ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    มารู้จักมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลากันเถอะ....

    <DIR>
    - ในห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล มีดวงดาวนับล้านๆดวง จะมีเพียงดาวดวงนี้เท่านั้นหรือ ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ยิ่งวิทยาศาสตร์มีความเจริญมากขึ้นเท่าใด ความพยายามที่จะค้นหาในสิ่งที่กำลังสงสัยก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
    - แต่สิ่งหนึ่ง ที่สวนทางกันกับความเจริญทางโลก ก็คือความเจริญทางจิตวิญญาณ การเรียนรู้เพื่อให้เข้าถึงกฏของธรรมชาติ การเป็นผู้ให้ ความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ซึ่งเริ่มลดน้อยถอยลงแต่อำนาจความโลภ ความโกรธ ความหลง ความมัวเมาในวัตถุ ความแก่งแย่งชิงดี ที่ดูเหมือนจะเจริญงอกงามมากขึ้นทุกวันเป็นเงาตามตัว
    - ถ้ามองจากด้านนอกเราจะเห็นโลกแคบ แต่ถ้ามองจากด้านในเราจะเห็นโลกกว้าง
    - คำๆนี้มีนัยสำคัญสำหรับผู้ปฏิบัติอย่างยิ่ง เมื่อเราหมกมุ่นอยู่กับวัตถุสิ่งของภายนอก ความเจริญในด้านเทคโนโลยี่ต่างๆ ต่อให้พัฒนาไปสักแค่ไหนจะไม่มีคำว่าพอ จะต้องเสาะหาต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุดเพราะความทะยานอยากเป็นตัวผลักดันนั่นเอง
    - แต่เมื่อเรามองจากข้างในตัวเอง มองเห็นความเกิดขึ้นของอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ความสุข ความทุกข์ เรียนรู้ขันธ์ห้าให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับกฏของธรรมชาติแล้ว เราจะเห็นโลกกว้างไกลเห็นทั่วทั้งอนันตจักรวาล เพราะทุกอย่างมีเพียงหนึ่งเดียวคือธรรมชาติ และทุกสรรพสิ่งก็ดำเนินไปตามกฏของธรรมชาติเท่านั้น
    - กฎของธรรมชาติ หรือกฎแห่งกรรม เป็นกฏอันเดียวกัน เพราะพระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ในกฏของธรรมชาติ ดังนั้นกฎของธรรมชาตินี้จึงมีอยู่ทั่วไปในสากลจักรวาล


    -แล้วโลกที่มีความเจริญทางจิตใจ และทางวัตถุควบคู่กันไปเขาอยู่กันอย่างไร?
    ......มารู้จักมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลากันเถอะ.....


    -มนุษย์ต่างดาวที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ติดต่อสื่อสารด้วยนั้นมี 2 ดวงดาว เป็นหลัก คือดาวโลกุกะตะปากะดิกอง และ ดาวพลูโต

    -ดาวโลกุกะตาปากะดิกองเป็นดาวดวงหนึ่งที่อยู่คนละจักรวาลกับเรา มีความเจริญทางจิตและวิทยาศาสตร์ควบคู่กันไป มีเทคโนโลยี่ที่ก้าวหน้าล้ำยุค เป็นมนุษย์ที่อยู่อีกจักรวาลหนึ่งเป็นโลกที่มีขนาดใหญ่เกือบ 3 เท่าของโลกเรา โลกของเขาหมุนรอบตัวเองวันหนึ่ง 60 ชั่วโมง

    - ภูมิประเทศ เ ป็นดาวที่อยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์อากาศหนาวเย็น มนุษย์จากดาวโลกุกะตาฯ จึงต้องสวมใส่ชุดรัดรูปที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ อุณหภูมิภายในชุดที่สวมใส่จะปรับเองตามความสูงขึ้น หรือลดลงของอุณหภูมิภายนอก เพื่อคงสภาพอุณหภูมิภายในร่างกายให้คงที่

    - บนดาวของเขา ก็มีภูมิประเทศคล้ายโลกเรา มีภูเขา มีแม่น้ำ มีทะเลแต่เขา ไม่มีเรือ(ยานฯแล่นบนน้ำได้) ไม่มีรถยนต์ ไม่มีรถไฟ ดังนั้นโลกของเขาจึงไม่มีมลพิษ ไม่ต้องมีถนนตัดผ่านให้วุ่นวาย แต่มีจุดจอดยานเป็นแห่งๆสำหรับขนส่งสิ่งของ

    - ไม่มีทางเดินที่เป็นถนนสร้างยาวอย่างโลกของเรา แต่เขามีทางกระโดดซึ่งอยู่ห่างเป็นจุดๆ เพราะโลกของเขามีแรงดึงดูดน้อย จะเดินไม่ได้เพราะตัวเบา จึงต้องกระโดด เขากระโดดได้ไกลประมาณ 5
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2007
  2. wong3210

    wong3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    553
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,392
    มาเล่าให้อ่านกันอีกนะครับ ............................ ชอบน่ะ
     
  3. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    จุดเริ่มต้นที่เขากะลา

    -วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541

    - เป็นครั้งแรกที่เลือกสถานที่เขากะลา เป็นสถานที่ติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ในวันนั้นจะมีคนที่สนใจขึ้นไปรวมกันอยู่บนเขากะลา ประมาณ 50 คน ซึ่งบางส่วนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง

    - วันนั้น มีการนัดหมายเลือกสถานที่ ก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อยมีลูกไฟสีส้มจำนวนมาก ลอยขึ้นจากพื้นดิน สูงขึ้นผ่านยอดไม้และหายไปทางหลังเขา คนบนเขาต่างวิ่งตามไปดู และตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน ที่ได้เห็นลูกไฟลึกลับจำนวนมากลอยผ่านไปในระยะใกล้

    - หลังจากนั้นไม่นาน พื้นราบด้านล่างที่เป็นพื้นที่มืดสนิทมาตั้งแต่หัวค่ำ เริ่มมีไฟเปิดตามจุดต่าง ๆ หลายแห่งเคลื่อนที่ไปมา ไฟหลายสีขึ้นเต็มไปหมดตามพื้นดิน และมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ก็คือจุดที่มีไฟเกิดขึ้นด้านหลังวัด ซึ่งถ้าเป็นรถยนต์ เราจะต้องเห็นการเคลื่อนที่เข้ามายังจุดนั้น แต่ไม่มีการเคลื่อนที่ของวัตถุใดเข้ามายังจุดนั้นเลย จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้น เปิดไฟหลายดวง มองเห็นเป็นลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม แต่ลำเล็กมาก ปรากฏอยู่สักไม่กี่นาทีก็ดับไฟหายไป ไม่มีการเคลื่อนที่ออกไปจากจุดนั้นเช่นเคย เราอยู่จนถึงเช้าก็ไม่มีสิ่งใดปรากฏอยู่ตรงบริเวณนั้นเลย

    - ซึ่งมีการสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาว ของดาวพลูโตว่า สิ่งที่เห็นเป็นยานฯ ของดาวพลูโต ที่นำมาปรากฏให้เห็น ซึ่งจะลำเล็กมาก และมนุษย์ต่างดาว ของดาวพลูโต ก็จะตัวเล็กมากเช่นกัน

    - ซึ่งในวันนี้ คณะของคุณ mead และเพื่อน ได้เดินทางมาที่เขากะลาด้วย และยังสามารถบันทึกภาพนี้ไว้ได้(ซึ่งหลายท่านคงเห็นภาพเคลื่อนไหวแล้ว) ซึ่งขอนำภาพนั้นมาให้ได้ชมอีกครั้งหนึ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2007
  4. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ภารกิจของดาวพลูโต คืออะไร?

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 สิงหาคม 2007
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    [​IMG]
    [​IMG]

    สองภาพนี้แสงคล้ายกันมาก จากญี่ปุ่น และ เขากะลา ขอขยายดูชัดๆนะครับ
     
  6. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2541 เปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

    จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ได้รับการสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาว ว่าจะเปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว บนโลกมนุษย์ อย่างเป็นทางการเป็นเวลา 1 ปี และให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว โดยเลือกเขากะลาแห่งนี้ เป็นสถานที่เปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว โดยให้จัดทำป้ายอย่างเป็นทางการขึ้น ซึ่งแม้ว่าในตอนนั้น กลุ่มของเราจะมีกันเพียงไม่กี่คน แต่ก็ได้จัดทำป้าย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2007
  7. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    และในคืนวันเปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว ก็ได้มีคณะฯผู้สนใจเดินทางมาจากกรุงเทพฯ อยุธยา และจังหวัดใกล้เคียงส่วนหนึ่ง มาร่วมสังเกตุการณ์ด้วย ซึ่งในจำนวนดังกล่าว ก็มีคณะของคุณ mead มาร่วมสังเกตุการณ์อยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งปรากฏมียานอวกาศรูปสามเหลี่ยมจำนวน 2 ลำ ได้ลงจอดในพื้นที่บริเวณไร่ด้านล่าง และคณะของคุณ mead บันทึกภาพไว้ได้
    <O:p</O:p
    - ยานฯ ดังกล่าว เป็นยานฯของดาวโลกุกะตาปากะดิกอง ซึ่งมาร่วมในวันเปิดกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว และเป็นยานที่นำมาปรากฏในการนัดหมายที่สิงห์บุรี ลักษณะเป็นยานฯรูปสามเหลี่ยม ซึ่งมี 2 ลำ
    <O:p</O:p
    - ภาพนี้ คุณ mead ได้นำมาให้ชมแล้วในภาพเคลื่อนไหวในกระทู้นี้

    - จุดสังเกตุ ยานฯทั้งสองลำแล่นสวนกันไปมาในไร่ที่เป็นพื้นที่ขรุขระ แต่ไม่มีการสะเทือนขึ้นลงแม้แต่น้อย คล้ายลอยเหนือพื้นดิน

    - ไฟทุกดวงที่เปิดเป็นรูปสามเหลี่ยม จะเป็นอิสระ เปิดปิด กระพริบอยู่ตลอดเวลาในดวงไฟดวงนั้น ไม่ขึ้นต่อกัน

    - ไม่มีลำแสงสาดออกมาเหมือนไฟรถ ซึ่งไม่ว่าจะเคลื่อนที่ไปด้านไหน ก็ต้องเปิดไฟส่องทางเป็นลำสาดออกไป (ดังภาพรถที่นำมาเปรียบเทียบ)

    - ลักษณะของยานดังกล่าวมอง ไม่เห็นส่วนประกอบแม้แต่น้อย ซึ่งเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่บันทึกไว้เพื่อนำมาประกอบ ถ่ายด้วยกล้องวีดีโอจากบนเขาจุดเดียวกัน และขับรถยนต์ไปยังสถานที่บริเวณยานลงจอด ภาพที่บันทึกได้จะเห็นตัวรถชัดเจน ลำแสงของรถยนต์ก็สว่างเป็นลำชัดเจนด้วย ซึ่งเมื่อมาดูภาพของวัตถุบินที่ลงจอด จะไม่สว่างเลย ไม่เห็นลักษณะของยาน เห็นแต่ดวงไฟที่ไม่มีลำแสง

    - ดร.เทพนม เมืองแมน กล่าวถึงภาพนี้ว่า อาจจะอยู่คนละมิติกับเรา จึงดูเหมือนการเคลื่อนไปมาไม่ติดกับพื้นดิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2007
  8. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    - อีกภาพหนึ่งที่น่าสนใจในคืนเดียวกัน คือภาพการคอนโทรลลำแสงของไฟได้ โดยสามารถกำหนดระยะทางของแสงตามต้องการได้ และดึงกลับเข้าสู่หลอดไฟดังเดิม <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - หลังจากยานฯ สองลำเคลื่อนที่สวนกันไปมาแล้ว อีกลำหนึ่งจะทยอยดับไฟทีละดวงจนหมด จึงยังคงเหลือเพียงลำเดียวที่เปิดไฟอยู่ สักพักจะมีลำแสงสาดออกมาจากยานฯลำนั้น ซึ่งครั้งแรกคิดว่าเป็นการเปิดไฟธรรมดา แต่สักพักไฟที่สาดออกมาเป็นลำยาว ก็ค่อย ๆ หดสั้นลง โดยลำแสงนั้นถูกดึงกลับเข้าไปเก็บในหลอดไฟจนหมด ซึ่งไฟรถยนต์โดยปกติทั่วไป จะทำได้เพียงปิด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2007
  9. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    - ยานฯลำเดียวกันนี้ ช่วงหนึ่งได้มีร่างเรืองแสงสีขาว ออกมาจากยานที่จอดอยู่ และเดินไปมา แล้วกลับเข้าไปในยานฯ

    - มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และขนาดของร่างนั้นเล็กกว่าดวงไฟ ซึ่งเทียบขนาดแล้วยานลำดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่มาก เมื่อเทียบกับร่างเรืองแสงนั้น

    - ภาพทั้งหมดบันทึกจากกล้องวีดีโอ โดยคณะของคุณ mead ซึ่งทางกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มอบให้ทางกลุ่มฯไว้ เพื่อเผยแพร่ให้กับผู้สนใจได้รับชมด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เคยมีเพื่อน (เพื่อนร่วมงาน ที่อเมริกา) เค้าเคยเป็นทหารเรือมาก่อน แล้วตอนนั้นเรือออกไปน่านน้ำ ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าอาฟริกา เค้าบอกว่า อยู่ดีๆ มีลูกไฟสว่างมาลอยอยู่เหนือเรือ เป็นเวลานานพอสมควร สว่างเต็มเรือ หลายๆ คนเห็นพร้อมกัน แล้วก็แวบหายไปอย่างรวดเร็ว

    เคยเอาไปเล่ากระทู้ไหนกระทู้หนึ่ง จำไม่ค่อยได้แล้ว อิอิ
     
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ภาพที่พี่สุดใจมาลง( ที่เห็นในความมืด) ขออธิบายเสริมหน่อย เป็นคนบันทึกภาพเองครับ
    วัตถุที่เห็นนั้นน่าจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 10 เมตร อยู่บนไร่อ้อยข้างล่างครับ เราสังเกตจากระยะประมาณ 150 เมตรลงมาจากยอดเขา เห็นอยู่นานหลายชั่วโมงครับ เคลี่อนตัวไปมาเกือกตลอดเวลา..มีบางช็อท ที่เขากระพริบไฟเร็วๆถี่ๆ..เปลื่ยนสีขาวสลับแดง..เหมือนส่งสัญญาณบอกเรา อันนี้แปลกครับ เพราะรถยนต์ทำแบบนี้ไม่ได้แน่นอน ต้องกลับไปค้นต้นฉบับ vdo อีกทีครับ เพราะถ่ายไว้เยอะมากเฝ้ากันถึงเช้าเลย

    พวกเราลองนั่งรถกระบะตามลงไปดูข้างล่างกันหลายคน...พอเข้าไปใกล้ๆ เขาเคลื่อนตัวออก หนีเราไป..เข้าไม่ถึง..โทรหาเพือนๆที่สังเกตจากยอดเขาก็บอกว่ายังอยู่ที่เดิม แต่ทำไมเราลงมากลับเหมือนเคลื่อนออกไป แปลกแท้ๆ

    ทำให้ผมคิดว่าเค้าอาจใช้เทคนิคฉายภาพทับซ้อนมิติให้เราเห็นก็เป็นได้ครับ..คงเป็นเรื่องเล็กๆของเค้าเลย ..การหลอกสายตามนุษย์..การพรางตา..นับเป็นวันที่น่าทึ่งจริงๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2007
  12. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    เรื่องภัยพิบัติ คือ รบกวนถาม (สงสัยจริงๆค่ะ) มนุษย์ต่างดาวได้บอกวันและเวลาที่จะเกิดเหตุไหมค่ะ ว่าประมาณปีไหน (คืออยากรู้ว่าจะอยู่ในช่วงอายุของเราหรือไม่ จะได้เตรียมตัวทัน อยู่ จ.จันทบุรี คงเดินทางไปที่เขากะลาไม่ได้)

    โดยปกติเป็นคนที่คิดว่ามีมนุษย์ต่างดาวแน่ๆ (ไปพูดให้ใครฟังเค้าก็หัวเราะว่าเรา) ตั้งแต่เด็ก ตอนเล่นกับน้องชายก็เล่นเป็นคนขับยานอวกาศ โตมาหน่อยก็นั่งเฝ้าท้องฟ้าได้เป็นชั่วโมง (นั่งเพ่งดาว เพราะคิดว่าอยากติดต่อมนุษย์ต่างดาว) แต่ก็ไม่เคยเห็นอะไรหรอกค่ะ แต่ในใจลึกๆ เชื่อว่ามีแน่นอน
     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    วันเวลาบอกได้ก็เลื่อนได้ครับ..ทุกอย่างอยู่ที่มนุษย์ ถึงแม้ว่ามนุษย์สามารถแก้<WBR>ไข ยกเลิกการเปลี่ย<WBR>นแปลงที่รุนแรงข<WBR>องโลกคราวนี้ไปไ<WBR>ด้ ในท้ายที่สุดจักรวาลก็จะต้อง<WBR>มีการปรับตัวอย่<WBR>างอื่นอยู่ดี โลกเป็นส่วนหน<WBR>ึ่งของพลังงานแห<WBR>่งจักรวาล เวลาของโลกเป็นเ<WBR>ส้นเวลาสมมุติ ที่<WBR>่วกเป็นวงกลมเหมือนเข็มนาฬิก<WBR>าสิ่งมีชีวิตก็จะ<WBR>ถูกเปลี่ยนแปลง เวลาเส้นใหม่จะถ<WBR>ูกขีดขึ้นมาใหม่ แล้วทุกอย่างจะเ<WBR>ริ่มต้นใหม่อีกค<WBR>รั้ง จิตมนุษย์ยิ่งให<WBR>ญ่ที่สุด ถึงแม้มนุษย์ต้อ<WBR>งการช่วยเหลือโล<WBR>ก แค่คนเดียวเป็นไ<WBR>ปไม่ได้ ท่านให้ฝึกจิตตั<WBR>วเองให้เข้มแข็ง<WBR>เต็มเปี่ยมด้วยพ<WBR>ลังทางจิตที่บร<WBR>ิสุทธิ์แล้วช่วย<WBR>เหลือจิตคนใกล้ต<WBR>ัวให้เค้าขึ้นมา<WBR>จากหลุมพลางของพ<WBR>ลังงานกรรมแค่นี้<WBR>้โลกก็จะดีขึ้นครับ ( Mac+Bas....)

    มีเพื่อนท่านหนึ่งในเวป รับข่าวจากจักรวาลมาครับ สำหรับผมบอกได้ตามที่ทราบมาครับว่าระยะเวลาที่จะเกิดขึ้นคือ 49 วัน [7:7:49] ตามรหัส 11:11 โดยเฉพาะวันที่ 11 พย. 51 เร็วหรือช้าไม่อาจทราบได้ คอยจับตาระวังกันไว้บ้างก็ดี สังเกตดูท้องฟ้าเปลื่ยนเป็นสีแดงเป็นสัญญาณ ทั้งสองฝ่ายกำลังต้านกันไม่ได้อยู่นิ่งเฉย รักษาจิตเราให้ดี..ให้มีปนิธธานแห่งนิพพานเป็นที่ตั้งไว้เสมอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2007
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    อันนี้มีฝรั่งเอา Crop Cycles มาตีความ ถอดรหัสกันได้เลขชุดนี้มา

    13 September 2007 (จากคุณZZ)


    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->[​IMG]

    Two new crop pictures appeared on July 7 at East Field and Fiddler's Lane. The first at Fiddler's Lane suggests a "dislocation" of some kind, while the second at East Field suggests a "date".

    East Field seems to show a lunar phase calendar for the summer of 2007, extending from May 15 to September 15. If so, then each "really large ball" in that picture would represent a full Moon, while many other "small balls" would indicate other phases of the Moon (new or half) which are less fractionally illuminated within any 29-day period.

    The first full Moon on the far end of East Field (largest central ball, spanning two tramlines) could plausibly represent a calendar date of June 1, earlier this summer when our Moon was full. It lies at the centre of 29 contiguous balls in an arc-like series, representing one lunar cycle of 29.5 days from May 15 to June 15.

    The second full Moon on the other end of East Field (next largest central ball, spanning one and one-half tramlines) could represent June 30, only a week ago when our Moon was again full. It lies at the centre of 29 more contiguous balls in an arc-like series, representing a second complete lunar cycle of 29.5 days from June 15 to July 15.

    The third full Moon at East Field (a slightly smaller "upside-down" central ball, spanning only one tramline) could represent a date of July 30, as the next full Moon at the end of this month. It lies at the centre of 17 contiguous balls in an arc-like series, which might be the number of days within this third cycle (July 15 to August 14) when our Moon will be visible above the horizon.

    Another small, isolated, round ball lies inside of that third inverted arc. It could plausibly be meant to signify "the last full Moon in a series of four".

    There is no "fourth full Moon" at East Field, but only a small "partial arc" close to the centre of that crop picture. It could easily have been drawn as continuing onward to a fourth full Moon on August 28, then to the end of a fourth lunar cycle on September 13. Instead, that fourth lunar cycle ends precipitously after just six small balls or days, sometime around August 14 to 22.
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ____________________________________________________________
     
  15. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    ผมเป็นสมาชิกคนหนึ่งที่ได้เข้าไปสัมผัสกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ซึ่งอันที่จริงแล้วก็คือคนหนึ่งที่ได้เข้าไปรับการฝึกจากมนุษย์ต่างดาว(โดยการส่งข้อมูลผ่านเข้ามาในความความคิดของสมาชิกท่านหนึ่งแล้วจะถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด ซึ่งผู้พูดก็จะรับรู้ไปพร้อมกันจากคำพูดตนเอง) บุคคลภายนอกอาจมองแค่ว่าทางกลุ่มฯ ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ ถ่ายภาพได้ อะไรวับๆ แวมๆ ก้ำกึ่งว่าจะเชื่อดี หรือไม่เชื่อดี แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มหรือผู้ที่ได้ใกล้ชิดแล้ว จะเห็นว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 9-10 ปีมานี้ ทั้งบทเรียน ทั้งการฝึกและปฏิบัติเพื่อการละวางขันธ์5 การพบเห็นวัตถุบินโดยที่ไม่ได้บันทึกภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวมีไม่น้อยเลยครับ (รวมถึงการถูกมองว่าบ้าด้วย) และตัวอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวที่เพิ่งได้รับอนุญาตให้เปิดเผยต่อสาธารณชนได้เมื่อเวลาไม่ถึงปีที่ผ่านมานี้เอง ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะทางมนุษย์ต่างดาวได้บอกว่าจะมาเพื่อช่วยเหลือโลกมนุษย์เมื่อยามที่เกิดภัยพิบัติจนถึงขั้นที่มนุษย์ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ และการช่วยเหลือก็จะต้องอาศัยมนุษย์ด้วยกันในการทำงาน เปรียบเสมือนหน่วยกู้ภัย ที่ทางมนุษย์ต่างดาวจะสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆให้ ดังนั้นรูปธรรมจึงค่อยๆ เห็นชัดขึ้นพร้อมๆกับกระแสโลกร้อน ภัยพิบัติที่ทำสถิติเป็นประวัติการณ์รายวันในแต่ละประเทศ
    วันนี้ได้คุยกับพี่สุดใจ ก็ได้มีตัวอย่างของอุปกรณ์มาคุยให้ผมฟังอีกแล้ว คือมีสมาชิกที่เคยไปเขากะลาท่านหนึ่งเล่าให้พี่สุดใจฟังว่าได้มองเห็นคนปีนรั้วจะเข้ามาในบ้านจากข้างหลังของตัวเอง เห็นชัดเจนเหมือนกับติดกล้องส่องมาข้างหลัง ก็ยังนึกว่าฝันไปรึเปล่าแต่พอหันไปดูก็เป็นคนที่เห็นจริงๆ พอสอบถามก็อ้างว่าเข้าบ้านผิด เลยปีนรั้วออกไป และสมาชิกท่านเดียวกันนี้ยังเล่าให้ฟังอีกว่าก่อนหน้านี้ก็เคยเดินโดยที่เท้าไม่ติดพื้นอยู่ในบ้านตัวเองต้องหาที่เกาะไว้เพราะกลัวจะล้ม นี่ก็เป็นตัวอย่างอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวที่ผมแอบแซงหน้าพี่สุดใจเอามาเล่าสู่กันฟังก่อน ส่วนรายละเอียดหรือเหตุผลก็คงต้องขอพี่สุดใจเล่าให้ฟังภายหลังละครับ<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 สิงหาคม 2007
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณ whitenaga ได้ยินมาว่าที่จันทบุรี บางคนที่มีบ้านติดทะเล ได้ขายบ้านทิ้งไปแล้วเพราะว่ากลัวระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นมาท่วมบ้านในอนาคต อันนี้จริงหรือเปล่า?
     
  17. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    ข้อมูลวันเวลาเกิดภัยพิบัติรุนแรง

    1. ข้อมูลจากสัญญาณจากจักรวาล

    http://www.universal-signal.com/html/armagedon/earthchange.htm

    แจ้งให้ทราบแล้วว่าภัยพิบัติของโลกได้เรื่องต้นขึ้นเมื่อวันที่ 28 พค. 2550 วันนี้วันที่ 23 สค. 2550 ทั่วโลกปั่นป่วนด้วยภัยแผ่นดินไหว พายุเฮอริเคน และน้ำท่วม ดังนี้...

    ณ เวลานี้วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๐ เกิดเส้นแรงสนามแม่เหล็กขาดสะบัดมากมาย จนโลกเกือบทนไม่ไหว ระดับความรุนแรงกำลังเข้าสู้ระยะวิกฤติเต็มทนแล้ว

    สัญญาธาตุรู้ที่อยู่คู่กับทุกอณูในสรรพสิ่ง บอกข้าว่า ก่อนมหันตภัยอีก ๑๒ ปีข้างหน้ามันไม่ใช่จุดเริ่มต้นเสียแล้ว แต่มันเริ่มต้น จากวันนี้ และเดี๋ยวนี้เลย

    ความรุนแรงจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นจนวิบัติได้ อย่างที่มนุษย์ เห็นด้วยตาเปล่าได้ราวในเดือนกรกฎาคม และจะรุนแรงมากที่สุด ระหว่างตั้งแต่เดือน กันยายน-ตุลาคมเป็นต้นไป

    และจะเบาบางลงในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ มนุษย์ทั้งหลาย ต้องล้มตาย และอดอยากมากมาย ถ้าความสมดุลเป็นเช่นนี้ไม่เปลี่ยนแปลง

    ประเทศไทยจะมีน้ำท่วมในที่ลุ่มมาก เกิดทั้งแผ่นดินแยก แผ่นดินยุบ ภูเขาทลายลง ความร้อนปะทุจากใต้พื้นดิน ถนนสิ่งก่อสร้างจะพังทลายลงให้เห็น

    สัญญาณการเตือนมหันตภัยของโลก เหตุร้ายมหันตภัย จะมีความรุนแรงขึ้นมากในเดือน กรกฎาคมปีนี้ (๒๕๕๐) ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า (๒๕๕๑)
    จะรุนแรงมากที่สุด ในเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมปีนี้

    จะมีสัญญาณบอกเหตุร้ายของมหันตภัย ขณะก่อตัวขึ้น :

    เริ่มต้นด้วยการที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง มาทางทิศตะวันตก เฉียงใต้ แล้วเกิดพายุฝนกระหน่ำ ๓ วัน ๗ วัน

    มาในทิศเดียวกัน จากนั้นจะเกิดเสียงดังสนั่นคำรามจากใต้พิภพ (มนุษย์นึกว่าฟ้าร้อง) พร้อมมีความร้อนใต้พิภพผุดขึ้นมานาน ๓ วัน แล้วเกิดแผ่นดินไหว รุนแรงไปทั่วโลก

    แผ่นดินสะบัดเหมือนแผ่นผ้าปลิวลม พื้นดินที่ราบลุ่ม สั่นเป็นระลอกคลื่น ผืนดินแยกออก ยุบตัวลง ภูเขาถล่ม ตึกสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย และเขื่อนพังทลาย น้ำท่วม

    ท่อก๊าซระเบิด พายุฝนตกหนักต่อเนื่อง เพิ่มความรุนแรงของน้ำท่วมที่เผชิญอยู่อย่างรุนแรงมากขึ้น เกิดความอดอยาก ของผู้คนไปทั่วโลกหลังจากมหันตภัยจบลง

    และในอีกไม่นานนัก ก็จะเกิดเช่นนี้อีกหลายครั้ง จนกว่าโลกปรับตัวสมดุลเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ต่อไป



    ล่าสุด...ยังได้เตือนภัยเรื่อง....การเตรียมตัวรับคลื่นความร้อนและพายุห่าฝนยักษ์ ในแผ่นดินไทย และทั่วโลก ในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2550

    http://www.universal-signal.com/html/armagedon/diaster_thailand.htm

    2. ข้อมูลจากยานต่างดาว โดยการตีความวงกลมสัญญลักษณ์...โอม..ซึ่งแทนจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด...ตีความว่า...จะเป็นช่วงที่เกิดภัยพิบัติรุนแรงทุกหย่อมหญ้า


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

    ลอง...กำหนดวันพระจันทร์ข้างขึ้นและข้างแรม...โดยให้รูปกลมโตลูกใหญ่...เป็นพระจันทร์เต็มดวง...และลูกกลมเล็กๆเป็นพระจันทร์ข้างขึ้นหรือข้างแรม


    รูปวงกลมทั้งหมดแสดงการเกิด...ข้างขึ้นและข้างแรม...ในรอบ 4 เดือนและปรากฏครบเป็นสัญญลักษณ์...โอม...ในวันที่ 7 กค. 2550 หมายถึงรอบการเกิด...ข้างขึ้นและข้างแรม...ในรอบปัจจุบันคือ พค.-สค. 2550

    I ... คือ 17 พค.-15 มิย. 2550
    II ... คือ 15 มิย.-15 กค. 2550
    III ... คือ 15 กค.-14 สค. 2550
    IV ... คือ 14 สค.-13 กย. 2550 (ไม่ครบ 29 วันเพราะวงกลมหายไปก่อน)

    ดังนั้นวันที่มนุษย์ต่างดาวต้องการสื่อสารมาก็คือ...13 กย. 2550 (หรือ 14-22 กย. 2550)

    ซึ่งสอดคล้องกับ www.universal-signal.com เป็นอย่างยิ่ง


    3. หลวงปู่เครา จ.เพชรบูรณ์ ได้ให้...รหัส...ไว้ที่ด้านหลังของแผนที่ คือเลข...11/27/48-49-50 ตีความได้เป็น 11/2+7/50 ซึ่งก็คือ 11/9/2550

    ซึ่งจะเป็นภัยน้ำท่วมทางภาคใต้และภาคกลาง ส่วนภาคเหนือเป็นภัยแผ่นดินไหว


    [​IMG] [​IMG]


    4. ในเดือนกันยายนจะเป็นเดือนที่ครบรอบเหตุการณ์ 11 กันยา (9-11)

    อาจมีการชิงประกาศสงครามระหว่าง...สหรัฐกับอิหร่าน...และโลกอาหรับ เนื่องจากปัจจุบันเศรษฐกิจสหรัฐกำลังล่มสลาย เงินดอลล่าร์ไม่มีค่า การก่อสงครามสหรัฐนั้น...หวังว่าจะขายน้ำมันได้แพง เพื่อนำเงินตรามากอบกู้เศรษฐกิจขาลงของตน

    คาดว่าจะประกาศในวันที่ 11 กย. 2550 และมีการตอบโต้จากโลกอิสลาม ภายใน 13 กย 2550
     
  18. poysian

    poysian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,140
    ค่าพลัง:
    +2,422
    ดีดี..อ่านเกือบทุกครั้งที่เข้ามา.น่าติดตามดีสนุกด้วยครับ....
    มนุษย์ต่างดาวหรือขออนุญาตเรียกอีกชื่อนึงว่าเพื่อนร่วมจักรวาล(ถึงแม้อาจจะเป็นจักรวาลอื่น)..เขาก็ฝึกขัดเกลาจิตใจกันตลอดเลยนะครับ..น่ายินดีจัง...อีกอย่าง.จิตใจเขามีเมตตาสูงมาก ..เห็นคนอื่นได้ดีก็พลอยยินดี เห็นผู้อื่นเดือดร้อนอะไรที่ช่วยได้ไม่เกินวิสัยเขาก็อุตส่าห์มาช่วย..ขอให้พวกมนุษย์ต่างดาวมีความอยู่เย็นเป้นสุขนะครับ..จะเดินทางไปไหนต่อไหนก็ขอให้ปลอดภัยไปดีมาดีนะครับ...
    สวัสดีกลุ่มสมาชิกเขากะลา *พี่สุดใจ...เนื่องจากไม่เคยทักทายกัน..เคยแต่เข้าไปดูในเว็บเขากะลา...อยากจะหาอ่านรายละเอียดที่update อยู่ตลอด..โชคดีได้มาอ่านในเว็บนี้...หากทางมนุษย์ต่างดาวมีอะไรที่สมควรจะเปิดเผยและแนะนำได้บ่อยๆก็ขอให้เอามาลงให้อ่านบ่อยๆนะครับ...
    ขอให้มีความสุขและยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
     
  19. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    สนใจมากครับ

    ผมคิดว่าสิ่งที่ได้ฟังมาและเห็นมาจากคำพูดของพี่สูขใจสมเหตุและผลลองเปรียบเทียบแบบวิทยาศาสตร์และสมัยเก่า(ง่ายๆ)ครับ ที่คนๆหนึ่งคิดนะครับ ว่าถ้ามีผู้ชายก็ต้อง มีหญิงถ้ามีคนประเทศ ก ต้อง มีประเทศข,ค,ง,จ จริงไหมครับ ถ้ามีมนุษย์โลก ก็ต้องมีมนุษย์โลกอืนอีก ก็ต้องมีมนุษย์โลกอื่นๆอีกเหมือนสูตรแรก นายก,ข, ค จริงๆมนุษย์รู้แต่ไม่ยอมรับก็อย่างที่พีสุดใจบอกต้องมีการฝึกสมาธิจิตให้เป็นสมาทิฐิก่อน ทำจิตให้ว่างที่จะรับความเป็นจริงในสัจธรรม ผมเชื่อแบบมีเหตุผลไม่ใช่งมงาย เพราะคนกลุ่มนี้(เขากะลา) และกลุ่มพลังจิตและกลุ่มปฏิษัติธรรมหลายกลุ่ม เดินมาถูกทางแล้วครับ เพราะผมพอมีข้อมูลจากการศืกษาทางวิทยาศาสตร์ และพุทธศาสตร์คือการทำสมาธิ ผมได้ฟังมาบ้างจากทั้งต่างประเทศมาพอสมควร และบางประเทศก็รู้ด้วยและก็จะนำคนไปอยู่นอกโลกด้วย แต่ไม่สำเร็จเพราะ อะไรก็อย่างที่บอกวิทยาศาสตร์เจริญแต่จิตใจต่ำลงทำให้เกิดอวิชา(มิฉาทิฐิ)ก็ต้องพัฒนาทางจิตด้วยถึงจะรอด ที่กลุ่มนี้(เขากะลา)บอกว่ามีภัยพิษัติ ผมขอบอกตรงๆมี ปลายปี50 มาเห็นแบบธรรมดา ให้มนุษย์ได้รู้และปรับสภาพความคิดและความเป็นอยู่ใหม่ (สุดท้ายนี้ผมขอบอกเพื่อนๆว่ากลุ่มที่ผมกล่าวมาตั้งแต่ต้นผมไม่รู้จักใครเลยสักคนและไม่มีเหตุผลที่ผมต้องสนับสนุนให้ท่านเชือแต่ให้ท่านใช้วินิจารณาของท่านเอง ครับ ชีวิตท่านและคนรอบข้าง อยู่ที่ท่านตัดสินใจแล้วครับ)สัวสดีครับ[b-hi]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2007
  20. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    มนุษย์ต่างดาวรู้เรื่องภัยพิบัติได้อย่างไร?

    - การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ของกลุ่มเขากะลา(เดิม) นั้น ก็เริ่มต้นจาก จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เป็นบุคคลแรก เพราะท่านเป็นผู้ที่ปฏิบัติธรรม และทำสมาธิมาตั้งแต่สมัยยังเป็นสามเณร จนบวชเป็นพระภิกษุ และเมื่อท่านเป็นทหาร ท่านก็ยังคงทำสมาธิ ปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องตลอดมา
    <O:p</O:p
    - ดังนั้นการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ทางด้านจิต จึงทำได้ง่าย เพราะความนิ่งของสมาธิจิต ท่านสามารถแยกข้อมูลได้ สามารถแปลข้อความออกมาถูกต้องตรงตามการสื่อสาร ที่เราบอกว่าถูกต้องตรงเพราะอะไร เพราะมีหลายครั้งที่มนุษย์ต่างดาวสื่อสารผ่านร่างบุคคลอื่น ไม่มีใครรู้ว่าจะทำอย่างไร ต้องตาม จ.ส.อ.เชิด มาช่วยแปล จึงจะรู้เรื่องราวที่เขาสื่อสารมาว่า มาเพื่ออะไร และเมื่อคลื่นจากต่างดาวผ่านออกไปแล้ว บุคคลที่รับคลื่นนั้นมา แม้ขณะคลื่นต่างดาวผ่าน เขาจะพูดเป็นภาษาอื่นออกมา แต่ภายในสมองของบุคคลนั้น จะมีความเข้าใจในความหมายของข้อความที่สื่อผ่านมา แม้คำที่พูดออกมาจะเป็นภาษาอื่นก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ติดตั้งในตัวบุคคลท่านนั้น เป็นอุปกรณ์สำหรับแปลภาษาที่ติดตั้งไว้สำหรับแปลภาษาที่รับมานั้นเอง เราเรียกว่า อุปกรณ์เทคโนโลยีของต่างดาว และผู้รับข้อความยังบอกว่า จ.ส.อ.เชิด แปลถูกต้องทุกประโยค ในสิ่งที่ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาอื่น
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    - สิ่งเหล่านี้มิใช่เรื่องแปลก เพราะเราจะเห็นว่าในสมัยก่อน ผู้ที่นับถือพุทธศาสนา จึงมุ่งศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน จะกระทำกันอย่างจริงจัง มุ่งหาทางหลุดพ้นตามแนวทางที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสสอนไว้ แม้จะมีการทำมาหากินกันตามปกติ แต่ก็จะไม่มีความโลภ โกรธ หลง มากนัก เพราะเหตุปัจจัย หรือสิ่งเย้ายวนต่าง ๆ มันยังน้อย และก็ยังไม่ละทิ้งการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    - แต่เมื่อมามองในยุคนี้ จะเห็นว่า บุคคลที่จะตั้งใจศึกษา และปฏิบัติธรรม ลดน้อยลง เพราะมีความเจริญทางด้านวัตถุเข้ามามากขึ้น ผู้คนเริ่มมากขึ้น ความแก่งแย่งในการทำมาหากินจึงมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น จุดมุ่งหมายจึงเปลี่ยนจากมุ่งเน้นพัฒนาจิตใจ ไปเป็นพัฒนาวัตถุแทน และคนที่เกิดมาในรุ่นยุควัตถุนิยม ก็จะหันไปให้ความสนใจกับวัตถุกันเป็นหลัก แก่งแย่งกันเรียน แก่งแย่งกันหางานทำ จนไม่มีเวลาที่จะหันไปให้ความสนใจ ที่จะพัฒนาจิตของตนเอง
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    - ที่กล่าวมานี้ มุ่งหมายที่จะให้เห็นว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา ของความเจริญ และความเสื่อมไปตามยุคตามสมัย เมื่อมีความเจริญทางจิตมาก ธรรมชาติก็ให้ความร่มเย็นเป็นสุข เมื่อมีความเจริญทางวัตถุแต่เสื่อมทางจิตมาก ธรรมชาติก็ให้โทษเป็นเรื่องธรรมดา นี่เป็นกลไกธรรมชาติ ซึ่งมีการวนเวียนเช่นนี้หลายยุคหลายสมัย ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    - ดังนั้น เรื่องของภัยพิบัติ ก็ย่อมมีเหตุปัจจัยที่สะสมมา มันจึงต้องเกิดไปตามกลไกของธรรมชาติ
    <O:p</O:p
    - แต่สิ่งที่ กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น ทำไมผู้ปฏิบัติทางจิตจำนวนมากจึงสามารถรู้ล่วงหน้าก่อนเหตุการณ์จะเกิดได้ ทำไมมนุษย์ต่างดาวจากโลกอื่น ๆ จึงรู้ได้ จนต้องมาเตรียมการช่วยเหลือมนุษย์โลกนี้ สิ่งเหล่านี้มนุษย์ต่างดาวกล่าวว่า จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมันเป็นหลักการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ ที่ถูกต้องแม่นยำ ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติ ผู้ใดที่ต่อเชื่อมกับธรรมชาติได้ ก็รับรู้ได้เช่นกัน แต่อธิบายไปมนุษย์อาจไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็ยกตัวอย่างว่า บางครั้งมนุษย์ก็ยังมีการคำนวณได้ล่วงหน้าหลายปี ว่าวันที่นี้ เดือนนี้ ปีนี้ เวลานี้ จะเกิดสุริยุปราคา จะเกิดฝนดาวตก จะเกิดพายุ หรือ แม้กระทั่งวิชาโหราศาสตร์ที่แม่นยำ ยังสามารถรู้ล่วงหน้าได้ ว่าปีไหน จะเกิดอะไรกับประเทศนี้ กับคนนี้ และเมื่อเวลาผ่านไปมันเกิดขึ้นจริงตามนั้น เคยสงสัยไหมว่า เขารู้ล่วงหน้าก่อนเกิดได้อย่างไร ซึ่งก็มาจากหลักการคำนวณนั่นเอง ซึ่งมันมีอยู่แล้วในธรรมชาติ เพียงแต่ว่าการคำนวณเรื่องภัยพิบัติ อาจมีเหตุปัจจัย หรือกลไกซับซ้อนกว่าเท่านั้น

    - หลักการคำนวณ มันมีอยู่แล้วในธรรมชาติ เมื่อมีเหตุปัจจัยเช่นนี้ ก็จะเกิดสิ่งนี้ เวลานี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ดังนั้น มนุษย์ต่างดาวที่มีความเจริญ เขาจึงสามารถคำนวณได้ว่า ในช่วงเวลานี้ จะเกิดอะไรกับดาวดวงไหน ในช่วงเวลานี้จะเกิดกับดาวดวงไหน และในช่วงเวลานี้จะเกิดกับดาวอะไร?
    <O:p</O:p<O:p</O:p

    เพราะมนุษย์ต่างดาวกล่าวว่า ไม่ใช่ดาวดวงนี้เท่านั้น ที่เขาต้องมาให้ความช่วยเหลือเมื่อจะเกิดภัยพิบัติ มีดวงดาวอีกมากมายที่ต้องให้ความช่วยเหลือเหมือนกัน เพราะดาวแต่ละดวงจะมีปัญหาไม่เหมือนกัน

    <O:p</O:p<O:p</O:p
    - มนุษย์ต่างดาว มีการรวมกันจากหลายดวงดาว ขึ้นเป็น สมาชิกกลุ่มสากล ทำหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือดวงดาวต่าง ๆ ที่ประสบความวิกฤตในแต่ละด้าน ซึ่งเขายกตัวอย่างว่า เปรียบเสมือนสหประชาชาติ บนโลกนี้ ที่แต่ละประเทศจะเข้าเป็นสมาชิกของสหประชาติ และประเทศที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ เมื่อเกิดวิกฤตการณ์ในประเทศใดประเทศหนึ่ง แล้วจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือ ประเทศสมาชิก ก็จะส่งทหารเข้าร่วมปฏิบัติการ ซึ่งปัญหาของแต่ละประเทศบนโลกมนุษย์ก็ยังไม่เหมือนกัน บางประเทศขาดแคลนอาหาร บางประเทศ เกิดสงคราม บางประเทศเกิดอุทกภัย บางประเทศเกิดโรคระบาด ซึ่งสหประชาชาติ ก็จะส่งความช่วยเหลือไปตามความจำเป็นของประเทศนั้น ๆ ขาดแคลนอาหาร ก็ส่งอาหาร ส่งหมอ เกิดอุทกภัย ก็จัดส่งอุปกรณ์ยังชีพ หน่วยกู้ภัย และยารักษาโรค ซึ่งสมาชิกของสหประชาชาติแต่ละประเทศ ก็จะส่งทหารที่มีความเชี่ยวชาญแต่ละงานไปทำหน้าที่นั้น ๆ เช่นประเทศไทย อาจจะส่งแพทย์ไปช่วย สหรัฐอาจจะส่งอุปกรณ์เทคโนโลยี หรือประเทศญี่ปุ่นอาจจะส่งเงิน ส่งอาหาร แล้วแต่ประเทศไหนมีความพร้อม หรือมีความชำนาญในแต่ละด้านไม่เท่ากัน

    <O:p</O:p
    - ซึ่งมนุษย์ต่างดาวในแต่ละดวงดาว ก็มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านไม่เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อดาวดวงใด ประสบกับวิกฤตการณ์ด้านไหน ก็จะระดมแต่ละดวงดาวที่มีความเชี่ยวชาญไปช่วยแต่ละดาวดวงนั้น เช่น บางดาวเชี่ยวชาญด้านสร้างพลังงานคุ้มกันรังสี บางดาวเชี่ยวชาญด้านผลิตอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ บางดาวเชี่ยวชาญด้านสร้างเครื่องมือในการรักษาชีวิต บางดาวเชี่ยวชาญสร้างอุปกรณ์เพื่อสื่อสารกับมนุษย์ และบางดาวเชี่ยวชาญด้านชีวภาพ จึงมิใช่เราเป็นดาวดวงแรกที่มีมนุษย์ต่างดาวมาให้ความช่วยเหลือ จริง ๆ แล้วโลกของเรา เขาก็ให้การช่วยเหลือ มาหลายครั้ง หลายหนในอดีต ในการเกิดวิกฤตการณ์ในแต่ละยุค แต่ละสมัย


    <O:p</O:p- ในการที่จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่บนดาวดวงนี้ อาจเป็นครั้งที่หนักหนาสาหัสพอสมควร เพราะการที่มนุษย์ต่างดาวระดมกำลังจากหลายดวงดาว มาเตรียมการทั่วโลก เพื่อรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ มีการกระจายการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ไปทั่วโลก มีการนำ จานบิน มาปรากฏให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อทำความคุ้นเคย และจะไม่เกิดการช็อค เมื่อต้องเห็นเขาบินกันให้ว่อนในเวลาที่เกิดภัยพิบัติ สิ่งเหล่านี้ มนุษย์ต่างดาว ได้มีการเตรียมการวางระบบการช่วยเหลือไว้ เป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้

    <O:p</O:p
    - ก่อนเกิดภัยพิบัติ มาสำรวจ มาวางโครงการ นำจานบินมาปรากฏทั่วโลก เพื่อทำความคุ้นเคย มาสื่อสารกับมนุษย์เพื่อเตรียมช่องทางในการเตือนภัย และการช่วยเหลือในอนาคต

    <O:p</O:p
    - ขณะเกิดภัยพิบัติ ให้การช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยี ด้านอุปกรณ์ และด้านการรักษา และด้านอื่น ๆ โดยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเหล่านั้น จะส่งจากเขาให้กับมนุษย์โลกได้ใช้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง ผ่านช่องทางที่เตรียมไว้ เช่นกลุ่มผู้เตรียมการช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติ กลุ่มผู้รับการสื่อสาร หรือกลุ่มผู้ปฏิบัติทางจิตที่มีกระจายอยู่ถึง 5000 คนทั่วโลก

    <O:p</O:p
    - หลังเกิดภัยพิบัติ จะให้การช่วยเหลือเพื่อพื้นฟูด้วยเทคโนโลยีของเขา ทั้งด้านที่อยู่อาศัย ด้านอาหาร และด้านการรักษา เพราะตอนนั้นโลกของเราไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ หลงเหลือให้มนุษย์ช่วยเหลือตัวเองได้ และก่อนกลับ จะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีไว้ให้ และเขายังบอกอีกว่า เขาไม่สามารถอยู่ได้บนโลกของเรา เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจ ก็ต้องเดินทางกลับ เพื่อช่วยเหลือดาวดวงอื่นต่อไป

    <O:p</O:p
    - ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของธรรมชาติ การช่วยเหลือกันตามกฏของธรรมชาติ ไม่ได้เป็นบุญคุณ หรือต้องการสิ่งตอบแทนใด ๆ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ดังนั้น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนก่อนเกิดภัยพิบัติ ก็ยังอยู่ในขั้นตอนต้องสำรวจ ผลิตอุปกรณ์เพื่อช่วยเหลือ สื่อสารกับมนุษย์ และยังคงบินมาปรากฏให้เห็นทั่วโลก เพื่อทำความคุ้นเคยกับมนุษย์ และจะได้ไม่กลัวเขาในกาลข้างหน้า

    <O:p</O:p
    - เป็นการสื่อสารข้อมูล ผ่านกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เพื่อบอกถึงจุดประสงค์ที่มาโลกมนุษย์ บอกถึงภารกิจที่มนุษย์ต่างดาว สมาชิกกลุ่มสากล ของแต่ละดวงดาวกำลังดำเนินการอยู่บนโลกในขณะนี้<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2007
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...