ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เดา ****

    เมื่อ พระธรรม ไม่ มี พระพุทธ มา รอง มา รับ
    ก่อการ วุ่นวาย ทำลาย ลอบ ปลง มาช่วย หนี รอด ไกล
    บ้าน ไร้ พ่อ ลำบาก ทั่ว
    ปกครอง ใหม่ กรรม ปรากฏ เร็ว เกิน คาด
    พ่อ ปรากฏ แผ่นดิน แตก แยก
    ไม่ เคย พบ เห็น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ใช่ๆ หลวงปู่มีชัยท่านเคยอยู่เขาหลัก ตรงเกิดซึนามิแหล่ะ ตอนท่านธุดงค์ แล้วลงมาเรื่อยๆ มาถึงยะลา

    แล้วก็ใช่อีก ไปปฏิบัติธรรมกับท่านในป่ามา 5 วัน ออกมาจากป่ายังขี้เกียจพูดอยู่เลย
    (one-eye)
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ประธานศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ เตือน จากนี้ไปแผ่นดินไหวอาจเพิ่มความรุนแรงขึ้น

    [​IMG]

    แม้จะมีคำยืนยันจาก กรมทรัพยากรธรณี ว่าแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นล่าสุด ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย รับรู้ถึงแรงสั้นสะเทือนได้เฉพาะบนตึกสูงเท่านั้น แต่ทางกรมฯ จะเร่งศึกษาผลกระทบถึงรอยเลื่อนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะเดียวกันก็มีคำเตือนจากประธานศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติว่าจากนี้ไปแผ่นดินไหวอาจเพิ่มความรุนแรงขึ้น

    วันนี้ นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ไปบรรยายให้ความรู้แก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ จังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยบอกว่า แผ่นดินไหวอาจจะรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแนวเลื่อน 2 แนว คือ อำเภอศรีสวัสดิ์ และสังขละบุรี ดูได้จากสถิติตั้งแต่ปี 2526 ไทยเคยเกิดแผ่นดินไหวสูงสุด 5.8 ริกเตอร์เท่านั้น ปัจจุบันความแรงเพิ่มระดับขึ้น แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดจุดใด หรือ เมื่อไหร่ ประชาชนจึงต้องเตรียมพร้อม อย่าประมาท โดยเฉพาะที่ผู้ที่อาศัยอยู่ในแนวเสี่ยง

    นายสมิทธ ยังฝากถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งรับผิดชอบเขื่อนทั้ง 2 แห่ง ให้รีบสร้างหอเตือนภัย โดยไม่ต้องรองบประมาณจากทางราชการ
    นายวินัย ถาวรนาน ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ ยืนยันว่า เขื่อนทั้ง 2 แห่ง มีความปลอดภัยสูง รองรับแผ่นดินไหวได้เกินกว่า 7 ริกเตอร์ และพื้นที่แนวแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากตัวเขื่อนเกือบ 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม จะเร่งรัดของบสร้างหอเตือนภัยโดยเร็วที่สุด

    วันนี้ กรมทรัพยากรธรณี แถลงยืนยันว่า ไม่มีรายงานความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น รู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนเฉพาะบนตึกสูง รวมถึงในกรุงเทพฯ เนื่องจากลึกลงไปในผิวดินประมาณ 16 เมตร เป็นดินโคลนและมีส่วนผสมของน้ำมาก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวจะส่งผ่านมาทางคลื่นน้ำ ทางกรมฯ จึงจะเร่งศึกษาผลกระทบรอยเลื่อนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่า มีพลังมากน้อยเพียงใด แต่ยอมรับต้องใช้เวลา

    ด้านนักธรณีวิทยาแสดงความเป็นห่วง หากเกิดแผ่นดินไหวเหนือเกาะสุมาตรา หรือ เหนือเกาะชวา มีโอกาสสูงที่จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิในทะเลฝั่งอ่าวไทย แต่ครั้งนี้ เกิดใต้เกาะสุมาตรา จึงไม่น่าเป็นห่วง

    นายปัญญา ระบุว่า ประเทศไทยมีรอยเลื่อนของแผ่นดิน ที่ยังมีพลังถึง 13 แห่ง แต่จุดที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ รอยเลื่อนสะแกง และรอยเลื่อนเมยแม่ปิง ที่พาดผ่านมาจากเมืองมัณฑเลย์ ของพม่า มาถึงเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี และจบที่กรุงเทพมหานคร โดยจะมีวงรอบสั่นไหวรุนแรงทุก ๆ 40 ปี

    [ 2007-09-13 : 19:02:43 ]

    ที่มา http://tna.mcot.net/#
     
  4. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2007
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สึนามิพังเขื่อน ****

    ฝรั่งเขากลัวกัน
    แผ่นดินไหว
    น้ำในอ่างเก็บน้ำ เหนือเขื่อน...อาจเกิดคลื่น สึนามิ น้อยๆ ได้
    แต่...คลื่น สึนามิน้อย...หากพุ่งใส่ตัวเขื่อน
    เขื่อนจึงมีโอกาส พังได้ง่ายจาก... "สึนามิเหนือเขื่อน"

    ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
    ใช้ชีวิตด้วย "สัจจะ" ทุกวัน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  7. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    แต่คุณ Falkman ไม่มีปากอยู่แล้วนี่ ไม่เชื่อดูรูปดิ อิ อิ
     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถึงเวลาล้างโลกอีกแล้วหรือ ??
    โดย อวกาศสีขาว

    [​IMG]

    ภาพวาดเรือ Noah กับเหตุการณ์น้ำท่วมโลก โดย von Holzstich

    ใ ค ร เ ค ย ไ ด้ ยิ น ตำนานเรือโนอาร์ ในคัมภีร์ไบเบิลฉบับเก่าของทางศาสนาคริสต์เขียนถึงว่า มนุษย์ในยุคโบราณที่มัวแต่เพลิดเพลินกับความสนุกสนาน จนลืมการบวงสรวง เทพเจ้าจึงโกรธและทำลายล้างมนุษย์ โดยทำให้เกิดอุทกภัยครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น แต่ได้มีชายหนุ่มผู้หนึ่งชื่อโนอาร์ ที่เทพเจ้าบอกข่าวให้เขารู้ เขาพยายามเตือนชาวบ้านว่าน้ำจะท่วมใหญ่แต่ไม่มีใครเชื่อ พวกชาวบ้านยังคงหลงระเริงสนุกสนาน โนอาร์เลยต้องสร้างเรือขนาดใหญ่เพื่อบรรทุกสรรพสัตว์ต่างๆ อย่างละหนึ่งคู่ หนีน้ำไปอยู่บนเขา

    หรือตำนานแอตแลนติส จักรวรรดิอันรุ่งเรืองที่จมหายไปในใต้มหาสมุทรตอลอดกาล เนื่องจากอาณาจักรนี้ได้เจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด ตามคำกล่าวอ้างของเพลโต (plato) ปราชญ์ชาวกรีก โดยกล่าวว่า ชาวแอตแลนตีส (Atlantis) เป็นชนชาติอาศัยบนเกาะ ได้พัฒนาอารยธรรมจนเจริญก้าวหน้าในช่วงเวลากว่า 11,500 ปีมาแล้ว เหตุการหายไปของอาณาจักรแอตแลนตีสนั้นมีหลายสาเหตุ บ้างว่าเป็นกลียุค ด้วยโรคภัยจากธรรมชาติคุกคาม หรือจากตำนานเทพเจ้ากรีกที่ระบุว่าชาวเมืองแอตแลนตีสมีความละโมบและกระหายอำนาจเข้าครอบงำ เทพเจ้าจึงลงโทษด้วยการทำลายเมืองไปในที่สุด

    ส อ ง ตํ า น า น นี้ อาจจะเป็นเพียงตำนานหรือเรื่องจริงสำหรับใครบาง และคงไม่มีอิทธิพลอะไรมากนัก หากโลกจะไม่เกิดเรื่องคล้ายๆ ตำนานที่ว่า เมื่อมนุษย์หลงระเริงกับวิทยาการ ขาดความเคารพต่อธรรมชาติ ทั้งคร่าชีวิตสัตว์ ทำลายป่า และใช้ทรัพยากรจนเกินพิกัด แล้วอะไรกันล่ะ ที่จะเกิดขึ้นตามมา... ​

    เราอาจไม่รู้ว่าโลกเกิดเรื่องภัยพวกนี้มาแล้วกี่ครั้ง และตำนานพยายามบอกอะไรกับเรา แต่เรื่องจริงร่วมสมัยของมนุษย์ยุคบรรพบุรุษของเราที่ไม่ไกลจนเกินไปนัก ก็ล้วนทำนายอนาคตของพวกเราเอาไว้แล้ว​

    นอกจากพุทธทำนายหรือคำทำนายในไบเบิ้ล ข่าวโลกจะหายนะเพราะมนุษย์ทำลายความสมดุลของธรรมชาติทำนองนี้ ผู้เขียนเองเคยได้ยินมาแต่เด็ก โดยเฉพาะคำทำนายของนอสตราดามุส ​

    ขนาดมีการตีความว่าโลกจะแตกในปีคริสตศักราช 1999 (ปี 2542) ด้วยซ้ำ แต่คำทำนายของนอสตราดามุสล้วนเป็นภาษาเชิงสัญลักษณ์ ไม่ได้กล่าวบอกตรงๆ ด้วยสมัยนั้นหากใครที่มีอำนาจพิเศษก็ล้วนกลัวจะถูกข้อหาว่าเป็นพ่อมดแม่มด แล้วถูกจับลงโทษด้วยการเผา เป็นภัยต่อศาสนจักร ​

    การตีความคำทำนายเชิงนามธรรมของนอสตราดามุสผู้มีตาทิพย์เห็นโลกอนาคต เป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ก็สรุปรวมๆ ว่า โลกจะหายนะ ด้วยโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงใหม่ๆ สงคราม และภัยจากธรรมชาติ ขนาดที่ว่า โรคห่าหรือสงครามของกษัตริย์สมัยก่อน กลายเป็นเรื่องเล็กน้อย ​

    บัดนี้.. ความหายนะนี้คืบคลานมาเรื่อยๆ ตามแรงกดดันของมนุษย์ที่กระทำต่อธรรมชาติมาแต่อดีต แม้คำทำนายของนอสตราดามุส หมอยาและนักทำน้ำหอมชาวฝรั่งเศสผู้นี้ จะเป็นที่ฮือฮา เพราะว่ามีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นใกล้เคียงคำทำนาย โดยบางเรื่องจะคลาดเคลื่อนเรื่องเวลาที่เกิดอยู่บ้าง แต่คำทำนายอันกระฉ่อนโลก กลับไม่สามารถหยุดยั้งพลังกิเลสตัณหาของชาวโลกที่ยังขับเคลื่อนไป ​

    และเรื่องจริงสำหรับคนทุกคนบนโลกที่ต้องตระหนักแล้วตอนนี้ก็คือ สภาวะโลกร้อน (Global Warming) ซึ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเกิดภาวะเอลนีโญและลานีญา สภาพพลิกผันทางฤดูกาล ช่วงที่เคยร้อนก็อาจหนาวเหน็บ ช่วงที่เคยมีฝนก็กลับแล้งกันดาร​

    ภาวะโลกร้อน เกิดจากสารประกอบของก๊าซต่างๆ ซึ่งไปสะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก ดูดซึมแสงอินฟาเรดและกันรังสีความร้อนจากโลกไว้และย้อนกลับลงมา ภาวะโลกร้อนอาจมีผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น พื้นที่ส่วนเป็นดินลดลง มีการซึมของสารเกลือไปยังน้ำ-ผิวดิน และแหล่งน้ำอื่นๆ การเกิดน้ำท่วม และมีพายุ ฯลฯ สาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อน ได้แก่ การเกิดก๊าซมีเทน การเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หากยังไม่ลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ อาจทำชั้นโอโซนทะลุ ​

    ภาวะโลกร้อน กับพายุที่เล่นงานหลายภูมิภาคทั่วโลก ปัจจุบันมีปรากฏให้เห็นหนาตาแทบจะทุกวันทีเดียว การปล่อยให้อากาศร้อนจากการพัฒนาอุตสาหกรรม การจราจรที่ใช้น้ำมัน-ก๊าซ การไม่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ขนาดประเทศจีน ก็เลิกจักรยานหันไปใช้รถยนต์ส่วนตัว เริ่มไม่รักษาธรรมชาติ เมืองชายฝั่งทางใต้ของจีน จึงร้อนทวีขึ้นจากการพัฒนาอย่างไม่พอเพียง ​

    ความจริงเกิดพายุ เป็นเรื่องปกติของวัฏจักรธรรมชาติ แต่หากสภาวะอากาศในแผ่นดินร่มเย็นเพราะมีป่าสมบูรณ์ มีความกดอากาศสูง พายุจะไม่หมุนเข้ามาหา เมืองใดที่ร้อนกว่า มีโรงงานมาก มีรถยนต์มาก มีคนหนาแน่น แต่มีป่าน้อย ก็คงเสี่ยงมากจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ​

    เป็นเรื่องจริงที่ภัยพิบัติกำลังเกิดขึ้นอยู่ตามจุดต่างๆ ของโลก รุนแรงและหนักข้อ ทวีความชัดเจนมาตลอดสองสามปี้นี้ มันไม่ใช่เรื่องไกลตัว และอาจเกิดขึ้นกับเรา เมืองของเรา ที่ที่เราอยู่ เพียงชั่วข้ามคืน​

    ทั้งในปี 2550 นี้ ก็ดูหลายประเทศต้องรับศึกหนักมาแต่ต้นปี โดยเฉพาะสหรัฐ หลายรัฐเจอภัยพิบัติค่อนข้างหนักหน่วง อาทิ​

    พายุหิมะที่เกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างและเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้หิมะ ปิดกั้นทางหลวงสายสำคัญหลายสายในภาคกลางของสหรัฐฯ ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน ขณะที่เกิดพายุพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงในภาคใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งได้ทำให้อาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 27 คน พายุดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นในที่ราบภาคกลางของสหรัฐฯ ทำให้ไฟฟ้าดับตามบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชนกว่า 140,000 คน และยังทำให้มีหิมะตกหนากว่า 30 เซนติเมตร ในเขตมิดเวสต์ทางตอนเหนือ เมื่อวานนี้ และการเสียชีวิตของประชาชน 7 คน เกิดขึ้นตามบริเวณถนนที่ลื่นในรัฐวิสคอนซิน – โดย ผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภา 2550​

    หลายรัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ ถูกพายุทอร์นาโดพัดถล่มถึง 65 ลูก สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนจำนวนมาก และส่งให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน ทั้งนี้ มีรายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยก่อนหน้าพายุทอร์นาโดพัดถล่มเพียง 9 นาที ทำให้ชาวเมืองส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมรับมือกับพายุ – โดย ผู้จัดการออนไลน์ 30 กุมภา 2550​

    พายุทรายเปิดฉากแรกจู่โจมภาคเหนือของจีนในวันเสาร์ 31 มี.ค. รวมถึงกรุงปักกิ่ง สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีนแจ้งว่า ไซโคลได้ส่งลมที่มีกำลังแรงเบาะๆ พัดไปทางตะวันออกเข้ามองโกเลียใน และตอนเหนือของมณฑลเหอเป่ย วิสัยทัศน์ในปักกิ่งค่อนข้างมัวหมอง แต่กระแสลมแรงก็ได้หอบทรายออกจากเมืองไปในตอนกลางคืนนั้น สำหรับพายุทรายระลอกต่อไป จะบุกมณฑลกันซู่ เหลียวหนิง หนิงเซี่ย และส่านซี ไปถึงมองโกเลียใน และซินเจียง ภาคเหนือของจีนต้องผจญคลื่นพายุทรายที่จู่โจมบ่อยขึ้นนับสิบครั้งเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากวิกฤตภาวะทะเลทรายที่กลืนกินภาคตะวันตกเฉียงเหนือไปถึงชิงไห่ คาดว่าในปีนี้ พายุทรายก็จะบุกนับสิบระลอกไม่แพ้ปีที่แล้ว ชาวปักกิ่งต่างงัดอุปกรณ์รับศึกพายุทราย โดยหลักๆก็มีผ้าคลุมใบหน้า ผ้าปิดปาก แว่นตากันฝุ่น ฯลฯ ดูจะกลายเป็นชุดแฟชั่นใหม่รับศึกพายุทะเลทรายที่แผลงฤทธิ์ดุดันมากขึ้นทุกที เนื่องจากพื้นที่ทะเลแผ่อาณาเขตกว้างใหญ่มากขึ้นในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ - เอเอฟพี​

    ดู เ ห มื อ น ทุ ก ค น บ น โ ล ก ต่างรับฟังข่าวภัยพิบัติทั่วโลกคล้ายจะเข้าใจปัญหาและสาเหตุของปัญหา แต่จะมีใครสักกี่คน ที่ยอมถดถอยชีวิต หยุดบริโภคเกินจำเป็น ประเทศไทยเองก็ประสบปัญหาเรื่องต่างๆ รุนแรงขึ้นตลอดหลายปีมานี้ แค่ในเดือนเมษายน เกิดพายุฤดูร้อนในหลายจังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ​

    เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มในหลายอำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ บ้านเรือนราษฎรเสียหายอีก 45 หลังคาเรือน หลังจากหลายพื้นที่ในจังหวัดมีอุณหภูมิที่ร้อนจัด
    พายุฝนฤดูร้อนถล่มเมืองกาญจน์กว่า 200 หลังคาเรือนพังเสียหายยับเยิน เกิดพายุฝนถล่มลงมาอย่างหนักภายในพื้นที่ ต.ท่ามะกา ต.พระแท่น ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เป็นเหตุทำให้ต้นไม้ เสาไฟล้มระเนระนาด ในเขตเทศบาลตำบลพระแท่น กระแสไฟฟ้าดับเกือบตลอดทั้งคืน บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายกว่า 200 หลังคาเรือน
    พายุฤดูร้อนถล่มเมืองสุรินทร์ พัดกุฎิวัดล้มครืนเสียหายทั้งหลัง บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 80 หลังคา เสาไฟฟ้าในหมู่บ้านล้มสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ขาดระเนระนาด เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมเพื่อให้สามารถจ่ายกระแสไฟให้แก่ประชาชนใช้ได้ตามปกติ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายรวมกว่า 300 หลังคาเรือน
    เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ และได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรพังเสียหายในเขตพื้นที่ อ.เมือง โดยเฉพาะที่ ต.ลุมปุ๊ก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พายุพัดถล่มบ้านเรือนพังเสียหาย 15 หลังคาเรือน รวมมูลค่าความเสียหายในเบื้องต้นกว่า 300,000 บาท ​

    กรมอุตุฯ ระบุเดือน เม.ย.นี้จะเกิดพายุฤดูร้อนบ่อยครั้ง และอากาศร้อนจัดในหลายพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 40-43 องศาเซลเซียส ขณะที่เดือน พ.ค.อยู่ในช่วงเปลี่ยนฤดู อากาศจะแปรปรวน อาจมีพายุไซโคลนบริเวณทะเลอันดามัน ทําให้ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ มีฝนมากขึ้น ส่วนเดือน มิ.ย.จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นจากอิทธิพลพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิก​

    .....................................................................................​

    [​IMG]

    เมื่อคืนวันที่ 15 เมษา 50 จู่ๆ ที่บ้านก็ไฟดับค่ะ และไม่มีทีท่าว่าจะติดตลอดทั้งคืน อากาศค่อนข้างร้อน ผู้เขียนจุดเทียนเล่มแล้วเล่มเล่า คิดถึงเรื่องข่าวลือหนาหู ว่าระยะเวลาอีกไม่ใกล้ไม่ไกล ประมาณ 10 ปี โลกจะเกิดภัยพิบัติขนานใหญ่ทางธรรมชาติ ขนาดประเทศญี่ปุ่นหายไปทั้งเกาะ ภาคใต้ของไทยก็คงไม่เหลือ แม้แต่อเมริกายังวาดแผนที่โลกกันใหม่ ว่าพื้นที่ใดจะหายไปจากโลกบ้าง

    ....ถ้ า ล อ ง คิ ด ถึ ง ชี วิ ต ห ลั ง ภั ย พิ บั ติ ด้วยน้ำท่วมก็ดี สงครามนิวเคลียร์ก็ดี โรคร้ายระบาดก็ดี คนรอดชีวิตก็คงจะมีชีวิตอยู่ยากลำบาก ขาดน้ำ ขาดไฟ ขาดที่อยู่อาศัย คอมพิวเตอร์ที่มีข้อมูลมากมายให้ศึกษาก็คงกลายเป็นแค่ขยะอิเลคโทรนิค ไม่มีใครติดต่อใครได้ หนังสือที่ล้นบ้านล้นเมืองอยู่ตอนนี้ อาจเหลือเพียงเล็กน้อย จนกลายเป็นสิ่งมีค่าขึ้นมา อาจเอามาไว้ใช้เผาไฟก็ได้ เพราะพายุหิมะถล่มเอา​

    แทนจะใช้ทรัพยากรน้อยแต่ยืนยาว ก็ใช้ร่วมกันแบบไม่รู้จักพอ กระทั่งความวิบัติตามมาทีหลัง กรรมร่วมยุคกันจริงๆ​

    เรามีชีวิตอยู่กับวัตถุ ความสะดวกสบายมายาวนานจนชาชิน กระทั่งหลายคนยอมฆ่าตัวตายแค่ไม่รวยเหมือนเดิมเท่านั้น แต่ละประเทศแย่งชิงจะเป็นผู้นำทางธุรกิจ จะมีใครกลับไปใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติได้อีกบ้าง แค่ใช้อย่างพอเพียง เรียบง่ายไม่ฟุ้งเฟ้อ ​

    เราไม่เข้าใจว่าทำไม มนุษย์ผู้ชาญฉลาดไม่ยอมถอยหลังเพื่อแก้ปัญหาจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับโลก แต่ยังสร้างปัญหาต่อไป จนธรรมชาติต้องหาเวลาลงมือเอง.. ​

    แก้ที่ต้นเหตุมันคงยากเกินไป.. เราถนัดแก้ปัญหาปลายเหตุเพื่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆ ตามมาอีก วิทยาการยังคงค้นหาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อจะประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ให้ประหยัดพลังงาน เหมาะกับโลกปัจจุบันที่ต้องประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีนาโนกำลังมาแรงทีเดียว แต่ที่จริงวัตถุบริโภคเก่าที่สร้างมายังล้นโลกอยู่ คุณโจน จันได บอกว่าเสื้อผ้าที่มีอยู่แล้ว แบ่งให้มนุษย์ทั่วโลกทุกคนใช้ 50 ปี ยังใช้กันไม่หมด ทำไมเราไม่ใช้เสื้อผ้าแค่คนละ 3-5 ชุด และรองเท้า 2-3 คู่ ทำไมเราต้องมีรองเท้านาโนเป็นร้อยๆ คู่ เรากลัวเศรษฐกิจไม่เดิน แต่ไม่กลัวโลกพัง เงินจะสำคัญตอนน้ำท่วมได้หรือเปล่า..​

    หลายคนออกมาฟันธงว่า น้ำอาจจะท่วมใหญ่ไม่เกิน 10 ปีนี้ หรืออาจเร็วกว่านั้น แต่.. ไม่มีใครสะเทือน และต่างยังคงเดินหน้า เหมือนไม่มีวันนั้น.. ​

    แต่ย่างน้อยก็ควรเตรียมตัวตายอย่างมีสติ เพราะถ้ามันไม่เกิด 10 ปีข้างหน้า มันก็ต้องเกิดปีที่ 11 12 13 หรือ 14 แต่ไม่ไกลกว่านี้หรอก พฤติกรรมของมนุษย์เองเป็นสิ่งยืนยัน ส่วนนักวิทยาศาสตร์ยังคงค้นหาดาวดวงใหม่ให้มนุษย์อยู่ต่อไป ใครว่ามนุษย์ไม่รู้ปัญหา แค่แก้ปัญหาแบบแปลกประหลาด เท่านั้นเอง​

    เราอนุรักษ์ธรรมชาติ ธรรมชาติจะอนุรักษ์เรา​

    อวกาศสีขาว / 17 เม.ย. 50
    ที่มาhttp://www.oknation.net/blog/whitespace/2007/05/08/entry-1


    <!-- End main-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • c002.jpg
      c002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.1 KB
      เปิดดู:
      8,489
    • noah.jpg
      noah.jpg
      ขนาดไฟล์:
      17.1 KB
      เปิดดู:
      46
    • 415385.jpg
      415385.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31.8 KB
      เปิดดู:
      34
    • noah2.gif
      noah2.gif
      ขนาดไฟล์:
      91.4 KB
      เปิดดู:
      56
    • noah5.jpg
      noah5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76.2 KB
      เปิดดู:
      48
    • noah2.jpg
      noah2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      27.3 KB
      เปิดดู:
      54
    • Noah-ark.jpg
      Noah-ark.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.6 KB
      เปิดดู:
      50
    • noah-and-friends.jpg
      noah-and-friends.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.8 KB
      เปิดดู:
      44
    • 1176783277.jpg
      1176783277.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      2,744
    • เรือโนอาร์.JPG
      เรือโนอาร์.JPG
      ขนาดไฟล์:
      34.8 KB
      เปิดดู:
      59
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    โลกอาจจะความหวังที่จะรอดพ้นจากการขยายตัวของดวงอาทิตย์
    ในอีก 5 พันล้านปีดวงอาทิตย์จะใช้เชิ้อเพลิงไฮโดรเจนหมดทำให้ดวงอาทิตย์ขยายขนาดใหญกว่าในปัจจุบันมากกว่า 1 พันเท่าก่อนที่จะยุบตัวลงเป็นดาวแคระขาว ไม่มีใครรู้ว่าโลกนั้นจะถูกดาวอาทิตย์กลืนหรือรอดจากเหตุการณ์นี้ได้ แต่ปัจจุบันทีมวิจัยนานาชาติได้เฝ้าดูดาวเคาระห์ในระบบสุริยะอื่นที่มีวงโคจรใกล้เคียงกับโลก โดยผลการสังเกตุพบว่าคาวเคราะห์ดวงนั้นได้รอดจากการที่ดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะนั้นขยายตัวเป็นดาวแดงยักษ์

    เมื่อดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวแดงยักษ์มันจะสูญเสียมวลและทำให้วงโคจรของดาวบริวารเปลี่ยนไปซึ่งทำให้การทำนายว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับดาวบริวารนั้นเป็นไปได้ยาก นักวิทยาศาสตร์คิดว่าดาวพุธและดาวศุกร์จะถูกกลืนขณะที่ดาวอาทิตยืขยายตัวแต่โลกนั้นยังมีความไม่แน่ใจอยู่

    ผลการศึกษาของ Roberto Silvotti จากหอดูดาว Capodimonte ใน Naples อิตาลีและผู้ร่วมงานจากยุโรป อเมริกา อิสราเอลและใต้หวันทำนายว่า ดาวเคราะห์ที่มีวงโคจรห่างจากดวงอาทิตย์น้อยกว่าสองเท่าของระยะห่างจากโลกถึงดวงอาทิตย์หรือ 2 AU จะไม่ถูกกลืนในช่วงที่ดวงอาทิตย์ขยายเป็นดวงแดงยักษ์ ทีมวิจัยได้วิเคราะห์จากผลการสังเกตุดาว V 391 Pegasi ซึ่งกลายเป็นดวงแดงยักษ์เมื่อประมาณ 100 ล้านปีก่อน ภายในดาวดวงนี้กำลังจับตัวเป็น "B-type subdwaf" จากการที่ V 391 Pegasi ได้ใช้ฮีเลียมเป็นเชื้อเพลิงแล้วทำให้เกิดคาร์บอนที่ใจกลาง

    กว่า 7 ปีแล้วที่ Silvotti และทีมงานได้เฝ้าสังเกตุช่วงการขยายตัวที่มากที่สุดของดาวดวงนี้ซึ่งจะเกิดขึ้นโดยเฉลี่ยทุก 6 นาที จากการบันทึกความเข้มข้นของแสงที่ส่องมาจากดาว V 391 Pegasi แต่ทีมวิจับพบว่าทุก 3.2 ปีช่วงการขยายตัวนี้จะเปลี่ยนไป 5 วินาที แสดงให้เห็นว่าดาวนั้นต้องมีการสั่นตัวซึ่งเป็นผลมาจากแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์ที่คาบของการโคจรตรงกับที่สังเกตุได้ ทีมวิจัยได้คำนวนดาวเคราะห์นี้ว่ามีอายุประมาณ 1 หมื่นล้านปี

    ปัจจุบันวงโคจรของดาวเคราะห์ดวงนี้มีขนาดประมาณ 1.7 AU แต่นักวิจัยประมาณว่าก่อนที่ดาว V 391 Pegasi จากขยายตัวนั้น วงโคจรน่าจะมีขนาดประมาณ 1 AU ซึ่งใกล้เคียงกับโลก ทำให้คาดการได้ว่าวงโคจรของโลกจะเพิ่มจาก 1 AU เป็น 1.5 AU เมื่อดวงอาทิตย์ใช้เชื้อเพลิงที่มีอยู่จนหมดและกลายเป็นดวงแดงยักษ์

    อย่างไรก็ตาม Silvotti กล่าวว่าการค้นพบนี้ไม่ได้แปลว่าโลกจะรอดจากการถูกกลืนแบบดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาว V 391 Pegasi แต่เขาหวังว่าการค้นพบนี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้นักฟิสิกส์สามารถทำนายอนาคตของโลกได้แม่นยำมากขึ้น

    ถึงแม้โลกจะรอดพ้นจากการถูกกลืนโดยดวงอาทิตย์ แต่มนุษย์ก็ยังต้องหาวิธีป้องกันผลกระทบอื่นๆจากดวงทิตย์ เนื่องจากนักวิจับคาดว่าอุณหภูมิบนดวงเคราะห์นั้นจะมีค่าประมาณ 200 C http://physicsworld.com/cws/article/news/31123
    [​IMG]

    http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=116950
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร [​IMG]

    *** เกาะ ****

    ต่อไป...
    อังกฤษ จะท่วมไปครึ่งเกาะ
    ประชาชน ต้องอพยพหนี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    ไปเจอคำทำนายพอดี - โดยแม่นายมล
    ------------------------------------​

    คำพยากรณ์ที่ 64 - 65 : น้ำท่วมเกาะอังกฤษ

    La grande
    Bretagne comprise d​
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อินโดนีเซียเจอคลื่นยักษ์สึนามิสูง 3 เมตรจากแผ่นดินไหวรุนแรง 3 ครั้งในรอบวัน

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    อินโดนีเซียเจอคลื่นยักษ์สึนามิสูง 3 เมตรจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้น 3 ครั้งในรอบ 24 ชั่วโมงส่งผลให้บ้านเรือนหลายร้อยหลังพังยับ ผู้คนแตกตื่นตลอดแนวชายฝั่งทะเล

    หน่วยกู้ภัยอินโดนีเซียเชื่อว่ายังมีเหยื่อแผ่นดินไหวติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของบ้านหลายหลังที่พังราบจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ 3 ครั้งในรอบ 24 ชั่วโมงและแรงสั่นไหวที่ติดตามมาอีกหลายสิบครั้งในเมมืองปาดัง เบงกูลู และมูโคมูโคบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตซึ่งในขณะนี้มีราว 10 ศพนั้นอาจเพิ่มขึ้น

    สำหรับอาคารที่ได้รับความเสียหายนั้น มีทั้งมัสยิด และโรงเรียนรวมอยู่ด้วย แพทย์และพยาบาลต้องกางเต็นท์ในที่โล่งเพื่อเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเกรงว่า อาคารของโรงพยาบาลจะพังถล่มลงมาจากแรงสั่นไหวติดตามมาที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายอาบูไรซัล บาครี รัฐมนตรีสวัสดิการสังคมได้ออกเยี่ยมเหยื่อแผ่นดินไหวและให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

    ประธานาธิบดี ซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ได้ประกาศเตือนประชาชนบนเกาะสุมาตราให้เฝ้าระวังเพราะแรงสั่นไหวที่ติดตามมายังไม่หยุด

    ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวของออสเตรเลียระบุผู้ประสบภัยยังเคราะห์ดีที่คลื่นยักษ์สึนามิไม่รุนแรงเหมือนเมื่อปี 2547 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 230,000 คน ในสิบกว่าประเทศแม้แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 8.4 7.8 และ 6.2 แมกนิจูดซึ่งนับว่ารุนแรงทื่สุดในรอบปีแต่ปลายทางของคลื่นยักษ์ออกสู่ท้องทะเล แทนที่จะพุ่งเข้าหาชายฝั่ง

    [ 2007-09-14 : 07:03:36 ]

    ที่มา http://tna.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2007
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กรมการข้าวห่วงคนเหนือ-อีสาน เปิบข้าวเหนียวแพง

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 14 ก.ย.- กรมการข้าว ห่วงคนภาคเหนือ และอีสาน บริโภคข้าวเหนียวราคาแพง หลังราคาพุ่งไม่หยุด ขยับขึ้นเป็น 28-30 บาทต่อกิโลกรัม ศึกษาตลาดพบจีนกว้านซื้อไม่อั้น เหตุพ่อค้านิยมนำไปทำน้ำสาเกและขนมป้อนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เตรียมเสนอแผนพัฒนาข้าวเหนียวฉบับแรกให้รัฐมนตรีพิจารณา เร่งพัฒนาสายพันธุ์ให้มีผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น

    นายสุรพงษ์ ปรานศิลป์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าวได้ศึกษาตลาดข้าวเหนียวในประเทศจีน พบว่า ความต้องการข้าวเหนียว หรืออุปสงค์ของข้าวเหนียวในประเทศจีน ยังคงมีค่อนข้างมาก พ่อค้าจีนยังคงสั่งซื้อไม่อั้น ในช่วงหลัง ถึงแม้จะมีคำสั่งซื้อเข้ามามาก แต่ปัญหาที่สำคัญคือ สินค้ามีไม่พอขาย เราสามารถส่งออกได้เพียง 200,000 ตัน เท่านั้น เพราะส่วนหนึ่งต้องกันไว้บริโภคภายในประเทศด้วยเช่นกัน ทำให้ราคาข้าวเหนียวขยับขึ้นสูงค่อนข้างมาก ราคาข้าวเปลือกข้าวเหนียวที่รับซื้อโดยทั่วไปอยู่ที่เกวียนละ 13,000 บาท ในขณะที่ข้าวเหนียวข้าวสารอยู่ที่ 28-30 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ปัญหาที่ตามมาคือ ประชากรของไทย โดยเฉพาะคนในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่บริโภคข้าวเหนียวเป็นหลักต้องพลอยได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากราคาที่สูงขึ้น
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ****

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มนุษย์นับถือมาแต่โบราณ แต่ละยุคของโลก
    คือ...สิ่งศักดิ์สิทธิ์เดียวกัน

    คือ โลกุตตระ ...คือ พระไตรปิฎก....
    ที่ลงมาปรากฏบนโลกในแต่ละยุค
    โลกุตตระ...คือ พระไตรปิฎก มีหลายปรางค์
    มนตรีพระ ๓๒ องค์....คือ มนตรีของโลกุตตระ ที่แบ่งหน้าที่รับผิดชอบดูแลรอบคอบจักรวาล

    เทพต่างๆ ของฮินดู ที่นับถือมานานสี่หมื่นปี .... คือ มนตรีพระของโลกุตตระ นั้นเอง
    ฮินดู อยู่คู่กับพุทธมานานแล้ว

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งจักรวาล...คือ เรื่องราวเดียวกัน
    คือ เรื่อง ศาสนศาสตร์..." หลักสัจจะธรรม"
    ที่ "โลกุตตระ" นำพามา ...เพื่อนำสัตว์ให้หลุดพ้นไปจากโลก จากการเกิดใหม่
    คือ เรื่องราวของ...การปฏิบัติเพื่อขจัดกิเลสนิสัยให้หมดไปจากจิตใจของตนเอง....ด้วย "สัจจะ"

    โลกุตตระ ...คือ รวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">
    • อินโดนีเซีย ออกประกาศเตือนให้ระวังคลื่นยักษ์สึนามิอีกครั้ง[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 14-09-2007 | 14:01:22 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> อินโดนีเซีย ออกประกาศเตือนให้ระวังคลื่นยักษ์สึนามิอีกครั้ง หลังเกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่ง ด้านตะวันตกของเกาะสุมาตรา
    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียส่งคำเตือนสึนามิครั้งล่าสุด เป็นข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือไปยังประชาชน หลังเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล วัดแรงสั่นสะเทือนในเบื้องต้นได้ 6.9 ริกเตอร์เมื่อเวลา 13 นาฬิกา 1 นาทีตามเวลาบ้านเรา โดยมีศูนย์กลางห่างจากเมืองเบ็งกูลูบนเกาะสุมาตรา ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 161 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปในทะเล 10 กิโลเมตร เมืองเบ็งกูลู เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด จากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.4 ริกเตอร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน บ้านเรือนเสียหายนับพันหลัง และเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาหลายระลอก จนต้องประกาศเตือนภัยสึนามิหลายครั้ง
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="567"><tbody><tr><td valign="top">เตรียมประกาศจว.เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวเพิ่ม 12 จว.รวม กทม.</td><td valign="top">14 กันยายน 2550 17:10 น.

    </td><td class="Text_Story" valign="top"><!-- [​IMG] เตรียมประกาศจังหวัดเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวเพิ่ม 12 จังหวัด รวม กทม. กำหนดการก่อสร้างอาคารสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป ต้องออกแบบโครงสร้างรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว

    นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการรับมือเหตุเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ กทม.หลังมีการพบรอยเลื่อนใต้ กทม. ซึ่งเกิดจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซีย ว่า ขณะนี้ กทม.มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ หลังจากเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อปี 2547 โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญ เช่น รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ที่ให้คอยให้คำปรึกษา รวมถึงเชิญผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการในพื้นที่สูง มาร่วมประชุมสัมมนา
    "ที่ประชุมมีการเสนอให้รวมพื้นที่ กทม.เข้าเป็นพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว และทราบว่าขณะนี้เรื่องอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย" นายอภิรักษ์ กล่าวและว่า
    อย่างไรก็ตามขณะที่กฎกระทรวงแผ่นดินไหวยังไม่ประกาศใช้ ในส่วนของ กทม.โดยนางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯกทม. ก็ได้มีการจัดสัมมนาเรื่องการป้องกันภัยจากเหตุแผ่นดินไหวกับผู้ประกอบการและผู้ที่อยู่ในอาคารสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) ของกทม. จะเข้าไปให้คำแนะนำในการป้องกันและปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว อีกทั้ง กทม.ยังมีศูนย์แจ้งเตือนภัย เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรับทราบกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ ด้วย แต่หากกฎกระทรวงประกาศใช้แล้ว ก็จะมีการรวมพื้นที่ กทม.เข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว ซึ่งจะทำให้อาคารสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไปที่จะทำการขออนุญาตก่อสร้างต้องออกแบบโครงสร้างให้มีระบบรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวเพิ่ม
    สำหรับพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่ได้มีการกำหนดไว้เดิม มีทั้งสิ้น 10 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก กาญจนบุรี และเชียงใหม่ ซึ่งกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้ จะมีการเพิ่มพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวเพิ่มอีก 12 จังหวัด แบ่งเป็นจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี ส่วนอีก 5 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างออกประกาศ คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้เร็วๆ นี้

    --> เตรียมประกาศจังหวัดเสี่ยงภัยแผ่นดินไหวเพิ่ม 12 จังหวัด รวม กทม. กำหนดการก่อสร้างอาคารสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป ต้องออกแบบโครงสร้างรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว
    นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการรับมือเหตุเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ กทม.หลังมีการพบรอยเลื่อนใต้ กทม. ซึ่งเกิดจากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซีย ว่า ขณะนี้ กทม.มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ หลังจากเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิ เมื่อปี 2547 โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญ เช่น รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ที่ให้คอยให้คำปรึกษา รวมถึงเชิญผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการในพื้นที่สูง มาร่วมประชุมสัมมนา
    "ที่ประชุมมีการเสนอให้รวมพื้นที่ กทม.เข้าเป็นพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว และทราบว่าขณะนี้เรื่องอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย" นายอภิรักษ์ กล่าวและว่า
    อย่างไรก็ตามขณะที่กฎกระทรวงแผ่นดินไหวยังไม่ประกาศใช้ ในส่วนของ กทม.โดยนางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯกทม. ก็ได้มีการจัดสัมมนาเรื่องการป้องกันภัยจากเหตุแผ่นดินไหวกับผู้ประกอบการและผู้ที่อยู่ในอาคารสูง ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(สปภ.) ของกทม. จะเข้าไปให้คำแนะนำในการป้องกันและปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว อีกทั้ง กทม.ยังมีศูนย์แจ้งเตือนภัย เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรับทราบกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ ด้วย แต่หากกฎกระทรวงประกาศใช้แล้ว ก็จะมีการรวมพื้นที่ กทม.เข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว ซึ่งจะทำให้อาคารสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไปที่จะทำการขออนุญาตก่อสร้างต้องออกแบบโครงสร้างให้มีระบบรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวเพิ่ม
    สำหรับพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหวในประเทศไทยที่ได้มีการกำหนดไว้เดิม มีทั้งสิ้น 10 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก กาญจนบุรี และเชียงใหม่ ซึ่งกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้ จะมีการเพิ่มพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวเพิ่มอีก 12 จังหวัด แบ่งเป็นจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร พังงา ภูเก็ต ระนอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี ส่วนอีก 5 จังหวัด ประกอบด้วย กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างออกประกาศ คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้เร็วๆ นี้

    http://www.komchadluek.net/2007/09/14/a001_145131.php?news_id=145131 ี้
    </td></tr></tbody></table>
     
  17. ppinter

    ppinter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +289
    ในหลวงทรงห่วงภัยพิบัติ รับสั่งให้สำรวจรอยเลื่อน [14 ก.ย. 50 - 21:15]



    วันนี้ (14 ก.ย.) นายทศพร นุชอนงค์ ผู้อำนวยการกองธรณีสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีกระแสพระราชดำรัสห่วงใยในพสกนิกรไทย เกี่ยวกับเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น กรมทรัพยากรธรณีน้อมรับพระราชดำรัสเร่งดำเนินการสำรวจรอยเลื่อนมีพลังทั้ง 13 แห่ง และดินเหลวในกรุงเทพฯ ที่มาของการรับรู้แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้อยู่เสมอ เพื่อหาวิธีการมาตรการในการรับมือแผ่นดินไหว

    นายทศพร กล่าวว่า โครงการสำรวจรอยเลื่อนทั้ง 13 แห่ง และดินเหลวในกรุงเทพฯ จะเริ่มในปีนี้ ด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้เกิดขึ้นต่อเนื่องและวัดแรงสั่นสะเทือนได้สูงขึ้น เป็นการสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของธรณีพิบัติและความเป็นอยู่ของประชาชน อธิบดีกรมทรัพยากรธรณีจึงได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้ดำเนินโครงการสำรวจรอยเลื่อนมีพลังในปีนี้เป็นต้นไป จะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 5 ปี
     
  18. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Sept.JPG
      Sept.JPG
      ขนาดไฟล์:
      158.4 KB
      เปิดดู:
      4,784
  19. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    374
    ค่าพลัง:
    +4,622
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">ผู้เชี่ยวชาญเตือน แผ่นดินไหวใหญ่ กว่า8.5ริกเตอร์ [15 ก.ย. 50 - 03:59]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 8.4 ริกเตอร์ เมื่อเย็นวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา และเกิดการสั่นไหวตามหลัง หรืออาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวเขย่าเกาะสุมาตรา ของประเทศอินโดนีเซียอีกระลอก วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.9 ริกเตอร์ ทำให้ทางการต้องประกาศเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ บริเวณชายฝั่งทางภาคตะวันตกของเกาะ โดยแรงสั่นไหวของแผ่นดินล่าสุด รู้สึกได้ถึงเมืองลาอิส ห่างจากจุดศูนย์กลางราว 153 กม. ต่อมากรมอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียเปิดเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นอาฟเตอร์ช็อก หรือเป็นแผ่นดินไหวต่อเนื่องหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันพุธที่ 12 ก.ย. ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ เมืองเบงกูลู บนเกาะสุมาตรา มีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกใต้ผิวดิน 10 กม. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ศพ บาดเจ็บ 50 คน โดยที่แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ไกลถึงสิงคโปร์ มาเลเซียและไทย
    รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านบนเกาะสุมาตรายังคงหวาดกลัวภัยธรรมชาติแผ่นดินไหวไม่กล้ากลับเข้าบ้านเรือน ต้องเบียดเสียดอยู่ตามเต็นท์ผ้าใบต่างๆบนถนนในเมืองเบงกูลู เนื่องจากเกิดอาฟเตอร์ช็อกมาเกือบ 40 ครั้งแล้ว นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ สองวันก่อน ซึ่งอาฟเตอร์ช็อกมีแรงสั่นสะเทือนระหว่าง 4.9-7.8 ริกเตอร์ ขณะที่นายไมค์ เทอร์นบุลล์ นักธรณีวิทยา แห่งมหาวิทยาลัย เซนทรัล ควีนส์แลนด์ กล่าวว่า นับเป็นโชคดีที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ประสบภัยสึนามิแบบที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2547
    ขณะเดียวกัน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นได้ลงภาพชาวบ้านจำนวนมากแห่ไปยังชายหาด ที่เกาะปีนัง เมืองตากอากาศทางภาคเหนือ เพื่อรอดูคลื่นยักษ์สึนามิ หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ขนาด 8.4 เขย่าเกาะสุมาตรา ของประเทศอินโดนีเซีย โดยต่างเฝ้าลุ้นว่าอาจเกิดสึนามิครั้งใหญ่เหมือนสามปีที่แล้ว ที่ปรากฏคลื่นยักษ์สูง 3 เมตร ม้วนตัวเป็นกำแพงซัดเข้าฝั่งในหลายประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 280,000 ศพ โดยในมาเลเซียมีผู้เสียชีวิตราว 68 ศพ ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านบนเกาะปีนัง อย่างไรก็ตาม ตำรวจมาเลเซียออกมาแสดงความเป็นห่วง กรณีประชาชนไม่เชื่อฟังประกาศเตือนภัยสึนามิ ชี้ว่าหากเกิดสึนามิขึ้นตอนกลางคืน อาจทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้
    ขณะที่ในไทยเอง สำนักแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ก็ได้รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหวเช่นกัน ว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. เวลา 13.08 น. ตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณเกาะบันตัน (Bantan) ประเทศฟิลิปปินส์ วัดความแรงได้ 5.3 ริกเตอร์ แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผลกระทบต่อประเทศไทยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่บริเวณเกาะเมนตาไวและเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ถึง 8 ครั้ง ซึ่งวัดความรุนแรงสูงสุดได้ 6.4 ริกเตอร์ ที่บริเวณละติจูด 4 องศา 9 ลิปดา 9 พิลิปดาใต้ และลองจิจูด 101 องศา 1 ลิปดา 1 พิลิปดาตะวันออก ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ของเกาะสุมาตรา เมื่อเวลา 13.01 น.
    ต่อมาสำนักข่าวเอพีรายงานคำให้สัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวสองรายคือนายเคอร์รี เซห์ แห่งสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย และนายแดนนี ฮิลล์แมน แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์อินโดนีเซีย ที่ให้ความเห็นตรงกันว่า การเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กหลายครั้งที่ผ่านมา รวมถึงแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นล่าสุดบนเกาะสุมาตรา เป็นลางบอกเหตุที่จะนำไปสู่ภัยธรรมชาติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ระดับ “บิ๊กวัน” ในอนาคต ซึ่งจะมีความรุนแรงกว่าเดิม คือวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.5 ริกเตอร์ หรือมากกว่านั้น

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    226 วันอันตราย ดยโหรพิรฌาน
    (เป็นเรื่องของโหราศาสตร์ ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาน)

    [​IMG]

    กบฏผีบุญประชานิยม-ปฏิวัติซ้ำซ้อน ไทยรบกับมาเลเซีย สหรัฐฯบุกอิหร่านอุ่นเครื่องสงครามนิวเคลียร์ .. เมื่ออสูรสงครามผงาดฟ้า พระอังคาร(๓)โคจรวิปริตในราศีเมถุน 226 วัน

    ดวงเมืองบางกอกครึ่งปีหลังตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของพระอังคาร(๓) ,ตนุลัคน์ และ เจ้าเรือนมรณะ โคจรวิปริตในราศีเมถุน,เรือนสหัชชะ 226 วัน จาก 15 กย.2550 - 29 เมษา.2551 ศึกในและศึกนอกปะทุ ทหารและตำรวจแตกความสามัคคีทำการปฏิวัติช่วงชิงอำนาจ ขณะที่เกิดสงครามเต็มรูปแบบกับประเทศเพื่อนบ้าน จะไม่มีเลือกตั้ง !

    กลุ่มขั้วอำนาจเก่า-โจรการเมืองที่ไม่ยอมรับคำพิพากษาคดียุบพรรค,การตกเป็นจำเลยคดีทุจริตคอรัปชั่น ทิ้งไพ่ตายก่อกวนเมืองในทุกรูปแบบ คมช.ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ผู้พิพากษา,อัยการ,ครู,แพทย์ตกเป็นเหยื่อความขัดแย้ง ล้มตายระนาว ผู้ชนะคือกลุ่มนายทหารยังเติร์กที่สถาปนาอำนาจใหม่ แม้จะไม่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศแต่บ้านเมืองจะเป็นหนึ่งเดียว

    เทพอสูรแห่งสงครามแผ่วงกว้างไปถึงสหรัฐฯบุกอิหร่าน ญี่ปุ่นเปิดศึกย่อยกับจีนและเกาหลีเหนือ .. หุ้นตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทองคำราคาสูงลิบลิ่ว ผู้คนหวาดผวาหันไปนับถืออลัชชี ศาสนาเสื่อมทรามลงจนคนสิ้นศรัทธา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2007

แชร์หน้านี้

Loading...