สนทนาสบายๆ ตามประสา

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย ธณต, 8 พฤศจิกายน 2011.

  1. หนุ่มคอนถม

    หนุ่มคอนถม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    2,605
    ค่าพลัง:
    +1,581
    หลวงพ่อเชยรู้สึกว่าผมจะมีอยู่องค์นึง ต้องไปรื้อก่อน
    แต่ตอนนี้อยู่เจียงใหม่เจ้า
     
  2. Kawinpun

    Kawinpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,154
    ค่าพลัง:
    +991
    เจอพี่หนุ่มพอดี ถามเป็นความรู้หน่อยครับ พี่ท่านอื่นช่วยคุยให้ฟังด้วยก็ดีนะครับ

    พี่เคยเห็นภาพสมเด็จวัดระฆังที่หลังมีรอยปาด ปริลงไปลึกๆ องค์แท้ๆ มีมั๊ยครับ ผมเห็นของสนามชอบทำหลังมีรอยปริลึกๆ อยากทราบว่า แล้วของแท้ๆมีจริงหรือไม่ การปริแยกเป็นลักษณะไหน อย่างไรครับ อยากเห็นภาพจัง
     
  3. ธณต

    ธณต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,624
    ค่าพลัง:
    +5,025
    คุยกันเล่นๆนะครับคือการกดพระทั่วๆไปจะมีเเรงกดในส่วนที่เป็นด้านหน้าหรือด้านหลังขึ้นอยู่กับการกดว่ากดด้านไหนอีกด้านจะเป็นส่วนรับเเรงเนื้อบริเวณนั้นก็จะค่อนข้างแน่นแข็งการเกิดรอยปริแยกจึงมีโอกาศเกิดน้อยกว่านอกเสียจากว่าในส่วนนั้นมีชิ้นส่วนในที่นี้ก็คงเป็นมวลสารอยู่แถบๆนั้นทำให้เกิดรอยปริแตกเมื่อเวลาผ่านไปหรือเมื่อมวลสารหลุดเเละเกิดการหดตัวของเนื้อ ถ้าไม่มีก็จะเป็นรอยปริแยกหรือหลุดกร่อนของผิวชั้นนอกทำให้เป็นรอยรานไม่ใช่แตกรายงาเหมือนดินระเเหงอันเกิดจากความร้อนแบบเร่ง การที่ความเชื้นด้านในดันออกมาจากเนื้อชั้นในก็จะดันออกทางด้านขิบข้างการปริร้าวเเบบที่ว่าจะเกิดขึ้นด้านข้างมากกว่าครับ

    เข้าใจนะครับผมอ่านเองสามรอบยังไม่เข้าใจเลย
     
  4. Kawinpun

    Kawinpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,154
    ค่าพลัง:
    +991
    เห็นพระเลียนแบบชอบทำรอยแยกลึกๆน่ะครับเลยสงสัย .... แล้วพระแท้มีบ้างมั๊ยครับ หรือพระปลอม ทำไปให้ดูเท่ๆหลอกคนไปขำๆ

    อย่างสมเด็จวัดระฆังแท้ที่ด้านหลังเป็นรอยปาด-ปริ ลึกลงไป พี่ๆเคยเห็นกันมั๊ยครับ ผมสงสัยว่ามีหรือไม่ ถ้าไม่มีอยู่จริง ทำไมของปลอมเขาทำปลอมออกมากันแบบนั้น ที่จริงทำให้ปรินิดเดียวน่าจะง่ายกว่าอีก แล้วเราจะมีวิธีสังเกตยังไงครับ :boo:
     
  5. chaiyaput

    chaiyaput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +1,146
    ความคิดผมนะพี่ สงสัยคนทำปลอมผสมส่วนผสมแห้งไปครับ เวลาปาดเนื้อแล้วไม่เนียนครับ
     
  6. Kawinpun

    Kawinpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,154
    ค่าพลัง:
    +991
    เรื่องรอยปริส่วนมากผมจะเห็นปริขอบเป็นส่วนใหญ่ และองค์ดาราก็เช่นกัน

    แต่มีบางองค์ปริลึก (เล็กน้อย เป็นริ้วๆ) อย่างเช่นองค์ดาราพิมพ์เกศบัวตูม ผมแค่สงสัยว่า .... ถ้าองค์ที่หลังแปลกๆนั้นเป็นพระ "ปลอม" ทั้งหมด .... แล้วทำไมทำปลอมออกมาเป็นรูปแบบนั้น ในเมื่อทำมาแล้วไม่ได้ใกล้เคียงของจริงเลย (ไม่มีหลังพระแท้ที่เป็นแบบนั้น)

    สงสัยผมจะคิดมากไป .... ก็เพราะปลอมมั๊ง เลยไม่เหมือนของแท้ 555+
     
  7. Kawinpun

    Kawinpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,154
    ค่าพลัง:
    +991
    ใช่ครับพี่หนุ่ม บางองค์ก็ซ้าย-ขวา กลางเรียบ
     
  8. nackbarbies

    nackbarbies สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +1
    เหรียญหลวงปู่ขาว 2509 รบกวนพี่ๆช่วยดูให้ทีฮะแท้ไม่แท้ช่วยแนะนำด้วยคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. ลุงโจ

    ลุงโจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +3,312
    สวัสดีครับทุกท่าน

    สวัสดีครับพี่ธณต และพี่ทุกท่าน ส่องกันเพลินเลยน๊ะครับ แอบมามองเพราะคนอื่น แหะๆ ขอให้ทุกท่านพร้อมครอบครัวมีแต่ความสุขครับ
     
  10. Kawinpun

    Kawinpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,154
    ค่าพลัง:
    +991
    พอถามอะไรละวงแตก หายตัวกันหมดเลย พี่ๆ ลุงๆ กระทู้นี้ ต่อไปใครหายเกิน 3 วันจะเรียกลุง

    เกิน 5 วันจะเรียกปู่ (เพราะ สงสัยต้องแก่แล้วมากๆ ถึงลืมมาตอบ) นะครับ catt3


    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2012
  11. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    เอางั้นเลยหรือครับ พี่กวิน ผมตอบก่อนขอเป็นน้องแล้วกัน 555
     
  12. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    อยากเห็นข้างหน้าจังพี่หนุ่ม จัดให้หน่อยได้ไหม ^_^
     
  13. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    เรื่องพระปริ พระแยก ลึกไม่ลึก ส่วนใหญ่เขาก็ดูพิมพ์ ดูเนื้อ ดูธรรมชาติ ที่ปริส่วนใหญ่ด้านหลังจะเห็นบริเวณขอบ หากเคยดูองค์จริงๆ จะวัดระฆัง หรือบางขุนพรหม น่าจะแยกแยะได้ เคยคุยกับอาจารย์ สายสมเด็จ ที่เขาซื้อขาย 8 หลักในวงการจริงๆมีองค์ติดอันดับสวยระดับแชมป์เลย ท่านบอกว่า ของจริงมีน้อย สมเด็จวัดระฆังส่วนใหญ่ที่เป็นที่ยอมรับของวงการแทบจะรู้กันหมดว่าอยู่ที่ใคร บางขุนพรหมที่ขายๆ ของที่เห็นๆกันว่าใช่ อาจจะไม่ใช่ก็ได้นะครับ หากใช่จริงๆมีคนรอเช่าจริงๆเช่นกันครับ สำหรับผมเอง พระสมเด็จ ขอพักไว้ก่อน 555
     
  14. Kawinpun

    Kawinpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,154
    ค่าพลัง:
    +991
    ขอบคุณครับพี่ สำหรับความรู้ ของปลอมทำซะแยกมากมาย ไม่สวยเหมือนของจริงเลย

    ปล. รอชมด้านหน้าพระของพี่หนุ่มเช่นกันครับ อยากเห็นๆๆๆๆ :cool:


    พี่ทิพย์ และพี่ๆ ลุงๆ ท่านอื่นครับ รบกวนหน่อยครับว่า พิมพ์นี้พี่เคยเห็นมั๊ยครับว่าของที่ไหน ท่าทางจะมีอายุมั๊ยครับ

    ขอบคุณมากครับ :boo:




    [​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_9108.jpg
      DSC_9108.jpg
      ขนาดไฟล์:
      888 KB
      เปิดดู:
      239
    • DSC_9109.jpg
      DSC_9109.jpg
      ขนาดไฟล์:
      848.3 KB
      เปิดดู:
      137
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2012
  15. paper_white

    paper_white เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    2,021
    ค่าพลัง:
    +4,804
    จริงครับ ของผมบางคนอาจจะไม่ชอบ (บางขุนพรหม) แต่เค้าชอบครับ พร้อมจ่าย 7 หลักเกือบกลางด้วยครับ เค้าบอกว่าอยากให้ใครดูนะ ต้องระวัง เพราะของจริงหายากครับ แล้วที่ขาย ๆ อยู่ละ :'(
    แต่บางทีก็นอนใจไม่ได้นะครับ เพราะญาติผมได้ลีลาสะดุ้งกลับ เนื้อยา ของหลวงปู่บุญ มั่นใจว่าแท้แน่ ส่งประกวดไม่รับ แห่หลายที่ก็ว่าไม่ใช่ ในที่สุดมีคนอยากได้ก็ขายไป เท่า ๆ ทุน (หลักหมื่น) พอผ่านไปไม่กี่ปี องค์นั้นเป็นดาราครับ ราคา 7 หลักกลาง ๆ ครับ พูดไม่ออกเลยครับ :'(

    ปล. คุณทิพย์ ลงพระปิดตาบ่อย ซึ่งเดิมผมชอบอยู่แล้ว แต่พักไป พอตอนนี้ผมก็เลยดันไปบ้าพระปิดตาอีกแล้วครับท่าน วันก่อนมีคนเสนอพระปิดตาของวัดปากทะเล ซึ่งสวยมาก แต่พอปรึกษาผู้ที่ศึกษามาก่อน เค้าว่าหลวงพ่อแก้ว คนละองค์กับวัดเครือวัลย์นะ ดูจากรักได้ วัดปากทะเล รักดำ ส่วนวัดเครือวัลย์ รักแดง ซึ่งแสดงว่าพระคนละยุคกันอะครับ :'( แต่ยังไงประวัติของหลวงพ่อแก้วทั้ง วัดปากทะเล และ วัดเครือวัลย์ ก็คลุมเครือพอกันครับ :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2012
  16. paper_white

    paper_white เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    2,021
    ค่าพลัง:
    +4,804
    ก็สวยดีนะครับ แต่ยังไม่เป็นไม่เก่งขนาดนั้น คุณกวิน ต้องจำเนื้อและลักษณะให้ได้ เอาองค์ฐานแซมของผมเป็นตัวอย่างนะ ทั้ง ๆ ที่เวลาผมส่ององค์ฐานคู่ ผมก็ว่าดูดีมาก ๆ แต่พอไปส่ององค์ฐานแซมแล้ว ก็จะรู้ว่าต่างกัน :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2012
  17. ครูชายแดน

    ครูชายแดน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,053
    ค่าพลัง:
    +2,787
    ฝากดูสักองค์หน่อยครับพี่ๆเห็นเนื้อสวยดีเลยเก็บมาครับน่าจะเป็นของที่ไหนครับแท้ไม๊ครับพี่ๆ
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  18. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    เนื้อสวยดีครับ แต่ที่ไหน ส่งไม้ต่อให้พี่หนุ่ม พี่ธณต ครับ
     
  19. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    พระจะแท้และมีราคา ขึ้นกับคนด้วย เห็นบ่อยๆนะครับ อยู่กับคนธรรมดาก็อย่าง อยู่กับเซียนก็อีกอย่าง อยู่กับโคตรเซียนก็อีกอย่าง

    เรื่องหลวงพ่อแก้ว มีคนพูดและเสาะหาความจริงกันมากครับ วัดปากทะเล วัดเครือวัลย์ ส่วนประวัติเลือนลาง มากๆ บ้างว่าเป็นองค์เดียวกัน บ้างก็ว่าคนละองค์ หากจะตามคนส่วนมากที่เล่น ก็ว่าเป็นองค์เดียวกัน ครับ

    ส่วนเรื่องรัก

    รัก

    รักที่ปรากฏในพระเครื่องไม่ว่าจะเป็นการลงรักบนองค์สมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โตพรหมรังสี)คำว่ารักน้ำเกลี้ยงหรือพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักของเกจิอาจารย์หลายๆท่านอีกทั้งความแตกต่างของรักจีนกับ รักไทยจึงมาเล่าสู่กันฟังเรื่องรักเพื่อเป็นแนวทางการศึกษาและความกังขาของทุกท่าน
    รักจีนเป็นรักเก่าสีออกน้ำตาลอมแดงถ้าเป็นรักไทยสีจะดำเข้มจึงสรุปกันว่าพระที่มีรักจีนเป็นพระเก่าซึ่งก็ถูกแต่ถ้าจะให้ลึกซึ้งต้องทำความเข้าใจเรื่องรักและความสัมพันธ์กับพระเครื่องด้วย
    เมื่อพูดถึง รักแทบทุกคนจะนึกถึงต้นรักที่มีดอกสีม่วงสีขาวและมียางสีขาวซึ่งความจริงแล้วเป็นรักคนละตระกูลกันไม่สามารถกรีดยางมาทำรักดิบได้ ต้นรักที่นำมาใช้ในวงการพระเครื่อง ตลอดจนการทำเครื่องเขิน ลงรักปิดทองงานจิตกรรม-สถาปัตยกรรมเป็นรักที่อยู่ในตระกูลANCARDIACEAEในประเทศไทยทางเหนือเรียกว่ารักหลวงชาวกระเหรี่ยงเรียกซูเป็นไม้ขนาดใหญ่กิ่งก้านแน่นหนา(ให้นึกถึงต้นยางแถบภาคใต้)ใบใหญ่คล้ายใบมะม่วงออกดอกเป็นพุ่มมีดอกเล็กๆคล้ายดอกต้นสักอายุที่จะให้ยางรักได้จะต้องมากกว่า10ปี
    ส่วนรักต่างประเทศที่มีคุณภาพและเป็นที่มาของการพิจารณาพระที่มี รักได้แก่ รักจีนและรักญี่ปุ่นซึ่งมีการเพาะปลูกจนเป็นอุตสาหกรรมส่งออกมาตั้งแต่สมัยโบราณเมืองไทยซื้อรักจากจีนมาจนกระทั่งสิ้นสุดราชวงศ์เช็ง (ราวพ.ศ.2454)รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนจึงงดส่งออกรักมาพบรักจีนอีกครั้งเมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงเป็นองค์ประธานการบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้วในคราวฉลองกรุง 200 ปีด้วยพระอัจฉริยะและการเจริญสัมพันธไมตรีจึงได้รักจีนมารช่วยในงานตกแต่งบูรณะสถาปัตยกรรมในวัดพระแก้วนอกจากรักจีนและรักญี่ปุ่นแล้วยังมี
    รักเวียตนามและรักไต้หวัน แต่คุณภาพสู้รักจีนและรักญี่ปุ่นไม่ได้ความนิยมใกล้เคียงกับรักไทยรักพม่า รักลาว และรักกัมพูชา ซึ่งเป็นรักสายเดียวกัน
    กรรมวิธีการให้ได้มาซึ่งยางรักหรือ รักดิบนั้นก็จะคล้ายกับการกรีดยางของภาคใต้ยางรักที่ได้จากต้นรักจะมีคุณสมบัติคือยางรักที่กรีดใหม่ๆจะมีสีขาวเหลืองคล้ายน้ำนมเมื่อถูกแดดและอากาศจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นเรื่อยๆสามารถกันน้ำได้เมื่อแห้งตัวจะแข็งเป็นเงามันงดงามกว่าการเคลือบทางวิทยาศาสตร์ทุกชนิดคนโบราณนิยมเก็บไว้ในไหหรือตุ่มเพื่อจะคงความเหลวไม่จับตัวเป็นก้อนความไม่บริสุทธิ์ของยางรักจะเกิดจากฝุ่นละอองเปลือกไม้ น้ำฝน สนิมของภาชนะที่เก็บหรือมีการปลอมปนซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของรักโดยตรง
    ลักษณะที่น่าสังเกตของยางรักแต่ละชนิดมีดังนี้
    -รักจีนเมื่อกรีดใหม่ๆจะออกสีขาวอมเทาคล้ายน้ำนมเมื่อทิ้งไว้จะออกสีน้ำตาลอมแดงเป็นรักที่มีคุณภาพที่สุด
    -รักญี่ปุ่นลักษณะคล้ายรักจีนแต่สีเข้มกว่าเล็กน้อยได้รับความนิยมสูง
    -รักเวียตนามจะคล้ายรักไทยเมื่อแห้งจะเปราะบางและมีสีดำ
    -รักไทยรักพม่าและรักกัมพูชาเมื่อปล่อยไว้ให้แห้งจะมีสีดำสนิทคุณภาพสู้รักจีนและรักญี่ปุ่นไม่ได้ข้อแตกต่างอีกประการหนี่งคือแห้งตัวช้ากว่ารัก
    จีนและรักญี่ปุ่นและจะมีสีดำสนิทกว่ารักเวียตนาม

    รักกับพระเครื่อง

    โบราณาจารย์และพุทธศาสนิกชนในอดีตได้อาศัยรักในการจัดสร้างพระเครื่องเครื่องรางของขลังเพราะรักมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถรักษาเนื้อพระและสภาพองค์พระให้สมบูรณ์ตามเดิมแม้เวลาจะล่วงเลยไปหลายร้อยปีส่วนการสร้างพระปิดตาที่เรียกว่าเนื้อผงคลุกรักน่าจะหมายถึงการสร้างพระเนื้อผงตามแบบโบราณแล้วนำรากต้นรักซ้อน , กาฝากรัก , ดอกรัก , ยางต้นรักอันเป็นไม้มงคลนามผสมผสานกันโดยมียางรักเป็นตัวประสานเฉกเช่นคณาจารย์บางท่านใช้น้ำมันตังอิ๊วบางท่านใช้น้ำอ้อยเป็นต้น
    ส่วนคำว่าจุ่มรักนั้นหมายถึงการนำพระทั้งองค์จุ่มลงไปในรักดิบหรือยางรักแล้วผึ่งให้แห้งเพื่อรักษาเนื้อหามวลสารขององค์พระเอาไว้เช่นตำนานการสร้างพระปิดตาหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ที่จุ่มรักหรือชุบรักเพื่อมิให้ผู้ใดขูดผงบนองค์พระนำไปทำเสน่ห์เล่ห์กลผิดลูกผิดเมียผู้อื่นและนอกจากนี้การจุ่มรักเมื่อผึ่งองค์พระให้แห้งหมาดๆเมื่อนำทองคำเปลวมาติดเป็นพุทธบูชาจะสามารถติดได้แน่นสนิทสวยสดงดงามเป็นอันมาก
    แต่การจุ่มรักหรือชุบรักนั้นแม้เป็นการรักษาเนื้อพระที่คนโบราณมักจะใช้แช่ทำน้ำมนต์บ้างหรือฝนกินตลอดจนอมไว้ในปากน้ำรักมักจะบดบังพุทธศิลปะแห่งองค์พระไปจึงมีผู้คิดวิธีทำ รักน้ำเกลี้ยงคือเป็นรักที่เกิดจากยางรักเช่นกันหากแต่มีสีขาวใสเหมือนทาแชลแล็คเคลือบไว้สามารถแลเห็นพุทธศิลปะขององค์พระเช่นเดิมโดยสูตรการทำรักน้ำเกลี้ยง(มีหลายสูตร)นั้นท่านอาจารย์ให้นำรักดิบซึ่งเพิ่งกรีดใหม่ๆผสมกับรักดิบเก่าในอัตราส่วนประมาณ 5ต่อ1 แล้วนำน้ำมันจากถั่วเหลืองครึ่งส่วนผสมกันตั้งไฟเคี่ยวจนร้อนจัดกลางแดดแล้วกวนประมาณ 4-5 ชั่วโมงแล้วจึงช้อนน้ำรักที่ลอยอยู่ที่ผิวบนด้วยกระบวยไม้ไผ่เก็บไว้ในภาชนะที่ไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีเช่นตุ่ม,ไห,โอ่งก็จะได้รักน้ำเกลี้ยง(หากไม่ใช้น้ำมันถั่วเหลืองให้ใช้ยางสนแทน)
     
  20. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    การพิจารณาความแท้ขององค์พระจากรัก

    เป็นที่น่าแปลกใจที่ พระแท้เท่าที่พบโดยเฉพาะพระเครื่อง พระปิดตา และเครื่องรางประเภทตะกรุด,ลูกอมของเกจิอาจารย์ผู้โด่งดังสามารถวิสัชนากันได้โดยยึดหลักการดูรักเป็นส่วนใหญ่จากความพยายามค้นคว้ามานั้น พบว่า พระคณาจารย์ตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงเทพทวาราวดีศรีรัตนโกสินทร์ส่วนใหญ่ที่สร้างพระเครื่องและของขลังพากันใช้รักจีนเป็นหลัก เมื่อดูจากบริบททางประวัติศาสตร์ก็จะพบว่าในระยะนั้นไทย เวียดนาม ลาวกัมพูชามิได้เพาะปลูกต้นรักผลิตยางรักเป็นอุตสาหกรรมส่งออกนอกประเทศแต่เป็นการผลิตชนิดที่เรียกว่าของป่าอาศัยเก็บเกี่ยวยางรักที่ขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติใช้กันภายในอีกทั้งคุณภาพตลอดจนปริมาณที่ได้ก็ไม่เพียงพอที่จะส่งออกจะเห็นว่าไทยกับจีนมีสัมพันธภาพที่ดีทางการค้ามาเป็นเวลายาวนานช่วงกลางกรุงศรีอยุธยาลงมาจนถึงรัตนโกสินทร์ไทยรับเอาอิทธิพลทางด้านการเคลือบจากจีนอย่างเด่นชัดนับตั้งแต่การสร้างแหล่งเตาเผาชามสังคโลกบริเวณแม่น้ำน้อย จ.สิงห์บุรี สมัยสมเด็จพระนครินทราชาการติดต่อสั่งทำถ้วยชามเบญจรงค์อาทิชามเจ้าตากสมัยกรุงธนบุรี การนิยมศิลปะจีนในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3เรื่อยมาจนถึงรัชกาลที่5
     

แชร์หน้านี้

Loading...