นิทาน เรื่อง "พญานาค"

มารของเราอย่างหนึ่ง อาจจะเป็นการไม่ค่อยได้อ่านหนังสือธรรมะมั้ง ที่บ้านจะมีหนังสือที่เราโหลดเน็ตมารวมไว้เป็นเล่มใหญ่ๆ ได้ ๒ เล่ม (คำสอนของหลวงปู่ชา) ก็อ่านเฉพาะตอนเริ่มปฏิบัติในระยะแรกๆ ประวัติของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็เคยอ่านผ่านตามาบ้างพอสมควร ปัจจุบันการปฏิบัติของเราก็ไปเรื่อยๆ เรียนรู้ กาย ใจ (จิตบ้างเล็กน้อย..แผ่วๆ จางๆ ยังไม่ชัด) เราเลยคุยในกระทู้อภิญญา ไม่ได้ เพราะใช้ภาษาธรรมะไม่เป็น แต่ถ้าพูดถึง..รู้สึก เนี่ยะ รวมทั้งโลก(นามธรรม)ธรรม(รูปธรรม)..พอเล่าได้เล็กน้อย ตอนนี้ก็ปฏิบัติแบบธรรมดาๆ มีพลาด มีเผลอ พอได้รสชาติ ..ก็ขอขอบคุณ ในคำแนะนำดีๆ นะคะ..สาวอุทัย*

 

ปูเสื่อ จิบน้ำชา รอนิทานจากคุณมิ๊กค่ะ

 

หวัดดี..คุณนาย ๓ โลก เมื่อคืนเล่านิทานไปเยอะ นึกว่าจะอ่อนเพลีย แต่คาดการณ์ผิดแฮะ ...สุมนาเทวี ตื่นมาพร้อมกับความกระชุ่มกระชวย ....เหอ เหอ

 

ภาษาที่ใช้ ก็ไม่เห็นว่าจะอ่านเข้าใจยากอะไรเลย ซึ่งเป็นเพียงภาษาพื้นๆ

หากเป็นการ คลิ๊กที่ เลข3 นั่นจะยากกว่าอีก ย้อนกลับไปสิ

 

หมายเหตุ คิดถึงพี่รั้งเนอะ..หายไปไหน? เงียบเลย ขาดคนทะเลาะ..เอ๊ย..ขาดคนคุยด้วย เลยรู้สึกเหงาๆ ต้องใช้เวทมนตร์ซะแล้ว...โอม..@@ จงมา...จงมา...(จงมาเล่านิทานซะดีดี)...เหอ..เหอ (วันนี้หัวเราะเหมือนแม่มด..แฮะ)....

 

มารไม่มี...บารมีไม่เกิด เราชอบมาร
ทุกคืนที่เราแผ่เมตตาไม่เคยลืมที่จะแผ่เมตตาให้กับพญามารและเหล่าบริวารด้วย
เพราะมารเป็นเครื่องชี้วัดคุณธรรมในใจของเราได้อย่างชัดเจน
บางทีเราก็เป็นมารเสียเองนะ ในเมื่อจิตเรามี 2 ภาค อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะมันเป็นเช่นนั้นเอง อย่าจริงจังให้มาก ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เทพใช้มารเวลาไหนจึงจะสมควรแก่เหตุ

 

เราเป็นแม่มด..นะจ๊า เหอ..เหอ.. ว่าแต่คุณนายมุ๊ก..แลจะซุกซอกถ้ำนานเกินไปแล้ว..นะจ๊ะ ระวัง..! เหอะ ตัวจะมีสีเหมือนถ้ำ.แยกไม่ออกเลยนะ .อิอิ

 

ด้วยเหตุนี้...เทพ หรือ เทพเจ้า จึงต้องมีหลากหลาย "ปาง" ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะใช้

 

เราคิดว่าทุกคนคงได้ศึกษาพระไตรปิฎกมาบ้างไม่มากก็น้อยนะ
เราเคยพิมพ์พระไตรปิฎกให้กับมหาจุฬาลงกรณ์มาระยะหนึ่ง
ก็เลยได้อ่านผ่านตามาบ้าง

เรามีความเชื่อเรื่องพระพุทธเจ้าในอดีต ไม่ได้มีเพียงพระองค์เดียว
และพระพุทธเจ้าที่กำลังรออุบัติในอนาคตก็มีอีกจำนวนมากนั้น (จากการอธิษฐานโพธิญาณ)
แต่ละพระองค์ก็คงมีพระสาวกตามมาด้วย โดยการคิดเลือกด้วยพระองค์เองทั้งสิ้น
เรียกง่ายๆ ว่าสายใคร สายมันแล้วกันนะ
หลักคำสอนก็คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่
ดังนั้น หากจะวิพากวิจารณ์อะไรในเรื่องนี้
เราเห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง
เพราะฉะนั้นให้จบลงไปกับนิทานแล้วกันนะ
เราไม่อยากมีกรรมพัวพันในการสร้างวจีกรรมของใครหลายๆ คน

 

"มารไม่มี...บารมีไม่เกิด"

นั่นเป็นเพียงแค่คำพูด ให้ดูโก้ๆ หรูๆ เท่านั้นเอง

ซึ่งเราไม่อยากจะใช้คำรุนแรง ซึ่งดูแล้วความศรัทธา พุทธศาสนา ดูจะมั่วไปหมด

เพราะไปจับเอาเทพทางศาสนาฮินดู มาผสมโรงให้เข้ากับวิถีตน

ก็เพราะไม่ศึกษาไม่เข้าใจถึงแก่น ในความเป็นมาของพุทธศาสนานั่นล่ะนะ ช่างน่าขัน

ก็จะไปอ้างเรื่องของการรับรู้นิมิต ซึ่งมันตลกมาก ที่จะพาน้องๆ เด็กใหม่หลงตามไปด้วย

 

วันนี้วันพระนะ

เทพเทวา คือผู้ที่ทำคุณงามความดีไว้กับพระพุทธศาสนา ไม่มีเชื้อชาติหรอก หากเพียงมนุษย์ไปปรุงแต่งกันเอง ให้เป็นแขก เป็นจีน เป็นไทย เป็นฝรั่ง แล้วก็มานั่งถกเถียงกันว่าของใครเจ๋งกว่าใคร ท่านพิจารณาตัวเองหรือยัง ว่านั่นแหละท่านหลงเข้าไปแล้วเต็มเปา

เราไม่เก่งปริยัติหรอกนะ แต่ธรรมที่เราเข้าถึงนี้เราศึกษาเองจากธรรมชาติที่เราเข้าถึงแล้ว ไม่ได้มาจากตำรา เราไม่ยึดติดตำราหรือครูบาอาจารย์ แต่เราก็ไม่ได้ลบหลู่ใคร

เราไม่ปฏิเสธว่า เมื่อครั้งที่ยังศึกษาธรรมอยู่เราต้องพึ่งพาครูบาอาจารย์ และตำราจริง และเมื่อเราแตกฉานยังปัญญาให้เกิดแล้ว เราวางทุกอย่างลง

อารมณ์ ความแปรปรวนใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา เราปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ข่ม ไม่ฝืน ให้แสดงออกมา เพื่อความรู้ที่เราได้รู้แล้วนั้นมันจะได้กระจ่างชัด ไม่จำเป็นที่จะต้องลวงโลกว่าเราบริสุทธิ์ หรือว่าวิเศษนักหนา ใครแตะต้องไม่ได้

 

ถ้าเปรียบปัญญา(ทางโลก) คือ ความเจริญงอกงาม ปัญญา(ทางธรรม) ตามความคิดเห็นของเรานะ ..คือ ความพอดี ความเหมาะสม อะไรประมาณเนี้ยะ ที่เกิดจากการสร้าง การสะสม การบ่มเพาะ แล้วพอดี พอเหมาะ พอสม ซึ่งหนทางในการสร้างการสะสม ก็เป็นทางส่วนตัวของแต่ละคน ..(เราไม่อาจทราบได้).แต่ไม่ว่าจะใช้เวลาแตกต่างกัน ยาวนาน หรือ สั้น แค่ไหน ทุกคนมีที่หมายปลายทางเดียวกัน ..และการให้ธรรมะก็เช่นเดียวกัน มันจะมีช่วงเวลาที่พอเหมาะ พอสม พอดี ไม่ยัดเยียด ซึ่งจะเกิดประโยชน์โดยแท้ เพราะเราไม่ไม่สามารถไปกำกับ จิต ใจ คนอื่นได้ ขนาด จิต ใจ ที่ว่าเป็นของเรา ยังกำกับไม่ได้เลย สำหรับการแสดงความคิดเห็นในเช้าวันพระนี้ ของท่านหม้อหุงข้าว ข้าพเจ้าก็ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงนะคะ...โอกาสต่อไป คงได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอีก ต่อไป ก็ขอเชิญ ปยานาค ทั้งหลายเข้าเมืองได้แล้วจ้ะ...พักแป๊บ ไปละ...

 

ทุกสิ่งอย่างบนโลกนี้ ล้วนเกิดมาเพื่อสร้างสมดุลให้กันและกัน ดังโลกธรรม 8
หากไม่มีสีดำ ท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าสีขาวเป็นอย่างไร
หากไม่มีความชั่ว แล้วท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่ทำนั้นคือความดี
หากไม่มีมาร แล้วท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าธรรมที่ได้นั้น มั่นคงแล้วจริงๆ นำมาซึ่งบารมีธรรม
ฯลฯ

ดังนั้น คำกล่าวที่ว่า "มารไม่มี บารมีไม่เกิด" นั้น จึงมิใช่คำกล่าวเพื่อความโก้หรู แต่มีนัยยะซ่ิอนเร้นดังที่ได้อธิบายไว้ จงยังปัญญาแห่งตนให้เกิด แล้วท่านจะเห็นได้กว้างไกลกว่าในตำรา

 

เพราะศึกษาจากธรรมชาตินี่แหละ หากกล่าวถึงเรื่องการเข้าถึงธรรม พระโสดาบัน

จะไม่มีสรณะอื่นยิ่งกว่าพระรัตนตรัย ไม่เพียงแม้แต่จะปริปากพูด ถึงสรณะอื่นนอกพุทธศาสนา

ในอดีตมีอยู่นะ ที่คนภายนอกศาสนา มักจะใช้ศรัทธาของคน จูงไปในทางที่ผิด

แฝงไปด้วยหลักการของสิ่งที่ตนนับถือ แล้วก็อ้างว่าว่าพระพุทธศาสนา ไม่มีเชื้อชาติ เป็นเสรี เค้าก็ใช้หลักการนี้ล่ะ

หากถามจี้จุด ก็จะอ้างไปอีกว่าเป็น ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน

โดยเอาคำว่า ปัจจัตตัง นั่นแหละ มาเป็นสิ่งอำพราง

 

ขอบคุณครับ งงบ้างก็คงไม่เป็นไร ยังดีกว่าไม่แนะนำอะไรเลย

 

เราไม่เคยสร้างศรัทธา หรือให้ใครมาศรัทธา
ถ้าท่านอ่านเรื่องราวที่เราโพสท์ไว้ทุกเรื่อง
จะเห็นว่ามีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีปนกันไป

เราไม่มีการแอบแฝงใดๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
เพราะเป็นงานของเราโดยตรง
เราไม่เคยอวดอ้างว่าเราคือพระโสดาบัน
นั่นเป็นความคิดของคนอื่น

เรายังเป็นปุถุชนธรรมดาที่เดินตามรอยพระบาทองค์ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระพุทธองค์มิได้ทรงปฏิเสธเทพเทวาเหมือนกัน
มันเป็นไปไม่ได้หากกล่าวถึงคำสอนแล้วไม่มีเทวดามาเกี่ยวข้อง
เราเข้าใจในความปรารถนาของท่านนะ เรานับถือในความศร้ทธาที่ท่านมีต่้อพระพุทธศาสนา

ดังนั้น เราจึงไม่อยากให้ท่านเสียความตั้งใจ แต่การกล่าวพาดพิงไปยังสิ่งที่ตนยังไม่รู้จริงมันจะทำให้ท่านมัวหมองได้ในอนาคต สิ่งที่เรากล่าวมาล้วนเป็นความจริง แต่ปัญญาของมนุษย์ยังเข้าไม่ถึง จริงๆ เราก็ไม่อยากจะกล่าวหรอกนะ เพราะแทนที่จะเป็นผลดีกับคนทั่วไป กลายเป็นผลร้ายให้ได้สร้างวจีกรรมกันต่อไป

หากท่านเห็นว่าไม่สมควร ต่อไปเราจะไม่กล่าวถึงอีกแล้วกัน ดีมั้ย

 

มันเป็นเรื่องที่คนอ่านจะต้องใช้วิจารณญาณอยู่แล้วจะไปกังวลอะไร

 

ก็เห็นโพสไว้ว่า เราก็เข้าใจเป็นพระอริยเจ้าเสียอีก

แต่พอถามจี้จุดนิดหน่อย นี่ยังไม่ถูกจุดเลย กลับตอบมาอีกว่า

พระพุทธองค์ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่มีการกล่าวถึงเทพเทวาทางฮินดู

เอาเหอะ แล้วแต่จะคิด ตามสบาย เราเองก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามใครได้ ใครจะนับถืออะไรอย่างไร นั่นก็เรื่องของใคร

เพราะนี้เป็นแต่เพียงการแสดงความเห็นสนทนา

วันนี้วันพระ คงจะยังปัญญา ในทางสัมมาทิฏฐิให้เกิดขึ้นได้บ้าง ท่านผู้ติดตาม

 

เรากลับมา..การสนทนาแสดงความคิดเห็นทางธรรมะในเช้าวันพระ..ก็จบพอดี ก็ขอขอบคุณ และอนุโมทนาสาธุกับคุณนุ๊ก และคุณหม้อหุงข้าว ด้วยนะคะ ที่ได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ถึงอย่างไรก็ตาม ต้องเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่อ่านอยู่แล้วไม่มากก็น้อย....

 

ต่อไป.. เชิญ นู๋มุ๊ก มาเล่าเรื่องตามปกติ ซะดีดี.. หรือจะให้ใช้กำลัง..(ขอร้อง)...ฮึ !!