WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ฤทธิ์พายุวีเซนเตทำฝนถล่มตากผวาแม่น้ำเมยใกล้ล้น



พายุ 'วีเซนเต' ยังทำให้ฝนยังตกต่อเนื่องในพื้นที่ อ.แม่สอด ล่าสุดน้ำในแม่น้ำเมยมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เหลืออีกประมาณ 1 เมตร จะเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและท่าเรือต่างๆ ฝั่งไทย ขณะที่ท่าเรือฝั่งพม่า น้ำได้ท่วมจนหมดทุกแห่ง ทำให้รถบรรทุกสินค้ารอส่งข้ามต้องตกค้างจำนวนมาก...

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2555 สถานการณ์พายุวีเซนเตยังออกฤทธิ์ ฝนยังตกต่อเนื่องในพื้นที่ อ.แม่สอด และอำเภอใกล้เคียง หลังจากวานนี้เกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลแม่สอดในหลายพื้นที่ แต่ขณะนี้เริ่มคลี่คลาย เพราะการบริหารจัดการน้ำของเทศบาลนครแม่สอดมีการติดเครื่องสูบ้ำนับ 10 เครื่อง เพื่อช่วยระบายน้ำออกนอกเมือง โดยหลายพื้นที่น้ำลดลงแล้ว แต่ยังคงมีท่วมขังในพื้นที่ลุ่ม และจากฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเมยมีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเหลืออีกประมาณ 1 เมตร ก็จะท่วมบ้านเรือนราษฎรและท่าเรือต่างๆ ในฝั่งไทย

ส่วนทางด้านท่าเรือฝั่งพม่าที่มีระดับต่ำ น้ำได้ท่วมท่าเรือจนหมดทุกแห่ง ทำให้การขนส่งสินค้าข้ามเรือติดขัด เพราะส่งสินค้าไม่ได้ ทำให้รถบรรทุกสินค้าหลายสิบคันตกค้างไม่สามารถลงสินค้าได้ บางส่วนต้องหันไปส่งข้ามทางสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แต่ไม่สะดวก เนื่องจากสะพานชำรุดยังไม่ได้ซ่อมแซม และอนุญาตให้แค่รถบรรทุก 6 ล้อ และน้ำหนักไม่เกิน 10 ตันผ่านเท่านั้น.

 

ตลิ่งริมแม่น้ำแม่ละเมา จ.ตาก ทรุดตัวจากฝนตกหนักติดต่อกัน



ภูมิภาค 26 ก.ค. - ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแม่ละเมา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพิ่มสูงขึ้น กัดเซาะริมตลิ่งพังเสียหาย  อาคารเรียนโรงเรียนบ้านแม่กึ้ดสามท่า ได้รับผลกระทบ

ตลิ่งแม่น้ำแม่ละเมา บริเวณโรงเรียนบ้านแม่กึ้ดสามท่า ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทรุดตัว  ทำให้อาคารเรียนทรุดตัวและแตกร้าว 5 หลัง จนต้องย้ายไปใช้ศาลาเปรียญวัดศรีรัตนาราม ตำบลแม่กาษา ทำการเรียนการสอนแทน ดินทรุดตัวยังทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นลงไปในน้ำ และมีแนวโน้มทรุดตัวเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อาคารเรียนแตกร้าวมากยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องติดป้ายประกาศเป็นพื้นที่อันตราย ห้ามเข้าใกล้พื้นที่อย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้ น้ำยังล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนเข้าหมู่บ้าน แม่กึ้ดสามท่า ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร รถขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์ไม่สามารถผ่านได้ รวมทั้งพื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหายหลายร้อยไร่

ฝนที่ตกหนักบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ ทำให้น้ำไหลหลาก ลงสู่ลำคลองสาขา ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำน่าน ทางชลประทานจังหวัดพิจิตร สั่งให้ยกบานประตูระบายน้ำทุกบาน เพื่อเร่งระบายน้ำลดความเสียหายจากน้ำท่วมพื้นที่นาข้าว ยืนยันจะไม่มีผลกระทบกับคนในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง.-สำนักข่าวไทย

 

สหรัฐห่วงภัยแล้งหนักในรอบ 56 ปีทำราคาอาหารพุ่ง 3-4% ปีหน้า


สหรัฐฯ กำลังเป็นห่วงว่า ภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุดของประเทศในรอบกว่า 50 ปี ที่กำลังแผ่ขยายไปครึ่งหนึ่งของประเทศ จะทำให้ราคาอาหารพุ่งขึ้นราว 3-4 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภัยแล้งครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่ปี 2499 หรือในรอบ 56 ปี ครอบคลุม 31 รัฐ หรือราวครึ่งหนึ่งของประเทศ ส่งผลให้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง ข้าวโพด ถั่วเหลือง ซึ่งใช้เป็นอาหารสัตว์ พุ่งสูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผลผลิตข้าวโพดราว 88 เปอร์เซ็นต์ และผลผลิตถั่วเหลืองราว 87 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ อยู่ในพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง

กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ บอกว่า ในปีหน้า ไข่ ผลิตภัณฑ์นม เนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อหมูจะมีราคาแพงขึ้น เนื่องจากอาหารสัตว์มีราคาแพง โดยคาดว่า ราคาเนื้อวัวจะพุ่งขึ้นสูงสุด ราว 4-5 เปอร์เซ็นต์ ผลิตภัณฑ์นม 3.5-4.5 เปอร์เซ็นต์ /// เนื้อไก่ และไข่ 3-4 เปอร์เซ็นต์ /// เนื้อหมู 2.5-3.5 เปอร์เซ็นต์ และราคาสินค้าเกษตรอื่นๆ จะสูงขึ้นราว 2.8 เปอร์เซ็นต์ ...แต่จะไม่กระทบราคาผักและผลไม้

ริชาร์ด โวล์พ นักเศรษศาสตร์ จากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ บอกว่า ภัยแล้งปีนี้ เกิดขึ้นกะทันหัน โดย ทางการสหรัฐฯ ไม่ได้ทันตั้งตัว.. และผู้บริโภคจะได้รับผลกระทบจากราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นกว่าระดับปกติ ล่าสุด ทางการสหรัฐฯ กำลังหาแนวทางช่วยเหลือเกษตกรที่ได้รับผลกระทบ โดยพื้นที่ประสบภัยแล้ง 31 รัฐ สามารถขอรับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และความช่วยเหลืออื่นๆ จากทางการได้

ขณะนี้ในหลายๆ รัฐ เริ่มมีมาตรการประหยัดการใช้น้ำแล้ว อย่างที่เมือง อินเดียนาโพลิส รัฐอินเดียนา กำลังเผชิญกับภัยแล้งครั้งรุนแรงที่สุดในรอบศตวรรษ ทำให้ต้องออกมาตรการประหยัดน้ำ เช่น ห้ามการล้างรถ ห้ามเติมน้ำในสระว่ายน้ำ และหยุดทำความสะอาดถนนชั่วคราว เพื่อลดการใช้น้ำลงราว 1 ใน 3 ของปริมาณที่ใช้ทุกวัน

 

ไข้เลือดออกระบาดสกลนครดับแล้ว1

โพสต์เมื่อ :26 ก.ค. 2555, 14:09 น.
ชาวสกลนครป่วยไข้เลือดออกพุ่ง 108 รายเสียชีวิตแล้ว 1 ราย

นายจรินทร์   จักกะพาก  ผวจ.สกลนคร  กล่าวว่า  สถานการณ์ไข้มาลาเรียในพื้นที่จังหวัดสกลนครพบว่ามีการระบาดอย่างหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอ.ภูพาน พบ 90 ราย อ.กุดบาก 14   ราย อ.เต่างอย  4 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ซึ่งรายที่เสียชีวิตเป็นการติดเชื้อมาลาเรียชนิดรุนแรงที่สุด ขณะนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสกลนครได้ลงพื้นที่เพื่อสกัดกั้นและควบคุมโรคเต็มพื้นที่แล้วเพื่อหยุดยั้งโรคนี้โดยเด็ดขาด
 
นายจรินทร์ กล่าวอีกว่า ผู้ป่วยโรคมาลาเรียจังหวัดสกลนครเกิดจากชาวบ้านที่มีหมู่บ้านอยู่เชิงเขาหรืออยู่ในป่า เทือกเขาภูพาน เช่น อ.ภูพาน อ.กุดบากและอ.เต่างอย ที่เข้าออกในป่าจึงทำเกิดการสัมผัสโรคที่เกิดจากยุง ซึ่งชาวบ้านจะต้องใช้ความระมัดระวังจากการหาของป่า เช่น การหาเห็ดมาขายข้างทางเป็นต้น

 

โรคมือเท้าปากระบาดแม่สอด 2 โรงเรียนดังปิดแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่า ขณะนี้โรคมือเท้าปาก กำลังระบาดเป็นบริเวณกว้างในเขตเทศบาลนครแม่สอด ล่าสุด โรงเรียนอนุบาลราษฎร์อุทิศ ได้หยุดเรียนแล้ว เนื่องจากพบว่ามีเด็กป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก 50 คน ขณะที่ทางโรงพยาบาลแม่สอด ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบโรงเรียนแล้ว เช่นเดียวกับที่โรงเรียนภัทรวิทย์วิทยา พบเด็กป่วยเป็นโรคมือเท้าปากหลายราย จึงได้หยุดเรียนไปแล้ว สำหรับโรงเรียนดังกล่าวมีนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้รับใบอนุญาต นอกจากนี้ยังพบโรคมือเท้าปาก ในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่โรงเรียนบ้านแม่ตาว ตำบลแม่ตาว อ.แม่สอด

ด้านนายทองสุข อยู่ศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 ( สพป.ตาก เขต 2 ) สั่งการให้ทุกโรงเรียนในสังกัด หากพบผู้ป่วยมือ เท้า ปาก หรือ สงสัย ให้หยุดเรียนทันที และแนะนำให้ผู้ปกครองไปพบแพทย์ทันที

 

ไทยเสียแชมป์ ส่งออกข้าว 6 เดือนแรก ลดลงกว่า 45 %


ข่าว » ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน » ไทยเสียแชมป์ ส่งออกข้าว 6 เดือนแรก ลดลงกว่า 45 %
<INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="BORDER-BOTTOM: medium none; POSITION: relative; BORDER-LEFT: medium none; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none; PADDING-TOP: 0px" id=aswift_0_anchor><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=aswift_0 height=15 marginHeight=0 frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=aswift_0 marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>
เขียนโดย nuntarat</SPAN> โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title="2012-07-25 18:16:35">วันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2555</ABBR> เนื้อหานี้อยู่ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน

เป็นรองอินเดียและเวียดนาม
นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงการส่งออกข้าวไทยช่วงครึ่งปีแรก ระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน ว่า ช่วง 6 เดือนแรกไทยส่งออกข้าวรวมทั้งสิ้น 3.45 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาข้าวไทยมีราคาสูงกว่าตลาดคู่แข่งขัน ทำให้ภาพรวมครึ่งปีแรกไทยลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 34
ทั้งนี้ อินเดียส่งออกข้าวมากเป็นอันดับ 1 โดยส่งออกได้ 3.61 ล้านตัน ส่วนอันดับที่ 2 ได้แก่ เวียดนามส่งออกข้าวได้ 3.52 ล้านตัน ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 3 ซึ่งนางสาวกอบสุข กล่าวว่าหากเป็นเช่นนี้ไทยจะเสัยแชป์อันดับ 1 การส่งออกข้าวไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาพรวมการส่งออกข้าวตลอดปี 2555 ไทยจะส่งออกข้าวได้ประมาณ 6.5 ล้านตัน ปริมาณส่งออกลดลงประมาณร้อยละ 39 มีมูลค่ารวม 120,000 ล้านบาท จากปี 2554 ที่ไทยส่งออกข้าวรวม 10.65 ล้านตันส่วนปี 2556 คาดว่า ไทยจะส่งออกข้าวได้รวม 8 ล้านตัน

 

  ลักษณะอากาศทั่วไป   เมื่อเวลา 16:00 น.วันนี้  
ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย เว้นแต่บริเวณภาคเหนือที่ยังมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน บริเวณภาคเหนือตอนบน ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

26-7-55

 

<TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:56 น. ข่าวสดออนไลน์


ฮือฮา จีนเปิดแล้ว"เขื่อนสามผา"สุดทรงพลัง"ผลิตพลังงานได้เทียบเท่า"เตาปฎิกรณ์ 15 เครื่อง"(ชมภาพ)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า จีนมีกำหนดเปิดเขื่อน"เขื่อนสามผา" หรือ Three Gorges Dam"ซึ่งถือเป็นเขื่อนทรงพลังด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้า หรือเทียบเท่าเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ 15 เครื่อง ในสัปดาห์นี้ โดยเขื่อนดังกล่าวถูกเปิดขึ้นในช่วงที่จีนกำลังมีกระแสน้ำมากที่สุดของช่วงปีนี้ และถือเป็นเขื่อนพลังงานน้ำใหญ่ที่สุดของโลก โดยถูกสร้างบนแม่น้ำแยงซี ในจังหวัดหูเบ่ย และผู้บริหารจัดการน้ำของบริษัทแยงซีกล่าวว่า เครื่องปั่นน้ำของ
เขื่อนสามผายังช่วยสร้างแหล่งพลังงานสะอาดจำนวนมหาศาลด้วย

​

รายงานระบุว่า เขื่อนสามผายังถูกสร้างเพื่อลดปัญหาน้ำท่วม ในช่วงที่ประเทศมีปริมาณน้ำฝนสูงที่สุดของปี รวมทั้งใช้เพื่อกักเก็บน้ำและกระจายส่งน้ำในช่วงหน้าแล้ง โดยสามารถเก็บน้ำได้อย่างน้อย 26,000 ลบ.เมตรต่อวินาที โดยปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมาถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่ท้าทายเขื่อนสามผาต้องเผชิญนับตั้งแต่ได้เริ่มกักเก็บน้ำ โดยเขื่อนแห่งนี้ ถูกสร้างเมื่อปี 2003 สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้ 22.5 ล้านกิโลวัตต์ และส่งผลให้ชาวบ้านถูกไล่ที่ออกจากถิ่นฐานเป็นจำนวนกว่า 1.4 ล้านชีวิต และถูกโจมตีจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกว่าเป็นเชื่อนที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ราษฎร์มากที่สุดของโลก

ที่ผ่านมา จีนถือว่า เขื่อนเป็นสัญญลักษณ์ของการเป็นมหาอำนาจในเชิงวิศวกรรม และเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาน้ำท่วมจากแม่น้ำสายยาวที่สุดของประเทศ และเป็นแหล่งพึ่งพาไฟฟ้าที่ประเทศต้องการอย่างยิ่ง แต่เมื่อปีที่แล้ว ทางการจีนยอมรับว่า เขื่อนสามผ่ได้สร้างปัญหาอย่างมาก นับตั้งแต่การไล่ที่ประชาชนเรือนล้านคน การเก็บกักมลพิษที่ทำให้เกิดน้ำเสีย


ที่มา มติชนออนไลน์


</TD><TD vAlign=top align=left>
<!-- Start share facebook --><SCRIPT type=text/javascript src="//platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><!-- End share twitter -->

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295><TBODY><TR><TD height=21 width=21></TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD height=21 width=21></TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD height=21 width=21></TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD height=21 width=21></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295><TBODY><TR><TD height=21 width=21></TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD height=21 width=21></TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD height=21 width=21></TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD height=21 width=21></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295><TBODY><TR><TD height=21 width=21></TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD height=21 width=21></TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD height=21 width=21></TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD height=21 width=21></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=295><TBODY><TR><TD height=21 width=21></TD><TD background=images/line_top.gif></TD><TD height=21 width=21></TD></TR><TR><TD background=images/line_left.gif></TD><TD width="100%"><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left>

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=images/line_right.gif></TD></TR><TR><TD height=21 width=21></TD><TD background=images/line_bottom.gif></TD><TD height=21 width=21></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ระยองเด็กเขมรดับจากมือเท้าปากอีก1ราย



<!-- end articleDetailPanel --><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="tall"></GLUSONE>
<SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>
<!-- end tweetmeme_button --><SCRIPT type=text/javascript src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share"></SCRIPT>
<!-- end facebook-share -->
<!-- end main-sns --><!--end articleDetailPanel-->นายกฤษณ์ ปาลสุทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า ได้รับรายงานจากงานระบาดวิทยา โรงพยาบาลแกลง จ.ระยอง ว่า พบผู้ป่วย อายุ 2 ปีเศษ มีตุ่มแดงขึ้นที่บริเวณมือ และเท้า เด็กมีอาการไม่ดีขึ้นเลย จึงต้องปฏิบัติการเพื่อช่วยชีวิต หรือ(CPR) โดยแพทย์สงสัยเป็นเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 และเด็กได้เสียชีวิตในเวลา 17.00 น.ของวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะแพทย์โรงพยาบาลแกลง จึงได้ทำการสอบสวนโรคในวันเดียวกัน ซึ่งผลการสอบสวนโรค ทราบชื่อผู้ป่วยคือ เด็กชายกิมฮะ ไม่มีนามสกุล อายุ 2 ขวบ 6 เดือน เป็นชาวกัมพูชา สอบถามบิดามารดา ทราบว่า พักอยู่ห้องแถวซอยอังคณา ถนนสุขุมวิท อ.แกลง โดยเด็กเริ่มมีไข้ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค. มีอาการไข้ขึ้นสูง อาเจียนหลายครั้ง และสังเกตเห็นมีตุ่มแดงๆ ขึ้นที่มือ และเท้า ในวันที่ 23 - 24 ก.ค.เคยพาไปหาหมอที่คลีนิกแห่งหนึ่งใน อ.แกลง 2 ครั้ง แต่เด็กอาการไม่ดีขึ้น จึงพามาโรงพยาบาลแกลง ในวันที่ 25 ก.ค.เวลาประมาณ 15.00 น. เด็กมีอาการหอบ เหนื่อยและตัวซีด ตรวจพบเม็ดตุ่มแดงที่มือและเท้า

อย่างไรก็ตามต่อมาเด็กมีอาการแย่ลงแพทย์พยาบาลได้ทำการช่วยชีวิตแต่ไม่สามารถช่วยเหยื้อชีวิตได้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบสวนโรคโดยสอบถามมารดา และเพื่อนบ้าน ทราบว่า เป็นเด็กที่ไม่ค่อยแข็งแรง ลักษณะเด็กมีโภชนาการไม่สมบูรณ์ โดยเลี้ยงเองที่บ้านไม่ได้นำไปฝากเลี้ยงกับสถานรับเลี้ยงแต่อย่างใด ห้องแถวที่เด็กอาศัยอยู่มีประมาณ 30 ห้อง และห้องเด็กที่เสียชีวิต มีสมาชิกประมาณ 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 4 คน เด็ก 2 คน นอกจากนี้ยังมีเด็กที่เพื่อนในห้องแถวนำมาฝากเลี้ยงกับเด็กที่เสียชีวิต 1 คน ซึ่งขณะนี้เด็กทั้ง 3 คน มีอาการไข้ต่ำๆ และเริ่มมีตุ่มแดงที่ฝ่าเท้า และมือ จึงให้ญาตินำเด็กมาตรวจรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลแกลง จากการสอบถามประวัติเสี่ยงเด็กที่เสียชีวิต พบว่า เด็ก 2 รายข้างห้องที่ชอบมาคลุกคลีด้วย เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศกัมพูชา ประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งอาจเป็นคนนำเชื้อมาติดเด็กจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นได้ส่งตัวอย่างน้ำไขสันหลัง และเลือดไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว คาดว่าจะทราบผลในเร็ววันนี้

นายกฤษณ์ กล่าวว่า หลังเด็กเสียชีวิตลง ได้รายงานให้นายเสนีย์ จิตตเกษม ผวจ.ระยองรับทราบทันที ซึ่งก็ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที พร้อมสั่งการตั้งวอร์รูมหรือศูนย์ปฏิบัติการรับมือสถานการณ์โรคนี้ทันที ด้วยการจัดกิจกรรมทำความสะอาดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ทั้งจังหวัดในวันพรุ่งนี้ที่27 ก.ค. และให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสาธารณสุข โรงพยาบาล ปฎิบัติการเชิงรุก ประสานทุกอำเภอ ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกไปเยี่ยมเยือน รณรงค์ทุกพื้นที่ให้ตระหนัก เช่น ในหมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก รวมทั้งให้จัดหางานจังหวัด ประสานนายจ้างสถานประกอบการที่มีแรงงานชาวกัมพูชา โดยอย่าให้เดินทางกลับประเทศในช่วงนี้ นอกจากก็ให้มีการทำแผน ตรวจสอบ และเชิญผู้ประกอบการร้านอาหาร มาชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อร่วมกันทำความสะอาดร้านอาหารด้วย โดยให้อำเภอแกลงที่พบผู้เสียชีวิต เป็นอำเภอโมเดล ทั้งนี้เพื่อควบคุมและเพื่อเอาชนะโรคมือเท้าปากให้ได้ อย่างไรก็ตามไม่สามารถหากควบคุม ก็ให้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติได้ทันที

 

ผู้รู้ช่วยเช็คด้วยจ้า เรื่องนี้จริงหรือเปล่า

John Moore Show with Ann Morrison on RBN July 21, 2012.
Nibiru will make it's closest passage to Earth coming into our Solar System on August 17, 2012. http://www.republicbroadcasting.org
Asteroid 2012-DA14 on a collision course with earth scheduled on Feb 15, 2013. Also Nibiru will be in closest proximity to the Earth between Aug 17th and Sept 26th 2012. Expect some Earth events during that time.
July 18, 2012
Ladies and Gentlemen,

"No Need For Panic" is the title of my paper I wrote the Fall of 2005, published in January 2006.

This note is a follow-up to my paper.

Tuesday July 10th, one of my private trusted sources told me the following: He heard a woman telling her employer that she attended a classified briefing for spouses of D.O.D. personnel that are part of C.O.G. (Continuity Of Government) contingency planning. This may constitute 1 or 2 % of all D.O.D. personnel.

Prior to the briefing beginning, she had to sign a non-disclose agreement. During the briefing, she was told about Nibiru ( Planet X, Wormwood) and the soon-to-happen flooding of the Atlantic coast. She was shown a map that very closely resembled the map on my DVD showing flooding of North America coastal areas.

She was told to prepare for an evacuation order that would come soon, They were told they may have as much as two weeks warning, they may not. They were told they could bring one carry-on bag and one suitcase and that they would abandon all other possessions and property.

Monday July 16, I had another private source in Homeland Security verify the information of the above mentioned briefing.

Today I spoke with another source, Mr. Mike Harris. Mike is a fellow talk-show host at RBN with the time slot following mine. Mike has a private trusted source who is a high-ranking member of a foreign intelligence agency. This source tells Mike that Nibiru will make it's closest passage to Earth coming into our Solar System on August 17, 2012 and it's closest passage outward bound on September 26, 2012.

Mike has verified this intelligence with another private source, a former high-ranking member of the Reagan administration.

All intelligence received so far points to an Atlantic Ocean event (probably connected to the Canary Island risk of a land slide generating a tidal wave) There are some unknowns here, the exact nature of which areas are most at risk is one of them. The safe thing to assume/act on, is all coastal areas (800' altitude and lower) are at risk.

One of the things I learned in U.S. Military Intelligence School (as well as being criminal investigator since 1973) was to look for reliable sources who don't know each other, giving the same information. Here we have four reliable sources all saying the same thing.

I trust this intelligence enough to be taking personal action based on it.

We human beings go through this every 3,600 years. The range of effects run from mild irritation to killing most inhabitants of Earth with: major earthquakes, volcanoes, flooding, 200 mph winds and meteor strikes.

On Wednesday, July 25th, Mike Harris will join me on my radio show as my guest. We will be discussing these matters.

That's at 0700 CDT 7/25 on Republic Broadcasting ( link at my web site The Liberty Man - Home )

This is an on-going intelligence gathering project. I will report my findings as they develop.

Regards,

John Moore

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>จีนยิงดาวเทียมถ่ายทอดข้อมูลดวงที่ 3 ขึ้นสู่วงโคจรสำเร็จ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 กรกฎาคม 2555 13:57 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT id=facebook-jssdk src="//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>


<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จากภาพ จรวดลำเลียงฉังเจิง 3ซี (ลองมาร์ช – 3ซี) ได้ปล่อยยานดาวเทียม “เทียนเลี่ยน ไอ – 03” จากศูนย์ปล่อยจรวดดาวเทียมซีชัง มณฑลเสฉวน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. (ภาพซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ซินหวา - จีนส่งดาวเทียม “เทียนเลี่ยน ไอ - 03 (Tianlian I-03)” ได้สำเร็จ (25 ก.ค.) ถือเป็นประเทศแรกที่สามารถส่งดาวเทียมถ่ายทอดข้อมูลเข้าสู่วงโคจรติดต่อกันเป็นดวงที่ 3

เวลา 23.43 น. ตามเวลาท้องถิ่น จีนยิงดาวเทียม “เทียนเลี่ยน ไอ - 03” โดยอาศัยจรวดขนส่งฉังเจิง 3ซี (ลองมาร์ช 3ซี) ลำเลียงขึ้นสู่วิถีโคจร ณ ศูนย์ยิงจรวดซีชัง เขตปกครองตนเองเหลียงซานอี๋ มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) โดยดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรตามที่กำหนดไว้ได้อย่างราบรื่น

“เทียนเลี่ยน ไอ - 03” ได้รับการวิจัยและพัฒนาจาก สถาบันเทคโนโลยีอวกาศจีน ภายใต้สำนักงานความร่วมมือวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศประเทศจีน โดยดาวเทียมจะทำงานร่วมกับดาวเทียม “เทียนเลี่ยน ไอ - 01 ที่ส่งไปเมื่อเดือนเม.ย. ปี 2551 และ “เทียนเลี่ยน ไอ - 02 ที่ส่งเมื่อเดือนก.ค. ปี 2554

เป้าหมายของการส่งดาวเทียมดวงที่ 3 นี้ฯ ก็เพื่อพัฒนาระบบให้บริการถ่ายทอดสัญญาณให้มีพื้นที่ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมกับช่วยสนับสนุนการเชื่อมต่อโมดูลอวกาศ “เสินโจว 9” กับสถานีอวกาศเทียนกง 1 เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาด้วย

การพัฒนาระบบเครือข่ายดาวเทียมถ่ายทอดข้อมูลของจีนนี้ฯ จะช่วยเก็บข้อมูลในระยะวงโคจรระดับต่ำและปานกลาง เพื่อช่วยในการส่งยานอวกาศในอนาคตของจีนต่อไป

สำหรับครั้งนี้ที่จรวดขนส่งฉังเจิง 3ซีได้พาดาวเทียม “เทียนเลี่ยน ไอ - 03” ขึ้นสู่วงโคจร นับเป็นเป็นภารกิจการปล่อยดาวเทียมของจีนครั้งที่ 166 แล้ว



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จากภาพ อีกมุมหนึ่งในการปล่อยยานดาวเทียม “เทียนเลี่ยน ไอ – 03” (ภาพซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=324><TBODY><TR><TD vAlign=top width=324 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จากภาพ จรวดลำเลียง “ฉังเจิง 3ซี” เริ่มติดไฟ (ภาพซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=290><TBODY><TR><TD vAlign=top width=290 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จากภาพ จรวดลำเลียง “ฉังเจิง 3ซี” เริ่มทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า (ภาพซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=336><TBODY><TR><TD vAlign=top width=336 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จากภาพ จรวดลำเลียง “ฉังเจิง 3ซี” บินขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ (ภาพซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=296><TBODY><TR><TD vAlign=top width=296 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จากภาพ จรวดลำเลียง “ฉังเจิง 3ซี” ปล่อยยานดาวเทียม “เทียนเลี่ยน ไอ – 03” (ภาพซินหวา)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>



<IFRAME id=fb_xdm_frame_http src="http://static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f5ba4d02984e3f&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org&channel_path=%2Ff178%2Fwar-room-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2012-a-288866-1110.html%3Ffb_xd_fragment%23xd_sig%3Df15e2283a17fdcd%26" name=fb_xdm_frame_http></IFRAME><IFRAME id=fb_xdm_frame_https src="https://s-static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f5ba4d02984e3f&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org&channel_path=%2Ff178%2Fwar-room-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2012-a-288866-1110.html%3Ffb_xd_fragment%23xd_sig%3Df15e2283a17fdcd%26" name=fb_xdm_frame_https></IFRAME>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พายุฝนคร่าชีวิตชาวจีน 111 คน เดือดร้อน 9 ล้านคน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 กรกฎาคม 2555 16:28 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1340179658.html#_=1009820635937&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FChina%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000091706&size=m&text=%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99%20111%20%E0%B8%84%E0%B8%99%20%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%209%20%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FChina%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000091706&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME id=fb_xdm_frame_http src="http://static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f23f9c686ea3d1&origin=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&channel_path=%2FChina%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000091706%26fb_xd_fragment%23xd_sig%3Df18678b86887724%26" name=fb_xdm_frame_http></IFRAME><IFRAME id=fb_xdm_frame_https src="https://s-static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f23f9c686ea3d1&origin=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&channel_path=%2FChina%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000091706%26fb_xd_fragment%23xd_sig%3Df18678b86887724%26" name=fb_xdm_frame_https></IFRAME>



<SCRIPT>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</SCRIPT><?xml:namespace prefix = fb ns = "http://ogp.me/ns/fb#" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" send="true" href="=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000091706" width="450" show_faces="false"></fb:like></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพเหตุการณ์น้ำท่วมในเขตเมือง กรุงปักกิ่ง คืนวันที่ 21 ก.ค. - ภาพเอเยนซี </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี่ - พายุฝนที่ตกกระหน่ำทั่ว 22 มณฑลในจีนมาตั้งแต่วันศุกร์ ที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา คร่าชีวิตประชาชนแล้วอย่างน้อย 111 คน และมีผู้สูญหายอีก 47 คน ขณะที่มีประชาชนประสบความเดือดร้อนจากภัยพิบัติธรรมชาติจากฝนที่ตกหนักเกือบ 9 ล้าน 2 แสนคน ใน 353 อำเภอ และต้องอพยพประชาชนเกือบ 1 ล้าน 1 แสน 8 หมื่นคนออกจากพื้นที่ประสบภัยจากการเปิดเผยของ กระทรวงกิจการพลเรือนจีนเมื่อวันอังคาร (24 ก.ค.)

นอกจากนั้นพายุฝนยังทำลายบ้านเรือนไปถึง 5 หมื่น 4 พันหลัง และสร้างความเสียหายอีก 1 แสน 4 หมื่น 4 พันหลัง

ทั้งนี้ พายุฝนได้ตกกระหน่ำครอบคลุมเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งตั้งอยู่ทางภาคเหนือของจีน นอกจากนั้น ในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กันยังเกิดน้ำท่วมและลูกเห็บตกใน 58 อำเภอ ขณะที่ 12 อำเภอใน 5 เมืองของมณฑลส่านซีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็ประสบฝนตกหนักมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝนได้หยุดตกแล้วในหลายภูมิภาคของประเทศ โดยในเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียง ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ การจราจรบนท้องถนนและบริการเดินรถไฟกลับมาใช้ได้เป็นปกติแล้ว

ด้านสถานการณ์ที่เขื่อนสามโตรกในเมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ยนั้น เนื่องจากฝนที่ตกกระหน่ำบริเวณแม่น้ำแยงซีตอนบน ทำให้น้ำในเขื่อนเพิ่มระดับสูงสุดเมื่อเวลา 20.00 น.ในวันอังคาร (24 ก.ค.) โดยน้ำไหลทะลักเข้าอ่างเก็บน้ำมากถึง 71,200 คิวบิกเมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำไหลทะลักมากที่สุด นับตั้งแต่เขื่อนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2546 และทำลายสถิติที่ 70,000 คิวบิกเมตรต่อวินาทีเมื่อปี 2553 อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถระบายน้ำในเขื่อนผ่านทางระบาย 8 ช่องทางด้วยความเร็ว 43,000 คิวบิกเมตรต่อวินาที จนระดับน้ำในเขื่อนอยู่ในระดับปกติ และลดอันตรายจากการเกิดน้ำท่วมในบริเวณแม่น้ำแยงซีตอนล่าง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เรือบรรทุกเมทานอลมาเลย์บึ้ม ลูกเรือดับ 1 สูญหาย 4 คาดถูกฟ้าผ่า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 กรกฎาคม 2555 17:56 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT><IFRAME style="WIDTH: 116px; HEIGHT: 20px" class="twitter-share-button twitter-count-horizontal" title="Twitter Tweet Button" src="http://platform.twitter.com/widgets/tweet_button.1340179658.html#_=1009820841671&count=horizontal&id=twitter-widget-0&lang=en&original_referer=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000092082&size=m&text=%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%A1%20%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%201%20%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%204%20%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2&url=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000092082&via=ASTVManager" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>
<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME id=fb_xdm_frame_http src="http://static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f3ec284b42178ac&origin=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&channel_path=%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000092082%26fb_xd_fragment%23xd_sig%3Df555e9a7f11bb%26" name=fb_xdm_frame_http></IFRAME><IFRAME id=fb_xdm_frame_https src="https://s-static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f3ec284b42178ac&origin=http%3A%2F%2Fwww.manager.co.th&channel_path=%2FAround%2FViewNews.aspx%3FNewsID%3D9550000092082%26fb_xd_fragment%23xd_sig%3Df555e9a7f11bb%26" name=fb_xdm_frame_https></IFRAME>



<SCRIPT>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</SCRIPT><?xml:namespace prefix = fb ns = "http://ogp.me/ns/fb#" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" send="true" href="=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000092082" width="450" show_faces="false"></fb:like></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เรือบันกา อัลปิเนีย ซึ่งเกิดเพลิงไหม้ หลังเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - เรือสินค้าสัญชาติมาเลเซียลำหนึ่ง ซึ่งบรรทุกเมทานอลมาเต็มลำ เกิดระเบิดในวันนี้ (26) ทำให้ลูกเรือ 1 รายเสียชีวิต และอีก 4 คนสูญหาย ตำรวจเผย โดยชี้ว่าสาเหตุมาจากถูกฟ้าผ่า

อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดที่ท่าเรือปลายทาง ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทด้านพลังงานแห่งชาติ ปิโตรนาส บนเกาะลาบวน ใกล้กับเกาะบอร์เนีย ในทะเลจีนใต้ บริษัทเอ็มไอเอสซี ผู้เป็นเจ้าของเรือเผย

ด้านไซมาน คัสราน ผู้กำกับการตำรวจลาบวนกล่าวว่า มีเสียงระเบิดดังขึ้นบนเกาะ 3 ครั้ง ทำให้เรือบันกา อัลปิเนียได้รับความเสียหายถึง 80%

เขาเสริมว่า ในเวลานั้นมีฝนตกหนัก ประกอบกับฟ้าแล่บ จึงเป็นไปได้ว่าการระเบิดและเพลิงไหม้เรือลำนั้นอาจมีสาเหตุมาจากถูกฟ้าผ่า "พวกเราพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ลูกเรืออีก 4 คนยังสูญหาย"

บริษัทเอ็มไอเอสซี ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของปิโตรนาส แถลงชี้แจงว่า เรือบรรทุกสารเคมี และปาล์มน้ำมันลำดังกล่าวมีผู้อยู่บนเรือในขณะเกิดเหตุ 29 คน เป็นชาวมาเลย์ 23 คนและฟิลิปปินส์ 6 คน ในจำนวนนั้น 24 คนถูกนำตัวขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีการให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฤทธิ์พายุวีเซนเตถล่มชายหาดปากเมงพังยับ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>26 กรกฎาคม 2555 15:56 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT id=facebook-jssdk src="//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>



<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>


<SCRIPT>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</SCRIPT>


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400><TBODY><TR><TD vAlign=top width=400 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>ตรัง - พายุวีเซนเตส่งผลคลื่นลมแรงกระหน่ำชายหาดต่างๆ ของจังหวัดตรังพังยับ ซัดร้านอาหาร และกวาดโต๊ะ เก้าอี้ลงทะเล วอนหน่วยงานรับผิดชอบแก้ไขเร่งด่วนก่อนที่ถนนเลียบชายหาดจะถูกกลืน


วันนี้ (26 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรังรายงานว่า จากการที่เกิดพายุคลื่นลมแรงฝั่งทะเลอันดามันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะช่วงเกิดพายุวีเซนเต ปรากฏว่าแรงของคลื่นลมได้ซัดชายฝั่งทะเลตรัง เช่น บริเวณหาดปากเมง หาดเจ้าไหม หาดยาว พังทลายอย่างรุนแรง มีต้นไม้ล้มระเนระนาด และอาจจะเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยว ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนเลียบถนนริมหาดปากเมง ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่จำนวนมาก

ผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณชายหาดปากเมง และหาดเจ้าไหมได้ใช้ไม้ค้ำถ่อเพื่อไม่ให้ต้นไม้ล้มลงสู่ทะเล หรือล้มทับร้านอาหาร ร้านค้า ซึ่งอาจจะสร้างอันตรายและความเสียหาย หลังจากโดนคลื่นกัดเซาะโคนต้นไม้เป็นที่หวาดเสียวแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก และน้ำทะเลยังได้กัดเซาะเข้ามาลึกทำให้ต้องสูญเสียพื้นที่ดินเป็นบริเวณกว้าง ผู้ประกอบร้านอาหารจึงได้พยายามสร้างเขื่อนไม้ไผ่ และวางกระสอบทรายเพื่อลดความรุนแรง แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถต้านคลื่นที่แรงและสูงได้ จนพัดทำลายร้านค้าของผู้ประกอบการพังยับ ส่วนโต๊ะ เก้าอี้ก็ถูกคลื่นซัดล้มระเนระนาด

ทั้งนี้ ชาวบ้านได้เล่าให้ฟังว่า คลื่นลมฝั่งอันดามันมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้ผู้ประกอบการร้านอาหารจะต้องคอยเตือนลูกค้าห้ามนั่งรับประทานอาหารใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ถูกคลื่นกัดเซาะ และบางครั้งต้องห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงที่มีคลื่นสูง ขณะเดียวกันเชื่อว่าหากหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่เร่งดำเนินการปัญหาที่เกิดขึ้นจากคลื่นกัดเซาะชายฝั่งบริเวณหาดปากเมงและหาดเจ้าไหม เชื่อว่าอีกไม่นานถนนเลียบชายหาดจะต้องขาดหายไปอย่างแน่นอน




</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>





<IFRAME id=fb_xdm_frame_http src="http://static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f3ecfe92063029&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org&channel_path=%2Ff178%2Fwar-room-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2012-a-288866-1110.html%3Ffb_xd_fragment%23xd_sig%3Df2d31b9005c8de4%26" name=fb_xdm_frame_http></IFRAME><IFRAME id=fb_xdm_frame_https src="https://s-static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f3ecfe92063029&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org&channel_path=%2Ff178%2Fwar-room-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2012-a-288866-1110.html%3Ffb_xd_fragment%23xd_sig%3Df2d31b9005c8de4%26" name=fb_xdm_frame_https></IFRAME>

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ธรรมชาติสงบร่มเย็นที่ “อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า” มรดกล้ำค่าของเมืองลุง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 กรกฎาคม 2555 15:28 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT id=facebook-jssdk src="//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>

<SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT><?XML:NAMESPACE PREFIX = G /><GLUSONE size="medium"></GLUSONE>

<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>


<SCRIPT>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs);}(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</SCRIPT><?xml:namespace prefix = fb ns = "http://ogp.me/ns/fb#" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" send="true" href="=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9550000088292" width="450" show_faces="false"></fb:like>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า มรดกล้ำค่าของ จ.พัทลุง ชุ่มฉ่ำชื่นใจสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด พักผ่อนตามอัธยาศัย ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบร่มเย็น มีทั้งถ้ำ และน้ำตก อุดมสมบูรณ์ด้วยแมกไม้นานาชนิด และยังมีสัตว์ป่าหลากหลายให้พบเห็น


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600><TBODY><TR><TD vAlign=top width=600 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
อุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า เป็นอุทยานลำดับที่ 42 ของประเทศไทย มีพื้นที่ 433,750 ไร่ อยู่ในพื้นที่อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง ชื่อของอุทยานฯ นั้น ตั้งตามชื่อของภูเขาที่อยู่ในเขตอุทยานฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของชาวพัทลุง โดยเฉพาะ “เขาปู่” ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตของวิญญาณ “ตาปู่” ซึ่งเป็นเทพกึ่งคนธรรพ์ เป็นที่กราบไว้ของชาวตำบลเขาปู่ และประชาชนทั่วไป

จากเรื่องราวที่เป็นตำนาน มาถึงสิ่งที่สามารถสัมผัสได้จริงๆ ในอุทยานฯเขาปู่-เขาย่า คือ บรรยากาศของป่าดิบชื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ถึงร้อยละ 60 ของพื้นที่อุทยานฯ ทำให้อากาศภายในอุทยานฯ เย็นสบายตลอดช่วงกลางวัน และเย็นฉ่ำตลอดช่วงกลางคืน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บ้านพักบนอุทยานฯ เขาปู่ - เขาย่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
การจะท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ เขาปู่-เขาย่า ให้จุใจควรพักแรมอย่างน้อย 1 คืน โดยภายในอุทยานฯ มีบ้านพักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวถึง 12 หลัง หรือนักท่องเที่ยวกลุ่มใดชอบการตั้งแคมป์บนลาน ทางอุทยานฯ ก็มีเต็นท์ไว้คอยบริการ นักท่องเที่ยวสามารถจัดกิจกรรมได้ทั้งบนลาน และภายในห้องประชุม ที่สามารถรองรับผู้เข้าประชุมได้ประมาณ 60 คน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สวนหินขนาดใหญ่ ที่นักท่องเที่ยวต้องปีนป่ายขึ้นไปเพื่อเก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
การเดินทางไปสู่อุทยานฯ หากขับรถส่วนตัวมาทางถนนสายเอเชีย หมายเลข 41 จากจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงสี่แยกโพธิ์ทอง อำเภอควนขนุน ให้เลี้ยวขวาไปตามถนนหมายเลข 4164 สู่อำเภอศรีบรรพต จะมีป้ายบอกทางตั้งแต่ปากทาง ไปจนถึงอุทยานฯ

หรือหากจะมาทางรถยนต์โดยสาร ที่จุดสี่แยกโพธิ์ทอง เป็นจุดจอดรถทัวร์ที่นักเดินทางสามารถลงรถที่นี่ แล้วต่อรถโดยสารเล็กไปสู่อุทยานฯ ได้อย่างสะดวก เมื่อถึงปากทางเข้าอุทยานฯ เขาปู่-เขาย่า สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสนอกจากอากาศเย็นสบายแล้ว คือ สวนหินขนาดใหญ่บนเนิน ที่ยั่วยวนให้นักท่องเที่ยวต้องปีนป่ายขึ้นไปเพื่อเก็บภาพสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อเข้าไปถึงอุทยานฯ ให้แวะไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนเป็นอันดับแรก โดยที่นี่จะเป็นศูนย์ข้อมูล และให้บริการด้านการท่องเที่ยว จะทำให้เราสามารถวางแผนการท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ได้ พร้อมที่พักสำหรับนักเดินทาง

จุดท่องเที่ยวบริเวณใกล้ๆ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 300 เมตร เป็นลานชมวิวบริเวณหน้าผา สามารถชมธรรมชาติ และพันธุ์ไม้นานาชนิดได้อย่างอิ่มตาอิ่มใจ และโดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงกรกฎาคมของทุกปี จะมีผึ้งหลวงมาทำรังที่บริเวณหน้าผ้านับร้อยๆ รัง เป็นที่ตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300><TBODY><TR><TD vAlign=top width=300 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
เดินต่อจากลานชมวิว ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร คือ ถ้ำมัจฉาปลาวน ซึ่งเป็นถ้ำขนาดกลาง มีห้องโถงใหญ่ 3 ห้อง มีหินงอก หินย้อย มีแอ่งน้ำกว้างประมาณ 200 เมตร และแอ่งน้ำนี่เอง ที่มีฝูงปลามากมายแหวกว่ายอวดสายตานักท่องเที่ยวอยู่เป็นนิจ จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำมัจฉาปลาวน ซึ่งนอกจากฝูงปลามากมายแล้ว ในถ้ำแห่งนี้ ยังเป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวหลายชนิดด้วย


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
จาก 2 จุดสำคัญ ได้มีการทำเส้นทางเดินเท้าชมธรรมชาติเป็น 3 เส้นทาง เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ หรือจะวางแผนเดินทางสู่น้ำตกภายในอุทยานฯ ในวันรุ่งขึ้นก็ได้ โดยในอุทยานฯ เขาปู่-เขาย่า มีน้ำตกที่มีความสวยงามอยู่ถึง 4 แห่ง คือ น้ำตกเหรียงทอง น้ำตกหนานปลิว น้ำตกควนประ น้ำตกปากแจ่ม และน้ำตกธาราวารินทร์ โดยน้ำตกที่อยู่ใกล้ คือ น้ำตกเหรียงทอง และน้ำตกหนานปลิว ที่นักท่องเที่ยวสามารถไปชมความงาม และขับรถออกมารับประทานอาหารที่อ่างเก็บน้ำป่าพะยอมได้

อีกเส้นทางหนึ่ง จะติดเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปชมถ้ำวังนายพุด ซึ่งภายในมีทางลอดทะลุไปอีกด้านหนึ่ง แล้วไปต่อที่น้ำตกธาราวารินทร์ น้ำตกหนานสวรรค์ และอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส

ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งติดเขตจังหวัดตรัง มีน้ำตกที่สวยงาม คือ น้ำตกควนประ น้ำตกน้ำปลิว และน้ำตกปากแจ่ม โดยนักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบเส้นทางได้จากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450><TBODY><TR><TD vAlign=top width=450 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
สภาพสังคมพืชในอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ส่วนใหญ่มีสภาพเป็นสังคมพืชป่าดิบชื้น พันธุ์ไม้ที่พบ ได้แก่ ตะเคียนทอง หลุมพอ ยาง กระบาก จำปาป่า พิกุล ไข่เขียว นาคบุตร พญาไม้ หลาวชะโอน หมากพน ฉก ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ ช้างร้องไห้ หวาย กล้วยไม้ป่า สมุนไพร และว่านชนิดต่างๆ เนื่องจากอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า มีอาณาเขตติดต่อกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด จึงมีสัตว์ป่าอพยพไปมาอยู่เสมอ จากการสำรวจชนิดของสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ พบสัตว์ประเภทต่างๆ ประกอบด้วย

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประมาณ 60 ชนิด เช่น เลียงผา สมเสร็จ หมีคน เสือปลา เก้ง กระจงควาย ค่างแว่นถิ่นใต้ ชะมดแปลงลายแถบ หมาไม้ หนูผีจิ๋ว อีเห็นลายพาด พญากระรอกเหลือง พญากระรอกดำ ค้างคาวแม่ไก่ป่าฝน ค้างคาวปีกถุงเคราดำ ฯลฯ นก พบประมาณ 286 ชนิด เช่น นกยางไฟหัวสีเทา นกคัดคูสีทองแดง นกบั้งรอกปากแดง นกกระเต็นแดง นกเงือกหัวหงอน นกจอกป่าหัวโต นกพญาปากกว้างเล็ก นกขมิ้นน้อยสีเขียว นกจาบดินหัวดำ นกกระจิบกระหม่อมแดง นกจับแมลงสีส้ม นกกินปลีกล้วยปากยาว นกกาฝากสีเลือดหมู ฯลฯ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=363><TBODY><TR><TD vAlign=top width=363 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
สัตว์เลื้อยคลาน พบประมาณ 67 ชนิด เช่น เต่าจักร ตะพาบน้ำ เห่าช้าง ตุ๊ดตู่ ตะกวด เหี้ย จิ้งเหลนน้อยหางยาว กิ้งก่าบินหัวสีฟ้า ตุ๊กแกป่าใต้ งูดินมลายู งูเห่าทองพ่นพิษ งูคงคาทอง งูใบ้ ฯลฯ

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สำรวจพบ กบหงอนมลายู กบชะง่อนหินเมืองใต้ กบเขาหลังตอง กบตะนาวศรี กบว้าก อึ่งกรายลายจุด อึ่งกรายหัวแหลม อึ่งกรายมลายู คางคกแคระ กบหนอง เขียด บัว เป็นต้น ปลา ในบริเวณแหล่งน้ำพบ ประมาณ 15 ชนิด ได้แก่ ปลาตูหนา ปลามัด ปลาหวด ปลาหลด ปลาซิวควาย ปลาซิวใบไผ่ ปลาอีกอง และปลาชะโอนถ้ำ เป็นต้น


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=550><TBODY><TR><TD vAlign=top width=550 align=middle> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
แมลง ประมาณ 70 ชนิด เช่น ผึ้งหลวง ด้วงดีดหนวดไผ่ ด้วงกว่างห้าเขา จักจั่นงวงมวนแดง ผีเสื้อพ่อมด ผีเสื้อหางติ่งอิศวร ผีเสื้อดาราไพรปักษ์ใต้ ผีเสื้อเจ้าป่า ผีเสื้อกระทกรกสีคล้ำ ผีเสื้อถุงทองปักษ์ใต้ เป็นต้น


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<IFRAME id=fb_xdm_frame_http src="http://static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f180519496b1f53&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org&channel_path=%2Ff178%2Fwar-room-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2012-a-288866-1110.html%3Ffb_xd_fragment%23xd_sig%3Df2e401c400e35a8%26" name=fb_xdm_frame_http></IFRAME><IFRAME id=fb_xdm_frame_https src="https://s-static.ak.facebook.com/connect/xd_arbiter.php?version=9#channel=f180519496b1f53&origin=http%3A%2F%2Fpalungjit.org&channel_path=%2Ff178%2Fwar-room-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B9%80%E0%B8%9D%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2012-a-288866-1110.html%3Ffb_xd_fragment%23xd_sig%3Df2e401c400e35a8%26" name=fb_xdm_frame_https></IFRAME>

 

ภูเขาไฟซากุระจิมาระเบิดใหญ่ขึ้นอีกครั้ง จาก 600 ครั้งในรอบปีนี้ ทำให้ควันเถ้าถ่านฟุ้งกระจายตลบไปทั่วเมือง Kagoshima ในประเทศญี่ปุ่น



July 25, 2012 – JAPAN - The Sakurajima volcano in southern Japan has erupted, spewing volcanic ash onto Kagoshima City.

The eruption at one of Japan’s most active volcanoes showered ash on the streets of Kagoshima, which lies just 2km across a bay from the volcano. Residents of Kagoshima donned face masks to protect themselves while sweeping away the ash. The volcano has erupted more than 600 times this year and is expected to continue its intermittent eruptions. Currently, the volcano warning there is at level three out of a possible five levels. A level five would mean that the residents living near the crater would have to be evacuated, while level three warns people not to approach the volcano. –Herald Sun

<IFRAME class=youtube-player height=255 src="http://www.youtube.com/embed/sAa98ivvBD4?version=3&rel=1&fs=1&showsearch=0&showinfo=1&iv_load_policy=1&wmode=transparent" frameBorder=0 width=400 type="text/html"></IFRAME>​

Volcano erupts in Japan - YouTube


B5 - War Room Falkman

 

พายุทรายกลับมาพัดถล่มอริโซน่ารอบ 2ของเดือน



July 24, 2012 – PHOENIX — A dust storm, or haboob, enveloped the greater Phoenix area in a cloud of yellow-gray blowing dust on Saturday night. The dust storms are becoming more frequent. For the second time since Saturday, a dust storm muscled its way into the Valley, just in time for the afternoon commute. National Weather Service meteorologist Charlotte Dewey said the storm was moving northwest and was first spotted between Eloy and Tucson. The dust storm covered cities in the metropolitan Phoenix area such as Scottsdale, Gilbert, Mesa, Apache Junction, Santan Valley, Chandler, Casa Grande and downtown Phoenix. There were no official estimates of its size, but Dewey says spotters estimated it was around 2,000 feet tall. She says there were also reports of 35 mph wind gusts in the area, and a report of a 50 mph gust at Phoenix Sky Harbor Airport. Above are photos of the event from The Associated Press and our iWitness Weather contributors. –KPHO



[ame="http://www.youtube.com/watch?v=uI4OPpL3Jdk"]Massive apocalyptic Dust Storm engulfs downtown Phoenix, Arizona (July 24, 2012) - YouTube[/ame]

B5 - War Room Falkman

 

ชาวบ้านผวา ตลิ่งแม่น้ำน่านทรุด ถนนพังเกือบถึงตัวบ้าน



พิษณุโลก 26 ก.ค.- ชาวบ้านตำบลท่าทอง เมืองพิษณุโลก ต้องอยู่ด้วยความหวาดผวา หลังฝนตกในพื้นที่ ทำถนนทรุด ตลิ่งแม่น้ำน่านพังเกือบถึงตัวบ้าน ล่าสุดโยธาธิการ แจ้งควรอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 26 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 8 บ้านวังกระบาก ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก ที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำน่านว่าขณะนี้ถนนคอนกรีตเรียบแม่น้ำน่าน เกิดการทรุดตัวเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร จำนวน 2 จุดด้วยกัน ทำให้ชาวบ้านหมู่ 8 และหมู่บ้านใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนในการใช้เส้นทางดังกล่าวและหวั่นว่าการทรุดตัวของหน้าดินจะลุกลามทำให้บ้านประชานที่อยู่ริมน้ำน้ำเกิดพังถล่มเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมถนนเลียบริมแม่น้ำน่านและทำการปรับปรุงริมตลิ่งเพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะซึ่งงบประมาณดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากทางจังหวัดพิษณุโลกจำนวน 2 ล้านบาท ตามงบฟื้นฟูน้ำท่วม ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานของผู้รับเหมาและยังไม่การส่งมอบงาน

นางสมหมาย แจ้งสว่าง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183/3 หมู่ 8 ต.ท่าทอง องเมืองพิษณุโลกเปิดเผยว่า ถนนดังกล่าวเป็นถนเส้นหลักที่คนในหมู่บ้านใช้สัญจรไปมาเชื่อมต่อไปอีกหมู่บ้าน ก่อนหน้านี้ทางจังหวัดได้สนับสนุนเงินมาเพื่อนำมาปรับปรุงริมตลิ่งเพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะริมตลิ่งในฤดูน้ำหลากที่กำลังจะมาถึง โดยผู้รับเหมาเข้ามาทำงานตั้งแต่ประมาณเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้รับเหมาได้นำรถแบ๊กโฮมาขุดหน้าดินบริเวณริมตลิ่งเพื่อเตรียมเทคอนเกรีตเพิ่มเติมแต่ไม่รู้เพราะสาเหตุใดเมื่อวานนี้ถนนคอนกรีตหน้าบ้านพักของตนเองได้เกิดพังและทรุดตัวอย่างรวดเร็วพังเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร และที่ตนเองห่วงที่สุดคือถนนที่พังตอนนี้ห่างจากบ้านพักของตนเองเหลือเพียง 1 เมตร เกรงว่าถ้ามาฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจำทำให้หน้าดินทรุดลงและลามเข้ามาถึงบ้านพังของตนเอง ตอนนี้ช่วงเวลากลางคืนก็ไม่กล้าหลับเพราะเกรงว่าดินจะทรุดตัวและพังถล่มลงไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้เข้าไปเอื้อมตัดท่อน้ำ และเสียหลักตกลงไป จนได้รับบาดเจ็บแขน ขาถลอกทีเดียว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วย
ทางด้าน นายขจรศักดิ์ วิตันติวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าทอง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ในเบื้องต้นการแก่ปัญหาทาง อบต.ได้เข้ามาตรวจสอบพบว่าตลิ่งพัง 2 จุด จุดละ 100 เมตร โดยมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 9 ครัวเรือน หลังจากนี้จะได้ประสานไปกับทางโยธาธิการจังหวัดพิษณุโลก ให้เข้ามาช่วยเหลือวางแผน ป้องกันไม่ให้ตลิ่งทรุดมากขึ้นจนถึงบ้านเรือนประชาชน และพอมีถนนให้ประชาชนเดินได้ นอกจากนี้จะประสานผู้รับเหมาเข้าซ่อมแซมเพราะยังไม่ได้ทำการส่งมอบงานให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวในเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้

B5 - War Room Falkman

 

ภูเขาไฟ The Popocatepetl ที่เม็กซิโกปะทุควันก๊าซออกมากว่า 41 ครั้ง ภายใน 24 ชม.ที่ผ่านมา



July 26, 2012 – MEXICO – The Popocatepetl volcano registered 41 exhalations of steam, gas and ash, in the last 24 hours, according to the National Center for Disaster Prevention (Cenapred).

In his report by 11:00 hrs on the volcanic activity, the body of the Interior Ministry said the colossus also generated isolated segments of low amplitude tremors. On the latter, it is not detailed the cumulative time in this specific activity, although it was reported that the 41 emissions were of low to medium range. “It is possible that some of them were accompanied by some ash” because of the cloud around the crater that prevented good visibility. In the course of the morning was observed at times a thin pen and persistent water vapor and gas, where persistent cloud cover was removed intermittently. Also in the evening on Tuesday and on Wednesday morning, a bright glow was observed above the crater, an indication of simmering volcanic activity. –Informador

B5 - War Room Falkman

 

New Crop Circle 25th July 2012 at Windmill Hill, nr Avebury, Wiltshire, UK !!!

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=9-xVEcXy3yI]New Crop Circle 25th July 2012 at Windmill Hill, nr Avebury, Wiltshire, UK !!! - YouTube[/ame]


B5 - War Room Falkman