แมวกับหมา ชีวิตไหนมีค่ามากกว่ากัน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย เนตรอิศวร, 17 ตุลาคม 2012.

  1. เนตรอิศวร

    เนตรอิศวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2011
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +425
    *****พิจารณาก่อนท่านทั้งหลาย....เมื่อคราหนึ่งมีภิกษุรูปหนึ่งท่านนั้นเป็นผู้มีเมตตาต่อแมวกำพร้า ท่านนั้นได้ช่วยเลี้ยงลูกแมว2ตัวที่แม่แมวได้ตายไปด้วยยาเบื่อที่ชาวนาได้วางไว้ไล่หนูในนาข้าว ภิกษุรูปนั้นจึงสงสารและเมตตาช่วยเลี้ยงลูกแมว2ตัวนั้นเรื่อยมา.
    .....จนมาวันหนึ่ง ลูกแมวทั้ง2ตัวนั้นถูกสุนัขตัวเพศเมียในวัดกัดตาย และสุนัขเพศเมียตัวนั้นก็กินลูกแมว ภิกษุผู้เลี้ยงลูกแมวนั้นได้มาเห็นจึงเกิดบันดาลโทสะ เอาไม้ไล่ทุบตีสุนัขนั้นด้วยความโมโห จนสุนัขนั้นวิ่งหนีออกไปจากวัด แต่ยามเช้าสุนัขก็จะกลับเข้ามาที่วัดที่เคยอาศัยตามเดิม ภิกษุที่เลี้ยงลูกแมวก็จะไล่เอาไม้ไล่ตีโดยหวังจะเอาชีวิต จนมาถึงวันพระที่โยมทั้งหลายเข้ามาทำบุญในวัด เราจึงได้มีโอกาสสนทนากับภิกษุรูปนั้นดังนี้.
    .....เราผู้ด้อยพรรษากล่าว:(ด้วยภิกษุผู้เลี้ยงแมวนั้นเป็นภิกษุอายุน้อยกล่าวท่านจึงให้เกียรติเรา โดยเรียกแทนเราว่าหลวงพี่ เราผู้เป็นผู้ด้อยพรรษากว่าจึงแทนท่านว่าพระ) พระท่านเป็นอะไรหรอ ผมเห็นท่านนั้นตามไล่ตีหมาตัวนี้มา2-3วันแล้ว.
    .....ภิกษุผู้เลี้ยงแมว กล่าว: ก็หมาตัวนี้ซิหลวงพี่ มันมากินลูกแมวของผม ผมเห็นมันคาบหัวแมวกับตาเลย ผมโมโหเลยไล่ตีมันอยู่กะเอาให้ตายเลย.
    .....เราผู้ด้อยพรรษากล่าว:โถ๋น่าสงสารลูกแมวเป็นเวรกรรมของมันจริงๆ.
    .....ภิกษุผู้เลี้ยงแมว กล่าว:ผมออกไปบิณฑบาตรกลับมาเข้าไปในกุฎิเห็นหมากำลังแทะหัวลูกแมวเลยผมเลยโมโหตามตีมันอยู่.
    .....เราผู้ด้อยพรรษากล่าว:โถ๋พระท่าน มันเป็นเวรกรรมของแมวแล้ว เมื่อหมามันกัดแมวตาย มันกินแมว มันก็เป็นเวรกรรมของสัตว์ที่ผูกพันธ์กัน ไหนเลยพระท่านจะต้องไปผูกเวรกรรมกับหมาด้วยเล่า.....เมื่อหมากัดแมวตายมันก็เป็นเวรกรรมของสัตว์ที่จะต้องชดใช้ให้กันด้วยมันอาจจะเป็นเวรกรรมที่ผูกพันธ์กันมาที่มันจะต้องมาชดใช้ให้แก่กัน เมื่อหมากัดแมวตายเวรกรรมก็ตกอยู่ที่สัตว์ทั้งสอง แต่หากพระท่านเกิดไปตีหมาตายด้วยพระท่านโมโห แทนที่เวรกรรมมันจะตกอยู่ที่สัตว์ทั้งสอง ก็จะกลายมาเป็นพระท่านไปผูกเวรกรรมกับมาเพิ่มขึ้นมาอีกเพียงแค่พระท่านเกิดความโทสะด้วยความรักในลูกแมว ขอพระท่านโปรดคิดดูหากพระท่านเกิดตีหมาตายไป พระท่านก็จะต้องตกอาบัติฐานฆ่าสัตว์โดยเจตนาทั้งจะเป็นเวรกรรมที่ท่านจะต้องไปชดใช้กรรมให้แก่กันอีกในภายหน้า และขอพระท่านโปรดจงคิดดูหากพระท่านเกิดตีหมาด้วยโทสะ และเกิดหมานั้นไม่ตายแต่กลับพิการมาจนหมานั้นจะต้องพบทุกขเวทนาด้วยตัวพิการทรมานไปจนกว่าจะตาย พระท่านพร้อมแล้วหรือที่จะต้องรับเวรกรรมที่กระทำกับหมานั้นจนพิการ และพระท่านก็ต้องอาจจะได้รับเวรกรรมในภายหน้าด้วยร่างกายอาจจะเดินเหินไม่สะดวกประดุจหมาที่ลากสังขารของมันเพื่อยืดลมหายใจ พระท่านเต็มใจที่จะรับผลกรรมนี้ที่จะเกิดกับท่านแล้วหรือ (ภิกษุผู้เลี้ยงแมวยืนนิ่งเงียบ).
    .....เราผู้ด้อยพรรษากล่าว: พระท่านจะทำอย่างไรผมก็คงจะไปห้ามท่านไม่ได้หรอก คงได้แต่บอกท่านไว้ให้หยุดคิดพิจารณา
    *****เรานั้นเป็นผู้ถือศีลปฎิโมกข์แล้ว เมื่อเรานั้นเดินด้วยเท้าเปล่าหรือสวมรองเท้า ยามเราเดินเราก็ยังต้องเดินสายตาแลดูพื้นด้วยเกรงว่าเท้าที่เราเดินนั้นจะไปเหยียบสัตว์น้อยใหญ่ที่เขาเดินขวางทางของเราอยู่ ด้วยตัวเรานั้นไม่หวังที่จะต้องมาพรากชีวิตใครแม้แต่มดตัวน้อยใหญ่ หากเราเห็นเราก็จะเดินข้ามหรือหลีกทางเดินให้ด้วยใจไม่ปราถนาในชีวิตของผู้อื่น ยามเราบิณฑบาตรเราก็จะเดินสายตามองดูเพียงพื้นดินห่างตนเพียง5ก้าว ด้วยไม่หวังว่าการบิณฑบาตรโปรดโยมนั้นจะไปเบียดเบียนชีวิตใหญ่น้อย ด้วยเรานั้นเห็นว่าทุกสรรพชีวิตล้วนหวงแหนในชีวิตของตน อันเราจะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นด้วยตัวเรานั้นไม่เคยระวังก็คงจะเป็นข้ออ้างที่เห็นแก่ตนเกินไป จากที่เราได้พูดมานี้ก็เพื่อหวังให้พระท่านเห็นคุณค่าในชีวิตของทุกชีวิตโปรดอภัยให้ชีวิตผู้อื่นเพื่อเป็นทานเถิด หมาก็หนึ่งชีวิต แมวก็หนึ่งชีวิต ช้าง ม้า วัว ควาย หรือแม้แต่คนเราก็หนึ่งชีวิต ทุกชีวิตเกิดมาล้วนแล้วแต่มีกรรมเหมือนกัน กรรมของใครนั้นก็กรรมของเขา เรานั้นเป็นเพียงผู้พบเห็นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปผูกกรรมให้ให้ตกมาเป็นกรรมของตนเอง ผมก็ขอให้พระท่านโปรดจงอย่างสร้างกรรมเลยอโหสิกรรมให้กับหมามันไปเถอะถือเสียว่ามันเป็นกรรมของแมวและเป็นกรรมของหมามัน ส่วนเราเป็นพระ เรานั้นก็ควรเป็นผู้แลเห็นกรรมก็เป็นพอ.*****
    .....ภิกษุผู้เลี้ยงแมว กล่าว: ครับหลวงพี่ ผมขอบคุณหลวงพี่ที่เตือนสติผม หากหลวงพี่ไม่มาเตือนผมก็คงจะตีหมาตายแน่ๆ
    *****จากวันนั้นเป็นต้นมา ภิกษุผู้เลี้ยงแมวก็ใจเย็นขึ้นมาก และก็ขุนข้าวหมาแมวตอนเย็นโดยไม่เลือกที่รักที่ชังอีก ด้วยสิ่งนี้เรานั้นถือว่าเป็นบุญกุศลนักแล*****
    .....แล้วท่านทั้งหลายล่ะ ท่านทั้งหลายเห็นว่าชีวิตหมา แมว หรือสัตว์อื่นๆมีคุณค่าเท่าเทียมกันหรือไม่ ในเมื่อเรานั้นยังหวงแหนในชีวิตของเรา แล้วสัตว์อื่นเล่าเขาจะไม่หวงแหนในชีวิตของเขาบ้างหรือ?.....เรานั้นขออนุโมทนาบุญมาด้วยประการ ณ ฉะนี้แล.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  2. AYACOOSHA

    AYACOOSHA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +2,253
    ถ้าพูดถึงเรื่องของความมีชีวิตโดยที่ไม่คิดสิ่งที่ปรุงแต่งแล้ว ทุกชีวิตย่อมเสมอภาคกัน คือ การมีชีวิต
     
  3. โลกุตตระ

    โลกุตตระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    448
    ค่าพลัง:
    +2,624
    อนุโมทนากับท่านเนตรอิศวร..ธรรมทานเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งกินใจความยิ่งนัก สาธุ ครับ..
     
  4. โพธิบัลลัง

    โพธิบัลลัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +21
    ท่านเนตรอิศวร ผมว่าท่านนั้นคงจะได้พระโสดาบันแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...