จริต ๖ เพื่อฝึกกรรมฐานที่เหมาะสม

ซื้อดวงปฐวีกสิณ

ซื้อได้ที่อยู่ตามแผนที่ ตรงถนนนนทรี ตรงข้ามคอนโดใหญ่ที่กำลังสร้างใหม่ชื่อเดอะทรัสท์
แผนที่ชมรม คลิกตรงนี้
ยังไม่มีการส่งโดยไปรษณีย์ค่ะ เพราะดวงปฐวีกสิณ เป็นดิน มีโอกาสแตกสูง
ราคากสิณ 200 บาท ขาตั้ง 200 บาท
ทางชมรมศิษย์สุวรรณโคมคำ มีการจัดฝึกวันอาทิตย์ เดือนละ หนึ่งครั้ง
ท่านสามารถเข้ามาฝึกได้
จะได้ทราบพื้นฐานเพื่อจะนำไปฝึกฝนเองต่อไป

หากท่านได้ฝึกสิณที่ตนถนัด(เคยฝึกมาก่อนในอดีตชาต)
หากท่านได้แล้ว จิตจะวิ่งไปตรงนั้นเลย ทำให้ท่านได้เร็วเรียกว่าไม่ต้องรอนาน

กสิณเป็นทางเห็นฌานเช่นกรรมฐานอื่น ไปได้ถึงฌานสี่
จิตตั้งมั่นดีแล้วไปต่อยอดวิปัสสนา ท่านก็บรรลุธรรมได้ในภพชาตินี้
(จิตตั้งมั่นดี) ฟังพุทธิจริตที่ youtube นั่นแหละคำตอบในใจ

ท่านควรจะพิสูจน์ว่าดิฉันกล่าวไว้จริงหรือไม่ ว่าท่านจะได้ปฐวีกสิณเร็ว
ไม่น่าจะเกินสองวัน

ไม่ต้องเกรงใจ ดิฉันพร้อมเผยแพร่ธรรมะของพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว
สอบถามเข้ามาได้ตลอด หากดิฉันมีปัญญาก็จะตอบให้หมด
หากหมดปัญญาก็คงจะถามผู้รู้ให้

สาธุการ
แสนสวาท

 

คนที่ 172

EakCm

เกิดวันพุธกลางคืน ปี 2517
จริตของท่านคือ โทสะ จริต
เจโตวิมุตติ สัปปายะ คือ ถ้ำ โคตหิน ต้นไม้ใหญ่ จอมปลวก
กรรมฐานที่เหมาะกับท่านเรื่องแรกคือ วรรณกสิณ
วงกลมเส้นผ่าศุนย์กลาง 11 นิ้ว สีเขียว เหลือง แดง หรือ ขาว
เลือกเอาได้เลย
หรือกสิณมหาภูตรูปสี่ คือ กสิณลม หรือ ไฟ
แต่ไม่อยากแนะให้เริ่มต้นทีกสิณไฟ เพราะจริตท่านเป็นโทสะจริตอยู่แล้ว
เริ่มด้วยดินก่อน โดยการเพ่งให้บริกรรม ปฐวีกสิณัง ๆๆๆๆ ไปเรื่อย ๆ
ฝึกกสิณดิน ไปสักพักแล้วค่อยละไปฝึกกสิณลม หรือ ไฟ แทน จะก้าวหน้า

กรรมฐานอีก ๔ กองคือ พรหมวิหารสี่ ได้แก่
ระลึกถึงเมตตา เป็นอารมณ์ แผ่เมตตาโดยไม่มีประมาณ ให้สรรพชีวิต
กรุณา มุทิตา และอุเบกขา (หาอ่านเอานะ)

จิตเดิมเป็นพุทธะนะ อย่าคิดเป็นอย่างอื่นไป เดินทางภพชาตินี้ก็มาเพื่อสานต่อ
เจตนารมย์เดิมที่เคยมี
สงสัยว่าท้ายสุดท้าย ท่านจะออกบวชนะคะ

อนุโมทนาสาธุการ

แสนสวาท




______________________________
กติกา เพื่อขอดูจริต

บริจาคกับวัดพระบาทน้ำพุ 1 ครั้ง
น้อมจิตเพื่อบูชาครูก่อนนะคะ
หมุน 1900 2222 00 กด 1
ครั้ง ละ 15 บาท
สาธุ
แสนสวาท<!-- google_ad_section_end -->

​

 

กสิณดิน จัดทำอุปกรณ์จากอะไรครับ พอจะมี Link วิธีการทำหรือเปล่าครับ แต่ถ้าไม่ฝึก
กสิณดิน จะฝึกวรรณกสิณ เลยก็ได้ใช่ไหมครับ อดีตชาติผมเคยฝึกมานิดหน่อยแล้วใช่ไหมครับ ใจจริงอยากบวชเพื่อฝึก แต่ภาระทางโลกทำให้ยังไปไม่ได้ครับ ขอบพระคุณ คุณแสนสวาทที่อนุเคราะห์ครับ สาธุ

 

หากจะดูเรื่องกสิณ เข้าไปที่นี่ ค่ะ คลิกกสิณกรรมฐาน
หากจะฝึกวรรณกสิณ ให้ไปที่วัดยานนาวา วันอาทิตย์ บ่าย ถึง ห้าโมงเย็น
ที่นั่นมีอุปกรณ์ฝึกได้ ไปเรียนซะครั้งหนึ่ง ก็มาฝึกเองได้ไม่ยากอะไร

หากจะทำอุปกรณ์เองก็เข้าไปดูที่ คลิกกสิณกรรมฐาน น่าจะอธิบายไว้อยู่
อดึตของคุณเคยฝึกมาค่ะ เดินทางนี้ คุณจะไปได้เร็ว เพราะเป็นทางของคุณ
อะไรที่เป็นอนาคตมากนักไม่ต้องคิดตอนนี้ ไว้ถึงเวลา ทุกอย่างจะจัดสรรเอง

หากเป็นประโยชน์ช่วยบอกต่อเพื่อนมาเช็คจริตด้วยค่ะ
ทุกอย่างทำด้วยความเต็มใจ ขอให้คุณถึงในสิ่งที่ตั้งจิตไว้

สาธุการ

แสนสวาท

______________________________
กติกา เพื่อขอดูจริต

บริจาคกับวัดพระบาทน้ำพุ 1 ครั้ง
น้อมจิตเพื่อบูชาครูก่อนนะคะ
หมุน 1900 2222 00 กด 1
ครั้ง ละ 15 บาท
สาธุ
แสนสวาท<!-- google_ad_section_end -->

 

PM ไปอีก 1 รายแล้วนะครับ ขอบคุณครับ

 

คนที่ 173

เธอมีจริตทางศรัทธาจริตค่ะ ปัญญาวิมุตติ
กรรมฐานที่เหมาะสม เป็นอนุสตติ ๑-๖
อันได้แก่
๑. พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
๒. ธัมมานุสสติ ระลึกถึงคุณพระธรรมเป็นอารมณ์
๓. สังฆานุสสติ ระลึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์
๔. สีลานุสสติ ระลึกถึงคุณศีลเป็นอารมณ์
๕. จาคานุสสติ ระลึกถึงผลของทานการบริจาคเป็นอารมณ์
๖. เทวานุสสติ ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์
(อนุสสติทั้ง ๖ กองนี้ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในสัทธาจริต)

สัปปายะ วัด ห้องสมุด ห้องกรรมฐาน ห้องพระ ศาลา ต้นไม้มีผล
การเจริญกรรมฐาน ไม่ได้หมายถึงการนั่งเพียงอย่างเดียว
การเดิน ยืน นั่ง นอน เป็นกรรมฐานได้ทั้งสิ้น

การระลึกถึงคุณพระพทุธเจ้าเป็นอารมณ์ หรือจะจับ พระพุทธรูปเป็นอารมณ์ก็ได้นะ
การระลึกถึงพระองค์ เรียกว่าจิตไม่ห่างจากฌานแล้ว
หากทำบ่อย ทำซ้ำ ทำนาน ก็เกิดผลได้เช่นกันค่ะ

หากจะเริ่มที่กสิณดิน ก่อนก็ทำได้ หากภรรยาของคุณต้องการจะเริ่มที่กสิณดิน
ให้ติดต่อมาใหม่นะคะ จะบอกวิธีฝึกให้ค่ะ เพราะของเธอไม่เหมือนกับท่านอื่น

ขอให้ท่านและครอบครัวเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ

สาธุการ

แสนสวาท


______________________________
กติกา เพื่อขอดูจริต

บริจาคกับวัดพระบาทน้ำพุ 1 ครั้ง
น้อมจิตเพื่อบูชาครูก่อนนะคะ
หมุน 1900 2222 00 กด 1
ครั้ง ละ 15 บาท
สาธุ
แสนสวาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
<!-- google_ad_section_end -->

 

กรรมฐาน เหมาะกับจริตของตน​

ครั้งหนึ่ง พระสารีบุตร ได้สอนลูกชายนายช่างทอง
พระองค์คิดว่า พระหนุ่มนายนี้ แต่งตัวสะอาด หน้าตาดี มีฐานะดี
จิตน่าจะยุ่งกับเรื่องทางโลก
น่าจะมักมากทางอารมณ์ น่าจะเป็นคนที่มีราคะจริต
จึงให้อสุภะกรรมฐานและกายคจานุสติ แก่ชายหนุ่มนี้
แต่เวลาผ่านไปแล้ว ๓ เดือน พระลูกชายนายช่างทอง ก็ไม่สามารถได้อะไร
พระสารีบุตรก็นำชายหนุ่มนี้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เพราะคิดว่าชายหนุ่มนี้
คงไม่ใช่วิสัยตนเป็นผู้ฝึก น่าจะเป็นพระพุทธองค์เท่านั้น จะทำให้ได้ผลของการฝึก
กราบทูลว่าสอนแล้วสามเดือนแล้วไม่เป็นผล

พระพุทธองค์ตรัสกับพระสารีบุตร ว่าพระสารีบุตร จงกลับไปก่อน
และ พระองค์ทรงทราบด้วยอำนาจพุทธฌาน หนักไปทางโทสะจริต
(โทสะจริต เหมาะกับวรรณะกสิณ)
ก็ทรงเนรมิตดอกบัวสีแดงขึ้นมาดอกหนึ่ง แล้วส่งให้ลูกชายนายช่างทอง
ให้ลืมตามองหลับตา ภาพเลือนหายไปก็ให้ลืมตามามองใหม่ ทำแบบนี้สลับกันไป
ไม่นาน พระหนุ่มก็ได้ฌานสี่ ดอกบัวกลายจากสีแดงเป็นสีเหลือง
จางลงไปเรื่อยจนกลายเป็นสีขาวแล้วกลายเป็นประกายพรึก
สามารถย่อขยายดอกบัวได้ตามจิตที่ประสงค์
พระพุทธองค์ทรงพิจารณาว่าชายหนุ่มนี้ได้ฌานสี่ เป็นฌานโลกีย์
หากพระองค์ไม่ช่วยจะไปต่อได้ไหม ต้องช่วยจึงจะไปต่อได้
พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตดอกบัวทองคำจากสีสดสวยกลายเป้นสีเศร้าหมอง
จึงมาเปรียบเทียบกับจิตใจตนเองก็เช่นกัน แต่ก่อนจิตก็สดชื่น ในที่สุดก็เศร้าหมองแบบนี้
กลีบดอกบัวก็หล่นจะหักลง ยิ่งเศร้าหมองยิ่งขึ้น ขณะนั้น จิตก็ทรงฌานสี่ ปัญญาก็เกิด
ร่างกายของตนก็จะเป็นเช่นดอกบัวนี้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงจากนี้ได้
และสำเร็จอรหันตผลในที่สุด

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=aq1v9KlJ6Mw"]ท่านเปิดฟังโดยละเอียดคลิกตรงนี้ เวลาหลังจากนาทีที่ ๙[/ame]

สาธุการ

แสนสวาท


______________________________
กติกา เพื่อขอดูจริต

บริจาคกับวัดพระบาทน้ำพุ 1 ครั้ง
น้อมจิตเพื่อบูชาครูก่อนนะคะ
หมุน 1900 2222 00 กด 1
ครั้ง ละ 15 บาท
สาธุ
แสนสวาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

คนที่ 174

เพื่อนใหม่
คุณมีราคะจริต ค่ะ
ปัญญาวิมุตติ
กรรมฐานที่ควรคือ อสุภะกรรมฐานและกายคตานุสติกรรมฐาน
เริ่มที่กสิณดินเลยนะคะ ไปเร็วเลยล่ะค่ะทีนี้ หากจะละกสิณดิน ก็ไปฝึกไฟได้
แต่คุณจะได้ตั้งแต่ ดินเลยค่ะ

เดือนหน้าจะเปิดสอน กสิณครบเลย แต่ยังไมได้กำหนดวัน
จะไปเรียนก็ pm บอก จะแจ้งให้ทราบใกล้ ๆ วันเรียนอีกทีค่ะ
หากจะดูเรื่องกสิณเข้าไปที่เวปพลังใจ ห้องคัมภีร์สุวรรณโคมคำนะคะ

ตั้งดวงให้ใหม่แล้วยังไงก็ยังยืนยันว่า คุณก็มีตาที่สามค่ะ
ยังไงก็ต้องได้ค่ะ ยากหน่อย แต่ไม่เกิดความพยายาม
สวดมนต์ ทำสมาธิแล้วต้องอธิษฐานด้วยนะคะ
อธิษฐานเรื่องเดียวก็แล้วกันค่ะ อย่าเยอะเรื่อง

ง่วงแล้ววันนี้ ต้องขออภัย ที่ตรวจสอบไม่รอบคอบนะคะ
มีอะไรเพิ่มเติมก็สอบถามเข้ามาใหม่ค่ะ
คงรอคำตอบนานเลยวันนี้ ขอโทษอีกครั้ง




แสนสวาท


______________________________
กติกา เพื่อขอดูจริต

บริจาคกับวัดพระบาทน้ำพุ 1 ครั้ง
น้อมจิตเพื่อบูชาครูก่อนนะคะ
หมุน 1900 2222 00 กด 1
ครั้ง ละ 15 บาท
สาธุ
แสนสวาท

 

ผมได้ปฏิบัติตามกติกาเพื่อขอดูจริตแล้วนะครับ

ได้ส่งไปทาง PM แล้วครับ ขอคุณแสนสวาทเมตตาอนุเคราะห์ด้วยครับ

 

khemtat
เกิดเสาร์ตีหนึ่ง
นับเป็นศุกร์กลางคืน

โทสะจริต เจโตวิมุตติ
สัปปายะ ถ้ำ ก้อนหิน จอมปลวก ป่า ต้นไม้ใหญ่
กรรมฐาน มีพรหมวิหารสี่ เป็นพื้นฐาน
และหากจะเจริญกสิณ เป็นกสิณสีค่ะ หรือเรียกว่า วรรณะกสิณ
ลองเปิดฟังเทศน์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ข้างต้นจะได้ประโยชน์มาก

การเดินจงกรม การนับประคำ ก็ดี ก็เป็นวิสัยที่ทำได้ดีด้วย

มธุรสวาจา นำพาซึ่งคุณ

สาธุ ค่ะ

แสนสวาท

 

______________________________
กติกา เพื่อขอดูจริต

บริจาคกับวัดพระบาทน้ำพุ 1 ครั้ง
น้อมจิตเพื่อบูชาครูก่อนนะคะ
หมุน 1900 2222 00 กด 1
ครั้ง ละ 15 บาท
สาธุ
แสนสวาท<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
__________________

หากท่านทำตามกติกาแล้วแจ้งให้ทราบด้วยค่ะ

 

ขอบพระคุณคุณแสนสวาทครับ ขออนุญาตถามต่ออีกนิดนะครับ

แบบนี้แสดงว่าผมไม่เคยมีของเก่ามาก่อนใช่หรือไม่ครับ แล้วถ้าผมจะใช้กสิณสีขาวเป็นกรรมฐาน สามารถทำได้เลยโดยใช้คำขอขึ้นกรรมฐานที่คุณแสนสวาทเคยโพสต์ไว้ใช่หรือไม่ครับ

ส่วนการเจริญพรหมวิหาร 4 หมายถึงผมต้องหมั่นแผ่เมตตาใช่หรือไม่ครับ

ผมไม่มีความรู้มาก่อน รบกวนคุณแสนสวาทช่วยอธิบายด้วยนะครับ

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

(ผมจะย้อนกลับไปอ่านเรื่องโทสะจริตที่คุณแสนสวาทโพสต์ไว้อีกครั้งเพื่อความเข้าใจครับ)

 

อันที่จริงมนุษย์เรามีจริตคละเคล้ากันทุกจริต
แต่อันที่เป็นมากกว่าอันอื่น คือ จุติ หรือจริตนั่นเอง
คุณkhemtat มีโทสะจริต ก็คือ เป็นคนขยันขันแข็ง ความมุ่งมั่นดี
งานเดินเพราะคนมีจริตของวิริยะนั่นเอง
เรียกว่าเป็นข้อธรรมของมนุษย์
หากจะทำอะไรให้สำเร็จ วิริยะบารมีสำคัญมาก
ในความหมายที่ไม่ค่อยดี คือมักจะมีความไม่เรียบร้อย หรือมีการพูดจาที่
สวนทันควัน ตรงไปมา บาดใจคนได้ในบางครั้ง
หากได้ระมัดระวังเรืองนี้ จะเป็นเสน่ห์ของผู้ชาย เพราะ ญ ชอบคนขยัน
ความสำเร็จก็เพราะวิริยะนั่นเอง หาอ่านเพิ่มเติมตามโอกาส
กระทู้ต้น ๆ ลงไว้บ้างคะ

ส่วนการสมาทานพระกรรมฐาน คลิกเข้าไปตรงนี้เลย


คุณเริ่มต้นที่วรรณกสิณได้ทันที ไม่ต้องรีรออะไรเลยค่ะ
เป็นทางของคุณ ทำทางที่ตนถนัดเหมาะสมกับจริต ก็ทำได้ง่ายกว่ากองกรรมฐานกองอื่น



คำถาม "ส่วนการเจริญพรหมวิหาร 4 หมายถึงผมต้องหมั่นแผ่เมตตาใช่หรือไม่ครับ"

ส่วนกรรมฐานที่เป็นพรหมวิหารสี่ ควรอย่างยิ่งที่ต้องเจริญไว้ให้บ่อย
จะทำให้โทสะลดลงได้เป็นอย่างดี
เข้าใจว่ามนุษย์เรา เวลามีโทสะ ปัญญาจะไม่เกิด เรียกว่า
หากกำลังโมโหอยู่ สิ่งที่ตัดสินใจ ก็ไม่ดี ไม่เป็นผลดีเลย
หากมีโทสะ จะให้นั่งกรรมฐาน ย่อมเป็นได้ยาก

หลีกไปเดินจงกรม หรือนับประคำบ้างก็ดีนะคะ

ไว้จะนำมาให้อ่านกันอีก ในโอกาสต่อไป

สาธุการ

แสนสวาท

 

ขอบพระคุณ พี่แสนสวาทเป็นอย่างยิ่งครับ ไว้ติดขัดตรงไหนจะมาถามใหม่ครับ

 

คนที่ 175

ศุกร์ ที่ 7 เมษายน หลังเที่ยงคืน
นับเป็นวันพฤ กลางคืน

เป็นศรัทธาจริต เจโตวิมุตติ
กรรมฐานเป๋นอนุสสติ ๑-๖ ลองคลิกไปกระทู้นี้ช่วงแรก ๆ หรือ
ฟังหลวพ่อฤาษีลิงดำ เทศน์ไว้ใน youtube จะได้เข้าใจมากขึ้นค่ะ
หากจะฝึกกสิณ ควรเริ่มที่กสิณลม เพราะเหมาะกับดวงชาตาของท่าน

กสิณลม พิจารณาความไหวเป็นอารมณ์

อนุโมทนาสาธุการค่ะ

แสนสวาท

 

เรียนถามพี่แสนสวาทครับ

ผมได้ฝึกกสิณสีขาวตามที่พี่แสนสวาทแนะนำแล้วครับ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เมื่อผมมองแผ่นดวงกสิณไปเรื่อยๆ ดวงกสิณจะเหมือนมีหมอกคลุม เมื่อดูต่อไปจะเหมือนมีแสงกระจายออกมา สว่างแต่ไม่แสบตา มองแล้วรู้สึกสบาย

เมื่อหลับตา จะเห็นเป็นดวงกลมสีดำ ขอบคมชัด จากนั้นจะเริ่มจางลง ก่อนกลับมาชัดใหม่ สลับกันไปสักพักก็จะหายไป ผมก็จะลืมตาขึ้นมาดูดวงกสิณใหม่

คำถามครับ เมื่อผมหลับตา ผมควรจะจดจ่อจิตอยู่ที่ดวงกสิณที่ปรากฏขณะนั้น (เงาสีดำ) ไปเรื่อยๆ หรือควรจะพยายามบังคับ, จินตนาการ ให้เห็นเป็นดวงกสิณสีขาวครับ

ขอบพระคุณครับ

 

สมาทานพระกรรมฐานเป็นกสิณสีขาวใช่ไหมคะ ภาพที่เห็นเป็นสีขาวค่ะ
หากแต่คุณบอกว่าเป็นสีดำ อย่างนั้นหรือ
ควรที่จะละสายตาจากภาพที่เป็นสีดำ คือลืมตามามองใหม่นะ
ได้สีขาวจะขุ่นมัวก็ไม่เป็นไรค่ะ พิจารณาไปเรื่อยจะขาวขึ้นไปเอง
สุกสว่างไปเรื่อยอย่างนี้เอง
จนกระทั่งกลม เป็นวงกลม แล้วค่อยขยาย และย่อ

เพ่งกสิณใด ควรได้สีกสิณนั้นค่ะ

 

ตอบคำถามที่ท่านถามเข้ามาเรื่องของท่านคือศรัทธาจริต
ว่าต้องปฏิบัติเช่นไร
อนุสสติ1-6 ที่ว่า
อนุสสติ แปลว่า “ตามระลึกถึง” กรรมฐานกองนี้ เป็นกรรมฐานที่ตามระลึงนึกถึง มีกำลังสมาธิไม่เสมอกัน บางหมวดก็มีสมาธิเพียงอุปจารฌาน บางหมวดก็มีสมาธิถึงปฐมฌาน บางหมวดก็มีสมาธิถึงฌาน 4 และฌาน 5 กำลังของกรรมฐานกองนี้มีกำลังไม่เสมอกันดังนี้ อนุสสติทั้ง 10 อย่างนี้ ็เหมาะแก่อารมณ์ของนักปฎิบัติไม่ใช่อย่างเดียวกันบางหมวดก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในสัทธาจริต บางหมวดก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในวิตกและโมหะจริต บางหมวดก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในราคจริต กองใดหมวดใดเหมาะแก่ท่านที่หนักไปในจริต อนุสสตินี้มีชื่อและอาการรวม 10 อย่างด้วยกัน จะนำชื่อแห่งอนุสสติทั้งหมดมาเขียนไว้เพื่อทราบ ดังต่อไปนี้
1. พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
2. ธัมมานุสสติ ระลึกถึงพระธรรมเป็นมารมณ์
3. สังฆนุสสติ ระลึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์
4. สีลานุสสติ ระลึกถึงศีลเป็นอารมณ์
5. จาคานุสสติ ระลึกถึงผลของทานการบริจาคเป็นอารมณ์
6. เทวตานุสสติ ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์
(อนุสสติทั้ง 6 กองนี้ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในสัทธาจริต)
ที่ผมเข้าใจถูกหรือป่าวครับ?? เเล้วหลังจากนี้ต้องปฏิบัติตรงไปเช่นไรครับ


ท่านควรระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ที่พระองค์ได้มีความวิริยะอุตสาหะในการบำเพ็ญเพียร
บารมีมากมายถึง 20 อสงไขยกับอีก 100,000 มหากัป ยาวนานนี้เพื่อใคร
เพราะพระองค์ต้องการจะช่วยเหลือมนุษย์โลกให้บรรลุธรรมตามไปทั้งหมด
พระคุณที่ยอมเสียสละความสุขมากมายขนาดนี้ พระองค์ทรงกำลังใจอย่างไร ในการสร้างบารมีนี้
การปฏิบัติกรรม หลายท่านเข้าใจว่าต้องนั่งลง แล้วขัดสมาธิ จึงเจะเรียกว่าปฏิบัติกรรมฐานเท่านั้น
ที่จริงแล้วท่านควรจะเข้าใจกรรมฐานบางข้อที่ต้องการระลึกเป็นอารมณ์กรรมฐาน
ท่านสามารถฝึกกสิณที่ได้แนะนำไปให้วันละ ๑๐-๑๕ นาที และควบกับการระลึกถึงคุณ
ของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์เป็นต้น เพื่อเป็นการเจริญพระกรรมฐาน
ในบางส่วน
ยังมีอิริยาบท ยืนเดินนอน กระนับประคำ ก็เป็นกรรมฐานได้ทั้งสิ้น
หากท่านไม่เข้าใจอีก
ก็ควรเข้าไปใน youtube แล้วเข้าไปดูที่ ศรัทธาจริต ท่านจะเข้าใจมากขึ้นค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

 

ท่านอื่น รอก่อนนะคะ ศุกร์ ๒๗ กค ค่ำ ๆ
จะมาตอบให้ค่ะ
วันนี้ลืมตาไม่ขึ้นแล้ว
สาธุ

 

คุณเพื่อนใหม่

ต้องขออภัยที่ตั้งวันเกิดให้คุณผิดค่ะ
คุณเกิดวันศุกร์ แรม ๑๔ ค่ำ
มีจริตคือโทสะจริต ปัญญาวิมุตติ
กรรมฐานจะเป็นวรรณกสิณเลือกฝึกได้เลยค่ำ จะเป็นสีเขียวเหลืองแดงขาว
หรือหากจะฝึกภูตกสิณ ก็เริ่มที่ กสิณดิน ได้ค่ะ
กรรมฐานที่ต้องเพิ่มเติมเสริม คือ พรหมวิหารสี่

เรืองวิบากกรรมที่เกิดขึ้น มันก็เป็นเช่นนั้น
เหตุแห่งการเกิดมันได้มีจากอดีต จัดหนักเพราะว่าต้องการให้เราเรียนรู้ธรรม
หากด้วยเรื่องเช่นนี้ มนุษย์ก็หันหน้าเข้ามาศึกษาธรรมะสักที

ดิฉันแนะนำง่าย ๆ เลยนะคะ สำหรับทุกท่านที่โดนจัดหนักวิบากกรรมมาให้
เรืองแรก ขอขมากรรมพ่อและ แม่ ขอคุณเพื่อนใหม่ นี่ต้องทำทั้งสองท่านเลยค่ะ
อาจจะเคยทำแล้ว ก็ให้ทำอีกที ในวันแม่นี้ เหมาะมาก
เอาพานธูปเทียนแพ + ดอกไม้ ไปขอขมากรรมพ่อและแม่
ให้ท่านเปล่งคำว่า อโหสิกรรม เพื่อตัดกรรมที่มีกับบุพการี ที่เป็นกรรมใหญ่ก่อน

จากนั้นให้ ท่านเริ่มต้นสวดพระประจำวัน เป็นทุกวัน
รายละเอียดมีดังนี้
พระประจำวัน อาทิตย์ สวด ๖ จบ
พระประจำวัน จันทร์ สวด ๑๕ จบ
พระประจำวัน อังคาร สวด ๘ จบ
พระประจำวัน พุธ สวด ๑๗ จบ
พระประจำวัน พฤหัส สวด ๑๙ จบ
พระประจำวัน ศุกร์ สวด ๒๑ จบ
พระประจำวัน เสาร์ สวด ๑๐ จบ
พระประจำวัน พระราหู สวด ๑๒ จบ รวมทั้งสิ้น ๑๐๘ จบ
ดาวทุกดวงของคุณจะมีพลังตามกำลังของวัน ทำให้กิจสำเร็จได้

และควรอธิษฐานจิตสัมทับทุกครั้งเมื่อสวดเสร็จ

หากทำได้ทุกวัน กรรมก็หมดไปได้ค่ะ

ขอให้ท่านเจริญในธรรม

สาธุการ

แสนสวาท