หลวงปู่มหาเจิมละสังขารพระป่าสาย'หลวงปู่มั่น'

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 7 กรกฎาคม 2012.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    [​IMG]

    หลวงปู่มหาเจิมละสังขารปิดอีก ๑ ตำนาน พระป่าสาย " หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต"


    เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ ที่โรงพยาบาลนครปฐม ได้แจ้งว่า พระครูภาวนาปัญญาดิลก หรือหลวงปู่มหาเจิม ปัญญาภโร วัย ๙๕ ปีเศษ เจ้าอาวาสวัดสระมงคล ต.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ถึงแก่มรณภาพแล้ว หลังจากเข้ารักษาตัวมาเป็นเวลานานกว่า ๓ เดือน ด้วยโรคชรา เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต

    พระครูบวรธรรมสถิต รักษาการเจ้าอาวาส บอกว่า หลวงปู่เจิมมีอาการป่วยมาเป็นเวลานานกว่า ๓ ปีแล้ว โดยเป็นโรคเกี่ยวกับอัมพฤกษ์ อัมพาต ขยับตัวไม่ได้ ต้องนอนซมรักษาตัวระหว่างวัดกับโรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน จนล่าสุดเมื่อประมาณ ๓ เดือนที่ผ่านมา อาการของหลวงปู่ไม่ดีขึ้นมีอาการทรุดตัวลง ทางวัดซึ่งมีเพียงพระลูกวัดไม่กี่รูปต้องผลัดกันดูแลหลวงปู่ และในที่สุดต้องนำหลวงปู่ส่งไปรักษาตัวที่ รพ.นครปฐม ซึ่งแพทย์ได้รับตัวไว้รักษาเป็นเวลากว่า ๓ เดือน และเห็นว่าอาการหลวงปู่เริ่มจะดีขึ้นจึงไม่คิดว่าจะมรณภาพ

    พระครูบวรธรรมสถิต รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระมงคล กล่าวว่า หลวงปู่มหาเจิมนับเป็นพระเถราจารย์ชื่อดัง เป็นพระสายปฏิบัติลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เริ่มมีอาการป่วยมานานกว่า ๓ ปีแล้ว เกี่ยวกับอัมพฤกษ์ อัมพาต ขยับตัวไม่ได้ ต้องนอนรักษาตัว เดินทางระหว่างวัดกับโรงพยาบาลมาเป็นเวลานาน เมื่อประมาณ ๓ เดือนก่อนมรณภาพ หลวงปู่มีอาการไม่ค่อยดี ศิษยานุศิษย์ช่วยกันนำหลวงปู่ส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา แพทย์ได้รับไว้เป็นผู้ป่วยใน อาการป่วยดีขึ้นเป็นลำดับ

    จนถึงเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ มิถุนายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ ๑๐.๔๕ น. หลวงปู่ก็ละสังขารลงอย่างสงบ ใบหน้าปกติเหมือนนอนหลับ และมีรอยยิ้มนิดๆ พระที่เฝ้าอยู่ยังไม่รู้หลวงปู่ละสังขารแล้ว แพทย์ลงความเห็นว่ามรณภาพด้วยอาการหัวใจล้มเหลว และได้รับออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายนนี้ นำกลับมาประกอบพิธีตามศาสนาที่วัด เปิดให้ศิษยานุศิษย์ได้สรงน้ำ ก่อนจะบรรจุโลงไม้สักทอง ๓ ชั้น

    ทั้งนี้วันอาทิตย์ที่ ๒๔ มิถุนายนที่ผ่านมา ทางวัดได้จัดให้มีพิธีสรงน้ำศพ และสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา ๗ คืน เวลา ๒๐.๐๐ น. ณ ศาลาการเปรียญ หลังจากนั้นสวดทุกวันพระ จนกว่าจะพระราชทานเพลิง ทั้งนี้ได้กำหนดงานทำบุญครบรอบวันมรณภาพ ๕๐ วัน ในวันเสาร์ที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ และกำหนดงานทำบุญครบรอบวันมรณภาพ ๑๐๐ วันและชาตกาลครบ ๘ รอบ ๙๖ ปีใน วันศุกร์ที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ ส่วนงานพระราชทานเพลิงศพนั้นขณะนี้ยังไม่ได้มีกำหนดการใดๆ ทั้งนี้จะต้องหารือกับพระชั้นผู้ใหญ่และคณะลูกศิษย์อีกครั้ง

    สำหรับชาติภูมิของลวงปู่มหาเจิมนั้น เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๕๙ ปัจจุบัน สิริรวมอายุได้ ๙๕ ปี ๙ เดือน พรรษา ๗๔ เป็นชาวจ.ฉะเชิงเทรา นับเป็นพระเถราจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่งในปัจจุบัน เป็นพระปฏิบัติกัมมัฏฐาน เป็นศิษย์พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต การศึกษาบาลีและนักธรรม ได้เริ่มศึกษาเมื่อปี ๒๔๗๑ หลวงปู่สอบบาลีไวยากรณ์ได้ที่ ๔ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ และในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ สอบได้นักธรรมเอก และหลวงปู่ยังสามารถสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค ได้ในปีเดียวกัน

    หลวงปู่มหาเจิม เป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต สหธรรมิกของท่านที่เคยอยู่ร่วมกันมามีมากมายหลายท่าน เช่น หลวงปู่เทศก์ เทสรังษี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต ต.บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ วัดเจริญสมณกิจ หรือวัดหลังศาล อ.เมือง จ.ภูเก็ต รวมทั้งหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดระหาร หรือ วัดเกาะแก้ว ธุดงคสถาน บ้านระหาร อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เป็นต้น

    หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ชอบสันโดษไม่หวังลาภยศใดๆ มีลูกศิษย์มาถามท่านว่าทำไมท่านไม่เทศน์บ้าง ท่านตอบว่า "ธรรมมีมากมาย พระเทศน์เก่งๆ ก็มีเยอะ แต่คนเอาธรรมไปใช้มีน้อย มีลูกศิษย์ท่านหนึ่งขอธรรมะจากท่าน ท่านได้ให้ธรรมะสั้นๆ แต่ออกจากใจท่านแท้ๆ ท่านเขียนไว้ว่า ปล่อยว่าง วางเบา เอาหนัก ท่านบอกว่าใครทำได้ถึงตรงนี้พ้นทุกข์ได้แน่นอน"

    หัวข้อธรรมที่ท่านมักบอกกับลูกศิษย์เสมอๆ ว่า "ท่านไม่เคยมีความลังเลสงสัยในพระพุทธเจ้า ในพระธรรม ในพระอริยสงฆ์ ในมรรคผลนิพพาน ความสงสัยเหล่านั้นได้หมดไปจากใจของหลวงปู่อย่างสิ้นเชิง เพราะได้รู้ได้เห็นด้วยปัญญา ในการปฏิบัติภาวนาอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า พระพุทธเจ้ามีอยู่จริง พระธรรมเมื่อนำมาปฏิบัติแล้วได้รับผลจริง พระอริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเมื่อปฏิบัติตามพระธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์จริง"


    วัตถมงคลรุ่นแรกและรุ่นเดียว


    "เป็นพระอรหันต์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบันนี้"

    เป็นคำกล่าวของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ยกย่องหลวงปู่มหาเจิมเมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่

    ด้วยคำกล่าวข้างต้นจึงมีนักสร้างวัตถุมงคลทั้งที่เป็นลูกศิษย์ และวัดต่างๆ ได้ทำหนังสือขออนุญาตจัดสร้างนับร้อยราย แต่หลวงปู่มหาเจิม ท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นกรณีพิเศษ เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๔๙ เนื่องในงานวันเกิดครบ ๙๐ ปี โดยมีข้อแม้ว่า "อนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียว และครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกโดยเด็ดขาด" และนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่หลวงปู่ได้อนุญาตให้จัดสร้าง ประกอบด้วย พระยอดธง รูปเหมือนลอยองค์ เหรียญรูปไข่ เหรียญเสมา ล็อกเกต รูปเหมือนหลวงปู่ยืนถือไม้เท้า และพระปิดตาเนื้อผง

    วัตถุมงคลรุ่นนี้มีการตั้งชื่อรุ่นว่า "ปัญญาบารมี" ทั้งนี้เพื่อหาปัจจัยสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล โดยหลวงปู่พระมหาเจิม เป็นประธานจุดเทียนชัยอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับ พระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า อาทิ หลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม, หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย, หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม,

    หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์, หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น, หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย, หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก,ห ลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด และ หลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญ

    หลวงปู่มหาเจิมละสังขารพระป่าสายหลวงปู่มั่น คมชัดลึก : ศาสนาพระเครื่อง : ข่าวทั่วไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2012
  2. สรรเสริญมหาโพธิสัตว์

    สรรเสริญมหาโพธิสัตว์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +1,176
    น้อมส่งเสด็จหลวงปู่สู่ พระนิพพานครับ
    ^^

    เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้รับมอบเกศาธาตุ-พระธาตุเล็บจากลูกศิษย์ท่านด้วยครับ ลูกศิษย์ท่านบอกว่า ท่านสุขภาพแข็งแรงดี (วันนั้นทางบ้านได้เตรียมปัจจัยข้าวของสำคัญในการดำรงขันธ์ของท่าน) แต่ทว่า เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ได้ยินคนแถวบ้านผมบอกว่า หลวงปู่มหาเจิม มรณภาพแล้ว ผมตกใจมากครับ ก็เสียดายที่ไม่ได้เจอท่านจริงๆ ก็ได้แค่การกราบไหว้ธาุตุของท่านคัรบ ที่ได้รับมอบมา เพื่อระลึกถึงท่าน
     
  3. สรรเสริญมหาโพธิสัตว์

    สรรเสริญมหาโพธิสัตว์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +1,176
    น้อมส่งเสด็จหลวงปู่สู่ พระนิพพานครับ
    ^^

    เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้รับมอบเกศาธาตุ-พระธาตุเล็บจากลูกศิษย์ท่านด้วยครับ ลูกศิษย์ท่านบอกว่า ท่านสุขภาพแข็งแรงดี (วันนั้นทางบ้านได้เตรียมปัจจัยข้าวของสำคัญในการดำรงขันธ์ของท่าน) แต่ทว่า เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ได้ยินคนแถวบ้านผมบอกว่า หลวงปู่มหาเจิม มรณภาพแล้ว ผมตกใจมากครับ ก็เสียดายที่ไม่ได้เจอท่านจริงๆ ก็ได้แค่การกราบไหว้ธาุตุของท่านคัรบ ที่ได้รับมอบมา เพื่อระลึกถึงท่าน
     
  4. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    หลวงปู่เจิม ปัญญาพโล พระเถระ-เมืองนครปฐม

    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    'พระครูภาวนาปัญญาดิลก' หรือที่ชาวบ้านมักเรียกขานว่า 'หลวงปู่เจิม ปัญญาพโล' ด้วยเป็นนามที่คุ้นเคยต่อการเรียกขานของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์ รวมทั้งผู้ใกล้ชิดที่เลื่อมใสศรัทธา เป็นพระเถระอีกรูปหนึ่งของเมืองนครปฐม ได้รับการยกย่องว่าเคร่งครัดพระธรรมวินัย

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า เจิม วรรณโมฬี เกิดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.2459 ตรงกับแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ณ บ้านหนองแหน ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา

    การศึกษาของท่านในวัยเด็ก ต้องศึกษากับวัดที่อยู่ใกล้บ้าน โดยเรียนหนังสือมูลบทบรรพกิจของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น เพราะสมัยนั้นยังไม่มีโรงเรียนประชาบาลตั้งอยู่ในวัด และยังต้องย้ายออกจากบ้าน ห่างจากบิดามารดาและญาติพี่น้องมาอยู่ที่วัดตั้งแต่อายุประมาณ 8 ขวบ

    จากนั้นได้บรรพชาเป็นสามเฌร เมื่อปี พ.ศ.2470 อายุได้ 12 ขวบ กับหลวงพ่อทอง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแสนภุมมาวาส ได้อยู่กับท่าน 1 พรรษา

    ในปี พ.ศ.2471 ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ และอยู่จำพรรษาที่วัดบรมนิวาส ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยคุณย่าอิ่ม รัดสกุล เป็นผู้นำมาฝากฝังกับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) และได้ญัตติเป็นธรรมยุต กับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ด้วย

    การศึกษาบาลีและนักธรรม ได้เริ่มศึกษาเมื่อปี พ.ศ.2471 สอบบาลีไวยากรณ์ได้ที่ 4 เมื่อปี พ.ศ.2472

    ในปี พ.ศ.2477 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก และสามารถสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค ได้ในปีเดียวกัน

    ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2480 ณ พระอุโบสถวัดบรมนิวาส มีพระพรหมมุนี (อ้วน ติสโส) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพินิจวิหารการ (ขำ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวินัยธร (ดำ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    พ.ศ.2484 พระมหาเจิมได้ออกธุดงค์ เดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือ ได้จำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนย้ายไปจำพรรษาที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

    พ.ศ.2488 ย้ายจำพรรษาที่วัดทิพย์วนาราม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ พ.ศ.2490 เดินทางกลับมาอยู่ภาคกลาง พ.ศ.2491 ได้ไปจำพรรษาที่ อ่าวหมู กับพระอาจารย์น้อย เกตุโร 1 พรรษา และได้เดินทางลงไปจำพรรษาที่ปักษ์ใต้ โดยได้ไปอยู่กับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่จังหวัดภูเก็ต

    พ.ศ.2499 กลับมาจำพรรษาที่วัดแสนภุมมาวาส อันเป็นบ้านเกิด พ.ศ.2503 จำพรรษาที่วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย กับหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ (พระสุธรรมคณาจารย์)

    ต่อมาท่านได้มาอยู่ที่มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เพื่อรักษาอาการอาพาธ และมาพักฟื้นอยู่กับหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท (พระครูสุทธิธรรมรังษี) ที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

    พ.ศ.2533 ท่านได้รับนิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

    ทั้งนี้ วัดสระมงคล มิได้เป็นวัดที่มีเสนาสนะพร้อมสมบูรณ์ แม้จะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่สภาพพื้นที่วัด ใครที่เดินทางไปอาจหาไม่เจอได้ เพราะห่างจากถนนใหญ่พอสมควร ป้ายใหญ่บอกทางก็ไม่มี ถนนคดเลี้ยวเหมือนจะนำไปสู่หมู่บ้านต่างจังหวัดที่กันดาร จนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีอารามอยู่ในพื้นที่นี้

    หลวงปู่เจิมได้สร้างคุณูปการแก่วัดไร่เป็นอันมาก ก่อสร้างถาวรวัตถุของวัด อาทิ สร้างหอสวดมนต์, ศาลาการเปรียญ สำหรับหมู่กุฏิของวัดมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม อยู่ท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมยิ่ง

    ในเรื่องการจัดสร้างวัตถุมงคล บ่อยครั้งที่มีลูกศิษย์และสาธุชนที่เลื่อมใสหลวงปู่เจิมจะเข้ามากราบขออนุญาต บอกว่า อยากได้วัตถุมงคลของท่านไปบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล

    แต่หลวงปู่เจิมเพียงยิ้มรับและไม่เคยอนุญาตให้จัดสร้าง ซึ่งที่ผ่านมามีนักสร้างพระไปขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลนับสิบราย แต่ท่านไม่เคยอนุญาตให้ใครเลยสักรายเดียว

    แต่ในที่สุด ท่านอนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกสร้างโดยเด็ดขาด สาเหตุที่อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูง

    เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. เวลา 10.45 น. หลวงปู่เจิมได้ละสังขารลงอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลนครปฐม ด้วยโรคชรา

    [FONT=Tahoma,]หน้า 31[/FONT]

    http://www.khaosod.co.th/view_news.p...MHdOeTB3Tnc9PQ==
     
  5. baimaingam

    baimaingam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    634
    ค่าพลัง:
    +880
    น้อมส่งหลวงปู่สู่นิพพานครับ...
    ...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    กราบหลวงปู่เจิม ปัญญาพโล เจ้าค่ะ
     
  7. plamoil

    plamoil Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +40
    คำสอนของปู่ "ปล่อยว่าง วางเบา เอาหนัก" ปล่อยว่างจากปัญหาทั้งหลายทั่งปวง พอวางปัญหาลงได้ใจเราก็สบาย เอาหนักหมายถึงการปฏิบัติค่ะ หลานน้อมส่งปู่นะค่ะ หลานคิดถึงปู่เสมอ รอยยิ้มของปู่หลานจะจำไว้และเอามาเป็นกำลังใจในชีวิตค่ะปู่
     
  8. Lacuna

    Lacuna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    3,132
    ค่าพลัง:
    +250
    น้อมส่งหลวงปู่สู่นิพพานครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...