นแล้ว
    จิตก็ปรุงแต่งแต่เรื่องที่เป็นบาปเป็นอกุศล ขยายออกไปๆ
    สะสมบาป สะสมอกุศล เข้าไปในจิตมากขึ้นๆ
    ก็ขยับขยายออกมาเป็นคำพูด(วาจา)ที่เป็นบาปเป็นอกุศล
    แล้วก็ขยับขยายมาเป็นการกระทำ(กาย)ที่เป็นบาปเป็นอกุศล
    เมื่อกระทำมากเข้าๆ ก็กลายเป็นความชำนาญ กลายเป็นความเคยชินไปเสีย
    เมื่อตายไป ก็เข้าสู่อบายภูมิต่อไป

    กุศลผลบุญก็เกิดขึ้นที่ใจเหมือนกัน

    จิตที่เป็นบุญเป็นกุศล เขาก็คิดแต่เรื่องที่เป็นบุญเป็นกุศล
    เมื่อความคิดเป็นบุญเป็นกุศลแล้วเกิดขึ้นมาแล้ว
    สังขารฝ่ายมรรค ก็ปรุงแต่งต่อไป ปรุงแต่งแต่เรื่องที่เป็นบุญเป็นกุศล
    ยืดยาวออกไปๆๆ จิตก็สะสมบุญ สะสมกุศล มากขึ้นๆ
    ก็ขยับขยายออกมาเป็นคำพูด(วาจา)ที่เป็นความดี ที่เป็นกุศล
    แล้วก็ขยับขยายมาเป็นการกระทำ(กาย)ที่เป็นความดี ที่เป็นกุศล
    เมื่อกระทำมากเข้าๆ ก็กลายเป็นความชำนาญ กลายเป็นความเคยชินไปเสีย
    เมื่อตายไป ก็มี เทวโลก พรหมโลก เป็นเบื้องหน้า


    เมื่อเห็นใครทำคุณงามความดี ก็ร่วมโมทนาบุญ ร่วมอนุโมทนาบุญ
    ร่วมสาธุการ พร้อมกับ ตั้งปฏิธานความหวังว่า มีโอกาสเมื่อไร พร้อมเมื่อไร
    มีความประจวบเหมาะเมื่อไีร คงจะได้ ร่วมทำบุญ สร้างกุศลเหมือนกับเขาบ้าง

    พร้อมกันนั้น ก็คอยติดตามถามข่าวว่า เขาจะทำบุญ สร้างกุศล ที่ไหน เมื่อไร เผื่อว่า ตนเองจะได้มีโอกาส ประจวบเหมาะ เข้าร่วมทำบุญกับเขาบ้าง

    เมื่อไม่ประจวบเหมาะ ก็สะสมบุญ ด้วยการ โมทนา,อนุโมทนา,สาธุการ ไปเรื่อยๆ สะสมบุญไปเรื่อยๆ ตามอัตภาพของตน

    คนเหล่านี้เมื่อตายไป ก็มี เทวโลก พรหมโลก เป็นเบื้องหน้า
    ตามบุญตามกุศลที่ได้สร้างสะสมไว้


    เห็นมีบางท่าน แม้ตัวเองมีจิตที่คิด ที่ปรุงแต่ง แต่เรื่องบาป เรื่องอกุศล
    เห็นเขาทำบุญ สร้างกุศล ก็ยังอุตสาห์ เที่ยวขุดขุ้ย ค้นหา
    เรื่องที่เป็นบาป เป็นอกุศล ตามจริต ตามนิสัยของตน มากล่าวหาเขา มาชักมาชวน ผู้อื่น ให้ร่วม ต่อต้านเขา ตามจริต ตามนิสัยของตน


    ไม่มองแม้แต่จิตของตัวเอง ที่คิดแต่เรื่องบาป เรื่องอกุศล
    กลับไปดูแต่ผู้อื่น ที่แม้แต่เขากำลังทำบุญ สร้างกุศล
    ก็เพียรพยายามกล่าวหาว่า เขากำลังทำบาป กำลังทำอกุศล

    เมื่อเขากำลังทำบุญ ทำกุศล กลับไปกล่าวหาว่า เขากำลังทำบาป สร้างอกุศล

    ท่านที่เข้ามาอ่านก็ต้องพิจารนาว่า

    อันไหนเป็นบุญเป็นกุศล

    อันไหนเป็นบาปเป็นอกุศล

    ใครทำบุญสร้างกุศล

    ใครทำบาปสร้างอกุศล

    ขอให้พิจารนาให้รอบคอบ อย่าได้สร้างบาป สร้างอกุศลให้ตนเอง

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมินั้น ชื่อก็บอกว่าเป็น มูลนิธิ เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร

    แม้ในปัจจุบัน ก็ยังไม่มีการออกบัตร รับรองเจ้าหน้าที่ใดๆทั้งสิ้น
    มีเพียงท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ และ คณะกรรมการที่มีชื่อในการร่วมจดทะเบียนมูลนิธิเท่านั้น

    ทางมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ไม่เคยแม้แต่ จ่ายค่าเบื้ยประชุม จ่ายค่าใช้จ่ายใดๆให้ผู้ร่วมงานทั้งสิ้น

    เงินส่วนมากที่จ่ายไป ก็เป็น ค่าซื้อที่ดิน กับงานก่อสร้าง

    ใครคิดอะไร ทำอะไร ค่าใช้จ่ายออกเอง
    อยากได้บุญ อยากทำบุญ หาเงินมาบริจาคเอาเอง
    ไม่มีเงิน ก็ลงแรง ช่วยงานไป
    แต่ละท่านก็เฝ้ามองหาว่า
    จะรับเป็นเจ้าภาพงานพระใหญ่ส่วนไหนบ้าง


    ตั้งแต่ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์, รองประธานกรรมการ,
    ตลอดทั้งประธานศูนย์สาขาต่างๆ, กรรมการศูนย์สาขาต่างๆ,
    ตลอดจนญาติธรรมผู้ร่วมช่วยงานตามศูนย์ต่างๆ
    ทั้งหมดนี้ ไม่มีเงินเดือน ไม่มีเบี้ยเลี้ยง ไม่มีการเบิกค่าใช้จ่ายใดๆ

    มีน้อยรายมากๆ มีน้อยครั้งมากๆ ที่นำเงินบริจาค มาจ่ายเป็นค่าน้ำมันรถ
    เพื่อให้สามารถ ไปร่วมงาน ไปทำงานของมูลนิธิต่อไปได้


    ส่วนมากก็หาเงินมาจากอาชีพหลักของตนเอง
    เงินบริจาคที่รวบรวมมาได้ก็ส่งเข้ามูลนิธิทั้งหมด
    แถมยังออกเงินส่วนตัวสมทบเข้าไปอีก


    ครั้งแล้ว ครั้งเล่า รอบแล้ว รอบเล่า สะสมบุญ สะสมกุศล ไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ
    อิ่มบุญ อิ่มอก อิ่มใจ จิตใจอบอวลไปด้วยบุญ ไปด้วยกุศล ตลอดเวลา

    ไม่ว่าท่าน อ.ทิพากรจะไปไหน ก็ติดตามไป ใกล้ไกล ไม่รู้จักเหน็ด ไม่รู้จักเหนื่อย

    ญาติธรรมก็ต่างกระเหี้ยนกระหือ ติดตามข่าวสารงานบุญ
    เข้าร่วมงานบุญสร้างกุศลให้ยิ่งๆขึ้นไป
    ท่านที่ไม่พร้อมก็แสวงหาญาติธรรม รวมกลุ่มกัน ตั้งแต่รถคันเดียว.หลายคัน,ไปจนถึงรถตู้,ไปจนถึงรถบัส,ไปจนถึงรถบัสหลายๆคัน


    ญาติธรรมกลุ่มต่างๆ ก็พบปะ พูดคุย แสวงหา ญาติธรรมที่เข้ากันได้
    ญาติธรรมที่อุปนิสัยใจคอเข้ากันได้ ญาติธรรมที่โอบอ้อมอารีย์ ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รวมกันเป็นกลุ่ม เป็นสายบุญ
    เป็นศูนย์สาขา ของ มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ

    ท่านอาจารย์ทิพากร เองท่านถึงกับเรียกคนเหล่านี้ว่า


    "คนจนผู้ยิ่งใหญ่"

    ท่านเหล่านี้ก็จะชักชวน
    ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนในที่ทำงานเดียวกัน
    คนในชุมชนเดียวกัน มาร่วมงานบุญ มาร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    เราจะบอกบุญอย่างนี้เท่านั้น


    เราจะไม่มีการบอกบุญคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จัก
    เราจะไม่มีการเรี่ยไรใดๆทั้งสิ้น


    ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้

    ญาติธรรมที่ไม่แกร่งพอ
    สายที่ไม่แกร่งพอ
    ศูนย์ที่ไม่แกร่งพอ

    ถอยห่างไปบ้าง ถอยไปพักตั้งหลักไปบ้าง
    พร้อมเมื่อไร ประจวบเหมาะเมื่อไร
    เขาก็เข้ามาร่วม มาช่วย เข้ามากอบโกยกุศลผลบุญต่อไป

    เมื่อมีบางท่านเห็นเขามาช่วยงานพระใหญ่ชัยภูมิแล้ว
    เห็นเขามีชีวิตดีขึ้น
    เห็นเขาขยันขันแข็งออกช่วยงานพระใหญ่บ่อยๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ด ไม่รู้จักเหนื่อย


    ก็เลยคิดแบบใจตัวเองว่า เขาคงมีรายได้จากการไปช่วยงานบุญพระใหญ่
    เพราะความที่ไม่เคยรู้ว่า กุศลผลบุญเป็นอย่างไร จิตใจที่ครุกกรุ่นด้วยกุศลผลบุญเป็นอย่างไร
    จิตใจที่หายใจเข้า หายใจออก มีแต่เรื่องบุญ เรื่องกุศลเป็นอย่างไร


    แม้ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านจะอนุญาต ท่านจะให้กำลังใจ
    ท่านจะเตือนให้ผมเขียนเรื่องพระใหญ่ชัยภูมิไปเรื่อยๆ
    เพื่อให้ญาติธรรมใหม่ๆเข้าใจ เพื่อให้ญาติธรรมเก่าๆเข้าใจยิ่งๆขึ้นไป

    แต่ผมก็มีเวลาเท่านี้ ไม่สามารถ ถอดคำบอก คำสอน คำบรรยายธรรม
    ของท่าน อ.ทิพากร ออกมาอธิบายขยายความได้บ่อยๆ

    ผมก็ยังถ่ายทำ ตัดต่อ วีดีโอ โหลด เอาไว้ ใน ยูทูป.คอม
    ซึ่งเป็นฐานข้อมูลใหญ่หลัก


    รอให้ญาติธรรมผู้มีบุญ มีกุศล เข้ามาศึกษา เอาเอง
    แม้มีคนไม่เข้าใจ หรือเข้าใจจำนวนน้อยก็ตาม

    ผมก็มีหลักฐานเอาไว้ว่า ผมได้นำเสนอเรื่องราวของท่าน อ.ทิพากร
    เรื่องราวของพระใหญ่ชัยภูมิ เอาไว้ตั้งนานแล้ว


    ความเด่นชัดของท่าน อ.ทิพากร ความเด่นชัดของพระโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล
    ความเข้มข้นของพลังบุญบารมี ของท่าน อ.ทิพากร ก็จะเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ

    การถ่ายพลังบุญบารมี สู่ญาติธรรมผู้มีบุญบารมี ก็จะเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ

    เราจะได้เห็น เราจะได้พิสูจน์ว่า ที่ท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ที่ท่านได้บอกว่า

    "ถ้าทำให้ญาติธรรมพระใหญ่ มีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่ได้"
    "ถ้าทำให้ญาติธรรมพระใหญ่ มั่งคั่งร่ำรวย ตามบุญบารมีของตนที่ได้สร้างสมไว้ไม่ได้"
    "ถ้าญาติธรรมพระใหญ่ มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก"
    "ถ้าญาติธรรมพระใหญ่มีแต่ความสลดหดหู่"
    "ถ้าญาติธรรมพระใหญ่ผูกคอตาย"
    "เราจะสร้างพระใหญ่ให้เสร็จได้อย่างไร"

    เราก็มาติดตามดูกันว่า
    "พลังการสงเคราะห์จากพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว"
    "พลังการสงเคราะห์จากพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว"

    มันเป็นอย่างไรกันแน่

    แต่ญาติธรรมพระใหญ่ตัวจริงเสียงจริง เขารับรู้กันนานแล้ว
    เขาอิ่มบุญ เขาอิ่มอกอิ่มใจ เขาจิตใจใสสะอาด
    เขาจิตใจสว่างเจิดจ้า เหมือนพระอาทิตย์เที่ยงวัน
    เขาจิตใจสว่างเจิดจ้า เหมือนพระจันทร์คืนเดือนเพ็ญ
    เขามีจิตใจที่ยิ่งใหญ่
    จนคนทั่วไปคิดว่า เขามั่งมีเงินทอง เขาได้ส่วนแบ่ง เขาได้ %
    ทั้งๆที่เขาไม่เคยได้


    ส่วนเงินทองที่ไหลมาเทมา จนไม่รู้ว่ามาอย่างไร มาจากไหน
    ถึงมีเงินใช้ให้พอไปร่วมงานบุญพระใหญ่อยู่ไม่ขาด
    แม้แต่ตัวญาติธรรมก็บอกไม่ถูก อธิบายไม่ได้
    ก็เพราะเรามุ่งร่วมสร้างพระใหญ่ อย่างเอาเป็นเอาตาย
    ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้


    เราไม่มีเวลามาช่วยเหลืออุ้มชูพวกที่จิตมีแต่เรื่องกิเลส มีแต่เรื่องบาป เรื่องอกุศล

    เพราะเวลาที่เรามีในแต่ละวัน
    ที่จะร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมสนับสนุนการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมช่วยเหลือเกื้อกูลญาติธรรมของเรา
    มันก็แทบจะไม่พอใช้อยู่แล้ว

    แม้แต่เวลาที่จะไปเตือน ไปบอกพวกที่เดินทางผิด ก็ยังไม่มี

    ใครที่คิดว่าตัวเองมีความเก่งกล้าสามารถ ก็ขอให้พิจารนา จากคลิป วีดีโอ เอาเอง
    คิดเองพิจารนาเอง เพื่อจะได้รู้ว่า ท่านมีบุญ มีปัญญา บารมี อยู่เท่าไร

    เมื่อพระโพธิสัตวยุคกึ่งพุทธกาลท่านมาแล้ว

    ท่านต้องดูเอง ท่านต้องพิจารนาเอาเอง

    เพราะท่านอาจารย์ทิพากร ท่านก็ต้อง เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
    เพื่อจะได้สงเคราะห์ญาติธรรมให้ทั่วถึง

    สำหรับท่านที่มีบุญบารมี ก็ขอเชิญท่านปฏิบัติภาวนาไป
    เปิดยูทูป ภาคสนทนาธรรม-บรรยายธรรม ของท่านอาจารย์ทิพากรไป
    ว่า ธรรม นั้นจะลงสู่จิตของท่านได้หรือไม่

    และขอให้ท่านพิจารนาเอาเองด้วยว่า
    คำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย กับ คำบอกเล่า ของพระโพธิสัตว์ที่ท่านบารมีเต็มแล้ว
    ท่านจะเชื่อใคร

    พระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์ ที่จะถ่ายผ่านองค์พระใหญ่ชัยภูมินั้น
    ไม่เพียงแต่จะป้องกันแก้ไขภัยพิบัติเท่านั้น
    แต่ยังจะสร้างความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ให้แก่ประเทศไทยของเราอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนด้วย


    การรวบรวมพลังชาวพุทธเพื่อสร้างกุศลผลบุญร่วมกันนั้น
    จึงจะสามารถอัญเชิญพระมหาพุทธานุภาพได้

    ขนาดของพระใหญ่ชัยภูมิ จึงต้องใหญ่ จึงต้องเหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้
    ชาวพุทธได้ร่วมทำบุญอย่างทั่วถึง ไม่ต้องแย่งกันเป็นเจ้าภาพ แต่อย่างใด

    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศลทุกๆท่าน
    ขออนุโมทนา
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2012
  17. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    จริงๆแล้ว ภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้นอย่างหนักขึ้นเรื่อยๆ เป็นสิ่งที่สอนธรรมให้กับเรา สิ่งหนึ่งที่เราจะได้ก็คือ ข้อคิด

    สมมติว่าเกิดต้องตายขึ้นมาจริงๆ ถามว่าเราจะทิ้งอะไรไว้ให้โลก เราจะทิ้งอะไรไว้เบื้องหลัง เราจะยังคงทรัพย์สินบ้านเรือนตำแหน่งใหญ่โต ภรรยาแสนดี ลูกแสนน่ารักไว้ได้หรือไม่ ถ้าผู้มีปัญญาก็จะรู้ได้ว่า บัดนี้ ภัยกำลังจะมาถึงตัวแล้ว เห็นทีจะต้องสะสมอริยทรัพย์ อริยทรัพย์ที่เป็นเสบียงบุญ เป็นพลังงานให้ในภพชาติต่อไป ได้ไปเกิดในที่ที่สมควรจะเกิด เกิดมาแล้วมีสิ่งแวดล้อมที่ดี ได้เจอแต่สิ่งดีๆ เพื่อในชาตินั้นภพนั้นจะได้พัฒนาความเข้าใจในธรรม จะได้เพิ่มพูนบุญบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป จนกว่าบารมีจะเต็ม

    แต่ถ้าเป็นผู้ไม่มีปัญญา จิตขุ่นมัว ก็จะถูกอวิชชาบดบัง ทำให้ไม่เข้าใจความนัย ทำให้ละโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย ตรงกันข้าม กลับไปเร่งสะสมอกุศล กุศลที่ทำให้กับคนหมู่มาก สร้างอานิสงส์ได้ไพศาลเพียงใด อกุศลที่ทำกับคนหมู่มาก ก็ย่อมมีผลต่อผู้กระทำมากเพียงนั้น

    สิ่งที่น่ากลัวก็คือ นึกว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูก สิ่งที่ดี ก็ยิ่งทำต่อไป เพิ่มความเพียรพยายามต่อไป ทั้งๆที่ในความเป็นจริง สิ่งที่ตัวเองนึกคิด เป็นยาพิษซ่อนอยู่ในอาหารอันแสนโอชะ เมื่อกระทำมากๆเข้า ผลของอกุศลก็ยิ่งสะสมมากเข้า จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม อกุศลนั้นก็ให้ผล ซึ่งคนผู้นั้นไม่สามารถย้อนรำลึกได้ว่า เพราะเหตุใดตนถึงรับกรรมเช่นนี้

    เปรียบเสมือนพระเทวทัต ที่คอยเพิ่มกรรมให้กับตัวเองทุกภพทุกชาติ กรรมที่ว่าก็คือ ใจที่คิดอาฆาตพยาบาทต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใจที่อิจฉาริษยาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อสิ่งที่ตัวเองหลงคิดไปว่าดี ถูกต้องแล้ว ก็ต้องหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาสนับสนุนความคิดของตน มาชักจูงคนอื่นให้คล้อยตาม ถึงมีคำว่า "ลูกศิษย์เทวทัต"

    เมื่อถึงกึ่งพุทธกาล มีผู้จุติลงมาค้ำจุนพระศาสนาหลายคน มีทั้งเปิดเผยตัวและไม่เปิดเผยตัว ผู้มีบุญเหล่านี้ รู้ว่าตัวเองมีหน้าที่ และจะต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด......
     
  18. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    มีหลายคนที่ดูถูกเรื่องการทำทานว่าเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุด เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด แต่ถ้าคนที่เข้าใจ ก็สามารถเชื่อมโยง ทาน ศีล ภาวนา ให้เป็นกงล้อแห่งธรรม ให้ทาน ศีล ภาวนา เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน

    มีข้อน่าคิดว่า ทำไมในชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ถึงเป็นการบำเพ็ญทานบารมี ทำไมไม่เป็นชาติแรกเลยเล่า

    เพราะฉะนั้น มนุษย์อย่าเพิ่งนึกทึกทักไปว่า สิ่งที่ตัวเองอ่านมา ได้ยินมา พิจารณามา จะเป็นเช่นนั้นเสมอไป
     
  19. ลุงมหา

    ลุงมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,092
    ทานบารมี ยิ่งใหญ่อย่างไร?

    ขออนุญาตครับ

    เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ได้เสด็จไปในที่ใดๆ ก็มีคนมาต้อนรับ มาแสดงอาการเคารพบูชามากมายนั้น
    มีบางคนกล่าวว่า


    "เพราะพระองค์ท่าน เป็นพระพุทธเจ้า"

    พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสว่า

    "เธออย่าได้กล่าวเช่นนั้น"
    "การที่คนมาต้อนรับเราก็ดี มาแสดงอาการเคารพบูชาเราก็ดี
    หาได้เป็นเพราะเราเป็นพระพุทธเจ้าไม่ "
    "แต่เป็นเพราะในอดีตชาติ เราได้กระทำเช่นนี้
    ต่อพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆเอาไว้"


    และมีอีกครั้งหนึ่ง ที่พระพุทธองค์ ได้ทรงเดินทางร่วมกับ คณะสงฆ์จำนวนมาก
    พระได้กราบทูลพระองค์ว่าว่า มีทางเดินไปได้สองทาง
    ทางหนึ่งใกล้แต่ธุระกันดาร ถ้าไปทางนี้คณะสงฆ์จะลำบากเรื่องอาหารการกิน
    อีกทางหนึ่งไกลกว่า แต่เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ คณะสงฆ์จะไม่ได้ความลำบากอาหารการกิน

    พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสถามว่า


    "พระมหากัจจายนะ ได้ร่วมคณะเดินทางมาด้วยหรือเปล่า?"

    พระกราบทูลว่า"พระมหากัจจายนะ ได้เดินทางร่วมคณะมาด้วย"

    พระพุทธองค์จึงได้ทรงตรัสตอบว่า

    "ถ้าพระมหากัจจายนะ เดินทางร่วมคณะมาด้วย
    ให้ไปทางสายใกล้ที่ธุระกันดารนั้น"
    "เพราะด้วยบุญบารมีของพระมหากัจจายนะ
    จะมีคนมาใส่บาตร ทำบุญ เป็นจำนวนมาก"
    "คณะสงฆ์ก็จะพลอยได้รับอานิสงค์ไปด้วย
    จะไม่ลำบากอาหาร การกินอะไรเลย"

    "ถ้าพระมหากัจจายนะ ไม่ได้เดินทางร่วมคณะมาด้วย
    ให้ไปทางสายไกลที่อุดมสมบูรณืนั้นแทน คณะสงฆ์จะไม่ได้มีความยากลำบาก"

    พระพุทธองค์ยังได้ตรัสสอนอีกว่า

    "พระมหากัจจายนะ เป็นผู้มีบารมีในทาง โชคลาภอุดมสมบูรณ์มาก"
    "เพราะในอดีตชาติ ท่านได้สะสมบุญบารมี
    ในเรื่องการทำบุญทำทานเอาไว้มาก"


    เห็นพระเจ้าพระสงฆ์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านอบรมสั่งสอนว่า

    "ให้เน้น การบำเพ็ญภาวนา ทำให้มาก เจริญให้มาก"

    บางท่านไม่พิจารนาให้รอบคอบ อาจจะมุ่งเน้นกระทำตามนั้น
    แล้วถ้าเกิดบุญบารมีไม่มากพอ ปฏิบัติก็ไม่ไปไม่มา ไม่ได้ผลอะไรเลย
    หมดอายุขัยตายไป ชาติหน้าก็เลยจะพลอยลำบาก เพราะไม่ได้สร้างบุญ กุศลด้านอื่นๆเอาไว้ด้วย

    เคยเห็นญาติธรรมทางกรุงเทพบางท่าน เดินทางไปกราบครูบาอาจารย์ฝ่ายธรรมยุติทางภาคอีสาน
    ไปกราบเรียนครูบาอาจารย์ท่านว่า ปฏิบัติมาประมาณยี่สิบปีแล้ว
    พอครูบาอาจารย์ท่านถามว่า


    "ปฏิบัติ อย่างไร ไปมาถึงไหนแล้ว"
    ญาติธรรมท่านนั้นก็ตอบว่า
    "ปฏิบัติได้ดีอยู่ จิตใจสงบดีอยู่"
    เมื่อครูบาอาจารย์ท่านซักไซร้ไล่เรียงอย่างไร ก็ตอบได้อยู่เท่านั้น
    สรุปก็คือ ญาติธรรมท่านนั้นปฏิบัติมาประมาณยี่สิบปี
    ได้แค่ครูบาอาจารย์ท่านพากันเรียกว่า

    "สมาธิหัวตอ" เท่านั้น

    ครูบาอาจารย์ท่านโมโหมาก ท่านมาบอกมาเล่าทีหลังว่า

    "พระฝ่ายธรรมยุติในกรุงเทพ ก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก พากันทำอะไรอยู่"
    "กระทั่งผู้ปฏิบัติ ก็ไม่รู้จัก อบรมสั่งสอนเขา
    ปล่อยให้ปฏิบัติมาได้อย่างไรตั้งหลายปี ได้อยู่เพียงแค่นี้"


    "แล้วญาติธรรมในกรุงเทพก็เหลือเกิน
    พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในกรุงเทพก็มีเป็นจำนวนมาก"
    "ทำไมไม่รู้จักเสาะหาครูบาอาจารย์ใกล้ๆ ขอรับการอบรมสั่งสอนจากท่านบ้าง"

    ครูบาอาจารย์ทางท่านพอได้ยิน พอได้ฟัง ก็อดสลดหดหู่ แทนไม่ได้

    เห็นครูบาอาจารย์ทางภาคกลางบางกลุ่ม บางท่าน เอาหลักสูตรพระโพธิสัตว์
    มาเที่ยวสอนชาวบ้านญาติโยมทั่วๆไป

    ครูบาอาจารย์บางท่านก็เห็นบอกว่าลาพุทธภูมิแล้ว
    แต่ทำไมเวลาสอนลูกศิษย์ก็สอนแต่เรื่องพุทธภูมิ เล่าแต่เรื่องพุทธภูมิ

    พอท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ พระโพธิสัตว์ ยุคกึ่งพุทธกาลท่านมาแล้ว
    กลับไม่สนใจใยดี วางเฉยเสีย ไม่รู้จักกอบโกยเอาประโยชน์

    ผมก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่าอะไรกันแน่

    เพราะเห็นพระธรรมยุติสายฤทธิ์ ทางภาคอีสาน ที่ท่านลาพุทธภูมิแล้ว
    ท่านก็อบรมสั่งสอนลูกศิษย์ คล้ายๆกันนี่ล่ะ


    แต่ลูกศิษย์แต่ละคนของท่าน ไม่ว่าพระ ไม่ว่าฆราวาส ต่างก็ไม่ยอมพูด ไม่ยอมบอกอะไรเลย

    ถามอะำไรก็ไม่บอก นี่ขนาดผมอายุมากกว่าครูบาอาจารย์ของท่านอีก ถามอะไรก็ยังไม่บอก

    ถามไปถามมากลับบอกว่า


    "ทำไมไม่ไปถามครูบาอาจารย์เอาเองบ้าง"
    "ถ้าครูบาอาจารย์ ท่านอยากให้คุณรู้ ท่านก็คงบอกเล่าเอง"

    ครูบาอาจารย์ฝ่ายธรรมยุติ ที่เป็นครูบาอาจารย์ของโยมคนนั้นมาก่อน
    ท่านก็บอกผมว่า


    "โยมอย่าไปถามเขาเลย ขนาดอาตมาเป็นครูบาอาจารย์ของเขา"
    "เป็นคนพาเขามาฝาก มาเรียนกับครูบาอาจารย์ท่านนี้
    เขายังแทบจะไม่เล่าอะไรให้ฟังเลย"

    "บอกแต่ว่า พามาฝากเรียนวันแรก ครูบาอาจารย์ท่านก็ติวเข้มให้ ๒ ชั่วโมง"
    "แล้วให้กลับไปปฏิบัติเอาเองที่บ้าน ทั้งๆที่โยมคนนี้ ท่านไม่เคยปฏิบัติมาก่อน"

    "พอโยมท่านนี้ กลับไปปฏิบัติเองที่บ้าน นั่งวันสองวัน
    ก็เห็นครูบาอาจารย์มานั่งจ้องอยู่ตรงหน้า แถมยังพูดคุยกันได้ซะอีกด้วย"

    ปัจจุบัน ครูบาอาจารย์ท่านที่พาลูกศิษย์ฆราวาสไปฝาก ก็เลยไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านอีกคนหนึ่ง

    ท่านก็เลยกลายเป็นพวกไม่พูดไม่คุยอีกท่าน เจอกันทีไร ผมก็เลยเป็นผู้พูดแต่ฝ่ายเดียว

    ท่านบอกว่า


    "จะให้พูดให้คุยอะไร เพราะครูบาอาจารย์ท่านรู้หมด แค่คิดในใจท่านก็ยังรู้เลย"

    เห็นกลุ่มลูกศิษย์สายอื่นๆที่เรียนหลักสูตรคล้ายๆกัน
    เห็นเขาน้ำลายแตกฟ่องอยู่ในเว็บต่างๆ ผมก็เลยอดสงสัยไม่ได้

    เอหรือว่า ครูบาอาจารย์เป็นอย่างไร ลูกศิษย์เป็นอย่างนั้น

    ก็ความเชื่อนั่นล่ะครับ ตัวต้นเหตุ แต่ว่าใครจะเชื่ออย่างไร
    ความจริงก็จะเด่นชัดขึ้นๆ ตามความก้าวหน้าของการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ

    เมื่อพระมหาพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์
    แผ่ผ่านพระใหญ่ชัยภูมิออกมา ก็ในปี ๒๕๕๘ นี่ล่ะครับ องค์พระก็จะขึ้นแล้ว

    เมื่อพระมหาพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์แผ่ออกมา
    เรื่องราวความจริงต่างๆก็จะปรากฏ

    ชาวพุทธ หมู่ใด คณะใด รู้ธรรม เข้าใจธรรม ถูกผิดอย่างไร
    ก็จะรู้แจ้งเห็นจริงในคราวนี้

    คณะสงฆ์หมู่ใดคณะใด ไม่ว่าจะสอนถูก สอนผิด สอนครบถ้วนบริบูรณ์
    หรือจะขาดตกบกพร่อง อย่างไร ก็จะได้รู้กันในคราวนี้

    เพราะพระมหาพุทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์
    ที่จะแผ่ผ่านพระใหญ่ชัยภูมินั้น

    ชาวพุทธทุกหมู่ ทุกเหล่า ทุกๆท่าน ต่างก็จะได้รับประโยชน์เท่าเทียมกัน

    จะแตกจะต่างก็แต่ กุศลผลบุญในการร่วมสร้างเท่านั้นที่ต่างกัน

    บางท่านก็ถึงกับคุยโม้โอ้อวด ลุงมหาถ้ารู้เท่านี้อย่ามาคุยกับผม
    ผมมันระดับโน้น อยู่บนยอดตาลโน่น

    ก็ความเชื่ออีกนั่นล่ะครับ

    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมผู้มีจิต เป็นบุญเป็นกุศล ที่ได้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิทุกๆท่าน

    ขออนุโมทนา

    ขอขอบพระคุณครับ

    ลุงมหา


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2012
  20. ลุงมหา

    ลุงมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,092
    ภาคที่4 มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคีอภิมหากุศล ประจำปี 2555

    ภาคที่4 มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ โดยท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ ผ้าป่าสามัคคีอภิมหากุศล ประจำปี 2555

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ได้จัดให้มีการทอดผ้าป่าสามัคคีอภิมหากุศล ประจำปี พ.ศ. 2555 ขึ้น
    มีวัตถุประสงค์ในการรวบรวมผู้มีจิตศรัทธา เป็นบุญ เป็นกุศล

    ร่วมถวายปัจจัย ในการสร้างพระพุทธปฏิมาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา

    การสร้างพระใหญ่ชัยภูมินั้น อยู่ในระยะของการ ขุดเจาะพื้นหิน เพื่อเทเสาฐานราก ทั้งหมดจำนวน 636 ต้น
    กำหนดแล้วเสร็จส่วนนี้ ภายในปี 2555

    ค่าใช้จ่ายต่อต้น ประมาณ 200,000 บาท

    รวมค่าใช้จ่ายส่วนของการทำเสาฐานราก ประมาณ 127,200,000 บาท


    ทางทีมงานได้ทำการถ่ายทำ วีดีโอ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 9 ตอนใหญ่ โดยมีตอนย่อยๆทั้งหมดรวม 21 ตอนย่อย

    (ต้องกราบขออภัยต่อญาติธรรมทุกๆท่าน ที่ทางทีมงานไม่สามารถถ่ายทำให้ครบถ้วนทั้งหมดได้)

    ซึ่งก็จะทยอยนำลงให้ได้ชม ตามเว็บลิ้งค์ข้างล่างกันนะครับ

    ขอเชิญญาติธรรม ผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศล ร่วมรับชม รับฟัง
    พร้อม กับ อนุโมทนา สาธุการ เพื่อรับกุศลผลบุญโดยทั่วหน้า ทุกท่านเทอญ


    ในภาคที่4 นี้จะมีเพียง 1 ตอนใหญ่ แบ่งเป็น 5 ตอนย่อย ตามรายชื่อตอนข้างล่าง

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 1/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 2/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 3/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 4/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 5/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ

    โปรดติดตามชม ตอนข้างล่าง


    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    ตอนที่ 9/9
    ๘ เมษายน ๒๕๕๕
    เริ่มงานเวลา ๑๐:๐๐น.

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 1/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 1/5
    รำบวงสรวงเทพเทวาชุดที่ 1
    โฆษกบรรยายเรื่อง การสร้าง ลานช้าง-ศาลเทวดา​


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=DjkIVYxl644&feature=plcp]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 1/5 เปิดบุญลานช้าง ศาลเทวดา - YouTube[/ame]

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 2/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 2/5
    โฆษกบรรยายเรื่อง:
    การสร้าง ลานช้าง-ศาลเทวดา
    พญาช้างปาลิไลยกะ และ ท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์
    การอธิฐานขอพลังดวงตาจักรวาล พลังช้างสาร​


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=2kuIzcptNys&feature=channel&list=UL]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 2/5 เปิดบุญลานช้าง ศาลเทวดา - YouTube[/ame]

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 3/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 3/5
    โฆษกบรรยายเรื่อง การอธิฐานขอพลังดวงตาจักรวาล
    ร่มบิน บินแสดงความสูง 259 ม. เท่ากับความสูงระดับพระเกศพระใหญ่ชัยภูมิ
    ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ สนทนาธรรม ความเป็นมา พุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ​


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=7SlLR8M6r4s&feature=channel&list=UL]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 3/5 เปิดบุญลานช้าง ศาลเทวดา - YouTube[/ame]

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 4/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 4/5
    ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ สนทนาธรรม ความเป็นมา พุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ (ต่อ)​


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=9dX8Ox957tc&feature=channel&list=UL]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 4/5 เปิดบุญลานช้าง ศาลเทวดา - YouTube[/ame]

    มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่า 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 5/5 เปิดบุญลานช้าง-ศาลเทวดา ทิศเหนือ
    ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 5/5
    ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ ให้พร และ เปิดบุญบารมี:
    บูชาพระรัตนตรัย
    ขอขมาพระรัตนตรัย ขอขมากรรม
    อัญเชิญทวยเทพเทวา
    เปิดบุญทิศทั้งสี่ เริ่มจากทิศเหนือก่อน
    เปิดบุญจักรวาล๑
    เปิดบุญพระแม่ธรณี
    เปิดบุญจักรวาล๒
    เปิดบุญแรงอธิฐาน-พลังช้างสาร
    เปิดของบวงสรวง-โอสถทิพย์
    เปิดธุรกิจ หน้าที่การงาน
    เปิดกระเป๋าเงิน-กระเป๋าทอง
    แจกของบวงสรวง-โอสถทิพย์
    บรรยากาศหลังเปิดบุญ​


    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=VVN91CGqfQY&feature=channel&list=UL]มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ผ้าป่าสามัคคี 6-7-8 เมษายน 2555 ตอนที่ 9/9 ส่วนที่ 5/5 เปิดบุญลานช้าง ศาลเทวดา - YouTube[/ame]

    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่าน ตลอดถึงผู้มีจิตเป็นบุญเป็นกุศล ผู้ร่วมโมทนา สาธุการทุกๆท่าน
    ขออนุโมทนาบุญร่วมกับเจ้าภาพทุกๆท่าน
    ขออนุโมทนา
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา

     

แชร์หน้านี้

Loading...