ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. BiMode

    BiMode เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +2,322
    ขอไปใช้ที่บ้านสักลำได้ไหมเนี่ย...
     
  2. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    สนใจและติดตามเรื่อง UFO ครับ

    ยินดีอย่างยิ่งและแอบภูมิใจเล็กๆที่ได้เคยสนทนากับพี่สุดใจ

    อยากให้เล่าเรื่องให้พวกเราฟังมากๆครับ
     
  3. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451




    <DIR>ต้องขออนุญาตนำภาพภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 8
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2007
  4. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
  5. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง ของผู้ไปชมงานฯ มนุษย์ต่างดาวมาติดต่อสื่อสารด้วย

    <DIR>-ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 11 นั้น กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้มีโอกาสรู้จักกับหลายๆท่านที่มีประสบการณ์แปลกๆ และต้องการที่รู้ว่าสิ่งทีกำลังประสบอยู่นั้นคืออะไร? และทำไม?</DIR><DIR>
    - คงต้องเล่าเรื่องที่คุณ Aspn ให้ความสนใจก่อนนะคะ


    -ท่านที่มาพบพี่สุดใจนั้น ได้เล่าเรื่องราวของลูกชายของท่านให้ฟังว่า ปกติท่านและครอบครัว ได้มีการปฏิบัติธรรมสวดมนต์ทำสมาธิกันอย่างต่อเนื่องเป็นปกติ


    -แต่เมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา (นับย้อนไปจากวันที่พบที่งาน) ลูกชายคนเล็กของท่าน ได้รับการสื่อสารมาจาก "มนุษย์ต่างดาว" ครั้งแรกเป็นการสื่อสารข้อความลงมาและสามารถเข้าใจข้อความนั้นได้ ซึ่งในระยะแรกครอบครัวก็ยังไม่มีใครเชื่อ แต่ลูกชายได้บอกว่าเขาจะนำยานอวกาศมาให้ดู และพาครอบครัวออกไปดูนอกบ้าน คุณแม่และครอบครัวก็ได้ออกไปดูและก็เห็นวัตถุบินลอยอยู่บนหลังคาบ้านจริงๆ จากนั้นมาก็จะมีวัตถุบินมาลอยอยู่บริเวณบ้านหลังนี้บ่อยครั้ง รวมทั้งมีการสื่อข้อมูลลงมาที่ลูกชายของท่านผู้นี้อย่างต่อเนื่อง


    - ข้อมูลต่างๆ ที่สื่อลงมาก็จะเกี่ยวกับการบอกเรื่องของภัยพิบัติ เรื่องของมนุษย์ต่างดาว ที่ต้องมาสื่อสารกับมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติในครั้งนี้


    - พี่สุดใจจึงได้เชิญท่านผู้นี้ มาเล่าประสบการณ์ให้ ดร.เทพนม เมืองแมน ท่าน ได้รับฟังด้วย ซึ่งท่านก็ได้กล่าวว่ามนุษย์ต่างดาวเริ่มที่จะสื่อสารผ่านมนุษย์โลกมากขึ้น เพราะท่านเองก็ได้รับทราบจากหลายคนที่มาบอกกับท่านว่า สื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้


    - และภายในงานนี้มีผู้ที่บันทึกภาพ UFO ได้ที่ต่างจังหวัด จึงเดินทางมาที่บูธและนำภาพมาให้ ดร.เทพนม ด้วย เป็นภาพขณะยืนถ่ายรูปภาพของตนเอง แต่มีภาพวัตถุบินลอยอยูด้านหลังชัดเจน เป็นวัตถุสีเงินค่อนข้างกลมซึ่งคาดว่าในงานวิทยาศาสตร์ทางจิตในปีนี้ ดร.เทพนม จะนำภาพนี้มาให้ชมในบูธของท่านหรือไม่คงต้องไปดูกัน


    - ท่านผู้นี้ที่ลูกชายติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ยังกล่าวอีกว่า มีการเปิดมิติภายในบ้านของท่าน มีภาพหลากหลายรูปแบบทับซ้อนอยู่ในบ้านท่าน แล้วมีครั้งหนึ่งที่กำแพงบ้านของท่าน มีสุนัขโผล่ออกมาจากมิติครึ่งตัว ที่กำแพงบ้าน จนเด็กเห็นแล้วร้องไห้เพราะกลัว


    - แล้วอีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า ท่านเคยถามลูกชายว่าถ้าเกิดภัยพิบัติแล้วแม่จะไปอยู่ที่ไหน ซึ่งลูกชายก็กล่าวว่าก็ไปอยู่ที่เขากะลาสิแม่ (ซึ่งลูกชายของท่านกับกลุ่มเขากะลา(เดิม)ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน) ซึ่งท่านผู้นี้จึงได้มาสอบถามเรื่องมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา กับพี่สุดใจ


    - ซึ่งพี่สุดใจก็ได้เล่าให้ท่านผู้นี้ได้ฟังว่ามนุษย์ต่างดาวเขามาเตรียมการไว้ที่เขากะลา โดยมีการสร้างใยแก้วครอบโดยรอบเขาออกไป 100 ตารางกิโลเมตร
    เพื่อป้องกันภัยพิบัติจากภัยธรรมชาติ และรังสีจากนิวเคลียร์ ซึ่งมีการสร้างมาตั้งแต่ปี 2541 ขณะนั้นจะมีคณะบุคคลต่างๆ ที่มาจากกรุงเทพเป็นส่วนใหญ่ มาพักอยู่บนเขากะลา ตอนกลางคืนหลังเที่ยงคืนไปแล้วจะมีดวงไฟสีขาวสว่างมาก ลักษณะเป็นท่อฉายฉาบไปตามเขาโดยรอบเขากะลาเกือบทุกคืน ซึ่งผู้ที่อยู่บนเขา ก็จะออกมายืนดูกัน หลังจากนั้นไม่นานดวงไฟเหล่านั้นก็ไม่มาปรากฏอีก


    -มนุษย์ต่างดาวสื่อสารผ่าน จ.ส.อ.เชิด บอกว่าสร้างเสร็จแล้ว และมนุษย์ต่างดาวบอกว่า ที่เรียกว่าใยแก้วนั้น เป็นการเปรียบเทียบเพราะมันมองไม่เห็น แต่จริงๆไม่ได้เป็นแก้วเป็นการสร้างเครื่องมือครอบไว้ และมนุษย์ต่างดาวยังบอกอีกว่าได้ทำไว้ในหลายสถานที่ไม่ใช่แต่ที่นี่เท่านั้น สถานที่หลบภัยอื่นๆเขาก็ได้สร้างใยแก้วป้องกันเช่นกัน แม้ว่าสถานที่นั้นจะไม่เคยรับรู้เรื่องของมนุษย์ต่างดาวเลยก็ตาม ก็ยังคงได้รับการสร้างเพื่อป้องกันเช่นกัน


    - เมื่อพี่สุดใจเล่าจบ ท่านผู้นั้นก็กล่าวว่า เหมือนที่ลูกชายบอกไว้ว่าเขากะลามีใยแก้วและลูกชายยังบอกอีกว่า " จ่าเชิดเขาหมดหน้าที่แล้ว" ท่านจึงถามเราว่า "จ่าเชิด" เป็นใคร ซึ่งพี่ก็บอกว่าเป็นพ่อของเราและท่านเสียไปแล้ว ซึ่งมนุษย์ต่างดาวที่สื่อสารกับลูกชายท่านนั้น ได้บอกเรื่องราวของเขากะลาถูกต้องทุกอย่าง ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน



    - ก็เป็นเรื่องราวจากประสบการณ์จริงของครอบครัวหนึ่งที่มีการพบเจอกับสิ่งเหล่านี้ และไม่รู้จะไปบอกกับใคร เพราะคนอื่นทั่วไปก็คิดว่าบ้า แต่ท่านยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และยังเห็นจานบินมาปรากฏที่บ้านอยู่เสมอ



    - คงขออนุญาตไม่กล่าวถึงชื่อของท่านและครอบครัว แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องจนทุกวันนี้


    - ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งคุณ Aspn ก็อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย และพี่สุดใจก็ต้องขอบคุณ คุณ Aspn ที่ได้ตั้งกระทู้ถามมา จึงมีโอกาสได้เล่าเพื่อให้คนอื่นๆได้ทราบด้วย


    - เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เห็นว่า เรื่องของมิติ เรื่องของมนุษย์ต่างดาว ไม่ได้จำกัดอยู่ในวงแคบๆอีกต่อไปแล้ว เมื่อมีคนเริ่มพบวัตถุบินมากขึ้น เริ่มติดต่อได้มากขึ้น ฟนั่นหมายถึงสถานะการณ์เรื่องภัยพิบัติย่อมรุนแรงขึ้นเช่นกัน เพราะเมื่อถึงเวลาต้องเตือน หรือต้องช่วยเหลือ ก็ต้องผ่านช่องทางที่เขาได้มาเตรียมการไว้นั่นเอง



    - และนี่คือส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า "อุปกรณ์หรือเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว" สำหรับรับข้อมูลของมนุษย์ต่างดาว เป็นเทคโนโลยีในรูปแบบพลังงาน ซึ่งมนุษย์ต่างดาวได้เคยอธิบายคำว่าอุปกรณ์ไว้ว่า

    - เป็นเทคโนโลยีเปรียบเทียบได้คล้ายกับทีวีของมนุษย์โลก ถ้าเปิดพร้อมกัน ช่องเดียวกัน ก็จะได้รับข้อมูลเหมือนกัน เช่นถ้ามีทีวี 100 เครื่องแล้วเปิดช่อง 9 พร้อมกันในวันจันทร์ เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง ก็จะได้ดูรายการ V.I.P.พร้อมกัน เพราะทุกเครื่องรับคลื่นจากสถานีเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน

    - ดังนั้นอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวก็เป็นเทคโนโลยี่ ที่ติดตั้งแล้วสามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องใช้เวลาในการฝึกเพื่อสื่อสารกับเขา และสามารถรับรู้เรื่องราวได้พร้อมกันในบุคคลจำนวนมาก และมีความแม่นยำถูกต้องในข้อมูลที่ถูกส่งมา ซึ่งกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ก็ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์นี้แล้วเช่นกัน


    - เรื่องราวต่างๆ ยังมีอีกมากมาย ทั้งพยานวัตถุ และพยานบุคคล ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่น้อยคนนักที่จะกล้าเปิดเผย กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จึงขอเป็นสื่อกลางที่จะตอบคำถามให้กับทุกท่าน


    - ขอบคุณค่ะ








    </DIR>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2007
  6. Aspn

    Aspn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +5,303
    นอกจากที่บริเวณเขากะลาแล้ว ทางมนุษย์ต่างดาวเขาได้สร้างเกราะไว้ที่ใดอีกบ้างครับ ได้บอกหรือเปล่า อยากทราบครับผม [​IMG]
     
  7. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ขอบคุณครับพี่สุดใจ_จากเรื่องที่เล่าให้เราฟัง
    ดูเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากครับ ที่เด็กชายของครอบครัวนั้น สามารถรู้ความเป็นไปของเขากะลามาตลอด
    รู้ว่าเขากะลามีใยแก้วป้องกันนิวเคลียร์ และบอกอีกว่า " จ่าเชิดเขาหมดหน้าที่แล้ว" ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
    แถมเจอเรื่องมิติทับซ้อนปรากฎในบ้านตัวเองอีก..ตอนนี้เป็นไงบ้างไม่รู้นะครับ
    แสดงว่าข่าวสารเหล่านี้ถูกส่งถึงกันหมด..เด็กคนนี้คงมีบทบาทสำคัญไม่น้อยในอนาคตครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2007
  8. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    อ้างอิง......ข้อความของคุณ P_POP ที่กระทู้ ..เชิญสัมมนา UFO อ.เทพพนม vs เขากะลา

    - ยินดีด้วยกับคุณ P_POP ด้วยนะคะที่บันทึกภาพลูกไฟลึกลับได้ที่เขากะลา และขอขอบคุณที่ยังติดตามข้อมูลของทางเขากะลาอย่างต่อเนื่องตลอดมา

    - จึงขอนำภาพ ลูกไฟลึกลับที่เขากะลา มาให้ท่านที่สนใจได้รับชมอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งภาพดังกล่าวนี้ พี่สุดใจได้นำไปโพสต์ในกระทู้ของคุณ P_ POP ด้วย อยากดูภาพที่คุณ P_ POP บันทึกไว้ได้ ก็ไปดูได้จากกระทู้ที่อ้างอิงถึงนะคะ

    - ที่เขากะลา จะมีลูกไฟลึกลับหลายรูปแบบ ปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ทั้งลอยขึ้นจากพื้น เป็นดวงไฟสีส้ม ลอยขึ้นมาช้า ๆ จากพื้นดินบริเวณเขากะลา จนขึ้นไปอยู่กลางท้องฟ้าผ่านดวงดาวไปอย่างรวดเร็ว มิสเตอร์จอห์น ฮอร์เน็ต วิศวกรชาวอังกฤษถ่ายภาพไว้ได้

    -ลูกไฟลอยขึ้นมาจากบึงบอระเพ็ด เป็นลูกไฟสีส้ม พอไปถึงกลางฟ้าก็จะหยุด แล้วเปิดไฟกระพริบ ไม่มีเสียง บินผ่านมาทางที่คณะผู้สนใจยืนอยู่ ให้บันทึกภาพ ซึ่งภาพดังกล่าวคุณอนวัช จากกรุงเทพฯบันทึกไว้ได้ ตั้งแต่เริ่มลอยขึ้นจากบึงบอระเพ็ดเลย

    - ลูกไฟสีส้มอยู่เป็นกลุ่ม หลายลูก หมุนควงสว่านเหนือพื้นดินเขากะลา ซึ่งการหมุนจะมีการหมุนจากด้านในดวงไฟเป็นชั้น ๆ พี่สุดใจ บันทึกภาพไว้ได้

    - และยังมีอีกหลายรูปแบบ ที่จะนำมาให้ชมกัน(ส่วนมากจะถ่ายไว้เป็นวีดีโอ พี่จะทำเป็นภาพนิ่งมาให้ชมกันก่อนนะคะ)

    - สำหรับวันนี้ จะนำภาพลูกไฟลึกลับที่เขากะลา ซึ่งทีมงาน สารคดี UFO เดินทางไปรอถ่ายทำที่เขากะลาถึง 4 วันมาให้ชมกัน เป็นภาพลูกไฟดวงใหญ่ ลอยอย่างรวดเร็วในระดับที่ไม่สูงนัก และลอยเหนือแนวไฟถนนที่พื้นดินด้วยความเร็วมาก ลักษณะเป็นดวงไฟใหญ่สีส้ม ไม่มีลำแสง แต่มีการเรืองแสงจากดวงไฟลึกลับนั้น ซึ่งเราได้บันทึกภาพรถที่วิ่งผ่านมาให้เปรียบเทียบ ทั้งรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์จะมีลำแสงส่องออกมาด้านหน้าเป็นลำยาว แม้จะถ่ายในระยะที่ไกลก็ยังเห็นลำแสงของรถอยู่นั่นเอง

    - ทีมงาน สารคดี UFO เป็นผู้บันทึกภาพไว้ได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2007
  9. โบ๊ต

    โบ๊ต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    387
    ค่าพลัง:
    +847
    เหมือนหนังสือที่ ท่าน โนวาอนาลัย เลยครับ
    ว่ามีมิติหลายมิติซ้อนทับกันอยู่
    โอ้วจอร์จมันยอดมาก
     
  10. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ลูกไฟลึกลับที่เคลื่อนเป็นกลุ่ม ที่เขากะลา

    -พี่สุดใจขอนำภาพลูกไฟลึกลับที่เขากะลา อีกรูปแบบหนึ่งมาให้ชมกัน

    -เป็นกลุ่มดวงไฟสีส้มที่เคลื่อนที่ไปมาเหนือพื้นดิน และจากภาพที่บันทึกได้ด้วยกล้องวีดีโอ ทำให้เห็นการเคลื่อนที่ไปมาด้วยการหมุนไปมาแบบควงสว่าน ภายในดวงไฟจะเก็บลำแสงไว้ภายในดวงไฟเท่านั้น จะไม่มีประกายออกมาจากดวงไฟนั้นเลย ซึ่งเมื่อเราถ่ายภาพรถที่เคลื่อนไปมา เราจะเห็นลำแสงไฟหน้ารถที่สาดเป็นลำ แต่วัตถุนี้ไม่มีลำแสง ไม่มีสีขาวเหมือนไฟรถ แต่จะเป็นสีส้มเข้มลอยซ้อนกันไปมา

    -อีกอย่างหนึ่งเป็นจุดสังเกตุ คือ ภายในดวงไฟนั้นจะมีแกนกลาง และลำแสงสามารถหรี่ให้อ่อนแสงลง หรือเพิ่มให้มีแสงสว่างจ้าออกมาได้ เมื่อแสงสว่างจ้าเราจะไม่เห็นแกนกลาง เมื่อไฟอ่อนหรี่แสงลง เราจะเห็นแกนกลางเป็นชั้น ๆ ซึ่งไฟรถยนต์ หรือไฟจากแหล่งใดก็ตาม จะมีเพียงปิด และเปิดเท่านั้น ไม่มีการหรี่แสง และเพิ่มแสงได้เช่นดวงไฟลึกลับนี้
    - มีภาพรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์ที่แล่นผ่านในระยะไกล ก็ยังเห็นลำแสงสาดออกมาชัดเจน ได้แนบมาเพื่อใช้เปรียบเทียบด้วย 2 ภาพสุดท้าย

    -ก็เป็นภาพแปลก ๆ ที่นำมาให้ดู และพี่สุดใจเป็นคนถ่ายภาพนี้ได้ในวันคล้ายวันเกิด คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2542 ซึ่งเป็นครบรอบวันเกิดของพี่เองและได้ขึ้นไปบนเขากะลา จึงบันทึกไว้ได้และนำมาให้ชมกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2007
  11. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    จะมีอีกเมื่อไหร่ อยากไปดูด้วยจัง อย่างไร????

    ไปไหน ไปกัน เลือดสุพรรณ กัลยา
     
  12. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ขอขอบคุณเว็ปมาสเตอร์ทุกท่าน

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  13. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    จ.ส.อ. เชิด ชื่นสำนวน จากต่างมิติ

    <DIR>- จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เสียชีวิตลง ได้แจ้งข่าวไปยังผู้ที่เคยเดินทางมาเขากะลา และรู้จัก จ.ส.อ.เชิด ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็มีคุณแม้ว ซึ่งอยู่กรุงเทพฯ แจ้งว่าจะเดินทางมาในวัน ฌาปนกิจศพ วันที่ 30 กันยายน 2543

    - ในวันที่ 30 คุณแม้ว ได้เดินทางมากับคุณศุภชัยจากฉะเชิงเทรา เมื่อมาถึงได้ยื่นซองเงิน จำนวน 2 ซองให้กับเรา ซึ่งซองหนึ่งเป็นของคุณแม้ว และอีกซองหนึ่งเป็นของ คุณวรวิทย์ ซึ่งเขาไม่เคยรู้จักเขากะลามาก่อน และไม่เคยรู้จัก จ.ส.อ.เชิดมาก่อนเลย

    - คุณวรวิทย์ เล่าว่า ในคืนก่อนหน้าที่คุณแม้วจะเดินทางมานั้น คุณวรวิทย์ นั่งสมาธิอยู่ที่บ้าน และมีผู้ชายคนหนึ่งมีอายุแล้ว ผอม สูง ได้เข้ามาหาในสมาธิ แล้วบอกว่า ท่านอยู่ที่เขากะลา ให้ฝากบอกไปยังลูกสาวของท่านด้วยว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  14. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    พี่สุดใจเอาประวัติลึกๆของเขากะลามาเล่าให้ฟัง ทำให้นึกถึงตอนแรกๆที่พบกันใหม่ๆครับ..

    ตอนนั้น อ.สถิตย์ธรรม เรียกผมกับคุณอลงกรณ์ไปพบ..หลังจากบันทึกภาพ vdo ที่รร.สิงหบุรีห์ได้ มีคนนับหมื่นอยู่ในเหตุการณ์สำคัญวันนั้น นึกถึงแล้วยังตื่นเต้นอยู่เลยครับ..วันนั้นเค้ามาให้เห็นชัดมาก

    เลยได้รู้จักพี่สุดใจกับคุณลุงเชิดในตอนนั้น อัดรายการข่าวเสร็จก็พากันไปทานข้าวต้มแถวคลองตันด้วยกัน ก็ยังเห็นบินวนเวียนตามมาด้วยเลย ช่วงนั้นด้วยความสนใจพอถึงเสาร์อาทิตย์ที่ไร ก็มักจะตามไปนอนค้างที่บ้านสิงห์บุรีบ้าง นครสวรรค์บ้าง สนุกมาก ทางกลุ่มต้อนรับผมกับเพื่อนดีสุดๆครับ ขอบพระคุณมากครับ เลยเป็นโอกาสให้ตามถ่ายภาพกลางดึก แอบบินผ่านหลังคาบ้านเงียบๆได้หลายครั้ง

    จนวันไปเปิดเขากะลาวันแรก 3 กุมภาพันธ์ --ปีอะไรจำไม่ได้ครับ..วันนั้นไปกันหลายคนสนุกมากเฝ้าดูกันทั้งคืนถึงเช้า..ตั้งแต่เที่ยงคืนเริ่มมีคนเห็นจำนวนหลายลำมากทั้งลงจอด บินลอยไปมา..คร่าวๆน่าจะ มีเกิน 10 ลำ ที่บันทึกภาพไว้ได้ ส่วนมากจะเป็นไฟกระพริบแปลก หลอดไฟเดียวกันแต่เปลื่ยนสีไปมาได้ เคลื่อนตัวไปมาบนไร่อ้อย แบบนิ่มๆ ช้าๆ (ไม่มีเอียงลงหลุมแบบรถบรรทุก)

    พอกลับกรุงเทพมา เจอจะๆอีกครั้งกับเพื่อนอีก 3 คน ตอนบินผ่านหน้ารถยนต์ระยะใกล้ๆสัก 60 เมตรเห็นจะได้..(คว้ากล้องไม่ทัน) โฉบลงมาชนิดปักหัว 45 องศา (มาทางซ้าย) เงียบไม่มีเสียง..กระพริบไฟถี่ๆ สีชมพูแดงๆ ขาวๆ..บนถนนลำลูกกาคลอง 5..อันนี้ทำให้เชื่อสนิทเลยครับ..หมดสงสัยไปเลยตรงนั้น..
    นับเป็นประสบการณ์ที่ต้องจดจำไปอีกนานครับ เชื่อว่าในอนาคตอันไกล้นี้คงมีมีโอกาสพบปะแบบเป็นรูปธรรมแน่นอนครับ..ขณะนั้นมิติของเค้ายังไม่เปิดให้มาก อาจผิดกฎของจักรวาลและยังไม่ถึงเวลาด้วย..กับสิ่งสาระที่เค้ามาเตือนมาบอกควรรับฟังไว้ครับ ถึงแม้หลักฐานที่ได้มาอาจดูไม่น่าเชื่อถือนักถ้าไม่ประสบด้วยตนเองจริงๆครับ


    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2007
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ภายในยานอวกาศ..ตามข้อมูลการสื่อโทรจิตจาก ลุงเชิด ชื่นสำนวน
    จากการสอบถามคุณลุงเชิด ชื่นสำนวล (ตอนนี้ท่านเสียไปแล้วครับ..น่าเสียดายครับ)..ท่านเล่าให้ฟังว่า ..

    ยานลูก ซึ่งออกมาจากยานแม่ของมนุษย์ต่างดาว 1 ลำจะมีพวกเขานั่งกันอยู่ 5 คน ในห้องโดยสารมี กัปตัน 1 คนควบคุมอยู่ตรงกลางห้อง มีลูกเรือ อีก 4 คนทำหน้าที่ช่วยเหลือสอดส่องควบคุมด้วยกล้องแสงออร่า

    ยานลูกจะมี 2ชั้น ชั้นบนเป็นห้องนักบิน ส่วนชั้นล่างมีห้องเก็บอุปกรณ์การสำรวจและเครื่องมือ ขับเคลื่อนด้วยแร่ธาตุชนิดหนึ่ง (เขาไม่บอกครับ) ร่วมกับพลังจิตของพวกเขาเอง.. สังเกตที่แผงควบคุมครับจะเป็นรูปมือของเขา เวลาใช้จะวางมือลงไปบนแผงควบคุมส่งรหัสข้อมูลเป็นสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า..

    การที่เขามีเทคโนโลยี่ที่พัฒนาจานบินได้ระดับนั้น..เพราะเขารู้จักการผสมผสานวิทยาการและศาสตร์ด้านต่างๆ เข้าด้วยกันจนได้ความรู้ใหม่ๆเกิดขึ้น เช่น การที่นักวิศวะไฟฟ้า..ร่วมมือกับ นักฟิสิกค์เคมี จะเกิดศาสตร์แขนงใหม่ รวมทั้งมีความรู้ในเรื่อง มิติของภพภูมิต่างๆ และการใชัพลังจิตในการควบคุมวัตถุธาตุต่างๆ
    เขาก้าวหน้าไปกว่ามนุษย์โลกนับร้อยปี แต่เขาก้ไม่เคยทิ้งเรี่องของ"จิต"เลยแม้แต่น้อย ..
    การที่เขาเดินทางไป-มา หรือเ้ข้า-ออก ในมิติโลกและอวกาศได้นั้นเขาบอกว่าเขาใช้วิธี
    1-ปรับมวลสารให้มีค่าเป็นลบ -(เพิ่อการทะลุทะลวงมิติเวลา)
    2-ปรับค่าG (gravity)ให้เป็นศูนย์..(ไม่มีแรงภายนอกมากระทำ)
    3-สร้างแรงเหวี่ยง และศูนย์ถ่วงจำเพาะด้วยสนามแม่เหล็กภายในตนเอง
    4-มีชุดสวมใส่ที่ป้องกันตนเองในการเดินทาง
    5-ใช้จิตควบคุมพลังงานและการกำหนดทิศทาง(ด้วยแร่ธาตุในโลกของเขา)
    6-อาศัยช่องทางหรือช่องโหว่ของมิติ และเส้นแสงช่วยในการเดินทาง
    ทำให้สามารถเดินทางได้ด้วยอัตราเร็วเปลี่ยนค่าเป็น2เท่าในทุกๆวินาทีของความเร็วแสง (ตามสูตร E=Mc2 ของไอนสไตน์ ความเร็วสูงสุดเทียบเท่าแสงหรือมากกว่าแสง หรืออาจเร็วเกือบเท่าจิตก็เป็นได้)

    ..อาจเป็นแนว Concept ในการออกแบบทางวิศวกรรมในอนาคต ไม่แน่เราอาจเป็นชาติแรกของโลกที่ทำได้สำเร็จด้วยพลังจิต จากฝีมือของคนไทยก็ได้นะครับ...
    <!-- / message --><!-- attachments -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]

    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2007
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    รูปร่างหน้าตาของเขาตามข้อมูลที่คุณลุงเชิดให้มา มีลักษณะคล้ายๆแบบนี้ครับ..
    รูปร่างสูงประมาณ 3 ฟุต ศรีษะโตรูปหัวใจ ตาโตสีดำ มีเส้นผมหลายเส้นเป็นกระจุกตั้งขึ้นไป (ใช้ทำหน้าที่รับ-ส่งคลื่นพลังจิต) ลำตัวเล็กท้องใหญ่ (เก็บพลังงานไว้ที่ท้อง) ใส่ชุดอวกาศสีเงินครับ..
    เขาเป็นเผ่าพันธ์หนึ่งมาจากดาวที่อยู่นอกระบบสุริยะของเราครับ หรือกลุ่มดาว "กาแลคซี่ที่ 2" โดยบรรดามนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ มีชื่อสะกดเหมือนกันหมดคือ "EEH" หรือ"อีอีเฮช" อ่านได้ตามภาษามนุษย์โลกว่า "เอช" ครับ..
    ส่วนโลกของเรา อยู่ในกลุ่มดาว "กาแลคซี่ที่ 4" และยังมีมนุษย์ต่างดาวในกลุ่ม "กาแลคซี่ที่ 6" ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีการพัฒนาการทางด้านจิตใจและศิลปะด้วยครับ..
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
     
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ขอรบกวนอยากให้ลองดูอันนี้ดูว่า มันมีแนวโน้มว่าจะเป็นของจริงหรือเปล่า เค้าเขียนอธิบายคลิปนี้ว่า

    "achei no Emule a continuação daquele Secret Nasa's Video que eu postei.Alguns E.ts são parecidos com humanos como este dizia o site e tbm alguns programas de TV que eu assisti.Os caras que estão filmando maltratam ele mas depois foram mortos sem explicações dos especialistas como dizia o site."

    เป็นภาษาโปรตุเกส ลองใช้เวปแปลภาษาดูก็ได้ความว่า

    "I found in Emule the continuation of that Secret Nasa's Video that I postei. Some E.ts is seemed human beings as this said the site and tbm some programs of TV that I attended. The faces that are filming maltreat it but later they had been died without explanations of the specialists as it said the site."

    แปลได้ประมาณนี้(มีแปลข้ามๆ ไปบ้าง)"ไปเจอเทปลับของนาซามา มนุษย์ต่างดาวตนนี้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ตามที่กล่าวอ้างในเวปไซต์"

    <object width="420" height="339" id="flvplayer"><param name="movie" value="http://files.indavideo.hu/player/vc_o.swf?vID=9740b72e6b" /><param name="menu" value="false" /><embed src="http://files.indavideo.hu/player/vc_o.swf?vID=9740b72e6b" width="420" height="339" name="flvplayer" type="application/x-shockwave-flash" /></object>

    http://www.indavideo.hu/video/ET_Capturado_Pela_Nasa_Part2
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    คุณซิปเปอร์นี่ช่างไปหาคลิปแปลกๆมานะครับ
    เห็นที่แรก ดูคล้ายคนป่วยกล้ามเนื้อสัดส่วนเหมือนคนแต่ตัวเล็ก มือมีสี่นิ้ว
    แต่ศรีษะโตเหมือนบวมน้ำ ลูกตาเค้ากรอกไปมาแบบกลัวๆ
    เรียกว่าถ้าลุกยืนคงไม่ไหวแน่ ในสภาวะแรงดึงดูดแบบนี้
    ช่วงต่อมาเป็นคนละคนครับ เค้าถ่ายเห็นใบหน้าชัดๆ ตากลมโตเหมือนตากบหดขยายได้ (ไม่มีหนังตา)
    ปากกว้างและกรามกระดูกไม่เหมือนคนปกติออกยื่นๆหน่อย ถ้างับนิ้วคงขาดแน่
    อากัปกิริยาออกแนวก้าวร้าวเพราะโดนจับขัง
    การแสดงอารมณ์-คำพูด ผิวหนัง ถ้าเป็นหุ่นกลไกดูแล้วไม่น่าทำได้ถึงขนาดนี้
    เทียบกับหนัง Hollywood ผมว่าทำได้แนบเนียนเหมือนกว่า"กอลัม"ใน Lords Of The Ring อีกครับ
    ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องEffice แต่ยากเกินไปที่จะทำปลอมเพื่อมาหลอกคนดู
    ดูเป็นจริงมากกว่า ถ้าไม่ใช่เอาคนป่วยมาถ่ายก็เป็นของจริงครับ
    ว่าแต่ทำไม่ไปทรมานเค้าขนาดนั้น..มาติดต่อที่เมืองไทยปลอดภัยกว่าเยอะเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2007
  20. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ไปหามาจาก youtube ครับ ที่นั่นมีคลิปแปลกๆ เพียบเลย มีคลิปที่เค้าว่ามีหุ่นยนต์บนดาวอังคารด้วย ก็ไม่รู้ว่า fake หรือเปล่า

    ส่วนคลิปอันนี้ให้คนที่ทำงานดู ก็มีคนบอกเหมือนกันว่าเป็นคนป่วยอะไรหรือเปล่า บ้างก็ว่ามนุษย์ต่างดาวไม่น่าจะมีรูปร่างคล้ายคนขนาดนี้

    เดี๋ยวนี้เทคนิคการทำหนังก็พัฒนาไปไกลจนดูแล้วแยกไม่ออกเลย
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...