จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

สาธุ อนุโมทนาจิตบุญ ๘๑ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ.....สาธุ

 

เอาอะไรมาล่อกันเนี่ย เฉยๆ ดีกว่า 555

 

หยุดก่อนคุณพี่ต้อย จะรีบๆอำลาไปไหนค่า
มาไขปริศนา คุณพี่ต้อย ให้ฟังก่อน " คนแก่สว" อะไรหว่า
ปัญญาของหน่อยไขไม่ออก อิอิ หรือว่าพี่ต้อยพิมท์ตก "ย"ไปตัวหนึ่ง

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ supatorn
_____________________________________________________

กําลังนึกถึงกองทุน"จิตเกาะพระ" สําหรับสถานที่และอาหารรวมทั้ง"ของว่าง"ในอนาคต ซึ่งอยาก(อยาก..ตัณหาไหมเนี่ย)มีส่วนร่วมด้วยก่อนจะละขันธ์๕ไป กรุณาบอกด้วยนะคะ สุดท้ายกราบลาท่านอาจารย์ภูและคุณครูเพ็ญและเพื่อนๆจิตเกาะพระทั้งหลาย จากUSAค่ะ พวกเราจะไปด้วยกันค่ะ

..................................

หยุดก่อนคุณพี่ต้อย จะรีบๆอำลาไปไหนค่า
มาไขปริศนา คุณพี่ต้อย ให้ฟังก่อน " คนแก่สว" อะไรหว่า
ปัญญาของหน่อยไขไม่ออก อิอิ หรือว่าพี่ต้อยพิมท์ตก "ย"ไปตัวหนึ่ง

ทิวลิปขาว
...........................................

นั่นจิพี่ต้อยจะลาไปไหน รอหนูพี่เพ็ญก่อน หนูไปด้วย ถ้าพี่ไปดู ช่วยพาหนูไปด้วย
พี่ต้อยหนูไปไม่ได้ พี่ภูดึงขาไว้ ส่วนหนูก็ดึงขาพี่ต้อยไว้เหมือนกัน ฮ่าๆ

ตัดความเบื่อร่างกายทิ้งไปซะพี่ต้อย ให้รู้ว่ามันไม่ใช่ของเราจิตอีกต่อไป ตายเป็นตาย เราขอเอาจิตไว้ก่อน แต่ถ้ายังไม่ตายเราขอเดินหน้าช่วยงานท่านพ่อต่อไปจนกว่าจะหมดอายุขัย ขอให้นึกไว้เสมอว่าเรากำลังเจริญอิทธิบาทสี่มีหน้าที่เป็นครูสอนธรรมะอยู่ค่ะ สาธุ

พี่เพ็ญ จบ.3

 

ดอกข้าวก็ทำก๋วยเตี๋ยวมาเสริ์พให้กับคุณครูทุกๆท่าน และพี่ๆ น้องๆ ทุกท่านด้วยค่ะ (มัวทำก๋วยเตี๋ยว ไม่ได้ทำการบ้านมาฉองฉามวันแระ อิอิ)

 

ชามนี้ขอมอบให้คุณครูแสงจันทร์ค่ะ

 

ขอบคุณสำหรับก๋วยเตี๋ยว แต่ น้องจ๋า ครูๆรอการบ้านอยู่นะจ๊ะ อย่าเกเร

 

เข้ามารายงานตัวค่ะ

จบ.81

 

กลับไปเมืองไทยต้องลองไปชิมแล้วค่ะ เห็นแล้วน่าทานจังค่ะ (deejai)

 

คุณพี่ขาอย่าได้กล่าวลาเช่นนี้ เด๊วพี่จะมีผู้ติดตามมิใช่น้อย อิอิrabbit_restrabbit_restrabbit_rest

 

ข่าวดี! ​

สำหรับผู้ที่อยากมีอายุยืนยาวเป็นหมื่นๆปี..อิอิ อันหลังโม้
ถามครูเพ็ญสิครับ ดูจิตของท่านตอนนี้กันสิ อารมณ์งี้..ดี๊ดี สุขภาพแข็งแรง ลืมเจ็บไข้ได้ป่วยเลย ลืมความตายไปแล้ว เพราะอะไร เพราะท่านมัวแต่ยุ่งกับการสอนลูกศิษย์ทำจิตเกาะพระ นี่ไงท่านเจริญอิทธิบาท๔ ไปในตัว การทรงเจริญอิทธิบาท๔นี้นี่เอง เป็นเหตุทำให้อายุของคนเรายืนยาวไปอีกหลายปีทีเดียว คุณพี่สุภาทรฟังไว้ให้ดีๆนะ ท่านก็กำลังเจริญอิทธิบาท๔ โดยไม่รู้ตัวโดยการเป็นครูสอน ครูแนะนำให้กับผู้กำลังปฎิบัติจิตเกาะพระกันนี้

ถึงว่าครูใหม่ๆท่านแย่งลูกศิษย์กันหนักกันหนา นอกจากได้สร้างบารมีของตนแล้ว อายุยังยืดยาวไปอีก แถมหน้าตาและผิวพันธ์จะเปลี่นไปด้วย ถามคุณเกษดูก็ได้ เห็นท่านบอกว่าเหมือนได้กลับมาเป็นสาวอีกครั้งนึง จะไม่ให้เป็นสาวได้อย่างไร เพราะท่านยิ้มคนเดียวทั้งวัน เพราะจิตบุญที่ยังทรงฌานอยู่นั้น มันทำให้คนเราลืมความทุกข์ไปได้เหมือนกัน จิตก็เกาะแต่พระ แต่พระนิพพานเป็นอารมณ์ อันหลังนี้ถือว่าสำคัญมากๆ
เพราะฉะนั้นอย่าทำจิตหลุดกันนะ โดยเฉพาะจิตบุญ โดยเฉพาะอินทรีย์ที่ยังไม่แก่กล้า

ขอให้จิตบุญ นอกจากเจริญพรหมวิหาร๔แล้ว จงเจริญอิทธิบาท๔ โดยการสอนหรือแนะนำจิตเกาะพระให้กับผู้ที่กำลังเป็นทุกข์ เหมือนที่เราก็เคยเป็นทุกข์มาครั้งก่อน ทุกท่านก็รู้รสชาดของจิตที่ตกอยู่ภายใต้กิเลสทั้งปวงนั้นเป็นอย่างไร ได้โปรดสงสาร+เมตตากับผู้คนเหล่านั้นกันด้วยเถิด ชวนกันกลับบ้านเดิมกันนะครับ ท่านพ่อทำอย่าไร ขอให้จิตบุญก็ทำแบบท่านพ่อกันนะ ท่านพ่อทำเป็นตัวอย่างให้กับพวกเราดูไปหมดแล้ว...

 

งานนี้ downline เล่น upline ซะแล้ว 555 แหม..คุณมาเล่นเอาตอนเราหลับแล้วนี้เอง ไม่งั้นคุณหัวโหน่งไปแล้วน่ะนี้ อิๆๆ คุณประกายแสด เอ๊ย..ประกายทองจะเป็นของคุณนั่นแหล่ะ เพราะเราก็เห็นคุณจ้องอยู่ตาเป็นมันเลย 5555 บอกตามตรงตอนนี้เราแน่นเอี๊ยดเลยอ่ะ 4 ท่านพอแล้ว อีกท่านเราวางไว้ก่อน ย้ำไม่ทิ้งนะค่ะ แต่ขอวางไว้ก่อน รอให้จิตท่านพร้อมกว่านี้ค่อยมาว่ากันใหม่ ตอนนี้เราขอช่วยคนที่จิตพร้อมมากๆ ก่อนน่ะ

 

คำสอนของพระพุทธเจ้าท่านทรงสอนตรง ง่าย แต่ยากกับคนที่จะปฏิบัติ
เพราะรู้ไม่ถึง เข้าไม่ถึง เหมือนกับรู
คนตั้งร้อยพันคนโทษว่ารูมันลึกเพราะล้วงไปไม่ถึง
ที่จะว่าแขนของตนสั้นไม่ค่อยมี

พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนไม่ให้ทำบาปทั้งปวง
แต่เราข้ามไป พากันไปทำบุญ แต่ไม่พากันละบาป
ก็เท่ากับว่ารูมันลึก แทนที่จะว่าแขนของตนสั้นนั้นไม่มี

หลวงพ่อชา สุภัทโท

 

แด่...ผู้มาใหม่

ผู้เจริญทั้งหลาย ได้โปรดอ่านตรงนี้สักนิดนึง...
คือว่า ผู้ปรารถนาจะบรรลุธรรมนั้น จะต้องปฎิบัติให้มากๆ อย่าไปอ่านมากหรือไปฟังมาก อาจจะมีผู้บรรลุธรรมในขณะที่อ่านนหรือฟังธรรมนั้นมีน้อยเหลือเกิน หรือหนึ่งในพัน ไม่ใช่หนึ่งในร้อยนะ

หลักของการปฎิบัติ เราเองจะต้องนำจิตไปเดินตามมรรคมีองค์๘ ที่ว่านี้กันหรือย่อสั้นว่า ศีลสมาธิปัญญานั่นเอง
โดยเริ่มต้นของการปฎิบัติ ก็คือ ให้พวกเราพากันรักษาศีล๕ ให้ครบเป็นอย่างต่ำก่อน แล้วค่อยมาเริ่มต้น คำว่า ภาวนา(สมาธิ+ปัญญา) ก่อนจะเข้าการภาวนา เราจะต้องเริ่มต้นที่การเจริญสติให้มากๆกันก่อน หรือที่พวกเรากำลังทำจิตเกาะพระกันอยู่ในเวลานี้ และนับช่วงต่อไปนี้ ก็คือ การภาวนานั้นเป็นการทำสมาธิหรือเป็นวิธีที่จะทำให้จิตพวกเรานิ่งมากน้อยแค่ไหน และจะใช้เวลามากน้อยไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่ความเพียร+ความต่อเนื่องของจิตผู้ปฎิบัติเอง การปฎิบัติจะไม่มีใครบังคับกันได้ นอกจากจิตของผู้นั้นพร้อมที่จะปฎิบัติเท่านั้น ปฎิบัติแทนกันก็ไม่ได้ หรือบรรลุธรรมแทนกันก็ไม่ได้ด้วย เพราะฉะนั้นแล้วผู้ปฎิบัติจำเป็นจะต้องช่วยตนเองมากๆ แต่ครูหรือผู้ฝึกสอนเป็นได้แค่ผู้ชี้แนะแนวทางเดินให้ถูกต้องและเดินให้ตรงมรรคาเท่านั้น หรือเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ปฎิบัติ

การเริ่มต้นทำจิตเกาะพระ โดยให้ผู้ปฎิบัติคอยหมั่นระลึก/นึกถึงภาพพระที่ตนเองชอบหรือรักนั้นมองหรือนึกถึงภาพพระไปเรื่อยๆ แล้วผู้ปฎิบัติจะรู้ว่าจิตเขาจำภาพพระโดยอัตโนมัติ หรือจิตจำภาพพระได้แนบแน่นครั้งแรกแบบไหนหรือว่าตอนไหน ขอให้ผู้ปฎิบัติสังเกตตนเองให้ดีๆว่า จิตจะเริ่มจับภาพพระได้โดยอัตโนมัติ ตอนที่จิตเกิดปิติครั้งแรก ผู้ปฎิบัติจะรู้ได้ด้วยตนเอง ก็คืออาการของจิตไปสัมผัสกับพระได้ เช่น จะรู้สึกซาบซึ้งในภาพพระมาก โดยจะมีอาการน้ำไหลออกมา(มากน้อยไม่เท่ากัน อย่าเพิ่งไปสงสัย) นั่นก็หมายความว่า จิตของผู้ปฎิบัติเกิดปิตินั้น จิตเริ่มละเอียดกว่าเดิมแล้ว จิตจะอยู่ในระดับอุปจารสมาธิ(เฉียดฌาน) นี่คือจุดเริ่มต้นของจิตเกาะพระ ต่อไปถ้าจิตเกาะพระได้แนบและเนื่อง จิตเขาจะยกระดับขึ้นสูงไปตามลำของเขาเอง เช่น จิตจะยกระดับสูงขึ้นก็คือ อัปปนาสมาธิแล้ว(ฌาน) ตอนนี้จิตจะเริ่มละเอียดมากกว่าจิตระดับปิติหรืออุปจารสมาธิแล้วนะ และจิตเขาจะทรงฌานลึกเข้าไปเรื่อยของเขาเอง ทั้งๆที่ผู้ปฎิบัติขณะลืมตา หรือในขณะทำกิจธุระ หรือในขณะทำงาน แต่ถ้าใครรู้สึกเหมือนจะง่วงนอน ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้อดนอน แต่ทำรู้สึกว่าเหมือนนอนไม่พอนั้น เป็นเพราะว่าจิตกำลังเข้าฌานลึก หรือจิตดิ่ง เพราะจิตเป็นสมาธิมาก นั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าใครทำงานอยู่ ต้องถอยฌานลงมาอยู่ที่ฌาน๑-๒เท่านั้น แต่ถ้าเกินฌาน๓ ขึ้นไปแล้ว การทำงานหรือความรู้สึกเริ่มจะช้าลงเข้าไปทุกที แก้ไขโดยให้หายใจลึกๆ นี่คือ การถอยฌาน เป็นหล่ะ มีแต่นักภาวนาเขาต้องการเข้าฌานลึกกัน แต่จิตเกาะพระ กลับสวนทางกันซะงั้น! แต่อย่าไปงงเรื่องฌานกันนะ เพราะบอกกันไม่ได้เรื่องฌาน ว่าฌาน๑,๒,๓,๔ มีอาการลักษณะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ บอกไม่ได้เพราะแต่ละคนไม่เหมือน ที่บอกมานี้เป็นการบอกแค่คร่าวๆเท่านั้น แต่บางทีจิตจะดิ่งฌานลึกไปที่ฌาน๓-๔ ไม่จำเป็นต้องไปตามลำดับฌานนะ ขั้นตอนตรงนี้ไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้ถามครูที่ฝึกจิตของเรา เพราะท่านจะทำหน้าที่คอยตรวจสอบจิตของเราตลอดเวลา และด้วยเหตุนี้เอง ครูถึงได้ย้ำเน้นให้พวกเราพยายามส่งการบ้านบ่อยๆ แต่ถ้าใครบอกว่าไม่มีการบ้าน เพราะไม่รู้จะเขียนอะไร ก็ใช่นะสิ เพราะจิตเขายังจำภาพพระไม่ได้เลยนี่นา แต่ถ้าจิตเขาเริ่มจำพระได้แนบแน่นแล้วนะ อันนี้ผู้ปฎิบัติจะเล่ายาวหรือพูดมากเลย
อีตอนนี้ละก็ ตามครูเลยนะ เมื่อก่อนครูเป็นฝ่ายตาม สนุกดีนะ ทำจิตเกาะพระนี่ สนุกทั้งศิษย์ สนุกทั้งครู ได้บุญกุศลทั้งศิษย์ทั้งครูเลย ถึงว่าใครหลงมากระทู้กัน พวกเหล่าสาวกจิตเกาะพระถึงได้แย่งกัน ฮ่าๆ ลูกศิษย์กำลังสร้างบุญภายใน แต่ในขณะที่ครูก็สร้างบารมีของตนเอง บุญเปรียบเสมือนยานพาหนะนำพาจิตไปจุติที่ภพภูมิที่ดี แต่บารมีนั้นจะเป็นแสงเรืองๆเหมือนหิ้งห้อยน่ะ แต่เรืองแสงที่ว่านี้จะเกิดขึ้นภายในจิตของครูทั้งหลาย ประโยชน์ในภายภาคหน้า เช่นละขันธ์๕ ไปแล้ว แต่ถ้าดวงจิตท่านไปถึงพระนิพพาน หรืออาจจะไปไม่ถึงพระนิพพาน ท่าน(จิต)ก็จะไปจุติบนชั้นพรหม และแสงในกายละเอียด(ดวงจิต) จะเปล่งประกายสวยงาม เรื่องนี้ขอให้ท่านไปคุยกับผู้ที่เคยเห็นพรหมหรือดวงจิตที่เขาถึงพระนิพพานกันดูนะ อันนั้นก็พอจะพูดกันรู้เรื่องหน่อย แต่อย่าไปถามกับผู้ที่ไม่ได้ปฎิบัติ หรือปฎิบัติไม่ถึงไหนกันนะ เดี๋ยวเขาหาว่า คุณบ้า! และขอให้ดูตัวอย่างสำหรับผู้ที่มากด้วยบารมี เช่น สมเด็จองค์ปฐม หรือพระพุทธเจ้า ท่านจะมีหลายสี หรือเรียกกันว่า แสงฉัพพรรณรังสี ก็คือสีรุ้ง๗สีเลย แต่ถ้าดวงมีบารมีไม่ถึงพระพุทธเจ้า พระอัครสาวก พระอรหันตเจ้า ก็อาจจะมีสีเป็นพื้นฐานก็คือ สีขาวเป็นหลัก มากกว่านี้ก็อาจจะมีสีเหลืองอ่อนเพิ่มขั้นมา หรือมีสีมากกว่านั้น ก็ต้องอยู่ที่การสร้างบารมีของตนในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง ขอกล่าวสำหรับจิตผู้ที่ไปจุติ(เกิด ณ ที่แห่งใหม่) เช่นจิตผู้ที่ไปเกิดบนชั้นสวรรค์ พรหม หรือพระนิพพาน ขอสรุปเพียงสั้นๆว่า ขึ้นอยู่ที่จิตของผู้ปฎิบัติโดยตรงเลย ก่อนตายนั่นเอง ผู้เขียนถึงได้เน้นย้ำกันนักว่า ให้พวกเรารีบๆฝึก เพราะเราไม่รู้วันตาย แต่ถ้าจิตยกก่อนตายก็กำไรไป แต่ถ้ายังไม่ยกขาดทุนไป หรือเราไม่รู้ว่าภัยพิบัติมันจะมาพรากชีวิตเมื่อไหร่ ขอให้พวกเรา ทั้งจิตที่ยกแล้ว กับทั้งผู้ที่จิตยังไม่ได้ยก อย่าประมาท สำหรับผู้ที่จิตยกแล้วก็อย่าให้จิตหลุด(ตกฌาน หรือจิตต่ำกว่าฌาน) จิตหมั่นพยายามทรงพระนิพพานไปจนตาย ส่วนผู้ที่กำลังปฎิบัติจิตเกาะพระ ก็ขอให้พวกท่าหมั่นระลึก หรือนึกถึงพระให้มากๆ เพราะยิ่งนึกถึงพระมาก+บ่อยๆด้วยนะ เพราะนั่นจะหมายถึงทำให้จิตนั้นละเอียดมากตามไปด้วย นอกจากจิตนิ่ง จิตเกิดสมาธิ และจิตจะเกิดปัญญาตามมาทีหลัง ต่อไปจิตก็จะเข้าโหมดวิปัสสนาไปตามลำดับของผู้ฝึกขยันสร้างสติมากน้อยเพียงใด

เอ่อพี่ภูเหนื่อยหล่ะ...รีบยกจิตให้ไวไวนะ ตั้งใจปฎิบัติกันนะ ก่อนที่เน็ตจะล่ม ท่องไวๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เพราะทางโลกวิทยศาสตร์เข้าเริ่มเตือนตั้งแต่เดือน ธันวาคมปีนี้เป็นต้นไป แต่ทางครูบาอาจารย์โดยเฉพาะพระอริยเจ้าหลายท่าน ก็ออกมาเตือนกันมาตั้งนานแล้ว สำหรับจิตบุญไม่ต้องหนีไปที่ไหนหรอก เพราะพระอริยเจ้าท่านบอกว่า ผู้ที่รอดโโยเฉพาะกับภัยพิบัติ ได้แก่ ผู้ที่มีทั้งศีลและมีธรรม(ทั้งสองอย่างนะ อย่าใดอย่างหนึ่งไม่ได้) แต่มิได้หมายถึง จิตบุญจะไม่ตายนะ ตายเหมือนกัน แต่จะถูกเลือกให้เป็นผู้รอดชีวิต หรือถ้าคนที่ไม่ปฎิบัติ อย่างน้อยที่สุด จิตใจจะต้องเป็นคนดี อันนี้ตนเองจะทราบกันว่าตนเองดีหรือว่าเลว ให้ตอบกับตนเอง แต่ถ้าไม่แน่ใจ ขอให้ปฎิบัติจิตเกาะพระ กรรมฐานนาทีนี้ไวที่สุด กรรมฐานกองอื่นไม่ทันแล้ว เพราะต่างคนต่างทำ แต่ที่นี่ท่านพ่อบอกให้เปิดให้กับพวกเขาเถอะ เหมือนกับเปิดผู้ที่คอยติดตามผมมานานนั้นน่ะ ส่วนใหญ่จิตยกไปเกือบจะหมดแล้ว...

ตอนนี้จิตของท่านอยู่ที่ไหน? กำลังทำอะไรอยู่? พระอยู่ไหน? จิตตก หรือจิตหลุด สติอยู่ไหน?

 

อิๆๆ คุณพี่พอใจ ตกขาว เอ๊ย..ตกข่าว คำว่า รากแก่น ในที่นี้ มันลึกซึ้งกว่านามสกุลนามสมมุติของบานเย็นอีกเป็นหลายพันเท่าเลยจ้าาาา ไว้ท่านโปรดติดตามตอนต่อๆ ไปเรื่อยๆ นะจ้าาาา:boo::boo::boo:

 

ทิวลิปขาว__:สว=สูงวัย ค่ะ(กลัวกระทบกระเทือนนํ้าใจถ้าเรียก"คนแก่")case sensitive
พี่เพ็ญ จบ.3-----เรื่องขันธ์๕ ไม่ห่วงหรอกค่ะปลงอยู่แล้ว แต่ถ้าจะทําให้ขันธ์๕ท่านภูแข็งแรงขึ้น และครูเพ็ญมีหน้าที่สอนอย่างเดียวก็ยอมสละได้ค่ะ

 

ค่ะครูดัช พี่พอใจจะรอฟังธรรมะจากอาจารย์ภู หัวข้อ รากแก่น..ธรรมต่อไปนะคะ..

 

พี่ต้อยคะ..วันนี้ ขันธ์ 5 ของพอใจ..ต้องไปทำงานวันหยุด..อีกแล้วค่ะ งานทางโลกก็ทำไป ๆ ๆ จิตก็เกาะพระไป ๆ ๆ ค่ะ งานยุ่ง แต่ใจไม่วุ่น ให้กำลังใจทุก ๆ ท่านที่ปฏิบัติงานทางโลกอยู่ในปัจจุบันที่ต้องเจอสัมผัสสาระพัดกับสิ่งเร้าทางโลก จิตเบาได้เมื่อพบพระท่านค่ะพี่ต้อย...

***ให้กำลังใจ สว.เสมอ ๆ นะคะ.. เด็ก ๆ วันนี้ ก็จะกลายเป็น สว.ในวันหน้า... ไม่มีใครหนีพ้นไตรลักษณ์ค่ะ..ได้ยินเสียงพี่ต้อยจากเมืองไกลอย่างไม่คาดฝัน..ขอขอบพระคุณที่โทรมาแสดงความยินดีกับพอใจ..ขออวยพรให้พี่แข็งแรง เป็นกำลังสำคัญของ อ.ภู ครูเพ็ญเผยแพร่พลังมหัศจรรย์จากจิตเกาะพระต่อไปนะคะ..พาลูก ๆ ทุกคนของพ่อกลับบ้านเรา....นะคะพี่ต้อย...***

 

ขออนุญาติเอามาลงเป็นธรรมทานนะค่ะ น้องธันวา

พอดีว่า นี้เป็นบทความในเมล์ที่ครูย่าทวด จบ.3 ได้สนทนากล่าวต้อนรับ เพื่อทำความรู้จักคุ้ยเคยกัน พร้อมทั้งให้โอวาทก่อนลงมือฝึกจิตเกาะพระกับจิตบำเพ็ญรุ่นเหลน เอ๊ย รุ่นหลาน เราซึ่งเป็นครูรุ่นลูก จบ.52 นั่งฟังอยู่ใกล้ๆ เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ก็เลยแอบจิกมาลงกระทู้ค่ะ อิๆๆๆ (นี้คือ บทความของดวงจิตที่อยู่ในกายหยาบอายุแค่ 21 ปีเองนะค่ะ)

อ่า วัยคึกคะนองผมหมดไปตั้งนานแล้วครับ

ผมว่าเรื่องธรรมะ มีอยู่ทุกคนแหละ ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ คนส่วนมากจะละเลย ไม่ค่อยสนใจมากกว่า เพราะอาจจะมีภาระเยอะแยะ ไม่รู้จักปล่อยวาง สุดท้ายก็กับปวดหัวปัญหาต่างๆ ป่วยจิต จิตใจก็เลยค่อยๆ
ออกห่างธรรมะทีละหน่อย ทีละหน่อย โดยไม่รู้ตัว พอนึกอยากจะทำดี สร้างบุญกุศล ก็ไปเข้าวัดที เพราะคิดว่า วัดคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำแล้วได้บุญ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ผมว่ามันก็จริงนั้นแหละ
คนเราก็เลย ไปยึดติดสถานที่ เป็นสิ่งสร้างบุญสร้างกุศล ยิ่งที่ไหนศักดิ์สิทธิ์ชอบไปกันนัก ^^' ซึ่งพอทำแล้วก็สบายใจก็เป็นสุข หายทุกข์ พอออกจากวัดไป ก็เข้าไปติดพันกับเรื่องเดิมๆ
พอผมคิดได้ว่า จริงๆแล้วถ้าเราไม่ยึดติดสถานที่ เวลา บุคคล ในการสร้างบุญกุศลแล้ว เราสามารถสร้างสุข ขจัดความทุกข์ได้โดยไม่ต้องไปวัดไปวาเลย
บุญกุศล ก็ทำได้สร้างได้ทุกที่ จะสุขจะทุกข์ ทุกอย่างอยู่ที่ตนเองล้วนๆ อยู่ที่ใจทั้งนั้น เมื่อขึ้นอยู่ที่จิตใจแล้ว เราสามารถสร้างสุข ได้ทุกเวลาเลย ถ้ายังยึดติดกับสถานที่อยู่ ก็คงได้แค่ความสุขส่วนคราว
แล้วความทุกข์ก็เข้ามาแทนที่ ในเมื่อผมรู้ว่า จิตใจนั้นสำคัญแล้ว ผมก็เลย มาสมัครเว็บ หาดูอ่าน วิธีการเจริญสติ เรื่องผีบ้าง ภัยพิบัติบ้าง เรื่องลึกลับบ้าง แต่ที่ใช่เลยคือ การฝึกจิตใจเนี่ยแหละ ผมก็เลยลอง ฝึกสงบอารมณ์ ฝึกควบคุมสติ ต่างๆได้ไม่นนานี่เอง ประมาณ 2 อาทิตย์ได้ครับ แล้ว ครูพี่เกษก็ ทักทาย ชวนผมเข้ากลุ่มพอดี ซึ่งก็เป็นบุญผมจริงๆเลย ที่มีครูคอยชี้แนะ ตักเตือน สั่งสอน ให้กรปฏิบัติเป็นไปได้ด้วยดี จะได้ไม่ต้องไปคลำๆ ศึกษาเอง

คำบางคำครูพูดผมก็งงครับ เพราะยังมือใหม่ อิอิ เช่น สายเตวิชโช พุทธานุสสติกรรมฐาน+กสิณ สายพุทธภูมิ ภวังค์ อื่นๆ แต่ผมก็ไปค้นหา คลายความสงสัยแล้วครับ แต่คงจะมีศัพท์ใหม่เพิ่มมาอย่างแน่นอน

นิสัยส่วนตัวผมก็ ชอบอยู่กับบ้าน ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร โทรศัพท์ก็ไว้ดูเวลา ไม่ชอบไปเที่ยว ไม่กินเหล้า ไม่หลีหญิง(จีบไม่เป็นงับ) คล้ายๆคนเบื่อโลกมั้งครับ อิอิ แต่ชอบเล่นเกมส์ ติดดีจริงดี
เวลาว่างๆ เล่นข้ามวันเลยนะครับ อาการหนักนะเนี่ย อิอิ แต่ตอนนี้เลิกเล่นเกมส์แล้วครับ หันหน้าเข้าหาธรรมะดีกว่าเยอะ

พี่เพ็ญถามนิดเดียว ผมพูดซะยาวเลย 5555 ที่พูดยาวๆ ก็อยากให้พี่เพ็ญเข้าใจ จิตใจ ผมก็เท่านั้น อิอิ

สาธุ สาธุ สาธุ บุญใดที่ข้าพเจ้าทำสำเร็จแล้ว ขออุทิศบุญนั้นให้น้องธันวาทำจิตเกาะพระให้แนบแน่นในเร็วไวที่สุดนี้ด้วยเถิด สาธุ๊
ครูพี่เกษ จบ.52

 

อุ๊บส์...พี่ภูอ่ะ ช่วยหนูด้วยดิ หนูไปไม่เป็นเลยเหมือนกัลล์ 5555 คุณพี่พอใจเล่นมามุขนี้....ถอยยยยดีก่าาา....5555+