WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

คาร์บอมบ์ตะวันตกกรุงดามัสกัสดับทันที 11 ศพเจ็บอีก30

วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2555 เวลา 01:45 น.



กลุ่มหัวรุนแรง ส่งคาร์บอมบ์ก่อเหตุทางตะวันตกของกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 11 ศพ บาดเจ็บอีก 30 คน

วันนี้ (6 พ.ย.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรียว่า เกิดเหตุระเบิดในรถยนต์หรือคาร์บอมบ์ในย่านที่อยู่อาศัย เมห์เซห์ 86 ทางตะวันตกของกรุงดามัสกัส ในวันนี้ แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ และบาดเจ็บอีก 30 คน ตามรายงานของสื่อโทรทัศน์ของซีเรีย และกลุ่มสิทธิมนุษยชนซีเรีย


จุดที่เกิดเหตุ เมห์เซห์ 86 ตั้งอยู่บนเขา ใกล้กับทางหลวงเส้นทางสู่ประเทศเลบานอน เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชนกลุ่มน้อย อัลลาไวต์ นิกายหนึ่งของชาวชีอะห์ และเป็นกลุ่มเดียวกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งครองอำนาจอยู่เหนือชาวสุหนี่ในประเทศซีเรีย นับตั้งแต่ปี 2503 เป็นต้นมา


กลุ่มหัวรุนแรง เซอิฟ อัล-ชาม เป็นผู้ประกาศอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีดังกล่าว เพราะมีเป้าหมายทำลายพื้นที่จุดนัดพบของกองทัพและตำรวจของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย
ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า กองกำลังฝ่ายกบฏซีเรียได้เปิดฉากการโจมตีด้วยระเบิดในรถยนต์เช่นกัน ถล่มเป้าหมายที่ตั้งทางทหารของฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ในจังหวัดฮามา ทางตอนกลางของประเทศ เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ยังผลให้ทหารฝ่ายรัฐบาลเสียชีวิตไป 50 ศพ


มีรายงานด้วยว่า ทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศ ด้วยการทิ้งระเบิดถล่มฐานที่มั่นฝ่ายกบฏทั่วประเทศซีเรีย โดยเฉพาะที่เมืองฮาเรม จังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ยังผลให้นักรบฝ่ายกบฏเสียชีวิตไป 20 ศพ


การลุกฮือขึ้นต่อต้านรัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เริ่มขึ้นมาครั้งแรกเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว จนกลายเป็นสงครามกลางเมืองที่สู้รบกันมาอย่างต่อเนื่อง มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 36,000 ศพ

คาร์บอมบ์ตะวันตกกรุงดามัสกัสดับทันที 11 ศพเจ็บอีก30 | เดลินิวส์

 

ทางการซาอุฯยัน พบผู้ติดเชื้อ “ไวรัสพันธุ์ใหม่”คล้ายโรค “ซาร์ส” เป็นรายที่ 2 ของประเทศ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤศจิกายน 2555 13:01 น.



เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-กระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียออกแถลงยืนยันเมื่อวันจันทร์ (5) ว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสประหลาดสายพันธุ์ใหม่เป็นรายที่ 2 ของประเทศ ส่งผลให้ยอดรวมของผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดใหม่ที่มีลักษณะคล้าย “โรคซาร์ส” นี้ในแถบภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียเพิ่มเป็น 3 รายแล้วภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์

คำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียระบุว่า ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ในกรุงริยาดห์ เมืองหลวงของประเทศ ได้ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยผลการตรวจสอบพบว่า ผู้ป่วยรายนี้มีอาการปอดอักเสบขั้นรุนแรง จากผลของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แต่ล่าสุด อาการป่วยของผู้ติดเชื้อรายนี้เริ่มฟื้นตัวแล้ว อย่างไรก็ดี คำแถลงของกระทรวงฯ ไม่เปิดเผยรายละเอียดใดๆ ว่า ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเมื่อใด ที่ไหน และอย่างไร

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญของซาอุดีอาระเบียซึ่งถูกระบุเป็นดินแดนต้นตอของไวรัสชนิดใหม่ รวมถึงเจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก(WHO) มีเพียงข้อมูลว่าเชื้อไวรัสชนิดใหม่ล่าสุดของโลก มีลักษณะคล้ายกับเชื้อไวรัสมรณะที่ทำให้เกิดโรคซาร์สที่เคยแพร่ระบาดไปทั่วโลกและคร่าชีวิตประชาชนในหลายประเทศไปกว่า 800 คนเมื่อปี 2003

Around the World - Manager Online - ทางการซาอุฯยัน พบผู้ติดเชื้อ “ไวรัสพันธุ์ใหม่”คล้ายโรค “ซาร์ส” เป็นรายที่ 2 ของประเทศ

 

แผนที่อากาศล่าสุด

ลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 04:00 น.วันนี้

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีหมอกหนาบางพื้นที่ และมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจายและมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้

 

เท่าที่หาได้ก็เป็นข้อมูลปี 2010 ครับ
MAGNETIC POLE SHIFT

 

ล่าสุด มาแล้วครับ เริ่มมีอะไรแปลกๆ ที่ใจกลางแกแลกซี่
หรือว่า.....นี่คือสัญญาณเตือน

November 7, 2012 – SPACE - For some unknown reason, the black hole at the center of the Milky Way galaxy shoots out an X-ray flare about once a day. These flares last a few hours with the brightness ranging from a few times to nearly one hundred times that of the black hole’s regular output. But back in February 2012, astronomers using the Chandra X-Ray Observatory detected the brightest flare ever observed from the central black hole, also known as Sagittarius A*. The flare, recorded 26,000 light years away, was 150 times brighter than the black hole’s normal luminosity. What causes these outbursts? Scientists aren’t sure. But Sagittarius A* doesn’t seem to be slowing down, even though as black holes age they should show a decrease in activity. –Universe Today

 

แผ่นดินไหวปานกลางแรง 5.5 เขย่าอิหร่าน สะเทือนไกลถึงอาร์เมเนีย ชาติเพื่อนบ้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 พฤศจิกายน 2555 14:18 น.

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงานเมื่อวันพุธ (7) ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดปานกลางซึ่งสามารถวัดความรุนแรงได้ที่ระดับ 5.5 ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

ข้อมูลของยูเอสจีเอสระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวระดับ 5.5 ครั้งนี้ อยู่ลึกลงไปใต้ดินเพียงแค่ 10 กิโลเมตร ห่างจากเมืองอะฮาร์ เมืองเอกของเขตอะฮาร์ ในจังหวัดอาเซอร์ไบจันตะวันออกของอิหร่าน ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 85,000 คนไปทางตะวันตกเพียง 39 กิโลเมตร และห่างจากเมือง ทาบริซ เมืองใหญ่อันดับ 4ที่มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 1.4 ล้านคนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 51 กิโลเมตร

เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ จากแผ่นดินไหวขนาดปานกลางที่อิหร่านในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี มีรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวระดับ 5.5 ในอิหร่านสามารถรับรู้ได้ไกลถึงกรุงเยเรวาน นครหลวงของประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาร์เมเนียที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากกว่า 260 กิโลเมตรเช่นกัน


เขตอะฮาร์ของอิหร่าน ใกล้พรมแดนประเทศอาร์เมเนีย

 

ห้าทุ่มเศษ...ที่กัวเตมาลา
2012-11-08 05:42:46 THA.
2012-11-07 22:42:46 UTC.
Off Coast of Chiapas Mexico
Lat: 13.96 , Long: -92.30
ขนาด: 5.4 , ลึก: 10 กม.
--------------------------------------------
Magnitude Mw 7.4
Region OFFSHORE GUATEMALA
Date time 2012-11-07 16:35:44.0 UTC
Location 14.00 N ; 92.28 W
Depth 10 km
Distances 846 km SE Puebla (pop 1,392,099 ; local time 10:35:44.1 2012-11-07)
101 km S Tapachula (pop 197,961 ; local time 10:35:44.1 2012-11-07)
61 km S Suchiate (pop 13,743 ; local time 10:35:44.1 2012-11-07)
51 km SW Champerico (pop 7,761 ; local time 10:35:44.1 2012-11-07)
Global view
-----------------------------------------------------------------
Update time = Wed Nov 7 23:20:06 UTC 2012

MAP 5.1 2012/11/07 22:42:49 13.907 -92.225 35.1 OFFSHORE GUATEMALA
MAP 4.9 2012/11/07 22:41:33 -37.523 -72.914 39.5 BIO-BIO, CHILE
MAP 2.9 2012/11/07 21:55:15 60.532 -152.792 118.5 SOUTHERN ALASKA
MAP 5.0 2012/11/07 19:55:35 14.018 -92.173 35.1 OFFSHORE GUATEMALA
MAP 2.6 2012/11/07 19:11:27 18.711 -66.357 104.0 PUERTO RICO REGION
MAP 2.5 2012/11/07 18:07:49 57.707 -154.451 50.4 KODIAK ISLAND REGION, ALASKA
MAP 5.0 2012/11/07 17:04:05 13.903 -91.791 35.0 OFFSHORE GUATEMALA
MAP 4.7 2012/11/07 16:57:08 14.102 -92.361 35.0 OFFSHORE GUATEMALA
MAP 7.4 2012/11/07 16:35:50 14.083 -91.916 41.6 OFFSHORE GUATEMALA

 

ยอดตายกัวเตมาลาพุ่ง 48 ศพ หลังเจอแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ7.4

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤศจิกายน 2555 06:12 น.







เอเอฟพี/เอเจนซี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเขย่ากัวเตมาลา ด้วยความรุนแรง 7.4 เมื่อวันพุธ(7) เพิ่มขึ้นเป็น 48 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 155 คน ขณะที่ประธานาธิบดีรุดตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ

ประธานาธิบดีออตโต เปเรซ บอกกับผู้สื่อข่าวหลังตรวจเยี่ยมพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบว่า "เราพบผู้เสียชีวิตแล้ว 48 ศพ มันเป็นโศกนาฏกรรม" ปรับเพิ่มจากรายงานข่าวเบื้องต้นที่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย

รายงานข่าวระบุว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกพบตามเขตต่างๆ 6 เขตในเมืองซันมาร์กอส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงกัวเตมาลาซิตีและมีชายแดนติดกับเม็กซิโก โดย 12 ศพพบที่เขตซันคริสโตบัลคูโช 8 ศพที่เขตเอสกิปูลาสปาโลกอร์โด และอีก 5 ศพในตัวเมืองซันมาร์กอส ส่วนที่เหลือพบตามเขตลารีฟอร์มา, ซันเปโดร ซากาเตเปเกซและเกตซัล



ประธานาธิบดีเปเรซ บอกว่าแผ่นดินไหวระดับ 7.4 ครั้งนี้ เขย่าบ้านเรือนราษฎร 131 หลังพังราบและยังทำให้ประชาชนในเมืองซันมาร์กอส ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงกัวเตมาลาซิตี ราว 160 กิโลเมตร ได้รับบาดเจ็บอีก 155 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวจำนวน 11 แห่งและสามารถรองรับผู้ประสบภัยได้ราวๆ 800 คน

สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯระบุว่าสามารถวัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ที่ 7.4 โดยมีศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งแปซิฟิก ห่างจากเมืองแชมเปริโก ทางใต้ของกัวเตมาลา ติดชายแดนเม็กซิโก ราว 24 กิโลเมตร

ทั้งนี้สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯ ระบุด้วยว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดขึ้น ณ เวลา 10.35 น.ตามเวลาท้องถิ่น(ตรงกับเมืองไทย 23.35 น.) มีศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งแปซิฟิก ห่างจากเมืองแชมเปริโก ทางใต้ของกัวเตมาลา ติดชายแดนเม็กซิโก ราว 24 กิโลเมตรและอยู่ห่างจากกรุงกัวเตมาลาซิตี เมืองหลวงของกัวเตมาลา ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 163 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ดิน 42 กิโลเมตร

ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิกระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ก่อกำเนิดคลื่นยักษ์สึนามิ อย่างไรก็ตามทางโฆษกหน่วยดับเพลิงกัวเตมาลา เผยว่าได้เกิดดินถล่มปิดกั้นท้องถนนในหลายพื้นที่และการสื่อสารในพื้นที่เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากสายโทรศัพท์ขาดร่วง นอกจากนี้ยังมีปัญหาไฟฟ้าดับในหลายจุดด้วย



แผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.4 เขย่านอกชายฝั่งกัวเตมาลาเมื่อวันพุธ(7) ทำอาคารต่างๆในกรุงกัวเตมาลาซิตี และซันซัลวาดอร์ เมืองหลวงของเอลซันวาดอร์ สั่นไหว และยังสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ไกลถึงเม็กซิโก

ผู้เห็นเหตุการณ์ในเมืองกัวเตมาลาซิตี เผยว่าผู้คนในบางพื้นที่ของเมืองหลวง ต้องอพยพหลบหนีออกจากอาคารบ้านเรือน โรงเรียนและสำนักงานต่างๆ ส่วนหน่วยดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือก็อยู่ในความเตรียมพร้อม ขณะเดียวกันยังพบเห็นชาวบ้านหลายร้อยคนที่ยืนออกันอยู่บนท้องถนน ต่างพยายามโทรศัพท์ติดต่อไปหาเพื่อนๆและครอบครัว สอบถามถึงความปลอดภัย

ด้าน มาร์เซโล เอบราร์ด นายกเทศมนตรีเม็กซิโกซิตี เปิดเผยว่าพนักงานออฟฟิศพากันแตกตื่นวิ่งหนีลงมาจากตัวอาคาร หลังแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวสามารถรับรู้ได้ไกลถึงเมืองหลวงแห่งนี้ที่มีประชากรอยู่ราวๆ 20 ล้านคน "มีการอพยพในหลายพื้นที่ของเมือง" ขณะที่รถไฟฟ้าก็จำเป็นต้องงดให้บริการช่วงสั้นๆ

 

คุณ Falkmanคะ กฐินวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมบุญได้ที่ไหนคะ

 

ขอบคุณนะคะที่มีข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อโลกเราเเละทุกๆคน
ขอให้ทุกท่านปลอดภัยจากภัยทั้วปวง;41

 

นักวิจัยอากาศ “นาซา” เตือน ธารน้ำแข็งบนยอดเขา “คิลิมันจาโร” อาจหายไปหมดภายในปี 2060 เพราะโลกร้อน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 พฤศจิกายน 2555 14:11 น.

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดแสดงให้เห็นธารน้ำแข็งที่ลดจำนวนอย่างน่าตกใจ
เอเจนซีย์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-อุณหภูมิโลกที่พุ่งสูงขึ้นจากผลของภาวะโลกร้อน กำลังส่งผลต่อธารน้ำแข็งที่ปกคลุมยอดเขาคิลิมันจาโร ประเทศแทนซาเนีย ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา นักวิจัยอากาศ “นาซา” เตือน ธารน้ำแข็งบนยอดเขา “คิลิมันจาโร” อาจหายไปหมดภายในปี 2060

รายงานข่าวซึ่งอ้างผลการศึกษาของทีมวิจัยที่นำโดยคิมเบอร์ลีย์ เคซีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธารน้ำแข็ง จากหน่วยงานวิจัยสภาพภูมิอากาศของสำนักงานบริหารอวกาศและการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) พบว่า ธารน้ำแข็งบนยอดของภูเขาไฟคิลิมันจาโรความสูง 5,895 เมตร(19,341 ฟุต)ในเขตอุทยานแห่งชาติคิลิมันจาโร ประเทศแทนซาเนียทางตะวันออกของทวีปแอฟริกานั้นกำลังหดตัว มีขนาดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง จากผลของอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเพราะอิทธิพลของภาวะโลกร้อน และธารน้ำแข็งเก่าแก่ที่อยู่คู่กับยอดเขาแห่งนี้มานานมากกว่า 10,000 ปี อาจหายไปอย่างสิ้นเชิงภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

ผลการศึกษาของทีมวิจัยพบข้อมูลว่าธารน้ำแข็งที่ปกคลุมบนยอดของภูเขาไฟซึ่งสงบแล้วลูกนี้ เคยเป็นแผ่นเดียวกันมาก่อน แต่ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา น้ำแข็งจำนวนมากได้ละลายจากผลของอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น จนธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เคยเป็นผืนเดียวกันเกิดการแยกตัวเป็นส่วนที่อยู่ตอนเหนือและตอนใต้ โดยส่วนที่แยกตัวออกจากกันนี้ก็กำลังหดตัวอย่างต่อเนื่อง

เคซีย์เผยว่า ระหว่างปี ค.ศ. 1912-2011 ปริมาณของธารน้ำแข็งบนยอดคิลิมันจาโรได้หายไปแล้วมากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่า ธารน้ำแข็งบนยอดเขาแห่งนี้อาจหายไปอย่างสิ้นเชิงภายในปี ค.ศ. 2060 หรือเร็วกว่านั้น

ธารน้ำแข็งส่วนเหนือของคิลิมันจาโร


ธารน้ำแข็งส่วนใต้ของคิลิมันจาโร

 

ระดับ 5+ เริ่มเห็นบ่อยขึ้น....

2012-11-09 10:51:55 THA.
2012-11-09 03:51:55 UTC.
Near East Coast of Honshu Japan
Lat: 36.77 , Long: 141.48
ขนาด: 5.3 , ลึก: 10 กม.
----------------------------------------------
Magnitude mb 5.2
Region NEAR EAST COAST OF HONSHU, JAPAN
Date time 2012-11-09 03:52:00.0 UTC
Location 36.82 N ; 141.43 E
Depth 60 km
Distances 167 km S Sendai (pop 1,037,562 ; local time 12:52:00.3 2012-11-09)62 km E Kitaibaraki (pop 50,843 ; local time 12:52:00.3 2012-11-09)55 km SE Iwaki (pop 357,309 ; local time 12:52:00.3 2012-11-09)
---------------------------------------------------------------------------------------------
Update time = Fri Nov 9 4:10:43 UTC 2012

Mp 5.3 2012/11/09 03:51:58 36.793 141.319 33.4 NEAR THE EAST COAST OF HONSHU, JAPAN
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

อนุโมทนาค่ะ

ได้เลขที่บัญชีที่สามารถโอนร่วมบุญแล้ว รบกวนลงรายละเอียดให้ทราบด้วยจ้า

 

โคลนถล่มอินโดนีเซีย สังเวยแล้ว 10 ศพ

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2555 เวลา 10:51 น.



เกิดเหตุโคลนถล่มในจังหวัดสุลาเวสีตะวันตก ของอินโดนีเซีย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ศพ บาดเจ็บและสูญหายอีกหลายสิบราย

วันนี้ ( 9 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า ฝนที่ตกกระหน่ำตลอดทั้งวันพฤหัสบดี ต่อเนื่องถึงวันศุกร์ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และโคลนถล่ม บนพื้นที่เกาะสุลาเวสี ของอินโดนีเซีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 ศพ สูญหายอีก 20 ราย

ร.ต.อ.ยุสลิม ยูนุส ตำรวจท้องถิ่น กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัย และชาวบ้านในหมู่บ้าน บาตังกูรู ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงในเขตมามาซา ของจังหวัดสุลาเวสีตะวันตก เร่งช่วยกันค้นหาศพผู้เสียชีวิต และร่างผู้รอดชีวิตที่จมอยู่ใต้กองโคลน คาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ สาเหตุของน้ำท่วมฉับพลันมาจากการที่โคลนจำนวนมหาศาลไหลลงมากั้นเส้นทางไหลของแม่น้ำ ทำให้กระแสน้ำเอ่อล้นออกมาท่วมพื้นที่ภายนอก สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนไปแล้ว 7 หลัง ขณะที่ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเสียชีวิตจากการจมน้ำ และถูกโคลนถล่มทับ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 20 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วนแล้ว

B5 - War Room Falkman

 

เขื่อนกิ่วลมลดปล่อยน้ำ-คาดลำปางแล้งสุด

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 15:31น.



เขื่อนกิ่วลมลดการปล่อยน้ำ ทำน้ำวังเมืองลำปางแห้งขอด คาดการณ์ภัยแล้งจะรุนแรงในรอบ 20 ปี

นายชาญณรงค์ กาฬมณี เกษตรจังหวัดลำปาง ได้เดินทางไปยัง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา เพื่อติดตามปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ 2 แห่ง ของ จ.ลำปาง เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังจะเริ่มขึ้น โดยคาดว่า จะเกิดภัยแล้งขึ้นแน่นอน และอาจรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ทราบว่า ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา ทางเขื่อนกิ่วคอหมา อ.แจ้ห่ม และ เขื่อนกิ่วลม อ.เมือง เก็บกักน้ำได้ไม่ถึงร้อยละ 90 ตามเป้าที่ตั้งไว้ เนื่องจากในช่วงฤดูฝนมีฝนตกลงมาน้อย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 20 ปี

B5 - War Room Falkman

 

เครื่องบินเจ็ทอิหร่านยิงโจมตีโดรนสหรัฐ

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2555 เวลา 09:02 น.



สหรัฐเผยอิหร่านพยายามยิงสอยโดรนของตน ขณะบินลาดตะเวนกลางน่านน้ำอ่าวอาหรับ ลั่นพร้อมตอบโต่ทุกวิถีทาง แม้โดรนจะไม่ได้รับความเสียหาย

วันนี้ ( 9 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ( เพนตากอน ) เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เครื่องบินขับไล่ 2 ลำของอิหร่านยิงโจมตีอากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) เอ็มคิว-1 ของสหรัฐ บริเวณอ่าวอาหรับ แม้โดรนของสหรัฐจะไม่ได้รับความเสียหาย แต่รัฐบาลวอชิงตันประกาศทันที พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องกองทัพของตนในตะวันออกกลาง


นายจอร์จ ลิทเทิล โฆษกเพนตากอน แถลงว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.50 น. ตามเวลามาตรฐานสากลของวันที่ 1 พ.ย. แต่ทางเพนตากอนตัดสินใจรอให้ผ่านพ้นวันที่ 6 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีไปก่อน แล้วจึงเปิดเผยต่อสาธารณชน ทั้งนี้ เครื่องบินขับไล่รุ่น เอสยู-25 ฟร็อกฟู้ด 2 ลำ บิดเข้าประกบโดนของกองทัพสหรัฐ ก่อนพยายามยิงโจมตีอย่างน้อย 2 ครั้ง ซึ่งเพนตากอนค่อนข้างเชื่อมั่นว่า จุดประสงค์ของการยิงโจมตี คือเพื่อต้องการให้โดรนของกองทัพสหรัฐร่วงลงสู่ทะเล


ลิทเทิลยืนยันด้วยว่า โดรนของกองทัพสหรัฐเป็นเพียง “โดรนลาดตระเวน” ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันได้แจ้งให้ทางการอิหร่านทราบยังชัดเจนแล้ว นอกจากนี้ โดรนไม่ได้บินรุกล้ำเข้าไปยังน่านฟ้าของอิหร่านขณะเกิดเหตุ เท่ากับว่า เป็นการโจมตีที่เกิดขึ้นกลางน่านฟ้าสากล

แม้โดรนลำดังกล่าวจะเดินทางกลับมาถึงฐานทัพอย่างปลอดภัย แต่ลิทเทิลยืนกรายว่า เพนตากอนจะทำการส่งโดรนขึ้นฝึกบินลาดตระเวน บนเขตน่านฟ้าสากลต่อไป เพื่อรักษาความสงบ และความปลอดภัยในภูมิภาค พร้อมกับเตือนรัฐบาลเตหะรานว่า ทางการสหรัฐได้เตรียมมาตรการปกป้องทรัพย์สินของกองทัพไว้แล้ว และพร้อมดำเนินการทันทีหากมีความจำเป็น
ในวันเดียวกัน นางวิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงเกี่ยวกับการเริ่มบังคับมาตรการคว่ำบาตรต่อหน่วยงาน 5 แห่ง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอิหร่าน 4 คน ในฐานะที่ปิดกั้นสื่อทั้งทางโทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ท ซึ่งถือเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของชาวอิหร่านในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และการแสดงความคิดเห็น ในจำนวนนี้มีทั้ง นายเรซา ทากิพัวร์ รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายโมฮัมหมัด เรซา มีรี หนึ่งในคณะกรรมาธิการของกระทรวงฯ ซึ่งกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ทางการอิหร่าน “ไม่ได้ตั้งใจ” ปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ “จีเมล” แต่น่าจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากการบล็อกเว็บไซต์ “ยูทูบ” ซึ่งทั้งสองเว็บไซต์อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทกูเกิ้ล ของสหรัฐ

B5 - War Room Falkman

 

โอเปกทำนายพลังงานถ่านหินรุ่งน้ำมันร่วง

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน 2555 เวลา 21:31 น.



รายงานประจำปีของกลุ่มโอเปก ทำนายการใช้พลังงานของโลกในช่วงหลายสิบปีข้างหน้า ถ่านหินจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น สวนทางกับน้ำมันที่จะลดลง

วันนี้ (8 พ.ย.) สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ว่า รายงานประจำปี “เวิลด์ ออยล์ เอาท์ลุค” ของกลุ่มองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบ หรือ โอเปก เผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่า เชื้อเพลิงฟอสซิลจะยังคงเป็นแห่งพลังงานหลักของโลก ในช่วงหลายทศวรรษข้างหน้า โดยถ่านหินจะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น สวนทางกับน้ำมันที่การใช้ลดลงเรื่อยๆ โดยคาดว่า ราคาอ้างอิงน้ำมันดิบต่อบาร์เรล จะอยู่ที่ประมาณ 155 ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2578 เทียบกับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในขณะนี้

รายงานของโอเปก คาดการณ์ว่า การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เมื่อเทียบอัตรากับการใช้พลังงานทั่วโลก จะเพิ่มจาก 87 % ในปัจจุบัน เป็น 82 % ภายในปี 2578 ส่วนการใช้น้ำมันจะลดลงจาก 35 % ในปี 2553 เหลือ 27 % ในปี 2578 นอกจากนั้น โลกยังเหลือพลังงานสำรองในรูปแบบของถ่านหิน มากกว่าน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ โดยประเทศที่มีถ่านหินสำรองมากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา.

B5 - War Room Falkman