จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

เห็นใครตะโกนเรียก เลยโผล่หน้ามาดู อ้อ พี่ภูนี่เอง หนูตื่นตั้งนานแล้ว มัวเม้าท์กับคุณหมออยู่หลาย ชม. เลย สงสัยคุณหมอเสียตังค์ค่าโทร.ไปเยอะเลย อิอิ

คุณลินดาช่วยจัดหนัก ๆ หน่อยค่ะ ลูกศิษย์เราบางคนกำลังใจตกตามกระแสน้ำ เอ้ย กระแสโลกไปแล้ว กู่ไม่ค่อยกลับแล้วค่ะ ทิ้งครูไปเลยก็มี ฮือๆๆๆๆ

พี่เพ็ญบอกแล้วนะทางนี้ทางสายตรงขึ้นนิพพาน ถ้าใจไม่มุ่งพระนิพพานจริงอย่าเข้ามาเลยเพราะมรรคมีองค์แปด มิใช่จะมาทำกันเล่น ๆ ได้ ใครทำจริงก็ได้ของจริงนะ ใครกำลังใจยังอ่อนให้ไปสำรวจศีลดูก่อน ศีลครบเมื่อไรค่อยมาสมัครเรียนกันใหม่นะ

แต่ครูไม่ได้โกรธคุณๆ หรอกค่ะ ครูโกรธไม่เป็นแล้ว จิตมีแต่อุเบกขา เพียงแต่ครูก็พยายามเต็มที่ที่จะช่วยฉุดคนตกน้ำให้ขึ้นฝั่ง แต่ท่านก็ต้านกระแสน้ำกันไม่ค่อยจะไหว ก็เลยคิดว่าปล่อยตัวลอยตามน้ำไปเลยสบายกว่า

แต่ระวังนะ กิเลสเป็นของหนัก สักวันจิตมันก็ต้องจมลึกลงไปเรื่อย ๆ ปฏิบัติไม่ตรงทางก็เหมือนคนหลงอยู่ในวังน้ำวน

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=O9TdWYbaU-4&feature=related]วังน้ำวน（Wang Nam Won）－ใหม่ เจริญปุระ - YouTube[/ame]​

 

ที่นี่เป็นที่บ่นธรรมะของพวกเรากลุ่มจิตบุญค่ะคุณหมู บ่นขึ้นมาเยอะ ๆ เลยค่ะ ที่นี่มีคนอ่าน แต่อย่าไปบ่นที่อื่นนะ บางคนเขาไม่ชอบแก่นเพราะมันแข็ง ขืนไปบ่นมาก ๆ เดี๋ยวเปลือกจะลอยมา อิอิ

 

ผู้ปฎิบัติใหม่ ศีลหยาบต้องครบบริบูรณ์ วัดตัวเจตนาเป็นหลักก่อน เมื่อปฎิบัติไปสักพัก เมื่อจิตถึงความละเอียด(ฌาน) เดี๋ยวศีลจะละเอียดตามจิต ต่อไปไม่ต้องระวังระแวงว่าศีลจะขาดหรือศีลจะพร่อง เพราะต่อไปศีลจะมาเป็นเสมือนเกราะกำบังให้กับผู้ปฎิบัติ ทำไมเธอไม่มีการบ้านส่งครูรู้ไหม๊เป็นเพราะอะไร ไม่ใช่เธอขี้เกลียดหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่าสติมีไม่มากพอที่สติจะตามทันจิต พอตามจิตไม่ทัน ก็เลยไม่รู้จะเอาอะไรไปเล่าให้ครูฟัง ที่บอกว่าให้ผู้ปฎิบัติส่งการบ้านนั้นก็คือ ให้ส่งรายงานอาการหรืออารมณ์ของจิตเท่านั้น ไม่ต้องมาเล่าบอกว่า วันนี้ไปทานข้าวกับอะไร วันนี้ไปช๊อพกับเพื่อน ครูอยากรู้แค่อาการหรืออารมณ์จิตของผู้ปฎิบัติเท่านั้น ตราบใดผู้ปฎิบัติไม่หมั่นสร้างสติตนเองบ่อยนะ ไม่มีทางตามดูตามรู้จิตได้ทันแน่นอน หรือจิตไม่เกิดปิติ หรือจิตไม่ทรงฌานแน่นอน หรือตราบใดผู้ปฎิบัติยังตามจิตไม่ทัน ว่าจิตตนเองอยู่ที่ไหนหรือกำลังทำอะไรก็ยังไม่รู้ หรือเรียกว่า ยังเข้าไม่ถึงกระแสจิตของตนเอง(หรือยังค้นหาดวงจิตตนเองไม่เจอ) ถ้าหากผู้ปฎิบัติยังเข้าไม่ถึงกระแสจิตตนเอง ก็ไม่มีวันที่จะเข้าถึงกระแสธรรม อันนี้พี่ภูพร่ำให้เธอฟังเฉยๆนะ มิได้ไปตำหนิเธอแต่ประการใด อย่าเข้าใจผิดนะ..ตะเอง

 

อนุโมทนาค่ะะครูพี่เพ็ญ ..พอดีว่าไม่ต้องส่งการบ้านอีกแล้ว ก็เลยรู้สึกแปลกๆ เมื่อก่อนรูัสึกอย่างไรก็คอยบอกครู ตอนนี้มาเติมเต็มจากกระทู้นี้ล่ะค่ะ เลยขอแอบบ่นนิดนึง

 

===============
น้อมรับค่ะ แต่ขอแก้คำผิดได้ไหมคะครูภู จากคำว่าไม่ได้ส่งการบ้าน เป็นไม่ต้องส่งการบ้านแล้ว ..:boo:

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=wb_XvdFS27Q]ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุทธ (Official Music Video) - YouTube[/ame]​

รายการคุณหมอขอมา เกือบลืมเลย

 

พี่ภู๊..บ่นไรค่ะ คุณเมธญานะ ท่านจบกิจไปแล้วจ้าาาาาา ท่านเลยไม่ได้ส่งการบ้านครูอีกต่อไปแล้ว ท่านก็เลยขอมาระบายบนกระทู้แทน ก็เท่านั้นเองจ๊ะ อิๆๆ :boo::boo::boo:

 

แหม นอนดึกจังนะครับ คอยปั่นป่วนทั้งในเมล์และในกระทู้จริงๆ
(ที่ว่าเอาคอผมเป็นประกันในเมล์น่ะ คอผมบ่อมีแล้ว มันตันไปหมดแล้ว 55555555 )

 

ขอแสดงความยินดีและโมทนากับจิตบุญดวงที่ 87,88,89 พร้อมครูผู้สอนนะค่ะ

 

สวัสดีค่ะ ครูภู. ครูเพ็ญ. ครูดัช. ครูวิทย์ ครูลูกพลัง ครูลูกหว้า ครูเกษ และครูทุกท่านรวมถึงจิตบุญทุกท่านวันนี้ใช้เวลาที่มาเฝ้าเจ้าตัวเล็กเรียนนั่งอ่านธรรมะจากครูภูและท่านอื่นๆจนจิตเบิกบานทีเดียวแต่ยังอ่านไม่ทันค่ะ. รู้แต่ว่ายังต้องหาธรรมะของตนเองเพื่อฝึกจิตต่ออีกตามคำแนะนำที่ครูภูบอก. ครูเพ็ญสบายดีแล้วนะค่ะ. ครูดัชสบายดีลูกศิษย์ส่งการบ้านกันแล้วยังค่ะ. ครูเกษไม่ได้คุยกันเลย. ส่วนใหญ่เข้ามาอ่านธรรมะจากครูภูและท่านอื่นๆ เลยไม่ค่อยได้ทักทาย. แต่ระลึกถึงเสมอค่ะ

 

โทษทีๆ เปลี่ยนก็ได้ๆ เอ๊ะแต่ชื่อนี้คุ้นๆน่ะ จิตเธอยกไปแล้วไม่ใช่หรือ?...เพราะจิตเธอละเอียดดี

 

อ๊าวหรอ ป๊าดดด พี่ภูหน้าแตก ครูเพ็ญช่วยเย็บหน้าให้ที ดีนะจิตมันอยู่เหนือขันธ์๕น่ะ จึงไม่อาย ฮ่าๆ
คุณวัฒจัดการหน่อย คนนอนดึก สงสัยติดครูเพ็ญมา

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=qn0He-BcmIs]วังน้ำวน - นันทิดา แก้วบัวสาย - YouTube[/ame]​

ครูเพ็ญข๋า วังน้ำวน ต้องท่านนี้ร้องสิถึงจะเพราะ
เอ๊าวันหยุด จัดเพลงให้ท่าน สว.หน่อย
สว.นี่ไม่ใช่สารวัตรนะ แต่ สว.ในที่นี้หมายถึง สาววัย(สาวเหลือน้อย) งงเข้าไปใหญ่

 

55555555555555555555
นึกแล้วเชียวพี่ภูต้องเวอร์ชั่นหวานละไม
กลัวพี่ภูจะเข้าใจผิดคิดว่าหนูเป็นพวกหวานละมุน
เพราะชอบกินหนมหวาน(ต้องหร่อยด้วยนะถ้าไม่หร่อยไม่กิน)
ก็เลยส่งเวอร์ชั่นโซเซอร์มาให้ฟังไง
ตายแว๊วพี่ภู ตั้งแต่รู้จักกันมาพี่ภูยังไม่เคยเห็นตัวจริงเสียงจริงใช่ป่าว
เอ่อ ได้ยินแต่เสียงเก๊กๆอ่ะจิ
ก็เลยไม่รู้ว่าหนูซ๊กม๊ก(บอกแล้วว่าไม่สร้างภาพ เท้ายังติดดินอยู่เลยไม่เชื่อมาดูดิ)
เดี๋ยวเถอะพรุ่งนี้ไอฟ้าเป็นได้ช็อกก่อนเข้าบ้านครูเพ็ญ
อยู่ดีไม่ว่าดีดันมาเชียงใหม่แล้วบอกว่าจะไปเยี่ยมครูเพ็ญที่บ้าน
ฟ้าจ๋า ถ้าได้ยินเสียงพี่แล้วฟ้าใส่บู๊ทมาก็ดีนะ...กันงูฉก อิอิ

ปล.ลืมบอกว่ากล้ามกับพุงหนูอวบกว่าใหม่หน่อยหนึ่ง จิ๊งๆๆๆ

 

(k)({):boo:
ดีใจกับคุณหมูที่ยกจิตนะคะ. เข้าใจความรู้สึกค่ะ. พี่พอใจก็ตัวชาไปพักนึงเหมือนกัน ที่ครูวิทย์บอก ว่าแต่ตอนนี้ คุณหมูหายขนลุกซู่หรือยังคะ เด่ว เจอกันจะได้จับมือกันดูอีกที(k)

 

สว ย่อมาจากสูงวัยค่ะ ท่าน อ.ภู
สส ย่อมาจาก สดใส ๆ
ธรรมะสวัสดีวันเสาร์ทุก ๆ ท่านค่ะ

 

================
ขอบคุณค่ะพี่พอใจ ก็ยังเป็นเหมือนอย่างที่พี่พอใจบอก ยังงัยเราต้องได้เจอกัน จับมือกันอีกแน่ค่ะ ครูวิทย์แจ้งมาว่าจิตยกก็ดีใจ แต่ก็ยังรู้สึกว่าเรายังอ่อนพรรษา อยู่เลย เด๋วครูวิทย์จัดสอนเราก็จะไปกันอีก ให้ครูเบื่อไปเลย 5555

 

ก็ต้องขอบพระคุณครูวิทย์ที่มีเมตตาต่อศิษย์ทุก ๆ คนนะคะ
ตอนนี้เราก็ยังมีหน้าที่ฝึกไป ๆ จนตลอดอายุขัยเราค่ะคุณหมู
อะไร ๆ ๆ ที่เราสัมผัส เกิดขึ้น ตั้งมั่นอยู่แล้วก็ดับไปค่ะ
ไม่มีอะไรคงที่ แน่นอน รู้ตัวตลอดนะคะ

({)เมื่อเช้าขับรถส่งลูกชายไปทำงาน ฟังเพลงจากวิทยุ เสียงครูเอื้อ กับคุณบุษยา ไอดอลเราร้องเพลงให้ฟัง ๆ ๆ แล้วก็รู้สึกไพเราะมาก พอจบเพลงก็ปล่อยวาง สุดท้ายท่านทั้งสองก็จากโลกไปแล้ว เราเองชอบร้องเพลงท่าน สักวันร่างกายก็คงแตกสลาย ภาพศพท่อนไม้ก็ลอยมาเลยค่ะ นี่ล่ะสุดท้ายชีวิตเรา

 

เห็นด้วยกับพี่พอใจค่ะที่เรายังต้องเรียนรู้และต้องฝึกจิตไปจนกว่าเราจะได้กลับบ้านที่แท้จริงของเรา จุดนี้เป็นเป็นเพียงจุด start ที่จะทำให้เราเดินทางตรง ไม่หลงทาง ...เจริญในธรรมนะคะ (kiss)

 

ทุกสิ่งล้วนเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

อนิจจัง แปลว่า ไม่เที่ยง, ไม่แน่นอน, เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ทุกขัง แปลว่า สภาพที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ โดยทั่วไปหมายถึงสังขาร
อนัตตา แปลว่า ไม่ใช่อัตตา, ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
..........................................................
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แปลว่าความไม่เที่ยง แปรปรวนไป สลายไปในที่สุด จะหาอะไรมาเป็นเรา ของเราไม่ได้เลย พระพุทธเจ้าจึงสอนว่า ไม่ให้ไปยึดมันถือมั่นมัน เพราะมันมีสภาพที่เป็นทุกข์ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ไตรลักษณ์"

คนแม้ว่าจะท่องว่า "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"ครั้งละพันครั้ง วันละสามรอบ ก็มิได้ชื่อว่าเข้าถึงความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้ เพียงแค่ความรู้ ความเข้าใจ หรือการท่องบ่นเพื่อให้เกิดความจำได้หมายรู้ในธรรมนั้น แต่ต้องเป็นสภาพที่ต้องเห็นในดวงจิต แจ้งในดวงจิต ด้วยใจทั้งหมดทั้งสิ้นจริงๆ ผู้เห็นเช่นนี้ได้ก็จะสิ้นความสงสัยในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แม้จะยังไม่ถึงที่สุดของพรหมจรรย์เพราะคำว่าธรรมทั้งหลาย ก็มารวมลงในความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตานั่นเอง
..............................................................................
เป็นวิถีแห่งสรรพชีวิตทั้งหมดทั้งมวล ไม่มีชีวิตใดหนีพ้นลักษณะทั้งสามนี้ไปได้เลย