พระราหุลบรรลุพระอรหันต์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ยศวดี, 23 สิงหาคม 2012.

  1. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐีเขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงหลีกเร้นประทับอยู่ในที่รโหฐาน ได้เกิดพระปริวิตกทางพระหฤทัยขึ้นอย่างนี้ว่าราหุลมีธรรมที่บ่มวิมุตติแก่กล้าแล้วแล ถ้ากระไร เราพึงแนะนำราหุลในธรรมที่สิ้นอาสวะยิ่งขึ้นเถิด ฯ

    ต่อนั้น พระผู้มีพระภาคทรงครองสบง ทรงบาตรจีวรเสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังพระนครสาวัตถีในเวลาเช้า ครั้นเสด็จกลับจากบิณฑบาต ภายหลังเวลาพระกระยาหารแล้วได้ตรัสกะท่านพระราหุลว่า ดูกรราหุล เธอจงถือผ้ารองนั่ง เราจักเข้าไปยังป่าอันธวัน เพื่อพักผ่อนกลางวันกัน ท่านพระราหุลทูลรับพระผู้มีพระภาคว่า ชอบแล้ว พระพุทธเจ้าข้า แล้วจึงถือผ้ารองนั่งติดตามพระผู้มีพระภาคไป ณ เบื้องพระปฤษฎางค์ ก็สมัยนั้นแล เทวดาหลายพันตนได้ติดตามพระผู้มีพระภาคไปด้วยทราบว่า วันนี้ พระผู้มีพระภาคจักทรงแนะนำท่าน พระราหุลในธรรมที่สิ้นอาสวะยิ่งขึ้น

    ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าถึงป่าอันธวันแล้ว จึงประทับนั่ง ณ อาสนะที่ท่านพระราหุลแต่งตั้ง ณ ควงไม้แห่งหนึ่งแม้ท่านพระราหุลก็ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาค แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ

    พอนั่งเรียบร้อยแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า

    ดูกรราหุล เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน

    จักษุ เที่ยงหรือไม่เที่ยง

    รูป ...จักษุวิญญาณ...จักษุสัมผัส ...โสตะ ...ฆานะ ...ชิวหา ...กาย...มโน...

    ธรรมารมณ์ ...มโนวิญญาณ ...มโนสัมผัส เที่ยงหรือไม่เที่ยง ฯ

    เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ ที่เกิดเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย แม้นั้น เที่ยงหรือไม่เที่ยง ฯ

    พระราหุล ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า ฯ

    พระผู้มีพระภาค ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข ฯ

    พระราหุล เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า ฯ

    พระผู้มีพระภาค ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือที่ จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรานั่นเรา นั่นอัตตาของเรา ฯ

    พระราหุล ไม่ควร พระพุทธเจ้าข้า ฯ

    พระผู้มีพระภาค ดูกรราหุล อริยสาวกผู้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้

    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักษุ...แม้ในรูป ...แม้ในจักษุวิญญาณ...แม้ในจักษุสัมผัส

    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัยนั้น ฯ

    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในโสตะ ...แม้ในเสียง ...แม้ในฆานะ แม้ในกลิ่น

    แม้ในชิวหา...แม้ในรส ...แม้ในกาย...แม้ในโผฏฐัพพะ ...แม้ในมโน ...แม้ในธรรมารมณ์

    แม้ในมโนวิญญาณ...แม้ในมโนสัมผัส

    ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัยนั้น ฯ

    เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จึงหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณรู้ว่า หลุดพ้นแล้วและทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้วพรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ

    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว จิตของท่านพระราหุลหลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น และเทวดาหลายพันตนนั้นได้เกิดดวงตาเห็นธรรมอันปราศจากธุลีหมดมลทินว่า

    สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

    สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา

    จากความเมตตาของเว๊บhttp://www.dharma-gateway.comเจ้าคะ

    โมทนาสาธุคะ
     
  2. wonderfulman

    wonderfulman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2011
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +308
    ยังกิญจิ สมุทยะธรรมัง สัพพันตังนิโรธะธัมมันติ...

    ...สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

    สิ่งนั้นล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา...:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...