จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    สวัสดีค่ะทุกท่าน

    รู้สึกเป็นปลื้มเมื่อเห็นว่าจิตบุญยังมีความเมตตาให้กันอยู่อย่างเปี่ยมล้น การณ์แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทรงอารมณ์พระ.....นั้นเป็นเรื่องดี(ใครว่าไม่ดีก็ช่าง) ที่ต้องบอกว่าดีเพราะเราไม่ได้ทำไปเพื่อการโอ้อวด แต่เราทำเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลและประคับประครองจิตบุญด้วยกันในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

    การอยู่ในโลกของจิตบุญนั้นอยู่ยากจริง ๆ กายมันเหนื่อย ทุกข์ ที่ทุกข์มากคือเหม็นคาวกับกิเลสของชาวโลก อยู่ใกล้แล้วอยากจะอ้วก แต่ถ้าอยู่ใกล้จิตบุญด้วยกัน โอ้โห เย็นสบายเลย อากาศปลอดโปร่งโล่งทะลุปอด เวอร์ไปป่าว ฮ่าๆ

    โดยเฉพาะจิตที่ยกใหม่ก็เข้าใจนะว่าสติท่านยังงงมากอยู่ แต่ครูจะตามไปเฝ้าจิตท่านต่อก็ไม่ใช่หน้าที่ เพราะฉะนั้นท่านจึงต้องมีสติรู้กายรู้จิตตนเองให้มาก

    อันที่จริงการวางอารมณ์หลังจิตยกก็ไม่มีอะไรยากแล้ว เพียงแต่หลายท่านยังเคยชินกับการดำรงชีวิตในทางโลก แถมจิตยังไปติดสงสัยในขันธ์ห้ามากกว่าตามรู้สภาวจิตที่แท้จริง จึงทำให้สติมาช้า(ไม่อ่อนแล้วนะ เพียงแต่ช้าไปนิดหนึ่ง) กว่าจะรู้ตัวว่าพลาดไปแล้วก็ขันธ์แตกไปเรียบร้อย เหมือนใครหว๋า ฮ่าๆ

    ขออภัยไม่ได้อวดนะ พี่เพ็ญขอบอกว่าสติพี่เพ็ญนี้แข็งโป๊ก เอาโขกกับหินๆยังแตกเป็นเสี่ยง ๆ อันนี้โม้ ฮา

    ขนาดว่าสติของพี่เพ็ญแข็งโป๊ก กิเลสแทรกได้ยาก มันยังมีหลุดขันธ์แตกได้เลย เอ่อ แต่จิตไม่แตกนะ จิตเฉยไม่มีเชื้ออารมณ์ปะทุ แต่ขันธ์ห้ามันก็สะหลิดดกไปตามหน้าที่ของมัน แต่จิตไม่เอากะมันขันธ์ห้า จิตเป็นอิสระลอยเด่นอยู่ดวงเดียว แผ่รัศมีสว่างไสวกว้างไกล

    จากอาการขันธ์แตก จิตก็เลยมองเห็นขันธ์ห้าของตัวเองเลวอยู่เสมอ เพราะมันชอบทำอะไรด้วยความเคยชินของขันธ์ห้า มันไม่ยอมที่จะอยู่เหนือน้ำหนักของตัวเองเลย ฮ่าๆ

    แต่ด้วยเป็นจิตบุญแม้ว่าขันธ์ห้าจะยังมีเลวอยู่ตามธรรมชาติ แต่มันก็รู้จักสำรวมกาย วาจา ใจมากขึ้นว่าตอนจิตยังไม่ยก บางครั้งยังนึกว่าเรานี้มันเลวจริง ๆ ไม่สมควรจะเป็นครูของใครเลย จะเรียกตัวเองว่าครูเพ็ญก็ยังละอายใจอยู่

    ทว่าเรายังมีหน้าที่ต้องเจริญอิทธิบาทสี่ตามคำเชิญของพี่ภูและที่ได้ให้สัจจะกับสมเด็จพ่ององค์ปฐมไว้ว่าจะเป็นครูสอนธรรมะ จิตจึงต้องวางอุเบกขา มีสติรู้กายรู้จิต แยกหน้าที่ของกายกับจิตให้ชัดเจน

    พอสติเห็นชัดแล้วว่ากายมีหน้าที่อะไร จิตมีหน้าที่อะไร มันก็เลยอาศัยอยู่ด้วยกันต่อไปได้

    เรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งนะที่จะบอกเล่าเกี่ยวกับการปฏิบัติของพี่เพ็ญให้ทราบ

    ตอนที่พี่เพ็ญรู้ธรรมะเบื้องต้นที่พระพุทธเจ้าได้ปฐมเทศนาเป็นครั้งแรก ตอนนั้นรู้โดยไม่ได้ไปอ่านตำราเล่มไหน จิตมันคิดพิจารณาคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ไปโปรดสอนปัจวัคคีย์ แล้วคำว่า "เกิด-ดับ" มันก็ผุดขึ้นมา หลังจากนั้นตาสว่างเลย บอกตัวเองว่าเราจะเอาจิตไปเริ่มเรียนรู้จากตรงนี้แหละ

    แล้วต่อมาก็อาศัยทำสมถะภาวนาได้สมาธิตอนนั่งแต่ไม่ได้วิปัสสนา ต้องถอนสมาธิแล้วไปทำวิปัสสนาตอนใช้ชีวิตประจำวันตั้งแต่ตื่นจนหัวถึงหมอนทุกวัน เจอกระทบอะไร มีสติดูมันตั้งแต่เกิดจนดับไปเอง แล้วก็คิดพิจารณาว่ามันไม่เห็นเที่ยงเลยเพราะมันตั้งอยู่ไม่นาน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ถ้าเราอยากได้อารมณ์พอใจเราก็เป็นทุกข์เพราะมันไม่ได้ดั่งใจ ถ้าเราไม่อยากได้อารมณ์ไม่พอใจเราก็เป็นทุกข์เพราะมันไม่ได้ดั่งใจ สุดท้ายไอ่ที่คิดเป็นวักเป็นเวรมันไม่เห็นมีตัวตนอะไรเลย พอพิจารณามาถึงคำว่าไม่มีตัวตน จิตก็ละวางออกจากกิเลสไปเรื่อย ๆ เพราะจิตมันเห็นแล้วว่าธรรมารมณ์เป็นสิ่งไม่ควรยึด จิตจึงเบาคลายจากการยึดติดไปตามลำดับ
     
  2. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    (ต่อ)

    ทีนี้พอถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่รู้ตัวว่าจิตติดเฉย ถ้าจิตติดเวทนาตัวเฉย จิตจะไม่ยอมวิปัสสนา ต้องเอาสติปัญญาไปงัดออกมาชนกับกิเลสให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้างหนึ่ง กว่าจะรู้ตัวว่าจิตติดเฉยก็ปาเข้าไปสองเดือน(ตอนนั้นยังเดินแนวสุขวิปัสสโกอยู่) แล้วก็ตีอัตตามานะของตัวเองไม่แตก พี่ภูก็ย้ำอยู่นั่นแล้ว มานะยังไม่ตายนะครู ไอ่เราก็ธ่อ รู้แล้วว่ามันยังไม่ตาย! แต่เดี๋ยวสักวันมันก็ต้องตายเพราะมันไม่เที่ยง เป็นสิ่งไม่คงที่ ไม่มีตัวตน

    แง >.<' แต่มานะมันไม่ยอมตาย!

    เหมือนนิทานธรรมะของน้องพีพีที่บอกว่า "ข้าไม่อยากตาย" ไง อันนั้นมันอึ๊ของพีพี แต่ของป้าเพ็ญมันเป็นตัวมานะ เอ่ มันเกี่ยวกันไหมหว่า ถ้าใครอยากรู้เมลไปหาแม่พีพี(น้องหนู)ขอส่งนิทานธรรมะเด็กให้อ่าน โยนลูกไปแล้ว ฮ่าๆ

    เราก็ทำไงหว๋า รู้นะว่าจะตีมานะให้ตายต้องเข้าฌานสี่ แต่ฌานสี่ที่เราทำมันก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ส่วนใหญจะไม่ได้ซะมากกว่า ทรงได้แค่ฌานสามละเอียดเท่านั้นเอง มีเฉียดฌานสี่หลายครั้งแต่ก็หลุดตลอด

    วันที่มานะจะตายตัดสินใจเข้าสมาธิเต็มกำลังเท่าที่จะสามารถทำได้ พอหงายหลังตึงก็เห็นมานะมันยังมีตัวมีตนอยู่ สติตามดู ปัญญามันก็คิดพิจารณา ทำไงหว๋า ไอ่มานะมันจึงจะตายเสียที ตรูล่ะเบื่อมันเจง ๆ เดี๋ยวมันก็น้ำขึ้นเดี๋ยวมันก็น้ำลงไม่คงที่เอาเสียเลย

    คืนนั้นตัดสินใจจะนอนดูไอ่ตัวมานะและพยายามขบคิดให้แตกให้ได้ว่าทำไงจะให้มานะตาย นอนเข้าสมาธิจิตทรงฌานสามไม่ลึกนัก พอเห็นว่าทำไรต่อไปไม่ได้ก็ร้องหาท่านพ่อเลย พระพุทธเจ้าช่วยด้วย พระพุทธเจ้าช่วยด้วย พระพุทธเจ้าช่วยด้วย มานะหนูยังไม่ตาย ร้องเหมือนเด็กเรียกหาพ่อแม่ ฮ่าๆ

    อ๊ะ แต่มันได้ผลนะ พอเรียกบ่อย ๆ ท่านพ่อก็รำคาญจิ ก็เลยมีเสียง(รู้ด้วยจิต)ถามขึ้นมาว่า

    "ร่างกายเป็นของเรารึ?"

    พี่เพ็ญตอบในจิตว่า

    "ร่างกายไม่ใช่ของเราพระพุทธเจ้าข้า"

    ท่านถามต่อว่า

    "มานะเป็นของเรารึ?"

    พี่เพ็ญตอบว่า

    "มานะเป็นของร่างกาย มานะไม่ใช่ของเรา(จิต)พระพุทธเจ้าข้า"

    แล้วปัญญามันก็คิดพิจารณาร่างกายใหญ่เลย จนเห็นว่าร่างกายต้องตายแน่ ถ้าร่างกายนี้ยังต้องตาย มานะมันก็ต้องตายไปกับร่างกายจิ แล้วเรา(จิต)มีมานะที่ไหน ไม่มี๊ มานะเป็นของร่างกาย มานะไม่ใช่ของเรา(จิต) มานะไม่ใช่ของเรา(จิต) มานะไม่ใช่ของเรา(จิต)...

    จิตมันท่องซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้นจนเห็นมานะขันธ์นอนตายกลายเป็นศพ แล้วมีตัวเราอีกตัวหนึ่งเป็นตัวแสดงคือร่างปัญญาเก็บศพมานะขึ้นรถลากแบบที่เขาลากโลงศพอ่ะ ลากศพของมานะไปทิ้งที่ไหนสักแห่ง จิตไม่ได้ตามดูต่อ

    พอถอนสมาธิ โอ้โห โล่งเลย จิตโปร่งเลย รู้ตัวว่ามานะตายแล้ว มานะโดนตีหัวแตกตายไปแล้ว วันรุ่งขึ้นรีบส่งเมลไปรายงานพี่ภู แต่พี่ภูยังไม่ค่อยจะเชื่อ แอบส่องดูจิตเราอยู่ตั้งหลายวันกว่าจะเมลมายืนยันว่ามานะครูตายแล้วจริง ๆ ฮ่าๆ

    มานะตายแล้วแต่จิตก็ยังไม่ยก มันยังไปตามเก็บยอดผักบุ้งอยู่ โอ๊ยๆ ตรูจะบ้าตาย กิเลสละเอียดยังผุดขึ้นมาทีละตัวสองตัวให้ตามเก็บตามฆ่าน่ารำคาญมาก พี่ภูทนรำคาญไม่ไหว้บอกให้ทำจิตเกาะพระ แต่ดันทำไม่เป็น ไม่เข้าใจอารมณ์เกาะพระที่พี่ภูบอก

    นี่นะจะบอกให้ พี่ภูท่านเล่นให้โจทย์มาอย่างเดียวเลย พี่เพ็ญก็ตีโจทย์จิตเกาะพระไม่แตกจิ ไม่รู้จะนึกคิดอะไรยังไง เกาะไม่เป็นวุ้ย พี่ภูตื๊อให้พี่เพ็ญทำจิตเกาะพระผ่านเมลอยู่นานเป็นเดือน ๆ แต่พี่เพ็ญก็ยังบื้ออยู่ แถมมีแอบรำคาญพี่ภูด้วย อันนี้พี่ภูรู้ดีเพราะได้ยินเสียงพี่เพ็ญตะโกนใส่หู(จิต)ซะดังก้องสะท้อนเป็นเสียงแอ็กโค่เลย(ถ้าเขียนผิดขออภัย)

    ในที่สุดก็แพ้ลูกตื๊อพี่ภูทั้งเมลมาเร่งทั้งโทร.มาจี้แถมแอบด่าด้วยแหละ..."ทำไมโง่งี้หว๊า สอนเราขึ้นนิพพานได้แต่สอนตัวเองทำจิตเกาะพระไม่เป็น" อิอิ

    เพราะรำคาญลูกตื๊อของพี่ภู(สารภาพ) ก็เลยเอาโจทย์จิตเกาะพระมานอนขบนอนฉัน เอ้ย นอนคิดอยู่หลายวันเป็นสัปดาห์ว่ามันทำไงหว๊าจิตเกาะพระเนี่ย

    ในที่สุดขบไม่แตก เอาวะ ดำน้ำเกาะไปก็แล้วกัน นึก ๆ คิด ๆ ขัดตาทัพพี่ภูไปก่อน ท่านจะได้เลิกจีบ เอ้ย เลิกเซ้าซี้เสียที ฮ่า ๆ แล้วก็ได้ผล ดำผุดดำว่ายจนสำลักนำไปหลายรอบ ลองผิดลองถูกอยู่สามสัปดาห์จิตยกอ่ะ

    การทรงอารมณ์หลังจิตยก สติดีตลอดไม่หลุดเลยตั้งแต่ยกจิต แต่มีบางช่วงสติช้าเพราะไม่เข้าใจอาการของกายกับอารมณ์ของจิตหลังจิตยก ก็ของมันใหม่อยู่นิ แต่หลุดไปนิดเดียวปัญญาก็ไปตามสติกลับมาอยู่กับจิต พอสติกับจิตกับมารักกันใหม่ โอ้โห ทีนี้เห็นชัดเลยว่า ทุกอย่างในขันธ์ห้ามันแยกกันอยู่เป็นกอง ๆ ไม่ปะปนกันเลย

    จิตหนึ่งกอง
    สติหนึ่งกอง
    ปัญญาหนึ่งกอง
    ขันธ์ห้าหนึ่งกอง
    อาการหนึ่งกอง
    อารมณ์หนึ่งกอง
    ฯลฯ

    ทุกอย่างมันแยกออกจากกันจนไม่สามาถกลับมารวมเป็นเนื้อเดียวกันได้อีก ทีนี้แจ่มเลย แยกกาย แยกจิต แยกสติ แยกปัญญา แต่ละกองทำการงานของมันไปตามหน้าที่โดยไม่ปะปนกันเลย

    หลังจากที่เห็นชัดแล้วว่ากายกับจิตมันแยกกันอย่างเด็ดขาด(ทางอารมณ์) กายจะเป็นยังไง จิตมันไม่สนเลย แถมจิตมันยังบอกว่า เออ ดีก็อยู่ที่ขันธ์ห้า เลวก็อยู่ทีขันธ์ห้า ทุกข์ก็อยู่ที่ขันธ์ห้า ปีติสุขก็อยู่ที่ขันธ์ห้า กรรมทุกอย่างอยู่ที่ขันธ์ห้า กิเลสและปรุงแต่งก็อยู่ที่ขันธ์ห้า อารมณ์ใด ๆ เข้าไม่ถึงจิตเลย

    เมื่อเรามีสติรู้ชัดถึงการแยกรูปแยกนามแล้ว ไม่ว่าจะมีอะไรมากระทบมันก็เข้าไม่ถึงจิตสักอย่าง เพราะเรามีสติ ปัญญา และจิตแก่น จิตแท้ จิตทรงภูมิปัญญาอยู่เหนือขันธ์ห้าแล้ว รูปมันก็ไม่เอา เวทนามันก็ไม่เอา สัญญามันก็ไม่เอา(ตกกระป๋องไปนานแล้ว) สังขารมันก็ไม่เอา วิญญาณ(ตัวรับหรือประสาทรับรู้)มันก็ไม่เอา

    สรุปแล้วจิตมันไม่เอาอะไรสักอย่างในขันธ์ห้า ในเมื่อร่างกายที่มันอาศัยอยู่มันยังไม่เอา แล้วมันจะไปเอาอะไรกับโลกนี้ที่อยู่นอกตัวมันอีกเล่า เมื่อจิตไม่ต้องการร่างกาย จิตไม่ต้องการโลกเป็นแดนเกิดอีกต่อไป จิตจึงเป็นอิสระลอยเด่นอยู่ดวงเดียว แสงรัศมีที่แผ่ออกไปรู้ว่ามันยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ เหมือนดวงอาทิตย์แต่ไม่มีความร้อน มีแต่สว่างไสวทุกทิวาราตรีกาล

    เรื่องราวการวางอารมณ์หลังจิตยกของข้าพเจ้าก็เอวังด้วยประการฉะนี้.

    พี่เพ็ญ

    ปล.เรื่องนี้ให้เป็นธรรมทานค่ะ อนุญาตให้ส่งถึงเฉพาะจิตบุญในสายธรรมของท่านได้ค่ะ


    ***ขอประทานโทษที่มิได้ขออนุญาตครูเพ็ญก่อนนำมาลงบทความเพื่อธรรมาทานให้กับพวกเรา ผมชอบให้ครูเพ็ญด่า เพราะผมถือเป็นเรื่องประเสริฐสุดสำหรับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กันยายน 2012
  3. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เล็งเห็นประโยชน์ให้กับพวกเรา ขออนุญาตนำมาขยายต่ออีกทีนะ โดยคุณลูกพลัง(ท่านน่ารักจัง! จิตบุญไม่ทอดทิ้งกัน!) ผมได้คุณลูกพลังมาไม่เสียหลาย บวกคุณวิทย์เข้าไปอีกท่านนึง ผม+ครูเพ็ญก็หายเหนื่อยเลย แต่ยังเหลืออีกอย่างหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ยังนอนตายตาหลับไม่ได้ ก็คือ...Jitkohphra's house

    สำหรับคุณครูทุกท่านครับ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับลูกศิษย์ จิตบุญน้องใหม่
    ให้ไปอ่านจนจุใจและมั่นใจในตนเองมากขึ้น..
    ฝากคุณหมอกับครูวิทย์ด้วย อันไหนพอเป็นประโยชน์ก็ รวบรวมเข้าเป็นตำราหรือจะไปปรับปรุงเสริมแต่งก็ดีครับ..
    (คุณหมอ จิตบุญสายใต้เรานี้ พอจิตยกแล้วถ้าไม่มีครูคอยตามfollow up ก็น่าเป็นห่วงเหมือนกันในการวางกำลังใจต่อไป ของท่านๆนะครับ, โดยเฉพาะท่านที่ไม่ได้access เข้าในกระทู้เลย.. ฝากช่วยกันคิดหน่อยนะครับ)


    การวางกำลังใจสำหรับจิตบุญใหม่ โดยตรวจสอบกับอารมณ์พระ....
    -------------------------------------------------------------------------------
    ถึงท่านจิตบุญใหม่ทุกท่าน
    สำหรับจิตบุญน้องใหม่ที่ยังไม่หายงงๆ ก็ให้ตามไปอ่านกระทู้ตามลิ้งค์ต่อไปนี้
    เพื่อจะได้ตรวจสอบกำลังใจตนเองนะครับ..

    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-140#post6364178

    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-140#post6365370

    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-140#post6366198

    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-141#post6366212

    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-141#post6366220

    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-141#post6366284

    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-141#post6366487

    http://palungjit.org/threads/จิตพร้อม-รับภัยพิบัติ.334019/page-142#post6369791

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี
    ลูกพลัง จบ.19
     
  4. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ลินดาขออภัยทุกท่านที่ทักลินดาในห้องชุมชนชาวจิตเกาพระ เนื่องจากโพสท์ตอบไม่ได้ค่ะ พยายามอยู่หลายครั้งหลยวันแล้วค่ะ
     
  5. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    สักวันพวกเราคงได้เจอกันค่ะ จริตอย่างน้องกับเอื้อยนี้ คงทำประโยชน์หรือสงเคราะห์ ผู้อื่นได้ในแนวอื่น เป็นได้เพียงใดขึ้นอยู่กับความตั้งใจจริง ความเพียรของเรา ผสมผเสกับฟ้าลิขิต แลเมตตาจิตอันไม่มีประมาณของพระพุทธองค์ค่ะ
     
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    กระผมว่าบทความนี้เป็นของครูเพ็ญนะ ท่านละเอียดขนาดนั้น คงไม่ใช่ผมแล้ว ของผมมันหยาบแต่บาดใจ เลือดซิบนิดๆ..อิอิ
     
  7. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    อันนี้ต้องขอขยาย(บ้างน่ะ)
    ด้วยดวงใจอันว้าวุ่นสับสนของผู้คนทั้งหลาย พยายามไปปฏิบัติธรรมตามที่ต่างๆ เพื่ออะไร ขอถามหน่อย อ๊ะๆ อ้าปากค้างแล้ว เอ้าบางทันสติดีตอบได้ในทันใดว่า ให้มีดวงตาเห็นธรรม แต่ยังงงๆอยู่ อ้อนึกได้แล้วตอบต่อ จะได้พ้นทุกข์ไง้ ...พ้นทุกข์อย่างไร เจ้าตัวคนตอบก็ยังงๆ.... เพราะยังไม่รู้ว่าทำไงจึงจักพ้นทุกข์
    บางทันพอเราบอกว่า จิตที่ยกแล้ว ท่านไม่ได้เป็นผู้วิเศษนะจ๊ะ มีแต่จิตท่านเท่านั้นที่พิเศษ อยู่เหนือความทุกข์ทั้งปวง เพราะทุกขืสิ่งไม่มีตัวตน มีความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นปกติของมัน ที่เราทุกข์เพราะจิตเราไปยึดมาปรุงแต่งง
    มาขยายเป็นอารมณ์ต่างๆ ขยายไม่จบกลายเป็นฟุ้งซ่าน บานบุรี
    อ้าวท่านที่เคารพเลยงงต่อ เพราะคิดต่อเพราะอยากได้ความวิเศษอ่ะ แต่อย่างทีคุณภูเคยกล่าวไว้ หลังจากจิตยกท่านจะไปแสวงอะไรต่อก็ทำได้ เพราะมีสติพอที่จะไม่พาตัวเองหลงกับสิ่งเหล่านั้นแล้ว ....เอ้ ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาๆไปกลายเป็นนกกระทา ...ซะงั้น
    เอ ทำไมมีเรพล่าม เอ้ยพูดอยู่คนเดียวนี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  8. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=JWcRVRIw8NM&feature=player_embedded]บอก9เล่า10 12-Sep-12 ดาวหายนะสู่โลก -TMC-2 - YouTube[/ame]​
    จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ​

    ลืมชื่อกระทู้นี้กันหรือยัง?
    ผมขอนำคลิ๊ปวีดีโอนี้เป็นตัวอย่าง ถามว่า จิตของเราพร้อมกันมากน้อยขนาดไหน เพราะมีหลายท่านกำลังจมปักยังเงยหัวไม่ขึ้นยังไม่รู้สึกตัวกัน ที่ท่านกำลังตกอยู่ในบ่อกิเลสของตนเองกันอยู่นั้น ถามอีกทีว่า นอกจากมีสิ่งต่างๆมากระทบจิตกันแล้ว พวกเรายังเป็นทุกข์กันมากถึงขนาดนั้น แต่พอมาดูคลิ๊ปที่ว่านี้กัน แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ พวกเราจะทำใจยอมรับความสูญสิ้น สูญเสียกันได้มากน้อยแค่ไหน ขอย้ำอีกครั้งว่า อย่าหายใจทิ้งขว้าง อย่าทำงานเพลิน อย่าหลงสนุกจนเกินไป อย่าเป็นทุกข์เนิ่นนาน เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ท่านกำลังเล่นอยู่กับสิ่งสมมุติทั้งปวงกันอยู่ นั่นก็หมายความว่า ของมายา ของปลอม ของไม่จริง เพราะมันไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนจริงๆ และของแท้นั้นก็มิได้อยู่ไกลเกินเอื้อม มันก็ติดตามตัวเราไปทุกเช้าค่ำ ทุกลมหายใจกันนั่นแหล่ะ นั่นก็คือ จิตของตนเอง จิตนี่แหล่ะคือ ของจริงแท้ดีที่สุด เป็นของมีค่าที่สุด จิตจะดีหรือชั่วก็ขึ้นอยู่ที่เราจะฝึกฝน หรือจะทำให้มันเป็นอะไรก็ได้ เป็นจิตปุถุชนธรรมดาหรือเป็นอรหันต์ อยู่ที่ตัวของเราเองทั้งนั้น แต่มันก็ใช่ที่บอกว่า กรรมเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิต แต่ถ้าเราดูกันตรงปลายเหตุ ก็ใช่ แต่ถ้าเรามาทำต้นเหตุให้มันดีอย่างเดียว แล้วปลายเหตุจะเลวได้อย่างไร เหมือนหว่านพืชเช่นใด ก็ย่อมได้ผลเช่นนั้น ก็ความหมาย หากปลูกมะม่วงก็ได้มะม่วง ปลูกมะพร้าวก็ได้มะพร้าว เป็นอื่นไปไม่ได้ นี่ก็คือ กฎธรรมชาติ ที่พุทธศาสนา เรียกว่า "พีชนิยาม" หรือ กฎธรรมชาติเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและการสืบพันธุ์

    ร่างกายปล่อยมันไปตามธรรมชาติกันเถ๊อะ เพราะสุดท้ายแล้วก็เป็นสมบัติของโลกนี้อยู่ดี ขอให้พวกเราทำจิตให้พร้อม จะได้สบาย ไม่เป็นทุกข์ ไม่ต้องกลัวตาย กลัวสูญเสีย อย่าไปยึดติดมัน เพราะสิ่งสุดท้ายก็แค่สิ่งสมมุติเท่านั้น ตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ อันนี้เราจะต้องยอมรับกัน แต่ถ้าผู้ใดสามารถฝึกจิตมาดีก็รอดไป

    จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กันยายน 2012
  9. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    หว๋าย พี่ภูหนูพี่เพ็ญเขินนะเนี่ย
    ดูดิเล่นซะเป็นโจ๊กเลย ฮ่าๆๆ
    ที่บอกว่าให้เฉพาะจิตบุญอ่านไม่ใช่หวงค่ะ
    แต่เกรงว่าจิตเกาะพระกับจิตบำเพ็ญท่านจะขบฉันกันไม่แตกอ่ะจิ
    เดี๋ยวก็ได้พากันงงไปใหญ่

    ผมส่งจิตลิ๊งค์ไปหาท่านพ่อแล้วก็วกมาหาจิตครูเพ็ญ

    ให้ตายเถอะโรบิ้น น้าน เล่นอีกแล้ว จิตเบิกบานฮ้า
    พี่ภูหง่ะ มาไม้นี้ทุกที
    ตอนแรกกะเขียนเป็นกำลังใจให้พี่ลูกพลังกับคุณอุษาวดี
    ท่านจะนัดพบจิตบุญสายใต้ที่ภูเก็ต
    หนูก็เลยกะจะเขียนธรรมะสั้น ๆ ส่งไปเป็นกำลังใจ

    แต่ยิ่งเขียนมันก็ยิ่งหลากออกมาเหมือนมีใครมาเปิดประตูระบายน้ำ
    เลยโม้ซะยาวเลย พอเขียนใกล้จบ เอ่ รู้สึกแปลก ๆ
    อันตัวเรานี้ไม่ค่อยมีเวลามานั่งเขียนเรื่องทำนองนี้
    แต่ทำไมวันนี้มันทุ่มเทจังว้า

    เขียนจบ...ย้อนกลับไปทวนคำผิด(แต่ก็ยังมีผิดอยู่)
    นึกถามตัวเองอยู่ในใจ
    จะมานั่งเล่าเรื่องตัวเองทำไมว้า
    แต่คิดในแง่ดี
    ไม่เป็นไร เผื่อเป็นนำร่องให้จิตบุญท่านอื่นมองเห็นภาพว่า
    ถ้าท่านไปพบปะกันแล้วท่านจะพูดคุยเรื่องอะไรกันได้บ้าง

    เชื่อเถอะพ่อแม่พี่น้องที่รักทุกท่าน
    จิตบุญนี้เวลาไม่เจอกันก็คุยกันดี๊ด๊าเหมือนคุ้นเคยกันมานาน
    แต่พอเจอหน้ากันจริง ๆ มันก็มีแต่จะอิ่มบุญจนพูดอะไรไม่ออก
    แค่ได้ชมบารมีจิตบุญจิตมันก็นิ่งแล้ว
    พอจิตนิ่งขันธ์ห้ามันไม่ยอมพูดอ่ะ 555
    จะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าพี่ลูกพลังอย่าลืมมาเล่าให้รู้ด้วยนะ
    หนูพี่เพ็ญจะตั้งตารอชม โมทนา สาธุ
     
  10. ทิวลิปขาว

    ทิวลิปขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +1,555
    สาธุ อนุโมทนาจิตบุญที่ ๗๖

    กระทู้ไปเร็วมากๆตามอ่านแทบไม่ทัน
    แต่สำคัญตามอ่าน การประปฏิบัติจิตเกาะแบบฉบับครูเพ็ญ
    ใครไม่ได้อ่านจะเสียดาย จะบอกให้




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2012
  11. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    อ้างอิง : ครูเพ็ญ
    การอยู่ในโลกของจิตบุญนั้นอยู่ยากจริง ๆ กายมันเหนื่อย ทุกข์ ที่ทุกข์มากคือเหม็นคาวกับกิเลสของชาวโลก อยู่ใกล้แล้วอยากจะอ้วก แต่ถ้าอยู่ใกล้จิตบุญด้วยกัน โอ้โห เย็นสบายเลย อากาศปลอดโปร่งโล่งทะลุปอด เวอร์ไปป่าว ฮ่าๆ
    .......................
    ขำอารมณ์ขันแต่เป็นเรื่องจริงของครูเพ็ญ...จังเลย
    รู้สึกได้ถึงกิเลสหนาตราช้าง..ที่เราสัมผัสอยู่ปัจจุบัน ทุกเมื่อเชื่อวัน..มีแต่จะเอา ๆ ๆ ๆ อย่างครูเพ็ญว่าจริง ๆ ค่ะ
     
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    กิเลสหนาตราช้าง

    คุณน้องพอใจเริ่มเห็นธรรมะคือธรรมชาติแล้วcatt13
     
  13. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๗๗ ณ วันที่ ๑๔ กันยาน ๒๕๕๕

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๗๗
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    <TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    คุณบัวบุษกร ลูกศิษย์ครูวิทย์ กับคุณปลื้ม(อุไรรัตน์)

    นำวิปัสสนาญาณของท่านมาให้จิตเกาะพระอ่านเป็นธรรมทานค่ะ
    ....................................

    โมทนา สาธุค่ะคุณบัว ท่านจบกิจแล้ว เป็นจิตบุญ 77 ณ วันที่ 14 กันยายน 2555

    พี่เพ็ญ


    เมื่อ 14 กันยายน 2555, 7:49, Busakorn เขียนว่า:


    สวัสดีค่ะ


    เมื่อวานจิตหลบขึ้นไปอยู่ข้<WBR>างบนบ่อยๆ เห็นกายทุกข์ เห็นโลกเบื่อหน่าย เลยขอเอาจิตไปอยู่บนนั้น


    และเห็นหน้าคนอื่นที่กำลังป่<WBR>วยหรือหัวเราะเป็นภาพสโลโมชั่น


    พิจารณาเข้าใจว่าไม่มีตัวตนใดๆ ใจเป็นกลางๆ ไม่เสียใจ ไม่ดีใจ


    มีเรื่องหนึ่งที่ไม่คิดว่<WBR>าจะทำได้ แต่ก็ทำได้ คือ รักษาศีลข้อ4 ต้องตอบคำถามหนึ่งของลูกค้า คำตอบแรกที่แว่บมาคือ ตอบอย่างที่ลูกค้าคาดหวัง แต่ไม่จริง คำตอบที่สองคือ บอกตามความจริงแต่เขาคงผิดหวัง เมื่อก่อนตอบข้อแรกมาตลอด ประมาณความพอใจของลูกค้าต้<WBR>องมาก่อน แต่เมื่อวานเหมือน เราพูดอย่างนั้นอีกไม่ได้แล้ว เลยตอบข้อหลังไป และไม่เสียใจเลย คิดว่าอะไรๆไม่สำคัญเท่าการรั<WBR>กษาศีลให้บริสุทธิ์


    นั่งสมาธิคราวนี้เห็นหน้าคนนั้<WBR>นคนนี้ ที่ไม่รู้จักมากันเรื่อยๆ เลยแผ่เมตตาไปหลายรอบ สงสัยต้องหาเวลาเข้าวัด ทำบุญให้พวกเขาเหล่านั้น ท้ายๆของการนั่ง อยู่ๆก็มีคำถามแว่บเข้ามาว่า จะยอมตายเพื่อให้คนอื่นๆรอดมั้ย จิตตอบว่า ยอม เท่านั้นแหละเวทนาทุกอย่<WBR>างหายไปเหลือแต่ความสว่าง โล่ง โปร่ง


    ครูวิทย์ถามเหมือนเข้ามานั่งอยู<WBR>่ในความคิด ทั้งวันคิดถึงว่ายังมีกิเลสตั<WBR>วไหนที่เรายังตัดไม่ได้บ้าง พบว่าน่าจะเป็นความหงุดหงิด และตัวมานะ แต่พอพิจารณาไปเรื่อยๆ เห็นว่าความหงุดหงิดที่เกิด สติเราเข้าไปจับได้ทัน มันก็หายไป ส่วนตัวมานะ เมื่อไม่มีตัวตน ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมติ ยอมตายเพื่อคนอื่นได้ กิเลสตัวนี้ไม่น่<WBR>าจะทำอะไรเราได้


    อารมณ์ปัจจุบันหรือค่ะ ปิติกับนิมิตที่เห็นตอนเช้าวาน ที่จิตได้ขึ้นไปอยู่บนพระนิพพาน ได้พบพระพุทธเจ้า ทำให้มั่นใจว่าสุดท้<WBR>ายเราจะไปไหน และมีกำลังใจที่จะฟาดฟันกับกิ<WBR>เลสต่างๆที่ยังอยู่และที่จะเกิ<WBR>ดขึ้น เมื่อคิดเช่นนั้นจึง ปล่อยวาง


    เช้านี้ตื่นมานึกถึงคำถามหนึ่<WBR>งที่เคยถามตัวเองมานานหลายสิบปี<WBR>ว่า คนเราเกิดมาทำไม ได้คำตอบเช้านี้ว่าเราเกิดมาเพื<WBR>่อทำนิพพานให้แจ้ง ตราบใดที่ยังทำไม่ได้ ก็ต้องวนเวียนเกิดอยู่ร่ำไป


    บัว



    Sent from my iPad




     
  15. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    คุณบัวเกิดวิปัสสนาญาณอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2555

    นี่คือตัวอย่างของผู้ที่ปฏิบัติความเพียรอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ

    ท่านวางกำลังใจได้ถูกตรงตามวิธีบำเพ็ญจิตคือผู้ปฏิบัติต้องวางใจเป็นกลาง

    ท่านจึงจบกิจเร็ว ไม่น่าจะถึงสองอาทิตย์ไหมคะครูวิทย์ ครูปลื้ม

    ขอความกรุณาคุณครูทั้งสองท่านช่วยบอกเล่าการปฏิบัติบำเพ็ญของคุณบัวพอให้ทราบโดยย่อด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

    เชิญชมกันได้ค่ะ

    Subject: การบ้าน 13/9/12
    From: busakorn
    Date: Thu, 13 Sep 2012 09:37:21 +0700


    สวัสดีค่ะ

    ร่างกายป่วยเสียแล้ว เมื่อคืนกลางดึก ทำให้ได้คำตอบที่เฝ้าถามตัวเองมาตลอด2-3วันนี้

    ก่อนนั่งสมาธิ อยู่ๆก็คิดว่าตัวเองเป็นทุกข์เหลือเกิน คนอื่นก็เช่นกัน บางคนทุกข์มากกว่าที่เรารู้สึกขณะนี้ด้วยซ้ำ น้ำตาไหลเมื่อคิดว่าทุกข์ช่างมากมายใหญโต

    นั่งสมาธิ จิตพิจารณาเห็นกายในกาย กายคือร่างกายที่เสื่อมลงทุกนาที เวทนาในเวทนา เดี๋ยวเวทนาสุข เมื่ออยูในสมาธิที่ลึกๆมันอิ่ม สงบ แต่เดี๋ยวก็ทุกข์ เมื่อยมั่ง ปวดมั่ง ไม่แน่นอน เห็นสติในจิต เมื่อสติอยู่กับจิต จะไม่สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงดัง

    ไม่เห็นใครในระหว่างนั่ง นึกถึงชายหน้าดุกับสาวผมยาว แต่ไม่เห็นมา ได้แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน สมาธิเมื่อคืนนิ่งๆ

    ตีหนึ่งครึ่ง ปวดท้อง คลื่นไส้มาก ทนไม่ไหว อาเจียนในห้องน้ำ ปัสสาวะราด อุจจาระเกือบราดเหมือนกัน(ขออภัยภาพทุเรศไปหน่อย) เลอะเทอะมาก เห็นทุกข์ๆๆชัดเจน บอกตัวเองว่าไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว แต่ไม่มีทางเลือกต้องอ้วกออกมาให้หมด ถ่ายออกให้หมด ทำความสะอาดตัวเองและห้องน้ำ หายากิน คลานขึ้นเตียง นึกถึงท่านพ่อ บอกท่านว่าถ้าถึงเวลาของลูก ลูกพร้อมจะไปตอนนี้ ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว นึกถึงคุณแม่ ขอลาท่านในใจ นึกถึงลูก เขาคงอยู่ได้ ต่างคนต่างมา สุดท้ายต่างคนต่างไป

    ตอนเช้ารู้สึกตัว ปวดท้องคลื่นไส้หาย แต่มีไข้ เลยนอนสมาธิทำใจว่างๆ บอกว่า ถ้าข้าพเจ้าต้องตายไปในวันนี้ จิตไม่ขอไปไหน นอกจากพระนิพพาน เห็นจิตตัวเองสว่างๆ ลอยขึ้นๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นชั้นๆสูงขึ้นๆ ชัดมาก สุดท้ายนิ่งอยู่ เห็นพระ รังสีรอบพระเศียร จิตบอกว่าพระพุทธเจ้า ยืนประทับ มองมา เรากราบท่าน และอยู่ตรงนั้น ไม่ไปไหน นานพอสมควร...รู้แล้วว่าตายไปจิตไปไหน

    ตอนนี้ร่างกายเหลือแค่อาการโหยๆอีกนิดหน่อย ใจนิ่งมาก อยากอยู่เฉยๆพิจารณาธรรมะ แต่ไม่มีโอกาส วันนี้คงได้ทำ

    บัว

    พี่ปลื้มค่ะ ขอให้พักผ่อนให้สบายนะคะ เดินทางปลอดภัย พระคุ้มครอง บุญรักษาค่ะ

    Sent from my iPad

    ปล. เดี๋ยวพี่เพ็ญมาแก้ไขตัวประหลาดให้ภายหลังนะคะ

    คุณน้อง(ธันวา) คุณจุ๋ม(เยอรมันนี) คุณTPC ทำจิตให้นิ่งและทรงฌานสี่ให้ต่อเนื่องนะ อย่ามัวแต่สติงงกันอยู่ เอาสติกลับเข้าไปดูจิตข้างใน วางเรื่องภายนอกไว้ชั่วคราว มาเพียรจิตตัวเองให้ดีก่อน ทรงฌานสี่ไว้ อย่าดื้อนะ ไม่งั้นจะไปขอยืมไม้หน้าสามคุณลินดามากระทุ้ง แฮ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2012
  16. UncleGee

    UncleGee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,079
    ค่าพลัง:
    +10,246
    _/\_ สาธุ
    ขออนุโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๗๗ และคุณครูจิตบุญทุกท่านด้วยครับ
     
  17. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    อย่าได้เอ่ยชื่อ มาทันทีเลยนะคะ บอกแล้วเคร่งครัดต่อหน้าที่ หวังดี มะด้ายใจร้ายยย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 77 แล้วจ้าาาา และขอสาธุอนุโมทนาบุญกับครูผู้ฝึกสอนทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ๊:cool:
     
  19. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    มาดูความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และความไม่มีตัวตนของขันธ์ ๕​
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=0ff_7fdJq-A&feature=relmfu]หนิงศศิมาภรณ์ ป่วยหนัก2.wmv - YouTube[/ame]

    วันนี้ขออนุญาตนำเสนอเรื่องจริง เพื่อธรรมาทาน ของคุณหนิง(ศศิมาภรณ์ ไชยโกมล) อดีตรองนางสาวไทยและนักแสดง แต่ก่อนจะจบชีวิตด้วยการป่วยเป็นมะเร็ง ลงเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554
    ศศิมาภรณ์ ไชยโกมล - วิกิพีเดีย

    คนเราเกิดมาทำไม? เกิดมาเพื่อเตรียมตัวแก่ เตรียมตัวเจ็บ และก็เตรียมตัวตายเท่านั้นเองหรือ?
    สำหรับคนที่ยังมีร่างกายแข็งแรงๆก็อย่าประมาท อย่ามัวหลงทำงานเพลิน อย่าหลงสนุกจนเพลิน ตั้งใจฝึกจิตกันให้จบไวๆ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสฝึกจิต เพราะถ้าจะรอให้กายผุพังหรือป่วยไปมากกว่านี้ และนั่น ท่านกำลังหมดโอกาสในการภาวนา เพราะทุกคนจักต้องตายเหมือนกันทุกคน อาการตายเป็นของขันธ์๕เท่านั้น แต่จิตไม่ได้ตายตามไปด้วย หรือจิตเป็นอมตะ คือไม่มีสูญ เวลาก่อนตายก็อย่าเอาจิตไปห่วงโน้นนี่กันนะ เพราะไม่มีใครไปกับเราด้วยหรอกในโลกทิพย์น่ะ ถามว่าตายแล้วไปไหน ขอให้ทุกๆท่านตอบตนเองจะดีกว่านะ

    คลิ๊ปวีดีโอนี้เพื่อเป็นธรรมาทาน เป็นตัวอย่างชีวิตจริง เป็นอุทาหรณ์แด่พวกเรา ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดตั้งแต่ในอดีตและปัจจุบันชาติให้กับคุณหนิงและขอให้ไปสู่สุคติ ไปสู่ภพภูมิที่ดีต่อไปด้วยเถิด

    สำหรับผู้ใดที่ยังหลงกาย หลงสิ่งสมมุติ หรือผู้ปฎิบัติที่ยังละสักกายทิฎฐิยังไม่ได้ หรือที่มีความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา ได้โปรดพิจารณากันให้ดี และขอให้ถามตนเองเป็นครั้งสุดท้ายว่า เรายังจะอยากกลับมาเกิดเป็นมนุษย์กันอีกไหม๊? โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่รู้จักคำว่า "ศีล+ภาวนา" จงระวังกันให้ดีๆ
     
  20. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980

    ครูเพ็ญคะ ฝากเรียนครูดัช ด้วยนะคะ ของจุ๋มขอพิเศษค่ะ
    เอาแบบไม้หน้าสามตอกตะปูด้วยค่ะrabbit_sleepy
     

แชร์หน้านี้

Loading...