WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ไต้ฝุ่น "ซันปา" ทำให้น้ำท่วมมะนิลา

ฝนที่ตักหนักเมื่อคืนนี้ ทำให้หลายพื้นที่ของกรุงมะนิลามีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร 80 เซนติเมตร และทำให้ชาวบ้านกว่า 400 คน ที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ราบต่ำ ริมฝั่งอ่าวมะนิลา ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน / สายการบินภายในประเทศ อย่างน้อย 10 เที่ยวบิน ต้องถูกยกเลิก และมหาวิทยาลัยต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว และมีชาวประมงรายหนึ่ง เสียชีวิตจากการออกเดินเรือท่ามกลางคลื่นลมแรง

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์รายงานว่า แม้ไต้ฝุ่น "ซันปา" จะเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ มุ่งหน้าไปยังญี่ปุ่นแล้ว แต่ยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง จนถึงวันอังคารนี้ โดยปกติ ฟิลิปปินส์ ต้องเผชิญกับพายุรุนแรงหรือไต้ฝุ่นถึง ปีละ 20 ลูก และช่วงฤดูมรสุมในเดือนสิงหาคมปีนี้ อิทธิพลของพายุและน้ำท่วม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 คนแล้วและกระทบชาวฟิลิปปินส์กว่า 3 ล้านคนในเมืองหลวง และจังหวัดทางตอนเหนือของประเทศ

พายุไต้ฝุ่น 'ซันปา' ที่กำลังเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์ มุ่งหน้าไปยังเกาะโอะกินะวะ และเกาะคิวชู ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ทำให้สายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์สและเจแปน แอร์ไลน์ส ต้องยกเลิกเที่ยวบิน ที่เดินทางไปและกลับจากเกาะโอะกินะวะ และเกาะใกล้เคียงในวันนี้ รวม 76 เที่ยวบิน กระทบผู้โดยสารถึง 17,000 คนและพายุจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะโอะกินะวะ คืนนี้และพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเคลื่อนตัวเข้าเกาหลีใต้ในวันจันทร์

 

18:39 น.

พายุหมุนพัดกระหน่ำบึงกาฬสวนยางพาราหักโค่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดพายุหมุนพัดกระหน่ำพร้อมฝนตกหนักเข้าถล่มสวนยางพาราของชาวสวน ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ หักโค่นเสียหายหลายพันต้นกินพื้นที่หลายร้อยไร่ ทั้งที่เป็นต้นยางที่รีดแล้ว 3 - 4 ปี ส่วนยางเล็กไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด สำหรับพื้นที่เสียหายหนักเป็นพื้นที่ของนายบุญรอด นาคำ อายุ 55 ปี หักโค่นเสียหาย 500 ต้น นายสง่า โมหนองเดิ่น อายุ 41 ปี เสียหาย 300 ต้น นายเสลียว พรมวาส อายุ 50 ปี เสียหาย 60 ต้น นายกิติพงษ์ อายุ 34 ปี เสียหาย 40 ต้น นางหนูสิน ชมชื่น อายุ 52 ปี เสียหาย 120 ต้น นายปัญญา กุนมโฮง อายุ 49 ปี เสียหาย 86 ต้น ซึ่งส่วนมากจะเป็นสวนของราษฎรบ้านบังบาตร บ้านชัยพร ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ บ้านเทพมีชัย ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า

นายเสลียว พรมวาส หนึ่งในจำนวนหลายคนที่ได้รับความเสียหาย กล่าวด้วยน้ำตาว่า ยางพาราของตนพึ่งจะกรีดได้มา 2 ปีและปีนี้เป็นปีที่ 3 น้ำยางกำลังจะไหลออกดี ต้องมาประสบวาตะภัยเสียก่อน พวกตนเสียใจมากทะนุถนอมกว่าจะโตได้มาถึงวันนี้ต้องลงทุนลงแรงไปมาก ยางพาราก็มาราคาตกอีก ยางประมาณ 1,300 ต้นรายได้เฉลี่ยตกเดือนละประมาณสามหมื่นถึงสามหมื่นห้าพันบาท โดยขายเป็นยางก้อนหรือขี้ยางแล้วแต่ราคายางขึ้นลง เมื่อโดนพายุพัดหักโค่นทำให้ขาดรายได้ไป กว่าจะปลูกทดแทนได้คงอีกหลายปี ที่สำคัญรัฐช่วยเงินแค่ต้นละ 9 บาท ค่าต้นกล้าก็ต้นละ 50-60 บาทแล้ว พวกตนจึงอยากขอร้องรัฐบาลเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ประสบวาตะภัยที่ทำให้สวนยางเสียหายเทียบเท่ากับชาวเกษตรอื่นๆ

 

สุโขทัยน้ำป่าทะลักท่วม 11 หมู่บ้าน

เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 15 กันยายน เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนสามารถวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 130 มิลลิเมตร บริเวณแนวเทือกเขาเหนืออ่างเก็บน้ำห้วยแม่เทินในพื้นที่ ตำบลแม่สิน อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ทำให้อ่างเก็บน้ำห้วยแม่เทิน ไม่สามารถเก็บกักปริมาณน้ำไว้ได้จนไหลเอ่อล้นสปิลเวย์ในปริมาณมากประกอบกับมีปริมาณน้ำป่าจากแนวเทือกเขาดังกล่าวได้ไหลบ่าเข้าสมทบจนเกิดภาวะน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถึง 11 หมู่บ้านของ ตำบลแม่สิน อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ได้แก่ บ้านแม่เทินเหนือ บ้านแม่เทินใต้ บ้านดอนเพชร บ้านวังทอง บ้านห้วยเดื่อย บ้านปางสัก บ้านแม่ฮู้ บ้านผาคำ บ้านดอนกว้าง บ้านแม่สิน และ บ้านห้วยโป้ โดยปริมาณน้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง

ขณะเดียวกันกระแสน้ำเชี่ยวกรากได้พัดข้ามเส้นทางสัญจรหลักทางหลวงหมายเลข 1177 ตอน ศรีสัชนาลัย - วังชิ้น ระยะทางยาวเกือบ 500 เมตรสูงจากผิวการจราจรประมาณ 50 ซม. รถยนต์เล็กผ่านได้ลำบาก นอกจากนั้นกระแสน้ำยังพัดกระหน่ำจนทำให้สะพานคอนกรีตระหว่างหมู่บ้านยาว 20 เมตร ในพื้นที่บ้านแม่เทินใต้ทรุดลงหักพังไปกับกระแสน้ำชาวบ้านไม่สามารถใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาได้ นอกจากนั้นทางหลวงหมายเลข 101 ตอน ศรีสัชนาลัย - เด่นชัย บริเวณหลัก กม.ที่ 60 - 61 เกิดดินโคลนถล่มสไลด์ปิดเส้นทางการจราจรไปกว่าค่อนถนนถึง 3 จุด ทำให้เจ้าหน้าที่แขวงการทางต้องระดมกำลังเข้าเคลียร์เส้นทางอย่างเต็มที่เพื่อเปิดการจราจรให้สัญจรไปมาสะดวกโดยล่าสุดได้รับรายงานสามารถเปิดการจราจรได้แล้ว 1 ช่องทางการเดินรถและบนถนนซึ่งห่างออกไปกว่า 2 กม. บนเส้นทางเดียวกันเกิดกระแสน้ำป่าดังกล่าวกัดเซาะคอสะพานข้ามห้วยแม่เทินเหนือจนเป็นโพรงตลอดแนวขวางคอสะพานทำให้คอสะพานดินทรุดตัวหายไปกับกระแสน้ำซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นการจราจร 1 ช่องทางและเร่งซ่อมแซมแล้วและสามารถใช้งานได้ตามปรกติเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา

นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ซึ่งรีบรุดเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจดูสภาพน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าวได้สั่งการ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายโดยละเอียด และให้ความช่วยเหลือราษฏรในเบื้องต้นแล้ว โดยมีชาวบ้านจำนวนเกือบ 100 ครอบครัวไ ด้อพยพออกจากพื้นที่ไปอาศัยจุดพักพิงชั่วคราวบริเวณวัดแม่เทินใต้ซึ่งทางอำเภอเตรียมการรองรับไว้ให้เป็นจุดอพยพพักพิงชั่วคราว ล่าสุดมีรายงานว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลายชาวบ้านบางส่วนที่อพยพไปยังที่พักพิงชั่วคราววัดแม่เทินใต้ได้กลับเข้าสู่ที่พักอาศัยแล้วเนื่องจากระดับน้ำเริ่มลดลงต่อเนื่องยังคงเหลือเพียงไม่ถึง 20 ครัวเรือนที่ต้องพักอาศัยต่อไปชั่วคราวเนื่องจากบริเวณบ้านเรือนและพื้นที่โดยรอบยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่บางส่วน

 

"รอยล"ชี้ต้องมีพายุเข้าอีก 14 ลูกจะเกิดน้ำท่วมแบบปีที่แล้ว

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2555 เวลา 18:13 น.



วันนี้(15ก.ย.) นายรอยล จิตรดอน ประธานคณะอนุกรรมการการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำและจัดสรรน้ำ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)เปิดเผยถึงปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯจากฝนตกหนักและ กทม.สูบออกไม่ทัน การระบายน้ำเหนือผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จะไม่ทำให้น้ำเท้อเข้าระบบ กทม.เพราะน้ำทะเลไม่หนุนสูง 

"ปัญหาที่เกิดขึ้นกับกรุงเทพฯเพราะ กทม.สูบออกไม่ทัน ระบบท่อระบายน้ำไปสู่คลองเล็กๆป้อนคลองแสนแสบ คลองเปรม ไม่ดี ไม่มีระบบสูบป้อนส่งไปเข้าระบบใหญ่ทำให้น้ำท่วมถนน แต่มาดูปริมาณน้ำในคลองน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งเป็นเมตร จากถนนไหลคลองเล็กไปลงคลองลาดพร้าว ไปลงอุโมงค์ ไม่ทันระบบมีปัญหาไม่สมดุลกัน ถ้าสมดุลต้องไหลเร็ว ถนนจะไม่ท่วมสูง ขอให้ กทม.กลับไปดูระบบป้อน ระบบใหญ่ ทำให้น้ำไหลลงคลองให้เยอะขึ้น เพราะฝนจะตกหนักจนถึงสัปดาห์หน้า ผมได้ถามเจ้าหน้าที่ กทม ให้ช่วยเหลือะไรพร้อมประสาน ทางกองทัพเรือก็ยืนยันมาพร้อมเข้าไปช่วย"นายรอยล กล่าว

นายรอยล กล่าวว่าขอให้ประชาชนอย่ากังวลกับปัญหาน้ำท่วมเพราะน้ำเหนือปีนี้ไม่มาก น้อยกว่าปี 54 ถึง 90 เปอร์เซนต์ ต้องมีพายุเข้าอีก 13-14 ลูกจึงจะเกิดน้ำท่วมแบบปีที่แล้ว เพราะปริมาณขณนี้น้ำค้างอยู่พื้นที่ตอนเหนือจ.นครสวรรค์ มี 1พันล้านลบม ปีที่แล้วค้างเหนือจ .นครสวรรค์ถึง 8 พันล้านลบม ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริิกิติ์ ปล่อยระบายสองเขื่อนรวมกันปีที่แล้ว 130-140 ล้านลบม ปีนี้ ไม่ถึง 6 ล้านลบมต่อวัน ปริมาณน้ำ จ.นครสวรรค์กว่า 1.2 หมื่นล้าน ลบม.ปี 54 ปีนี้มี 3 ร้อยกว่าล้านลบม. ไม่ถึง 10 เปอร์เซนต์ 

"การบริหารน้ำในกรุงเทพ พื้นที่ของ กทม. ถ้าฝนตกในพื้นที่ต้องเอาน้ำฝนจากถนนต่างๆเพื่อมาสู่ระบบคลองให้ได้แต่ที่เกิดน้ำท่วมขังนานเพราะลงระบบไม่ทัน หากทำให้ระบบสูบป้อนน้ำเข้าระบบใหญ่ได้สมดุลน้ำลงเร็ว แค่นั้นเองหัวใจมีแค่นี้ ถ้าอุโมงค์ยักษ์ไม่มีระบบป้อน ก็จบผมพูดมาสามสี่ปี วันนี้ ทุกคนเข้าใจน้ำท่วมผิดหมดทั้งประเทศ วันที่ผมขอทดสอบ ก็โดนด่า ผมถามว่าเครื่องผลักดันน้ำที่ กทม.ซื้อมา 40-50 เครื่องฝนมาแล้วไปตั้งที่ตรงไหน ผมพยามขอข้อมูลมาเพื่อประเมิน ไม่ต้องระวังผมเพราะผมไม่เล่นการเมือง ซึ่งการแก้ปัญหาน้ำอย่างเดียวไม่ได้เพราะปัญหาผังเมือง ปัญหาป่าไม้ ที่สะสมมาตลอด ต้องช่วยๆกันแก้ไขต่อไป"นายรอยล กล่าว

 

ชาวหมู่บ้านเมืองเอกเตรียมรับมือน้ำ พร้อมคาดหวังแนวคันกั้นน้ำริมคลองรังสิตช่วยป้องกันได้

Sat, 15/09/2012 - 19:21 — natawan



ห้องโถงบริเวณชั้นสองของบ้าน ถูกเตรียมไว้เป็นสถานที่จัดเก็บสิ่งของเครื่องใช้ เป็นวิธีการเตรียมพร้อมรับมือของนายชำนาญวิทย์ สืบสันติ ชาวชุมชนเมืองเอก จังหวัดปทุมธานี หากเกิดน้่ำท่วมในปีนี้ และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบ้านตั้งอยู่ใกล้กับคลองรังสิตประยูรศักดิ์ / แม้จะรู้สึกอุ่นใจขึ้นบ้างที่ภาครัฐ ดำเนินการโครงการก่อสร้างแนวคันกั้นน้่ำถาวรตลอดแนวคลองรังสิต แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าการสร้างแนวคันกั้นน้ำ จะตอบโจทย์การแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ได้จริงหรือไม่

พื้นที่ชุมชนเมืองเอก มีสภาพเป็นแอ่งกระทะ ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างแนวคลองประปาด้านทิศตะวันตก กับคลองเปรมประชากรด้านทิศตะวันออก โดยมีรางรถไฟเป็นคันกันน้ำจากรังสิตขวางอยู่ด้านนอกสุด น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา เกิดจากคลองเปรมประชากรส่วนบนล้นเอ่อออกด้านข้าง ตีโอบตลาดรังสิตแล้วย้อนกลับเข้ามารางรถไฟริมคลองเปรมรวมกับน้ำในคลองเปรม ทำให้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนชุมชนริมคลองเปรมติดกับวัดรังสิตสูงเกือบ 2 เมตร

นายปกรณ์พัฒน์ เทพเอื้อตระกูล คกก.ภาคประชาสังคมการมีส่วนร่วมงฝั่งตะวันออก ปทุมธานีเห็นว่า แนวทางการป้องกันน้ำท่วมของจังหวัด ไม่ควรมุ่งเน้นเฉพาะการสร้างระบบปิดล้อมไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่เท่านั้น ต้องให้ความสำคัญกับการขุดลอกคูคลองในสายหลักด้วย

ขณะที่พฤทธิพงศ์ ทัศน์อัญชุลีกุล ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ ระบุว่า แผนงานป้องกันน้ำท่วมมีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 70 ซึ่งปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ และคันกั้นน้ำตามแนวคลองรังสิต โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำจาก 1 จุด เป็น 2 จุด จุดละ 12 ตัว รวมเป็น 24 ตัว มีศักยภาพสูบน้ำเพิ่มจาก 36 ลูกบาศก์เมตรเป็น 108 ลูกบาศก์เมตร ควบคุมระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ และคลองสาขาได้อย่างเต็มที่

ส่วนการดำเนินการก่อสร้างกำแพงกั้นน้ำริมคลองรังสิตตั้งแต่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ไปถึงแม่น้ำเจ้าพระยา จะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะช่วยป้องกันน้ำไม่ให้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจ และชุมชน จึงมั่นใจว่าปีนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเหมือนเช่นที่ผ่านมา

สำหรับสถานการณ์น้ำขณะนี้ ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะเจ้าหน้าที่ได้มีการพร่องน้ำตามคลองต่างๆ เพื่อช่วยระบายน้ำเหนือตอนบน โดยระดับน้ำขณะนี้อยู่ที่ 1.10 เมตร ซึ่งยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย พร้อมระบุ ช่วงเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์เป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูฝน

 

<TABLE style="FILTER: progidXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; BORDER-RIGHT: gray 1px solid" width="100%" colSpan=3 align=middle>[SIZE=+1]ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย" [/SIZE]
ฉบับที่ 16 ลงวันที่ 16 กันยายน 2555
</TD></TR><TR><TD style="BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-BOTTOM: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-RIGHT: 10px; BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" width="100%" colSpan=3 align=left> บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลิ่มลงมาปกคลุมตอนบนของประเทศไทย ส่งผล
ทำให้ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในช่วงวันที่ 16-18 กันยายน 2555 ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในช่วงวันเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “ซันปา” (SANBA) บริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง ประมาณ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านเกาะโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น และเคลื่อนตัวเข้าสู่คาบสมุทรเกาหลี ในช่วงวันที่ 16-17 กันยายน 2555 พายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ประกาศ ณ วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 05.30 น.
</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ดูแลสุขภาพกาย ดูแลสุขภาพใจ ดูแลสุขภาพจิต กันด้วยนะครับ​

 

ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นซันปาทำเอาฟิลิปปินส์น้ำท่วมก่อนมุุ่งหน้า
โอกินาว่า
<!-- Item Author -->
September 15, 2012 -- Updated 2227 GMT (0627 HKT)


<CITE>A man waits for a boat to transport him to higher ground on a flooded street after continuous overnight rain brought by Typhoon Sanba in San Juan, Philippines, on Saturday, September 15. Parts of Manila were under 6 feet of water Saturday. More than 400 people had to flee their homes, officials said. See photos of last month's flooding of Manila from monsoon rains. </CITE>

<CITE id=galleryCaption002>Commuters wade through a flooded street Saturday during a heavy downpour in Quezon City, in metro Manila. </CITE>

<CITE id=galleryCaption003>A man drinks a cup of coffee as he wades through water in San Juan on Saturday. </CITE>

<CITE id=galleryCaption004>A group of Filipino commuters ride on top of a delivery truck as it maneuvers on a flooded street in Paranaque, south of Manila, on Saturday. </CITE>

<CITE id=galleryCaption005>A resident rests on a flooded street in Paranaque. </CITE>

<CITE id=galleryCaption006>Flood victims rest in</CITE>
<CITE></CITE>Read more http://edition.cnn.com/2012/09/15/world/asia/typhoon-sanba/index.html?eref=edition

 

โม้ได้ใจจริง เจนฝนธรรมดาตั้งเเต่16-18กย.ตามที่อุตุเเจ้งตกติดต่อ3วันไม่หยุดก็อ้วกเเล้วเฮียรอ
ไม่ต้องรอ14ลูกผมก็อยู่ใต้บาดาลเเล้ว

 

ถนนริมน้ำน่านเมืองสองแควพังถล่มหลังเสียหาย

วันนี้ 16 ก.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำน่าน บ้านวังกระบาก หมู่ 8 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่า ถนนที่ก่อสร้างเลียบตลิ่งของแม่น้ำน่าน ได้ถูกกัดน้ำเซาะกัดจนทำให้ถนนขนาด 2 ช่องจราจรได้ทรุดตัวหายลงไปในแม่น้ำทั้งเส้น เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ติดถนนสายดังกล่าว จำนวน 4 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบเข้า-ออกบ้านเกือบไม่ได้แล้ว เนื่องจากเหลือช่องทางให้เดิน ลัดเลาะริมรั้วบ้านประมาณ 20-30 เซนติเมตร สร้างความผวาดผวาให้กับประชาชนที่พักอาศัยอยู่ เนื่องจากเกรงว่าตลิ่งจะพังเสียหายเพิ่มขึ้นอีก จนมาถึงเขตรั้วบ้านพักและแนวเสาไฟฟ้า จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือเป็นการด่วน

นางทองชุป คำงาม เจ้าของบ้านเลขที่ 182/5 หมู่ 8 บริเวณจุดที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ถนนสายดังกล่าวเป็นถนนเลียบริมแม่น้ำน่าน ก่อสร้างและใช้งานมาหลายปีแล้ว ต่อเมื่อเมื่อปีที่ผ่านมา หลังจากที่แม่น้ำน่านได้เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งกระแสน้ำไหลแรงมากและมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน กระแสน้ำได้ไหลกัดเซาะดินริมตลิ่งและใต้ถนน จนทำให้ค่อยทรุดตัว จนพังเสียหายถล่มลงไปในแม่น้ำ เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร และการทรุดตัวยังลงลุกลามเข้ามาในเขตที่ดินของตนเอง

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้แนวถนนขอบสุดท้าย ได้พังลงไปด้านล่างเสียงดังสนั่น จนขณะนี้การทรุดตัวได้เข้ามาถึงบริเวณรั้วหน้าบ้านและแนวเสาไฟฟ้าแล้ว หากยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ คาดว่าทั้งรั้วบ้านและเสาไฟฟ้า จะทรุดตัวได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน

นางทองชุป กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ตนเองและเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอีก 3-4 หลัง ต่างหวาดผวาไม่กล้าพักอาศัยที่ผ่านมาบ้าน เนื่องจากกลัวดินที่ยังทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง จะกินพื้นที่เข้ามาถึงตัวบ้านพักอาศัย และ ยังกลัวเสาไฟฟ้าที่อยู่ชิดแนวถนน จะโค่นลงมาเป็นอันตรายได้

ด้านนายขจรศักดิ์ วิตันติวงศ์ อดีต นายก อบต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ถนนสายดังกล่าวอยู่ในความดูแลของ อบต.ท่าทอง เปิดใช้งานมานานหลายปี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่สูงขึ้น ได้เซาะดินใต้ถนนจนเป็นโพรง ก่อนพังถล่มได้รับความเสียหายหลายจุด แต่ที่รุนแรงคือบริเวณ หมู่ 8 ต.ท่าทอง ถนนขนาด 2 ช่องจราจรได้หายไปทั้งเส้น และ ยังทรุดตัวจนถึงแนวเสาไฟฟ้าของหมู่บ้านแล้ว ขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่โยธาและฝังเมือง ได้เข้าพื้นที่มาตรวจสอบแล้วจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ ยังได้ประสานไปยังกองทัพภาคที่ 3 เพื่อจัดส่งทหารช่างมาไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นเป็นการเบื้องต้นในฤดูน้ำหลากนี้ก่อน ส่วนการแก้ไขระยะยาวคงต้องจัดหางบประมาณ เพื่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังถาวรต่อไป

 

คือตำแหน่งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เป็นจุดที่อันตรายที่สุดเมื่อเกิด พายุสุริยะขนาดใหญ่ solar superstorm

คาดว่าอาจจะเกิด ปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า

ใครอยู่ไกล้ๆ น่าจะหาทางกลับมาบ้านก่อนนะครับ

 

Solar SuperStorm Could Result in Worldwide Nuclear Meltdown

Solar SuperStorm Could Result in Worldwide Nuclear Meltdown

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=u06Hte_nK1w&feature=player_embedded]2012 : Worldwide Nuclear Meltdown - Fukushima Disaster /Solar Storms - YouTube[/ame]

 

นายรอยล กล่าวว่าขอให้ประชาชนอย่ากังวลกับปัญหาน้ำท่วมเพราะน้ำเหนือปีนี้ไม่มาก น้อยกว่าปี 54 ถึง 90 เปอร์เซนต์ ต้องมีพายุเข้าอีก 13-14 ลูกจึงจะเกิดน้ำท่วมแบบปีที่แล้ว เพราะปริมาณขณนี้น้ำค้างอยู่พื้นที่ตอนเหนือจ.นครสวรรค์ มี 1พันล้านลบม ปีที่แล้วค้างเหนือจ .นครสวรรค์ถึง 8 พันล้านลบม ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริิกิติ์ ปล่อยระบายสองเขื่อนรวมกันปีที่แล้ว 130-140 ล้านลบม ปีนี้ ไม่ถึง 6 ล้านลบมต่อวัน ปริมาณน้ำ จ.นครสวรรค์กว่า 1.2 หมื่นล้าน ลบม.ปี 54 ปีนี้มี 3 ร้อยกว่าล้านลบม. ไม่ถึง 10 เปอร์เซนต์

"การบริหารน้ำในกรุงเทพ พื้นที่ของ กทม. ถ้าฝนตกในพื้นที่ต้องเอาน้ำฝนจากถนนต่างๆเพื่อมาสู่ระบบคลองให้ได้แต่ที่ เกิดน้ำท่วมขังนานเพราะลงระบบไม่ทัน หากทำให้ระบบสูบป้อนน้ำเข้าระบบใหญ่ได้สมดุลน้ำลงเร็ว แค่นั้นเองหัวใจมีแค่นี้ ถ้าอุโมงค์ยักษ์ไม่มีระบบป้อน ก็จบผมพูดมาสามสี่ปี วันนี้ ทุกคนเข้าใจน้ำท่วมผิดหมดทั้งประเทศ วันที่ผมขอทดสอบ ก็โดนด่า ผมถามว่าเครื่องผลักดันน้ำที่ กทม.ซื้อมา 40-50 เครื่องฝนมาแล้วไปตั้งที่ตรงไหน ผมพยามขอข้อมูลมาเพื่อประเมิน ไม่ต้องระวังผมเพราะผมไม่เล่นการเมือง ซึ่งการแก้ปัญหาน้ำอย่างเดียวไม่ได้เพราะปัญหาผังเมือง ปัญหาป่าไม้ ที่สะสมมาตลอด ต้องช่วยๆกันแก้ไขต่อไป"นายรอยล กล่าว

 

กทม ที่ฝนตกแล้วน้ำขังไว ก็คงเพราะท่อตันจากคราวที่แล้ว ละกระมั้ง

 

เตือนคนสุโขทัยอพยพ! น้ำยมเลยจุดวิกฤต-ท่วมซ้ำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2555 14:43 น.












คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น










สุโขทัย - ปั่นป่วนกันทั่วเมือง ชาวสุโขทัยต้องหยุดทำความสะอาด หันมาขนของหนีน้ำท่วมซ้ำอีกรอบ ขณะที่น้ำยมเพิ่มระดับจนเกินจุดวิกฤตแล้ว “บิ๊กแบ็ก-เกเบียน” เอาไม่อยู่ ผู้ว่าฯประกาศให้อพยพหนีแล้ว เผย “ปากแคว” จมใต้บาดาลร่วม 2 เมตร ถนนสายสุโขทัย-ศรีสำโรงจม

รายงานข่าวจาก จ.สุโขทัย วันนี้ (16 ก.ย.) แจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีกำลังเข้าสู่วิกฤตอีกครั้ง หลังจากปริมาณน้ำในแม่น้ำยมมีระดับเพิ่มสูงเกินกว่าจุดวิกฤต โดยที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยวัดได้ 7.45 เมตร และยังคงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งยังจะมีมวลน้ำป่าจาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ กำลังไหลลงมาสมทบอีกด้วย

ส่วนบริเวณบิ๊กแบ็กและเกเบียนที่เป็นแนวป้องกันน้ำยมไม่ให้ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองสุโขทัยพบมีรอยรั่วซึมหลายแห่ง ประกอบกับมวลน้ำยมได้ทะลักเข้ามาตามท่อระบาย ทำให้ตั้งแต่ช่วงตี 3 คืนที่ผ่านมากระทั่งจนถึงเช้าวันนี้มวลน้ำที่เข้ามาตามจุดดังกล่าวได้ไหลเข้าท่วมตัวตลาดเทศบาลฯ ซ้ำอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 และมีระดับเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา

ผู้ประกอบการร้านค้า รวมทั้งชาวบ้านในตลาดต้องหยุดทำความสะอาดที่อยู่อาศัย และเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไว้บนที่สูงอีกครั้งอย่างโกลาหล และต่างก็ไม่มั่นใจกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้

ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ยอมรับว่า ขณะนี้สุโขทัยเกิดวิกฤตน้ำท่วมอีกครั้ง พร้อมกับประกาศให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีอพยพออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากน้ำยมทะลักเข้าท่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่บริเวณหมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย น้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านสูงถึง 2 เมตร และยังไหลบ่าเข้าท่วมถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ตรงด้านหน้าการประปาส่วนภูมิภาค ระดับน้ำสูง 50-90 เซนติเมตร เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้

ส่วนที่ ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก และ ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง ปริมาณน้ำยมก็กำลังเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง และที่บริเวณอู่พีซีการาจ ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย

วันเดียวกันนี้ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน 1,000 ชุด จากนั้นได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่ประสบภัยน้ำท่วม

ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ 19 ราย ส่วนมากเป็นโรงกลึง และอู่ซ่อมรถยนต์ ความเสียหายมีมากกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสถานการณ์น้ำป่าพัดถล่ม 9 หมู่บ้านใน ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย ซึ่งทำให้มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,500 ครัวเรือน พืชสวนพังเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลือ และเตรียมฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป

 

เตือนคนสุโขทัยอพยพ! น้ำยมเลยจุดวิกฤต-ท่วมซ้ำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2555 14:43 น.












คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น










สุโขทัย - ปั่นป่วนกันทั่วเมือง ชาวสุโขทัยต้องหยุดทำความสะอาด หันมาขนของหนีน้ำท่วมซ้ำอีกรอบ ขณะที่น้ำยมเพิ่มระดับจนเกินจุดวิกฤตแล้ว “บิ๊กแบ็ก-เกเบียน” เอาไม่อยู่ ผู้ว่าฯประกาศให้อพยพหนีแล้ว เผย “ปากแคว” จมใต้บาดาลร่วม 2 เมตร ถนนสายสุโขทัย-ศรีสำโรงจม

รายงานข่าวจาก จ.สุโขทัย วันนี้ (16 ก.ย.) แจ้งว่า สถานการณ์น้ำท่วมเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีกำลังเข้าสู่วิกฤตอีกครั้ง หลังจากปริมาณน้ำในแม่น้ำยมมีระดับเพิ่มสูงเกินกว่าจุดวิกฤต โดยที่หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยวัดได้ 7.45 เมตร และยังคงมีระดับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งยังจะมีมวลน้ำป่าจาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ กำลังไหลลงมาสมทบอีกด้วย

ส่วนบริเวณบิ๊กแบ็กและเกเบียนที่เป็นแนวป้องกันน้ำยมไม่ให้ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองสุโขทัยพบมีรอยรั่วซึมหลายแห่ง ประกอบกับมวลน้ำยมได้ทะลักเข้ามาตามท่อระบาย ทำให้ตั้งแต่ช่วงตี 3 คืนที่ผ่านมากระทั่งจนถึงเช้าวันนี้มวลน้ำที่เข้ามาตามจุดดังกล่าวได้ไหลเข้าท่วมตัวตลาดเทศบาลฯ ซ้ำอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 และมีระดับเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา

ผู้ประกอบการร้านค้า รวมทั้งชาวบ้านในตลาดต้องหยุดทำความสะอาดที่อยู่อาศัย และเร่งขนย้ายทรัพย์สินขึ้นไว้บนที่สูงอีกครั้งอย่างโกลาหล และต่างก็ไม่มั่นใจกับสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้

ด้านนายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ยอมรับว่า ขณะนี้สุโขทัยเกิดวิกฤตน้ำท่วมอีกครั้ง พร้อมกับประกาศให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีอพยพออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากน้ำยมทะลักเข้าท่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่บริเวณหมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย น้ำยมได้เอ่อล้นเข้าท่วมหมู่บ้านสูงถึง 2 เมตร และยังไหลบ่าเข้าท่วมถนนจรดวิถีถ่อง สายสุโขทัย-ศรีสำโรง ตรงด้านหน้าการประปาส่วนภูมิภาค ระดับน้ำสูง 50-90 เซนติเมตร เป็นระยะทางประมาณ 100 เมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้

ส่วนที่ ต.คลองกระจง อ.สวรรคโลก และ ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง ปริมาณน้ำยมก็กำลังเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง และที่บริเวณอู่พีซีการาจ ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย

วันเดียวกันนี้ ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวน 1,000 ชุด จากนั้นได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่ประสบภัยน้ำท่วม

ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์กล่าวว่า น้ำท่วมครั้งนี้มีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ 19 ราย ส่วนมากเป็นโรงกลึง และอู่ซ่อมรถยนต์ ความเสียหายมีมากกว่า 10 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับสถานการณ์น้ำป่าพัดถล่ม 9 หมู่บ้านใน ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย ซึ่งทำให้มีชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,500 ครัวเรือน พืชสวนพังเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ขณะนี้เริ่มคลี่คลายแล้ว หน่วยงานเกี่ยวข้องได้เข้าไปช่วยเหลือ และเตรียมฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป

 

นาย รอยล นามสกุล จิตรดอน อายุ 54 ปี

สถานที่ทำงาน สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
บ้านเลขที่ 108 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ชั้น 8 ถนน รางน้ำ แขวง ถนนพญาไท เขต ราชเทวี
จังหวัด กรุงเทพฯ รหัสไปรษณีย์ 10400 โทรศัพท์ 02 642 7132โทรสาร: 02 642 7133
ที่อยู่ที่ติดต่อได้ บ้านเลขที่ 108 อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ ชั้น 8 ถนน รางน้ำ แขวง ถนนพญาไท
เขต ราชเทวี จังหวัด กรุงเทพฯ รหัสไปรษณีย์ 10400 โทรศัพท์ 02 642 7132
โทรสาร: 02 642 7133 ​

2. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขา คณิตศาสตร์ คณะ วิทยาศาสตร์ ปีที่สำเร็จการศึกษาพ.ศ.2516
ระดับปริญญาโท ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (คณิตศาสตร์ประยุกต์) มหาวิทยาลัยมหิดล
ระดับปริญญาเอก Dr. rer nat in Informatics, Informatics Institute, Innsbruck University, Innsbruck, AUSTRIA.​

3. อาชีพ ข้าราชการ

4. ประวัติการทำงาน
4.1 งานประจำ
ผู้เชี่ยวชาญ 4 รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ
สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

4.2 กิจกรรมพิเศษ
2528 – 2530 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2529 – 2530 Associate Lecturer, Regional Computer Center, Asian Institute of Technology
2534 - 2536 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2536 - 2546 ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาสาขาคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
2538 International Steering Committee, High Performance Computing Asia’95, Taiwan
2540 International Steering Committee, High Performance Computing Asia’97, Korea
2541 International Steering Committee, High Performance Computing Asia’98, Singapore
2543 - 2545 รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
2544 - 2546 ผู้แทนเครือข่ายวิจัยไทย ใน Asia Pacific Advanced Network
2547 - 2548 ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (สบทร.)
2549 - ปัจจุบัน ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ สำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศภาครัฐ (สบทร.)
2549 - ปัจจุบัน ที่ปรึกษาศูนย์ข้อมูลทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการจังหวัดระยอง
2549 – ปัจจุบัน ที่ปรึกษาการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ
กระทรวงสาธารณสุข
2550 – ปัจจุบัน คณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคมเพื่อติดตามตรวจสอบผลการปฏิบัติ ราชการ กรมชลประทาน
2550 – ปัจจุบัน ที่ปรึกษาของคณะกรรมการโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม ขนส่ง และโลจิสติกส์ สายงานอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งชาติ
2550 – ปัจจุบัน หัวหน้าคณะทำงานยกร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. .... ในอนุกรรมาธิการทรัพยากรน้ำ และในคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ก่อตั้งสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร
คณะที่ปรึกษารัฐมนตรี Ministry of Public management, Home Affairs, Posts and Telecommunications – MPHPT ประเทศญี่ปุ่น ในการจัดตั้งความร่วมมือ Asia Broadband Program
​

4.3 เป็นสมาชิกหรือกรรมการ สมาคม, มูลนิธิ, ชมรม, หรืออื่น ๆ
2539 ประธานคณะทำงานกลุ่มมหาวิทยาลัยด้านวิทยาการและวิศวกรรมเชิงคอมพิวเตอร์
2541 - 2546 หัวหน้าโครงการ ระบบเครือข่ายเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำแห่งประเทศไทย
ในพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
2544 - ปัจจุบัน กรรมการ, Pacific Neighborhood Consortium
2547 – ปัจจุบัน กรรมการ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
2547 - ปัจจุบัน กรรมการประเมินเทคโนโลยีในการกำจัดขยะมูลฝอยที่เหมาะสมกับ
ประเทศไทย
2547 กรรมการจัดการประชุมนานาชาติเทคโนโลยีสารสนเทศ กับการพัฒนาการเกษตร (AFITA/WCCA2004)
2548 - ปัจจุบัน อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิปรับปรุงระบบข้อมูลสารสนเทศสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
2549 กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการจัดประชุมสมัชชาวิยาศาสตร์และ เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนา ครั้งที่ 5
2549 - ปัจจุบัน กรรมการอำนวยการบริหารและจัดการน้ำโครงการแก้มลิงของมูลนิธิชัยพัฒนา
2549 - ปัจจุบัน อนุกรรมาธิการทรัพยากรน้ำ ในคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
2549 - ปัจจุบัน อนุกรรมการด้านการใช้ที่ดินและการป้องกันน้ำท่วม ในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
2549 - ปัจจุบัน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการภูมิสารสนเทศแห่งชาติ
2550 – ปัจจุบัน กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจัดงานประกวดการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล
เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
2550 – ปัจจุบัน อนุกรรมการจัดทำแผนการบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยและภัยแล้ง
ในคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
2550 – ปัจจุบัน กรรมการพัฒนานโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศสภากาชาดไทย
2550 - ปัจจุบัน กรรมการอำนวยการจัดการประชุมวิชาการนิทรรศการ ทรัพยากรไทย: ประโยชน์แท้แก่มหาชน
4.4 เกียรติประวัติ/รางวัลที่เคยได้รับ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์

• ตติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (2547)
• ทวิติยาภรณ์ช้างเผือก (2540)

 

"ต้องมีพายุเข้าอีก 13-14 ลูกจึงจะเกิดน้ำท่วมแบบปีที่แล้ว"
ฟังคำพูดแล้วประมาทไปหน่อยหรือเปล่าค่ะ
ทางเหนือฝนตกหนักกว่า น้ำฝนที่ตกตามฤดูกาลปกติ
น้ำในเขื่อนไม่เยอะหรอกค่ะ เพราะว่าปีนี้น้องน้ำเค้าเปลี่ยนเส้นทางไปเซอร์ไพร์คุณปลอด
นัดกันไปตามแม่น้ำ ลำห้วย ใต้ดิน แล้วค่อยไปเจอกันที่เจ้าพระยา อีกส่วนก็ค่อยตกมาจากฟ้า
นี่แหล่ะน๊า.. เคยได้ยินแต่ คำว่า เย้ยฟ้าท้าดิน แต่ นี่ เย้ยฟ้าท้าน้ำ

พวกนี้ได้รับคำสั่งให้สร้างความเชื่อมั่น ให้ประชาชนมั่นใจไว้ก่อน ผลออกมาเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน จะได้เตรียมวงเงินกินกันอีกรอบ....