ในเว็บนี้มีใครเป็นพระโสดาบันแล้วบ้างเอ่ย

สิ่งที่เราไม่รู้ ใช่ว่าจะไม่มี
สิ่งที่มีอยู่อาจจะไม่ใช่
ผมคนหนึ่งที่เชื่อพระธรรมคำสอนที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านเทศน์ และมั่นใจส่วนตัวว่าท่านเป็นพระอรหันต์ รวมทั้งหลวงตามหาบัว หลวงพ่อพุธ หลวงปู่ดุลย์ (จากคำสอนท่านที่เพื่อนสมาชิกpost)
ถึงแม้ว่าผมไม่ได้เป็นศิษย์ท่านโดยตรง
ส่วนตัวก็มีความเชื่อมั่นหลวงพ่อปานอยู่แล้ว และมั่นใจว่าหลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและอยู่ในสายตาหลวงพ่อปานหลายปี บวกกับได้อ่านคำสอนของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำจึงทำให้มีความมั่นใจมาก
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านเคยพูดไว้ภายใน50ปีจะมีคนนิพพานตั้ง700,000คน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ไม่น้อยและไม่มากเมื่อเทียบกับ 6,000-7,000พันล้านคน
โดยส่วนตัว เข้าปี25XXแล้ว ก็เป็นไปได้ที่จะมีพระอรหันต์เตวิชโช เป็นจำนวนมากซึ่งมา
ทางมโนยิทธิบวกกับข้อปฏิบัติอื่นๆที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านสอน ท่านว่าทางนี้เป็นทางที่ง่ายที่สุด และผมมั่นใจว่ายุคนี้ยังมีพระอรหันต์ฉฬภิญโญ ปฏิสัมภิทัปปัตโต ที่มาทาง
สติปัฏฐาน4ด้วย แม้ว่าจะน้อยกว่าปี1xxx แต่น่าจะมีอีก สุกขวิปัสสโกก็เช่นกัน

แต่คิดว่าพระอริยเจ้าน่าจะมีมากขึ้นเป็นอย่างมาก หลังจากเกิดภัยพิบัติใหญ่ จนเหลือคนดี คนมีศีลมาก แล้วเห็นทุกข์อย่างแสนสาหัสทั้งตัวเองและคนรอบข้าง เห็นความตายมากมายจนไม่ประมาทในความตายอีก แล้วเร่งความเพียรกันมาก
ตอนนี้จึงมั่นใจว่า น่าจะมีหลายคนที่เข้าสังขารุเปกขาญาณบ้างแล้ว และอาจจะเริ่มมีพระโสดาปฏิมรรค โสดาปฏิผล แล้วก็เป็นไปได้เหมือนกัน
เรื่องที่ท่านทำนายเป็นเรื่องที่น่ายินดี เราก็เพียรให้ถึงทางนี้ให้เป็นปัจจัตตังเอง
อย่างน้อยผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติทางนี้ก็เห็นความสำคัญในศีลและน้อมปฏิบัติกัน

 

อันปุถุชนนั้นเป็นกันอยู่แล้วครับ แต่นับตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปจนถึงอรหันต์ไม่เห็นมีสักคนเลย ส่วนใครคิดว่าตัวเองเป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และอรหันต์นั้น ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ล่ะท่าน ส่วนจะมีใครทำนายว่าคนโน้นคนนี้เป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และอรหันต์นั้น เชื่อได้แค่ไหน ในสมัยพุทธกาลก็ไม่เคยมีศิษย์พระพุทธเจ้าท่านใดทำนายใครเลยซักท่าน มีแต่พระพุทธองค์เท่านั้นแหระที่ยืนยันได้แต่เพียงผู้เดียว และก็ไม่มีสาวกของพระพุทธเจ้าเคยประกาศตนว่าเป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี และอรหันต์ จะมีแต่ผู้ที่ยังไม่ได้เป็นเท่านั้นแหระที่ประกาศบอกให้รู้ว่าตัวท่านเป็น หรือว่ามีในพระไตรปิฏก ถ้ามีขอท่านผู้รู้กรุณาช่วยหามายืนยันให้ด้วย จะเป็นกุศลอย่างยิ่ง แต่ก็อย่างว่าไม่รู้ทำไมยุคนี้ถึงมีผู้ที่เก่งสามารถบอกได้ว่าคนโน้นคนนี้เป็น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ ได้หรือว่ามีพระพุทธเจ้าได้เกิดขึ้นมาใหม่แล้ว ที่กล่าวมานี้ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่หรือดูหมิ่นท่านใด เพียงแต่ความสงสัยยังมีอยู่ ขออนุโมทนา

 

ดูเหมือนเคยอ่านเจอเหมือนกันนะ พระพูดพระรูปนี้เป็นพระอรหันต์ ประมาณนี้
พระอรหันต์โดยปกติพระพุทธเจ้ารับรองยืนยันนี่ถูกอยู่แล้วครับ แต่ปกติพระท่านพูดถึงกันแบบไม่โจ่งแจ้งก็มีอยู่ สำหรับฆราวาสก็รับรู้เฉยๆ
แหมท่าน คิดในแง่ดี webนี้มีผู้สนใจธรรมตั้งเยอะ รวมทั้งคุณด้วย ด้วยความตั้งใจศึกษาปฏิบัติกันบ้างแล้ว ก็ต้องสำเร็จกันซักวัน

 

ก็ตามนั้นแหระ ไช่ว่าจะไม่สนใจในการปฏิบัติธรรม และก็รู้อยู่ว่าถ้าทำถูกต้องก็ต้องสำเร็จเข้าสักวัน แต่สิ่งที่จะสื่อบอกหมายถึง ถ้ามีคนสำเร็จขั้นใดขั้นหนึ่งในที่นี้ เขาจะรู้ตัวของเขาเอง และถ้าสำเร็จจริงๆ สิ่งที่เขาเป็นอยู่นั้นแหระจะบอกลักษณะของการสำเร็จในตัว ไม่ไช่ทำสิ่งที่เป็นอกุศลโดยขาดสติ จนเป็นเหตุให้ต้องเกิดอกุศลแล้วอกุศลเล่า แล้วบอกว่าสำเร็จขั้นนั้นขั้นนี้ ถ้าสำเร็จขั้นหนึ่งขั้นใดแล้วไซร้ การกระทำที่เป็นอกุศลจะไม่ปรากฏให้เห็นได้เลย อย่างนี้ถึงเรียกว่าปิดอบายภูมิอย่างแท้จริง ตราบใดที่ยังกระทำ ทางกาย วาจา และใจ ในทางที่เป็นอกุศลอยู่ ชาตินี้แม้แต่จะเข้าถึงพระรัตนะไตรนั้นยังห่างไกลเลย แล้วจะเอาอริยผลนั้น คงจะต้องรอไปก่อน ขออนุโมทนา

 

ใช่ครับ สิ่งที่เขาเป็นอยู่นั้นแหละจะบอกลักษณะของการสำเร็จในตัว ประโยคนี้พระท่านหนึ่งเทศน์ไว้ ชัดเจนดี บางคนว่าเขาเป็นแต่วาจาและกริยาชั่งตรงกันข้ามได้ชัดเจนดีแท้ ถึงแม้ว่าจะแสดงออกเป็นตัวหนังสือ

 

สรุปในบอร์ดนี้ไม่มีใครได้โสดาบันขึ้นไปเลยเหรอ เลยไม่มาลงชื่อกันไว้เลยอ่ะ ถ้ากลัวว่าไม่มีใครรับรองให้ว่าเป็นโสดาบันขึ้นไป เดี๋ยวผมรับรองให้ก็ได้ครับ ชัวร์มั่วนิ่มร้อยเปอร์เซ็นต์

 

ปถุชนจะรับรองอริยะได้อย่างไร

 

ก็ยังไม่เห็นประกาศอะไรนี้ จะไปกลัวอะไรกั๊นครับ

ไม่มีหรอกครับ โสดาบันที่รู้ได้ว่าใครเป็นโสดาบันของปลอม แค่โสดาบันหนะ รู้ไม่ได้หรอกครับ ได้แค่สงสัยเท่านั้นแหละ

 

เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แก้ไปแก้มา เดี๋ยวโพสเดี๋ยวลบ ไม่แน่ใจก็เฉยไว้ดีกว่าเจตนาปรับปรำคนอื่นนะครับ

 

ดิฉันต้องขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะจริงๆแล้วไม่มีเจตนาปรับปรำผู้อื่นแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะตั้งใจแสดงให้เห็นส่วนที่สำคัญ เรื่องอริยกันตศีลและอนัตตา ซึ่งอาจจะยังไม่จำเป็นในตอนนี้ เพราะมันเกี่ยวกับสังโยชน์3แต่หลังจากเข้าโครตภูฯต้องนำสังโยชน์3มาพิจารณา ซึ่งเป็นการเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวในอดีต
อย่างไรก็ตาม ดิฉันต้องขอบคุณ คุณ痛苦ที่แสดงรู้ว่าคุณยังไม่เข้าใจดีพอ แต่ถ้าหากคุณตั้งใจปฏิบัติไปเรื่อยๆโดยใช้วิธีที่คุณถนัด และเมื่อถึงวันนั้น คุณจะเข้าใจถึงสิ่งที่ดิฉันแสดง

 

เชิญชาวสีม่วง คิดเองเออเองตามสบายละกัน

 

เคยอ่านประวัติหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ท่านยกธรรมะที่หลวงปู่มั่นเทศน์ ใว้ตอนหนึ่ง ว่านี่เป็นธรรมขั้นสูง ดังนี้ "ธรรมขั้นไดก็ตามถ้ายังมีผู้เข้าไปสำคัญว่าเสพอยู่ ก็ถือว่าผิด"

ผมคิดว่าพระโสดาบันเกิดปัญญาเห็นและยอมรับว่า กาย-ใจ ไม่ใช่เราแล้ว ถึงจิตจะตัดสังโยชน์แล้ว ก็คงเพียงรู้อยู่ และจิตก็เบาไปมากแล้ว จริงๆแล้วตัวตนคงจะต้องเริ่มเบาลงตั้งแต่ ฝึกจนสติผู้รู้ตัวจริงๆเกิด เกิดเอง ระลึกรู้อยู่เนืองๆ ในอริยะบทสี่ตั้งแต้ตื่นยันหลับ จนสติพลิกเป็นปัญญาเห็นธรรมในแง่มุมต่างๆมากมาย เห็นการปรุงของจิต เห็นฆนะแตกออกเป็นส่วนๆ หรือว่าดีไม่ดี พอฆนะแตกออกเห็นตัวผู้รู้ผู้ดูอยู่ส่วนหนึ่ง เห็นร่างกายอยู่ส้วนหนึ่ง เห็นอารมณ์ที่จิตสร้างขึ้นมาอยู๋ส่วนหนึ่ง เห็นละครที่ถูกสร้างขึ้นให้ไปเสพอารมณ์ อยู่ส่วนหนึ่ง ก่อนจะไหลกลับมารวมกันกลายเป็นเราผู้กันลังอินกับธรรมารมย์นั้นๆอยู่ มันคงเรื่อมเห็นความจริงและถ้ายังไม่ตัดในขณะนั้น จิตคงเข้าใจมายาของจิต และคงทำให้ใจเบาลงไปเยอะแล้ว ความอยากพูดอยากประกาศแทบหายไปหมดแล้วมั้ง ถ้าถึงขั้นตัดสังโยชน์แล้ว อัตตาหน้าใหนมันจะโผล่หัวขึ้นมาประกาศตนต่อชาวบ้าบชาวเมืองล่ะ

 

ผม คร๊าบบบบ

แต่เป็น โสด่า นะ อิอิ

อย่างเช่น แท็กซี่ปาดหน้า เอี๊ยดดดดด ก็เล่นซะ 555+

ขำๆ นะคร๊าบบบบบ

ผมว่า คนปฏิบัติจริง ด้วยอิริยาบททั้ง 4
มันถอนความยึดถือ กาย ใจ แห่งตนออกไปนะ ไม่มากก็น้อย
ตามแต่กำลังแห่งความเพียร และความต่อเนื่อง
กาย ใจ เหลือแต่ สักแต่ว่าใช้ๆ มันไปวันๆ

แล้วหน้าไหนจะบอกว่าตนเป็นล่ะ !

 

ผู้เป็นไม่ได้ ผู้ได้ไม่เป็น