ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ถึงพี่สุดใจ

ณ ช่วงเวลานี้ ไม่มีใครอยู่ดูแลพื้นที่บนเขากะลาเลยหรือครับ

 

มันเป็นเรื่อง มหัศจรรย์จริง ๆ

ยิ่งอ่านยิ่งมหัศจรรย์

ไม่รู้จะพูดอะไรเลย

 

ความเป็น "อย่างนั้นเอง" ในมุมมองของมนุษย์ต่างดาว

อ้างอิงกระทู้ที่ 98

เรื่องที่ขอขอบคุณครับ


<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ผมในฐานะคนไทยคนหนึ่งขอขอบคุณที่พี่ๆและเพื่อนๆทั้งหลาย(กลุ่มเขากะลา)พร้อมพี่สุดใจทุ่มเทแรงจิต,แรงกายเพื่อช่วยมนุษย์ให้พ้นภัย,สิ่งพีสุดใจทำมาถูกทางแล้วครับมีอะไรให้ช่วยยินดีทั้งแรงกาย,แรงเงินครับ,เมล์มาบอกได้24ช.ม,การเสียสละเพือส่วมร่วมไม่เห็นประโยชน์ส่วนตัวเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรทำอย่างยิ่งครับ, เพื่อโลกจะได้อยู่กันแบบมีความสุขและมีน้ำใจให้กันและกันตลอดไป,สวัสดีครับ

<!-- / message -->ชานนคนไทย

.................................

- กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ต้องขอขอบคุณ คุณชานนคนไทย เป็นอย่างสูง ที่ให้ความสนใจ และมีความปราถนาดีอย่างยิ่งต่อเรา ซึ่งสิ่งที่คุณคิดออกมาด้วยเจตนาอย่างแท้จริงนี้ คุณก็ได้ผลตอบแทนแล้วในทันที โดยไม่ต้องเสียเงินทองเลยแม้แต่บาทเดียว<O</O

- ทำไมพี่สุดใจจึงกล่าวเช่นนี้ เพราะสิ่งที่คุณคิดออกมานี้ มันเป็นกลไกสำคัญยิ่งที่จะทำให้คุณได้รับผลนั้นในปัจจุบัน เพราะถ้าทางธรรมะ ก็บอกอยู่แล้ว เมื่อเราคิดดี เราก็มีความสุข เมื่อเราคิดร้ายเราก็มีความร้อนรน เป็นความทุกข์ และในทางวิทยาศาสตร์วงการแพทย์ก็บอกว่าเมื่อคิดแต่สิ่งดี สารเอ็นโดรฟีนก็จะหลั่งออกมา เกิดปฏิกิริยากับร่างกาย ให้เรารู้สึกอารมณ์ดี มีความสุข ส่วนมนุษย์ต่างดาวบอกว่า มันเป็น

 

มนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

- กล่าวถึง ประโยชน์ตน มามากในกระทู้ที่ผ่านมา เพราะการฝึกกับมนุษย์ต่างดาว จะมุ่งเน้น

 

มนุษย์ต่างดาวนี่มีจิตใจดีจังเลย....ทำใจเหมือนพระเลยน๊า...ดีใจดีใจ

 

ประตูเวลา

อ้างอิง จากกระทู้

 

ภาพการเปิดมิติครั้งแรก 5 กันยายน 2541

ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ประมาณ 10 ท่าน

มีผู้บันทึกภาพได้ด้วยกล้องวีดีโอพร้อมกัน 2 กล้อง

- คุณภัทรพล เจษฎาอภิบาล หัวหน้ากลุ่มอภิจิต 2000 เดินทางมาจากกรุงเทพฯ บันทึกภาพไว้ได้

- กลุ่มเขากะลา ในขณะนั้น บันทึกภาพไว้ได้

แสดงให้เห็นการมาปรากฏ และการหายไปของวัตถุดังกล่าว(ภาพอาจไม่ค่อยชัดเพราะหยุดภาพจากกล้องวีดีโอมือสมัครเล่น)

(ภาพล่าง) คุณภัทรพล เจษฎาอภิบาล ผู้นำกลุ่มอภิจิต 2000 จากกรุงเทพฯ บันทึกภาพเปิดมิติไว้ได้เช่นกัน

 

น่าแปลกใจมาก ๆ
มิติที่ลึกลับซับซ้อน

 

ภาพเปิดมิติ บันทึกได้โดย มิสเตอร์จอห์น ฮอร์เน็ต

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2541

ด้วยกล้องวีดีโอ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการมาปรากฏ และหายไปในเวลาประมาณ 3 นาที

ซึ่งภาพดังกล่าว อาจารย์บูรพา ผดุงไทย และคณะ จึงเชื่อแน่ว่า ณ จุดนั้นต้องเป็นที่ตั้งของ "ประตูเวลา" อย่างแน่นอน

 

การมาเยือนเขากะลาครั้งที่ 2
คณะฯ ของอาจารย์บูรพา ผดุงไทย และ ดร.สุวินัย ภรณวลัย

วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2542
กลุ่มเขากะลา ในขณะนั้น ได้ให้การต้อนรับ คณะฯอาจารย์บูรพา ผดุงไทย(ผู้เขียนประตูเวลา) และ ดร.สุวินัย ภรณวลัย ผู้เขียนหนังสือ มังกรจักรวาล ซึ่งในวันนี้ ท่านได้มาชมภาพการเปิดมิติบนยอดเขาพนมฉัตรด้วย

ซึ่งก่อนเดินทางกลับ กลุ่มเขากะลา ในขณะนั้น ได้มอบ วีดีโอ ที่บันทึกภาพการเปิดมิติ และภาพจานบินต่าง ๆ ให้กับท่านด้วย

 

ขอบคุณครับ

 

รบกวน คุณสุดใจ นำ clip vdo การเปิดมิติให้เห็นฐานบนยอดเขากะลา ได้ไหมครับ แบบว่าอยากเห็นอีกครั้ง ตอนนั้นไปดูที่ไหนมาจำไม่ได้แล้ว แต่อัศจรรย์มาก ที่อยู่ ๆ ก็เกิดให้เห็น ฐานนั้นเป็นสีเหลืองทอง ไม่นานก็หายไป แบบว่าน่าอัศจรรย์มาก อยากเห็นอีกครับ รบกวนด้วยนะครับ

 

การประสานงานครั้งล่าสุด วันที่ 25 พฤศจิกายน 2549

- กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้รับเกียรติจากอาจารย์บูรพา ผดุงไทย เชิญเข้าร่วมในพิธีเปิด สถานปฏิบัติธรรม "อาศรมบูรพา..ป่าละอู" อย่างเป็นทางการ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

- ในการเดินทางเข้าร่วมในพิธีในครั้งนี้ ได้พบกับอาจารย์บูรพา และคณะฯ จำนวนมากซึ่งเดินทางมาร่วมในพิธี รวมทั้ง ดร.สุวินัย ภรณวลัย ซึ่งท่านได้เข้าร่วมในพิธีด้วย

- ซึ่งได้มีการสนทนากับท่าน ถึงเรื่องราวความคืบหน้าต่าง ๆ ที่แต่ละกลุ่มได้มีการกระทำอย่างต่อเนื่องตลอดมา และคณะฯ ของท่านก็ได้มีการปฏิบัติธรรม ทำสมาธิ และยังค้นคว้าเรื่องของประตูเวลา เพื่อรองรับพลังงานจากจักรวาล อยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งท่านได้ให้การต้อนรับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) อย่างอบอุ่น ต้องขอขอบคุณอาจารย์บูรพา และคณะฯ ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

 

มีมิติที่ซ่อนอยู่...จริงหรือ ?

- จากการที่ได้สนทนากับอาจารย์บูรพา ผดุงไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านของเรื่องมิติ เรื่องประตูเวลา และเรื่องพลังงานจากจักรวาล ทำให้ได้รับความรู้ที่กว้างมากขึ้น ทั้งในเรื่องของวิทยาศาสตร์ และมิติต่าง ๆ
- ดังนั้น ภาพที่ปรากฏที่เขากะลา ซึ่งผู้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ได้บันทึกไว้ได้ด้วยกล้องถ่ายภาพดิจิตอล บางภาพทำให้เราประหลาดใจอยู่บ้างเหมือนกัน ซึ่งหลายท่านที่ได้ชมภาพนี้ กล่าวว่า ภาพนี้มีความเป็นมิติซ่อนอยู่ เพราะเป็นภาพที่มีความลึกของภาพด้วย ไม่ใช่แค่ภาพ กว้าง ยาว ธรรมดาเท่านั้น

- และเมื่อเราได้อ่านข้อความจากหนังสือ "ประตูเวลา" เล่มนี้ ก็พบบทความบางตอนที่กล่าวถึงเรื่องของมิติไว้ค่อนข้างน่าสนใจ จึงขอยกบทความบางตอนมาประกอบด้วย

จากหนังสือประตูเวลาหน้าที่ 70

เรื่องเกี่ยวกับศาสตร์ทางเรขาคณิตนี้ นักวิทยาศาสตร์อย่างไอน์สไตน์ ได้อธิบายไว้ว่า สมมุติว่าเราวาดรูปสามเหลี่ยมลงบนแผ่นกระดาษ เราจะพบว่ารูปสามเหลี่ยมนั้นมีเพียงสองมิติ คือความกว้าง กับยาวเท่านั้น แต่ความเป็นจริงคือยังมีมิติอื่น ๆ ที่ซ่อนสายตาเราอยู่ ซึ่งเราจะพบมิติที่ลึกลงไปก็ต่อเมื่อได้เติมลายเส้นลงที่ภาพสามเหลี่ยมที่วาดลงไปเมื่อครู่แล้วนั้น ซึ่งเราจะพบมิติที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นเมิติที่สาม นั่นคือความลึก

- ดังนั้น จึงขอนำภาพแปลก ๆ ส่วนหนึ่งที่บันทึกได้ที่เขากะลา มาให้ชมกันค่ะ

 

เราทดลองทำภาพโปร่งแสง เพื่อลองแยกให้เห็นความหนาแน่นของวัตถุ ดวงปริศนาดังกล่าว ก็ยังมีความหนาแน่นเช่นเดิม เหมือนกับภาพต้นไม้ด้านข้าง ไม่ได้จางลงไปเลย

 

ภาพนี้ก็มีความหนาทึบ และมีความลึกของภาพเช่นกัน และจะไม่ค่อยกลมสักเท่าไร มีส่วนตัดเล็กน้อยด้านบน เป็นขอบที่นูนออกมา

 

และนอกจากภาพที่ถ่ายไว้ด้านบนแล้ว ภาพที่ถ่ายต่อเนื่องอีกภาพถัดมา ก็เห็นดวงกลมนั้น เคลื่อนที่จากจุดเดิมออกไปทางขวามือ

- ภาพแรก ดวงกลมอยู่ไกลจากเสาค่อนข้างมาก

- ภาพถัดมา ดวงกลมเคลื่อนลอยสูงขึ้น และไปทางขวามือ จนอยู่เหนือเสา

 

- ภาพนี้อาจจะแตกต่างจากรูปอื่น ๆ ทั้งสีสรร และความคมชัด เพราะเป็นภาพที่บันทึกได้คล้ายกับกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว

- สังเกตุจากภาพคนยืนปกติ แต่ดวงปริศนา คล้ายพุ่งไปข้างหน้าอย่างเร็ว จึงไหวเหมือนถ่ายภาพขณะเคลื่อนที่ ซึ่งไม่น่าจะไหวจากการกดชัตเตอร์

 

- ภาพนี้ก็แปลกอีกเช่นเคย เพราะมีคนเห็นก่อนด้วยตาเปล่า แล้วร้องขึ้นมา ช่างภาพจึงกดชัตเตอร์ทันที ซึ่งก็ได้ภาพดวงปริศนาติดมาด้วย

- ซึ่งอาจจะเป็นคำตอบข้อสงสัยส่วนหนึ่งได้บ้างว่า บางครั้งลูกไฟลึกลับที่ลอยไปมาที่เขากะลา และกลุ่มผู้สนใจที่ขึ้นไปบนเขาได้เห็นกันบ่อยครั้งนั้น อาจจะอยู่คนละมิติกับเรา ถ้าจะปรากฏให้เห็นก็ออกมาจากมิติ ถ้าไม่ปรากฏให้เห็น ก็ยังมีอยู่ แต่อยู่อีกมิติหนึ่ง ซึ่งตาของคนเรายังไม่ละเอียดพอที่จะมองเห็น แต่กล้องถ่ายภาพอาจจะมีความละเอียดมากกว่าตามนุษย์ก็ได้

- ก็เหมือนกับบางคนที่ถ่ายภาพวิญญาณได้ แม้จะอยู่คนละมิติกัน ตามนุษย์อาจจะมองไม่เห็น แต่กล้องถ่ายภาพ ก็สามารถถ่ายภาพพลังงานละเอียดนั้นได้ ซึ่งมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

- ซึ่งที่นี่ มนุษย์ต่างดาวเคยบอกไว้ว่า เขาก็อยู่บนเขากะลานี่แหละ แต่ทับซ้อนมิติกันอยู่ เราจึงมองไม่เห็น แต่บางครั้งผู้ที่มีสมาธิบางคณะที่เดินทางมา ก็เห็นมนุษย์ต่างดาวรูปร่างใหญ่ใส่ชุดสีเงิน เดินอยู่บนเขาปะปนกับเรา และท่านนั้นสามารถมองเห็นได้ จากหลายคนที่มาบอก ต่างมากันคนละกลุ่ม คนละครั้ง แต่บอกรูปร่างของมนุษย์ต่างดาวที่ตนเห็นจากสมาธิลักษณะตรงกันทุกอย่าง (จะมาเล่าให้ฟังในโอกาสหน้าค่ะ)

 

ภาพนี้มีสองจุดแปลก ๆ ที่ปรากฏเข้ามาในภาพค่ะ