จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027

    สาธุ ขอบคุณค่ะ ครูวิทย์ สำหรับกำลังใจ
    พูดแล้วก็ขอแชร์ค่ะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเหมือนได้ฝึกจิต(เกาะพระ)ภาคสนามค่ะ งงกันละซี้ 555 บอกให้ก็ได๊ค่ะ พอดีว่าได้ไปทำงานแทนน้องเค้าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แล้วที่ร้านยุ่งมากกกก มีสิ่งที่เข้ามากระทบอารมณ์สารพัดด้าน แต่ปรากฎว่าตัวเองนิ่งมาก ควบคุมได้ทุกสถานการณ์น่ะ โดยที่ไม่ต้องพยายามระงับหรือสะกดอารมณ์ใดๆ ไว้ทั้งสิ้นเลย อะไรเข้ามากระทบมันกระดอนออกไปหมดเลยอ่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนรึ ปี๊ดแตกไปแล้วค่ะ จะอารมณ์เสีย ขี้หงุดหงุด แล้วก็จะขี้บ่น คือระบายออกมาว่างั้นเถอะ แล้วมันจะรู้สึกหนักๆในตัวเราอ่ะน่ะ แต่ ณ ตอนนี้ไม่มีเลย นิ่งมากก สงบจริงๆ ไม่รู้สึกหนักอึ้งในตัว ป๊าดดดด..ทำไมมันอเมซิ่งอย่างนี้ มันช่างวิเศษจริงๆ นี้แหล่ะค่ะ จะผ่านไม่ผ่าน ก็อยู่ที่ การฝึก(จิต)ภาคสนามนี้แหล่ะค่ะ เกษว่าน่ะ ต้องขอบใจน้องเค้าจริงๆ ที่ให้ไปทำแทนในวันนั้น ไม่อย่างงั้นก็ไม่ได้ ฝึกจิตภาคสนาม(ตอนแรกไม่อยากจะไปทำ อยากจะดูจิตดูสติตัวเองที่บ้านเงียบๆ) มันฝึกภาคสนามแม้กระทั่งตอนที่พิมพ์ตอบคุณวิทย์นะค่ะ พิมพ์มาตั้งยาวจนเสร็จแล้ว กำลังจะส่ง ดั๊นไปกดตัวไหนไม่รู้หายหมดเลย ต้องมานั่งพิมพ์ใหม่อีกรอบ อนิจจังทุกขัง อะไรก็ไม่เที่ยงจริงๆ นะค่ะ ครูวิทย์ รู้ป่าว วันนี้จิตเกษหายไปไหนก็ไม่รู้ รู้สึกว่าหายไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ ฮื้อ....
     
  2. watta chan

    watta chan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +586
    ขอบคุณครับครูเพ็ญ อธิบายความว่างได้ละเอียดดีจังครับ
     
  3. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027

    สาธุ สาธุ สาธุ๊ ขออนุโมทนาบุญกับธรรมมะเป็นทานยุคไฮเทคอย่าง คอมพิวเตอร์ นี้ด้วยนะค่ะ อ่านแล้วช่างเข้าใจเปรียบเทียบได้น่ารักจริงๆ ธรรมมะใสๆ กับจิตบุญวัยทีน อิๆๆ สาธุ
     
  4. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    ความว่างภาค 2 (ตอนจบ)

    ไหนๆก็ไปยกบทความเรื่อง "ความว่าง" ของผู้อื่นมาให้อ่านกันแล้ว..
    บวกกับธรรมทานเรื่อง "ความว่าง" ตามลำดับชั้นของอริยบุคคลของครูเพ็ญแล้ว..
    เราว่ามันยังไปไม่สุด.. จึงขอเพิ่มเติมต่ออีกหน่อย เพื่อความเข้าใจที่แจ่มแจ้งมากยิ่งๆขึ้น.. ไหนๆก็ไหนๆแล้ว..

    ในบทความของท่านแรกนั้น ท่านพูดถึง "ว่างจริง" กับ "ว่างเก๊" ความจริงมันก็แค่เป็น "สมมุติบัญญัติ" ของท่านนั้น ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร.. เพียงแต่ว่าท่านผู้อ่านเองอาจจะไปตีความเข้าใจบางอย่างผิดเอง.. เดี๋ยวจะไปกันใหญ่(ของเขาดีอยู่แล้ว แต่เกรงว่าผู้นำไปใช้อาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนเอง)
    ส่วนของครูเพ็ญ(ครูละเอียดของเรา) ได้เมตตาแจกแจงรายละเอียดของความว่างจากการเดินมรรควิธี เป็นลำดับชั้นตามความละเอียดของจิตที่รับรู้เรื่องความว่างเข้ามา (ตามลำดับของอริยบุคคลแต่ละขั้นๆขึ้นไป) ซึ่งก็ชอบแล้วเป็นอย่างยิ่ง..

    แก่น:-
    แท้จริงแล้วอันความว่างก็คือ สภาวะธรรมแบบหนึ่งซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ไม่มีอะไรเลยหรือ "อนัตตา" ไม่มีตัวไม่มีตน ไม่มีเขาไม่มีเรา ไม่มีเราไม่มีของเรา ไม่มีเขาไม่มีของเขา คือไม่มีอะไรเลยจริงๆ ว่างๆ ว่างเปล่าอยู่อย่างนั้น..
    ซึ่งเจ้าสภาวะธรรมความว่างตัวมันเองก็เป็นอนัตตาเช่นเดียวกัน (เจ้าตัวความว่างก็คือความว่างหรืออนัตตาอีกเช่นเดียวกัน) คือว่าเจ้าสภาวะธรรมความว่างนี้มันเกิดขึ้นได้จากเหตุและปัจจัยจึงยังความไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ต้องดับไปเช่นเดียวกัน (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) ดังคำกล่าวที่ว่า "สรรพสิ่งใดๆล้วนแต่เป็นอนัตตา" ความว่างก็เป็นสิ่งๆหนึ่ง(เป็นนาม)ก็เป็นอนัตตาเช่นเดียวกัน ดังนั้น "ความว่าง ก็คือ ความว่าง" (ถือโอกาสโฆษณาโลโก้ซะเลย..อิอิ)
    นี่..ถ้ามองเห็นและเข้าใจได้อย่างนี้แล้วก็ถือเป็นการวิปัสสนามหาสติปัฏฐาน4 (กาย เวทนา จิต ธรรม) คือ "เห็นธรรมในธรรม"
    "เห็นธรรม" หมายความว่า เห็นความไม่เที่ยง เกิด-ดับ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของสิ่งที่เรากำลังพิจารณาอยู่ นั่นก็คือ
    "ในธรรม" ในที่นี้หมายความถึงว่า เจ้าสภาวะความว่างที่เราพูดถึงกันอยู่
    โดยรวมความแล้วคือ จงอย่าไปยึดมั่นถือมั่นในสรรพสิ่งใดๆเลย เพราะที่สุดมันก็เป็น "อนัตตา"..

    เปลือก:-
    ส่วน"ความว่าง" ที่ได้พูดคุยกันอยู่นั้นแท้จริงแล้วมันก็เป็นเรื่องมุมมองที่เรามองเข้าไปในความว่างนั้นๆว่ามองจากมุมมองอะไรเช่น
    - มองจากเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดความว่าง
    - มองจากขบวนวิธีการและการดำรงอยู่ของความว่าง
    - มองจากผลแห่งความว่าง
    นิยาม"ความว่าง" ก็คือ สภาวะธรรมที่ไม่ปรากฎว่ามีสิ่งใดๆเลย ในนั้น.. แค่นี้แหล่ะ
    ความว่างเกิดขึ้นมาจาก จิตที่นิ่งสงบ(โดยมีสติเป็นตัวประครอง) ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการเจริญสัมมาสติ สัมมาสมาธิ นั่นก็คือ การเจริญสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ในทางพุทธศาสนาของพวกเราๆท่านๆทั้งหลาย
    ความว่างจากการเจริญสมถะกรรมฐาน
    - อาศัยสติไปเป็นตัวกำหนดกุศโลบายกรรมฐานต่างๆ(ในทางพุทธเรามี40กอง) โดยเกิดเบื้องต้นจากอุปกิเลสความอยาก คือว่าเอากิเลสที่เป็นกุศลไปฝึกฝนอบรมจิตให้สงบ ตั้งมั่นเป็นสมาธิ จนกระทั่งเป็นเอกกัตคตารมณ์ ตัดสิ้นซึ่งนิวรณ์และกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้ จนก่อให้เกิดสภาวะธรรมแห่งการที่ไม่มีอะไรเลย นั่นก็คือ "ความว่าง"นั่นเอง (ซึ่งบทความของท่านนั้นเรียกว่า "ว่างเก๊")
    - ความว่างนี้เกิดจากกำลังแห่งฌานสมาบัติ ก็มีลำดับชั้นเช่นกันจากฌาน1ไปจนถึงฌาน8และทะลุไปยังนิโรธสมาบัติ ในระหว่างที่ทรงความว่างแบบสมถะอยู่นั้น ก็จะไม่มีสิ่งใดๆมาปรากฎเกิดขึ้นเลยตลอดระยะเวลาแห่งการทรงฌานขั้นสูงๆคือ "ว่างสุดๆเลย"
    - ภายหลังถอยฌานออกมา(เหตุปัจจัยหายไป) ความว่างจึงหายไปด้วยความว่างสมถะเกิดจากกำลังแห่งฌานสมาบัติกดทับเอาไว้ จึงเป็น "ความว่างชั่วคราว" (หรือ ว่างเก๊ ในสมมุติบัญญัติของท่านที่เขียนบทความนั้น)
    - ความว่างเช่นนี้ เป็นความว่างของผู้ทรงฌาน เมื่อตายไปแล้วเกิดเป็นพรหม สามารถดำรงอยู่ได้เป็นแสนๆปีเลยบนสวรรค์ชั้นพรหม ส่วนว่าจะยาวนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับกำลังฌานสมาบัติของพรหมนั้นๆ แต่เมื่อถึงที่สุดครบวาระก็จะต้องเคลื่อนลงมาจุติต่อไปอีก คือ "ความว่างที่ยังอยู่ในวัฏฏะ"

    ความว่างจากการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
    - ก็อาศัยสติไปเป็นตัวกำหนดกุศโลบายกรรมฐานเช่นกัน(ในทางพุทธเราคือการเจริญมหาสติปัฏฐาน4) โดยเกิดเบื้องต้นจากอนุสัยกิเลสความอยากเช่นเดียวกัน(ความปรารถนาพระนิพพาน) คือว่าเอากิเลสที่เป็นกุศลไปฝึกฝนอบรมจิตให้สงบ ตั้งมั่นเป็นสมาธิ พิจารณาวิปัสสนา กาย เวทนา จิต ธรรม จนกระทั่งเป็นเห็นสรรพสิ่งล้วนแต่เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตัดสิ้นซึ่งอาสาวะกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้ จนก่อให้เกิดสภาวะธรรมแห่งการเกิด-ดับ เกิด-ดับของสิ่งต่างๆ จนเมื่อไม่มีการเกิด-ดับก็จะกลายเป็นการที่ไม่มีอะไรเลย นั่นก็คือ "ความว่าง"นั่นเอง (ซึ่งบทความของท่านนั้นเรียกว่า "ว่างจริง")
    - ความว่างนี้เกิดจากกำลังแห่งปัญญาวิมุติรู้แจ้งแทงตลอด ละวางการยึดมั่นถือมั่นในสรรพสิ่งต่างๆลง ก็มีลำดับชั้นเช่นกันจากขั้นพระโสดาบันไปจนถึงขั้นพระอรหันต์ ในระหว่างที่ทรงความว่างแบบวิปัสสนาอยู่นั้น ก็จะมีสิ่งใดๆมาปรากฎเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาแห่งความว่างนั้นๆอยู่ เมื่อเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เมื่อดับไปก็กลับมาเป็นความว่างดังเดิมอีก
    - เมื่อมีเหตุปัจจัยเข้ามากระทบความว่างก็จะหายไป แต่พอใช้ปัญญาละวางลงได้ความว่างก็ย้อนกลับมาใหม่ เหตุด้วยความว่างจากวิปัสสนานั้นเกิดจากกำลังแห่งปัญญาวิมุติละวางสิ่งต่างๆเอาไว้ได้ มีการแปรเปลี่ยนตลอดเวลาแล้วก็กลับมาว่างต่ออีก เกิด-ดับ เกิด-ดับ จนกระทั่งเข้าถึงขั้นปรมัตถธรรม(หรือสัจจธรรมเหนือสมมุติ) คือการเห็นว่าเป็นความว่างตลอด เพียงแค่มีสิ่งๆหนึ่งหรือสิ่งหลายๆสิ่ง ได้ผ่านเข้ามาในความว่างแล้วก็จากออกไปจากความว่างนั้นๆ จึงเป็น "ความว่างแบบถาวร"(หรือ ว่างจริง ในสมมุติบัญญัติของท่านที่เขียนบทความนั้น)
    - ความว่างเช่นนี้ จึงเป็นความว่างของโลกุตระผู้ทรงปัญญาวิมุติ(พระอรหันต์) เมื่อดับขันธ์ไปแล้วก็ไปสู่พระนิพพาน ไม่มีอุปทานภพชาติใดๆอีกแล้ว จึงไม่มาเกิดอีกแล้ว คือ "ความว่างที่หลุดพ้นจากวัฏฏะ" นั่นเอง..


    แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นแก่นหรือเปลือก มันก็เป็นอนัตตา..
    ให้แค่ รู้-วาง เกิด-ดับ อย่าไปยึดติดเท่านั้นเป็นพอ..

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี
     
  5. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027

    สาธุค่ะ คุณนกชาย 5555 อ่านแค่ชื่อเรื่องก็สะดุ้งแล้วค่ะ แต่จะต่างนิดส์นึงที่ว่า เกษชอบจะเก็บแบงค์ใหม่ๆ ไว้ทำบุญ แบงค์เก่าเอาไว้ใช้เอง แต่ก็อย่างที่คุณนกชายว่ามาค่ะว่า จะแบงค์เก่าแบงค์ใหม่ ก็มีค่าในตัวของมันเหมือนกัน แบงค์ร้อยจะเก่าหรือใหม่ ก็มีค่าร้อยบาทเหมือนกันเนอะ สาธุ๊
     
  6. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027

    สวัสดีจ้าาาน้องปาล์ม มาแล้วเหรอ ไวดีจัง อิๆ ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ คุณวัฒน์จะพาน้องทัวร์กระทู้มั้ยค่ะ 55
     
  7. camrymax

    camrymax นายองครักษ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ครับพี่เกษ ^__^.....
     
  8. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    55555 ได้ฉายาใหม่เลยรึนี้เรา 555 "เจ๊ดัน"
    ถ้าดันแล้วได้ดี ก็ยินดีคร๊าบบบผมมมม:cool:
     
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ป๊าดดดด
    ตกลงใครพูดก่อนเนี๊ย! ป๊าดดด
    ระวังจิตของตนให้ดีๆนะ เตรียมจะยกแล้ว
    ไม่ว่าสติพบเจออะไร ตัดทิ้งให้หมด
    ไม่ว่าจะทุกข์-สุข ยินดี-ยินร้าย คำตำหนิ-คำชม อย่าหลงเก็บมาประดับจิตของตน
    มาถึงตรงนี้แล้ว ตัดทิ้งให้มด สร้างสติลูกเดียว
    ใครจะเกิด ใครจะแก่ ใครจะป่วย หรือใครจะตาย ช่างเขาปะไร
    ตอนนี้เอาจิตของตนเองรอดอย่างเดียวก่อน อย่างอื่นปล่อยไปก่อน

    ช่วงนี้ให้เธอพยายามหมั่นก๊กไข่ ก๊กจิต บ่มจิตตนเองให้เยอะๆ เพราะอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง
    ระวังนะ อย่านำจิตไปขัดขวางการเดินทางของจิต
    เมื่อรู้สึกว่าจิตหายไป เราอย่าพยายามไปค้นหา อย่าเอาสติไปนำน้องจิต ให้สติตามดู ตามรู้จิตเฉยๆ
    แต่ถ้าสมีสติแล้ว ตามดูแล้ว แต่ไม่เห็นจิตว่าอยู่ที่ไหน หรือกำลังทำอะไร
    อย่าตกใจกันนะ เพราะถึงอย่างไร ถึงเราจะมีสติมากแค่ไหร่ ก็ตามจิตไม่ทัน
    อันนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องตกใจ
    ถ้าใครเดินจิตมาถึงวิปัสสนา ส่วนใหญ่สติมักจะตามไม่ทัน
    อย่าตกใจ ตามไม่ทันก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้มีสติมากๆเหมือนเดิมเข้าไว้
    ถ้าจิตใครเดินมาถึงตรงนี้แล้ว ก็จะรู้สึกว่างงๆ และก็งงๆ
    ปล่อยให้งงไปก่อน ไม่ต้องสงสัย เมื่อถึงบางอ้อก็จะรู้เอง
    เพราะว่าจิตกำลังอยู่ในย่านวิปัสสนาของเขาเอง

    ***เกิดมาก็ไม่เคยพบ ไม่เคยเจอใช่ไหม๊หล่ะ! คิดไม่ถึงว่า จิตเกาะพระนั้น
    จิตเข้าฌานเองหรอ? จิตวิปัสสนาข้างในของเขาได้เองหรอ?
    แต่ถ้ากรรมฐานกองอื่นๆจะช้ากว่านี้ พอดีหมดความพยายาม เพราะความอดทนต่ำ
    แต่ถ้าจิตของใครเดินมาถึงตรงนี้ มิใช่ง่าย บางท่านภาวนาทั้งชีวิต
    เผลอๆแก่ตายก่อน


    ***ใครงงมาก ก็ให้ไปถามครูเพ็ญกันนะ เพราะท่านเป็นเจ้าแม่หวย เอ๊ย! เจ้าแม่งง
    และท่านก็งงกว่าใครๆอีก

    ***ครูเพ็ญครับ ผมเจอตัวแล้ว น้องเกษคนนี้แหล่ะ! เธอคือเจ้ดัน ฮ่าๆ
    ทำให้ผมนึกถึง Amway เพราะตอนนี้เธอไปสร้างดาวไลน์ หางานให้ครูเพ็ญซะเพี๊ยบเลย
    ครูเพ็ญร้องไห้แน่ๆ
    ป๊าดดด!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 กรกฎาคม 2012
  10. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    สวัสดีค่ะ คุณแสงจันทร
    กลับมาพร้อมกับธรรมะอันน่าอ่านอีกตามเคยนะคะ
    โมทนาสาธุการค่ะ
     
  11. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุการเจ้าค่ะ
    อ่านแล้วถูกใจตรงจิตดีแท้ ท่านจิตบุญทั้งหลายจงเข้าใจอยู่
    ซำเหมอว่า ถึงแม้จิตท่านจะยกแล้วก็ยังต้องถูกยำทางขันธ์ห้าอยู่ดี
    ฉะนั้นสติตามให้ทัน อย่าเอาจิตไปมั่วกับขันธ์ห้า เดี๋ยวจะ
    เป็นปล่อยแล้วไม่หลุด วางแล้วก็ยังไม่ลง กลับไปเรียนซ้ำชั้น
    ใหม่คราวนี้ ต้องเจอไม้หน้าสามกันไม่ใช่ได้เรียวแล้วนะจะบอกหั่ย
    555555555
     
  12. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    สาธุ ขอบคุณท่านพี่ลูกที่นำมาลงให้อ่านเป็นความรู้กันเจ้าค่ะ
     
  13. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุกับนอ้งวิทย์คร๊าบบบบ
    ฝนไม่ตกจิตก็ไม่ตกเหมือนกันนะจ๊ะ
     
  14. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุกับครูละเอียดและครูลูกพลัง
    อ่านแล้วไม่รู้ละเอียดไปไหนอ่ะ มันว่างไปโหมด อิอิ
     
  15. watta chan

    watta chan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +586
    โอ้โฮ ทำไมอธิบายได้ละเอียดอย่างนี้นะ งั้นเราก็ยังห่างไกลจากความว่างอยู่อีกโขเลยเชียว อนุโมทนาสาธุ อย่างยิ่งเลยครับ
     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ทุกข์ในรูปแห่ง สุข

    สิ่งที่ไม่น่ายินดีมักปลอมมาในสิ่งที่ น่ายินดี
    สิ่งที่ไม่น่ารักมักจะมาใน น่ารัก
    ทุกข์มักมาในรูปแห่ง สุข

    ท่านผู้แสวงหาในสัจจะ คนส่วนใหญ่มักหลงใหลในมายาธรรม คือสิ่งกลับกลอก หลอกลวง
    ยึดถือเอาว่าสัจจะธรรมคือ ของจริง
    จึงถูกมายาธรรมนั้น ห่ำหั่น ย่ำยี่ บีบคั้นหัวใจให้ต้องเศร้าโศรก คร่ำครวญรำพัน ที่ว่าสุข ก็หาว่าสุขเป็นจริงไม่
    แท้ที่จริงแล้วมัน เป็นความทุกข์ที่ปลอบตัวเป็นรูปแห่ง สุข หรือเป็นเหยื่อแห่งสุขเป็นตัวล่อเล็กน้อย
    เสมือนศัตรูปลอมตัวเป็นรูปแห่งมิตร

    ***สุขแท้ ต้องเกิดจากคุณธรรม จากความดี ทำความเพียร ลดอาสวะ กิเลสลดมากเท่าใด ทุกข์ก็ลดลงมากเท่านั้น
    เมื่อทุกข์ลดลงถึงที่สุด ก็เรียกว่า ที่สุดแห่งทุกข์ คือนิพพาน เหมือนความร้อนลดลงที่สุดก็เป็นสภาพที่เย็นที่สุด
    นี่แหล่ะ คือความสุขแท้ ไม่มีความทุกข์แอบแฝงมาด้วย
    ซึ่งมีความเย็นใจเป็นรางวัล พร้อมกันนั้นความรู้แจ้งตามความเป็นจริงในสิ่งทั้งปวง ในสว่างไสวขึ้นในดวงจิต
    และยังนำทางแสงสว่างให้เราดำเนินระหว่างยังมีชีวิตด้วย

    บุคคลที่อบรมจิตและปัญญามาน้อย แสงสว่างในดวงจิตจึงมีน้อย จึงไม่อาจมองเห็นตามความเป็นจริงได้
    จึงถูกหลอกอยู่เรื่อยไป
    หรือใครมีแสงสว่างเท่าใด จึงมองเห็นอะไรได้เฉพาะหน้าเท่านั้น คนมีแสงสว่างน้อยก็เห็นได้น้อย
    และเห็นเฉพาะวัตถุหยาบเท่านั้น

    คนส่วนใหญ่ที่บอกว่าเป็นทุกข์ แท้จริงแล้ว ก็คือ จิตของตนเองต่างหาก จิตก็เลยหลงเป็นทุกข์
    ความหลง เกิดมาจากสาเหตุหลัก ก็คือ ความไม่เข้าใจ ไปไม่ถึงกระแสจิตของตนเอง
    พวกเราจึงเข้าไปไม่ถึงกระแสธรรมกันสักที เราก็พลอยไม่พ้นทุกข์กันสักที

    นี่ไงเล่า คือ ความจริง!
     
  17. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>dutchanee, watta chan, สู่วันใหม่, newwave1959, watjojoj, แสงจันทร, ธัมมัง, natthapatpun+, Dhammanee, Wittayapon, urairatvi, ลูกพลัง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>dutchanee, watta chan, สู่วันใหม่, newwave1959, watjojoj, แสงจันทร, ธัมมัง, natthapatpun+, Dhammanee, Wittayapon, urairatvi, ลูกพลัง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>dutchanee, watta chan, สู่วันใหม่, newwave1959, watjojoj, แสงจันทร, ธัมมัง, natthapatpun+, Dhammanee, Wittayapon, urairatvi, ลูกพลัง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 19 คน ( เป็นสมาชิก 12 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>dutchanee, watta chan, สู่วันใหม่, newwave1959, watjojoj, แสงจันทร, ธัมมัง, natthapatpun+, Dhammanee, Wittayapon, urairatvi, ลูกพลัง </TD></TR></TBODY></TABLE>
    dutchanee, watta chan, สู่วันใหม่, newwave1959, watjojoj, แสงจันทร, ธัมมัง, natthapatpun+, Dhammanee, Wittayapon, urairatvi, ลูกพลัง
    มีแต่ชาวเราอ่ะ ชาวเขาอยู่หนาย
    อ้อ เห็นแร๊ว 7 ท่าน ไม่ได้เป็นสมาชิก
    งั้น 7 ท่าน เจอกันในเมลล์นะจ๊ะ
    ฮิ้ว.........
     
  18. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    (จิตอยากถาม)​

    ขอถามหน่อย
    คุณเห็นเมฆก้อนนั้นมั๊ย!
    บนท้องฟ้า นั่นไง!

    ผมไม่รู้ว่า วันข้างหน้านั้นจะเป็นเเช่นไร จากคำดังต่อไปนี้
    จะแพ้หรือว่าชนะ กับ ความจริงหรือว่าความเพ้อฝัน
    ไม่อยากคิด...

    ***มีใครพอจะทราบบ้างว่า ก้อนเมฆก้อนนั้น ผมกำลังหมายถึงอะไร?
    (อนุญาตให้ตอบแค่ว่า รู้ หรือ ไม่รู้ เท่านั้น และจบเลยนะ ห้ามถามต่อ!!!)


    *ปริศนาธรรมนี้ ครูลูกพลังไม่ต้องตอบ แค่ให้รู้เฉยๆ รู้แล้วก็ วางเสีย
     
  19. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214

    ในเมลยังไม่ได้ตอบ ขอบตอบตรงนี้ก่อนนะคะ
    ทุกอย่างอยู่ที่เรา(จิต)กำหนดพี่ภู
    จิตบุญไม่ต้องให้กรรมมากำหนด
    เพราะจิตเหนือกรรมแล้ว
    กรรมเป็นของขันธ์ห้าไม่ใช่ของเรา(จิต)
    ตอบไรไม่ได้มากกว่านี้
    เพราะตอนนี้เห็นแต่กายกับจิตของตัวเอง แฮ่กๆ
    ครูดัชส่งซิกส์มาแล้วเดี๋ยวคงมีเฮ
    ขอเพ็ญตรวจสอบให้แน่ใจอีกรอบก่อนนะ
    นั่นคือของขวัญบนเมฆก้อนนั้นสำหรับท่านพ่อและพี่ภูเจ้าค่ะ!!!

    [​IMG]
     
  20. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    จิตอยากตอบ

    เราไม่รู้หรอกว่าท่านหมายถึงสิ่งใด

    แต่เมื่อ 2-3 ปีก่อนหน้านี้ เราเคยพิจารณาถึงสิ่งนี้ ก้อนเมฆ
    คือการพิจารณาดูความคิดที่เกิดขึ้น ดูความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้น
    แล้วมองไปที่ท้องฟ้า เห็นก้อนเมฆลอยไปลอยมา
    แต่ละก้อนก็จะมีลักษณะ ที่แตกต่างกันออกไป
    มีพระอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า ถ้ารู้ว่าจิตกำลังหนีไปคิด
    นั่นคือ ต้นทางของการปฏิบัติ

    ขออนุโมทนากับกลุ่มจิตบุญทุกๆท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...