เรียนถามครับว่าพระโพธิสัตว์จะต้องมีพระปัจเจกคู่บารมีเหมือนกันทุกองค์ไหมครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย mngo, 5 ตุลาคม 2012.

  1. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ตามชื่อกระทู้เลยครับ ผมอยากรู้ว่าพระโพธิสัตว์ท่านจำเป็นไหมที่ในสายทางการบำเพ็ญบารมีจะต้องมีพระปัจเจกมาคอยจองล้างจองผลาญ เหมือนพระพุทธเจ้าสมัยเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีพระเทวทัศคอยจ้องผลาญน่ะครับ อยากรู้ว่าพระโพธิสัตว์ต้องมีพระปัจเจกคู่บารมีทุกองค์เลยใช่ไหมครับ

    ขอโทษทีนะครับที่ผมอาจถามคำถามงี่เง่าน่ะครับ คือผมแค่อยากทราบไว้เป็นความรู้ประดับตัวเองน่ะครับ พอถึงคราวต้องเจอบ้างจะได้เตรียมใจทันครับ:cool:
     
  2. iaui

    iaui เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2007
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +454
    มีหรือไม่มีไม่รู้นะครับมองอีกมุมหนึ่งถ้ามีก็ถือว่าส่งเสริมบารมีครับอย่างเช่นเพราะแต่ละชาตินั้นพระโพธิสัตว์ต้องใช้กำลังใจอย่างมากในการรับมือกับพระเทวทัศ เกินที่มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมาจะทำได้ ว่าแต่ท่านไปพบอะไรมาเหรอครับ มารไม่มีบารมีไม่เกิดครับ
    อนุโมทนากับท่านครับที่ตั้งใจรื้อขนสัตว์เข้านิพพาน
     
  3. ลาวชัดชัด

    ลาวชัดชัด สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +16
    มารไม่มี บารมีไม่เกิด ไม่มีความชั่ว ก็ไม่เกิดความดี มีดี มีชั่ว ผสมกันไป
     
  4. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814

    :cool:({)
    ไม่มีพระพุทธเจ้า ก็ไม่มีพระเทวทัต มีพระเทวทัต จึงมีพระพุทธจ้า มันเป็นของคู่กันอยู่แล้ว จริงๆ พระเทวทัตปราถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า แต่ทำไม่ถึง ได้แค่พระปัจเจกะพุทธเจ้าครับ เป็นพระพุทธเจ้าชนิดหนึ่ง แต่ไม่สอนผู้อื่นให้ตรัสรู้ตาม ใครมีศรัทธาอย่างดีก็สอนให้อยู่ในศิลธรรมเท่านั้นครับ ใครก็ตาม พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ท่านมีมารมาขวางทางอยู่แล้ว กว่าจะเดินมาได้นี่ ยากลำบากมาก แหม คนธรรมดายังโดนแล้ว คนจะไปเป็นครูเขาไม่โดนก็ไม่ใช่งานสำคัญ สิ ท่านปราถนางานช้าง มันต้องโดนหนักกว่า พวกสาวก เป็นล้านล้านเท่า อยู่แล้ว ที่ว่ามานี่ยังน้อยนะ:cool:
     
  5. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ขอบคุณครับ
     
  6. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405



    ในกรณีนี้ไม่ได้เรียกว่าคู่บารมีนะครับ แต่เป็นการจองเวรของพระเทวทัต ฝ่ายเดียวนะครับ ลองอ่านดูนะครับ
    พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดงเรื่องราวที่พระเทวทัตเริ่มต้นจองเวรกับพระพุทธเจ้าไว้ใน เสรีววาณิชชาดก<sup id="cite_ref-10" class="reference">[11]</sup> ซึ่งปรากฏเนื้อหาโดยละเอียดในคัมภีร์อรรถกถา<sup id="cite_ref-11" class="reference">[12]</sup>สรุปความโดยย่อดังนี้
    <table style="border-collapse: collapse; margin: default 10px auto 10px auto; width: auto;" cellpadding="0" cellspacing="0" align="center" border="0"><tbody><tr> <td style="padding: 10px;" valign="top" width="20">[​IMG]</td> <td>
    ย้อนหลังไป 5 ภัทรกัป ได้มีพ่อค้าเร่เพื่อนกันสองคนชาวแคว้นเสริวรัฐ มีชื่อเดียวกันว่าเสรีวะ คนหนึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ (พระพุทธเจ้าในปัจจุบัน) อีกคนหนึ่งเป็นพระเทวทัตในปัจจุบัน ทั้งสองได้ทำการค้าขายเร่ รับซื้อและขายของไปตามหัวเมืองต่าง ๆ
    จนวันหนึ่งทั้งสองได้ไปค้าขายเครื่องประดับในเมืองอริฏฐปุระ โดยตกลงแบ่งให้เข้าไปคนละทาง เพื่อไม่ไปค้าขายแข่งกัน
    พ่อค้าคนแรก (พระเทวทัต) ได้ตะโกนเร่ขายของตามถนนในเมืองไปเรื่อย ๆ จนไปถึงบ้านอดีตเศรษฐีผู้ดีเก่าตกยากหลังหนึ่ง ที่เหลืออยู่แต่เพียงยายกับหลานสาวในบ้านซ่อมซ่อไม่มีฐานะ เมื่อหลานสาวได้ยินเสียงพ่อค้าหาบเร่ จึงได้วิ่งออกมาดู เลยอยากได้เครื่องประดับ จึงไปขอร้องให้ยายซื้อให้ ยายจึงเรียกพ่อค้าเข้ามานั่งในบ้านและนำถาดเก่า ๆ สมบัติของตระกูลใบหนึ่งมาให้พ่อค้าดูเพื่อแลกซื้อเครื่องประดับให้หลาน
    ปรากฏว่าพ่อค้าจับดูจึงรู้ว่าเป็นถาดโลหะ เมื่อแอบเอาเข็มกรีดหลังถาด จึงเห็นว่าเป็นถาดทองคำ มีราคาถึงแสนกหาปณะ แต่ด้วยความที่พ่อค้าละโมภ อยากได้ถาดทองคำ โดยจะกดราคาให้ถึงที่สุด จึงทำทีเป็นไม่สนใจโวยวายว่าเป็นถาดไม่มีราคา แล้วก็โยนถาดทิ้งและก็ลุกเดินออกจากบ้านไป โดยหวังว่าสักพักจะเข้ามาใหม่เพื่อให้ยายแก่เปลี่ยนใจยอมแลกถาดกับของขาย เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อคว้าถาดทองกำไรงามถาดนั้น
    คล้อยหลังไปไดสักพัก พ่อค้าพระโพธิสัตว์ผ่านมา เห็นพ่อค้าคนแรกออกจากซอยนั้นไปแล้ว จึงแวะเข้ามาขายเครื่องประดับอีก ซึ่งคราวนี้ หลานของยายอดีตตระกูลมหาเศรษฐีเมื่อกี้ก็ร้องอยากได้เครื่องประดับอีก ยายจึงเรียกให้พ่อค้าเข้ามาเพื่อขอแลกถาดเก่า ๆ สนิมเขรอะกับเครื่องประดับที่พ่อค้านำมาขาย
    เมื่อพ่อค้าจับถาดเก่าก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นถาดทองคำ มีราคาตั้งแสนกหาปณะ พ่อค้าพระโพธิสัตว์จึงบอกยายแก่ว่า "ถาดนี้เป็นถาดทองมีราคามหาศาล ของที่ฉันนำมาเร่ขายทั้งหมดนี่ก็สู้ราถาถาดของยายไม่ได้หรอกจ๊ะ"
    ยายแก่เห็นความซื่อสัตย์ของพ่อค้าจึงบอกว่า "ถาดนี้ เมื่อกี้พ่อค้าอีกคนโยนลงพื้นดูถูกว่าของไม่มีราคา แต่คราวนี้พ่อมาบอกว่ามีราคาตั้งแสน พ่อนี่ช่างตาถึงมีบุญเหลือเกิน เอาอย่างนี้ ฉันให้ถาดนี้แก่ท่าน เอาไปเถิด ส่วนท่านจะให้ของขายอะไรแก่ฉันกะหลานก็ได้ตามใจเถิด"
    พ่อค้าพระโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้นจึงบอกว่า "เอาอย่างนี้นะยาย ฉันยกของที่ฉันเอามาขายและเงินที่ติดตัวมาให้ยายหมดเลยก็แล้วกัน ฉันขอแค่ตาชั่งเอาไว้ทำมาหากินและเงินสัก 8 กหาปณะพอค่าเดินทางก็พอจ๊ะ"
    เมื่อพ่อค้าได้ถาดทองแล้ว จึงเดินทางไปที่ที่เรือเพื่อเดินทางกลับ ปรากฏว่า หลังจากพ่อค้าคนแรกเดินไปได้สักพักใหญ่ จึงย้อนมาหายายแก่เพื่อขอซื้อถาดใบนั้น แต่เมื่อยายเห็นพ่อค้าเข้ามาก็ตะเพิดไปว่า "ไอ้พ่อค้าจัญไร! ท่านทำให้ถาดทองคำเราเป็นของไร้ค่า ชิชะ! มาตอนนี้จะมาขอซื้อ ไป จะไปไหนก็ไป เมื้อกี้ ฉันยกถาดที่แกอยากได้ให้เป็นบุญแก่พ่อค้าตาถึงไปแล้ว แถมได้ตังค์กับของมาตั้งพันกหาปณะ"
    เมื่อพ่อค้าคนแรกได้ฟังดังนั้นถึงกับตกใจแค้นถึงสิ้นสติสลบฟุบไป พอฟื้นขึ้นก็เกิดความเสียดายอย่างเป็นกำลัง ถึงกับโปรยเงินและข้าวของที่นำมาเร่ขายทิ้งไว้หน้าบ้านยายแก่ แล้วก็ถือคันชั่งวิ่งตามรอยเท้าพระโพธิสัตว์ หวังจะแย่งถาดทองคืนไปถึงฝั่งแม่นํ้านั้น เห็นพระโพธิสัตว์กำลังขึ้นเรือไปอยู่ จึงกล่าวว่า "นายเรือโว้ย! เอาเรือกลับเข้าฝั่งเดี๋ยวนี้ ๆ" พระโพธิสัตว์ห้ามนายเรือว่า "อย่ากลับ ๆ" และแล่นเรือลับไป
    เมื่อพ่อค้าพาล เห็นพระโพธิสัตว์นั่งเรือหายวับไป จึงเกิดความโศกเศร้าเสียดายมีกำลัง หัวใจเต้นแรง เลือดพุ่งออกจากปาก และตั้งอธิษฐานผูกอาฆาตพระโพธิสัตว์ว่าจะจองเวรไปจนกว่าจะหาไม่ และถึงกับสิ้นชีวิตลง ณ ที่นั้นนั่นเอง.
    </td> <td style="padding: 10px;" valign="bottom" width="20">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="text-align: right; padding-right: 2em; padding-bottom: 5px; font-size: 90%;" valign="top">— 'อรรถกถาพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙ ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑ อรรถกถา เสรีววาณิชชาดก'</td></tr></tbody></table>
     
  7. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ขอบคุณครับ
     
  8. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ถ้าปราถนาจริงต้องมั่นคงไว้นะครับ อย่าท้อแท้อย่าหวั่นไหว เป็นกำลังใจให้ครับ สาธุ สาธุ
     
  9. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    สาธุครับอ้างมาได้ดีทีเดียว ผมก็ฟังพระท่านเทศบ่อย แต่จำได้ไม่หมด ได้มานิดเดียวครับ จริงๆพระเทวทัต กับพระพุทธเจ้าตอนเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นพ่อค้า ท่านเป็นเพือนกัน จริงๆพระโพธิน่ะ มาก่อน แต่ยายยังไม่ขายให้ พระโพธิสัตว์กับไปก่อน บอก เดี๋ยวค่อยมาใหม่ พระเทวทัต มาทีหลัง แล้วกดราคา ไม่ให้ตามราคาจริง จึงไม่ขายให้ พระโพธิสัตว์มาใหม่ จึงขายให้พระโพธิสัตว์ ๆ ให้ในราคาดี ยายจึงยอมขาย เพราะตระกูลของท่านเป็นเศษฐีมาก่อน ข้อนี้พระโพธิสัตว์รู้ดี เพราะยายเล่า ให้ฟัง

    พระเทวทัตมาอีก เมื่อรู้ว่า พระโพธิสัตว มาซื้อถาดทองคำของยาย ไปจึงเจ้บใจ ไปหยิบทรายมา ๑ กำมือ แล้วอธิษฐานว่า เราจะขอจองเวรจองกรรม กับเจ้าไป จนเมล็ดทราย ในมือของเราหมด ทุกชาติ เม็ดละชาติครับคิดดู น่าจะหลายพันเม็ด และดังคุณ J 47 ว่ามาดังฉนี้แล:cool:



     
  10. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ขอบพระคุณครับในคำตอบของท่านผู้รู้ทั้งหลาย

    ผมขออนุญาติแนะนำตัวนะครับ ผมชื่อ ศราวุฒิ อุทัยกันนะครับ อยู่ จ.ขอนแก่น ผมอธิษฐานพุทธภูมิสายวิริยะธิกะครับ ตอนนี้ยังไร้บารมี ตบะยังไม่เกิด สอนใครยังไม่รอดครับ พระโพธิสัตว์รุ่นพี่ทั้งหลายผมยินดีที่ได้รู้จักครับ หวังว่าพวกเราทุกคนคงจะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้ากันทุกๆคนนะครับ สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ตุลาคม 2012
  11. โพธิวิถี

    โพธิวิถี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    150
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +580
    พระโพธิสัตว์จะต้องมีพระปัจเจกคู่บารมีเหมือนกันทุกองค์ไหมครับ

    เรียนท่านเจ้าของกระทู้นี้ครับ ที่ได้ศึกษาค้นคว้ามา ในสมัยใดที่บังเกิดมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะไม่มีพระปัจเจกพุทธเจ้าเกิดขึ้น พระเทวทัตเริ่มปรารถนาเป็นพระปัจเจกในขณะที่จะดับจิต จึงเป็นเพียงผู้ปรารถนาที่จะเป็นเท่านั้นครับ พระปัจเจกจะมีขึ้นในสมัยที่ว่างจากพระพุทธศาสนาครับ ส่วนที่ว่าพระโพธิสัตว์ ต้องมีพระปัจเจกคู่บารมีไม่เข้าใจคำนี้ครับ เห็นมีแต่พระอัครสาวก พระมหาสาวก นางแก้ว เป็นต้น ที่ตั้งปรารถนาไว้ติดตามสร้างบารมีเป็นพุทธวงศ์ ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ถ้าหมายถึง ผู้ขัดขวาง เทวะมาร คนธรรมดาก็ยังมีครับแล้วแต่
    บุพพกรรม ที่สร้างกันมายังไม่ได้รับการอโหสิกรรมให้หมดจด ตามนี้นะครับ
    ขอให้เจริญในธรรมถึงที่สุดแห่งความปรารถนา ขอพุทธภูมิบารมีของท่าน จงภิญโญ โชติช่วงตลอดไป และขอข้าพเจ้าได้สมปรารถนาเช่นกันนี้ เทอญ
    สาธุ นโมมหาโพธิสัตโต ขอนอบน้อมแด่พระมหาโพธิสัตว์ทุกพระองค์
     
  12. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    โมทนาในความปรารถนาของคุณ โพธิวิถี ด้วยครับ สาธุ
    คำถามผม ผมหมายถึง มารคู่บารมีน่ะครับ พุทธภูมิต้องเจอมาร(พระปัจเจกโพธิสัตว์)ที่เป็นของเราเองรึเปล่า คล้ายๆกับศัตรูผู้จองล้างจองผลาญกับเราไปตลอด อะไรทำนองนี้น่ะครับ ตอนนี้ก็เข้าใจแล้วล่ะครับว่าเราอาจจะเจอมารเหมือนพระเทวทัศคอยขัดขวางและเป็นตัวช่วยสร้างบารมีน่ะครับ
     
  13. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    ไม่ทราบ เพราะพระโคดมพุทธเจ้าไม่ได้ทรงเล่าเรื่องทำนองนี้ในสมัยของพระพุทธเจ้าองค์อื่น ๆ ข้อสำคัญ แม้ในพุทธประวัติเองก็มีพญามารซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระธัมมสามีพุทธเจ้า (องค์ที่ 4 นับจากนี้) มาขัดขวางอยู่เหมือนกัน คงต้องให้คนเก่งมโนมยิทธิถามพระพุทธเจ้าเองดีกว่า
     
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    :cool:({) ไม่จำเป็นต้องถาม ไม่มีพระพุทธเจ้าพระองค์ไหนไม่มีหรอกครับ มันเป็นของคู่กัน การตั้งกระทู้ของคุณ เจ้าของกระทู้ ผมเข้าใจ มันก็คล้ายๆ กับคู่บารมีนั่นแหละ มันเป็นตัวพักดันให้อีกฝ่ายมีกำลังใจ ในการปฏิบัติครับ ขอฟันธงเลย แต่ใช้ปัญญา ให้ละเอียด เทียบเคียง แม้แต่พระอรหันต์ที่ผมอ่านประวัติ แต่ละพระองค์ ก็โดนศึกหนักมาแล้วทั้งสิ้นครับ แหมแค่ คนธรรมดา ยังมีอุปสรรคมากมาย แล้วพระโพธิสัตว์ไม่มี มันก็ไม่ใช่พระโพธิสัตว์นะซี ยิ่งพระพุทธเจ้าด้วยแล้วหนักกว่าใครๆทั้งหมดแหละครับ

    เขาไม่ให้ไปได้ง่ายๆหรอก ต้องลองทุกอย่าง ไม่รู้ กี่ร้อยกี่พันแสนล้าน เท่า หรือชั้นๆ ที่พระองค์โดนทุกๆพระชาติ ไปดูแค่องค์สมเด็จสักสิบชาติสุดท้ายก็ได้ พระองค์โดนมาทุกชาติ ที่เกิดมาครับ ยิ่งกว่าคนธรรมดา เป็นล้านๆเท่า ไม่งั้นคงไม่เรียกมหาโพธิสัตว์ใหญ่หรอกครับ:cool:



     

แชร์หน้านี้

Loading...