ตามหาคู่แท้ ให้หลวงพ่อท่าน ภาค ๒ ครับ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย coolsunny, 1 กรกฎาคม 2011.

  1. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    กำมือ

    ต่อมา มีเด็กลูกคนจีนพ่อค้าในตลาดจังหวัดอุดร มือแปกำไม่ได้มาเป็นเวลา ๓ ปีแล้ว ผู้ปกครองพามาหาอุบาสิกาบุญเรือนข้อให้ช่วยรักษา

    อุบาสิกาบุญเรือน จึงจับมือแปนั้นมาบีบอยู่ครู่หนึ่งแล้ว บอกให้เด็กลองกำมือดู เด็กนั้นก็กำมือได้เหยียดได้เช่นคนดีๆ

    มีหญิงไทยคนหนึ่งชื่อนางทัน อยู่ที่ตลาดจังหวัดอุดร นิ้วมือแข็งกำไม่ได้มา ๘ ปี แล้วมาหาอุบาสิกาบุญเรือนขอให้ช่วยรักษา อุบาสิกาบุญเรือนจับมือบีบอยู่ครู่หนึ่งแล้วสั่งให้ลองกำมือดู ปรากฏว่านางทันก็กำมือได้เหยียดได้เช่นคนดีๆ

    ชาวอุดรธานี เห็นอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของอุบาสิกาบุญเรือนต่างๆ เคารพนับถือมาก มีคนมาหาเป็นจำนวนมาก ทั้งกลางวันกลางคืน

    ได้ผลดี

    เช้าวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๖ เวลาประมาณ ๐๗.๐๐ น. อุบาสิกาบุญเรือนเดินทางจากจังหวัดอุดรธานี ไปจังหวัดนครพนม สกลนครและจังหวัดอื่นๆ อีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน

    อุบาสิกาบุญเรือน ไปโปรดชาวอีสานครั้งนี้ นับว่าเป็นบุญวาสนาของชาวภาคอีสานเป็นอันมาก

    น้ำ ปูน พริกไทย สาคู ที่ท่านอธิษฐานอำนาจจิตประจุให้นั้น ข้าพเจ้า (นายจำรัส สุขประเสริฐ) ได้สอบถามผู้ที่นำไปใช้เป็นจำนวนมาก รับว่าได้ผลดีทุกคน

    ภรรยาของข้าพเจ้าป่วย มีอาการจุกแน่นที่หน้าอก ที่คอหอยรับประทานอาหารเข้าไปก็อึดอัด จุกแน่น ได้ให้หมอไทย หมอจีน หมอญวน หมอญี่ปุ่น หมอฝรั่ง รักษามาไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี สิ้นเงินไปหลายหมื่นบาทก็ไม่หาย ได้ให้นายแพทย์เอ๊กซเรย์ ๒ ครั้ง ก็ไม่พบว่าเป็นโรคอะไร คนป่วยกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทนทุกขเวทนามาก

    ครั้นต่อมาได้ทราบว่า อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม เคยรักษาคนอื่นหายข้าพเจ้าจึงสั่งให้นายจำเริญ สุขประเสริฐบุตรชาย ซึ่งขณะนั้นเรียนหนังสืออยู่ที่กรุงเทพ ฯ ให้ไปหาอุบาสิกาบุญเรือน ขอให้ช่วยรักษาภรรยาของข้าพเจ้า อุบาสิกาบุญเรือนได้อธิษฐานปูน กับส่งใบอธิษฐานน้ำไปให้ที่จังหวัดอุดรธานี

    ข้าพเจ้าได้อธิษฐานน้ำ ให้ภรรยารับประทานเป็นประจำกับทาปูนที่หน้าอก และที่ท้องทุกๆ คืน อาการป่วยก็ดีขึ้น จนหายเป็นปกติแข็งแรงดี

    อนึ่งข้าพเจ้า (นายจำรัส สุขประเสริฐ) เป็นโรคความดันโลหิตสูง แพทย์ได้ใช้เครื่องวัดความดันโลหิตบอกว่า มีความดันสูงถึง ๑๘๕ องศา ปวดมึนศีรษะ ความคิดเสื่อม ท้องผูก เป็นมา ๗-๘ ปีแล้ว รักษาสิ้นเงินมาก อาการมีทรงกับทรุด

    ข้าพเจ้าจึงมาหาอุบาสิกาบุญเรือน ที่กรุงเทพ ฯ ท่านสั่งให้ทาปูนที่ต้นคอ หลัง หน้าอก ท้อง ก่อนเข้านอนทุกคืน กับให้รับประทานไพลกับเกลือ ตำคั้นรับประทานทุกคืน กับให้ตั้งน้ำอธิษฐานรับประทานเป็นประจำทุกวัน

    ข้าพเจ้า ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของท่านจนหายเป็นปกติ ไม่มีอาการปวดมึนศีรษะ ท้องก็ไม่ผูก

    เพิ่งมาเห็นนี่แหละ

    นางตี่ สุวรรณภาชน์ ได้บันทึกไว้ว่า

    ดิฉัน มีอาการปวดหลังมานานแล้ว ปวดเหมือนกับมีหนอง มีเลือดอยู่ในกระดูกสันหลัง ดิฉันได้ให้คุณแม่บุญเรือนรักษา ท่านได้อธิษฐานจิตขอให้ปูนเป็นยา ดิฉันได้ใช้ปูนนี้ทาหลังไม่ถึงเดือน อาการปวดหลังก็หายไป

    นัยน์ตาของดิฉันก็บวมและคัน บางครั้งก็มืดแลไม่เห็น หมอเขาบอกว่าถูกบุ้งไฟฟ้า ดิฉันได้ให้หมอรักษามานานนักหนาประมาณ ๓-๔ หมอ ก็ไม่หาย เพียงแต่ประทังพอค่อยยังชั่วเท่านั้น

    คุณแม่บุญเรือน จึงได้เอาไพลมาอธิษฐานเป็นยารักษา ดิฉันได้ใช้ไพลอธิษฐานของคุณแม่บุญเรือน หยอดนัยน์ตาเพียงไม่กี่ครั้ง ก็หายเป็นปกติน่าอัศจรรย์

    และดิฉันยังเป็นโรคหัวใจสั่น ในเวลากลางคืนนอนไม่หลับ บางทีก็เหมือนหายใจไม่ออก ได้รับน้ำอธิษฐานและไพลของคุณแม่บุญเรือนอาการของโรคก็หายไป

    อีกประการหนึ่ง ดิฉันได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของคุณแม่บุญเรือน ด้วยประการต่างๆ เป็นต้นว่า คนยกแขนไม่ขึ้นมาหาท่าน ท่านบอกให้ยกแขนขึ้นก็ยกขึ้นได้

    อีกคนหนึ่งปากเบี้ยว นัยน์ตาค้างหลับไม่ลงน้ำตาคลออยู่เรื่อยแต่ไม่ไหล คุณแม่บุญเรือนสั่งให้ “หลับลงๆ” เขาก็หลับตาลงได้เดี๋ยวนั้น ปากก็หายเบี้ยวด้วย

    ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นมาไหว้พระ คุณแม่บุญเรือนก็บอกกับเขาว่า อ้วนๆ อย่างนั้นยังมีโรคคือลำไส้ไม่ดี ที่ปากทวารก็เป็นเม็ด เขาดีใจว่า ทายโรคเขาถูกและรับว่าเป็นริดสีดวงเม็ดมะไฟหลายเม็ด

    ตั้งแต่ดิฉันเกิดมา ก็เพิ่งมาเห็นคุณแม่บุญเรือนนี่แหละว่า ท่านเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ มีสัจวาจาพูดอะไรเป็นนั่น บางทีท่านพูดเสียงดัง โรคก็หายไปเดี๋ยวนั้นก็มี บางคนที่ไม่ทราบก็ว่าท่านดุ และดิฉันเห็นท่านไม่เคยรับเงินทองของใครเลย มีคนจะให้เงินท่านๆ ก็ไม่รับ ท่านไม่เอาของใคร ท่านมีแต่ให้คนอื่น ให้ด้วยความเมตตากรุณาสงเคราะห์ให้เขาอยู่ดีมีสุขพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ และความทุกข์ทางใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2012
  2. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ด้วยเคารพ

    ตอนบ่ายคุณแม่บุญเรือน ไปไหว้พระธาตุ แล้วเลยไปวัดท่ามอญอีก เพื่อรักษาโรคให้ประชาชน

    วันรุ่งขึ้น เดินทางกลับปรากฏว่า มีคนนำปูนมาคอยที่สถานีรถไฟอีกมากมาย เพื่อจะให้คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานให้ และท่านก็อธิษฐานให้ พักที่สถานีทุ่งสงหนึ่งคืน พอรุ่งเช้าก็จับรถด่วนมาถ่ายรถที่สุราษฎร์ฯ พอข้ามฟากก็พบกับเจ้าของโรงแหลมทองคอยอยู่แล้ว แกเชิญคุณแม่บุญเรือนไปที่หน้าห้องแถว เพื่ออธิษฐานปูนอีก มีคนนำปูนกันมาเป็นถังๆ จำนวนมาก แกเล่าให้ฟังว่า

    พี่ชายที่เป็นบ้า หลังจากทาปูนอธิษฐานแล้วก็หายเป็นบ้าในวันรุ่งขึ้น ไม่ต้องล่ามโซ่ ไปตลาดได้ ไปตัดผมเองคนเดียวได้ เพราะเหตุนี้ คนจึงมาคอยคุณแม่บุญเรือนกันแยะ คุณแม่ก็อธิษฐานปูนให้สมปรารถนา

    พอจะเดินมาขึ้นรถไฟก็มีคนนำปูนและน้ำมาคอยอยู่อีกเป็นจำนวนมาก คุณแม่บุญเรือนก็อธิษฐานให้อีก พอขึ้นรถไฟแล้วก็ยังมีคนนำปูนมาตั้งที่ข้างรถไฟอีกหลายคน เมื่ออธิษฐานให้เสร็จ รถไฟก็เคลื่อนขบวนออกจากสถานี

    รถแวะที่สถานีชุมพร มีคนมารับจำนวนมาก มีข่าวว่า มีคนหายโรคไปแล้วหลายคน ชายคนหนึ่งแกบอกกับคุณแม่บุญเรือนว่า “ผมไม่เคยไหว้ใครเลย เปิดหมวกก็พอแล้ว แต่ผมไหว้คุณแม่บุญเรือนด้วยความเคารพ เพราะได้ผลมาก”


    รู้วาระจิต

    นายดิส กิจไพบูลย์ เจ้าของห้างขายยากิจไพบูลย์โอสถ ถนนจักรวรรดิ พระนคร ได้บันทึกไว้ว่า

    ข้าพเจ้าได้ทราบว่า อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม สามารถอธิษฐานได้ จึงได้ไปเยี่ยมท่านที่บ้าน “สามัคคีวิสุทธิ” ในการไปเยี่ยมครั้งที่สอง

    ข้าพเจ้า ได้ปรารภถึงเรื่องการสร้างสระน้ำรับประทาน ซึ่งข้าพเจ้าได้ร่วมมือกับประชาชนจัดสร้างขึ้นที่วัดคูบัว ตำบลพิหารแดง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี และปรารถนาให้น้ำในสระนี้ศักดิ์สิทธิ์ หากผู้ใดได้ดื่มน้ำในสระนี้แล้ว จะมีใจเป็นกุศลเป็นธรรม รู้จักคุณของผู้มีคุณ ปราศจากโรค ร่ำรวยเป็นเศรษฐี

    คุณแม่บุญเรือน จึงบอกให้ข้าพเจ้าหาหินมาก้อนหนึ่ง ข้าพเจ้าจึงมาเป็นครั้งที่ ๓ ในวันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าก็นำหินมาให้ท่าน คุณแม่บุญเรือนได้บอกว่า “ต้องอธิษฐานถึง ๗ เสาร์ถึงจะใช้ได้”

    เมื่อได้มอบศิลากรวดให้แล้ว ข้าพเจ้าก็ลาท่านกลับบ้าน พร้อมกับเรียนท่านว่าคราวนี้หลายวันกว่าผมจะกลับมาอีก” แต่ครั้นถึงตอนเย็นในวันรุ่งขึ้นเวลาบ่าย ๔ โมงเศษ ให้เกิดความร้อนใจอยากไปหาคุณแม่บุญเรือนอีก

    ข้าพเจ้าได้ไปถึงบ้านสามัคคีวิสุทธิเวลา ๕ โมงเย็น ตามเวลาที่นัดพระนิมนต์ไว้ แต่พระยังไม่มาเพราะ พล.ต.ท. หลวงวิฑิตกลชัย ไปรับพระที่วัดอนงคารามช้าไปเล็กน้อย

    คุณแม่บุญเรือนบอกว่า “ไหนละคุณดิส ว่าอีกหลายวันจึงจะมาหาอย่างไรล่ะ”

    ตอนนี้ข้าพเจ้ารู้สึกสะดุ้งใจขึ้นมาทันทีทีเดียว เพราะข้าพเจ้าไม่ควรจะต้องมาคอยให้ครบ ๗ เสาร์เสียก่อน และไม่ทราบเลยว่า คุณแม่บุญเรือนได้นิมนต์พระมาเจริญพุทธมนต์ในวันเสาร์นั้นเป็นวันเสาร์แรก และจะทำต่อไปทุกวันเสาร์จนครบ ๗ เสาร์ ไม่ทราบว่าอะไรไปดลใจให้ข้าพเจ้ามาในเสาร์แรกเช่นนั้น

    คุณแม่บุญเรือนได้บอกอีกว่า “ฉันนิมนต์พระสงฆ์มานี้จะไม่ถวายแม้แต่ค่ารถ”

    ขณะที่พระสงฆ์กำลังเจริญพระพุทธมนต์จวนจบ ข้าพเจ้าก็ลุกจากที่นั่งเดินไปหาคุณแม่บุญเรือน ซึ่งนั่งอยู่นอกห้องที่พระสวดมนต์อยู่ คล้ายกับว่าท่านนั่งรอคอยรับเรื่องของข้าพเจ้าอยู่แล้ว

    “คุณแม่ไม่ถวายปัจจัยแด่พระที่มาเจริญพุทธมนต์ คนอื่นถวายได้ไหมครับ” ข้าพเจ้าเรียนถามท่านแต่พอเบาๆ

    “ฉันไม่รู้ด้วย” คุณแม่บุญเรือนตอบ

    “ถ้ามีใครถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ที่มาเจริญพุทธมนต์คราวนี้ จะเป็นการขัดแก่การกระทำพิธีนี้หรือไม่ครับ” ข้าพเจ้าถามอีก

    “ฉันไม่ห้าม” คุณแม่ตอบ

    ข้าพเจ้ายกมือเคารพท่าน แล้วจึงกลับไปนั่งที่เดิม และยกมือประณมตั้งสัตยาธิษฐานในใจต่อหน้าพระสงฆ์ ๗ รูป ที่กำลังเจริญพระพุทธมนต์อยู่ว่า “ขอถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ทั้ง ๗ รูปๆ ละ ๑๐ บาทแล้ว ถ้าศิลากรวดที่ทำอยู่นี้จะศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่แท้แล้ว ขอให้มีผู้ถวายตามข้าพเจ้า จะถวายอะไรก็ได้ ถ้าข้าพเจ้าถวายจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ แล้วไม่มีผู้ถวายตาม นับว่าศิลาที่ทำพิธีอยู่นี้ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์”

    จบคำอธิษฐานในใจของข้าพเจ้าแล้วประมาณ ๒ นาที พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์จบ

    ข้าพเจ้ากับคนทั้งหลายที่นั่น ช่วยกันเอาน้ำร้อนน้ำชาถวายพระเสร็จแล้ว ข้าพเจ้าก็ประกาศขึ้นดังๆ พอได้ยินกันทั่วบ้านว่า “ข้าแต่พระคุณเจ้าทั้งหลายที่มาเจริญพระพุทธมนต์ทั้ง ๗ รูป วันนี้ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ท่านไม่ถวายจตุปัจจัยแด่พระคุณเจ้า ข้าพเจ้านายดิส กิจไพบูลย์ ขอถวายจตุปัจจัยแด่พระคุณเจ้าเป็นมูลค่าองค์ละ ๑๐ บาท ได้มอบไว้ให้แก่คุณหลวงวิฑิตกลชัยแล้ว ถ้าพระคุณเจ้าประสงค์สิ่งหนึ่งสิ่งใด โปรดเรียกร้องเอาที่ท่านคุณหลวงวิฑิตกลชัย ซึ่งเป็นกัปปิยการกของพระคุณเจ้านั้นเทอญฯ”

    แล้วข้าพเจ้าก็คอยฟังว่า จะมีใครถวายตามบ้าง

    ตอนนี้เงียบกริบเลย

    ข้าพเจ้ารู้สึกใจสั่นระริกทึกทัก ทำท่าจะคิดอะไรใหญ่โตไปแล้ว พอได้สติขึ้นมาก็ปลอบใจตนเองว่า อย่าเพิ่งนึกและคิดอะไรทั้งหมด จงทำใจให้สงบรอดูไปก่อน ครั้นประมาณราว ๓ นาที จึงได้ยินเสียงคุณแม่บุญเรือนเรียกขึ้นว่า “คุณยุทธ เก็บดอกไม้ที่บูชาพระให้ฉัน”

    เมื่อคุณแม่บุญเรือนได้ดอกไม้แล้ว ส่งไปทางพวกผู้หญิงให้มัดเป็นกำๆ รวม ๘ กำ แล้วส่งให้ถวายพระ ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างมากจนตื้นตันใจ จึงถามออกไปว่า “ดอกไม้นี้ของใคร ใครเป็นผู้ถวาย”

    คุณแม่บอกว่า “ของหลวงพ่อพุทโธ” (ท่านหมายถึง พระพุทธรูปองค์เล็กบนที่บูชาองค์หนึ่งซึ่งได้ตั้งชื่อว่า “พุทโธ”)

    เมื่อถวายดอกไม้แก่พระสงฆ์แล้ว คุณแม่บุญเรือนพูดกับข้าพเจ้าว่า “ถ้าฉันไม่รู้วาระจิตของคุณดิสแล้ว ศิลาอธิษฐานนี้ต้องเสียหมด คุณดิสคิดอย่างนี้จริงไหมล่ะ”

    ข้าพเจ้าอธิษฐานแต่ในใจ คาดว่ารู้แต่เพียงคนเดียว และพระสงฆ์ก็กำลังเจริญพระพุทธมนต์อยู่ คุณแม่บุญเรือนนั่งอยู่ห่างๆ ยังได้ยินเช่นนี้ จึงเป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าทราบว่า คุณแม่บุญเรือนรู้วาระน้ำจิตของคน
     
  3. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    เจ็บท้องน้อย

    นางถนอม เฉลิมวงศ์วัจณ์ ได้บันทึกเป็นหลักฐานไว้ดังนี้

    ครั้งแรกดิฉันได้ทราบจากคุณไสว ศรีงาม เล่าให้ฟังว่า “ให้ไปหาคุณป้าบุญเรือน โตงบุญเติม บ้านท่านอยู่หลังโรงพิมพ์วิบูลกิจ ถนนวิสุทธิกษัตริย์นี้เอง ท่านสอนธรรมก็ฟังเข้าใจง่ายๆ รักษาโรคก็หายทุกอย่าง การรักษาของท่านก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากปูนกับไพลเท่านั้น ท่านพูดจริง ทำจริง พูดอะไรต้องเป็นนั่น”

    เมื่อดิฉันทราบจากคุณไสว ศรีงามแล้ว ก็นึกแปลกใจว่า ทำไมดิฉันอยู่ใกล้ที่วัดเอี่ยมวรนุช บางขุนพรหมนี้เอง ทำไมถึงไม่ทราบเรื่องคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม คุณไสวอยู่ถึงลำปางจึงรู้ละเอียด ดิฉันจึงมาที่บ้านสามัคคีวิสุทธิ ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ก็พบกับคุณป้าบุญเรือน ได้ขอปูนกับน้ำอธิษฐานไป ๑ ขวด

    เดิมดิฉันไม่ค่อยสบายเจ็บในท้องน้อย และปวดศีรษะแทบทุกกวัน ใจคอไม่สบาย ขี้โกรธเป็นที่สุด ได้ไปให้หมอตรวจที่โรงพยาบาลวัดพญาไทและโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลทหารเรือ แห่งนี้ว่า เป็นโรคมดลูก หมอก็แนะนำให้ฉีดยา ดิฉันฉีดยาหมดเงินไปสองพันกว่าบาท ก็ทุเลาไปได้เดือนกว่า แล้วก็เป็นอีกดังเดิม ดิฉันก็ฉีดยาอีก พอระงับไปได้เดือนกว่าๆ ก็เป็นอีกดังเดิม

    ดิฉันเลยเลิกฉีดยา จึงนำเอาปูนของคุณป้าบุญเรือนไปทาที่ท้องน้อยทุกวัน และดื่มน้ำอธิษฐานทุกวันประมาณ ๒ สัปดาห์ก็รู้สึกดีขึ้น อาการปวดศีรษะก็หายไป ท้องน้อยก็หายเจ็บและดีขึ้นเป็นลำดับ ประมาณ ๑ เดือน ก็หายดีเป็นปกติ ใจดีขึ้น

    ดิฉันพยายามมาที่บ้านสามัคคีวิสุทธินี้เองเสมอ ตลอดจนวันเสาร์ก็มาขออนุญาตค้างคืนที่บ้านสามัคคีวิสุทธิ เพื่อจะพิสูจน์ความจริงว่า จะหายโรคได้อย่างไร เพราะดิฉันเป็นคนเชื่อยาก คุณป้าบุญเรือนปฏิบัติอย่างไรจะถูกต้องตามวินัยหรือไม่ เพราะดิฉันก็เคยนุ่งขาวมาถึง ๖ ปี ถ้าปฏิบัติถูก ดิฉันจะได้ปฏิบัติตาม


    ช่ออยู่ในดิน

    อยู่ต่อมาวันหนึ่ง คุณพี่แกมแก้วได้เล่าให้ดิฉันฟังว่า

    คุณป้าบุญเรือนจับกิ่งมะม่วงซึ่งเป็นต้นเล็กๆ ให้ดูที่ยอด และถามว่า “มะม่วงนี้จะออกช่อได้ไหม”

    คุณพี่แกมแก้วบอกว่า “มันจะออกได้หรือ”

    คุณป้าบุญเรือนจึงว่า “จะออกไม่ได้เชียวหรือ”

    อายุมะม่วงได้เท่าไร ปลูกด้วยเมล็ดหรือตอน” คุณพี่แกมแก้วถาม

    คุณป้าบุญเรือนตอบว่า “เป็นมะม่วงเพาะด้วยเมล็ดได้มาจากบ้านคุณหญิงส้มจีน เขื่อนเพชรเสนา แม่สังวาลย์ได้นำมาให้ อายุมะม่วงได้ ๑ ปีกับ ๑ เดือน”

    ครั้นพอรุ่งขึ้นอีกหนึ่งวัน ตอนเย็นคุณทัศนีย์ได้มาบอกกับดิฉันว่า “มะม่วงที่บ้านคุณป้าบุญเรือนออกช่อแล้ว”

    ดิฉันกับคุณพี่แกมแก้วจึงได้มาดูว่ามันจะออกได้อย่างไร เพราะมันต้นนิดเดียว พอมาถึงก็เห็นยอดเดียวออกได้ถึง ๙ ช่อ ดิฉันจึงหยิบดูมีลักษณะบานสีขาว ได้ดมดูรู้สึกหอมคล้ายดอกพิกุล แต่ส่วนอีกกิ่งหนึ่งช่อได้ออกตามกิ่ง ๓ ช่อ ทางกิ่งทิศเหนือ เป็นมหัศจรรย์ยิ่งนัก ตามปกติมะม่วงต้องมีช่อที่ยอดทั้งนั้น นี่ออกตามกิ่งคล้ายมะไฟ ออกได้ถึง ๓ ช่อ ยาวประมาณ ๗ ซม.

    พออีก ๕ วันต่อมา ช่อมะม่วงนั้นก็เลยหายไปโดยไม่มีรอยเด็ดเลย ดิฉันจึงได้ถามคุณป้าบุญเรือนว่า ช่อมะม่วงได้หายไปไหนเสีย

    คุณป้าบุญเรือนตอบว่า ต้นมะม่วงก็อยู่ในเม็ดมะม่วง ช่อมะม่วงก็อยู่ในต้นมะม่วง ผลมะม่วงก็อยู่ในต้นมะม่วงนั่นเอง ดูตั้งแต่ครั้งพุทธกาลก่อนโน้น พระพุทธเจ้าของเรา พระองค์ทรงทำยมกปาฏิหาริย์ มะม่วงยังออกผลได้เดี่ยวนั้น” พูดเท่านั้นคุณป้าบุญเรือนก็นิ่งไป

    ดิฉันยิ่งมีความเลื่อมใสยิ่งขึ้น แต่ยังไม่เชื่อนักเพราะอิทธิฤทธิ์แค่ญาณโลกีย์ก็ทำได้ เพราะฉะนั้น ดิฉันจึงมาบ่อยครั้งแทบทุกวัน

    พอค่ำวันหนึ่ง คุณป้าบุญเรือนได้เรียกดิฉันไปนั่งหน้าบ้านที่บันไดชั้นที่สอง ชี้มือขึ้นไปบนฟ้าให้ดิฉันดู เพราะข้างขึ้นเดือนหงายมีดาวสว่าง มองดูแล้วรู้สึกเหมือนกับเมฆสีขาวลอยอยู่เหนือพระจันทร์ คุณป้าบุญเรือนจึงบอกว่า จะเรียกให้ฝนตกลงมาเอาไหม

    ดิฉันจึงตอบว่าให้ตกลงมาเดี่ยวนี้ซี

    คุณป้าบุญเรือนบอกว่ามันไกล แล้วคุณป้าบุญเรือนก็ลุกจากบันได เดินไปทางถนนหน้าบ้านประมาณ ๓ นาที แล้วเดินกลับมาบอกดิฉันว่า ได้แล้ว เก็บรองเท้าขึ้นเรือนเสีย

    ต่อมาประมาณ ๒ นาที ฝนก็ได้ตกลงมาอย่างเทลงมา ดิฉันชักเลื่อมใสและปีติ นึกว่าคุณป้าบุญเรือนมีสัจอธิษฐานบารมีแน่แล้ว เพราะเห็นกับตาตัวเอง
     
  4. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ย่นหนทาง


    นางสาววรรณี สุนทรเวช ได้บันทึกไว้ว่า

    เมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๐ ข้าพเจ้าได้รับปริญญา เอม. เอส. อิน เอด สาขาประถมศึกษา จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ณ เมืองเมดิสัน แล้วก็ลงไปดูงานการสอนอ่านแบบ ดวล แอพพรอช อยู่ที่เมืองเออบานาและแชมเปญ มลรัฐอิลลินอยส์

    ขณะที่ดูงานอยู่นั้น บังเอิญเป็นหวัดอย่างแรง แล้วกลายเป็นต่อมอักเสบ อาการเป็นมากขนาดลิ้นบวม ขากรรไกรแข็ง รับประทานอาหารไม่ได้เลย

    ข้าพเจ้าได้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลชื่อโคล ฮอสปิตัล ขณะที่ตรวจอาการหมอถามว่า ถ้าตายจะให้แจ้งข่าวแก่ใคร ข้าพเจ้าพูดไม่ได้จึงเขียนบอกไปว่า ถ้าข้าพเจ้าตายให้แจ้งที่สำนักผู้ดูแลนักเรียน สถานเอกอัครสถานทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน

    ตกกลางคืนอาการมาก ข้าพเจ้าคิดว่าคงจะตายคราวนี้เอง ก็ระลึกถึงคุณยายบุญเรือน โตงบุญเติม ให้ช่วย

    ข้าพเจ้าขณะนั้น เหมือนกับเคลิ้มฝันครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้เห็นดวงเขียวๆ แดงๆ ลอยมาในห้องที่พัก แล้วเห็นคุณยายบุญเรือนเข้ามาหา แต่มิได้พูดว่ากระไร ข้าพเจ้าก็รู้สึกสิ้นสติไป

    ข้าพเจ้าป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล ๓ คืน พอเช้าวันที่ ๔ ก็หายเป็นปกติ สามารถเดินทางด้วยรถไฟจากเมืองแชมเปญ-เออบานา ขึ้นมายังชิคาโก ต่อรถไฟไปลงวอร์เตอร์ทาว แล้วต่อรถเมล์ไปเมืองเมดิสันได้ โดยสามารถลากกระเป๋าเดินทาง ๒ ใบไปได้ด้วย ข้าพเจ้าเชื่อว่าคุณยายบุญเรือนได้ไปหา และช่วยรักษาข้าพเจ้าจึงได้รอดชีวิตมาได้

    อนึ่ง ข้าพเจ้าจวนจะกลับบ้าน แล้วจึงมิได้บอกข่าวมากรุงเทพฯ เลย ด้วยเกรงทางบ้านจะเป็นห่วง

    ครั้นเมื่อข้าพเจ้ากลับมาถึงกรุงเทพฯ คุณแม่บอกก็เล่าว่า คุณยายบุญเรือนบอกกับผู้ที่มาสวดมนต์วันอาทิตย์ที่บ้านพระโขนงว่า ขอให้สวดมนต์ให้ข้าพเจ้าเพราะเจ็บป่วย คุณแม่ก็นึกว่า คงไม่เป็นอะไรมาก ระยะเวลาที่คุณแม่เล่านี้ ตรงกับที่ข้าพเจ้าป่วยหนัก คุณหมอปรีดาก็ได้เล่าเรื่องที่คุณยายบุณเรือนขอให้ศิษย์สามัคคีวิสุทธิสวดมนต์ให้ข้าพเจ้าฟังด้วย

    ข้อความก็ตรงกับที่คุณแม่เล่า

    ยาวิเศษ

    พลตรียุทธ สมบูรณ์ บันทึกไว้ว่า

    บางท่าน ที่มาทำความรู้จักกับคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม มักจะเรียกท่านว่า คุณแม่หมอ คุณหมอ คุณยายหมอ หรือคำอื่นๆ ลงท้ายว่า “หมอ” คุณแม่บุญเรือน ไม่เคยรับหรืออวดอ้างว่าท่านเป็นหมอแม้แต่ครั้งเดียว

    อย่างไรก็ดี ชื่อเสียงของคุณแม่บุญเรือนหอมไปทั่วประเทศไทย ในฐานะผู้วิเศษ ก็เพราะท่านอธิษฐานวัตถุสิ่งของต่างๆ ให้เป็นยารักษาโรคได้อย่างน่าอัศจรรย์ที่สุด

    คุณหมอปรีดา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระประแดง ทำยาผงแก้โรคผิวหนังออกจำหน่าย ด้วยตัวยาที่คุณแม่บุญเรือนเป็นผู้บอกให้ ตัวยาเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นชื่อภาษาอังกฤษ ไม่ทราบว่าคุณแม่บุญเรือนไปทราบมาได้อย่างไร เพราะการศึกษาของคุณแม่บุญเรือนก็เพียงได้รับเพียงอ่านออกเขียนได้

    นอกจากนั้น คุณหมอปรีดาได้ตำรายาอีกอย่างหนึ่ง คือ น้ำมันโพธิงาม ซึ่งคุณหมอปรีดาได้ผสมขาย ผมสีขาวใส่น้ำมัน โพธิงามแล้ว ผมจะกลายเป็นสีเทา และเข้มขึ้นทุกที และยังใช้ทาเพื่อเหตุผลอื่นๆ อีกด้วย

    ยาขนานที่ ๓ คือ ยาสีฟันวิเศษนิยม ของโรงงานวิเศษนิยม ซึ่งเป็นยาสีฟันที่สามารถทำรายได้ อย่างดีตลอดมา ยาสีฟันวิเศษนิยมใช้ทาหน้าแก้สิวฝ้า หน้าตกกระได้ด้วย และยังทำให้เกิดเมตตามหานิยมตามที่จะอธิษฐานเอาเอง และยังใช้ใส่ฟันที่ปวดทำให้หายปวดฟันได้

    ยาสีฟันวิเศษนิยมนี้ คุณแม่บุญเรือนก็เป็นผู้บอกตัวยาให้

    ยาทิพย์

    ยาทิพย์ของคุณแม่บุญเรือนคือ สิ่งของที่ผู้คนนำไปให้คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานให้ศักดิ์สิทธิ์ สิ่งของที่เราท่านนำไปให้ท่านนั้น เราจะปรารถนาให้ศักดิ์สิทธิ์ไปในทางใดก็ได้ น้ำเป็นสิ่งที่คุณแม่บุญเรือนให้ลูกๆ หลานๆ ทุกคนตั้งอธิษฐานกันเอาเองในวันเสาร์

    แต่จำได้ว่า ปูนกับพริกไทยจะต้องนำไปให้คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานโดยเฉพาะ เราทำเองไม่ได้

    การตั้งอธิษฐานแต่ละครั้ง เราจะผสมผลไม้และสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นๆ ก็ได้ สิ่งของเหล่านั้น กลายเป็นยาทิพย์หรือของทิพย์ขึ้นมา

    ปูน เป็นยาทิพย์ขนานที่ ๒ เมื่อทาปูนแล้วจะต้องการให้หายโรค ป้องกันโรค ให้ทาที่ตัวของเราเอง จะตั้งความปรารถนาให้คนอื่นด้วยก็ได้ ใช้ได้ทุกอย่างตามปรารถนา น้ำปูนใช้ทาหน้าทำให้ผิวสวย ผสมกับไพลอธิษฐานแก้โรคท้องร่วง ท้องเสีย

    พริกไทย เป็นยาทิพย์อีกขนานที่คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานให้ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากแก้โรคธรรมดาแล้ว ยังแก้โรคปัญญาทึบ ทำให้เฉลียวฉลาดได้ เป็นไวตามินบำรุงประสาทได้อย่างดี ไปต่างประเทศอากาศหนาว ใช้รับประทานเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

    สาคู เป็นยาทิพย์อีกขนาน มีชื่อเสียงโด่งดังที่คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานให้เป็นยาศักดิ์สิทธิ์ ได้เคยชุบชีวิตให้กับท่านพลตำรวจโท หลวงวิฑิตกลชัย

    คุณแม่บุญเรือนเคยพูดว่า พลตำรวจโท หลวงวิฑิตกลชัย มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อชาติบ้านเมือง ต้องช่วยชีวิตเอาไว้ทำคุณประโยชน์ต่อไป

    สาคูอธิษฐานของคุณแม่บุญเรือนเป็นยาทิพย์ที่มีสรรพคุณในการเพิ่มโลหิตแดง เพิ่มกำลังกายให้แข็งแรง

    ไพล เป็นยาทิพย์ของคุณแม่บุญเรือนอีกเหมือนกัน ผู้ป่วยด้วยวัณโรค โรคไต และโรคอื่นๆ ตำไพลแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ผสมกับน้ำอธิษฐานรับประทาน ได้ผลชะงัดนัก ถ้าจำให้เป็นยาระบายอ่อนๆ ต้องเติมเกลือเม็ดหรือสองเม็ด

    ผลไม้ที่ใช้รับประทาน คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานให้เป็นยาทิพย์ได้ คุณแม่บุญเรือนมักจะมีผลไม้ยาทิพย์แจกพวกลูกๆ หลานๆ ที่ไปสวดมนต์วันอาทิตย์เป็นประจำ ยาทิพย์ของคุณแม่บุญเรือนยังมีอีกมาก ไม่รู้จบสุดแท้แต่ท่านจะอธิษฐานให้ศักดิ์สิทธิ์

    น้ำอธิษฐานนั้น คุณแม่บุญเรือนบอกว่า กินเข้าไปเถิด ให้เนื้อเป็นทิพย์เมื่อใดก็จะหมดโรค หมดภัย แม้แต่รังสีปรมาณูก็จะทำอันตรายไม่ได้ ข้าพเจ้าเองตั้งน้ำอธิษฐานในวันเสาร์ ก็เลยตั้งเครื่องใช้ทุกอย่างด้วยให้เป็นของทิพย์ คุณแม่บุญเรือนก็เป็นยาทิพย์ได้เหมือนกัน จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า ฯพณฯ จิ๊ดเมื่อคราวเป็นเอกอัครคราชทูต อยู่มอสโคว์ เคยป่วย คุณผู้หญิงของ ฯพณฯ จิ๊ด หมดปัญญาจะช่วย ระลึกถึงคุณแม่บุญเรือนขึ้นมาได้ เรียกให้คุณแม่บุญเรือนช่วย ฯพณฯ จิ๊ดก็หายโรค
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กรกฎาคม 2012
  5. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ยอดนักบุญ


    อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม เป็นสตรียอดนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่ง ของเมืองไทย ท่านมีคุณงามความดี คุณวิเศษต่างๆ และเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยมารยาท คุณธรรมอันสูงส่ง มีอุปนิสัยเปี่ยมด้วยความเมตตา กรุณาปรานีแก่บุคคลที่รู้จักพบเห็นทุกคน

    แต่ทว่า ท่านเป็นคนค่อนข้างดุอยู่บ้าง พูดเสียงดังกังวาน เด็ดขาดและจริงจัง หรือนัยหนึ่งก็คือ พูดจริงทำจริงตลอดเวลา เคารพศรัทธาเลื่อมใสในคำสั่ง ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างจริงจัง เคร่งครัดตลอดเวลา

    ท่านฝึกจิตใจและความรู้สึก ให้เป็นผู้เต็มไปด้วยการเสียสละ ไม่นิยมการสั่งสม โปรดการให้เป็นสำคัญ ตัดความรู้สึกด้านโกรธ รัก โลภ และหลง โดยสิ้นเชิง รักการสวดมนต์ ฟังธรรม ถือศีลและภาวนา ฝึกและชำระจิตใจให้สะอาดปราศจากมลทิน

    งามบุญตามคติแห่งพุทธศาสนา ซึ่งประกอบด้วย การทำทาน ถือศีล การภาวนา สวดมนต์ ฟังธรรม คุณแม่บุญเรือนรัก ศรัทธา เลื่อมใส ได้ปฏิบัติมาอย่างจริงจัง ตั้งแต่อายุเริ่มวัยกลางคน

    การทำทาน ไม่ว่าจะเป็นการให้ทานต่อบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือการถวายของแก่พระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งการถวายอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค คุณแม่บุญเรือน ได้เพียรบำเพ็ญตลอดมาไม่ขาดสาย

    การถือศีล คุณแม่บุญเรือนเคร่งครัดในศีล ๕ วันธรรมสวนะยึดมั่นในศีล ๘ แต่ใจชีวิตตอนหลัง ส่วนใหญ่ท่านถือศีล ๕ เป็นประจำ

    การบำเพ็ญธรรม เมื่อครั้งออกบวชชีอยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์ ได้พากเพียรฝึกหัดสมถะวิปัสสนากรรมฐานด้วยความพากเพียร

    ปฏิบัติธรรมอยู่ในศาลาวัดสัมพันธวงศ์ด้วยความกล้าหาญ เข้าใจ ปลอดโปร่งในธรรมะ รักความสงบประกอบการกุศลต่างๆ ช่วยปักหมอน สำหรับธรรมาสน์พระสวดปาติโมกข์ เป็นต้น

    ทรงอภิญญา

    ผลจากการบำเพ็ญเพียรกรรมฐาน ทำให้ใจสงบระงับ ฝึกใจให้แข็งแกร่ง กล้ามองเห็นธรรมวิเศษ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนได้บรรลุฌานสมาบัติขั้นฌาน ๔ หรือจุตตถฌาน และทรงอภิญญา ยังผลให้เป็นที่ทราบในหมู่ผู้ร่วมบำเพ็ญกรรมฐานด้วยกัน

    ดังนั้น จึงเป็นที่เชื่อกันว่า คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เชี่ยวชาญในกรรมฐาน จนสามารถจะเข้าฌานสมาบัติ เมื่อไรก็ได้ โดยเข้าขณะที่ลืมตาได้ในฉับพลัน

    จากความสำเร็จในฌานสมาบัติ และบรรลุคุณธรรมในด้านวิปัสสนา ทำให้คุณแม่บุญเรือนเป็นนักเสียสละชั้นยอด มีอารมณ์วางเฉยเป็นอุเบกขา สละความโลภ ความอยากได้ในทรัพย์สินต่างๆ โดยสิ้นเชิง

    คนที่รู้จักคุณแม่บุญเรือนมาก่อนก็ดี รู้จักใหม่ก็ดี มักจะทราบความจริงอันเป็นคติธรรมข้อหนึ่งว่า คนที่จะไปหาท่านนั้น จงไปหาด้วยการเป็นผู้รับ ส่วนท่านเป็นผู้ให้ เป็นผู้เสียสละ เป็นผู้บริการ ท่านไม่ต้องการสิ่งใดของใคร แม้แต่ดอกไม้ธูปเทียนและทรัพย์สิน เงินทองใดๆ ทั้งสิ้น ผู้ใดจะเป็นผู้ให้ท่านได้ ก็ต่อเมื่อท่านอนุญาตแล้ว ด้วยลักษณะดังกล่าวนี้ จึงจัดว่า ท่านเป็นนักบุญชั้นเยี่ยมยอดอันหาได้ยากยิ่ง

    รับแล้วโอนกลับ

    หลังจากที่คุณแม่บุญเรือน ได้เที่ยวแจกจ่ายธรรมอบรมผู้คนไปในที่ต่างๆ ตลอดจนช่วยสงเคราะห์รักษาโรคภัย ให้ประชาชนจนวัยล่วงเลยเข้าสู่ชราภาพ เป็นที่ยกย่องสรรเสริญทั่วไปอย่างกว้างขวางทั่วทุกสารทิศ

    คุณหลวงแจ่มวิชาสอน เจ้าของบริษัท ยาสีฟันวิเศษนิยม ได้สร้างบ้านใหม่เป็นอาคารไม้หลังใหญ่ มีบริเวณกวางขวางขึ้นที่พระโขนง เพื่อมอบให้เป็นที่ปฏิบัติธรรมของคุณแม่บุญเรือน

    คุณหลวงแจ่มวิชาสอน ได้เชิญคุณแม่บุญเรือนมาอยู่บ้านใหม่แห่งนี้ เมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๔๙๙ ได้ทำพิธีเปิดป้ายบ้านในวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ คุณแม่บุญเรือนได้อยู่บ้านนี้ตั้งแต่วันดังกล่าว จนกระทั่งถึงวันวายชนม์

    บ้านใหม่นี้ คุณหลวงแจ่มวิชาสอน มอบกรรมสิทธิ์ให้ท่าน เมื่อคุณแม่บุญเรือนรับแล้ว ก็ได้โอนกลับไปให้แก่ทายาทของคุณหลวงแจ่มวิชาสอน ทันที แสดงให้เห็นถึงว่า ท่านไม่ปรารถนาทรัพย์ภายนอก ท่านขออยู่ไปเพียงตลอดชีวิตเท่านั้น
     
  6. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ไม่ทำเพื่อตนเอง

    ในระยะประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๐๖ คุณแม่บุญเรือนเริ่มเจ็บป่วย แต่ต่อมาก็ได้หายเป็นปกติ

    ครั้นต่อมาประมาณ เดือน มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๗ ท่านมีอาการป่วยโรคไต หัวใจอ่อน โลหิตจาง และความดันโลหิตสูง ติดต่อกันมาตามลำดับ มีแต่อาการทรงกับทรุด ไม่ยอมรับรักษาของแพทย์ เช่น นายแพทย์ปรีดา ล้วนปรีดา และแพทย์หญิงวัฒนา ดวงจันทร์ ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิด ได้เคยอ้อนวอนเพื่อทำการรักษา โดยฉีดยา ให้น้ำเกลือและกลูโคส และอ้อนวอนขอให้รับประทานยาแผนปัจจุบันบ้าง เป็นครั้งคราว แต่คุณแม่บุญเรือนก็ไม่ยอม นานๆ จึงจะยอมตามใจแพทย์สักครั้งหนึ่ง จะพาไปโรงพยาบาลท่านก็ไม่ไป ท่านต้องนอนป่วยลุกนั่งไม่ได้เป็นเวลา ๙ เดือน

    บรรดาศิษย์ทุกคน ได้กราบอ้อนวอนท่านว่า คุณแม่เคยอธิษฐานธรรมด้วยสัจวาจารักษาโรคร้ายของลูกๆ และคนอื่นให้หายได้ ทำไมเล่าคุณแม่จึงไม่อธิษฐานเพื่อตนเองเสียบ้าง

    คุณแม่บุญเรือนได้ตอบว่า

    “ถ้าแม่อธิษฐานเพื่อตนเอง ก็เท่ากับแม่อยากมีชีวิตอยู่ อยากมีความสุข อยากพบสิ่งใหม่ๆ บนพื้นพิภพซึ่งล้วนเป็นกิเลสทั้งนั้น แม่ทำเช่นนั้นไม่ได้

    อันว่า สังขาร ร่างกาย และใจ หรือขันธ์ห้านี้ ไม่ใช่ตัวของเรา มันเป็นเพียงเครื่องอยู่อาศัยชั่วคราวเท่านั้น เป็นเรือนทุกข์ แม่ต้องการออกไปจากเรือนทุกข์นี้”

    นี่ เป็นคำกล่าวอันยิงใหญ่อย่างแท้จริง ผู้ที่ปฏิบัติธรรมเข้าถึงธรรม ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้งเท่านั้น ถึงจะกล่าวสัจธรรมเช่นนี้ได้

    บั้นปลาย

    วันที่ ๓, ๔, ๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ คุณแม่บุญเรือนมีอาการอ่อนเพลียมาก เหนื่อยในเวลาพูด เบื่ออาหาร มีเสมหะเหนียวๆ ในลำคอ รับประทานอาหารได้เพียง ๒-๓ คำเท่านั้น

    วันที่ ๖ ต่อมา ปวงสานุศิษย์ลูกหลาน คงมาร่วมชุมนุมสวดมนต์ภาวนาเช่นเคย คุณแม่บุญเรือน ก็ยังทักทายไต่ถามได้อย่างแจ่มใส หากไม่สังเกตจะไม่ทราบอาการเปลี่ยนแปลงอย่างใดเลย

    มีข้อสังเกตอันสำคัญประการหนึ่งก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์ ท่านได้สั่งให้หยุดนาฬิกาเรือนใหญ่ไว้เวลา ๑๑.๐๐ น. เศษ ทั้งสองเรือน (ท่านกำหนดเวลาจะลาจากโลก) ท่านบอกว่าหนวกหู ชาวคณะสามัคคีวิสุทธิปฏิบัติตามคำสั่งโดยมิได้เฉลียวใจแต่อย่างใด

    เช้าวันจันทร์ที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๗ ก่อนเวลา ๑๐.๐๐ น. คุณแม่บุญเรือนยังพูดจาได้ แต่อาหารไม่ยอมรับประทาน ต่อมาเล็กน้อยอาการเพลียมาก หายใจตื้น ไม่คุย หลับตา เอามือขวากุมศีรษะ

    ๑๑.๐๐ น. หายใจช้าลง ชีพจรอ่อน คลำไม่พบ หายใจออกมากกว่าเข้าระยะสั้น หยุดหายใจสนิทเมื่อเวลา ๑๑.๒๐ น. โดยปราศจากอาการทุรนทุราย

    นับว่า ท่านได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบจริงๆ ไม่มีการสั่งเสียหรือห่วงใยใดๆ

    การวางสังขารทิ้งร่าง ของคุณแม่บุญเรือน ตรงกับเวลาที่ท่านให้หยุดนาฬิกาเรือนใหญ่ไว้ เท่ากับท่านรู้วาระที่จะจากโลกนี้ไป

    เมื่อท่านวายชนม์แล้ว บรรดาคณะสามัคคีวิสุทธิ ที่ได้รับแจ้งข่าวและทราบข่าว ต่างหลั่งไหลมากราบศพ แสดงความเคารพ ร่วมบำเพ็ญกุศลฟังพระอภิธรรม ที่บ้านพระโขนงทุกวันและทุกคืน

    ได้ร่วมแห่กระบวนศพ วันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๐๗ ตอนบ่าย ๑๓.๐๐ น. ไปวัดธาตุทอง และร่วมบำเพ็ญกุศลที่วัดธาตุทองจนถึงวันที่ ๑๓ เดือนเดียวกัน และต่อมาทุกวันอาทิตย์อย่างคับคั่งตลอดมา

    จนกระทั่งวันที่ ๒๓, ๒๔ และวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๐๗ อันเป็นวันประชุมเพลิง รวมสิริอายุของท่านได้ ๗๐ ปี

    วัดบางพลัดนอก

    ท่านผู้อ่านโปรดทราบ ถึงแม้คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม จะได้วายชนม์ไปแล้วเป็นเวลาหลายปี แต่รูปปั้นของท่านที่ประดิษฐานอยู่ ที่ศาลาภายใน วัดอาวุธ-วิกสิตาราม (วัดบางพลัดนอก) ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย ๗๒ แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ก็ยังทรงความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่อยู่เหมือนสมัยทานยังมีชีวิต

    ฉะนั้น ท่านผู้ใดที่เจ็บไข้ได้ป่วยทุกข์ทรมานด้วยโรคใดๆ หากจะไปกราบไหว้รูปหล่อของท่านแล้วตั้งอธิษฐานจิต ขอปูน ขอไพล หรือสิ่งอื่นๆ จากท่านที่นั่น เพื่อรักษาโรคของท่านก็จะสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากว่ากรรมของท่านไม่หนักจนเกินไป


    CREDIT : โดย สิทธา เชตวัน www.panyawut.org
     
  7. มนต์รักคำใต้

    มนต์รักคำใต้ วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,057
    ค่าพลัง:
    +502
    ได้รับพระแล้วครับ..:cool:
     
  8. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474

    จัดส่งให้คุณ phongsawat แล้วครับวันนี้

    ระหัส EJ108581922TH
     
  9. nun-rayong

    nun-rayong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +1,312
    จองปิดตาวัดบ่อวินยันต์นำ้เต้าราคา1000บาท1องค์
     
  10. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    รับทราบครับ
     
  11. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ลูกอมผงอิทธิเจ
    หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ
    หลวงพ่อสงวน ท่านเป็นคนสุพรรณบุรีโดยกำเนิด ท่านเกิดที่อำเภอบางปลาม้า ตั้งแต่เป็นเด็ก ท่านมีนิสัยนักเลงเด็ดเดี่ยวกล้าหาญไม่ยอมคน ไม่กลัวใคร เข้าสู่วัยรุ่นได้คบหากับเพื่อนที่มีนิสัยคล้ายกัน จนได้มารู้จักสนิมสนมกับเสือในสมัยก่อน อาทิ เสือมเหศวร เสือดำเป็นต้น แต่ท่านมีอายุน้อยกว่า จึงคบหากันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน จนภายหลังท่านได้มาบวชเรียนครองผ้าเหลือง เสือมเหศวรยังคงได้ไปมาหาสู่กับท่าน ตลอดจนช่วยท่านสร้างวัดไผ่พันมือจนกระทั่งท่านมรณภาพลง เสือมเหศวรก็ยังมาเป็นประธานในงานฌาปนกิจของท่าน

    เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๔๗๐ กว่าๆ ทางการเร่งปราบปรามบรรดาเสือ และสมัครพรรคพวก โยมบิดามารดาของท่าน เกรงว่าท่านจะถูกทางราชการเพ่งเล็งว่าเป็นสมัครพรรคพวกของเสือในจังหวัดสุพรรณบุรี โยมบิดามารดาจึงขอให้ท่านบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดองค์รักษ์ ซี่งมีหลวงพ่ออรรถเป็นเจ้าอาวาส และได้รับทราบวิชาการสร้างลูกอมมาจากหลวงพ่ออรรถนี่เอง ลูกอมหลวงพ่ออรรถเป็นเนื้อเทียนชัย มีพระพุทธคุณทางด้านแคล้วคลาดป้องกันสัตว์ร้ายเขี้ยวงา แม้กระทั่งฟ้าผ่า เป็นที่เลื่องลือ และนิยมแสวงหาของคนในพื้นที่




    เบื้องหลังการเสกวัตถุมงคลให้มีพลังอำนาจทางเมตตามหานิยมของหลวงปู่จักร วัดเขารังไก่ก็คือเสือมเหศวร ซึงเสือมเหศวรนับถือหลวงพ่อสงวนมาก วัตถุมงคลของท่านสุดยอดประสบการณ์ครับ

    ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อ เคยเล่าให้ฟังว่า หลวงพ่อสงวนท่านเก่งทางเมตตามหานิยม ขนาดที่ว่า “กะหรี่แก่ๆ ยังหาผัวได้ หัวกระไดไม่แห้ง” นี่ผมเอาคำพูดของลูกศิษย์หลวงพ่อมาทั้งดุ้นเลยนะครับ ถ้าไม่สุภาพก็ต้องขออภัยด้วย

    เรื่อง“ผงอิทธิเจ”ของท่านขึ้นชื่อมากหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เคยกล่าวว่า "อาจารย์สงวนทำผงเก่ง"
    ในสมัยนั้น วัดพิกุลทองมีงานพุทธาภิเษกพระเครื่องเมื่อใด หลวงพ่อแพจะส่งรถมารับหลวงพ่อสงวนอยู่เสมอๆ หลวงพ่อสงวนก็เคยกล่าวยกย่องให้ลูกๆ หลานๆ ฟังเสมอว่า "หลวงพ่อแพเป็นผู้มีบุญบารมีมากผ่านไปสิงห์บุรีให้ไปกราบท่านให้ได้นะ"

    และก็เป็นเรื่องจริง ที่ลูกศิษย์ชอบเอาลูกอมของหลวงพ่อสงวนไปแกว่งในน้ำ และเอาไปให้ผู้หญิงกิน เห็นเขาว่าได้ผลมานักต่อนักแล้ว แค่เอาแค่ห้อยติดตัวไว้ ก็มีเสน่ห์สุดๆ แล้วครับ
    แต่ท่านกำชับว่า “ได้เขาแล้วต้องเลี้ยงดูจริงจัง ห้ามทำด้วยความเจ้าชู้...”



    มี 2 ลูก
    จองแล้วครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2012
  12. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ปิดแล้วครับ
     
  13. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ยอดวัตถุมงคลกำเนิดใหม่

    ลองเสาะหาไว้บูชาดูนะครับ


    พระสมเด็จมหาสัมฤทธิ์ผลอุดมโชค

    [​IMG]


    กำเนิดผงสัมฤทธิ์
    ผงพุทธคุณ หลวงพ่อสัมฤทธิ์ ได้ถูกค้นพบเมื่อประมาณ ๓๐-๔๐ ปีที่ผ่านมา โดยพบการผุดขึ้นของผงพุทธคุณดังกล่าวได้มีการพบที่บริเวณเนินดินที่เป็นราก ฐานอุโบสถโบราณ ซึ่งอยู่กลางทุ่งนาในเขตอำเภอท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งในขณะนั้นไม่คง สภาพความเป็นวัดอยู่เลย พบเพียงพระพุทธรูปหินทรายเพียง ๔ องค์ ซึ่งน่าจะเป็นพระประธานแต่ก็มีความชำรุดเสียหายทั้งหมด โดยผู้พบผงท่านแรกนั้นเป็นชายชราชาวนาที่อาศัยอยู่บริเวณแถบนั้น ได้เดินทางอกไปทำนาและผ่านบริเวณวัดร้างดังกล่าว และด้วยมีความรู้ทางด้านไสยศาสตร์อยู่บ้าง จึงทำให้พอทราบว่า ผงที่ผุดขึ้นมานี้เป็นผงสำเร็จเรียกว่าผงอิทธิเจ จึงได้เก็บผงพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวมาทุกวัน จนเป็นข่าวในละแวกนั้น พอชาวบ้านเริ่มรู้ข่าวว่ามีการพบผงศักดิ์สิทธิ์ จึงได้พากันมาขุดเพื่อหวังหาสมบัติและพระเครื่องโบราณ ซึ่งก็มีทั้งสมหวังบ้างและผิดหวังบ้าง จากคำบอกเล่าว่ามีผู้ได้พบพระเนื้อชินและพระบูชาทองคำไปบ้าง แต่ก็เล็กน้อย ส่วนใหญ่จะได้ผงสีขาวเสียมากกว่า บางก็สนใจบ้างก็ไม่สนใจ เก็บรักษากันไว้บ้าง ถวายวัดบริเวณใกล้ๆ บ้าง จนข่าวเงียบหายไปเพราะไม่ได้สมบัติอะไร การขุดผงพุทธคุณชุดแรกจึงได้ยุติลง แต่ชายชราชาวนาคนแรกก็ยังคงเก็บผงที่มีผู้ขุดทิ้งตกค้างไว้ เพราะทราบถึงความศักดิ์สิทธิ์ของผงนั้น

    ผงศักดิ์สิทธิ์ถูกสร้างพระพิมพ์โดยพระสุปฏิปันโน
    ชายชราผู้นี้ เป็นผู้สนใจในพระเถระผู้ปฏิบัติดีและมีญาณวิถีหยั่งรู้ เมื่อได้ทราบข่าวว่ามีพระเถระดีมีพุทธาคมสูงและเก่งในเรื่องเลขหวยก็มักจะไป กราบสนทนาธรรม และสุดท้ายก็คือการขอเลขหวย โดยมีการนำผงศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวที่ทยอยเก็บสะสมไว้ไปถวายหรือเรียกว่า “เอาผงไปแลกหวย” จากคำบอกเล่า พระเถระที่ได้นำผงที่ชายชราไปถวายเพื่อจะแลกกับหวยนั้น ได้มีการนำผงพุทธคุณสัมฤทธิ์นี้ไปสร้างวัตถุมงคลจนโด่งดังเป็นตำนานจนมาถึง ปัจจุบัน คือ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง(ชุดแพพัน-แพสามพัน), หลวงปู่โต๊ะ วัดสระเกษ, หลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์, หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน(พระพุทธนฤมิตรโชคหรือสมเด็จกวางใหญ่) เป็นต้น และผงพุทธคุณนี้ยังกระจายสู่พระเถระยุคนั้นเมื่อทราบถึงอิทธิคุณความ ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะแถบอำเภอไชโย อำเภอท่าวุ้ง และเขตติดต่อจังหวัดสิงห์บุรี ชัยนาท ซึ่งด้วยความโด่งดังของครูบาอาจารย์ที่ได้นำผงพุทธคุณสัมฤทธิ์ไปผสมสร้าง วัตถุมงคลแล้ว ซึ่งถ้าผงนี้ไม่ดีจริงพระคณาจารย์อย่างหลวงพ่อกวย หลวงพ่อแพ(ผสมผงสร้างไม่ต่ำกว่า ๓ รุ่น) และหลวงพ่อจรัญคงไม่นำผงมาผสมสร้างพระชุดแรกๆ ของท่านถ้าผงไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง
     
  14. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ผู้เปิดตำนานผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ยุคที่ทำให้เป็นที่กล่าวขาน

    [​IMG]

    นั้นคือหลวงพ่อเชื้อ วัดเยื้องคงคาราม จ.อ่างทอง เป็นผู้ที่ทำให้ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์เป็นที่รู้จักอีกครั้ง จากคำบอกเล่าของตัวท่านเองว่า ท่านได้ทราบข่าวการขุดผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์จากวัดร้างโบราณกลางทุ่งก็เกิดสนใจ และได้รับผงมาจำนวนหนึ่ง ได้นำไปให้ครูบาอาจารย์ของท่านที่ได้ทรงคุณธรรมตรวจสอบอิทธิคุณ ได้รับคำตอบว่า
    "...เป็นผงสำเร็จศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน ได้มามากไหม ได้จากไหน ผงนี้ใช้ได้ตามใจปรารถนาหายากมากๆ..."
    หลวงพ่อเชื้อจึงได้เก็บความสนเท่ห์นั้นไว้และยังได้นำผงไปตรวจสอบอีกหลายที่ ก็ได้คำตอบคล้ายคลึงกัน จึงทำให้ท่านได้เริ่มแสวงหา และเก็บผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์อย่างเงียบๆ และนำมาจัดสร้างพระสมเด็จของวัดเยื้องคงคารามด้วยผงดังกล่าวจนวัดสำเร็จสวยงามในปัจจุบัน

    หลวงพ่อเชื้อ ท่านจึงได้เกิดความศรัทธาในผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์มากยิ่งขึ้น โดยท่านเองได้นำผงพุทธคุณมาใช้รักษาโรคต่างๆ ร่วมถึงโรคทางไสยศาสตร์ก็ปรากฏผลเป็นที่อัศจรรย์ได้ผลดีเป็นที่กล่าวขานกันทั่ว จึงทำให้ท่านมีชื่อเสียงมากขึ้นแบบปากต่อปาก และจากคำบอกเล่ากันว่าท่านได้มอบผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์แก่พระราชาคณะรูปหนึ่ง เพื่อทำน้ำมนต์ถอนอาถรรพ์กับบุคคลระดับประเทศจนได้ผลเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว และยังไม่รวมถึงพระสมเด็จที่ท่านสร้างไว้ก็ปรากฏผลเป็นประจักษ์แก่ผู้ที่นำไปบูชาในด้านต่างๆ จนเป็นที่แสวงหา โดยการสร้างพระของท่านได้อาศัยผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์เพียงเล็กน้อยในการผสมสร้างพระของท่าน และยังมีผงหรือมวลสารอื่นๆ อีกด้วย

    พลิกตำนานการขุดผงอีกครั้ง

    เมื่อผงมีความศักดิ์สิทธิ์และเริ่มเป็นที่แสวงหา หลวงพ่อเชื้อท่านจึงได้ซื้อที่นารอบๆ วัดร้างดังกล่าวและได้มีการขุดผงตามที่ต่างๆ ว่ากันว่าท่านได้ผงกลับวัดไปเป็นปี๊บๆ หลังจากนั้นความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ก็เริ่มเป็นที่ปรากฏมากขึ้นจากผู้ที่ได้รับผงไป และมาอธิษฐานที่เนินดินวัดร้างดังกล่าว ส่วนใหญ่มักจะประสบความสำเร็จสัมฤทธิ์สมดังใจปรารถนา ผู้ที่ศรัทธาจึงขนานนามว่า "หลวงพ่อสัมฤทธิ์" และได้มีการเริ่มบูรณะองค์พระประธานที่เป็นหลวงพ่อสัมฤทธิ์ทั้งสี่องค์ โดยหลวงพ่อเชื้อได้เป็นผู้บูรณะในครั้งแรก
    ต่อมาภายหลังชาวบ้านได้รวมตัวกันช่วยบูรณะ โดยมีการขุดและพัฒนาพื้นที่มากขึ้น ในครั้งนั้นได้มีการขุดพื้นภายในอุโบสถเก่าที่หลวงพ่อเชื้อเคยขุดไว้ลึกลงไปอีกชั้น ก็ปรากฏว่าพบกรุผงอีกชั้นหนึ่งซึ่งมีแผ่นอิฐหน้าวัวปิดทับ และพบใบลานเงินจารึกไว้ โดยหลวงพ่อเชื้อได้หาผู้ชำนาญอักษรโบราณได้อ่าน และถอดความว่า “ผงอิทธิเจทำสำเร็จแล้ว” จึงเป็นที่รู้กันว่าผงพุทธคุณที่ผุดขึ้นมาและได้ทำการขุดขึ้นมานั้น เรียกว่า "ผงอิทธิเจ" ของผู้สำเร็จพุทธาคมในสมัยโบราณ ได้ฝึกจิตอภิญญาจนสำเร็จวิชาการทำผงพุทธคุณและได้ฝากไว้เพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา และไว้เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากในอนาคต

    อะไรคือผงอิทธิเจ

    ผงอิทธิเจนี้ คือ ผงวิเศษ ๑ ใน ๕ ผงพุทธคุณตามตำราโบราณซึ่งผู้ที่เรียนพุทธาคมต้องเรียน และทำให้สำเร็จตามขั้นตอนของผงแต่ละชนิด ซึ่งผงอิทธิเจนั้นมีฤทธานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ทางมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ใช้ได้สารพัดสุดแต่จะอธิษฐาน ปรารถนาสิ่งใดจะส่งผลให้สัมฤทธิ์ผลสมดังมโนรมย์ทุกประการ การใช้ผงอิทธิเจนั้นมักจะผสมกับแป้งผัดหน้าเป็นเมตตามหานิยม หรือใช้ผสมเครื่องหอมเพื่อให้เกิดผลทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ หากผู้ลบทำจนผงอิทธิเจเกิดเป็นตัว(ภาษานักวิทยาคมหมายถึงทำขึ้นศักดิ์สิทธิ์มาก) แล้วเกิดปลิวไปติดต้องเพศตรงข้าม หรือลงในน้ำดื่มจะมีผลทางเสน่ห์ชั้นสูง จึงเป็นแบบทดสอบคุณธรรมของผู้ลบผงด้วยอย่างหนึ่งว่าจะเป็นผู้ติดรูปหลงกามราคะตัณหาหรือไม่ โบราณจึงมักปกปิดสงวนผงชนิดนี้เพราะถือเป็นอันตรายต่อผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด และตัวผู้ถูกกระทำเป็นอย่างมาก แต่ถ้าใช้ในทางที่ถูกก็จะช่วยเหลือค้ำคูณผู้นั้นให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป จึงเป็นของสุดวิเศษที่ปรารถนาเป็นอย่างมาก
     
  15. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ความเหมือนที่แตกต่าง

    แต่ในส่วนผงพุทธคุณอิทธิเจหลวงพ่อสัมฤทธิ์นั้น เป็นผงของพระผู้สำเร็จอภิญญาจิตชั้นสูง (ตามคำบอกเล่าจากการตรวจสอบของหลวงพ่อเชื้อ) ที่ได้ทำฝากไว้เป็นที่พึ่งแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย เพราะสามารถนำมาผสมน้ำทำเป็นน้ำพุทธมนต์เพื่อใช้ดื่มกินรักษาโรคต่างๆ ได้ด้วย รวมถึงการใช้ถอนอาถรรพ์หรือแก้คุณไสยต่างๆ ตามคำอธิษฐานเพื่อขอพึ่งบารมีผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และรวมถึงมีผลต่อผู้นำผงติดตัวบูชา อธิษฐานสิ่งใดก็จะสำเร็จผลสมปรารถนาดังคำอธิษฐานทุกประการ เจริญในหน้าที่การงานทั้งปวง ทั้งยังเสริมส่งบารมีราศีแก่ผู้บูชาให้เจริญยิ่งๆ ขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะมีความแตกต่างจากผงอิทธิเจตามตำราที่จะเน้นหนักไปทางเสน่ห์มหานิยม เสียเป็นส่วนใหญ่ และผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ว่ากันว่า ต้องอธิษฐานบอกกล่าวขอความช่วยเหลือจากผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ เทพเทวดาที่รักษาผงและองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ รวมถึงท่านเจ้าของผงดังกล่าวจึงจะสัมฤทธิ์ผล หากไม่อธิษฐานบอกกล่าวก็ไม่ต่างอะไรกับผงปูนก้อนปูนอิฐหินธรรมดา และว่ากันว่าท่านเจ้าของที่ทำผงพุทธคุณดังกล่าว ท่านสำเร็จอภิญญาจิตชั้นสูงปฏิสนธิในรูปพรหมทรงพรหมวิหารธรรมดำรงจิตใน อุเบกขารมณ์ หากอธิษฐานต่อผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ท่านก็จะคลายจิตจากอุเบกขารมณ์มาอยู่ ในเมตตากรุณาเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยเหลือผู้อธิษฐานให้สำเร็จผลดังใจปรารถนาตามกำลังบุญวาสนาผู้อธิษฐานโดยเร็วและง่ายดาย

    ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อสัมฤทธิ์และผงพุทธคุณในปัจจุบัน

    ปัจจุบัน จากตำนานวัดร้างกลับกลายเป็นวัดที่มีความเจริญในถาวรวัตถุเป็นอันมากถึงจะไม่มี พระภิกษุสงฆ์พักจำพรรษาด้วยอาถรรพ์ความศักดิ์สิทธิ์ของเทวดาที่รักษาผงและ องค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ แต่ความศรัทธาและความเจริญด้านต่างๆ ก็มากมายมาด้วยความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ และผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนใหญ่ผู้ศรัทธาเมื่อมากราบไหว้บนบานขอพรต่อองค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ก็มักจะประสบผลสำเร็จสัมฤทธิ์ผล ดังชื่อองค์หลวงพ่อพระพุทธรูปทั้งสี่องค์ หรืออาจจะเกิดจากความศักดิ์สิทธิ์ของผงอิทธิเจที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในองค์พระ หรือในวิหาร จึงได้มีความศักดิ์สิทธิ์มีผลานุภาพแก่ผู้มาอธิษฐานขอพรขอความช่วยเหลือก็เป็นได้ และยังมีผู้คนที่ได้รู้ถึงพุทธคุณของผงอิทธิเจหลวงพ่อสัมฤทธิ์ได้สืบเสาะหา หรือจากพระเครื่องที่ได้ผสมผงดังกล่าวไว้อีกด้วย เพื่อนำมาพกติดตัวให้เกิดความเป็นสิริมงคลและบังเกิดความสำเร็จสัมฤทธิ์ผลสมดั่งใจปรารถนา อีกทั้งยังนำมาพิธีแก้อาถรรพ์ รักษาโรคต่างๆ ซึ่งต่างก็ได้พบประสบเจอกับอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์จนเป็นที่ประจักษ์แก่ผู้ศรัทธาทั้งหลายกันอย่างปากต่อปาก
     
  16. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    พุทธคุณและอานุภาพของผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์

    มีประสิทธิผลในทางเมตตามหานิยมสูงสุด และมหาสำเร็จดังแก้วสารพัดนึก และมีประสบการณ์ในทางอุดหนุนค้ำชูดวงชะตาเป็นมหาสำเร็จสมปรารถนา ขอเพียงผู้ใช้ตั้งสัจจะอธิษฐานโดยไม่เกินวาสนาของตน มีความเชื่อถือกันมากในหมู่คณาจารย์ผู้รู้ทั้งหลายว่า ผู้สร้างผงพุทธคุณวัดสัมฤทธิ์นี้ทรงอภิญญาสูงส่ง ดำรงจิตอยู่ในพรหมวิหาร ๔ วางจิตนิ่งอยู่ในอุเบกขาเป็นนิจ เห็นเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกย่อมเป็นไปโดยกรรมของตน แต่เมื่อผู้ใดตั้งสัจจะอธิษฐาน ผู้ทรงอภิญญานั้นจะคลายจิตลงสู่เมตตา กรุณา เป็นอารมณ์ ช่วยเหลือสงเคราะห์ให้สำเร็จได้ (อาจจะเป็นหลวงปู่คง วัดตาล ซึ่งเป็นทัศนะของข้าพเจ้า และหลายท่าน) จึงมีผู้คนจำนวนมากที่ใช้พระหรือวัตถุมงคลที่เข้าผงสัมฤทธิ์นี้ต่างก็พบปาฏิหาริย์ในทางโชคลาภ ในทางมหาเสน่ห์ ในทางมหานิยม ในทางขอตำแหน่งหน้าที่การงาน ในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ รวมไปถึงการถอนคุณไสยต่างๆ ได้อย่างเป็นอัศจรรย์โดยการอาราธนานำพระแช่น้ำทำน้ำพระพุทธมนต์

    เถระผู้เรืองเวทย์แห่งแผ่นดินกรุงเก่ากับผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์

    ปัจจุบันผู้นำผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์มาสร้างวัตถุมงคลและใช้ประกอบพิธีแก้อาถรรพ์ แก้โรคไสยศาสตร์ และโรคกรรมบางประการคือท่านพระปลัดพิจารณ์ วิจารโณ แห่งวัดโพธิ์ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สืบสานสรรพวิชาและพระเวทย์โบราณ ได้นำผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์มาใช้สร้างประโยชน์แก่พุทธบริษัทและพระพุทธศาสนา และท่านยังมีเมตตามอบผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ที่ท่านสะสมรวมถึงผงพุทธคุณต่างๆ มวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่ท่านได้รวบรวมไว้มอบให้กับข้าพเจ้าจนกลายเป็นตำนานความศักดิ์สิทธิ์ของ “พระสมเด็จมหาสัมฤทธิ์ผลอุดมโชค” ของกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ พระเครื่องที่ทรงพุทธานุภาพในยุคนี้ที่เป็นเครื่องหมายแห่งพุทธานุสติแก่ผู้เจริญความดี และปกป้องภัยพิบัตินานา ทั้งส่งเสริมค้ำคูณชีวิตด้วยพลังแห่งพระรัตนตรัย พระมหาโพธิสัตว์ ครูบาอาจารย์ และพรหมเทพเทวาทั่วโลกธาตุ อีกทั้งยังมีสุดยอดมวลสารมงคลที่หายากในปัจจุบันมารวมผสมผสานขึ้นเป็นพระ พิมพ์สมเด็จมหาสัมฤทธิ์ผลอุดมโชคอีกหลายประการ
     
  17. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ความเป็นมาการสร้างสมเด็จมหาสัมฤทธิ์ผลอุดมโชค

    ข้าพเจ้าได้รับพระสมเด็จ และลูกอมสมปรารถนา(มหาสัมฤทธิ์) ของพระเดชพระคุณท่านพระปลัดพิจารณ์ วิจารโณ มาจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ได้ไปช่วยงานพิธีสร้างพระไม้โพธิ์ห้ามสมุทรรุ่นแรกของท่าน ทั้งการบอกเล่าจากหลวงพ่อพระปลัดพิจารณ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ จ.ลพบุรี ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความศรัทธาเป็นอย่างมาก

    วันหนึ่งข้าพเจ้าได้รับความเมตตาจากท่านได้มอบผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ให้มาจำนวนหนึ่ง และผงหลวงปู่แก้ววัดช่องลมกรุวัดในปากทะเล จ.เพชรบุรี เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในงานพระพุทธศาสนา เมื่อได้รับมาแล้วข้าพเจ้าจึงได้ลองตั้งสัจจะอธิษฐานว่า
    “ภายใน ๗ วันนี้ หากความศักดิ์สิทธิ์ของผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์จริงตามคำบอกเล่านั้น จะช่วยเหลือพุทธศาสนิกชน และสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้ในยุคนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้รับผงเพิ่มมาในปริมาณที่มากพอทำประโยชน์ได้ไม่ว่าวิธีใด ด้วยเทอญ”
    ขณะที่อธิษฐานนั้นเป็นช่วงที่ข้าพเจ้ากำลังจะออกจากการปฏิบัติพระกรรมฐาน ได้เกิดนิมิตเห็นพระภิกษุชรารูปหนึ่ง ซึ่งจำได้ว่าท่านคือหลวงปู่คง วัดตาล ปรมาจารย์ของขุนแผน ท่านว่า
    “ให้ข้าพเจ้าไปตามหาวัดร้างแห่งหนึ่งใน จ .ลพบุรี ดูเถิด จะมีบ้านหลังหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของวัดจะช่วยเรื่องผงได้”

    ข้าพเจ้าได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจจนถึงวันที่ ๕ ของการอธิษฐาน และในวันที่ ๕ นี้เอง ข้าพเจ้าได้มีกิจธุระต้องไปช่วยงานทำบุญฉลองพระชำระหนี้สงฆ์ที่สำนักคุณแม่ชีประทุม โชติอนันต์ เป็นเวลา ๒ วัน และในวันงานวันสุดท้ายซึ่งก็เป็นวันที่ ๗ ของการอธิษฐาน ในตอนเดินทางกลับพร้อมกับพี่น้องชาวกองทุนฯ นั้น ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าต้องลองไปค้นหาวัดสัมฤทธิ์ตามนิมิตหลวงปู่คงดู มีก็มี ได้ก็ได้ ข้าพเจ้าจึงได้เอ่ยปากชวนหมู่คณะเดินทางไปวัดร้างดังกล่าว ซึ่งก็มีท่านหนึ่งในหมู่คณะที่ไปนั้นได้ฟังข้าพเจ้าเอ่ยปากเรื่องผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ จึงจำได้ว่าเขาเคยเก็บพระสมเด็จวัดเยื้องคงคารามของหลวงพ่อเชื้อ ผู้เป็นผู้ที่ทำให้ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เขาจึงเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าเขาเคยพาพระและหมู่คณะไปบูชาพระสมเด็จนี้มา และเคยได้รับฟังจากหลวงพ่อเชื้อเล่าเรื่องความศักดิ์สิทธิ์และการขุดผงนี้ และยังกล่าวว่าเป็นผงของหลวงปู่คง วัดตาล ทำไว้ตั้งครั้งกรุงศรีอยุธยา

    ตอนนั้นข้าพเจ้ารู้สึกดีใจมากที่มีคนรู้จัก และจะนำไป หมู่คณะเรานั้นจึงได้ออกเดินทางตามหาและได้ค้นพบเจอวัดร้างดังกล่าวจนได้ แต่ไม่ใช่วัดร้างตามคำบอกเล่า แต่กลับเป็นวัดที่มีความเจริญความพร้อมในเสนาะต่างๆ เว้นแต่เพียงไม่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาเพียงอย่างเดียว ข้าพเจ้าและคณะได้เดินชมสถานที่และสังเกตการว่ามีผู้คนเข้ามากราบไหว้ขอพร องค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์กันอย่างไม่ขาดระยะ ยิ่งทำให้เชื่อมั่นและศรัทธามากยิ่งขึ้น ถึงแม่ว่าจะไม่มีพระภิกษุสงฆ์ดูแลมีแต่เพียงคณะกรรมการชาวบ้านซึ่งดูแล้วก็น่าจะเป็นเพียงชาวนา คงจะไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะสร้างหรือถ้ามีก็คงต้องมี ความศรัทธาเป็นอย่างมากจึงทำกันได้ และเจริญเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าและคณะได้ขึ้นไปบนวิหารขององค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์ ก็ต้องยิ่งแปลกใจว่าทำไมถึงไม่เหมือนที่อื่นๆ ที่นี้นั้นมีพระประธานถึง ๔ องค์ ข้าพเจ้าและคณะจึงได้นมัสการและสวดมนต์อธิษฐานจิตบูชาพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดร้างนี้ ในขณะที่จิตของข้าพเจ้าเริ่มสงบนั้นได้เกิดนิมิตเห็นพระภิกษุ ๕ รูป นั่งอยู่มีเพียงรูปหนึ่งที่มีร่างกายกำยำสูงใหญ่นั่งอยู่ตรงกลางอายุน่าจะประมาณไม่เกิน ๕๐ ปี และมีแสงสว่างเกิดโอภาสกระจายรอบวัดสว่างไสวมาก แล้วมีชีปะขาวท่านหนึ่งเดินจากบ่อน้ำมนต์ขององค์หลวงพ่อสัมฤทธิ์เข้ามาภายในวิหาร จากนั้นหลวงปู่คงท่านได้เดินมาหยุดตรงหน้าข้าพเจ้า และชี้มือไปว่า
    “ไปตามเอานะ”
    ท่านได้ทำภาพให้ดูลักษณะบ้านและรูปร่างชายคนหนึ่งที่นำผงมาให้ ในจิตของข้าพเจ้าตอนนั้นกลัวว่าถ้าต้องไปตามหาอาจจะเกิดความยุ่งยากและใช้เวลา อีกทั้งไม่รู้ว่าจะเกิดผลร้ายดีอย่างไร จึงได้ขอต่อองค์หลวงปู่คงว่า
    “เมตตาลูกด้วย ถ้าให้ไปตามนี้อาจะไม่เหมาะสมในสถานการณ์แบบนี้ ขอความเมตตาจากหลวงปู่ได้โปรดช่วยดลใจเขาให้เข้ามาเจอลูกด้วยและเปิดทางให้ ได้ผงโดยง่ายด้วย”
    ท่านจึงได้ทำภาพให้เห็นเป็นชายชราท่านหนึ่งในมือถือถุงพลาสติกหูหิ้วใส่ผงมา กำลังเดินมาวัด ท่านว่า
    “เมื่อจบการสวดมนต์จะพบชายคนนี้”
    แล้วนิมิตทุกอย่างก็ดับลงเกิดความปิติสุขและอิ่มเอิบขึ้นมาในความรู้สึก

    เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วข้าพเจ้ารีบหันไปดูที่ประตูวิหาร ได้พบชายชราผู้หนึ่งยืนมองพวกเราอยู่ แต่ในมือไม่มีถุงผง? ในตอนนั้นข้าพเจ้าดีใจที่ได้พบชายชราท่านนี้ซึ่งก็เป็นไปตามนิมิต แต่ก็ต้องผิดหวังนิดๆ ที่ในมือไม่มีผง ข้าพเจ้าจึงได้ลองสอบถามความเป็นมากับคุณลุงท่านนี้ ถึงความเป็นมาของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ และได้ยิงคำถามตรงถึงผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ คุณลุงท่านนี้ถึงกับเงียบไปพักหนึ่ง แล้วจึงได้ถามกลับข้าพเจ้าว่าจะเอาไปทำไมเพราะส่วนใหญ่คนไม่เคยถามถึงผง ที่มาๆ กันรู้ว่าหลวงพ่อสัมฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ขอได้ทุกอย่างแค่นั้น คุณลุงท่านนี้จึงได้ติดต่อคุณลุงอีกท่านหนึ่งที่เป็นกรรมการและยอมแบ่งผงที่คณะกรรมการได้รวบรวมไว้ในตอนซ่อมวิหารใหม่ ซึ่งจะนำไปจัดสร้างพระผงของหลวงพ่อสัมฤทธิ์เช่นกัน (ตลอดระยะเวลา ๕๐ ปี ที่นี่ไม่เคยมีการจัดสร้างพระผงของหลวงพ่อสัมฤทธิ์โดยตรงเลย มีแต่วัดต่างๆ นำผงไปสร้างพระจนโด่งดัง) คุณลุงท่านนี้จึงได้กลับไปบ้านซึ่งบ้านหลังนี้ก็อยู่ในจุดที่หลวงปู่คงนิมิต บอกไว้ทุกประการ เมื่อคุณลุงท่านนี้กลับมาถึงวิหาร ในมือถือถุงหูหิ้วใบเดียวกันกับที่ข้าพเจ้านิมิต สรุปว่าข้าพเจ้าได้รับผงเพิ่มมาในปริมาณมากพอสมควรกับการที่จะมาทำประโยชน์ ดังใจตามคำอธิษฐานจริง

    หลังจากได้ผงมาระยะหนึ่งข้าพเจ้าจึงได้ลองทำตามวิธีหลวงพ่อพระปลัดพิจารณ์ในการใช้รักษาโรค ซึ่งในตอนนั้นข้าพเจ้าเกิดนิ้วมือขวาและแขนขวามีอาการชา จึงลองอธิษฐานทำตามหลวงพ่อดูโดยนำผงอธิษฐานผสมน้ำดื่ม ในเวลาเพียง ๑ คืนได้ผลอัศจรรย์เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก มีความศักดิ์สิทธิ์ตามคำบอกเล่าจริง เมื่อได้ประจักษ์กับตนเองโดยลำดับ จึงอธิษฐานเพื่อขอสร้างพระสมเด็จสักหนึ่งชุดเพื่อมอบตอบแทนเป็นของขวัญกับผู้ร่วมบุญกับคณะกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ จะได้ปกปักษ์รักษาท่านผู้ร่วมบุญเสริมบารมีความดีของท่านที่ได้ร่วมกันส่ง เสริมกิจกรรมการกุศลต่างๆ ของคณะกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ ด้วยของศักดิ์สิทธิ์หายากเช่นผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์นี้ และได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ของกองทุนที่ได้สะสมไว้กว่า ๓๘๑ รายการ เพื่อให้พระสมเด็จมหาสัมฤทธิ์ผลอุดมโชค เปรียบด้วยพุทธานุภาพไม่มีประมาณ ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์หาได้ยากในปัจจุบัน และเพื่อสืบสานเจตนารมณ์ของท่านเจ้าของผงสัมฤทธิ์ที่จะสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาต่อไป

    ธนสาร เซ้งรักษา
    กองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ
     
  18. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง

    ๑. เพื่อตั้งเป็นทุนกิจกรรม ของคณะกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ
    ๒. เพื่อสร้างอาคารที่พักผู้ปฏิบัติธรรมและถมดินกั้นน้ำ
    ๓. เพื่อสมทบทุนสร้างรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หน้าตัก ๓๒ นิ้ว

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์

    ๑. ลูกอมผงสมปรารถนามหาสัมฤทธิ์

    หลวงพ่อพระปลัดพิจารย์ วิจารโณ วัดโพธิ์ผักไห่ ซึ่งประกอบด้วย
    - ว่านดอกทอง เสน่ห์จันทร์หอม สาวหลง เถาวัลย์หลง ไม้ไก่กุก เสาตะลุงช้าง ยอดรักษ์ ยอดสวาท ดิน ๗ โป่ง ๗ ท่า ๗ ทุ่ง รากน้ำใจ ไคลเสมา ผงงาช้างดำ ดิน ๓,๐๐๐ สถานที่ ศิลาธิคุณและผงพุทธคุณมวลสารต่างๆ ที่ท่านสะสมไว้
    - ผงอิทธิเจสำเร็จวัดสัมฤทธิ์ ผงอิทธิเจหลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ ผงพุทธคุณหลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง ผงหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัลย์ กรุวัดในปากทะเล ผงพุทธคุณหลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบ ผงพุทธคุณหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ผงพุทธคุณหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอก ผงพุทธคุณหลวงปู่นาค วัดระฆังฯ ผงพุทธคุณหลวงปู่อ่อน วัดไทร สมุทรสงคราม ผงพุทธคุณหลวงปู่นาค วัดช่องลม สมุทรสงครามผงยาจินดามณีของหลวงปู่บุญ, หลวงปู่เพิ่ม, หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้วและของท่านเอง

    ๒. ผงอิทธิเจสำเร็จหลวงพ่อสัมฤทธิ์

    จำนวน ๑ ขันลงหินเล็ก, ผงพุทธคุณเกราะเพชร หลวงปู่ปาน โสนันโท วัดบางนมโค และของครูจาบ สุวรรณ ได้รับจากหลวงปู่อุดม วัดพิชัยสงคราม, ผงพุทธคุณที่พระครูสถิตธรรมานุรักษ์ วัดน้อย รวบรวมไว้, ผงพระเสด็จกลับและผงนะใต้ดาน วัดถ้ำเขาเงิน จ.ชุมพร, ผงพุทธคุณที่ท่านอ.สุธัน สุนทรเสวี ใช้สร้างวัตถุมงคล, ผงแป้งเสกต่างๆ อาทิ หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์เป็นต้น, ผงเถ้าอังคาร อัฐิธาตุ เกศา ชานหมาก จีวร ของครูบาอาจารย์กว่า ๑๒๗ รูป, ผงพุทธคุณหลวงปู่อุดม วัดพิชัยสงครามซึ่งได้รับตกทอดมาจากครูจาบ สุวรรณ, ผงพุทธคุณและผงปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย, ผงพุทธคุณของกองทุนฯ ในการจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ ถึงปัจจุบัน, ผงทรายทองอธิษฐานคุณแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติมและผงพระพุทโธน้อยชำรุด, ผงสมเด็จมงคลมหาลาภ, ผงสร้างพระพุทโธหลวงพ่อสังวาลย์, ผงเหล็กไหลเปียก ผงเงินไหลมา ผงตะไบแร่โคตรเศรษฐี ผงตะไบชนวนทองล้นเบ้าวัดหลวง ๙ รัชกาล ผงตะไบขวานฟ้า และทนสิทธิ์กายสิทธิ์ต่างๆ(ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซด์), ผงว่านหลวงปู่พรหมมา จ.อุบลราชธานี, ผงจินดามณีหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม, ผงพระเสด็จกลับของหลวงปู่สุภาและท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี, ผงคง ไชย ชุม, ผงจากกรุโบราณ วัดมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี วัดพระธาตุ จ.สุโขทัย วัดร้างจากคว้านพะเยา, ผงหลวงปู่เอีย วัดบ้านด่าน, ผงโสฬสหลวงปู่เอียม วัดสะพานสูง, ผงโสฬสหลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์, ผงจากกรุวัดนางพญา จ.พิษณุโลก, ผงหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน, ผงหลวงพ่อน้อยศิษย์หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, ผงพ่อท่านคล้าย, ผงท่านพระอาจารย์นำ ชินวังโส, ผงหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ จ.สุพรรณบุรี, ผงหลวงพ่ออาจ วัดองครักษ์ จ.สุพรรณบุรี, ผงท่านอาจารย์ธัน จารุเลข, ผงหลวงปู่ใบ(หลวงพ่อเกษมท่านยอมรับในเรื่องจิตสามารถสื่อสารกับหลวงพ่อเกษม ได้เหมือนหลวงปู่ดู่)

    ๓. ผงพุทธคุณและมวลสารในส่วนกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ ดังนี้

    ๑. พระธาตุข้าว,ข้าวสารหิน
    ๒. พระธาตุพระอรหันต์ ๕๐๐
    ๓. ผงพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า
    ๔. ผงพระธรรมธาตุและผงจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่
    ๕. ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอด
    ๖. ผงสมเด็จวัดเกศไชโย
    ๗. ผงข้าวก้นบาตร ชานหมากและน้ำหมาก หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    ๘. ผงชานหมาก หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
    ๙. ผงเนื้อพญากวางคำ (เนื้อหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา ในอดีตชาติที่เกิดเป็นพญากวาง)
    ๑๐. ผงสร้างพระรุ่นต่างๆ ของ หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา
    ๑๑. ผงกะลาตาเดียวจำนวน ๑๐ ลูก
    ๑๒. ผงใบโพธิ์เสก,ผงพุทธคุณ,แป้งเสก หลวงปู่แช่ม วัดดอนยายหอม
    ๑๓. ผงยาจินดามณี หลวงพ่อเพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    ๑๔. ผงกาฝาก ๑๐๘ ชนิด
    ๑๕. ผงอิทธิเจและผงพระเก่าที่ชำรุดจาก คณาจารย์ต่างๆ ไม่น้อยกว่า ๕ กิโลกรัม
    ๑๖. ผงอังคารธาตุหลวงปู่สุมโน ดาบส อาศรมเวฬุวัน
    ๑๗. ผงอังคารธาตุและเกศา หลวงปู่สุวรรณ เป็นศิษย์กรรมฐานคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ซึ่งหลวงพ่อสังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคี ยกย่องว่าเป็น พระอรหันต์สุขวิปัสสโก
    ๑๘. อังคารธาตุหลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล อายุ ๑๐๔ ปี
    ๑๙. ปูนแดงเสก, ไต้เสก, ทับทิม, ทรายทองเข้านิโรธ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม และเถ้าอังคาร
    ๒๐. เกศาและผงอุดพระพุทโธคลัง หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคี
    ๒๑. ผงทองคำเปลวและจีวรที่รูปเหมือน องค์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
    ๒๒. แป้งเสก หลวงปู่บุดดา ถาวโร
    ๒๓. ทรายเสก น้ำมันสังคโลกและน้ำมันชาตรี หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง
    ๒๔. ผงว่าน ๑๐๘ ชนิด
    ๒๕. ผงไม้จันทร์หอม
    ๒๖. เกศาและชานหมาก หลวงพ่อลี วัดผาแดง ซึ่งหลวงตามหาบัวยกย่องท่านว่า ”ธรรมลี”
    ๒๗. ผงพุทธคุณหลวงพ่อเกษม เขมโก
    ๒๘. ผงพุทธคุณหลวงปู่หมุน ฐิติสีโล วัดบ้านจาน
    ๒๙. ผงอังคาร,แป้งเสก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร
    ๓๐. ผงอังคารธาตุหลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส
    ๓๑. ผงอังคารหลวงปู่ จันทสาโร
    ๓๒. ผงอังคารหลวงปู่ครูบาพรหมมา พรหมจักรโก
    ๓๓. ผงอังคารหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    ๓๔. ผงอังคารหลวงปู่พวง สุวีโร
    ๓๕. ผงเสกหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
    ๓๖. ผงเสกครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    ๓๗. ผงเสกหลวงปู่ชอบ ฐานะสโม
    ๓๘. ผงเสก,แป้งเสกและเกศาหลวงปู่หลวง กตะบุญโญ
    ๓๙. ผงพระเครื่องหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
    ๔๐. เกศาหลวงปู่จันทร์โสม กิติกาโร
    ๔๑. เกศาหลวงปู่แว่น ธนปาโล
    ๔๒. เกศาหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช
    ๔๓. ผงใบลานหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ๔๔. ผงพระ กรุวัดป่านาคุน ขอนแก่น
    ๔๕. ผงพุทธคุณ,ผงยาวาสนา หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    ๔๖. ผงพุทธคุณ หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิตร
    ๔๗. ผงพุทธคุณ,ผงมหาราช หลวงพ่อแคล้ว วัดยมโลก กรุงเทพฯ
    ๔๘. ผงพุทธคุณ วัดเลา กรุงเทพฯ
    ๔๙. ผงกระเบื้องพระอุโบสถ วัดระฆังฯ,วัดกัลยาฯ,วัดไร่ขิง
    ๕๐. ผงพระรุ่นต่างๆวัดโพธิคุณ จังหวัดตาก
    ๕๑. ผงพุทธคุณหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    ๕๒. ใบโพธิ์ จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย
    ๕๓. ใบพลูดับเทียนชัย ในพิธีพุทธาภิเษก ๑๗ พิธี และดอกบัวพุทธาภิเษก ๔๙ พิธี
    ๕๔. ผงพุทธคุณหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
    ๕๕. ผงครั่งพุทรา หลวงพ่อแผ่ว วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
    ๕๖. ผงพระวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
    ๕๗. ผงธูปกรรมฐานจากพระสุปฎิปัญโณ ๖๓ พระองค์
    ๕๘. ผงธูปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
    ๕๙. ผงพระ จากวัดใหม่อมตรส
    ๖๐. ผงดินกากยายักษ์
    ๖๑. ผงสมเด็จวัดระฆัง และบางขุนพรหม
    ๖๒. น้ำพุทธมนต์และน้ำศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ
    ๖๓. ผงสร้างพระหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ (เจ้าคุณนรฯ อธิษฐานจิต)
    ๖๔. ผงจิตรลดา โดยสมเด็จพระญาณสังวร ประทานแก่พล.อ.ท. จิโรจน์ ฉายะพงษ์ เจ้ากรมสื่อสารทหารอากาศ
    เพื่อจัดสร้างพระพุทธสิหิงค์ ส.ทอ.
    ๖๕. ผง ข้าวที่เหลือจากการเสวย และดอกไม้บูชาพระของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสเสด็จพระราชดำเนิน ณ วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่
    ๖๖. ผงพระพุทธสิหิงค์ของกรมการสื่อสารทอหารอากาศพิธี ๖๐ ปี ธรรมศาสตร์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    ๖๗. ผงอธิษฐานจิตจาก ๖๐๐ พระคณาจารย์ ในพิธีสมโภชน์ ๖๐๐ ปี เจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่
    ๖๘. ผงวิเศษจากถ้ำพระธรรมมาสน์ จ.พิษณุโลก
    ๖๙. ผงพระธาตุสิวลีและพระอรหันตสาวก
    ๗๐. ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 จากชมพูทวีป
    ๗๑. ผงตะไบแผ่นทองชนะพระพุทธสิหิงค์ ส.ทอ. จากพระคณาจารย์ ๑๔๐ รูป ทั่งประเทศ อาทิ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี,
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง,หลงปู่เหรียญ วรลาโภ, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ,หลวงพ่ออุตตมะ กาญจนบุรี ฯลฯ
    ๗๒. ผงว่านยาจากการสร้างพระกลีบบัว ของหลวงปู่หล้า(ตาทิพย์) วัดป่าตึง จ.เชียงใหม่
    ๗๓. ผงพุทธคุณทั้ง ๕, ผงสูรย์ – จันทร์, ผงนิพพานสูญและผงมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๗๔. ทรายเสก ๘ พิธีมหาพุทธาภิเษก
    ๗๕. ผงว่าน ๑๐๘ และดินกากยายักษ์ของครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง จ.เชียงใหม่
    ๗๖. ข้าวสารดำ และข้าวสารหิน
    ๗๗. ผงดินถ้ำบาดาล ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
    ๗๘. ผงธูปและดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ
    ๗๙. ผงธูปและดอกไม้บูชาพระ วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๘๐. ผงธูปและดอกไม้บูชาพระ หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๘๑. ผงธูปและดอกไม้บูชาพระ ณ วิหารสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๘๒. ผงก้นกรุ จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๘๓. ปูนองค์พระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
    ๘๔. ดินพระธาตุศรีจอมทอง จ.เชียงใหม่
    ๘๕. ผงธูปและดอกไม้บูชาพระ ณ วิหารสมเด็จโต พรหมรังสี วัดระฆังโฆษิตาราม กรุงเทพฯ
    ๘๖. ผงเศษหยก
    ๘๗. เครือสาวหลง
    ๘๘. ผงธูป, ผงทองและดอกไม้ศาลพระกาฬ จ.ลพบุรี
    ๘๙. ผงฤๅษีพนมไพร
    ๙๐. ผงไม้งิ้วดำของหลวงปู่เกลื่อนวัดสองเขต ผ่านพิธีอธิษฐานวันถวายทองเข้าคลังหลวงจากหลวงตามหาบัว
    ๙๑. ผงไม้กาหลงรัง
    ๙๒. ผงแร่เหล็กไหล
    ๙๓. ผงธูปในวิหารพระพุทธสิหิงค์ วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่
    ๙๔. ผงจากชนวนพระกริ่งวัดชิโนรส กรุงเทพฯ
    ๙๕. ผงเกษรดอกไม้มงคล
    ๙๖. ผงธูปและปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดมหาชัย จ.นครพนม
    ๙๗. ผงระฆังเงิน ขุดพบในกรุวัดร้าง จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๙๘. ผงอิทธิเจ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์
    ๙๙. ผงพุทโธ หลวงพ่อเภา วัดถ้ำตะโก จ.ลพบุรี
    ๑๐๐. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2012
  19. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ๑๐๑. ผงพุทธคุณ หลวงปู่รุ่ง จ.ลพบุรี
    ๑๐๒. ผงพระญาณวิลาศ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี
    ๑๐๓. ผงพระกรุสังฆราชสุกไก่เถื่อน
    ๑๐๔. ผงพระกรุวัดเงิน
    ๑๐๕. ผงพระเนื้อดินโคนสมอ
    ๑๐๖. ทรายทองคำพระธาตุพนม จ.นครพนม
    ๑๐๗. ผงกรุทับข้าว จ.สุโขทัย
    ๑๐๘. ผงพระรอดและพระคง จ.ลำพูน
    ๑๐๙. ผงพระกรุนาดูน จ.มหาสารคาม
    ๑๑๐. ผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ , หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
    ๑๑๑. ผงบ่อดินเทวดา และผงวิเศษ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม
    ๑๑๒. ผงพระหลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดใหม่เสนาฯ กรุงเทพฯ
    ๑๑๓. ดินกากยายักษ์, ดินที่ฝังรกและผงธูป หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี
    ๑๑๔. ชันนะโรง พระเสตังคมุนี (พระแก้วขาว) วัดเชียงมั่น จ.เชียงใหม่
    ๑๑๕. ผงพระวัดป่าชัยวัน จ.ขอนแก่น พระอาจารย์สิงห์ วัดป่าสาลวันและพระกรรมฐานกว่า ๑๐๐ รูปอธิษฐานจิต
    ๑๑๖. ยาเส้นหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
    ๑๑๗. ข้าวก้นบาตรหลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร
    ๑๑๘. ผงสมเด็จบางขุนพรหมที่ชำรุดครั้งเปิดกรุ พ.ศ. ๒๕๐๐
    ๑๑๙. ผงแป้งเสกหลวงปู่หล้า (ตาทิพย์), หลวงปู่สิม ฯลฯ
    ๑๒๐. ผงพุทธคุณทั้ง ๕ หลวงปู่เลี้ยง สุชาโต วัดหนองเต่า จ.ลพบุรี
    ๑๒๑. ผงพุทธคุณล้วนหลวงปู่กวย วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท
    ๑๒๒. พลอยเสกหลวงพ่อเกษม เขมโก, หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา, ฯลฯ
    ๑๒๓. น้ำมันจันทน์เสกหลวงปู่หล้า (ตาทิพย์)
    ๑๒๔. น้ำมนต์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๑๒๕. น้ำบ้วนปากหลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
    ๑๒๖. น้ำมนต์ ๑๐๘ วัด
    ๑๒๗. น้ำอบ หลวงพ่อเกษม เขมโก
    ๑๒๘. น้ำมันว่าน ๑๐๘ ชนิด วัดหนองแวง จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๒๘
    ๑๒๙. สีผึ้งและน้ำมันชาตรีหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ. อุทัยธานี
    ๑๓๐. น้ำผึ้งเสาร์ห้า
    ๑๓๑. ไคลเสมา, ดินโบสถ์ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี
    ๑๓๒. สีผึ้งหลวงปู่หล้า (ตาทิพย์),หลวงปู่ดู่,หลวงปู่จันทร์โสม,ฯลฯ
    ๑๓๓. ดินใจกลางประเทศซึ่งหลวงปู่ทวดเคยมาจำพรรษา ณ วัดราชานุวาส จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๑๓๔. หินเขี้ยวหนุมานจากที่ต่างๆทั่วประเทศ
    ๑๓๕. ข้าวสารเสกครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรือง ประเทศพม่า
    ๑๓๖. ทรายเสกหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    ๑๓๗. ทัมทิมเสกหลวงพ่อเกษม เขมโก จ.ลำปาง
    ๑๓๘. ลูกแก้วมณีนพรัตน์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๑๓๙. สายสิจญ์เปิดโลกหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๑๔๐. กระจกโลงแก้วหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๑๔๑. หมากพลูและไม้โลง หลวงพ่อสนธิ์ วัดไทรย์ จ.อ่างทอง
    ๑๔๒. ดอกไม้บูชา หลวงปู่เลี้ยง สุชาโต วัดหนองเต่า จ.ลพบุรี
    ๑๔๓. ผงศักดิ์สิทธิ์หลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล จ.พระนครศรีอยุธยา
    ๑๔๔. อิฐยุทธหัตถี อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
    ๑๔๕. อิฐพระสถูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมืองงาย .เชียงใหม่
    ๑๔๖. อิฐพระสถูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมืองหาง จ.เชียงใหม่
    ๑๔๗. ผงพระแตก หัก อาทิ เจ้าคุณนรฯ, หลวงปู่ขาว, หลวงพ่อตาบ, ฯลฯ
    ๑๔๘. ผงขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่พงศ์ จ.ระยอง
    ๑๔๙. ทราย, เงิน, ทอง, นาค
    ๑๕๐. อิฐพระธาตุพนมองค์เดิม
    ๑๕๑. ว่าน ๑๐๘ หลวงปู่ขันธ์ กันตธโร วัดพระศรีอาริย์ฯ จ.ราชบุรี
    ๑๕๒. แป้งเจิมหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยอง
    ๑๕๓. ผงเสกเจ้าคุณนรฯ
    ๑๕๔. ผงเสกหลวงปู่เทียม วัดโบสถ์
    ๑๕๕. ผงสร้างพระวัดประสาท ท่าน้ำสามเสน
    ๑๕๖. ผงหลวงปู่พริ้ง วัดบางประกอก
    ๑๕๗. ผงพระวัดอัมพวัน จ.สมุทรสงคราม
    ๑๕๘. ผงสมเด็จ บางขุนพรหม
    ๑๕๙. ผงวัดเขาตะเครา
    ๑๖๐. พระเนื้อดินเก่าสมัยอยุธยา
    ๑๖๑. ผงพระ ๒๕ พุทธศตวรรษ
    ๑๖๒. ผงสร้างพระวัดยานนาวา
    ๑๖๓. แป้งเจิมหลวงปู่มี วัดมารวิชัย
    ๑๖๔. แป้งเจิมหลวงปู่สาย วัดดอนกระต่ายทอง
    ๑๖๕. ผงสร้างพระของคณะร่มโพธิ์ไทร
    ๑๖๖. ผงพุทธคุณที่ได้รับการอธิษฐานจิตจากพระคณาจารย์ต่างๆ
    ๑๖๗. สีผึ้งจันทร์เพ็ญของกองทุนฯ ซึ่งได้ผสมสีผึ้งจากพระคณาจารย์ต่างๆและสีผึ้งหลักเมืองปี ๓๐ และสีผึ้งตัวเก่าของกองทุนฯ
    ๑๖๘. ชันเพชร จากบุษบกพระแก้วมรกต
     
  20. coolsunny

    coolsunny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,237
    ค่าพลัง:
    +1,474
    ๔. มวลสารศักดิ์สิทธิ์จากสุดยอดพระสุปฏิปันโน

    ๑. หลวงพ่อทองบัว วัดโรงธรรมสามัคคี เชียงใหม่ เกศา
    ๒. หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ เกศา, อังคารธาตุ, จีวร, ขี้โย
    ๓. ครูบาคำมูล วัดต้นผึ้ง เชียงใหม่ เกศา
    ๔. ครูบากองแก้ว วัดต้นยางหลวง เชียงใหม่ เกศา
    ๕. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ เกศา, จีวร, อังคาร, แป้งเสก
    ๖. หลวงปู่บุญจันทร์ จันทาโร วัดถ้ำผาผึ้ง เชียงใหม่ เกศา
    ๗. ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่ เกศา, จีวร, ผงเสก
    ๘. ครูบาอินทจักร อินทจักรโก วัดน้ำบ่อหลวง เชียงใหม่ อังคารธาตุ
    ๙. ครูบาเทือง นาถสีโล วัดบ้านเด่น เชียงใหม่ เกศา
    ๑๐. ครูบาน้อย วัดบ้านปง เชียงใหม่ เกศา
    ๑๑. ครูบาอิ่นแก้ว วัดป่าแงะ เชียงใหม่ เกศา, จีวร
    ๑๒. หลวงปู่คำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่ เกศา
    ๑๓. พระธรรมดิลก กุสโล วัดป่าดาราภิรมย์ เชียงใหม่ เกศา
    ๑๔. หลวงปู่หล้า (ตาทิพย์) จันโท วัดป่าตึง เชียงใหม่ เกศา, จีวร
    ๑๕. หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ เชียงใหม่ เกศา
    ๑๖. ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่ เกศา
    ๑๗. ครูบาสิงห์ สิริวิชโย วัดฟ้าฮ่าม เชียงใหม่ เกศา
    ๑๘. ครูบาอินคำ วัดมหาวัน เชียงใหม่ เกศา
    ๑๙. ครูบาแสง วัดร้องกองข้าว เชียงใหม่ เกศา
    ๒๐. ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ วัดร้องขุ้ม เชียงใหม่ เกศา, จีวร
    ๒๑. ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่ เกศา
    ๒๒. หลวงปู่คำปัน สุภัทโท วัดสันโป่ง เชียงใหม่ อัฐิธาตุ
    ๒๓. หลวงปู่ธรรมธิ วัดสันป่ายาง เชียงใหม่ เกศา
    ๒๔. ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง เชียงใหม่ เกศา
    ๒๕. พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก เชียงใหม่ เกศา
    ๒๖. หลวงตาม้า สำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญ เชียงใหม่ เกศา
    ๒๗. ครูบาขันธ์ อันติโก สุสานไตรลักษณ์ แม่วาง เชียงใหม่ อังคารธาตุ, ผงเสก
    ๒๘. หลวงปู่ดาบส สุมโน อาศรมเวฬุวัน เชียงราย อังคารธาตุ
    ๒๙. หลวงปู่หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาบิ้ง เลย เกศา, อังคาร
    ๓๐. หลวงตาฮ้อ วัดถ้ำผาปู่ เลย เกศา
    ๓๑. หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ เลย อังคารธาตุ, อัฐิธาตุ
    ๓๒. หลวงพ่อเผย วิริโย วัดถ้ำผาปู่ เลย เกศา
    ๓๓. หลวงพ่อคำสุข วัดถ้ำผาปู่ เลย เกศา
    ๓๔. หลวงพ่อสีทน สีลธโน วัดถ้ำผาปู่ เลย เกศา
    ๓๕. หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ เลย เกศา, อังสะ, ชานหมาก, อังคารธาตุ, ผงเสก
    ๓๖. หลวงปู่ คำพอง ขันติโก วัดป่าอัมพวัน เลย เกศา, ชานหมาก, ข้าวก้นบาตร
    ๓๗. หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณลาโภ วัดศรีสุทธาวาส เลย เกศา
    ๓๘. หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน เลย เกศา
    ๓๙. สมเด็จพระณาณสังวร วัดบวรนิเวศวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เกศา
    ๔๐. หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดใหม่เสนานิคม กรุงเทพมหานคร เกศา
    ๔๑. หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล กรุงเทพมหานคร เกศา
    ๔๒. หลวงพ่อเมือง พลวัฒโฑ วัดป่ามัชฌิมาวาส กาฬสินธุ์ เกศา
    ๔๓. หลวงพ่อโพธิสารคุณ วัดโพธิ์โนนทัน ขอนแก่น เกศา
    ๔๔. หลวงปู่แนน วัดถ้ำยาว ขอนแก่น เกศา
    ๔๕. หลวงปู่มหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ ขอนแก่น เกศา
    ๔๖. หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม ขอนแก่น เกศา
    ๔๗. หลวงปู่นิล มหันตปุญโญ วัดป่าสุมนามัย ขอนแก่น เกศา
    ๔๘. หลวงปู่อินทร์ ถิรเสวี วัดศรีจันทร์ ขอนแก่น เกศา
    ๔๙. หลวงปู่ผาง วัดอุดมมงคลคีรี ขอนแก่น เกศา
    ๕๐. หลวงปู่พรหมา จารุวัณโณ สำนักสงฆ์บ้านม่วง ขอนแก่น เกศา
    ๕๑. หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จันทบุรี เกศา
    ๕๒. หลวงปู่กวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม ชัยนาท เกศา
    ๕๓. หลวงปู่วิไล เขมิโย วัดถ้ำพญาช้างเผือก ชัยภูมิ เกศา
    ๕๔. หลวงพ่อห้อน วัดมณีบรรพต ตาก เกศา
    ๕๕. หลวงพ่อสงัด วัดบางช้างเหนือ นครปฐม เกศา
    ๕๖. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม เกศา
    ๕๗. หลวงพ่อทวี นันทโก วัดอ้อมใหญ่ นครปฐม เกศา
    ๕๘. หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม วัดอรัญวิเวก นครพนม เกศา, จีวร
    ๕๙. หลวงปู่เมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ นครราชสีมา เกศา
    ๖๐. หลวงปู่ทา จารุธัมโม วัดถ้ำซับมืด นครราชสีมา เกศา
    ๖๑. หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา เกศา, ยาเส้น
    ๖๒. หลวงพ่อเป้า วัดถ้ำพรสวรรค์ นครสวรรค์ เกศา
    ๖๓. หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตาราม ปทุมธานี เกศา
    ๖๔. ครูบาบุญชุ่ม ญาณสังวโร วัดพระธาตุดอนเรือง ประเทศพม่า เกศา
    ๖๕. หลวงปู่สา สหธรรมมิกหลวงปู่ชอบ ประเทศพม่า อัฐิธาตุ, อังคารธาตุ
    ๖๖. หลวงพ่อนอง วัดทรายขาว ปัตตานี เกศา
    ๖๗. หลวงปู่หรุ่ม - พระนครศรีอยุธยา เกศา
    ๖๘. หลวงปู่เอียด วัดกล้วย พระนครศรีอยุธยา เกศา
    ๖๙. หลวงปู่เทียม จิรปุญโญ วัดกษัตราธิราช พระนครศรีอยุธยา เกศา
    ๗๐. หลวงปู่วิชัย วัดตูม พระนครศรีอยุธยา เกศา
    ๗๑. หลวงปู่อุดม วัดพิชัยสงคราม พระนครศรีอยุธยา เกศา
    ๗๒. หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา เกศา
    ๗๓. หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย พระนครศรีอยุธยา เกศา
    ๗๔. หลวงปู่สวัสดิ์ วัดศาลาปูน พระนครศรีอยุธยา เกศา
    ๗๕. หลวงปู่กอง จันทวังโส วัดสระมณฑล พระนครศรีอยุธยา อังคาร, อัฐิธาตุ
    ๗๖. หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา เกศา, อัฐิธาตุ, อังคารธาตุ, จีวร
    ๗๗. หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง มหาสารคาม เกศา
    ๗๘. หลวงปู่ลือ วัดป่านาทาม มุกดาหาร เกศา
    ๗๙. หลวงปู่จาม มหาปุญโญ วัดป่าวิเวกพัฒนาราม มุกดาหาร เกศา
    ๘๐. หลวงปู่คำน้อย วัดภูกำพร้า มุกดาหาร เกศา
    ๘๑. หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดภูจ้อก้อ มุกดาหาร เกศา
    ๘๒. หลวงปู่สิงห์ทอง วัดป่าสุนทราราม ยโสธร เกศา
    ๘๓. หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี ร้อยเอ็ด เกศา
    ๘๔. หลวงปู่มา ญาณวโร วัดสันติวิเวก ร้อยเอ็ด เกศา
    ๘๕. หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง เกศา, อังคารธาตุ
    ๘๖. หลวงปู่นนท์ วราโภ วัดเหนือวน ราชบุรี เกศา
    ๘๗. หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม ราชบุรี เกศา
    ๘๘. หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ ลพบุรี เกศา
    ๘๙. หลวงพ่อหิน วัดหนองนา ลพบุรี เกศา
    ๙๐. หลวงปู่แว่น ธนปาโล วัดถ้ำพระสบาย ลำปาง เกศา
    ๙๑. ครูบาแสน วัดท่าแหน ลำปาง เกศา
    ๙๒. หลวงปู่หลวง กตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง เกศา, แป้งเสก, ผงเสก
    ๙๓. หลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง เกศา, จีวร, อังสะ
    ๙๔. ครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย วัดบ้านปาง ลำพูน เกศา
    ๙๕. ครูบาเขื่อนคำ วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน เกศา
    ๙๖. ครูบาพรหมจักร พรหมจักรโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน เกศา, อัฐิธาตุ, อังคารธาตุ
    ๙๗. ครูบาขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม ลำพูน เกศา
    ๙๘. ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน เกศา, จีวร, ชานหมาก
    ๙๙. ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย ลำพูน เกศา
    ๑๐๐. ครูบาสุรินทร์ สุรินโท วัดศรีเตี้ย ลำพูน เกศา
    ๑๐๑. พระอาจารย์คำบ่อ ฐิตธัมโม วัดใหม่บ้านตาล สกลนคร เกศา
    ๑๐๒. พระอาจารย์แบน ธนกาโร วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร เกศา, จีวร
    ๑๐๓. หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร เกศา
    ๑๐๔. พระอาจารย์วัน อุตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร อังคารธาตุ
    ๑๐๕. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วชุมพล สกลนคร อังคารธาตุ
    ๑๐๖. พระอาจารย์สนั่น รักขิตสีโล วัดป่าสุขเกษมนิราศภัย สกลนคร เกศา
    ๑๐๗. พระอาจารย์แปลง วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร เกศา
    ๑๐๘. หลวงปู่กุ่น จิรปุณโณ วัดพันท้ายนรสิงห์ สมุทรสาคร อังคารธาตุ
    ๑๐๙. หลวงปู่ผัน วัดราษฎร์เจริญ สระบุรี เกศา
    ๑๑๐. หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีสุข สิงห์บุรี เกศา, แป้งเสก
    ๑๑๑. หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีฯ สุพรรณบุรี เกศา, อังสะ
    ๑๑๒. หลวงปู่สุวรรณ วัดทุ่งสามัคคีฯ สุพรรณบุรี เกศา, อัฐิธาตุ, อังคารธาตุ
    ๑๑๓. หลวงปู่เกลื่อน วัดสองเขต สุพรรณบุรี เกศา
    ๑๑๔. หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม สุรินทร์ เกศา
    ๑๑๕. หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์ อังคารธาตุ
    ๑๑๖. หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต วัดจันทราวาส หนองคาย เกศา
    ๑๑๗. หลวงปู่บัวพา ญาณสัมปันโน วัดป่าพระสถิตย์ หนองคาย เกศา, ถ่านบุพโพ, อังคารธาตุ
    ๑๑๘. พระอาจารย์จวน กุลเชษโฐ วัดภูทอก หนองคาย อังคารธาตุ
    ๑๑๙. หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต หนองคาย เกศา
    ๑๒๐. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หนองบัวลำภู เกศา, ชานหมาก
    ๑๒๑. หลวงปู่จันทร์ศรี วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี เกศา
    ๑๒๒. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อุดรธานี เกศา
    ๑๒๓. พระอาจารย์ทูล ชิปปัญโญ วัดป่าบ้านค้อ อุดรธานี เกศา
    ๑๒๔. หลวงปู่ถิร ฐิตธัมโม วัดป่าบ้านจิก อุดรธานี เกศา
    ๑๒๕. หลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี เกศา, ชานหมาก
    ๑๒๖. หวงปู่จันทร์โสม กิติกาโร วัดป่าบ้านนาสีดา อุดรธานี เกศา
    ๑๒๗. หลวงปู่กุด รักขิตสีโล วัดป่าบ้านหนองหัวหมู อุดรธานี เกศา
    ๑๒๘. หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดป่าประชาชุมพล อุดรธานี เกศา, ชานหมาก
    ๑๒๙. หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล วัดป่าสันติวิเวก อุดรธานี เกศา
    ๑๓๐. หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดป่าสิริสาลวัน อุดรธานี อังคารธาตุ
    ๑๓๑. หลวงปู่บัว สิริปุญโญ วัดป่าหนองแซง อุดรธานี เกศา
    ๑๓๒. หลวงปู่ลี วัดภูผาแดง อุดรธานี เกศา
    ๑๓๓. หลวงปู่ฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี เกศา, ชานหมาก
    ๑๓๔. หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อุบลราชธานี เกศา
    ๑๓๕. หลวงปู่บุญมี วัดสระประสานสุข อุบลราชธานี เกศา
    ๑๓๖. หลวงปู่ชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี เกศา, อังคารธาตุ
    ๑๓๗. หลวงปู่บุญศรี อินทปัญโญ วัดใหม่ศรีสุทธาวาส นครสวรรค์ เกศา
     

แชร์หน้านี้

Loading...