ถามเรื่องพีระมิดและสฟิ้ง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Archeopteric, 27 ตุลาคม 2012.

  1. จิตสุดท้าย

    จิตสุดท้าย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +54
    ผมเป็นคนหนึ่งที่เคารพศรัทธาพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์อย่างบริสุทธิ์ใจ เพราะผมเชื่อว่าจะสามารถทำผมพ้นทุกข์ได้จริง แต่ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยให้ผมพ้นทุกข์ได้เร็วขึ้นโดยที่สิ่งๆนั้นไม่ขัดต่อพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ผมก็พร้อมที่เปิดใจยอมรับและศึกษา ผมก็พบว่าพระมิดและองค์สฟิงซ์เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถทำให้ผมได้รับสิ่งดีๆมากมาย และที่สำคัญไม่ขัดต่อพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ผมจึงเชื่อและศรัทธา ไม่ใช่ว่าไม่ถูกกับความคิดของตนเองก็ตัดสินว่าสิ่งนั้นไม่ดี คนประเภทนี้น้ำเต็มแก้วน่าสงสารที่สุด
     
  2. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    สิ่งที่คุณถาม คุณก็เขียนคำตอบไว้เรียบร้อยแล้ว

    หากคุณพิจารณาด้วยปัญญา


    หากคุณคิดว่า เรื่องที่คุณถามนี้จะเป็นสิ่งที่เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น
    คุณก็ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติเองอย่างจริงจัง ซึ่งในเว็ปบ้านสวนพีระมิดมีแนวทางให้หมดแล้ว


    ขอเพียงละ วิจิกิจฉา นิวรณ์ 5 สุดท้าย
    คือ ความลังเลสงสัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดความมืดมัวแก่จิต ไม่อาจจะเห็นแจ้งในธรรมได้
    ปฏิบัติเอง พิสูจน์เอง ย่อมรู้ผลด้วยตนเอง

    ดีกว่ามาเที่ยวตั้งกระทู้ถาม ทั้งที่เห็นว่าไม่ใช่ทางดับทุกข์ ที่พระพุทธองค์ทรงไม่สอน ไม่ให้สนใจ
     
  3. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950

    เราเลยเข้าไปลัทธิอนุตรธรรมมา ปรากฎว่า ถูกแช่ง เยอะมาก ขู่ให้ตกนรก เพราะดันเข้าไปแล้ว ไม่ไปอีก เพราะได้คาถามาแล้ว

    เรายอมรับว่า เรายังวางไม่ได้ทั้งหมด เพราะคำแช่ง/คำขู่ นั้นทำให้เราโกรธพอดู ทั้งๆที่ ตอนยังไม่ได้เข้าไปศึกษา ก็คบกันดีๆ

    การเข้าไปศึกษาถึงที่ นั้น หากใช้ปัญญา ต้องคู่กับคำว่า "เข้าไปก็ไม่เสียหายอะไร"

    ถามเจ้าของกระทู้ว่า เคยได้ยินคำว่า จับแพะชนแกะหรือเปล่า (ในความคิดเรานะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2012
  4. ลี้ท่ำฮวย

    ลี้ท่ำฮวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +178
    สิ่งก่อสร้างนี้ก็เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของเหล่ากษัตริย์โบราณเท่านั้นเอง เหมือนนครวัด กำแพงเมืองจีน ทำนองนั้น คนงานก่อสร้างก็คงถูกเกณฑ์มาและจ่ายด้วยค่าแรงถูกๆ
    สิ่งก่อสร้างใดที่ถูกสร้างมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา เป็นธรรมดาที่จิตสุดท้ายก่อนตายจะวนเวียน ยึดมั่น อยู่แถวๆนั้น ต่อมา คนยุคปัจจุบันเมื่อสัมผัสพลังงานต่างๆนั้นได้ชัดบ้าง บางเบาบ้าง ก็อุปโลกให้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไป วัฒนธรรมทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้ และจะยังเป็นเช่นนี้ตลอดไป เพราะว่าคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก ก็หนีไม่พ้นเรื่องประดานี้
     
  5. Light Candle

    Light Candle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +59
    ปิรามิด พลังงานและความลับของจักรวาล​


    หลายปีมานี้รูปทรงของตัวปิรามิดเองได้สร้างประสบการณ์ และความสนุกทางด้านพลังงานให้กับผู้สนใจและทดลองใช้มากมายทำให้กลายเป็นจุดสนใจต่อผู้คนต่างๆทั่งโลกที่จะค้นหาพลังที่แท้จริงของมันว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร? ฃึ่งส่วนมากได้นำไปทดลองใช้ในด้านต่างๆแล้วได้ผลดีมากมาย ตัวอย่างเช่น...

    ด้าน อาหาร,การเกษตร และการเลี้ยงสัตว์
    การนำพืชอาหารหรือสิ่งมีชีวิตที่เติบโตได้ ไปเลี้ยงดูในปิรามิด ผลที่ได้รับคือ :
    -อาหารยังคงสด ได้ยาวนานกว่าดิม 2-3 เท่า
    -อาหารเปลี่ยนรสชาติไปโดยรสในธรรมชาติจะถูกขยายให้แรงขึ้น ความเป็นกรดจะลดลง
    -กลิ่นอาหารที่ถูกปลอมปน จะจางหายไป
    -ปิรามิดจะขจัดน้ำออก ทำให้แห้งแต่ไม่เน่าเสียหยุดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้
    -การเลี้ยงกุ้งน้ำเค็ม ปกติมีอายุ 6-7 สัปดาห์ แต่ภายในปิรามิดอายุเกินไปถึง 3 เท่า
    -สัตว์ที่อาศัยอยู่รอบๆบริเวณ นิสัยไปในทางบวก แมวกับหมาอาศัยอยู่ร่ามกันได้อย่างประหลาด

    ด้าน การแพทย์
    -แผลที่เย็บหายไว และติดกันเร็วขึ้น2เท่า
    -ความดันโลหิตที่ผิดปกติ กลับมาสู่จุดสมดุลย์ได้
    -คนที่เฉี่อยชา กลับดูกระฉับกระเฉงขึ้น
    -ผู้ที่มีอาการทางสมอง มีผลลัพธ์ไปในทาวบวกเร็วขึ้น

    การนั่งสมาธิกับ ปิรามิด
    -คลื่นสมองอัลฟาเพิ่มขึ้น
    -สงบนิ่ง ดิ่งลงลึกมากกว่าเดิม
    -เมื่อถ่ายภาพด้วยกล้องแสงออร่า แสงสว่างปรากฎเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    ผลอื่นๆ ที่เกิดขึ้น....
    -บางคนมีอาการปวดเสียวคล้ายหนามแทงบนผิว (เป็นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆที่ผิวหนัง)
    -บางคนมีอาการคลื่นไส้เนื่องจากสารพิษในร่างการถูกขับออกมา
    -อุณหภูมิร่างายเพิ่มสูงขึ้น (เหมือนได้ออกกำลังกาย)
    -การบิดเบือนกาลเวลาให้ช้าลง (เข้าไปใช้ในช่วงสั้นๆแต่กลับรู้สึกว่าได้พักผ่อนเต็มที่)

    ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังของปิรามิด กล่าวไว้ว่า....
    เหตุทีเป็นเช่นนั้นอาจเนื่องมาจาก รูปทรงของมันสามารถขยายคลื่นสัญญาณได้ โดยมีตัวเราเป็นผู้ส่งคลื่นคล้ายเครื่องรับและเครื่องส่งโดยปิรามิดพยายามสร้างแรงสั่นสะเทือนเคลื่อนย้ายอะตอมที่เป็นส่วนเกินออกไปคงให้เหลือไว้เฉพาะอะตอมต้นกำเนิดเท่านั้น ธาตุของคลื่นผู้ส่งและมุมเวกเตอร์ของปิรามิด สร้างรูปแบบของพลังงานให้เกิดความถี่สั่นสะเทือนและขยายให้แรงขึ้น ใหญ่ขึ้นได้และจัดเรียงโมเลกุลใหม่ เช่นโมเลกุลของธาตุน้ำทรงแปดเหลี่ยมให้เป็นแบบแถวเดี่ยวอีกครั้ง...

    กระทู้ที่ท่าน MOUNTAIN ได้โพสต์ไว้ใน ปิรามิด พลังงานและความลับของจักรวาล
     
  6. Archeopteric

    Archeopteric Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +53
    สิ่งก่อสร้างนี้ก็เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของเหล่ากษัตริย์โบราณเท่านั้นเอง เหมือนนครวัด กำแพงเมืองจีน ทำนองนั้น คนงานก่อสร้างก็คงถูกเกณฑ์มาและจ่ายด้วยค่าแรงถูกๆ
    สิ่งก่อสร้างใดที่ถูกสร้างมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา เป็นธรรมดาที่จิตสุดท้ายก่อนตายจะวนเวียน ยึดมั่น อยู่แถวๆนั้น ต่อมา คนยุคปัจจุบันเมื่อสัมผัสพลังงานต่างๆนั้นได้ชัดบ้าง บางเบาบ้าง ก็อุปโลกให้กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไป วัฒนธรรมทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้ และจะยังเป็นเช่นนี้ตลอดไป เพราะว่าคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก ก็หนีไม่พ้นเรื่องประดานี้


    ขอบคุณสำหรับคำตอบ
     
  7. ขวานฟ้า

    ขวานฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +100
    55555 ขำดี ในที่สุดก็ได้เจอคำตอบดังที่ตนเองคาดหวังไว้สักทีนะ ที่ผ่านมาใครตอบก็ไม่พอใจ เพราะไม่ได้ดั่งใจที่ตนเองคิดสิน๊าา แต่ใครไม่รู้พอมาตอบดันโดนใจ ถึงไม่มีที่มาที่ไป แต่ขอให้โดนใจก็พอ 55555
     
  8. Siren444

    Siren444 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +14
    บางทีเรื่องบางเรื่อง มันก็อยู่นอกเหนือตำรา แต่คนชอบติดตำรา สงสัยจังเลย คนที่เขาอ่านมากๆ นี่ เขาบรรลุธรรมกันด้วยการอ่าน หรือ การปฎิบัติ น๊า >< ในที่สุดเจ้าของกระทู้ก็ได้คำตอบ เป็นที่น่าพอใจแล้ว งั้นคำตอบของเราก็ ขอเก็บเอาไว้รู้คนเดียว ดีกว่า จริงๆมันมีไม่อะไรมากกว่านั้น หมดสงสัยแล้วนะค่ะ ยินดีด้วยคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  9. Archeopteric

    Archeopteric Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +53
    ลืมอ่านกระทู้แรกรึป่าวครับที่ผมกล่าวว่า
    ขอบคุณทุกคำตอบ
    ทุกคำตอบไม่มีผิดไม่มีถูกนะครับ
    เป็นเพียงแค่ความเห็นเท่านั้น


    แต่ถ้าอยากให้ออกความคิดเห็นแล้วละก็

    คำตอบที่ชอบมากที่สุด คือ คำตอบของคุณ กะตัง คห. 20 นะครับ
    เพราะ

    1. ตอบตรงตามประเด็น คือ ตอบว่าไม่ใช่พระพุทธศาสนา

    2. มีเหตุผลมาแสดงว่า เป็นของอียิป มีรูปมาให้ดูด้วย


    ส่วนท่านความคิดเห็นอื่นก็ดูน่าเชื่อบ้างไม่น่าเชื่อบ้าง

    ส่วนใหญ่มีแต่คำพูดลอยๆ ไม่มีเหตุผลยืนยัน

    แต่ก็ไม่ได้วิจารณ์ว่าใครผิดใครถูกนี่นา

    ถามความคิดเห็นเฉยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2012
  10. Archeopteric

    Archeopteric Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +53
    บางทีเรื่องบางเรื่อง มันก็อยู่นอกเหนือตำรา แต่คนชอบติดตำรา สงสัยจังเลย คนที่เขาอ่านมากๆ นี่ เขาบรรลุธรรมกันด้วยการอ่าน หรือ การปฎิบัติ น๊า ><
    ตอบ 1 : เขาบรรลุด้วยการอ่าน (หรือการศึกษา) และการปฏิบัติครับ
    ขยายความนิดนึงเผื่อจะตีความไม่ออก คือคุณต้องศึกษาก่อนแล้วจึงปฏิบัติครับ
    เพราะอะไร?
    คนที่ศึกษาด้วยการอ่านหรือการฟังอย่างเดียว แต่ไม่ลงมือปฏิบัติ
    ก็เปรียบเหมือนกับคนที่ต้องการเดินทางจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่
    เขาผู้นั้นเฝ้าศึกษาค้นหาเส้นทาง จนได้เส้นทางที่ใกล้ที่สุด ดีที่สุด
    และสะดวกที่สุด แต่เขาผู้มิได้ออกเดินทาง คุณ Siren444 คิดว่า
    บุคคลผู้นั้นจะสามารถไปถึงเชียงใหม่ได้อยู่หรือ?
    ส่วนคนที่ปฏิบัติอย่างเดียว แต่ไม่ศึกษา ก็เปรียบเหมือนกับ
    คนที่ออกเดินทางเลย โดยไม่ได้ศึกษาเส้นทาง คุณ Siren444 คิดว่า
    บุคคลผู้นั้นจะสามารถไปถึงเชียงใหม่ได้อยู่รึป่าว?
    ดังนั้นบุคคลจะบรรลุธรรมนั้นต้องอาศัยการศึกษาและปฏิบัติ
    ควบคู่กันไป จึงจะประสบความสำเร็จได้ โดยเริ่มจากศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธรรมะ จากนั้นก็มาตั้งใจปฏิบัติตามธรรมนั้น
    ดังคำกล่าวที่ว่า ปริยัติ-ปฏิบัติ-ปฏิเวธ พระพุทธเจ้าท่านเรียงลำดับไว้ดีแล้ว
    เอางี้ดีกว่าครับคุณ Siren444 ผมถามคุณง่ายๆเลยว่า
    เวลาคุณจะไปที่ไหนซักทีคุณจะหาเส้นทางก่อนหรือคุณจะออกเดินทางเลยโดยไม่สนใจเส้นทางครับ?



    ตอบ 2 : ผมยอมรับครับว่าผมเป็นคนชอบยึดตำรา เพราะมันเป็นรูปธรรม
    สามารถใช้อ้างอิงได้ แต่ผมก็ไม่ได้ติดนะครับ ผมพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นเสมอ ดูได้จากคำพูดที่ว่า

    "คืออ้างอิงมาจากไหนหรอครับ มีหลักฐานไหม
    ในพระไตรปิฎกมีไหม
    ที่ถามถึงพระไตรปิฎกไม่ได้หมายความว่า
    ถ้าไม่มีในพระไตรปิฎกจะไม่เชื่อนะครับ
    แต่พระไตรปิฎกเหมือนเป็นรูปธรรมมากกว่า
    เป็นหลักที่น่าเชื่อถือกว่า (ถึงแม้จะเป็นมุขปาฐะก็ตาม)
    แต่ถ้าท่านจะบอกว่า ฝึกมโนมยิทธิแล้วไปเห็น
    ฝนก็เชื่อนะครับ แล้วจะลองทำดูว่าจะเห็นจริงไหม
    "


    ในที่สุดเจ้าของกระทู้ก็ได้คำตอบ เป็นที่น่าพอใจแล้ว งั้นคำตอบของเราก็ ขอเก็บเอาไว้รู้คนเดียว ดีกว่า จริงๆมันมีไม่อะไรมากกว่านั้น หมดสงสัยแล้วนะค่ะ ยินดีด้วย

    ตอบ 1 : คำตอบที่ผมพอใจตอบไว้ใน คห. 29 ครับ
    ถ้าคุณมีเหตุผลดีๆ ผมก็ยินดีรับฟังครับ



    ปล. บางทีเรื่องจริงที่ไร้ประโยชน์หลายเรื่องมันก็อยู่นอกเหนือตำราครับ


    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัส ว่า "ฉันใดก็ฉันนั้นแหละ ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรารู้แล้ว ไม่ได้บอกเธอมีมากมาย สาเหตุที่เราไม่บอกในเรื่องเหล่านั้น ก็เพราะสิ่งเหล่านั้น ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่การเริ่มต้นในการปฏิบัติที่ดีงาม ไม่ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายในทุกข์ ไม่ทำให้ปราศจากราคะ ไม่ทำให้ดับทุกข์ ไม่เกิดความสงบ ไม่เกิดความรู้ที่ยอดเยี่ยม ไม่เกิดความตรัสรู้ ไม่ทำให้นิพพานได้ เพราะเหตุนี้แหละ เราจึงไม่บอก"
     
  11. visanu

    visanu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2005
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +197
    รู้แต่ว่าสฟิงจะชอบ เล่นถามตอบ ถ้าตอบไม่ได้จะถูกจับกิน
     
  12. Pat2525

    Pat2525 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +56
    คงต้องถามว่า คุณรู้จักศาสนาพุทธ หรือพีระมิด สฟิงค์

    ดีแค่ไหน??

    แล้วจึงจะสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้


    ถ้าไม่มีความรู้จริงในเรื่องทั้งสองคงจะไม่มีคำตอบที่ทำให้คนโลกแคบ

    หรือใจแคบ หรือคนขวางโลก ...เข้าใจได้



    ในอดีตนักวิทยาศาสตร์เคยบอกว่า ...โลกแบน

    คนทั้งโลกก็เชื่อเช่นนั้น มาเป็นเวลานานมาก ๆ

    แต่เมื่อวันหนึ่งเกิดมีคนเดินทางไปค้นหา และพิสูจน์แล้วว่า

    จริง ๆ แล้ว ...โลกมันกลม

    คนทั้งหลายจึงยอมรับและได้ความรู้ใหม่ซึ่งเป็นความจริงขึ้นมา



    นั่นแสดงว่า สิ่งทั้งหลายบนโลก หรือจักรวาล ยังมีอีกมากมาย

    ที่คนในอดีต ยังค้นไม่พบ ยังหาไม่เจอ...



    แต่เราเชื่อมั่นอย่างหนึ่งว่า

    สิ่งใดที่สามารถส่งเสริมให้คนเป็นคนดี สร้างพลังบวกได้..ย่อมเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน

    พระพุทธองค์และศาสดาของทุกศาสนา ซึ่งมีจุดหมายเดียวกัน

    คือต้องการให้ทุกคนเป็นคนดี ก็คงไม่กีดกันให้คนมาสนใจ
     
  13. อัญลา

    อัญลา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +12
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Archeopteric
    พอดีเห็นกระทู้เกี่ยวกับบ้านสวนพีระมิดแล้ว

    สงสัยว่า...

    ใช่พระพุทธศาสนาจริงๆเหรอ?

    เพราะพระพุทธเจ้าเองพระองค์ทรงให้

    บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เท่านั้น

    พีระมิดและสฟิงมาได้ยังไง?

    ผู้ใดรู้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย
    *******************

    แบบว่า อยากถามว่าทุกวันนี้คุณ Archeopteric ได้ใช้ มือถือ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ หรือเปล่าคะ และเชื่อว่าอุปกรณ์เหล่านี้ก็คงไม่ได้อยู่ในพระไตรปิฏกหรอกนะคะว่า พระพุทธองค์ท่านทรงห้ามใช้ หรือเป็นสิ่งที่ขัดกับหลักคำสอนของศาสนาพุทธ ที่คุณอ้างยึดตามตำราแล้วจะรู้ได้งัยคะว่าคุณได้อ่าน วิเคราะห์ พิสูจน์ศึกษาตำราจบเล่มหรือเปล่า อาจยังมีสิ่งต่างๆ อีกมากมายที่เป็นความลับ หรือไม่ได้กล่าวถึงบรรจุอยู่ในตำราที่มีอยู่
    ฉะนั้นในส่วนตัวแล้วคิดว่า ในเมื่อพีระมิด และสฟิงซ์ ไม่ได้ย่ำยี ลบหลู่ หรือขัดต่อหลักคำสอนของศาสนาพุทธเลย ในขณะเดียวกันกลับเป็นตัวช่วยกระตุ้น ย่นย่อ ส่งเสริมให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงการหา "ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับผลก็ดับ" ความสำคัญของการรักษาศีล และเกรงกลัวการทำบาปมากขึ้น คนที่ทำดีรักษาศีล ก็จะมีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต หายเจ็บ ป่วย จน มีความมสุขากขึ้น ซึ่งผลจากการที่มีผู้ที่ได้บูชาไปก็สามารถมาเล่า บอกกล่าว พิสูจน์ให้เห็นได้จากผู้ที่ได้บูชาไป ส่วนคนที่เป็นคนตาบอดคลำช้างเจอหางช้างก็จะยืนยันในความคิดเช่นเดิมว่าช้างที่ตนเองรู้มีลักษณะเป็นหาง ยืนยัน นอนยัน ก็คงจะได้ความรู้แบบแคบๆ ต่อไป ไม่ว่ากัน ทำไมอยากรู้อะไรไม่ลองพิสูจน์ด้วยตนเองเล่า แต่ต้องพิสูจน์แบบใจกลางๆ นะคะ อย่าพิสูจน์แบบอวิชชาเที่ยวถามคนอื่นเอา พอใจคำตอบไหนก็สรุปตามนั้น ถ้าอยางนี้ที่บ้านเรียกว่าเป็นชาวพุทธตามทะเบียนบ้าน เหมือนที่ข้าพเจ้าได้เคยเป็นมานาน ปากก็บอกนับถือพระพุทธเจ้า ถือศีล 5 แต่ขอโทษค่ะคำสอนของพระพุทธองค์ยังทำได้ไม่เต็มที่เลย ศีลด่าง ขาด ทะลุ มาตลอด อยากรู้อะไรก็ไม่ปฏิบัติตามแนวคำสอนของพระพุทธองค์ ต้องรอให้ผู้อื่นมาบอกเล่าให้ฟังโดยไม่ใช้หลัก กาลามสูตร พิจารณา
    แอขอผู้มีความรู้ด้าน กาลามสูตร ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ เผื่อข้าพเจ้าจะได้มีดวงตาเห็นธรรมบ้างหน่ะคะ เพราะข้าพเจ้าแต่เดิมชอบหลงตำรา เชื่อตามๆ กันมา เชื่อเพราะผู้พูดน่าเชื่อถือ เชื่อเพราะเหตุผลน่าฟัง เชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตนเอง แต่ตอนนี้จะขอเชื่อเมื่อได้พิสูจน์และเห็นผลด้วยตนเองเท่านั้น
     
  14. สี่จุด

    สี่จุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    705
    ค่าพลัง:
    +3,659
    ละ..ลด...อัตตา แล้วจะบรรลุธรรมได้ง่ายกว่านี้
     
  15. Talnoi

    Talnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +112
    ขอเรียนถามคุณ Archeopteric

    เนื่องจากตัวเราเอง ไม่ค่อยได้อ่านพระไตรปิฏก เพราะอ่านไม่รูเรื่อง

    อยากรบกวนคุณ Archeopteric ช่วยแนะนำเราหน่อยว่า ถ้าชาตินี้เราปรารถนา

    เข้าถึงนิพพาน เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง ขอจงได้ชี้ทางสว่างให้แก่เราด้วย
     
  16. Wilai99

    Wilai99 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +23
    พีระมิดเปรียบเสมือนเครื่องขยายบุญ
    ทำให้เมื่อทำบุญแล้วได้รับอานิสงส์รวดเร็วค่ะ
    ขอเล่าเรื่องชีวิตตัวเองที่ได้รับอานิสงส์จากบุญบ้านสวนพีระมิด

    ก่อนที่จะได้มารู้จักบ้านสวนพีระมิด ชีวิตของข้าพเจ้าในเวลานั้นประสบกับความทุกข์ในทุกด้านทั้งปัญหาผิวพรรณสิวที่ขึ้นมาเต็มหน้า ปัญหาการเงินไม่มีสภาพคล่องมีแต่รายจ่าย มีปัญหากับหัวหน้างานทะเลาะกับหัวหน้างานถึงขนาดต้องการย้ายโรงเรียน มีปัญหาความรักแฟนที่คบกันหลายปีบอกเลิกและทำร้ายจิตใจข้าพเจ้าสารพัดอย่าง ทุกข์มากจนปวดไปหมดทั้งหัวใจ ความทุกข์ทั้งหลายที่ประดังเข้ามาในชีวิตเราในตอนนั้น ก็คงเป็นเพราะผลกรรมที่ข้าพเจ้าขับรถชนคุณตาคนหนึ่งเสียชีวิต และไม่สำนึกผิดในบาปที่ตัวเองทำให้คุณตาต้องตาย ต้องพลัดพรากจากคนที่คุณตารัก จึงทำให้คุณตาผูกอาฆาตแค้นข้าพเจ้ามาก ทำให้หลังจากเกิดเหตุการณ์ข้าพเจ้าต้องพบกับความทุกข์ในทุกด้าน

    ต้องการที่ย้ายกลับมาทำงานที่โรงเรียนใกล้บ้าน เพราะข้าพเจ้าต้องขับรถจากบ้านที่จ.กำแพงเพชรไปทำงานที่จ.สุโขทัยทุกวัน ข้าพเจ้าพยายามทำทุกอย่างที่ย้ายกลับบ้านทั้งไปสอบโอนย้ายซึ่งก็สอบได้ที่ 1 เข้าพบผู้ใหญ่ให้ผู้ใหญ่หลายคนช่วยดำเนินการ ยอมจ่ายเงิน แต่ก็ไม่สามารถย้ายกลับบ้านได้ จนข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจว่าทำไมเราทำขนาดนี้แล้วยังย้ายกลับบ้านไม่ได้ก็เลยไปถามพระสายกรรมฐานว่าทำไมหนูถึงย้ายกลับบ้านไม่ได้ พระท่านบอกว่ามีบุคคลหนึ่งขวางไม่ให้ไป ข้าพเจ้าจึงได้รู้ว่าเป็นคุณตาที่ข้าพเจ้าขับรถชนเค้าตาย เค้ายังไม่ไปไหน

    สิ่งที่มาปลดล็อคให้ข้าพเจ้าได้ก็คือค่ายพิเศษสร้างบุญใหญ่ที่บ้านสวนพีระมิด สำหรับคนที่เคยทำแท้ง มีส่วนรู้เห็นในการทำแท้ง ฆ่าคน มีส่วนรู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าคน หลังจากได้ร่วมสร้างบุญใหญ่แล้วในเวลากลางคืนท่านอาจารย์อุบลได้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าเมตตาให้เราได้เห็นได้สัมผัสวิญญาณที่เราเคยฆ่า พี่ๆหลายคนที่เคยทำแท้ง ก็ได้เห็นลูกตัวเอง ที่มาทั้งสภาพมีกลิ่นเหม็นไม่มีเสื้อผ้าเพราะไม่เคยได้รับบุญอยู่อย่างทุกทรมาน บ้างก็มีกลิ่นหอมมีเสื้อผ้าใส่เพราะได้บุญจากแม่ ส่วนตัวข้าพเจ้ารู้สึกและรับรู้ได้เลยว่ามีวิญญาณจำนวนมากรายล้อมข้าพเจ้า และที่สำคัญที่สุดก็คือ วิญญาณคุณตาเฉลียว น่วมหมวก ที่มาปล็อคหลังข้าพเจ้าไว้ และพูดด้วยเสียงดังว่า “มึงไม่ได้สำนึกผิดจริงๆที่มึงฆ่ากู” ตอนนั้นข้าพเจ้าตกใจกลัวมากแทบจะกรี๊ดออกมา ต่อจากนั้นท่านอาจารย์ก็รวมบุญทั้งหมดที่พวกเราได้สร้าง ส่งวิญญาณขึ้นสู่ดาวดึงส์ ภาพที่ปรากฏในความรู้สึกของข้าพเจ้าที่ชัดเจนมากๆก็คือ ข้าเจ้าเห็นผู้ชายใส่ชุดขาวเป็นแก้วใสมีชฏา เห็นวิมานแก้ว ข้าพเจ้าจึงได้รู้ว่าคุณตาขึ้นดาวดึงส์แล้ว

    หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็สำนึกผิดด้วยหัวใจจริงๆว่าเพราะความประมาทของข้าพเจ้า ทำให้คุณตาท่านต้องตาย ทำให้ท่านต้องพลัดพรากจากคนที่ท่านรัก ขอกราบขอบพระคุณคำพูดเตือนสติของท่านอาจารย์อุบลที่ทำให้ข้าพเจ้าคิดได้ และนับจากนั้นเป็นต้นมาข้าพเจ้าก็อุทิศบุญให้คุณตาอยู่เสมอ

    หลักฐานที่แสดงว่าคุณตาปล่อยข้าพเจ้าแล้วก็คือ หลังจากกลับจากค่ายสร้างบุญใหญ่ที่บ้านสวนพีระมิดประมาณ 2 – 3 อาทิตย์ ข้าพเจ้าก็ได้รับคำสั่งย้ายกลับบ้าน เป็นการย้ายกลับที่ไม่ได้เสียเงิน ไม่ได้วิ่ง ไม่ได้ส่งผลงานให้กรรมการพิจารณาแต่อย่างใด แต่เป็นการได้มาเพราะอานิสงส์บุญจากบ้านสวนพีระมิด ที่ทำให้คุณตายอมปล่อยข้าพเจ้า หลังจากนั้น ชีวิตของข้าพเจ้าก็ดีขึ้นเรื่อยๆในทุกด้าน

    กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อุบล ท่านอาจารย์มงคล และคุณท๊อปที่ได้เสียสละความสุข ความเป็นส่วนตัว เวลา ทรัพย์สินเงินทอง เปิดบ้านส่วนตัวของตนเองให้เป็นสถานที่สร้างบุญ และสอนธรรมทำให้ผู้คนและตัวข้าพเจ้าได้พ้นจากความทุกข์และพบกับความสุขค่ะ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...