ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    <TABLE class=tborder id=post692697 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>piakgear24<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_692697", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:00 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2006
    สถานที่: โลกมนุษย์
    อายุ: 32 ปี
    ข้อความ: 1,135 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 11,305 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 10,930 ครั้ง ใน 1,142 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 1207 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_692697 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->
    "สึนามิ" ที่ชวา คำเตือน"มหาวินาศภัย"ใกล้เยือน
    ย้อนหลังไปเมื่อ 1 มกราคมที่ผ่านมา "มติชน" เคยนำเสนอรายงานเรื่องคำเต<WBR>ือนของนักวิชาการด้านธรณีว<WBR>ิทยาแผ่นดินไหวชื่อดังชาวอเมริก<WBR>ันอย่าง เคอร์รี่ เซียห์ ไว้ว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ก่อให<WBR>้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันท<WBR>ี่ 26 ธันวาคม 2547 พื้นผิวเปลือกโลกใต้ทะเลบร<WBR>ิเวณใกล้เคียงกันนี้เปลี<WBR>่ยนสภาพไปอย่างมาก แต่แทนที่สภาพที่เปลี่ยนแปลงไปด<WBR>ังกล่าวจะทำให้พื้นผิวใต้ทะเลม<WBR>ีเสถียรภาพมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกับก<WBR>่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องไปย<WBR>ังบริเวณใกล้เคียง

    ผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงครั<WBR>้งใหญ่ดังกล่าวในความเห็นของน<WBR>ักธรณีวิทยาชาวอเมริกันผู้นี้นั<WBR>้น น่าจะทำให้โอกาสเกิดแผ่นด<WBR>ินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในแนวรอยเ<WBR>ลื่อนของเปลือกโลกด้านใต<WBR>้ลงมาจากจุดที่เกิดเหตุแผ่นด<WBR>ินไหวใหญ่ระดับความรุนแรง 9.3 ริกเตอร์ดังกล่าวมีมากขึ้นกว<WBR>่าเดิม เร็วขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญก็คือ ระดับความรุนแรงและผลกระทบแทบจะอ<WBR>ยู่ในระดับเดียวกันหรือร<WBR>้ายแรงกว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่อยู่ในความทรงจำของโลกทั<WBR>้งโลกมาจนถึงขณะนี้

    ผ่านมา 6 เดือนเศษ ข้อมูลของสำนักงานสำรวจทางธรณีว<WBR>ิทยาของสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอ) ระบุว่า เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ระดับ 7.0 ริกเตอร์ขึ้นไปในพื้นที่ที่เร<WBR>ียกกันว่า "ริง ออฟ ไฟร์-วงแหวนไฟ" ที่พาดผ่านริมขอบมหาสมุทรแปซิฟ<WBR>ิกทั้ง 2 ด้านและรวมถึงอาณาเขตพื้นที<WBR>่ของประเทศอินโดนีเซียด้วยนั้น มากจนผิดสังเกต

    กล่าวคือโดยเฉลี่ยแล้วในช่วง 1 ปี จะเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าวราว 19.4 ครั้งต่อปี แต่ในปี 2549 นี้เพียงครึ่งปีแรก มันเกิดขึ้นมาแล้วมากกว่า 30 ครั้ง

    ที่น่าสนใจก็คือ เหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งหลังสุดซึ่งเกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้น เป็นเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ<WBR>้นในอินโดนีเซีย ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2549 จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู<WBR>่ใกล้กับเมืองยอร์กยาการ์ตา บนเกาะชวา ระดับความรุนแรงเดิมวัดได้ 6.3 แต่ยูเอสจีเอปรับความรุนแรงใหม<WBR>่ในเวลาต่อมาเป็น 7.1 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ด<WBR>ังกล่าวกว่า 5,800 คน

    ครั้งล่าสุด คือเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ<WBR>้นนอกชายฝั่งเกาะชวาเมื่อประมาณ 15.15 น. วันที่ 17 กรกฎาคม 2549 วัดระดับความรุนแรงได้ถึง 7.7 ริกเตอร์ จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแน<WBR>่นอนแล้วมากกว่า 300 คน

    ประเด็นสำคัญก็คือ เหตุแผ่นดินไหวทั้ง 2 ครั้งเกิดขึ้นบนแนวรอยเลื่อน "ซุนดา เทรนช์" ตามที่เคอร์รี่ เซียห์ ทำนายไว้ไม่ผิดเพี้ยน

    แผ่นดินไหวครั้งหลังสุดที่ทำให<WBR>้เกิดสึนามิขึ้นมานั้น เกิดห่างจากจุดที่เคอร์รี่ เซียห์ ทำนายไว้ว่าจะเกิดเพียง 600-700 กิโลเมตรเท่านั้น!

    ความเคลื่อนไหวของเปลือกโลกในขณะ<WBR>นี้ ดูเหมือนกำลังตอกย้ำคำทำนายของน<WBR>ักธรณีวิทยาชาวอเมริกันผู้นี้ให<WBR>้เป็นความจริงขึ้นมา

    ดังนั้น จึงควรค่าอย่างยิ่งที่จะย้อนกล<WBR>ับไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอ<WBR>ีกครั้งว่า เคอร์รี่ เซียห์ ทำนายเอาไว้ว่าอย่างไร? และใช้ข้อมูลอะไร วิธีการใด มาใช้ในการทำนายทายทักดังกล่าว


    **อะไรเกิดขึ้นในคืน"มหาสึนามิ"

    หลังเกิดเหตุสึนามิไม่นาน เรือเพื่อการวิจัยสัญชาติเยอรมน<WBR>ีชื่อ "ซอนเน่" กับเรือลักษณะเดียวกันชื่อ "เพอร์ฟอร์เมอร์" ของสหรัฐอเมริกา ยกเลิกภารกิจที่ทำอยู่ทั<WBR>้งหมดของตัวเองทันทีเพื่อมุ่งหน<WBR>้าลงมายังพื้นที่เป้าหมายในมหาสม<WBR>ุทรอินเดีย

    เรือทั้งสองลำเต็มไปด้วยวัสดุอ<WBR>ุปกรณ์ที่จำเป็นในการสำรวจทางธรณ<WBR>ีวิทยาและสมุทรศาสตร์ ปกติแล้วการตอบรับภารกิจใดๆ จะต้องผ่านการ "จองล่วงหน้า" นานเป็นปีๆ แต่ความน่าสะพรึงกลัวของสึนาม<WBR>ิในวันบ๊อกซิ่งเดย์ ทำให้ธรรมเนียมปฏิบัติดังกล<WBR>่าวหมดความสำคัญลงไปทันที

    นานหลายเดือนที่เรือทั้งสองลำพร<WBR>้อมนักวิจัยอีกเป็นจำนวนมากตระเว<WBR>นซิกแซ็กข้ามไปมาจนครอบคลุมทั<WBR>่วพื้นที่บริเวณท้องทะเลนอกชายฝ<WBR>ั่งด้านตะวันตกของเกาะสุมาตรา ตรวจสอบพื้นผิวใต้ทะเลลึก มองหารายละเอียดทุกอย่างที<WBR>่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้

    ภายใต้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ช<WBR>ิด บรรดานักวิทยาศาสตร์ นักธรณีวิทยา และนักวิจัยได้รายละเอียดของเหต<WBR>ุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพื้นใต<WBR>้ทะเลเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ถี่ยิบแบบนาทีต่อนาที

    พวกเขาพบว่าตลอดคืนคริสต<WBR>์มาสของปี 2547 แรงดันมหาศาลผลักให้แผ่นเปล<WBR>ือกโลกที่เป็นหินหนาหลายสิบก<WBR>ิโลเมตรที่เรียกว่า "อินโด-ออสเตรเลียน เพลต" เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกอย<WBR>่างบ้าคลั่ง มันไปปะทะกับแผ่นเปลือกโลกหนาหน<WBR>ักอีกแผ่นที่เรียกว่า "ซุนดา เพลต" ซึ่งด้านบนของมันคือสุมาตราและภา<WBR>คพื้นทวีปเอเชีย ก่อให้เกิดการเบียดอัด เสียดสี กระแทกกระทั้นกันขึ้นตลอดเวลา

    01.58 น. ตามเวลายุโรปกลาง (08.58 น. ตามเวลาไทย) ของวันที่ 26 ธันวาคม 2547 แผ่นเปลือกโลกเก่า "ซุนดา เพลต" บางส่วนไม่อาจทานแรงเสียดทานได<WBR>้อีกต่อไป ริมขอบด้านหนึ่งแตกหักออก ส่วนที่เหลือถูกแรงดันของ "อินโด-ออสเตรเลียน เพลต" ดันกระแทกในลักษณะมุดลงจนโยนต<WBR>ัวขึ้นเบื้องสูง

    นั่นเป็นที่มาของแผ่นดินไหวครั<WBR>้งใหญ่ขนาด 9.3 ริกเตอร์ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี และรุนแรงเป็นอันดับ 3 เท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ในประว<WBR>ัติศาสตร์เป็นต้นมา

    แนวตะเข็บของผิวพื้นใต้ทะเลนอกชา<WBR>ยฝั่งสุมาตราที่เรียกว่า "ซุนดา เทรนช์" ปริแยกออกจากกันเริ่มตั้งแต่บร<WBR>ิเวณที่ตรงกับจุดเหนือสุดของเกาะ<WBR>สุมาตรา รอยแตกดังกล่าวลึกถึง 160 กิโลเมตร มันปริแยกออกจากกันไล่ขึ<WBR>้นไปทางเหนือด้วยระดับความเร็วส<WBR>ูงถึง 2.5 กิโลเมตรต่อวินาที เมื่อตอนที่มันหยุดการปร<WBR>ิออกจากกันนั้น กินระยะทางทั้งหมด 1,300 กิโลเมตรพอดี พื้นมหาสมุทรด้านตะวันออกของแนวด<WBR>ังกล่าวถูกผลักพรวดสูงขึ้นถึง 15 เมตรโดยฉับพลันเป็นที่มาของการเค<WBR>ลื่อนไหวอย่างเฉียบพลันและร<WBR>ุนแรงของมวลน้ำทะเลมหาศาลที<WBR>่กลายเป็นสึนามิมหาภัยในอีกไม่ก<WBR>ี่นาทีต่อมา

    แผ่นดินไหวครั้งนี้เขย่าโลกทั<WBR>้งโลก เหมือนกับเราสะบัดผ้าขี้ริ้วพลิ<WBR>้วเป็นระลอกด้านหนึ่งไปจรดปลายอ<WBR>ีกด้านหนึ่ง ศรีลังกาทั้งเกาะขยับพรวดสูงขึ<WBR>้นหลังจากนั้นก็ตกฮวบลงต่ำกว<WBR>่าระดับเดิม 9 เซนติเมตร เกาะจำนวนหนึ่งเคลื่อนที่ไปจากจ<WBR>ุดเดิมหลายสิบเซนติเมตร อนุทวีปอินเดียทั้งหมดเคลื<WBR>่อนไปทางตะวันออกเป็นระยะทาง 2 เซนติเมตรเต็มๆ

    หลายสัปดาห์หลังเหตุการณ์ดังกล<WBR>่าว เปลือกโลกทั้งโลกยังสั่นไหว...

    และทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่เคอร<WBR>์รี่ เซียห์ นำมาใช้ประกอบการพิจารณาก่อนที<WBR>่จะคาดการณ์ไว้ว่า มหาวินาศภัยรอบใหม่กำลังมาเย<WBR>ือนในอีกไม่นาน


    **ประสบการณ์สำรวจ 12 ปี

    เมื่อถูกถามว่าอะไรทำให้เขาแน<WBR>่ใจถึงกับประกาศว่าจะเกิดแผ่นด<WBR>ินไหวใหญ่มหึมาและคลื่นมหาว<WBR>ินาศขึ้นอีกครั้งในบริเวณนี้ เคอร์รี่ เซียห์ ใช้การค้นคว้าวิจัยและการสำรวจนา<WBR>นกว่าทศวรรษของเขาในพื้นที<WBR>่ละแวกนี้เป็นคำตอบ

    เซียห์บอกว่า เขากับทีมงานสำรวจพื้นที<WBR>่นอกชายฝั่งสุมาตรามานานกว่า 12 ปีแล้ว ข้อมูลที่ได้มานั้นทำให้สามารถเร<WBR>ียนรู้ถึงความเคลื่อนไหวทางธรณ<WBR>ีวิทยาของพื้นที่แถบนี้ได้ย<WBR>้อนหลังกลับไปถึง 1,000 ปี คิดเป็นวัฏจักรของการเกิดแผ่นด<WBR>ินไหวและภาวะสงบเพื่อสะสมพลังได้ 3 รอบพอดี

    นั่นถือเป็นข้อมูลที่สมบูรณ<WBR>์แบบมากที่สุดเท่าที่เคยมีการศ<WBR>ึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับแนวรอยเลื<WBR>่อนของเปลือกโลกทุกแนวเท่าที<WBR>่เคยมีมาทั้งหมด

    เซียห์กับทีมงานใช้ข้อมูลจากการส<WBR>ำรวจ 3 อย่างประกอบกันเข้าเป็นองค<WBR>์ความรู้ดังกล่าว ประการแรก เขาศึกษาข้อมูลและหลักฐานในเช<WBR>ิงประวัติศาสตร์ทั้งหมดเท่าที่ม<WBR>ีอยู่เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นด<WBR>ินไหวในย่านนี้ ประการถัดมา เขาติดตั้งอุปกรณ์กำหนดตำแหน่งผ<WBR>่านดาวเทียม (จีพีเอส) บนเกาะใหญ่น้อยต่างๆ ตามแนวปะทะของแผ่นเปลือกโลกใต<WBR>้สมุทร จีพีเอสบนเกาะเหล่านี้สามารถว<WBR>ัดการเคลื่อนของเกาะเหล่านั้นได<WBR>้ละเอียดยิบขนาดเป็นมิลลิเมตร บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวและท<WBR>ิศทางของแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใต<WBR>้มันได้เป็นอย่างดี

    ประการที่ 3 ที่ถือเป็นประการสำคัญที่สุด พวกเขาใช้วิธีอ่านเหตุการณ์ในอด<WBR>ีตผ่านการตัดขวางแนวปะการ<WBR>ังนอกชายฝั่งของเกาะต่างๆ ที่อยู่ตามแนวปะทะ หรือแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกบร<WBR>ิเวณนี้ เพราะมันเป็นที่เก็บหลักฐานของส<WBR>ิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตไว้เหมือนก<WBR>ับ "วงปี" ของต้นไม้ใหญ่

    แนวปะการังของเกาะต่างๆ ดังกล่าวนั้นจะถูกแรงผลักที่เคล<WBR>ื่อนไปในทางตะวันออกของแผ่นเปล<WBR>ือกโลกอินโด-ออสเตรเลียน เพลต ทำให้มันมุดต่ำลงราว 5 เซนติเมตรต่อปีทุกๆ ปี จะมีก็แต่ในปีที่เกิดแผ่นด<WBR>ินไหวรุนแรงเท่านั้นที่แผ่นเปล<WBR>ือกโลกจะถูกดันให้สูงขึ้นระหว่าง 5-10 เมตร ผลักแนวปะการังให้พ้นน้ำทะเลและแ<WBR>ห้งตาย ก่อนที่จะถูกดึงให้ค่อยๆ ลดต่ำลงสู่ใต้น้ำอีกครั้ง ร่องรอยการตายของปะการังในเหต<WBR>ุการณ์ดังกล่าวคือหลักฐานสำคัญท<WBR>ี่เซียห์และทีมงานค้นพบ

    เคอร์รี่ เซียห์ ระบุว่า รอยแยกของเปลือกโลกที่เกิดจากแผ<WBR>่นดินไหวเมื่อ 26 ธันวาคม 2547 และ 28 มีนาคม 2548 นั้นฉีกแผ่นเปลือกโลกออกจากก<WBR>ันเหมือนเราฉีกไม้ไผ่ออกจากก<WBR>ันเป็น 2 ซีก หรือเหมือนกับการรูดซิปให<WBR>้แยกออกจากกัน ปัญหาก็คือ แรงที่ทำให้เกิดรอยแยกดังกล่าวน<WBR>ั้นยังไม่ได้หมดไป และ รอยแยกที่เกิดขึ้นเป็นระยะทาง 1,300 กิโลเมตรนั้นเป็นเพียงแค่ 1 ใน 4 ของแนวปะทะระหว่างแผ่นเปล<WBR>ือกโลกทั้ง 2 แผ่นเท่านั้น

    สิ่งที่เซียห์พยายามจะบอกก็คือ แนวปะทะของเปลือกโลก 2 แผ่นที่ว่านั้นกำลังเสียดสีก<WBR>ันและสั่งสมพลังใกล้จะถึงจ<WBR>ุดแตกหักแล้ว ในขณะเดียวกัน แรงผลักที่เกิดขึ้นจากแผ่นด<WBR>ินไหวรุนแรง 2 ครั้งดังกล่าวยิ่งเพิ่มแรงดันให<WBR>้กับแผ่นเปลือกโลกให้มากยิ่งขึ<WBR>้นไปอีก

    เขาเปรียบเทียบให้เห็นรูปธรรมไว<WBR>้ชัดเจนอย่างยิ่งว่า แผ่นดินไหวใหญ่เมื่อ 26 ธันวาคม และ 28 มีนาคม นั้นผลักให้ "อินโด-ออสเตรเลียน เพลต" เคลื่อนเข้าหา "ซุนดา เพลต" ด้วยระยะทางเทียบเท่ากับการเคลื<WBR>่อนที่เป็นเวลา 50 ปี

    หรือพูดง่ายๆ อีกอย่างว่า ระยะเวลาที่สมควรเกิดแผ่นด<WBR>ินไหวครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งถ<WBR>ูกผลักให้เกิดเร็วขึ้นอีก 50 ปี เพราะการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก 2 ครั้งดังกล่าวนั้น!

    จากการตรวจสอบ "วงปี" ของปะการังในแถบด้านใต้ของ "นีอาส เควก" ลงมา เซียห์พบว่า บริเวณนั้นไม่เคยเกิดแผ่นไหวใหญ<WBR>่ๆ อีกเลยนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1833 เป็นต้นมา เขายังพบด้วยว่าค่าเฉลี่ยของการเ<WBR>กิดแผ่นดินไหวใหญ่ในพื้นที่ด<WBR>ังกล่าวตกประมาณ 220 ปีต่อครั้ง

    นั่นหมายความว่า ครั้งต่อไปจะเกิดใกล้เคียงกับปี 2053 หรือปี พ.ศ.2596 แต่ถ้าหากนำเอาแรงผลักจากเหตุแผ<WBR>่นดินไหว 2 ครั้งมาคำนวณร่วมด้วย แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งใหม่น่าจะเก<WBR>ิดขึ้นใกล้เคียงกับปี 2003 หรือปี 2546 ที่ผ่านมา

    แต่ในเมื่อผ่านช่วงเวลาดังกล<WBR>่าวมาแล้ว ยังไม่เกิดเหตุแผ่นดินใหญ่ระด<WBR>ับมหาธรณีวินาศภัยดังกล่าวขึ<WBR>้นตามแนวรอยเลื่อนดังกล่าว

    นั่นทำให้ เคอร์รี่ เซียห์ สรุปใจความของผลการสำรวจของเขาไว<WBR>้ว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในบริเวณด<WBR>้านใต้ของเกาะนีอาส น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ มากกว่าในอีกหลายสิบปีข้างหน้า!

    เขาเชื่อว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวหนใหม<WBR>่นี้จะอยู่ค่อนไปทางตอนกลางของเก<WBR>าะสุมาตรา บริเวณตรงกับเมืองปาดัง เมืองใหญ่ที่สุดของเกาะแห่งนี้

    ระดับความรุนแรงของมันจะใกล้เค<WBR>ียงหรือมากกว่าระดับความร<WBR>ุนแรงของแผ่นดินไหว เมื่อ 26 ธันวาคม 2547...

    และจะก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ขึ้นอย่างแน่นอน

    **ระบบเตือนภัยสึนามิในมหาสม<WBR>ุทรอินเดีย

    ข้อมูลของเคอร์รี่ เซียห์ สอดคล้องกับผลการตรวจสอบพื้นที<WBR>่เดียวกันของทีมนักวิทยาศาสตร์อ<WBR>ีกหลายทีม อย่างน้อยที่สุด นักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและท<WBR>ีมสำรวจจากเยอรมนีก็พบข้อเท็จจร<WBR>ิงในทำนองเดียวกัน

    ทีมสำรวจวิจัยของสถาบันว<WBR>ิทยาศาสตร์ทางทะเลไลป์นิซ แห่งมหาวิทยาลัยคีล ของเยอรมนี ใช้เครื่องโซนาร์กวาดไปทั่วพื<WBR>้นที่บริเวณดังกล่าวใต้ท<WBR>้องทะเลลึกกว่า 5,000 เมตร แล้วนำข้อมูลที่ได้มาจำลองเป<WBR>็นภาพขึ้น

    ภาพที่ได้บ่งบอกอย่างเดียวกัน แผ่นอินโด-ออสเตรเลียน เพลต ชนแล้วมุดลงไปใต้แผ่นซุนดา เพลต สั่งสมพลังจากการผลักและดันไว<WBR>้มหาศาล

    นักวิจัยของมหาวิทยาลัยค<WBR>ีลตรวจสอบร่องรอยทั้งหมดและบอกไว<WBR>้เมื่อเร็วๆ นี้เช่นกันว่า ไม่มีร่องรอยการเกิดแผ่นด<WBR>ินไหวใหญ่ๆ ใดๆ เลยทางรอยเลื่อนของเปลือกโลกด<WBR>้านใต้ของเกาะนีอาส มันหมายความได้อีกอย่างว่า..<WBR>.มหาภัยจากใต้มหาสมุทรระลอกใหม่ จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในเร็วๆ นี้! เราเตรียมพร้อมเผชิญกับการอาละวา<WBR>ดของธรรมชาติระลอกใหม่แล้วหรือย<WBR>ัง?

    ถ้าไปถามคำถามนี้กับโคอิชิโร มัตสึอูระ ผู้อำนวยการสำนักงานองค์การเพื<WBR>่อวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห<WBR>่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก คำตอบที่ได้ก็คือ งานเพื่อสร้างระบบการเตือนภัยส<WBR>ึนามิในมหาสมุทรอินเดียรุดหน<WBR>้าไปมาก แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

    ตอนนี้มีการจัดตั้งสถานีตรวจว<WBR>ัดแผ่นดินไหวใหม่ขึ้น 25 สถานี ส่งข้อมูลตามเวลาจริงให้กับศูนย<WBR>์เตือนภัยสึนามิของประเทศต่างๆ 26 ประเทศ มีเซ็นเซอร์ติดตั้งแล้วเสร็จในพ<WBR>ื้นทะเลลึกเพื่อตรวจจับและรายงาน<WBR>ความเคลื่อนไหวของคลื่นยักษ์แล้ว 3 จุด

    แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่า ทั้งหมดนั่นยังไม่เพียงพอต<WBR>่อการแจ้งเตือนหายนภัยดังกล่าวล<WBR>่วงหน้า

    ยังคงมีภารกิจอีกมากมายนักจำเป<WBR>็นต้องดำเนินการ

    (คอลัมน์:ข่าวหน้า 1)

    <CENTER> </CENTER>
    [​IMG]


    มติชน
    19 ก.ค. 2549

    http://www.dmr.go.th/news_dmr<WBR>/data/1380.html
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">
    • เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 ริกเตอร์ เกาะใต้ของนิวซีแลนด์[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 06-09-2007 | 14:44 น. ] </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.6 ริกเตอร์ ทางตะวันตกของเกาะใต้ ในนิวซีแลนด์ วันนี้ แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายใดๆ
    แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.44 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 10.44 น.ตามเวลาในไทย มีศูนย์กลางอยู่ใต้พื้นดินลึกลงไป 20 กิโลเมตร และอยู่ห่างจาก เมืองเตอานาว เมืองท่องเที่ยว และเกษตรกรรมในฟยอร์ดแลนด์ ราว 90 กิโลเมตร
    นิวซีแลนด์นับอีกเป็นประเทศที่มีสถิติการเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยแต่ละปี เกิดขึ้นกว่า 14,000 ครั้ง และมีเพียง 150 ครั้งเท่านั้นที่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ และมีแผ่นดินไหวเพียงปีละไม่ถึง 10 ครั้ง ที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหาย
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="3">
    • แคลิฟอเนียร์เผชิญอากาศร้อนต่อเนื่อง ปชช.เสียชีวิตแล้วกว่า 20 คน[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 06-09-2550 | 12:50 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ประชาชนทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอเนียร์ ในสหรัฐฯ เผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด ติดต่อกันเป็นวันที่ 8 แล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 28 คน อย่างไรก็ตาม สำนักงาน พยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานว่า อุณหภูมิเมื่อวานนี้ลดลงกว่า เมื่อวันก่อนเล็กน้อย อยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส นับเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่อุณหภูมิลดลง
    ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมกระแสไฟฟ้า เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ หลังสภาพอากาศร้อน ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีมากขึ้น จนไม่เพียงพอ ต่อความต้องการ ซึ่งประชาชนในบางพื้นที่ต้องอยู่โดยไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้นานกว่า 1 วัน
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="3">
    • พายุเฮอร์ริเคนเฟลิกซ์คร่าชีวิตชาวนิการากัวไปแล้วเกือบ 40 คน[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 05-09-2007 | 12:31 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> รัฐบาลนิการากัวเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากพายุเฮอร์ริเคนเฟลิกซ์ พัดถล่มพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลแคริบเบียน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 38 คนแล้ว และอีกกว่า 80 คน สูญหายไป โดยคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงกว่านี้ นอกจากนี้ความรุนแรงของพาย ยังทำให้บ้านเรือนหลายพันหลังได้รับความเสียหายด้วย
    ด้านประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตก้า ผู้นำนิการากัวได้เดินทางไปสำรวจ ความเสียหายในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่ชาวบ้านร่วมกับทหาร และตำรวจช่วยกันเก็บกวาดต้นไม้ที่หักโค่นออกจากบริเวณถนน
    ส่วนพายุเฟลิกซ์นั้นขณะนี้ได้อ่อนกำลังลงกลายเป็นพายุโซนร้อนแล้ว หลังพัดเข้าฮอนดูรัส แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td colspan="3">
    • ยอดผู้เสียชีวิตจากสภาพอากาศร้อนจัดในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น 28 คนแล้ว[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 05-09-2007 | 12:31 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ประชาชนทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐ เผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด ติดต่อกันเป็นวันที่ 8 แล้ว โดยมีผู้เสียชีวิตไปถึง 28 คน อย่างไรก็ตาม สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐรายงานว่า อุณหภูมิเมื่อวานนี้ลดลงกว่า เมื่อวันก่อนเล็กน้อย อยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่อุณหภูมิลดลง ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมกระแสไฟฟ้า เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ หลังสภาพอากาศร้อนทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีมากขึ้น จนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งประชาชนในบางพื้นที่ต้องอยู่โดยไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้นานกว่า 1 วัน
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  3. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    ขอลอกการบ้าน แวนโก้ส่งเมลหน่อยแล้วกัน อิอิ
     
  4. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    หว๋ายตายแล้ว นู๋จะรอดมั้ยเนี่ย ฮือๆๆ ใครก็ได้ช่วยนู๋ที ไปหนีไปไหนได้อ่า ฮือๆๆ
     
  5. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    พฤศจิกายน 2008 ครับ
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เชียงรายฝนกระหน่ำซ้ำ-น้ำโขงเกือบแตะระดับวิกฤต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>7 กันยายน 2550 18:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> สถานการณ์แม่น้ำโขงในจังหวัดเชียงราย ล่าสุดมีแนวโน้มน่าเป็นห่วง เนื่องจากระดับน้ำขึ้นสูงเกือบถึงจุดวิกฤติที่ 8 เมตร อีกทั้งช่วงบ่ายเกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอแม่จัน และอำเภอแม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือแม่น้ำจัน และแม่น้ำคำ ทำให้น้ำจากดอยกิ่วทัพยังไหลหลากท่วมพื้นที่อำเภอแม่จัน ตั้งแต่ถนนหน้าโรงพยาบาลแม่จัน ไปถึงหน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 327 การสัญจรไม่สะดวก ขณะที่บ้านเรือนราษฎรในตำบลจันจว้า ตำบลจันจว้าใต้ ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน และตำบลศรีดอนมูล ตำบลสันธาตุ อำเภอเชียงแสน ยังคงถูกน้ำท่วมขังรวมกว่า 250 หลังคาเรือน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000105919
     
  7. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีหนังดีๆมาให้ได้ดูกันเพื่อกระตุ้นเตือนเราให้เห็นผล ของกรรมของสงคราม ของความปริเวทนาของเพื่อนมนุษย์เพื่อที่เราจะได้มีจิตใจที่เต็มไปด้วยพรหมวิหารสี่เพิ่มยิ่งขึ้นครับ

    จากคุณLuckFriday ครับ

    หนังตัวอย่าง
    สงครามนิวเคลียร์
    http://www.liveleak.com/view?i=f70_1175820097
    http://www.liveleak.com/view?i=a8d_1185486885
    http://www.liveleak.com/view?i=dd0_1187902581
    http://www.liveleak.com/view?i=966_1180934779
    http://www.liveleak.com/view?i=8cc_1185749126

    ซึนามิ แผ่นดินไหว ภัยโลกร้อน
    http://www.liveleak.com/view?i=71b_1176589184
    http://www.liveleak.com/view?i=888_1176180164
    http://www.liveleak.com/view?i=6af_1176185326
    http://www.liveleak.com/view?i=931_1178241039
    http://www.liveleak.com/view?i=afc_1176812199
    http://www.liveleak.com/view?i=320cadcf63
    http://www.liveleak.com/view?i=40c937c3c6
    http://www.liveleak.com/view?i=47601cc82d
    http://www.liveleak.com/view?i=31a3776ef1
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>
    </td> <td>อย่ากะพริบตา…สงครามใหญ่ใกล้อุบัติแล้ว!</td> <td> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td>โดย หมายเหตุผู้จัดการ [http://www2.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID= 9500000021374] </td> <td> </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> <td> </td> </tr> <tr> <td width="2%"> </td> <td width="97%">สำนักข่าวต่างประเทศได้ออกรายงานล่าสุดว่า รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการพลังงานเร่งจัดหาพลังงาน และน้ำมันสำรองเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัว และให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด

    ความจริงประเทศจีน ได้เตรียมการรับมือกับการขาดแคลนพลังงาน และน้ำมันมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และได้สำรองน้ำมันไว้จำนวนมหาศาลแล้ว การเพิ่มการสำรองดังกล่าวนี้จึงไม่ใช่เรื่องปกติ

    แต่เป็นสัญญาณบางประการที่หากถอดรหัสให้ดีแล้ว ก็ไม่เห็นความจำเป็นอย่างอื่น นอกจากการเตรียมการรับมือกับสงคราม และย่อมเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่ใกล้เกิดขึ้นเต็มทีแล้ว !

    เป็นสัญญาณที่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศพึงรีบทำความรับรู้และทำความเข้าใจ และเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเกินความจำเป็น

    ที่เราเห็นว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวคือ สัญญาณบ่งบอกถึงการเกิดขึ้นของสงครามขนาดใหญ่ เพราะเหตุผลสองประการ

    ประการแรก มีปรากฏการณ์ที่ชัดเจนถึงการเตรียม และระดมกำลังทางทหาร ครั้งใหญ่ของสหรัฐในพื้นที่ตะวันออกกลาง ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังสงครามเวียดนาม ซึ่งเราเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งแล้วในเรื่องมองสถานการณ์ 2550 และบัดนี้ ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น

    สหรัฐได้วางกำลังเรียงรายรอบอ่าวเปอร์เชียครั้งใหญ่ที่สุด ถึงขนาดเคลื่อนกำลังบางส่วน ของกองเรือที่ 7 ซึ่งประจำอยู่ในภาคแปซิฟิกเข้าไปสมทบในพื้นที่อ่าวเปอร์เชีย และเมื่อรวมกองกำลังนาวีทั้งหมดของสหรัฐในพื้นที่นั้นแล้วก็จะมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 400 ลำ และมีกำลังเรือบรรทุกเครื่องบินจำนวนมากที่สุดของทุกพื้นที่ในโลก

    ประธานาธิบดีบุชกำลังจะเสริมกำลังทหารเข้าไปในอิรักอีก 20,000 คน ทำให้กำลังทหารของสหรัฐในพื้นที่นั้นมีจำนวนใกล้เคียงกับกองกำลังในสงครามเวียดนาม

    เหล่านี้คือการเตรียมการปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ต่ออิหร่าน โดยมีข้ออ้างเรื่องอาวุธนิวเคลียร์

    เราฟันธงว่า จะมีปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ ของกองกำลังสหรัฐต่ออิหร่านอย่างแน่นอน ในระยะเวลาไม่นานจากนี้ไป

    คงเหลือแต่ว่า ตัวเริ่มสงครามจะเป็นสหรัฐออกหน้าปฏิบัติการโดยตรง หรือว่า จะออกหน้าโดยอิสราเอลเท่านั้น และเราคาดหมายด้วยว่า อาวุธชิ้นแรก ที่จะถูกใช้ในการเปิดฉากสงครามคือ ขีปนาวุธนุกส์ หรืออาวุธนิวเคลียร์เล็กชนิดจำกัดเขต เพื่อทำลายศูนย์บัญชาการของอิหร่าน

    เราจะติดตามดูว่าอิหร่าน ซึ่งประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับซีเรีย ในการต่อกรกับสหรัฐเมื่อไม่กี่วันมานี้จะตอบโต้อย่างไร จะรับมือกับสงครามนี้อย่างไร และจะมีการใช้ขีปนาวุธนุกส์ถล่มอิสราเอลในลักษณะเดียวกันหรือไม่

    การเตรียมกำลังรบในลักษณะนี้ใคร ๆ ก็เห็นว่าไม่ใช่เป็นการข่มขู่ข่มขวัญอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นการเตรียมการปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่ใหญ่กว่าสงครามอิรักเสียอีก

    แต่คงจะไม่หมู เพราะโลกอิสลามคงจะไม่ทนนิ่งเฉยอีกต่อไป จะต้องดูต่อไปว่าพัฒนาการของสงครามนี้ จะกลายเป็นสงครามระหว่างโลกตะวันตกกับโลกอิสลามหรือไม่ และอิสราเอลจะถูกลบออกไปจากแผนที่โลกหรือไม่

    ประการที่สอง มีพฤติกรรมประหลาดขึ้นบนเกาะไต้หวัน โดยการดำเนินการของเฉินสุยเปี่ยน ที่กำลังเคลื่อนไหวลบชื่อหรือคำว่าจีนออกจากทุกหนแห่งในไต้หวัน โดยเปลี่ยนเป็นไต้หวันหรือไทเปแทน นี่คือก้าวใหญ่และก้าวสำคัญของการแยกตัวออกจากจีน

    มันคือเงื่อนไขสงครามจีน-ไต้หวัน อันเป็นภารกิจทางประวัติศาสตร์ของประชาชาติจีนทั้งมวล ตามคำสั่งเสียของประธานเหมาเจ๋อตงและเติ้งเสี่ยวผิง นั่นคือคำสั่งเสียที่ว่าผู้นำจีนต้องหลีกเลี่ยงสงคราม ยกเว้นไต้หวันจะดำเนินการแยกออกจากจีน

    บัดนี้คำสั่งเสียของประธานเหมาและเติ้งเสี่ยวผิงผ่านพ้น 10 ปีหลังจากเปิดประเทศไปแล้ว พฤติกรรมของเฉินสุยเปี่ยนจึงเป็นเงื่อนไขในการทำสงคราม และบังคับให้พรรคคอมมิวนิสต์จีน ตลอดจนกองทัพปลดแอกประชาชนจีนต้องทำสงคราม

    หากพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือรัฐบาลจีนทอดทิ้งภาระทางประวัติศาสตร์ข้อนี้ก็อยู่ไม่ได้ สถานการณ์จึงบีบบังคับและไม่มีทางเลือกอย่างอื่น

    และสถานการณ์ที่กำลังก่อตัวอยู่ในตะวันออกกลางก็คือเงื่อนไขที่ดีที่สุด อย่างน้อยก็เห็นอยู่แล้วว่ากำลังรบสหรัฐที่จะคุ้มครองไต้หวันจากกองเรือที่ 7 ได้บางเบาลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว

    เหลือแต่เพียงเครื่องบินเอฟ 20 จากโอกินาว่าของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่คาดว่าสหรัฐจะไม่มีทางโจมตีจีนโดยตรง จะทำได้ก็คือการคุ้มครองไต้หวัน แต่จะคุ้มครองได้หรือไม่ก็คงจะได้เห็นกัน

    เพราะเหตุผลสองประการนี้มิใช่หรือ จึงจำต้องมีการเตรียมการด้านพลังงาน และน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุด

    เราเห็นว่าสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง และสองฝั่งฟากจีน-ไต้หวัน จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว และในสถานการณ์เช่นนี้ มีหรือที่เกาหลีเหนือจะนั่งงีบนอนงีบอยู่ได้ คงจะต้องเข้าผสมโรงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    สถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นสถานการณ์ที่คนไทยต้องทำความเข้าใจ ต้องคาดหมายให้เห็นและต้องเตรียมตัวให้พอเพียง เพราะเมื่อเป็นสงครามเกิดขึ้นแล้วย่อมส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง

    การเตรียมตัวที่พร้อมสรรพย่อมดีกว่าการตั้งอยู่ในความประมาท ดังบทพระราชนิพนธ์ที่ว่า “เมื่อหวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ”

    เรากล่าวดังนี้มิได้หมายความว่าเรานิยมยินดีในสงคราม แต่ไหนแต่ไรมาเราคัดค้านสงคราม เราส่งเสริมสนับสนุนสันติภาพ แต่สถานการณ์ที่สงครามกำลังก่อตัวอยู่นี้ คนไทยอย่างเราท่านย่อมไม่อาจป้องกันหรือขัดขวางอะไรได้

    ฟ้าฝนบนฟ้าหล่นลงมาไม่ได้เป็นผลร้ายหรือเป็นผลดีแต่ด้านเดียว ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ใดจะสามารถพลิกผันให้กลายเป็นผลดี และหลีกเลี่ยงผลร้ายให้ได้มากที่สุดเท่านั้น

    เพราะสถานการณ์สงครามที่ก่อตัวอยู่นี้มิใช่หรือ การส่งออกข้าว น้ำตาล และผลไม้กระป๋อง จำนวนมากของไทยที่ส่งออกไปตะวันออกกลางจึงอึกทึกครึกโครม และส่งออกได้เป็นจำนวนมหาศาล

    เป็นรายได้จากการส่งออกที่เป็นอานิสงส์ของการเตรียมรับมือกับสงคราม และโดยมิใช่ฝีมือใด ๆ ของพวกขิงแก่เลย

    เราจะสร้างผลดีให้กับชาติบ้านเมืองในสถานการณ์นี้ได้อย่างไร และหลีกเลี่ยงผลร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ และประชาชนในสถานการณ์นี้ได้อย่างไร นี่คือปัญหายิ่งใหญ่ของพี่น้องประชาชนชาวไทย ที่ต้องร่วมใจกันคิดอ่านเตรียมการให้จงดี
    </td></tr></tbody></table>
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.6 ริคเตอร์ ที่ไต้หวัน


    <CENTER>[​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    (7ก.ย.) ศูนย์สังเกตการณ์แผ่นดินไหวไต้หวันแถลงว่า เมื่อเวลา 01.51 น.เช้ามืดวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 00. 51 น.ตามเวลาในไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.6 ริคเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางลึกใต้ทะเล 27 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเมืองอี้หลาน บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวัน 74.6 กิโลเมตร

    ส่วนอีก 4 นาทีต่อมา ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อค ขนาด 5.7 ริคเตอร์ในพื้นที่แถบเดียวกัน ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อคขนาด 3.9 ริคเตอร์ ในเวลา 03.32 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 02.32 น.เช้ามืดวันนี้ตามเวลาในไทย ที่เมืองไถ้ถัง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน สร้างความเสียหายเล็กน้อย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ

    แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวรู้สึกได้ทั่วเกาะ ทำให้ขวดและแก้วที่อยู่บนชั้น กับกรอบภาพบนผนังสั่นสะเทือน ผู้คนจำนวนมากบนอาคารสูงพากันวิ่งลงไปที่ท้องถนน เพราะกลัวอาคารจะถล่ม แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แม้จะมีรายงานว่า เสาโค้งของวัดลู่หยวนในเมืองอี้หลานพังทลายลงมา กับมีหินถล่มตามแนวไฮเวย์สายเซา-ฮัวเหลียนตามแนวชายฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นภูเขาของไต้หวัน ​

    และที่เมืองปันเฉียว ติดกับกรุงไทเป มีอิฐหล่นจากอาคาร สร้างความเสียหายให้กับรถหลายคันที่จอดอยู่ ขณะที่นางลู่ เพ่ย-หลิง รองผู้อำนวยการศูนย์ฯแถลงว่า ไม่มีสาเหตุต้องตื่นตกใจ เป็นเพียงการปลดปล่อยพลังงานทางธรณีวิทยาตามปกติ และจะไม่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงกว่านี้ตามมา

    ไต้หวันอยู่ในแนวแผ่นดินไหวรอบมหาสมุทรแปซิฟิค ที่เกิดของแผ่นดินไหวร้อยละ 68 ของโลก ซึ่งส่วนใหญ่ของแผ่นดินไหวที่ไต้หวันเกิดนอกชายฝั่งตะวันออก จากการเสียดสีของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซี่ยนกับแผ่นฟิลิปปินส์ ซึ่งตามปกติมักสร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย ​

    ทั้งนี้ ไต้หวันอาจมีแผ่นดินไหวปีละมากกว่า 200 ครั้ง ซึ่งหลายครั้งวัดได้ 6.0 ริคเตอร์หรือรุนแรงกว่า และเมื่อ 21 กันยายน ปี 2542 เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 ริคเตอร์ ในภาคกลางของไต้หวัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2,400 คน และบาดเจ็บ 10,000 คน ​

    ที่มา หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    http://hilight.kapook.com/view/15208
    </CENTER>
     
  10. ตลับนาค

    ตลับนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1,497
    ต่อมาจากของคุณ vanco ครับ เห็นว่าทางอีกฝั่งนึงคือรัสเซียช่วงนี้
    มีการเคลื่อนไหวทางการทหารมากขึ้นเช่นเดียวกัน

    การประชุม SCO ที่ผ่านมา นอกจากสมาชิกถาวร 6 ประเทศแล้ว ก็ยัง
    มีประธานาธิปดีอิหร่านเข้าร่วมด้วย ในส่วนของความร่วมมือทางการพลังงาน

    เมื่อกลางเดือนสิงหาที่ผ่านมา ครบรอบ 95 ปีของกองทัพอากาศรัสเซีย
    กองทัพนี้แรกตั้งในสมัยพระเจ้าซานิโคลัสที่สอง ก็เลยฉลองด้วยการจัด
    airshow ที่ใกล้ๆตัวเมืองมอสโคว

    ทางประธานาธิปดีปูติน ก็ได้กล่าวในงานว่าจะเริ่มให้เครื่องบินลาดตระเวณ
    ระยะไกล กลับมาบินประจำอีก การมีเครื่องบินๆประจำการ ระยะไกล
    ของรัสเซียนี้ได้หยุดไปตั้งแต่สมัยสงครามเย็น เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
    ตอนนี้ก็ได้ฟื้นมันกลับมาใหม่อีกครั้ง

    หลังจากนั้นสัปดาห์นึงทางอังกฤษ BBC ได้ออกข่าวว่า เครื่องบินรบของ
    อังกฤษได้บินติดตามเครื่องบินทั้งระเบิดระยะไกลของรัสเซีย (21-08-2007)
    เพราะเกรงว่าจะเข้ามาในเขตน่านฟ้าของอังกฤษ แต่ว่าเครื่องของรัสเซียดังกล่าว
    บินอยู่ในน่านฟ้าสากล
    [​IMG]
    เนื้อหาเพิ่มเติม

    เมื่อวันที่ 6-09-2007 ก็ได้มีข่าวออกมาอีกว่า เครื่องบินอังกฤษได้บินตาม
    เครื่องรัสเซียอีกแล้ว คราวนี้เมีเครื่องบินรัสเซีย แปดเครื่องด้วยกันแบ่ง
    เป็น สี่กลุ่ม
    เนื้อหาเพิ่มเติม

    ทางสหรัฐออกข่าวมาว่าได้เกิดมีเครื่องบินของตนลำนึง เผอิญแบกขีปนาวุธ
    นิวเคลียขึ้นบินโดยบังเอิญ

    มีการซ้อมรบของกองเรือที่อ่าวเบงกอล เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมาโดยมี
    กองเรือ - เรือดำน้ำที่เข้าร่วมของ สหรัฐ ญี่ปุ่น อินเดีย และ ออสเตรเลีย

    เนื้อหาเพิ่มเติม

    คงยังจะหยั่งเชิงกันอยู่

    ในทางตะวันออกกลางนั้น เมื่อสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ก่อน จะเห็นว่า
    ประธานาธิปดี จอร์ช บุช ได้ออกมากล่าวโจมตี นายกรัฐมนตรีของอิรัค
    นาย มาลาคี เป็นครั้งแรก สาเหตุเนื่องมาจากว่า ทางนายมาลาคี เห็นว่า
    จะให้เรื่องภายในยุติโดยเร็ว น่าจะต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อน
    บ้านด้วยคือ อิหร่าน และ ซีเรีย จึงได้เดินทางไปเยือนประเทศทั้งสอง
    อย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ทางอเมริกาไม่พอใจอย่างมาก ถ้าดูจากแผนที่แล้ว
    สองประเทศนั้น ห่างกันแค่ อิรัคคั่นกลาง อิหร่านตกเป็นเป้าเรื่องการพัฒนา
    อาวุธนิวเคลีย ขณะนี้ซีเรียก็ได้เปิดสัมพันธไมตรีกับรัสเซีย โดยให้กองเรือ
    รัสเซียเข้าไปตั้งอยู่เหมือนเมื่อสมัยสงครามเย็น
    ช่วงสัปดาห์นี้ มีข่าวว่า เครื่องบินของอิสราเอลได้ล้ำน่านฟ้าของซีเรีย และทาง
    ซีเรียได้ยิงขีปนาวุธตอบโต้
    เนื้อหาเพิ่มเติม

    อีกข่าวที่น่าสนใจคือ ท่าทีของฝรั่งเศษ

    เมื่อ 27-08-2007 ประธานาธิปดีคนใหม่ของฝรั่งเศษ นายซาโคซี่ ได้ออกมา
    ประกาศนโยบายต่างประเทศของตน จุดยืนที่ชัดเจนคือ ปฏิเสธตุรกีในการเข้าร่วม
    เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป เนื่องจากว่าไม่เห็นด้วยกับการมีอีกชาติที่ต่างศาสนา
    เข้ามาอยู่ด้วยกัน อีกอย่างเขาต้องการให้ยุโรปมีกองกำลังของตนเอง นอกเหนือ
    ไปจากนาโต้ และ เขาต้องการเปิดประตูแก่อิหร่านเพื่อเลี่ยงหายนะที่จะเกิดขึ้น
    ถัดไป หายนะนั่นก็คือการบอมบ์อิหร่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บินลาดินชวนอเมริกันชนเปลี่ยนนับถืออิสลามถ้าต้องการยุติสงคราม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 กันยายน 2550 06:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี - อุซามะห์ บินลาดิน ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ ปรากฎตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี ในวิดีโอที่เผยแพร่ออกมาครบวาระ 6 ปี เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน เมื่อวันศุกร์(7) บอกอเมริกันชนควรเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามหากต้องการให้สงครามในอิรักยุติลง

    วิดีโอความยาว 30 นาทีนี้ถูกตรวจพบโดยอินเทลเซ็นเตอร์และเอสไอทีอี หน่วยงานที่คอยดูแลเว็บไซต์ของพวกสุดโต่ง ขณะที่รัฐบาลได้คัดสำเนาและหน่วยสืบสวนกำลังศึกษาวิดีโอเพื่อตรวจสอบดูว่าเป็นของจริงหรือไม่

    ในวิดีโอที่ถูกนำมาออกอากาศโดยสถานีโทรทัศน์อัลญะซีเราะห์ บินลาดิน สวมเสื้อคลุมสีขาว มีผ้าโพกศีรษะ นั่งอยู่หลังโต๊ะ พร้อมกับอ่านถ้อยแถลงถึงอเมริกันชนจากกระดาษที่อยู่ตรงหน้า

    บินลาดิน ตัดเคราให้สั้นลงกว่าเมื่อครั้งที่ออกคำแถลงในวิดีโอครั้งสุดท้ายปี 2004 และย้อมเป็นสีดำให้ดูหนุ่มขึ้น เขาอ่านถ้อยแถลงอย่างช้าๆตามแบบฉบับของเขา แม้ขอบตามีรอยเหี่ยวย่นมากขึ้น แต่ดูแล้วสุขภาพของเขายังแข็งแรงดี

    ผู้นำอัลกออิดะห์ไม่ได้พูดขู่อย่างชัดเจนหรือเรียกร้องให้มีการโจมตีโดยตรง แต่เขาแถลงถึงอเมริกันชน ด่าว่าคนเหล่านั้นจากความล้มเหลวของผู้นำของพวกเขาในความพยายามหยุดสงครามในอิรัก จนถูกต่อต้านมากขึ้นในสหรัฐฯ

    "มี 2 ทางออกในการหยุดมัน หนึ่งคือมาจากฝ่ายเรา ซึ่งมันคือการขยายการต่อสู้และเข่นฆ่าพวกคุณ นี่คือหน้าที่ของเรา สองคือทางออกมาจากฝั่งคุณ ผมขอเชิญคุณมาอยู่ในอ้อมกอดของอิสลาม"

    "มันจะช่วยคุณบรรลุตามความปรารถนาในการหยุดสงครามเพราะอีกไม่นานหุ้นส่วนหลักของผู้ค้าสงครามจะมองเห็นความจริงว่าคุณสูญเสียความมั่นใจในระบบประชาธิปไตยของคุณและเริ่มมองหาทางเลือกอื่น และทางเลือกนี้คืออิสลาม พวกเขาจะชื่นชมคุณ"

    เขายังเย้ยหยัน ประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู.บุช ด้วยว่าผู้นำอเมริกาคนนี้สนับสนุนชาวชีอะห์ให้ต่อต้านสุหนี่ในอิรัก แต่เหตุการณ์ในอิรักอยู่เหนือการควบคุมและ บุช ดูเหมือนคนที่ดื้อรั้นและหว่านพืชลงในทะเล ที่เก็บเกี่ยวได้แต่ความล้มเหลว

    ครั้งสุดท้ายที่เห็นบินลาดินในคำแถลงที่เป็นคลิปวิดีโอคือเมื่อเดือนพ.ย. ปี 2004 ก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเพียงไม่กี่วัน หลังจากนั้น เขาก็ออกข้อความเสียงมาจำนวนหนึ่ง ครั้งล่าสุดคือเมื่อปี 2006 โดยได้ประกาศว่า อัลกออิดะห์จะต่อสู้กับสหรัฐฯให้ทั่วทั้งโลก

    เซ็ธ โจนส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านก่อการร้ายของสถาบันอาร์เอเอ็นดี กล่าวว่าเหตุผลที่ บิน ลาดิน กลับมาปรากฎตัวอีกครั้งเพราะต้องการระดมกำลังกลับมาอีกครั้ง "ชัดเจนว่ามันช่วยให้แกนหลักของอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถานฟื้นขึ้นมาใหม่"

    ด้าน ริตา คาตซ์ ผู้อำนวยการสถาบันเอสไอซีที เชื่อว่ากลุ่มอัลกออิดะห์กลับมารวมตัวกันใหม่ แต่กองบัญชาการได้กระจายออกไปมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งประกอบด้วยค่ายฝึกซ้อมในปากีสถานและอัฟกานิสถาน พร้อมระบุว่าดูเหมือน บินลาดิน จะหลบซ่อนในพื้นที่คามปลอดภัยมากกว่าค่ายฝึกซ้อมเหล่านั้น

    สหรัฐฯได้สกัดวิดีโอดังกล่าวก่อนที่จะถูกนำไปเผยแพร่บนเว็บไซต์ของอิสลามหัวรุนแรง ขณะที่ในวอชิงตันเจ้าหน้าที่ต่อต้านก่อการร้ายได้ใช้เวลาวิเคราะห์วิดีโอนานหลายชั่วโมง ก่อนที่บันทึกและวิดีโอนี้จะรั่วออกมา

    เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าผู้เชี่ยวชาญได้ศึกษาลักษณะทางกายเพื่อหาร่องรอยสุขภาพของเขา หลังมีข่าวลือในช่วงต้นปีว่า บินลาดิน เสียชีวิตจากโรคไต

    โทนี แฟตโต โฆษกทำเนียบข่าวปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอดังกล่าวจนกว่าจะได้รับผลการวิเคราะห์ฉบับเต็มเสียก่อน แต่บอกว่ามันเป็นเครื่องเตือนความทรงจำว่าภัยคุกคามจากก่อการร้ายยังคงมีอยู่ ขณะที่กระทรวงความมั่นคงภายในสหรัฐฯ ยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อว่าถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีอเมริกาในช่วงเวลาอันใกล้นี้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9500000106033
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [FONT=MS sans serif, Tahoma, Microsoft Sans Serif][FONT=Tahoma, Microsoft Sans Serif]ข่าว<blink>วิกฤติการณ์</blink>ของโลก<blink>ด่วน!

    </blink>[/FONT][/FONT]<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">
    • ไต้ฝุ่นฟิโทว์คร่าชีวิตผู้คนในญี่ปุ่นไปแล้วอย่างน้อย 1 คน บาดเจ็บกว่า 60 คน[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 07-09-2007 | 19:43:46 น. ] </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ไต้ฝุ่นฟิโทว์คร่าชีวิตผู้คนในญี่ปุ่นไปแล้วอย่างน้อย 1 คน บาดเจ็บกว่า 60 คน ขณะที่ ในนิการากัว และฮอนดูรัส มีผู้เสียชีวิตจากเฮอริเคนเฟลิกซ์ แล้วอย่างน้อย 98 คน
    อิทธิพลของไต้ฝุ่นฟิโทว์ ซึ่งอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน ยังคงก่อให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรงจัด ทั่วทั้งกรุงโตเกียว และบริเวณโดยรอบ จนต้องมีการประกาศเตือนอันตรายจากแผ่นดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลัน ขบวน รถไฟ และเที่ยวบินหลายเที่ยวบินถูกยกเลิก
    ไต้ฝุ่นฟิโทว์ยังทำให้มีคนสูญหายอีกอย่างน้อย 3 คน ล่าสุด มีรายงานว่า ไต้ฝุ่นฟิโทว์ซึ่งอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน กำลังมุ่งหน้าไปทางตอนเหนือด้วยกำลังลม 108 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากเฮอริเคนเฟลิกซ์ ที่ถล่มนิการากัว และฮอนดูรัส ด้วยความรุนแรงถึงระดับ 5 เพิ่มเป็นอย่างน้อย 98 คนแล้ว สูญหายอีกหลายสิบคน ผู้คนหลายหมื่นคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่เวเนซุเอลา ส่งแพทย์และพยาบาลร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="3">
    • เชียงรายฝนตกหนักซ้ำห่วงแม่น้ำโขงเลยจุดวิกฤติ[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ทีมข่าว INN News 07-09-2007 | 18:07:37 น. ] </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> เชียงรายฝนตกหนักหลายพื้นที่ ห่วงแม่น้ำโขงเลยจุดวิกฤติ บ้านเรือนประชาชนน้ำท่วมขังรวมกว่า 250 หลังคาเรือน
    สถานการณ์แม่น้ำโขงในจังหวัดเชียงรายล่าสุดมีแนวโน้มน่าเป็นห่วง เนื่องจากระดับน้ำขึ้นสูงเกือบถึงจุดวิกฤติที่ 8 เมตร อีกทั้งช่วงบ่ายเกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอำเภอแม่จัน และอำเภอแม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือแม่น้ำจัน และแม่น้ำคำ ทำให้น้ำจากดอยกิ่วทัพยังไหลหลากท่วมพื้นที่อำเภอแม่จัน ตั้งแต่ถนนหน้าโรงพยาบาลแม่จันไปถึงหน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 327 การสัญจรไม่สะดวก ขณะที่บ้านเรือนราษฎรในตำบลจันจว้า ตำบลจันจว้าใต้ ตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน และตำบลศรีดอนมูล ตำบลสันธาตุ อำเภอเชียงแสน ยังคงถูกน้ำท่วมขังรวมกว่า 250 หลังคาเรือน
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="3">
    • ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วม [​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 07-09-2007 | 12:56:23 น. ] </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> เจ้าหน้าที่กิ่งอำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์สำรวจพบเส้นทางคมนาคม ถูกตัดขาดจำนวนมาก จากอิทธิพลของน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งผู้ว่าฯประกาศเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว
    เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันภัยกิ่งอำเภอสามชัย จ.กาฬสินธุ์ เข้าสำรวจเส้นทางคมนาคม สำคัญ หลายแห่ง ที่ได้รับความเสียหาย จากอิทธิพลของน้ำป่าไหลหลาก จากเทือกเขา ภูพาน ซึ่งเกิดจากปริมาณฝนที่ตกติดต่อกัน และมีปริมาณที่มากว่า 20 มิลลิเมตร ในแต่ละวัน ซึ่งจากการสำรวจพบว่าที่กิ่งอำเภอสามชัย มีเส้นทางคมนาคม ได้รับความเสียหายมากกว่า 60 เส้นทาง สะพานถูกน้ำตัดขาดทั้ง 3 แห่ง ส่วนใหญ่ จะอยู่ในเขต ต.สำราญ และ ต.สำราญใต้ โดยชาวบ้านบอกว่าน้ำป่า ที่ไหลหลาก เป็นอิทธิพลของน้ำป่าจากเทือกเขาภูพาน ที่ไหลลงตามลำห้วย ประกอบกับการมี การระบายจากอ่างเก็บน้ำลำพันชาด จ.อุดรธานี ซึ่งทำให้มีน้ำหลากเข้ามาปริมาณมาก และต้องการให้ทางจังหวัด เร่งดำเนินการซ่อมแซมถนนเส้นสำคัญให้ด้วย ขณะที่ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวเมื่อคืนนี้ พบว่ายังมีปริมาณที่ไหลเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดได้ไหลเข้ามามากถึง 134 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้น้ำในเขื่อนลำปาวขณะนี้ มีปริมาณอยู่ที่ 1,234 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่กิ่งอำเภอสามชัย อ.คำม่วง และ อ.สหัสขันธ์ เป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วม และให้เตรียมการอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่กับพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชม.
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="3">
    • ผลการศึกษาเตือนอ่าวเบงกอลเสี่ยงเกิดสึนามิ [​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 07-09-2007 | 12:01:11 น. ] </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ผลการศึกษาในออสเตรเลียพบว่า อ่าวเบงกอลตอนเหนือเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว ขนาดใหญ่ และสึนามิในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า แย้งความเชื่อเดิมที่ว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างกับทางตอนใต้ที่เกิดสึนามิเมื่อปลายปี 2547
    วารสารเนเชอร์เผยแพร่ผลการศึกษาของ ดร.ฟิล คัมมินส์ จากศูนย์วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ออสเตรเลีย สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และทรัพยากร ที่อ้างข้อมูลจากระบบบอกพิกัดบนพื้นผิวโลกด้วยดาวเทียม หรือจีพีเอสว่า พบความเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์เกิดขึ้นใกล้ชายฝั่งพม่า บริเวณนั้นมีสภาพของแผ่นเปลือกโลกยันกันอยู่ ซึ่งเป็นลักษณะที่ก่อให้เกิดสึนามิได้ จึงเป็นไปได้ว่ามีรอยแยกของแผ่นเปลือกโลกซ่อนอยู่ใต้พื้นทะเลลึก
    ขาได้นำเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว เมื่อปี 2305 และทำให้ชายฝั่งบิดเบี้ยวราว 3-7 เมตร มาจำลองในคอมพิวเตอร์พบว่า แผ่นดินไหวครั้งนั้นที่คาดว่ามีความรุนแรง 8.8 ริกเตอร์ หากเกิดขึ้นในปัจจุบัน ก็จะทำให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่บริเวณชายฝั่งจิตตะกอง และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำคงคา เฉพาะสามเหลี่ยมปากแม่น้ำคงคาแห่งเดียว มีประชากรอาศัยอยู่มากถึง 60 ล้านคน ขณะเดียวกัน แผ่นดินไหวเองก็จะสร้างความเสียหายให้แก่นครกัลกัตตาของอินเดีย และกรุงธากาของบังกลาเทศ สรุปแล้วมีคนเสี่ยงภัยรวมกันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน
    ด้าน ศ.ริชาร์ด อาร์คูลัส จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย เห็นว่า ต้องใส่ใจคำเตือนของ ดร.คัมมินส์ อย่างจริงจัง เพราะ ดร.คัมมินส์ เคยเตือนไม่กี่เดือนก่อนเกิดสึนามิเมื่อปลายปี 2547 ว่าประเทศริมมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้งชายฝั่งทางเหนือของออสเตรเลียเสี่ยงเกิดสึนามิ และบริเวณนี้ยังไม่มีระบบเตือนภัยสึนามิเหมือนที่ติดตั้งในมหาสมุทรแปซิฟิก
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td colspan="3">
    • กาฬสินธุ์น้ำป่าหลากเสียหายหนักประกาศ 3 อ.เขตภัยพิบัติ [​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดยทีมข่าว INN News [ 07-09-2007 | 11:50:20 น. ] </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> กาฬสินธุ์น้ำป่าหลากเสียหายหนักประกาศ 3 อำเภอเขตภัยพิบัติ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
    ผู้สื่อข่าวรายงานถึงผลกระทบของน้ำป่าจากเทือกเขาภูพาน ไหลหลากท่วมพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ล่าสุด (7 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันภัยกิ่งอำเภอสามชัย ยังคงเร่งสำรวจความเสียหายพบว่าเส้นทางเสียหายกว่า 60 สาย สะพาน 3 แห่ง ในตำบลสำราญ และตำบลสำราญใต้ถูกตัดขาด ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดประกาศให้พื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอคำม่วง อำเภอสหัสขันธุ์ และกิ่งอำเภอสามชัย เป็นเขตพิบัติภัยน้ำท่วม พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง และเตรียมแผนอพยพราษฎรในพื้นที่เสี่ยง สำหรับเขื่อนลำปาว เมื่อคืนที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าเขื่อนมากถึง 134 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ระดับน้ำอยู่ที่ 1,234 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณเก็บกักที่ 1,430 ล้านลูกบาศก์เมตร
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table><blink>
    </blink>[FONT=MS sans serif, Tahoma, Microsoft Sans Serif][FONT=Tahoma, Microsoft Sans Serif]<blink></blink>[/FONT][/FONT]
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คนไทยจะปกครองโลกธาตุและจักรวาล
    (จากนักปฎิบัติธรรมสายมโนมยิทธิท่านหนึ่งโปรดใช้วิจารณญาณ)


    [​IMG]
    ภาพประกอบจาก www.dmc.tv

    ในอนาคตอันใกล้นี้คนไทยจะปกครองโลกธาตุและจักรวาล เพราะเวลานี้พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านได้มาถือกำเนิดบนแผ่นดินไทยมานานแล้ว ถ้าหากว่าผู้ใดบำเพ็ญบารมีมาถูกต้อง ตามแบบแผนและกฎกติกาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายบัญญัติไว้จริง โอกาสที่จะไปทำบุญและเข้าถึงธรรมจากท่านก็มีอยู่มาก ถึงแม้ผู้ที่มาปฏิบัติจะเข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์ได้มากก็จริงอยู่ แต่ถ้าจะไปรู้เรื่องส่วนตัวที่ละเอียดของพระโพธิสัตว์แต่ละท่านย่อมเป็นไปไม่ได้ เช่น จะไม่รู้ว่าท่านเป็นใครมาเกิด บำเพ็ญบารมีมาแล้วเท่าไร ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ใดมา ในพุทธกาลนี้มีชื่อสมมติว่าอะไร และในพุทธกาลหน้ามีชื่อสมมติว่าอะไร

    เหตุปัจจัยที่จะทำให้คนไทยเป็นใหญ่ในโลกธาตุคือ


    ๑) ทรัพยากรบุคคล อันได้แก่ พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่าน ซึ่งมาเกิดเป็นคนไทย ท่านเหล่านี้มีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ แม้แต่พรหมเทวดาที่อยู่ในทุกๆ ภพภูมิ ก็ยังให้ความเคารพท่านอยู่ตลอดเวลา

    ๒) ทรัพยากรธรรมชาติ อันมีอยู่มากมายในผืนแผ่นดินไทย เช่น น้ำมัน ทองคำ ยูเรเนียม รัตนชาติ รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ อีกจำนวนมาก

    พระฯ ท่านบอกว่าเวลานี้พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านต่างก็จำศีลภาวนากันอยู่ แต่คนส่วนใหญ่ในโลกธาตุยังไม่คิดถึงท่าน เพราะไปมัวเพลิดเพลินแต่ความสุขอันจอมปลอม เช่น กามสุขและอบายมุขต่างๆ ถ้าหากไม่ใกล้ตายด้วยมหันตภัยร้ายแรงเกือบทั้งโลก ก็ยากที่จะระลึกถึงท่านด้วยความจริงใจ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎแห่งกรรมของสัตว์โลก

    นิมิตและสิ่งบอกเหตุอีกหลายอย่างที่จะปรากฏก่อนที่จะได้พบผู้มีบุญออกมาทำงานใหญ่ อาทิ

    ๑) สัตว์จะเริ่มเข้าใจภาษาคนมากขึ้น (เพราะสัตว์จำนวนมากกำลังหมดกรรม หรือเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิดเพื่อบำเพ็ญบารมีต่อ) ส่วนคนจะเริ่มไม่เข้าใจภาษาคน (คนส่วนใหญ่มักจะประกอบกรรมชั่ว ไม่คิดปฏิบัติตามคำสอนที่ดีกัน)

    ๒) โรคภัยไข้เจ็บชนิดแปลกๆ จะเกิดขึ้นมาท้าทายวงการแพทย์ ซึ่งหมอสมัยใหม่ก็ยากที่จะเยียวยาหรือรักษาให้หายขาดได้ แต่จะมาแพ้ยาโบราณและอภิญญาของพระโพธิสัตว์

    ๓) สัตว์ชนิดแปลกๆ ที่มนุษย์คิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว และสัตว์โลกใหม่ๆ ที่มนุษย์ยังไม่เคยเห็นจะออกมาปรากฏ

    ๔) ยานพาหนะของมนุษย์ที่อยู่ต่างโลกธาตุจักรวาลจะปรากฏเหนือน่านฟ้าโลกเรามากขึ้นในหลายรูปแบบ

    ๕) ต่อไปชาวธรรมจำนวนมากจะแยกเดียรถีย์อลัชชีออกจากผู้บำเพ็ญได้ถูกต้อง

    ๖) ดวงดาวต่างๆ จะค่อยๆ โคจรเข้ามาใกล้ระบบสุริยะเรามากขึ้น

    ๗) อากาศจะวิปริตแปรปรวน ยิ่งใกล้เวลาที่กำหนดไว้คือเวลาที่มนุษย์จำนวนมากต้องสังเวยชีวิตกับภัยธรรมชาติและภัยสงคราม อากาศจะมืดครึ้มอย่างชอบกล แม้ในวันเดียวกันจะมีอากาศในลักษณะ ๓ ฤดู

    ๘) จะเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงติดๆ กัน ภูเขาไฟระเบิด พายุโหมกระหน่ำ น้ำท่วมฉับพลัน ไฟไหม้ อุบัติเหตุร้ายแรงจะเกิดขึ้นถี่ขึ้นในทวีปต่างๆ และยิ่งใกล้ถึงเวลาอุกกาบาตเล็กและใหญ่จะตกลงมาถี่ขึ้นบนพื้นผิวโลก

    ๙) พรหม เทวดา พญาครุฑ พญานาค ยักษ์ ชาวลับแล ฯลฯ ที่อยู่ในโลกธาตุนี้และโลกธาตุจักรวาลอื่น จะออกมาทำบุญกันหลายรูปแบบในสถานที่บำเพ็ญบุญแห่งใหม่

    ๑๐) หลวงปู่อุปคุตที่จำพรรษาอยู่กลางสะดือทะเลอันเป็นวังใหญ่ของพญานาค ซึ่งเป็นสถานที่เก็บถาดทองคำ (ภาชนะที่พระพุทธเจ้าทรงใช้ฉันข้าวมธุปายาสก่อนตรัสรู้) ของพระพุทธเจ้า ๔ พระองค์ ในกัปนี้ จะออกมาให้ชาวโลกได้พบและทำบุญ

    ๑๑) ญาติพระเทวทัตและพระโพธิสัตว์จอมปลอมจะถูกเปิดเผยความชั่วที่เลวยิ่งกว่ามหาโจรใดๆ ทั้งสิ้นในโลก

    ๑๒) พระสาวกของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธเจ้าทั้งหลาย และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมาเป็นประธานในพิธีต่างๆ ณ บริเวณสำคัญแห่งใหม่ของโลกก่อนยุคสุดท้าย

    ๑๓) พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่านจะนำพระธาตุ พระบรมธาตุ จากชาวเทพหรือชาวลับแลที่เก็บไว้ รวมทั้งวัตถุมงคลใช้ป้องกันรังสีจากอาวุธสงครามสมัยใหม่ ออกมามอบให้แก่ผู้ที่ศรัทธาไว้เคารพบูชาเพื่อป้องกันภัยจากสงครามใหญ่ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้

    ๑๔) พวกเปรตอสุรกายที่แฝงกายอยู่ในคราบนักบุญ และนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ของโลกจะถือเอาเหตุปัจจัยความแตกต่างทางศาสนาและนิกาย มาเป็นเครื่องยุยงให้ชาวโลกแตกออกเป็นสองฝ่าย และก็จะเริ่มค่อยๆ ประหัตประหารไปทีละจุด ๆ ในที่สุด (ความขัดแย้งในเรื่องลัทธิ นิกาย และศาสนาจะบานปลายเป็นสงครามใหญ่ภายหลัง) เพราะกิเลสในใจผู้นำของแต่ละศาสนามีมาก (อย่ามองข้ามเหตุที่เกิดในประเทศไทย เพราะในเมืองไทยก็เป็นชนวนใหญ่เช่นกัน)

    จากคุณ มโนมยิทธิ เมื่อวันที่ 24/10/2548 13:25:27

    ที่มา http://www.konmeungbua.com/webboard/...n.asp?GID=8547
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2007
  14. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    (b-cap)

    [FONT=MS sans serif, Tahoma, Microsoft Sans Serif][FONT=Tahoma, Microsoft Sans Serif]การเตรียมตัวรับคลื่นความร้อนและพายุห่าฝนยักษ์ ในแผ่นดินไทย และทั่วโลก ในเดือนกันยายน-ตุลาคม ๒๕๕๐

    [/FONT]
    [/FONT][FONT=MS sans serif, Tahoma, Microsoft Sans Serif][FONT=Tahoma, Microsoft Sans Serif]โดย Dr.G.G.Junior
    http://www.universal-signal.com


    คู่มือป้องกันน้ำท่วมชุมชน


    http://www.geocities.com/floodpwd020/handbook/handbook.html

    [/FONT][/FONT][FONT=MS sans serif, Tahoma, Microsoft Sans Serif][FONT=Tahoma, Microsoft Sans Serif]
    [/FONT][/FONT]
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตำนาน พระอุปคุต

    [​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="52%">
    พระอุปคุตหลวงพ่อนนท์ วัดเหนือวน
    </TD><TD width="48%">



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    จากการค้นหาข้อมูลของพระอุปคุตนั้น เราทราบเพียงว่า ท่านเกิดหลังพระพุทธเจ้า เสด็จปรินิพพานแล้ว ประมาณ พ.ศ. 218 ปี แต่ไม่ทราบภูมิเดิมของท่านละเอียด ว่าเป็นบุตรของใคร เกิดในวรรณะอะไร และที่ไหน

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="52%">
    [​IMG]


    </TD><TD class=telltext width="48%"></TD></TR></TBODY></TABLE>​
    จากการสันนิษฐานตามตำนาน พระเถระอุปคุต น่าจะเป็นชาวเมืองปาตลีบุตร เมื่อบวชแล้วบำเพ็ญเพียร จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ สำเร็จอภิญญาต่างๆ จนสามารถแสดงอภินิหาร เป็นที่เล่าลือมาจนทุกวันนี้ มีปฏิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่าท่านเนรมิตเรือนแก้ว (กุฏิแก้ว) ขึ้นในท้องทะเลหลวง (สะดือทะเล) แล้วก็ลงไปอยู่ประจำ ที่กุฏิแก้วตลอดเวลา เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือเมื่อมีพิธีกรรมใหญ่ๆ หรือมีผู้นิมนต์ ท่านก็จะขึ้นมาช่วยเหลือ ด้วยความเต็มใจเสมอ

    สรุปรวมความได้ว่า ท่านเป็นพระเถระสำคัญองค์หนึ่ง ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช (ผู้นำกองทัพธรรมแผ่กระจายไปทั่วโลก) เป็นพระเถระผู้เปี่ยมด้วยพุทธานุภาพ และฤทธิ์เดชเกรียงไกร สามารถปราบพญามารและกำจัดสิ่งชั่วร้าย ที่จะมาทำลายพิธีกรรมใหญ่ ๆ มาแต่ครั้งโบราณ

    เรื่องราวก็มีอยู่ว่า เมื่อประมาณปลายพุทธศตวรรษที่ 2 หลังพุทธปรินิพพาน ณ นครปาตลีบุตราชธานี (ปัจจุบันคือเมืองปัตนะ ภาคใต้อินเดีย) พระเจ้าอโศกมหาราช ผู้ครองราชสมบัติในขณะนั้น ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ตามตำนานกล่าวว่า ได้ทรงสร้างพระวิหารและพระสถูป มากมายทั่วทั้งชมพูทวีป (เค้าว่ามากถึงแปดหมื่นสี่พันองค์) เป็นผู้รวบรวมและขุดค้นพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อจะนำไปบรรจุในสถูปที่พระองค์ทรงสร้างไว้ทุกแห่ง

    เมื่อการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็ทรงปรารภ ที่จะจัดให้มีการฉลองสมโภช พระสถูปเจดีย์ทั้งหมดนั้น เป็นการมโหฬารยิ่ง ตลอด 7 ปี 7 เดือน 7 วัน และเพื่อให้การฉลองสมโภช เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปราศจากอุปสรรค จึงใคร่จะอาราธนาพระสงฆ์ขีณาสพ ที่ทรงอิทธิฤทธิ์ มาเป็นผู้คุ้มครองงาน ให้ปราศจากการรบกวนจากมารร้ายต่าง ๆ

    แต่พระสงฆ์ในนครปาตลีบุตร ไม่มีรูปใดที่จะสามารถ เป็นผู้คุ้มครองงานมหกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ ให้พ้นจากภัยทั้งหลายทั้งปวงได้ (โดยเฉพาะภัยจากพญาวัสสวดีมาร ผู้มีฤทธิ์ยิ่งกว่าภูตผีปีศาจทั้งหลาย) นอกเสียจากพระอุปคุตเถระผู้เดียวเท่านั้น พระสงฆ์ทั้งปวงจึงตั้งตัวแทน ๒ รูป ลงไปอาราธนาพระอุปคุตเถระผู้เรืองฤทธิ์ มาช่วยรักษาความปลอดภัย ในงานสมโภชครั้งนี้ ซึ่งกล่าวกันว่า พระอุปคุตเถระองค์นี้ มีปกติสันโดษอยู่องค์เดียว เข้าฌานสมาบัติเสวยวิมุตติสุข อยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ภายในปราสาทแก้วที่เนรมิตขึ้น เหนือรัตนะบัลลังก์ จะออกจากสมาบัติ เหาะขึ้นมาบิณฑบาต ในโลกมนุษย์ ในวันพุธเพ็ญกลางเดือนเท่านั้น

    และในครั้งนี้เอง พระอุปคุตเถระ ถูกพระภิกษุสองรูป ผู้ได้อภิญญาสมาบัติ ชำแรกมหาสมุทร ลงมาถึงตัวท่านแจ้งว่า ให้ท่านจงเป็นธุระ ป้องกันพญามารอย่าให้รบกวนงานฉลองพระสถูปเจดีย์ ของพระเจ้าอโศกมหาราชได้

    เมื่อพระอุปคุตเถระได้รับนิมนต์ ก็เดินทางมานมัสการ และรายงานตัวต่อคณะสงฆ์ในวันรุ่งขึ้น พระเจ้าอโศกมหาราช จึงได้เสด็จเข้ามานมัสการคณะสงฆ์ เพื่อขอทราบเรื่อง ผู้จะที่จะมาทำหน้าที่รักษาการ งานฉลองสมโภชพระสถูปเจดีย์ เมื่อพระองค์ทรงทราบ ว่าผู้ที่จะมาทำหน้าที่นี้ คือพระอุปคุตเถระ ก็ทรงนึกแคลงพระทัย เนื่องจากพระอุปคุตเถระนั้น มีร่างกายผ่ายผอมดูอ่อนแอ ก็ทรงไม่แน่ใจ เกรงจะทำหน้าที่ได้ไม่สมบูรณ์ แต่ไม่ทรงตรัสว่ากระไร

    ครั้นรุ่งเช้าวันใหม่ ขณะที่พระอุปคุตหาเถระ ออกบิณฑบาตในนครปาตลีบุตรนั้น พระเจ้าอโศกมหาราช ใคร่จะทดสอบฤทธิ์พระเถระ จึงทรงปล่อยช้างซับมัน (ช้างตกมัน) ให้เข้าทำร้ายพระเถระ พระมหาอุปคุตเถระเห็นดังนั้น จึงสะกดช้าง ที่กำลังวิ่งเข้ามา ให้หยุดอยู่กับที่ ไม่ไหวติงประดุจช้างที่สลักด้วยศิลา พระเจ้าอโศกมหาราช ทอดพระเนตรเห็นดังนั้น ก็ทรงเลื่อมใส จึงเสด็จไปขอขมาพระเถระ พระมหาอุปคุตเถระ ก็ให้อภัยทั้งแก่พระเจ้าอโศกมหาราช และพญาคชสาร

    เมื่อเห็นว่าพระอุปคุตเถระ มีฤทธิ์เดชมาก พระเจ้าอโศกมหาราช ก็ทรงวางพระทัย ตรัสสั่งให้เตรียมฉลองสมโภช พระสถูปเจดีย์ทั้งหมด ด้วยการปลูกปะรำร้านโรง ประดับธงทิว และประทีปโคมไฟ ตลอดระยะทางกึ่งโยชน์ ทำให้ตามแนวฝั่งแม่น้ำคงคา สว่างไสวไปทั่วทั้งบริเวณ

    บรรลุฤกษ์งามยามดีตามที่กำหนดไว้ บรรดาพระสงฆ์ขีณาสพ และพระสงฆ์ปุถุชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ทั้งในนครปาตลีบุตร และต่างแดนจากจตุรทิศ ก็เริ่มหลั่งไหลเข้าสู่บริเวณงาน พร้อมเครื่องสักการบูชา เพื่อร่วมพิธีฉลองสมโภช พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในมหาเจดีย์ และเจดีย์ ทั้งแปดหมื่นสี่พันองค์ ด้วยความเลื่อมใส ศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง

    และในเวลานี้เอง พญามาร (พญาวัสสวดีเทพบุตรมาร) ก็มุ่งหน้าเข้ามาในงานกับเค้าเหมือนกัน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะก่อความวุ่นวาย ต่างๆ นานา ทั้งบันดาลให้เกิดลมพายุ ทั้งแปลงร่างเป็นสัตว์ป่า และสัตว์หิมพานต์ แต่ทุกครั้งก็โดนพระอุปคุตเถระ กำราบได้หมด และสุดท้าย เพื่อให้พญามาร ออกไปจากบริเวณพิธี พระอุปคุตเถระ จึงเนรมิตร่างหมาเน่าขึ้นมาตัวหนึ่ง แล้วดึงประคตจากเอวของท่าน ออกมาผูกร่างหมาเน่านั้น คล้องคอพญามารไว้ แล้วสำทับว่าไม่ว่าใครก็ตาม (นอกจากท่านเอง) จะเอาหมาเน่านี้ออก จากคอพญามารไม่ได้ แล้วขับพญามารออกไป จากบริเวณงานทันที

    ด้วยความอับอาย พญามารก็ออกมาจากบริเวณงาน และพยายามแก้ร่างสุนัขเน่า ออกด้วยฤทธานุภาพ แต่ทำอย่างไร ก็ไม่สามารถแก้ได้ เพราะเมื่อเอามือทั้งสอง ต้องสายประคตที่คล้องคอทีไร ต้องมีไฟลุกขึ้นไหม้คอ และมือทันที สุดจะแก้ไขด้วยตนเองได้ ก็ไปหาที่พึ่งอื่น (ที่คิดว่าน่าจะช่วยได้)
    แต่ถึงแม้จะไปหาท้าวมหาราชทั้งสี่ พระอินทร์ ท้าวยามา ท้าวสันดุสิต ท้าวนิมิตเทวราช ตลอดจนท้าวสหัสบดีพรม ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้ ต่างได้แต่แนะนำว่า ให้พญามารไปขอขมา และขอความเมตตา จากพระเถระผู้นั้นเสียดีกว่า

    พญามารเห็นดังนั้น จึงจำใจต้องกลับไปหาพระเถระ อ้อนวอน ให้ช่วยเอาซากหมาเน่าออกจากคอให้ แล้วจะไม่มารบกวน การจัดงานอีก พระอุปคุตเถระก็อนุโลมตาม แต่ยังไม่ไว้ใจพญามารนัก เกรงพญามาร จะกลับมาทำลายพิธีในภายหลัง จึงเดินนำพญามาร ไปยังเขาใหญ่ลูกหนึ่ง แล้วเอาร่างหมาเน่าทิ้งลงเหว และเนรมิตให้สายประคตยาวขึ้น แล้วพันคอพญามาร ไว้กับเขาลูกนั้น พร้อมทั้งแจ้งว่า เมื่อเสร็จพิธีฉลองสมโภช พระมหาเจดีย์สิ้นสุดลงแล้ว จึงจะแก้โซ่ออก ปล่อยให้พญามารเป็นอิสระ (7 ปี 7 เดือน 7 วัน)

    เวลาผ่านไปตามที่ตกลงกัน การจัดงานสมโภชน์ ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พระอุปคุตเถระ จึงกลับมาหาพญามาร โดยแอบอยู่ห่างๆ เพื่อฟังเสียงพญามารว่า ละพยศร้ายหรือยัง

    พญามารเอง เมื่อจากทิพยวิมานอันบรมสุข มารับทุกขเวทนาเช่นนี้ ก็ละพยศร้ายในสันดาน หวนนึกถึงพระพุทธโคดม จึงกล่าวสดุดี ในความเมตตากรุณา ของพระพุทธเจ้า ในเรื่องที่ทรงมีมหากรุณาธิคุณ อันยิ่งใหญ่ว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2007
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คำบรรยายสภาพภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต

    [​IMG]

    ทวีปมู(Mu) หรือ รีมูเลีย(LeMUria) คือ นครอันตธานที่จมหายลงใต้ทะเลแปซิฟิกใต้เมื่อกว่า ๑๓,๐๐๐ ปี

    จุดจบคือจุดเริ่มต้น และ จุดเริ่มต้นก็คือจุดจบ หลังจากจุดจบทวีปมู เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของอารยธรรมจุดต่างๆ ในโลกยุคหลังของผู้รอดจากภัยพิบัติ


    *บันทึก ลาซา
    **แผ่นจารึก โคเด็กซ์ คอร์เตซิอานุส (แผ่นจารึกของมายา) และโตรอาโน
    ***บันทึก ไอยคุปต์
    ****แผ่นจารึก โตรอาโน

    ''''''''''เสียงคำรามดังกระหึ่มจากใต้โลก ติดตามด้วยแผ่นดินไหวและภูเขาไฟที่เริ่มระเบิดจากส่วนใต้ของแผ่นดินทางชายฝั่งด้านใต้ มีคลื่นลูกใหญ่ม้วนตัวจากมหาสมุทรเข้ามาปกคลุมแผ่นดิน ผืนน้ำกลืนเมืองหลายเมืองให้จมดิ่งลงไป ภูเขาไฟพ่นไฟ ควัน และลาวาออกมา แต่ลาวาไม่ได้ไหลไป กลับทับถมกันจนเป็นรูปกรวย มียอดที่แหลมสูง ซึ่งกลายเป็นบริเวณส่วนหนึ่งของเกาะแถบทะเลใต้ในปัจจุบัน ในที่สุดการระเบิดก็ได้สงบลงภูเขาไฟมอดดับและอยู่ในความสงบตั้งแต่บัดนั้นมา

    ''''''''''หลังจากการระเบิดได้สงบลง ประชากรของแผ่นดิน มู จึงค่อยๆ ผ่านพ้นจากความหวาดกลัว เมืองที่ปรักหักพังได้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ การค้าและการพานิชย์ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง กาลเวลาได้ผ่านไปหลายรุ่น จนเหตุการณ์อันน่าหวาดกลัวนั้นได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ แผ่นดิน มู ต้องตกเป็นเหยื่ออีกครั้งหนึ่งในเหตุการณ์แผ่นดินไหว ผืนดินไหว ทวีปทั้งทวีปม้วนตัวราวกับคลื่นของมหาสมุทร แผ่นดินสั่นไหวสะท้านสะเทือนราวกับใบไม้ของต้นไม้ที่อยู่ท่ามกลางพายุ วิหารและพระราชวังพังราบลงสู่พื้นดินอนุสาวรีย์และรูปปั้นคว่ำทลายลง เมืองหลายเมืองกลายเป็นกองของซากปรักหักพัง

    ''''''''''ขณะที่แผ่นดินสั่นสะเทือนขึ้นลงนั้น ไฟจากเบื้องล่างได้ระเบิดขึ้น เปลวไฟลุกพุ่งสู่มวลเมฆ ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า ๔.๘ กิโลเมตร เปลวไฟได้บรรจบกับลำแสงของสายฟ้าที่มีอยู่ทั่วทั้งท้องฟ้า ควันหนาสีดำปกคลุมทั่วทั้งแผ่นดิน คลื่นลูกใหญ่ม้วนตัวสู่ชายฝั่ง และขยายตัวสู่ที่ราบ

    ''''''''''เมืองและสิ่งมีชีวิตถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตา เสียงร้องไห้ อันเจ็บปวดทรมานของผู้คนมากมายดังไปทั่วบริเวณ พวกเขาต่างหาที่หลบภัยตามวิหารและป้อมต่าง ๆ แต่ก็ต้องพบกับเปลวไฟ และกลุ่มควัน สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีในเครื่องแต่งกายที่หรูหรา ประดับประดาด้วยอัญมณีต่างเป็นร้องเป็นเสียงเดียว "มู ช่วยชีวิตพวกเราด้วย"

    ''''''''''ดวงอาทิตย์แสดงตัวที่ขอบฟ้าภายใต้กลุ่มที่ปกคลุมผืนแผ่นดินดวงอาทิตย์ ช่างดุราวกับลุกไฟสีแดงดวงใหญ่ที่กำลังเผาผลาญด้วยความโกรธ เมื่อดวงอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้ว ความืดมิดจึงได้เข้าครอบงำ จะมีก็เพียงแต่แสงไฟที่มาจากแสงวูบวาบ ของสายฟ้า อันดัังกึกก้อง แผ่นดินผืนนี้ก็ถึงวาระที่จะจมดิ่งลงไปเรื่อย ๆ ลงไปสู่ปากทางแห่งนรกหรือถังแห่งไฟ

    ''''''''''ขณะที่แผ่นดินที่แหลกสลายจมลงสู่ห้วงเหวแห่งไฟนั้น เปลวไฟได้ รุกล้อมรอบและหุ้มห่อแผ่นดินไว้ เปลวไฟกำลังทวงสิทธิ์กับเหยื่อของมัน ซึ่งก็คือ ดินแดนมู และประชากรของเธอกว่า ๖๔,๐๐๐,๐๐๐ คน ที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับไฟนี้

    ''''''''''ขณะที่มู จม ลงสุ่อ่าวแห่งไฟนั้น พลังอำนาจ อีกอย่างหนึ่งก็ได้เข้ามาซ้ำเติม นั่นก็คือ ผืนน้ำกว่า ๘๐,๐๐๐,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร ซึ่งเข้าถาโถมไปทั่วบริเวณ น้ำและไฟ พบกันตรงบริเวณที่เคยเป็นศูนย์กลางของแผ่นดิน และที่ตรงนั้นเองที่เกิดการเดือดพล่าน

    ''''''''''มู ดินแดนมาตุภูมิ ของมนุษยชาติ ด้วยเมืองทั้งหลายที่น่าภาคภูมิใจ พร้อมด้วยวิหาร พระราชวัง ศาสตร์ และศิลป์ของเธอได้กลายเป็นภาพความฝันในอดีต ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ ทำหน้าที่ดังผ้าผืนใหญ่ ที่ห่อหุ้มดินแดน ไว้เบื้องล่าง ความหายนะของทวีปครั้งนี้ เป็นก้าวแรกของการเสื่อมสลาย ของอารยธรรม อันยิ่งใหญ่อารยธรรมแรกของโลก เป็นเวลาเกือบ ๑๓,๐๐๐ ปี ที่ความเสื่อมสลายของมูได้แผ่อำนาจปกคลุมพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของโลก

    ''''''''''แม้ว่าในบางส่วนจะดีขึ้น ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่ยังคงได้รับผลกระทบอยู่ เมื่อทวีปได้แตกแยก ขาดสะบั้น และจมลง สันและยอดของแผ่นบางส่วนยังคงเหลืออยู่ให้เห็นเหนือผืนน้ำ นั่นทำให้เกิดเกาะและหมู่เกาะทั้งหลายแตกแยก และมีลักษณะขรุขระเป็นเหลี่ยมแหลม เนื่องจากพลังภูเขาไฟ ที่ได้เกิดขึ้นภายใต้หมู่เกาะเหล่านั้น หมู่เกาะเหล่านี้ได้รองรับ มนุษยชาติ ที่หลบหนีจากดินแดนที่จมลงสู่พื้นน้ำ ดินแดนซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าของ หรือดินแดนที่เป็นมาตุภูมิ ซึ่งได้กลายเป็นส่วนประกอบของผืนน้ำ ที่พลุ่งพล่านอยู่รอบ ๆ เกาะ

    ''''''''''หลังจากที่ได้กลืนผืนดินอันเป็นมาตุภูมิ ของมนุษยชาติ แล้วนั้น ผืนอันกว้างใหญ่ได้สงบนิ่ง ราวกับว่าพึงพอใจในผลงานอันร้ายกาจของตนและผืนน้ำที่ว่านี้ก็คือ มหาสุมทรแปซิฟิก ซึ่งมีความหมายถึง ความสงบ

    ''''''''''บนเกาะเหล่านี้ประชากรของมูที่รอดชีวิตได้มารวมตัวกัน รอคอย ให้เหตุการณ์แผ่นดินไหวอันเลวร้ายบรรเทาลง พวกเขาเห็นวิหารและพระราชวัง เรือ และถนนของพวกเขาพังทลายลง และถูกกลืนกินโดยผืนมหาสมุทร ประชากรเกือบทั้งหมดถูกดูดกลืนไปกับความหายนะครั้งนี้ ประชากรจำนวนน้อยของมู ที่เหลือรอดชีวิต พบว่าพวกเขาอยู่ในสถานะที่สิ้นเนื้อประดาตัว และหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง

    ''''''''''พวกเขาไม่มีอะไรเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือต่าง ๆ ที่อยู่อาศัย ผืนดิน และอาหารที่มีอยู่ก็มีเพียงน้อยนิด ล้อมรอบพวกเขาคือ ผืนน้ำที่กำลังเดือดพล่าน เบื้องบนคือกลุ่มเมฆหมอกอันหนาทึบที่ประกอบไปด้วยด้วยไปน้ำ ควันไฟ และเถ้าถ่าน กลุ่มหมอกนี้ได้บดบังแสงสว่างจนหมดสิ้น ก่อให้เกิดความมืดมิดที่ยากจะทะลุผ่านได้ เสียงกรีดร้องอย่างสิ้นหวังของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องปิดฉากชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาทของผู้รอดชีวิต มันช่างเป็นภาพที่น่่ากลัวสำหรับพวกเขา

    ''''''''''ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขากำลังเผชิญกับความน่ากลัวอีกแขนงหนึ่ง นั่นก็คือ ความตายจากการอดอาหาร และการตากแดดตากลมเนื่องจากไร้ที่อยู่อาศัย มีเพียงส่วนน้อยที่สามารถเอาชีวิตรอดจากความยากลำบากแสนสาหัสนี้ ผู้คนส่วนมากเสียชีวิตอย่างน่าเวทนา

    ร่องรอยอารยธรรมทวีปมูในอดีต ที่พบในปัจจุบัน ณ สถานที่ต่าง ๆ

    [​IMG]
    ทวีปมู ที่ ตองกาตาบู

    [​IMG]
    บาสทิน

    [​IMG]

    [​IMG]
    โมอัย

    [​IMG]
    ไทเนียน

    [​IMG]
    xochi

    [​IMG]
    xochicalo

    [​IMG]
    uxmal(ยูกาตัง-เม็กซิโก)

    [​IMG]
    โตรอาโน-แผ่นจารึกโตรอาโน

    [​IMG]
    xochicalo

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2007
  17. ป่ารักษ์น้ำ

    ป่ารักษ์น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +238
    สวัสดี..ก็เคยคิดไอ้เรื่องแบบนี้จนเพื่อนคิดว่าผมบ้าจริงหรือเปล่า...ที่อยากรู้ข้อมูลเรื่องภูเขาไฟที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกในประเทศไทย อย่างเช่นที่ลำปาง ขอข้อมูลตรงนี้ด้วยถ้าผู้รู้ผ่านมาตรงนี้ด้วยครับ...
    ***
    ขอบคุณ
     
  18. ป่ารักษ์น้ำ

    ป่ารักษ์น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +238
    เรียนสมาชิกที่อยู่ในกระทู้ในขณะนี้...อยากติตต่อเรื่องเหรียญพลังจิตที่ออกมาให้เช่าบูชา...กรุณาให้รายละเอียดด้วยครับเบอร์โทรติดต่อก็ได้ครับ
    ***
    ขอบคุณ
     
  19. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258

    จากข่าวที่ออกตาม นสพ. 8 ลูก นั้นไม่ระเบิดเลยซักลูก
    จะระเบิดในที่คนไม่รู้มาก่อน การชำระโลกต้องเป็น
    ที่คนคาดไม่ถึง (เข็มขัดสั้น)
    ที่จะระเบิดลูกแรก ซ่อนอยู่ที่เทือกเขาตะนาวศรี ราชบุรี
    ตอนนี้มองไม่เห็น ถึงเวลามันจะโผล่ออกมาเอง
    แล้วลูกต่อมา ที่ขอนแก่น สุโขทัย และกาฬสินธุ์
    ที่บุรีรัมย์ในเมือง ไม่ระเบิดแค่ไอกะเแอม ออกมาเป็นควัน
     
  20. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...