เข้าฌาน แล้วระลึกชาติ

ถ้าหลุมดำดูด แล้วจะเป็นหยังไงค่ะ

 

พอดีผมอ่านที่ลายเช็นต์ของคุณ ก็พอทราบได้ว่าคุณปรารถนาในนิพพานในชาตินี้ ซึ่งก็เหมือนผมเลย และเห็นคุณไปเกรียนอยู่หลายกระทู้ ก็เลยอยากคุยด้วยน่ะ 5555555
ที่คนเรายังยึดอยู่ในขันธ์จนไม่ได้ทราบว่าเราจริงๆคือจิต ขันธ์เป็นสมบัติของโลก ก็เลยยังต้องวนเวียนอยู่ในโลกแห่งการหลอกลวงอยู่ หลอกตัวเองยังไม่พอ ยังต้องไปหลอกผู้อื่นต่ออีก
ก็อย่างที่ทราบนั่นแหละครับ จิตแท้ดั้งเดิมของคนเรานั้นคือจิตปภัสสร จิตสว่างจ้ากันเลยทีเดียว แต่เพราะจิตไปเห็นกิเลสเป็นสิ่งสวยงาม เริ่มเสพกิเลสจนหนักขึ้นๆๆ จนเกิดไปกายหยาบที่เราเห็นกันทุกวันนี้แหละ
เอ๋า พอดีกว่าเดียวจะกลายเป็นหัวข้อใหม่ในกระทู้เขาซะเปล่าๆ จริงๆก็คืออยากได้ครูฝึกด้านอภิญญาอ่ะครับ พอแนะนำได้ไหมครับ

 

เมื่อคนโง่ มีปัญญาทราม ทำกรรมชั่วอยู่ก็ไม่รู้สึก
เขาย่อมเดือดร้อน เพราะกรรมของตน เหมือนถูกไฟไหม้

 

"เราเป็นผู้มีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราจักทำกรรมใด ดีหรือชั่วก็ตาม เราจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น"

 

555 ด้านอภิญญา ผมก็ไม่ค่อยทราบครับ แต่จะลองส่งเท่าที่ทราบให้ทาง PM ครับผม

 

พระอริยคุณาธาร(ปุสโส เส็ง)นาม"อริย"แต่ยังข้ามไม่พ้นฝั่งฝัน

อ่านกันเล่นๆ เป็นนิทาน...
ใครได้อะไร หลุดจากพันธนาการอะไรได้ ก็อนุโมทนาด้วย
ใครยังติดข้องอยู่ ยังสลัดไม่หลุด ก็คงเกินที่ผมจะช่วยได้ ก็คงต้องอุเบกขาไป

 

สวัสดีครับคุณTamjugg
อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ ก็อย่างที่คุณเขียนนั่นแหละ ใครทำผลกรรมใดก็ต้องรับผลนั้น หากคุณเชื่อมั่นว่าคุณอินทบุตรผิดผมว่าคุณก็ควรที่จะอโหสิกรรมให้เขาไปนะครับ ที่เหลือปล่อยเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมเถิด ผมไม่ทราบหรอกนะครับว่าใครถูกผิด แต่เราไม่ควรเอาคำสอนของพระพุทธองค์มาทะเลาะกัน ผมอ่านดูแล้วคำสอนของพระพุทธองค์นั้น สอนตรงๆอยู่แล้ว แต่คนเราเอามาปรุงแต่งจนมั่วไปหมด บางคนก็เอาคำสอนไปเข้าข้างตัวเอง แต่บางครั้งเราก็แค่ทำได้ที่อุเบกขาเท่านั้น เพราะหากเมตตาไปมากๆตัวเราเองบางครั้งก็อาจจะเอาจิตไปจมกับกิเลสได้นะครับ เอาอภิญญาที่ได้มาเข้ามาดูจิตของตนแล้วแก้ไขว่ายังติดตัวใดในสังโยชน์10 ดีกว่าที่จะไปทราบวาระจิตผู้อื่นนั้นแหละครับ เวลามีคนมากระทุ้งจิตเราก็รีบดูจิตเราปั๊ปแล้วรีบดูจิตเราทันที นั่นแหละครับ
แต่จะทำอย่างไรให้จิตเรามีปัญญาญาน ก็ต้องทรงฌาณที่คุณฝึกมานั่นแหละ ทรงให้ได้ทั้งวันทั้งคืน อาจจะเข้าฌาณ3ทั้งวัน แล้วก่อนเข้านอนหรือว่าเวลาว่างๆค่อยเข้าฌาณ4 แล้วคุณจะพบทางเองครับ ลองดูก็ได้นะครับ

 

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการ ย่อมชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น ธรรม ๕ ประการเป็นไฉน"

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีลด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยศีล"
"เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสมาธิด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยสมาธิ"
"เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญาด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยปัญญา"
"เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติ"
"เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นในการถึงพร้อมด้วยวิมุตติญาณทัสนะ"

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ๕ ประการนี้แล ย่อมชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน และชื่อว่าปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น" (๒๒/๒๐) #ธรรมะ

 

"เธอทั้งหลายพึงทำความขัดเกลาว่า ชนเหล่าอื่นจักกล่าวคำเพ้อเจ้อ ในข้อนี้ เราทั้งหลาย จักงดเว้นจากการกล่าวเพ้อเจ้อ" (๑๒/๑๐๔) #ธรรมะ

 

ถ้าอยากจะเข้าทางธรรมะ นะ...

เวลาดูหนังหนะ ไม่ต้องไปสนใจหรอก ว่าหนังมันเป็นเรื่องอะไร พระเอกเก่งขนาดไหน ใครยิงกับใคร นางเอกผิวสีอะไร ตำรวจมาตอนจบไหม ฯลฯ
ให้ดูแค่ว่าเวลาดูหนัง สิ่งที่มันผ่านตา ผ่านหู ผ่านจมูก ผ่านลิ้น ห่านกายสัมผัส และผุดขึ้นมาที่ใจ มันทำให้จิตเราเคลื่อนไปยังไง มันทำให้ใจเราไหวยังไง หาให้เจอว่าอะไรเป็นตัวที่ทำให้จิตเคลื่อนไปรับสิ่งเหล่านั้น

เปลี่ยนคำว่า ดูหนัง เป็น ดูชีวิตตัวเองนะ อิอิ

 

55555 วันนี้จิตผมมันสดชื่นดีจังเลย ไ่ม่รู้เป็นอะไร สิ่งใดๆในโลกนั้นต้องเสื่อมไปอยู่แล้วครับ ศาสนาพุทธของเราเมื่อถึงเวลาที่พระพุทธองค์พยากรณ์ไว้ ก็ต้องหายไปจากโลก แล้วเกิดขึ้นใหม่ตามกฎไตรลักษณ์อยู่แล้วครับ ตราบใดที่เรายังวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารนี้ แม้แต่ยุคพระศรีฯเองเมื่อถึงเวลาก็ต้องดับลง สิ่งที่เที่ยงแท้คือพระนิพพาน อย่าเสียเวลาสนใจผู้อื่นเลยครับ เดี๋ยวต้องเกิดอีกเราก็ไม่รู้ว่าเราจะเจอศานาพุทธอีกไหม
ตามความเข้าใจของผมเองคำสอนของพระศาสดาเองนั้น สอนเพื่อให้เราเดินไปให้ถึงฝั่งแล้วก็ต้องปล่อยวาง วางจนไม่เหลืออะไรนั่นแหละครับ หากผิดถูกประการใดผมต้องขออภัยและขออโหสิกรรมด้วยนะครับ
ผมถึงขอให้คุณทรงอารมณ์แห่งพรหมวิหาร4ไว้นะครับ ทรงไว้เสมอกัน หมั่นทำจิตให้ผ่องใสเข้าไว้ อันเราทั้งสามคนอาจจะเคยเกิดมาเป็นพี่น้องกันมาก่อนก็ได้ เลยต้องมาเจอกันแบบนี้ 555555

 

ระลึกชาติได้ของจิงก็จะรู้เองคับ จะผ่านช่วงพุทธกาล ตอนพุทธกาลอาจได้ฟังการแสดงธรรมของผู้มีพระภาคแล้วก็ยังไม่เข้าใจ จิตไม่น้อมไปตามกระแสพระธรรม ชาตินี้ยังจะเป็นอีกหรือคับ

 

ไม่เอาน่า อย่าคิดมาก... ไฟแรงเกินแล้ว ระงับลงนิดนึงน่า... หายใจเข้าออก เข้าฌานสักแป๊บนึงก่อนนะครับ

 

"การไม่ล่วงละเมิดทางกาย การไม่ล่วงละเมิดทางวาจา การไม่ล่วงละเมิดทางกายและวาจา นี้เรียกว่า ความถึงพร้อมด้วยศีล" (๓๖/๗๖) #ธรรมะ

 

ผมอธิฐานจิตขอบารมีแห่งพระพุทธเจ้า ขอเข้าสู่นิพพานในชาตินี้ ไม่อยากเกิดแล้วครับ เกิดมากก็ทุกข์มาก

 

เทวดาทูลถาม: "ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ข้าพระองค์ขอทูลถาม พระองค์ข้ามโอฆะได้อย่างไรฯ"

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบ "ท่านผู้มีอายุ เราไม่พักอยู่ ไม่เพียรอยู่ ข้ามโอฆะได้แล้วฯ"

เทวดาทูลถามต่อ: "ข้าแต่พระองค์ผู้ไม่มีทุกข์ ก็พระองค์ไม่พักไม่เพียร ข้ามโอฆะได้อย่างไรเล่าฯ"

"ท่านผู้มีอายุ เมื่อใด เรายังพักอยู่ เมื่อนั้น เรายังจมอยู่โดยแท้ เมื่อใดเรายังเพียรอยู่ เมื่อนั้น เรายังลอยอยู่โดยแท้ ท่านผู้มีอายุ เราไม่พัก เราไม่เพียร ข้ามโอฆะได้แล้วอย่างนี้แลฯ" (๑๕/๑) #ธรรมะ

 

เรานัดเจอกันเลยดีไหมนี่ 55555
จริงๆแล้วปรกติผมไม่ค่อยได้มาที่ห้องอภิญญาซักเท่าไหร่ ปรกติแล้วอยู่ที่นี่ครับ
พอฝึกที่นี่เสร็จแล้ว ก็เลยลองมาฝึกอภิญญาดูบ้างน่ะครับ

 

"สัตว์ทั้งหลายผู้มืดมนเพราะกาม ถูกตัณหาซึ่งเป็นดุจข่ายปกคลุมไว้แล้ว ถูกเครื่องมุง คือ ตัณหาปกปิดไว้แล้ว ถูกกิเลสมารและเทวปุตตมารผูกพันไว้แล้ว ย่อมไปสู่ชราและมรณะ เหมือนปลาที่ปากไซ เหมือนลูกโคที่ยังดื่มนมไปตามแม่โค ฉะนั้นฯ" (๒๕/๑๕๐) #ธรรมะ

 

เอาเป็นว่าเราอย่าเอาธรรมมะมาเถียงกันเลยครับ หากพลาดพลั้งไป จะพากันไปเยี่ยมพระเทวทัศเปล่าๆ
ธรรมมะคำสอนของพระพุทธเจ้าเปรียบดังบันใด เมื่อถึงฝั่งที่ธรรมมะพาเราไปแล้วเราก็ต้องวาง เพราะที่นั่นไม่มียึดติด หรือถือมั่นใดๆ
อยากรู้จัง(แต่ไม่ยึดติด)เราเคยเป็นอะไรกันมาไหมนี่ แล้วผมโผล่มาได้ไงนี่ 555555

 

"ถ้าคนพาลเข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตจนตลอดชีวิต แต่ไม่รู้แจ้งซึ่งธรรม คนพาลนั้น ก็เหมือนทัพพีที่ไม่รู้รสแกงฉะนั้น."