เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]
    [​IMG]

    พี่นิ่มเข้าไปขอเมตตาจาก อ.ธรรมนูญ สำนักบัวแปดกลีบ รอบสอง หลังจากรอบแรก อ.ธรรมนูญ คิดว่าพี่นิ่มมาลองของ รีบชิงตวาดพี่นิ่มไว้ก่อน เพราะเห็นคลื่นพลังตามหลังพี่นิ่มมา

    แต่ครั้งนี้คงไม่ต้องแนะนำตัวกันแล้ว พี่นิ่มได้ยินข่าวหนุมานกายทิพย์ ไปช่วยชีวิตเด็กวัยรุ่นในชลบุรีที่เอาหลังไปเป็นเป้าลูกปืน เป็นเรื่องเล่าจากศิยษ์ภายในสำนักบัวแปดกลีบระหว่างทำพิธีฯ

    ครั้งนี้จึงต้องเสียค่าข่าวไปหลายตัว ยังไม่พอ...มีตามมาถึงร้านอาหารอีก พี่นิ่มไม่ให้เอ่ยนาม เกรงใจเจ้าของสำนัก เล่าไปหัวเราะไป.....

    พี่นิ่มแกบอกผมว่า ฆราวาสที่สักยันต์ได้ขลัง แกยกให้ อ.ธรรมนูญ
    มีหนังสือบางเล่ม ยกให้เป็น 1ใน10 ของเมืองไทย
    แต่เท่าที่ผมรู้จัก ผมยกให้เป็น 1ใน3 ของดวงใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2012
  2. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG] หลวงพ่อ(ละ)เอียด วัดไผ่ล้อม
    "จิตท่านฯเหมือนชื่อ" หลวงปู่สม วัดโพธิ์ทอง

    .......................................
    [​IMG] หลวงพ่อสารันต์ วัดดงน้อย
    มีคนในลพบุรี กล่าวถึงท่านฯว่า เป็นรองหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐินแค่อายุ.....
    ...........ผมเชื่อ!

    .............................................
    [​IMG] หลวงปู่เพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    องค์นี้จะเป็นตำนาน ใครอยู่ใกล้ อย่ากินด่าง

    ......................................
     
  3. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG]
    [​IMG]หลวงปู่เกิด วัดโพธิ์แทน กับนิ่ม ป่าแดง

    ครั้งก่อนช่วงน้ำท่วม หลวงปู่เกิดเสกให้จนเอ่ยปาก "เสกได้เท่านี้(เต็มแล้ว) ไปสิบก็กลับสิบ"

    ครั้งนี้ เสกเสร็จ "ไปสบาย กลับก็สบาย..."

    ...............................
    ขอพักโฆษณาแป๊บ
     
  4. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    อ.ธรรมนูญ สำนักบัวแปดกลีบ : มาลองของหรือเปล่า? ของที่ยกมาก็ดีอยู่แล้ว
    21 ส.ค. 55 : หลวงพ่อลี วัดหัวตลุก : "ท่านท้าวสักกะเทวราชท่านมาเองเลยนะ...มาร่วมโมทนากับคุณด้วย"
    27 ส.ค. 55 : ครูบาสายทอง วัดท่าไม้แดง : "ของที่อยู่ในลังนี้ มีรูปพระเจ้าตากสองพิมพ์ใช่ไหม ท่านมาเองเลยนะ..."
    6 ก.ย. 55 : หลวงพ่อสมบุญ วัดปอแดง : "ของที่ยกมา ไม่ต้องเสกแล้วก็ได้นี่..."
    6 ก.ย. 55 : หลวงปู่ผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว : "หมูเขี้ยวตันนะ มีชีวิตแล้วนะ คุ้มตัวคนใช้ได้แล้ว"
    21 ส.ค. 55 : พระอาจารย์สมคิด วัดเนินสาธารณ์ : "ผมมีเท่าไหร่ ผมทำให้คุณนิ่มหมดเลย..."
    12 ก.ย. 55 : พระปลัดนิวัติ วัดคมบาง : "เสียลั่นเปรี้ยะๆ รอบพระอุโบสถตลอด ข้างบนเค้าร่วมโมทนาด้วยนะ..."
    15 ก.ย. 55 : หลวงปู่สุภา กันตสีโล : "ทำไมจะสู้เหรียญปี 2466 ไม่ได้... ครูอาจารย์เรามาเสกเองหมด..."
    4-6 ก.ย. 55 : หลวงปู่สงัด วัดสันติคีรีเขต : "พรหมทั้ง 16 ชั้น มาร่วมโมทนากับเธอด้วยนะ...พระฯชุดนี้ หาเทียบได้ยาก..."
    : หลวงปู่บัว วัดเกาะตะเคียน : "ของที่หลวงปู่ฯเสกให้ ไม่ต้องไปเสกเพิ่มแล้วนะ มันเกินแล้ว.."
    [​IMG][​IMG] คลิกที่ภาพเพื่อขยาย
    [​IMG]
    [​IMG]
    เฉพาะตะกรุด 4 มหาอำนาจ ได้โปรดอย่าเพิ่งโอนนะครับ....

    แววๆ ว่าต้นทุนต่อห้องเรียน ตกอยู่ที่ 500,000 บาท ท่านใดใจบุญ พร้อมกับทุนทรัพย์ที่ไม่จำกัด จะรับเป็นเจ้าภาพ ก็ขอโมทนาด้วยครับ
    ทุกท่านจะได้รับใบอนุโมทนาจากทางโรงเรียนนะครับ จะลดภาษีได้มากกว่า<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

    ....................................

    หนังสือ"ปฐมสมโพธิกถา" ที่จะแจกฟรีเล่มหนามาก.... ชุดแรก ผมจะแจกพร้อมกับลูกอมนะครับ เพื่อประหยัดค่าจัดส่ง
    ชุดสอง จะจัดส่งพร้อมกระดานชนวนหนุนดวง วัดโพธิผักไห่

    สโลแกนเดิม... โปรดรอ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> (ผมลืมแนบหนังสือให้คุณบี ไว้โอกาสหน้านะครับ ต้องขออภัย)<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    #4829
    #4851

    เป็นรายการที่ผมจัดส่งลูกอม (มีหัวแหวนติดไป 3 หัว+กระดานชนวน)

    ยังเหลือหัวแหวนอยู่กับผมอีก 7 หัว โปรดรอนะครับ ผมจะจัดส่งพร้อมหมูทองแดง+กระดานชนวน

    เว้นแต่ว่า จะมีแค่กระดานชนวน ไม่มีรายการอื่นใด หรือไม่มีอะไรเลยนอกจากหัวแหวน ก็จะรีบจัดส่งให้พรุ่งนี้ครับ

    เพื่อนสมาชิกท่านใด มีแค่หัวแหวนอย่างเดียว โปรดแจ้งด่วนเลยครับ จะได้จัดส่งให้ในวันหยุดพรุ่งนี้ครับ (วันหยุดของผมไม่เหมือนคนอื่น....)


    คุณมะขามป้อม ei855292194th
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2012
  6. sayank

    sayank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +2,368
    ลำดับที่ 49 มีกระดานชนวน 1 และหัวแหวน 1 ครับ
     
  7. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    เรื่อง : ผีๆ (วันนี้วันพระฯ)

    ตอน : ผมก็เคยเห็นผี ควบ ผีท้องสนามหลวงฯ

    ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่กด "อนุโมทนามาให้"ในทุกๆเรื่องที่ผมเขียนผ่านมาแล้ว อานิสงส์

    จากการที่ท่านได้อนุโมทนามาก็ทำให้ผมต้องพยายามนึกถึงเรื่องที่ได้ยินได้ฟังมาแล้วเอา

    มาเขียนแทนคำขอบคุณ เพื่อให้เป็นรูปธรรม ความจริงเรื่องผีทุกเรื่องที่ได้ฟังกันมาส่วนใหญ่

    ก็จะเป็นเรื่องสั้นๆทั้งนั้นแหละครับ จะเอาเรื่องยาวๆอย่างเรื่องแม่นากพระโขนงคงหายาก

    เหมือนกับที่ผมเคยเล่าตอนเอาแมวไปปล่อยวัดโพธิ์เอน เหตุการณ์ตอนนั้นมันก็ประเดี๋ยว

    เดียวแต่ความวังเวงมันเริ่มตั้งแต่ตอนผ่านศาลาปรกแล้ว ส่วนความขนลุกขนชันกับความ

    ทรงจำของผมมันน่ากลัวมาก ผมคิดว่าครั้งนั้นมันทำให้ผมเชื่อคำพังเพยของคนสมัยก่อน

    ที่พูดว่า"มันไม่โดนกับตัวมันเองมันไม่รู้หรอก"สำหรับวันนี้เป็นเรื่องที่ผมเห็นผีจริงและเห็น

    ในเวลาเช้า ที่มั่นใจว่าเห็นจริงเพราะผมเห็นเองชัดๆ ที่มั่นใจว่าเป็นผีก็คือหลังจากวันที่ผม

    เห็นแล้วมีคนพูดถึงกันอีกหลายครั้งและพูดกันอยู่นาน จนผมปะติดปะต่อได้เพราะถูกอ้าง

    หรือชี้มือมาที่ผมบ่อยๆ เรื่องมีอยู่ว่าครั้งที่พ่อกับแม่ผมอาศัยที่วัดหลักแก้วปลูกบ้านอยู่ติด

    กับโคกโบสถ์ และทำร้านขายของชำอยู่ใกล้ศาลาใหญ่ที่ใช้ทำบุญ ผมอายุน่าจะอยู่ในราว

    ๕-๖ ขวบ ประมาณอายุเอาจากการที่ผมกับน้องอีก ๒ คน เกิดในลักษณะ ๓ ปี ๒ คน วันที่

    ผมเห็นผีเป็นตอนเช้า แม่กำลังป้อนข้าวให้น้องคนเล็กอายุประมาณ ๑ ขวบ ส่วนผมนั่งกิน

    กับน้องคนกลาง ผมเห็นเด็กวัดกำลังถูศาลาอยู่ แต่พอมองไปบนหลังคาศาลา"ผมเห็นคน

    ตั้งหลายคนนั่งคุยกัน ตรงหน้าบันศาลา เป็นคนที่ผมเคยเห็นมาก่อน บางคนเคยเอาผม

    ไปเลี้ยงที่บ้านเขามาก่อน รวมทั้ง ย่าจิ๋ว ที่เลี้ยงผมมาแต่เกิดแล้วแกหายไป"ผมชี้มือ

    บอกแม่ว่าผมเห็นคนบนหลังคาศาลา และบอกหมดว่ามีใครบ้าง แม่ผมมองตามแล้วบอก

    ว่าอย่าไปชี้มือ ก็แค่นั้นที่ผมเห็น พอตอนสายขึ้นก็มีคนมาบอกกันที่ร้านค้าผมว่ามีคนแก่

    ตายตอนเช้าวันนั้นที่บ้านของแกเอง แกเป็นลมตายตอนที่แกแต่งตัวเตรียมมาทำบุญเพราะ

    วันนั้นเป็นวันพระ แม่ผมคงบอกพ่อผมแล้วในตอนนั้นว่าผมเห็นอะไรมาก่อน ก็มีการชี้มือ

    มาที่ผมว่าผมเห็นใครบ้างบนหลังคาศาลาในตอนเช้าก่อนหน้านั้น มีการพูดมีการถามผม

    ในเรื่องนี้หลายๆครั้งจากหลายๆคน จนอายุผมมากขึ้นก็ไม่ทำให้ลืม และได้เข้าใจในภาย

    หลังว่า"ทุกคนที่ผมเห็นนั้นได้ตายไปแล้ว"และแม่ผมที่มองดูตามที่ผมชี้มือบอกก็ไม่เห็น

    ตามที่ผมเห็น และผีที่ผมเห็นก็เหมือนคนธรรมมดาที่เคยมาทำบุญหรือมาซื้อของที่ร้าผม

    ความทรงจำอันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเชื่อเรื่องวิญญาณ และเชื่อเรื่องบาปบุญคุณ

    โทษจนถึงปัจจุบันฯ....

    เรื่องผีท้องสนามหลวงเป็นเรื่องที่ปู่เล่าให้คนอื่นฟัง และปู่ก็ฟังเขาเล่ามาอีกต่อหนึ่ง และ

    คนเล่าก็คือสามีของป้าหรือ"ลุงสุด"คนที่ผมเคยเล่าไว้ว่าเป็นทหารดูแล"หอธรรมสังเวช"ลุง

    คนนี้คนละคนกับลุงแหร่ม ลุงแหร่มเป็นคนอ่างทองส่วนลุงสุดเป็นคนสุทรสงคราม นาม

    สกุล"สังข์ทอง"วงศาคณาญาติแกอยู่แถวๆวัดประชาโฆสิตตาราม หลายท่านคงรู้จัก

    อาจารย์คลี่ ผมเคยได้ตะกรุดมากับมือท่านเมื่อปี ๒๕๑๖ เสียดาย...ไม่อยู่แล้ว ลุงสุดเป็น

    คนหนังเหนียว ลูกลุงสุดคือลูกผู้พี่ผม และหลานลุงสุดทุกคนที่ผมรู้จักจะ"สักยันต์"กันทุก

    คน คือสักทั้ง เสือ และหนุมาน ผมเคยเห็นเขากัดกันบนศาลา"วัดหัวลำโพง"กรุงเทพฯนี่

    เอง เป็นงานเผาศพของลูกป้าอีกคนหนึ่ง เขากัดกันขู่ตะคอกส่งเสียงกัดกันเหมือนลิง

    เหมือนเสือ ส่งเสียงดังน่ากลัวมาก เจอปู่กำกำราบ...เรียบร้อย ...ไอ้พวกนี้พระก็กำลัง

    เทศน์...ศพก็จะเผา...เดี๋ยวก็...จบ ทั้งเสือทั้งลิงหมอบหอบแฮกๆ ฟังพระเทศน์ต่ออย่าง

    เรียบร้อย?

    ปู่เล่าว่าเมื่อกรุงเทพฯมีรถรางแบบใช้ไฟฟ้าตอนแรกเป็นของบริษัทฯฝรั่ง เหมือนเรือ ๒ ชั้น

    ที่คนไทยเรียกเรือแดง ก็เป็นของบริษัทฯฝรั่ง ซึ่งมีการจดทำสัมปทานมีกำหนดแน่นอนกับ

    รัฐบาลไทย ลุงสุดออกจากทหารมาทำงานกับฝรั่ง ซึ่งสมัยนั้น ยังอยู่ภายใต้สนธิสัญญา

    สิทธิสภาพนอกอณาเขต คือถ้าคนไทยทำงานกับฝรั่งเวลามีความผิดก็ไม่ต้องขึ้นศาลไทย

    ลุงสุดเป็นคนประเภทไม่ยอมคนเคยถูกยิงฟันหักคาปาก และโดนลูกซองเต็มหลัง ปู่เป็น

    คนเล่าเรื่องนี้ว่าลุงสุดเหนียวจริง แกสักหนุมาณกับเสือ ที่โดนยิงโดนแถวๆวัดเอี่ยมฯใน

    ปากแกมีลำพูนแดงอมไว้องค์เดียว แก้มเป็นรอยชำแต่ฟันหัก พระองค์นี้ตกทอดมาที่ลูก

    ชายแกผมเคยเห็นฯ เพราะความที่เป็นคนมีเรื่องง่ายจึงเหมาะที่จะทำงานกับฝรั่ง ลุงสุดได้

    มีหน้าที่ควบคุมดูแลเวรยามอู่รถราง ปรากฎว่ายามอู่ที่อยู่ใกล้ท้องสนามหลวงอยู่กันไม่

    ทน ผมไม่แน่ใจว่าอู่อยู่ตรงไหนถ้าไม่อยู่แถวใกล้ๆพิพิธภัณฑ์ฯ ก็น่าจะอยู่ใกล้ๆศาลหลัก

    เมือง ผมนั่งรถรางก็ตอนเกือบๆจะปี พ.ศ.๒๕๐๐ แล้วความสนใจตรงนี้จึงมีน้อย ทุกครั้งที่

    ยามขอลาออกก็มีเพียงเหตุผลเดียวคือ"ถูกผีหลอก" และถ้าจะให้อยู่ต่อก็ขอให้เพิ่มยามเป็น

    เพื่อนอีกหนึ่งคน ซึ่งทางผู้จัดการที่เป็นฝรั่งไม่ยอมและไม่เชื่อ จนอยู่มาคืนหนึ่ง นายที่

    เป็นฝรั่งมาเรียกลุงสุดให้ลุกขึ้นตามเขาไป (ฝรั่งพูดไทยได้) ลุงสุดนึกว่าฝรั่งชวนไปตรวจ

    เวรยามก็เดินตามไป พอไปถึงที่อู่รถราง ฝรั่งไม่ตรวจยามไม่หายาม แต่มองไปทางท้อง

    สนามหลวง แล้วก็บ่นว่า ไม่มีอะไร ทำไมก่อนนี้ มีฝรั่งพยายามมองหาอะไรสักอย่างหนึ่ง

    แต่คงไม่เห็น สุดท้ายหันมาบอกลุงสุดว่า "ฉันมาดูที่นี่แล้ว ก่อนไปเรียกคุณสุด ฉันเห็น

    ต้นมะขามมันโล้มลงมา แล้วมันก็ลุกขึ้นได้ มันโล้มมันลุกตั้งหลายครั้ง ฉันว่าแปลกๆจึง

    ไปเรียกคุณสุดมาดู" ลุงสุดจึงอธิบายว่าที่ต้นมะขามมันล้มมันลุกได้ นั่นแหละคือผีหลอก

    นายฝรั่งยังดี เห็นแค่นี้ พวกยามที่ลาออกไปเขาเห็นมากกว่านี้ เขาบอกนายฝรั่งๆ ก็ไม่เชื่อ

    พวกเขา สรุปก็คือฝรั่งเชื่อเรื่องผีและเพิ่มยามให้เป็นผลัดละ ๒ คน......

    ก่อนจบเรื่องที่แล้วเกริ่นไว้เรื่องผ้ายันต์ไม่ต้องปลุกเสกฯ กับ หลวงปู่ทิม หรือท่านเจ้าคุณ

    โบราณของปู่ กลัวจะสับสนกับหลวงปู่ทิมองค์อื่นๆ จึงขอให้เข้าใจว่าผมหมายถึง"พระ

    โบราณวัตถาจารย์" หรือพระราชประสิทธิคุณ(ทิม ยสทินโน)อดีตเจ้าอาวาสวัด

    "พระศรีรัตนมหาธาต"สุโขทัยพวกเราๆท่านๆ เป็นหนี้ท่านในการจัดการให้มีพิพิธภัณฑ์ที่สุโขทัย

    สมัยก่อนโน้นคนอ่างทองจะปลื้มใจกับเพ็ชรเม็ดนี้ของพวกเขา ถ้ามีคำถามคาใจว่าทำไม?

    ปู่ถึงมีอะไรมากมาย? ย่อๆ ก็คือปู่เป็นลูกศิษย์ของพี่ชายท่านคือ หลวงพ่อปานอดีตเจ้าอาวาส

    วัดมหาดไทย สมัยนั้นซึ่งปู่นับถือเหมือนพ่อ เก่งในด้านคาถาอาคม ส่วนในด้านปริยัติก็ได้มา

    จากหลวงปู่ทิมบ้าง เวลาปู่เล่าถึงท่านจะยกมือท่วมหัวและพูดว่า"ได้น้ำลายอายปากมามากล้น"

    เปิด GooGleอ่านได้ครับ จะได้เข้าใจเวลาไปอ่าน เรื่องพระเรื่องผ้ายันต์ตอนต่อไป

    ถ้ายังมีโอกาสเขียน...ขอบคุณมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2012
  8. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG] ในยุคที่ไฟฟ้า แม้เครื่องวิทยุใส่ถ่านก็ยังเป็นเรื่องของความทันสมัยของคนกรุงฯ ไกลเกินชนบทจะนึกภาพออก

    เมื่อหลังดวงอาทิตย์ลับ คงมีแต่เพียงแสงจันทร์ที่กลบดวงเดือนบนฟ้า และหากเป็นคืนแรม ก็คงมีแต่เพียงแสงดาวระยับและความมืดหรุบหรู่สลัว และแสงวับแวมของตะเกียงบนเรือน ให้รู้ว่ามีคนอาศัยและยังไม่หลับไม่นอน

    ห่างจากแสงก็มีเพียงแต่เงาตะคุ่ม ระหว่างกลางความมืดทะมึนของตัวบ้านและแมกไม้ที่รกครึ้ม เสียงลมที่กรีดกรูเกรียว พัดให้เบียดเสียดสีเป็นเสียงโหย แม้เพียงเสียงลมก็หวีดหวิวให้ระทึกกลบความเงียบยามดึก

    อย่าได้นึกถึงเสียงหมาที่หอนเป็นทอดๆ ดังไล่ใกล้เข้ามาเลย....

    ...........................

    ไม่แน่ใจว่าทุกวันนี้ยังกลัวผีเหมือนที่เคยกลัวหรือเปล่า... แต่บ่อยครั้งก็ยังนึกถึงผีสาวตัวที่เคยอยู่ห้องเดียวกันแต่เล็กจนจบมหาลัยฯ

    ....ถ้าผีมีจริง อะไรในพระไตรปิฎกก็มีจริง บุญที่ทำกันทุกวันนี้ไม่สูญเปล่าแน่........

    ...........................

    กระดานชนวนฯและหัวแหวนของคุณ sayank ผมpack จัดส่งให้พรุ่งนี้นะครับ
    (ถ้าไม่ติดไปอ่างทอง)
     
  9. มดดำน้อย

    มดดำน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    621
    ค่าพลัง:
    +2,826
    สวัสดีครับ มาทักทายครับ
     
  10. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เมื่อหลายวันก่อน ผมกับพี่ไพรัช ไปอยุธยา-อ่างทอง เอาปัจจัยไปถวายหลวงปู่ฯ กับรับแผ่นกระดานชนวนฯจากพระอาจารย์ฯ

    ขากลับจะเข้ากรุงเทพฯ คุณChatchai ก็โทรฯเข้ามา บอกว่าลูกชายที่เพิ่งกำเนิดเกิดสำลักน้ำคร่ำ ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์
    จะขอคำแนะนำ......

    พี่ไพรัชใจดีขับรถให้ผมนั่งก็หันมามองหน้า ว่าผมจะให้คำแนะนำอย่างไร
    ผมก็พยายามนึกอยู่ว่า เราเคยเรียนกุมารแพทย์หรือสูตินารีมาบ้างหรือเปล่า
    น่าจะไม่เคย เคยแต่สมัยพี่ไพรัชยังขายหนังสืออยู่ แล้วผมไปยืนอ่าน Penthouse ที่ร้านแก ยังพอจะจำภาพนารีได้บ้าง แต่ภาพเด็กๆไม่มี
    เลยขอเวลาเกิดของเด็ก แล้วผูกดวงให้ ได้ดังนี้ (บัง ๒ ไว้)

    เด็กคนนี้เกิดวันอังคาร ดาว๓ กุมลัคน์ เป็นเกษตร
    เก่ง กล้า ขยัน คือบุคลิกเด่น
    ๑ เป็นตนุเศษ อุปนิสัย เข้มแข็ง จริงจัง ยึดมั่น แน่วแน่
    ๘ เป็นอุจจ์ จากเรือนพันธุ กุมลัคน์
    ๓+๘ มันเป็นดาวคู่ธาตุ
    ๓ กล้าขยันมันก็ดีอยู่ แต่๘ มันไม่เลือกดี-เลว
    ถ้าไปกล้าเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันก็ยุ่ง
    ได้ดาว ๕ ดาวคุณธรรมมาเล็งลัคน์
    ควบ ๙ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงน่าจะทำให้รู้ผิดรู้ชอบได้ดี


    ทีนี้มาดูเรื่องสุขภาพที่เป็นห่วง
    เด็กเกิดวันอังคาร ดาวพุธ เป็นอายุทางทักษา
    ในดวง ดาวพุธตกวินาสน์ ก็หมายถึงสุขภาพตกวินาสน์ไปด้วย
    แบบนี้ถึงน่าเป็นห่วง และดาวพุธยังเป็นเจ้าเรือนมรณะ ร่วมด้วย
    ถึงได้เฉียดเรื่องเสียวๆแบบนี้.....

    ผมบอกคนเป็นพ่อไม่ต้องกังวล
    เพราะดูจากพื้นดวงแล้วน่าจะไม่มีปัญหา เนื่องจากดาวอังคารที่กุมลัคน์เข้มแข็ง(เป็นเกษตร)
    แต่คุณChatchai คงไม่อยากดูดวงตอนนี้ คงอยากให้ผมหาทางช่วยมากกว่า
    พี่ไพรัชก็มองผมว่าจะช่วยอย่างไร ขับรถถึงบางนา-ตราดแล้ว
    ในตำรา Penthouse คงช่วยอะไรไม่ได้ คนใหญ่คนโตในโรงพยาบาลก็ไม่รู้จัก
    มีแต่พระองค์ใหญ่ๆในบ้านนี่แหละ...เลยบอกว่าจะเอาดวงที่ผูกให้ไปฝากหลวงพ่อกวยละกัน
    (ว่าแล้วก็คงต้องให้คนเป็นพ่อไปทำบุญถวายท่านด้วย)


    เมื่อถึงบ้านก็ผูกดวงแล้วเอาไปฝากหลวงพ่อกวย ก็เหมือนโดนถามว่า "เด็กชื่ออะไร"
    เออ...นึกขึ้นได้ ว่า "ทักษานามอันเกิดแต่กรรม"
    คือการตั้งชื่อ แต่งกรรมให้เกิดขึ้น

    เด็กเกิดวันอังคาร นับตามภูมิทักษา พุธคืออายุ
    อายุตกวินาสน์อยู่ อาจต้องแก้ไขโดยตั้งชื่อด้วยอักษรวรรคพฤหัส (บปผฝพฟภม)
    หากตั้งชื่อวรรคพฤหัส เมื่อนับตามภูมิทักษา ราหูก็คืออายุ ซึ่งเป็นอุจจ์ กุมลัคน์
    และเป็นคู่ธาตุกับอังคารเกษตรเจ้าเรือนกุมลัคน์

    ฉะนั้นจึงเท่ากับ พุธที่เป็นอายุเดิมในเรือนวินาสน์นั้น ได้ถูกแก้เป็น ราหูกุมลัคน์ ที่มีศักดิ์สูงกว่า
    ด้วยความเป็นอุจจ์(สูงส่ง) เสริมความเข้มแข็งด้วยคู่ธาตุและมั่นคงด้วยความเป็นเกษตร
    น่าจะแก้ไขดวงชะตาจากร้ายกลายเป็นดีได้ด้วยการตั้งชื่อ

    แต่เด็กคนนี้ผมไม่มีส่วนในการผลิต และการตั้งชื่อเป็นเรื่องสำคัญ อาจให้คำแนะนำได้ แต่ชี้นำไม่ได้

    ผมโทรฯกลับไปถามชื่อเด็กกับคุณ Chatchai
    เธอบอกว่าตั้งชื่อให้เอง เลือกแล้วว่า "ภูริทัต"


    จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ถือเป็นโชคดีของเด็กที่คุณพ่อตั้งชื่อให้เป็นมงคลดีเหลือเกิน.....

    ปัจจุบัน เด็กอยู่ในความดูแลของคุณแม่ที่บ้าน แข็งแรงดี และจะได้รับการโอ๋จากฝั่งมารดาอย่างที่สุด ขอแสดงความยินดีด้วยครับ (เอารูปมาอวดบ้าง)

    ภูริทัต.....ผู้มีอันจะแบ่งปัน-จ่ายแจก อย่างมากมาย

    ..................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    เรื่อง : ความศรัทธา...ความเชื่อ...ของคนสมัยก่อนกับการเดินทางไปไหว้พระพุทธบาทสระบุรี

    ตอน : การเตรียมการสำหรับการเดินทางไปไหว้พระพุทธบาทสระบุรี

    เคยบอกให้ปู่เล่าถึงเรื่องที่เกี่ยวกับผีสางนางไม้ที่อยู่ในป่า หรือบรรดาเรื่องของศาลเจ้า

    ต่างๆ หรือเรื่องประเภทเสือทำตัวเป็นคน หรือคนทำตัวเป็นเสือ ปู่บอกว่าเรื่องไร้สาระ

    แต่ก็เล่าให้ฟังหลายเรื่อง แต่ไม่เหมาะกับจะเอามาเขียนเพราะเดี๋ยวหน้ากระทู้จะเป็นลิเก

    เคยถามแม่ตอนเด็กๆ ว่าเคยไปไหว้พระพุทธบาทสระบุรีบ้างไหม? แม่บอกว่าเคยไปหลายครั้ง

    เพราะเวลาบ้านใกล้เรือนเคียงเขารวมตัวกันไปไหว้ฯ เขามักจะมาชวนปู่แบบขอร้องให้ไป

    ด้วย บอกแม่ให้เล่าให้ฟังแม่ก็เกี่ยงมาที่ปู่ จึงต้องขอให้ปู่เล่าให้ฟังในวันหนึ่ง ปู่เล่าว่าใน

    สมัยก่อนโน้นมีคนตายเพราะไปไหว้พระพุทธบาทสระบุรีกันมาก มีการตายกันทุกปี มี

    สาเหตุหลายอย่าง ทั้งเรื่องการป่วยไข้ หรือภัยจากธรรมชาติ สัตว์ป่า หรือบางทีก็มีความ

    เชื่อกันว่าเกิดจากผีสางนางไม้ ต้องมีการเตรียมการในการเดินทางไปให้ดี ต้องเชื่อฟังกัน

    เวลาบอกเล่าอะไรให้ระวังอะไรก็ต้องเคารพตามที่ผู้ใหญ่บอก ก่อนเดินทางก็ต้องมีการ

    กำหนดกันให้ดีถึงการปฏิบัติ ระหว่างการเดินทาง และเวลาหยุดพักแรม การเตรียมการที่

    สำคัญสำหรับการเดินทางจากอ่างทอง นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้วก็มีอย่างอื่นๆที่เอา

    มาเป็นองค์ประกอบในการจัดการ เช่น.-

    ๑. เด็กเล็ก,คนแก่,คนท้อง หรือใครที่เมียมีท้อง ไม่ให้ไปด้วยเพราะเส้นทางเป็นป่าตลอด

    เหตุผลสำหรับเด็ก,คนแก่,คนท้อง ไม่ต้องบอกก็รู้กัน ส่วนคนเมียท้องเขากลัวว่าจะโดน

    อาถรรพ์ป่าอย่างที่เล่าๆกันว่ามีเสือแปลงร่างเป็นคนมาส่งข่าวว่าเมียคลอดหรือเมียแท้งฯ

    ๒.พวกหาบคอนก็ต้องจัดการให้พอ เพราะขาไปส่วนใหญ่จะเตรียมเอาของไปขายด้วย

    เช่น หมากพลูหรือยาสูบ พวกปลาร้าปลาเจ่า ส่วนขากลับก็จะมีการหาของป่ากลับบ้าน

    เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว(สมัยนั้นทุ่งบางกะปิยังเป็นป่า,ช้างพระยาฉัททันต์ฟาดหนุมานตายคา

    โรงละครฯ ก็มาหลบที่ป่าสะแกทุ่งบางกะปิ แล้วอ่างทอง-สระบุรี จะไม่เป็นป่ามากกว่าหรือ)

    ๓.ล้อหรือเกวียน บางครั้งก็อาจจะมีการใช้ล้อหรือเกวียนช่วยขนสัมภาระ ถ้ามีล้อหรือ

    เกวียนก็ต้องมีการเลือกว่าจะเอาอะไรลาก ซึ่งก็ต้องเป็นวัว ทำไมไม่เป็นควาย? เพราะ

    ควายมีความเป็นนักสู้ ถ้าได้กลิ่นเสือแล้วอาจจะสบัดหลุดไป เช่นตอนพักเหนื่อย ซึ่งถ้า

    เป็นอย่างนั้นหน้าที่ลากล้อลากเกวียนตอนควายหลุดไปแล้วก็ต้องเป็นคน เพราะควายหลุด

    ไปในป่าคงไม่มีใครเที่ยวตาม ส่วนวัวไม่เป็นนักสู้ วัวพอได้กลิ่นเสือ...เรี่ยวแรงไม่เหลือใจ

    อ่อน...จะขาแข้งอ่อนไม่มีแรง ต้องแก้ด้วยการทำให้ไม่ได้กลิ่นเสือก็จะทำให้เดินทางต่อ

    ไปได้ บางครั้งก็มีม้าไปด้วยฯ

    ๔.หัวหอม หอมแดง เดี๋ยวนี้เหนื่อยใจเวลาฝากเด็กๆ(มีลูกแล้ว)ให้ซื้อหอมมาตำน้ำพริก

    แกง จะถูกถามเป็นประจำว่า หัวแดงหรือหัวขาว ? หัวหอมต้องเตรียมเอาไปมากๆ เวลา

    วัวได้กลิ่นเสือจะหยุดเหมือนไม่มีแรง ม้ายิ่งกว่าวัวเสียอีกเรียกว่าพอได้กลิ่นเสือก็หยุดรอให้

    เสือมากิน จึงต้องรีบขยี้หัวหอมเยอะๆ แล้วเอาไปขยี้ที่จมูกวัวหรือม้าเพื่อกลบกลิ่นเสือ จะ

    ได้เดินทางต่อไปได้(ภูมิปัญญาคนสมัยก่อนสั่งสมถ่ายทอดกันแบบรุ่นสู่รุ่น)

    ๕.ไม้กระทู้ เป็นซอไม้ไผ่ยาวประมาณ ๓ เมตร ตัดกิ่งให้ห่างตาไม้สัก ๑ คืบ เพื่อใช้เป็นที่

    เหยียบ เหมือนกับพะองที่ใช้ปีนต้นตาลตะโหนดแต่ใช้สั้นกว่า เป็นของสำคัญมาก การเดิน

    ทางคนมากๆหรือเป็นกลุ่มใหญ่ๆ จะไม่ค่อยกลัวเสือกันนัก ที่กลัวมากก็คือช้าง ถ้าเดินกันไป

    เพลินๆตามทางเกวียนพอเลี้ยวหัวมุมจ๊ะเอ๋...กับช้างจะทำอย่างไร เพราะหนทางที่เดินส่วน

    ใหญ่จะเป็นป่าแฝกสูงท่วมหัว ต้องใช้วิธีตั้งไม้กระทู้แล้วมีคนจับให้ตั้งอยู่ ให้อีกคนปีนกระทู้

    ขึ้นไปดูหลังช้าง ถ้าเห็นจะได้เตรียมทางหนีทีไล่หรือกำหนดหนทางกันใหม่...
    [​IMG][​IMG]
    ๖.ต้องมีคนรู้เส้นทางและมีความแม่นยำต่อระยะทางเวลาในการเดินทาง เพราะตามราย

    ทางจะมีศาลาที่พักไว้ให้คนเดินทางพักเป็นระยะๆ จะได้กำหนดรู้ว่าควรพักนอนหรือจะเดิน

    ทางต่อ ถ้าผิดก็จะต้องนอนกลางป่า ปู่เล่าว่าศาลาที่พักจะทำไว้แข็งแรงเพื่อป้องกันภัย

    จากเสือ โดยเป็นศาลายกพื้นสูงให้คนพักข้างบนแล้วชักบันไดขึ้น ส่วนใต้ถุนจะทำคอกม้า

    คอกวัวไว้อย่างแข็งแรง จะมีการใช้ไม้ไผ่หรือไม้รวกขนาดด้ามมีดเสี้ยมปลายให้แหลม แล้ว

    เอามาปักกับพื้นคอกโดยเอาปลายแหลมชี้ออกข้างนอก โดยทำมุมเงยประมาณ ๔๕ องศา อาจ

    จะทำสัก ๒ ชั้น เพื่อกันไม่ให้เสือโถมเข้าคอกเพื่อเอาม้าหรือวัวไปกิน...

    ๗.ข้อห้ามต่างๆ เช่น ตรงไหน?ศาลไหน ห้ามร้องลิเก เพราะเจ้าพ่อไม่ชอบ หรือห้ามพูด

    จาลามก ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เล่ากันสืบๆมา ว่าจะเอาให้ถึง"เสียงบ่างปลิดวิญญาณ" นับ

    บรรทัดดูแล้วไปไม่ได้ ทั้งๆที่พยายามข้ามพิธีกรรมก่อนการเดินทางแล้ว คงต้องเอาไว้วัน

    หน้าถ้ามี...กว่าจะกลับถึงบ้านก็นานโข เพราะเส้นทางสมัย ร.๖ ร.๗ ไม่ธรรมดา...

    จากอ่างทองถึงสระบุรีเดินกันหลายวัน...ขอบคุณมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012
  12. มะขามป้อม

    มะขามป้อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ได้รับหัวแหวนเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  13. ธรรมจักร

    ธรรมจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,151
    ช้างพระยาฉัททันต์ฟาดหนุมานตายคา

    โรงละครฯ ก็มาหลบที่ป่าสะแกทุ่งบางกะปิ


    คุณพ่อประดู่ พอจะอธิบายตอนนี้ได้ไหมครับ คือผมไม่เข้าใจว่ามาจากบทละคร/

    วรรณกรรมยุคก่อน/หรือมาจากเหตุการจริงครับ
     
  14. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ei963465328th ผมใช้บริการของไปรษณีย์ท้องถิ่น ซึ่งจะล่าช้ากว่าปรกติไปอีก 1 วัน
     
  15. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    เป็นทั้งเรื่องจริงและละครครับ แล้วก็เป็นเรื่องเล่าด้วย เกิดในสมัย ร.๖ ยุคโขนละครรุ่งเรือง จะมีรายละเอียดพอกล้อมแกล้มตามมาให้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012
  16. พ่อประดู่09

    พ่อประดู่09 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,378
    จำล้อต้อกได้ไหมครับ ชื่อจริงคือ สวง ทรัพย์สำรวย แต่ไม่มีใครเรียก
    คงเรียกตามชื่อที่แสดง เพราะถนัดปาก เด็กๆ ยังเรียก"ไอ้ล้อต้อก"

    ปู่เล่าให้ฟังว่าสมัย ร.๕ มีช้างทรงโปรดเชือกหนึ่งมีฐานันดรเป็นพระยา ชอบออกชมตลาด เกเรนิดๆ ไม่ชอบรถเจ๊ก เห็นรถเจ๊กชอบทำไล่กวดเล่น คนแถวตลาดน้อยไม่เรียกชื่อจริง แต่เรียกตามผิวพรรณที่เห็น คือเรียกว่าพระยาเสวตชมพู เพราะสีสวยมากปู่เรียกว่า"สีหม้อใหม่" ครั้งหนึ่งท่านพระยาถูกจองจำ เพราะท่านไปไล่รถเจ๊กจนได้รับอันตราย ด้วยความอายท่านพระยาไม่ออกมาชมตลาดหลายวัน แม่ค้าก็เลยสบายใจ เพราะทุกครั้งที่ท่านพระยามาท่านมักจะฉกฉวยบรรดาผลไม้เอาตามใจ เมื่อท่านพระยาเคยออกชมตลาดพอออกไม่ได้หลายวันก็ทนไม่ได้ ท่านจึงตัดสินใจเดินออก ที่เดือดร้อนก็คือคนเลี้ยงกับควาญ อย่าลืมว่าท่านเป็นถึงพระยาฯ เมื่อต้องโทษจองจำเวลาไปไหนก็ต้องมีคนถือพานใส่โซ่ตรวนนำหน้า เพราะความที่ท่านอายจึงไม่ออกมาชมตลาดหลายวัน เมื่อทนไม่ได้ก็ต้องมา แต่การมาครั้งนี้ ท่านเดินน้ำตาไหลไม่หยิบฉวยอะไรของใครเลย ทำให้แม่ค้าพากันสงสารน้ำตาไหล จึงช่วยกันหยิบกล้วยอ้อยและผลไม้ต่างๆ ส่งให้ เมื่อท่านพระยารับแล้วก็ส่งให้ควาญฯ ว่ากันว่า เป็นที่ประทับใจคนทั้งตลาด

    มีคนเล่นละครเป็นนางตลก ได้รับแต่งตั้งให้เป็น"ขุนท้าวแมว"(ไม่ใช่เจ้าจอมมารดาหวาด) คนก็เรียกติดปากแต่ชื่อนี้ เพราะเล่นเป็นนางแมว จนคนติด

    พระยาฉัททันต์ ก็ไม่ใช่พญาฉัททันท์ เป็นพระยาน่ะเป็นแน่ แต่เมื่อมาฝึกเล่นละคร ก็ฝึกง่ายเหมือนช้างตระกูลฉัททันต์ที่ฝึกง่ายแสนรู้ ก็เรียกกันติดปากว่า
    พระยาฉัททันต์ ในวันหนึ่งเมื่อเล่นเป็นช้างเอราวัณ ทุกครั้งเมื่อถึงตอนที่หนุมาน โดดขึ้นทำท่าหักคอช้างเอราวัณ พระยาท่านก็จะเทาลง แต่วันนั้นท่านตกมัน เมื่อหนุมานโดดขึ้นหักคอท่านพระยาท่านไม่เทาลง แต่ท่านจับหนุมานฟาดกับพื้นแล้วท่านก็ออกเตลิดไปหลบอยู่ในป่าสะแกย่านบางกะปิ จนต้องออกตามกัน แต่ก่อนชื่อช้าง,ชื่อประตูวัง ผมจำได้หมด เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมั่นใจจึงไม่รับรอง ชื่อช้างจะคล้องจองกันหมด แต่มันก็หมดไปจากหัวผมเหมือนกัน
    ไม่ทราบว่าพอได้ไหม ถ้านึกได้จริงๆเมื่อไรจะเอามาให้ครับ

    ขอบคุณมากครับที่ติดตามผมมาโดยตลอด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2012
  17. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    หลังจากลงเรื่องตั้งชื่อ ก็โดน!
    คิดว่าต้องโดน เลยถือโอกาสแจ้งซะเลย... ว่าผมไม่รับตั้งชื่อนะครับ

    เคยได้ยินหมอดูท่านหนึ่ง เอ่ยประกาศไว้อย่างอหังการ์ว่า "ถ้าเปลี่ยนชื่อแล้วรวย ประเทศไทยไม่มีขอทาน..."

    ผมก็เชื่อครับ ว่าเปลี่ยนชื่อได้ แต่มันเปลี่ยนสันดานไม่ได้ ถึงอย่างนั้น การตั้งชื่อ ก็ขอให้มันเป็นมงคลหน่อย เรียกง่ายสะดวกปากทั้งเจ้าตัวและคนเรียกขาน

    ไม่ใช่ชื่อหำน้อย แต่เล็กจนโต สาวๆในบริษัทฯหรือลูกน้องจะเรียกเจ้านายว่าอย่างไร... "ท่านหำน้อยขอรับ...." คงไม่เข้าท่า

    เมื่อถามมา ก็ตอบเท่าที่พอจะรู้บ้าง ถือเป็นแบบฝึกหัดสำหรับคนมือใหม่อย่างผม (ย้ำว่าไม่เก่งนะครับ แค่เริ่มเรียน)

    เจ้าชะตาชื่ออื่น แต่ผมเห็นว่ามีตัวอักษรคล้ายกัน เลยตั้งให้ใหม่ว่า "จุ๊กกรู๊..." (ชื่อจริงไพเราะมากครับ สาวๆหลับตายังไม่เห็นหน้า จะนึกถึงนักร้องเสียงสวรรค์)
    [​IMG]
    จุ๊กกรู๊....
    จ เป็นวรรคอังคาร ทักษาเป็นบริวาร ในดวงเป็นประ เสื่อม แต่ได้ศุกร์คู่มิตรเป็นเกษตร ก็พออุ้มชูได้
    ท่านว่าฟื้นจากประ

    เมื่อเป็นบริวาร ไปอยู่ในเรือนศุภะ ที่แปลว่าราบรื่น รุ่งเรือง ก้าวหน้า
    คุณมีพื้นฐานแล้ว ก็คงจะเข้าใจไม่ยาก ว่าจะได้บริวารคู่มิตรช่วยอุ้มชูให้เจริญในกิจการ
    ดาว๖ เป็นเกษตร และเป็นเกษตรเรือนกดุมภะการเงินด้วย

    ก เป็นวรรคจันทร์ ทักษาเป็นกาลกิณี ในดวงคือ๒ มีตำแหน่งเป็นนิจ คุณภาพต่ำมาก ถ้าเทียบเป็นนก ก็นกกระจอก(ไม่ใช่โจรกระจอก) ไม่น่ากลัว
    ในการตั้งชื่อ อาจารย์บางท่านก็ไม่รังเกียจที่จะให้มีตัวกาลกิณีอยู่ในชื่อ เพียงแต่ต้องไม่ให้กาลกิณีมีอำนาจ อย่างชื่อของคุณเป็นต้น

    อย่ากังวลเรื่องชื่อเลยครับ กังวลเรื่องสุขภาพของคุณดีกว่า (ดวงนี้อย่าเล่นการพนันนะครับ...เดี๋ยวติด)

    ......................................................

    หลายปีก่อน ผมมีโอกาสขอพระราชทานนามสกุล จากสมเด็จฯองค์ปัจจุบัน คิดว่าถ้าได้รับพระราชทาน ก็จะเอาไว้ให้ลูกได้ใช้....คงไม่ใช้เอง

    แต่ผมแต่งงานตอนอายุเยอะแล้ว ลูกสูบเครื่องปั๊มไม่ค่อยดี มีสนิมเกาะ ซีลยางก็รั่ว น้ำมันไฮดรอลิคก็ไม่ค่อยมี..... คงหมดโอกาสแล้ว เลยไม่ได้ทำเรื่องขอพระราชทาน

    ถ้าการตั้งชื่อ เป็นกุญแจ ไขไปสู่ความสำเร็จในตู้เซฟ
    แล้วก่อนหน้านี้ เราสร้างความสำเร็จเก็บไว้ในเซฟแล้วหรือยัง.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2012
  18. ธรรมจักร

    ธรรมจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,151
    ขอบพระคุณครับ คุณพ่อประดู่เข้ามาเล่าเรื่องดี ๆ แบบนี้อีกนะครับ
     
  19. ต้นกล้า191

    ต้นกล้า191 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +11
    ถึง คุณหนุ่มทิพย์
    ผมขอจอ
    1) เหรียญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื้อชนวน 1 เหรียญ
    2) เหรียญเสด็จกรมหลวงชุมพรฯ เนื้อชนวน 1 เหรียญ
    3) หมูทองแดง เนื้อผงฯ 1 ตัว
    คับ ยังจองทันอยู่ใช่ไหมคับ ถ้าทันเดี๋ยวจะโอนตังค์ไปให้ สิ้นเดือนนี้ คับ
     
  20. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ทันครับ ขอบคุณครับ............
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...