ถามผู้รู้ เกี่ยวกับการรักษาย์ศีลข้อ 3 ของเกย์

1. คือลูกมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศีลข้อ 3 อย่างละเอียดของเกย์ เพราะเคยได้อ่านมาว่า
- ถ้าผู้ชายการทดแทนบุญคุณพ่อแม่คือ การบวช
- ส่วนผู้หญิงการทดแทนบุญของพ่อแม่คือสินสอด
- แล้วถ้าลูกเป็นเกย์ควีน การทดแทนคุณพ่อแม่คือ ? ใช่สินสอดหรือไม่
2. แม้นลูกจะอายุ 30 มีการมีงานทำแล้ว ส่วนแฟนก็อายุ 30 มีการมีงานทำแล้ว บรรลุนิติภาวะ ยังไงก็ยังถือว่าเป็นสมบัติของพ่อแม่ ต้องขอพ่อแม่แต่ละฝ่ายก่อน จึงจะไม่ผิดศีลใช่ไหมครับ
3. ถ้าไม่ได้จัดงานแต่งงาน วิธีการใดจึงจะถูกต้องไม่ผิดศีลข้อ 3 ควรจัดประเพณีอะไร
ขอบคุณผู้รู้ทุกท่านครับ

 

ผมไม่มีความรู้มากพอที่จะตอบว่าผิดศีลข้อสามหรือเปล่า แต่ผมขอแสดงทัศนคติเกี่ยวกับการทดแทนบุญคุณ ผู้ชายต้องตอบแทนด้วยการบวชนั้นถูกต้องครับแต่ไม่ทั้งหมด เพราะสักแต่ว่าบวชอย่างเดียวก็ไม่ได้อะไร ถ้าไม่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามทางที่ศาสดาได้วางแนวทางเอาไว้ ส่วนผู้หญิงการทดแทนบุญคุณคือสินสอด ผมว่าก็น่าคิดนะ ถ้าผู้ชายบวชได้ผมว่าผู้หญิงก็บวชได้ (ไม่จะเป็นต้องถึงขั้นภิกษุณีนะ) ถ้าได้ให้เงินสินสอดแล้วก็เป็นอันว่าจบการทดแทนบุญคุณแล้วหรือเปล่า... ในเรื่องการทดแทนบุญคุณในความคิดของผม เราควรทำให้ท่านได้ประโยชน์มากที่สุดในการนับถือศาสนา ยิ่งเป็นศาสนาพุทธ ด้วยแล้วยิ่งจำเป็นมาก เพราะนอกจากจะทำให้ท่านมีบุญกุศลที่มากแล้ว หรือ เข้าใจถึงหลักธรรมแล้ว อาจจะถึงขั้นไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกเลยก็ได้ และผมก็ยึดถือหลักการนี้อยู่ และพยายามทำอยู่ สวัสดี

 

ตอบแทนพระคุณท่านก็มีหลายช่องทางน่ะครับ แต่ถ้าใจเราไม่ปกติคือไม่ได้เป็นชายแท้ 100% ก็ไม่ต้องบวชครับเพราะจะพาลพาพระอุปัชฌาย์ผิดศีลไปด้วย เราปฏิบัติไม่ดีพาลจะเป็นบาปเป็นกรรมต่อไปเสียอีก ถือศีล 8 เอาก็ได้ครับสำหรับวันพระหรือแล้วแต่สะดวก ทำบุญวันพระหรือวันธรรมดาก็บุญเท่ากัน สำหรับเรื่องกลัวผิดศีลก็ควรที่จะไปบอกกับท่านทั้งสองฝ่ายให้ทราบน่ะครับ ว่าเราจะอยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาอะไรทำนองนี้ แต่ก็ต้องดูด้วยน่ะครับว่าพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายแกจะรับเรื่องนี้ได้ไหม เกิดรับไม่ได้เป็นลมเป็นแล้ง นี่งานเข้าเลยน่ะ เป็นบาปเป็นกรรมกันอีก หาวิธีพูดเอาแล้วกันน่ะครับ สำหรับเรื่องสินสอดอะไรก็คุยกันเองกับพ่อแม่ท่านทั้งสองฝ่าย หวังว่าถ้าท่านเข้าใจก็คงไม่มีปัญหาอะไร ที่เหลือก็อยู่ที่คุณทั้งสองจะปฏิบัติตัวกันยังไง จึงจะทำให้มีชีวิตคู่ที่มีความสุขและยืนยาว ว่างก็ปฏิบัติธรรมไปด้วย ดูแลพ่อแม่ท่านไปด้วย แค่นี้บุญกุศลก็มหาศาลแล้วครับ.
ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม...

 

การตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ ที่ได้ผลอย่างแท้จริง และถูกต้องตามหลักศาสนา

พระพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน เมืองสาวัตถี ได้ตรัสถึงการตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ ที่ได้ผลอย่างแท้จริง และถูกต้องตามหลักศาสนา ไว้ดังนี้
พระพุทธเจ้าสอนให้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่อย่างไร

“ภิกษุ ทั้งหลาย!บุตร ยกมารดาบิดาขึ้นวางไว้บนบ่าทั้งสองข้าง ปฏิบัติท่านทั้งสองด้วยการอบกลิ่น นวด อานน้ำ ท่านทั้งสองได้ถ่ายอุจจาระ และ ปัสสาวะ อยู่บนบ่าบุตรนั้นตลอดร้อยปี แม้อย่างนั้น ก็ยังไม่ชื่อว่าได้ตอบแทนคุณของมารดาบิดา ได้เลย

ภิกษุทั้งหลาย! อีกประการหนึ่ง บุตรพึงสถาปนามารดาบิดา ไว้ในราชสมบัติในแผ่นดินใหญ่ มีแก้ว ๗ ประการ แม้อย่างนั้น ก็ยังไม่ได้ชื่อว่า บุตรได้ตอบแทนคุณของมารดาบิดาได้เลย เพราะว่ามารดาบิดามีอุปการะมาก บำรุงเลี้ยง แสดงโลกนี้แก่บุตรทั้งหลาย

ส่วน บุตรคนใด ทำมารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้มีศรัทธามั่นคง ทำมารดบิดาผู้ทุศีล ให้ตั้งมั่นอยู่ในศีล ทำมารดาบิดาผู้มีความตระหนี่ ให้มีการบริจาคทานเป็นนิจ ทำมารดาบิดาผู้ไม่มีปัญญา ให้มีปัญญาเป็นเครื่องนำทางที่ถูกต้องได้

ภิกษุทั้งหลาย!ด้วยเหตุการตอบแทน ๔ ประการนี้ ชื่อว่าบุตรได้ตอบแทนพระคุณของมารดาบิดาแล้ว.”

 

1. คือลูกมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศีลข้อ 3 อย่างละเอียดของเกย์ เพราะเคยได้อ่านมาว่า
- ถ้าผู้ชายการทดแทนบุญคุณพ่อแม่คือ การบวช
- ส่วนผู้หญิงการทดแทนบุญของพ่อแม่คือสินสอด
- แล้วถ้าลูกเป็นเกย์ควีน การทดแทนคุณพ่อแม่คือ ? ใช่สินสอดหรือไม่

*** คุณpitarang กล่าวได้ถูกต้องแล้วครับ


2. แม้นลูกจะอายุ 30 มีการมีงานทำแล้ว ส่วนแฟนก็อายุ 30 มีการมีงานทำแล้ว บรรลุนิติภาวะ ยังไงก็ยังถือว่าเป็นสมบัติของพ่อแม่ ต้องขอพ่อแม่แต่ละฝ่ายก่อน จึงจะไม่ผิดศีลใช่ไหมครับ

*** ใช่ครับ ... ลูกมีพ่อแม่ปกครองดูแล การที่ลูกจะมีคู่ครองก็ควรจะให้พ่อแม่เรารับรู้

อยู่ดีดีคนที่พ่อแม่ไม่รู้จักมาครอบครองลูกของท่านไป พ่อแม่ย่อมเป็นห่วง

ควรที่จะบอกให้ท่านทราบว่าเราขออนุญาต หาคนมาดูแลต่อจากท่าน


3. ถ้าไม่ได้จัดงานแต่งงาน วิธีการใดจึงจะถูกต้องไม่ผิดศีลข้อ 3 ควรจัดประเพณีอะไร
ขอบคุณผู้รู้ทุกท่านครับ

*** บอกให้พ่อแม่ญาติพี่น้องของเราและของแฟนรับทราบว่า เราจะเป็นคู่ครองคู่ชีวิตของกันและกัน เท่านี้ก็ไม่ผิดศีลแล้วครับ

จัดงานเลี้ยงในหมู่ญาติเป็นการฉลองก็ใช้ได้แล้วครับ

 

๑ การทดแทนคุณพ่อแม่ที่ดีที่สุด ก็คือ การโน้มใจพ่อแม่ให้เข้าสู่กระแสธรรม
คืออย่างน้อยก็โน้มใจพ่อแม่ให้ถึงซึ่งพระรัตนตรัย
แต่ในด้านรูปธรรม... ที่คุณยกมานั้น ใครบอกมาละครับ
ถ้าลูกที่ตายตั้งแต่ ๑๕ ก็กลายเป็นลูกอกตัญญูงั้นหรือครับ
ไม่เกี่ยวเลยครับ
เอางี้ดีกว่า ถ้าลูกสาวต้องได้สินสอด แต่ไม่เลี้ยงดูพ่อแม่
กับลูกสาวที่โสดสนิทมิตรสหาย แต่เลี้ยงดูพ่อแม่ อันไหนดีกว่าครับ

๒ จริงๆแล้วต้องอยู่ที่สภาพครอบครัวด้วยนะครับ
บางครอบครัว พ่อแม่ก็ช่างหัวลูกตั้งแต่พ้นมหาวิทยาลัยแล้วก็มี
คือดูที่การปกครองเป็นหลักครับ
เอางี้ดีกว่า เอาแบบบ้านๆนะ ถ้าเราจะไปไหนมาไหน
อย่างไปเที่ยวกับเพื่อนที่ต่างจังหวัด
เราต้องขออนุญาตท่านมั้ย หรือเราแค่บอกกล่าว...
ถ้าเราต้องขออนุญาต นั่นก็คือเรายังอยู่ในปกครองของท่านอยู่
แต่ถ้าเราแค่บอกกล่าว คือท่านให้สิทธิ์ในการตัดสินใจของเราโดยพฤตินัยอยู่แล้ว
อย่างนี้เราก็พ้นท่านแล้วละครับ

แต่ถ้าจะให้ดี ก็อย่าซั่มกันก่อนแต่งงานเลยครับ กันเหนียว

๓ ก็ให้ผู้ปกครองหรือพ่อแม่รับรู้ครับ ว่าจะอยู่กินด้วยกัน
แต่งงานมันเป็นเรื่องสมมติ ติ๊ต่างแค่นั้นแหละครับ

 

ต้องศึกษาดูในรายละเอียด เพิ่มเติมจากนี้อีกนะครับ นี่เป็นเพียงข้อมูล ย่อ ๆ
ผู้ใดล่วงละเมิด หญิงหรือชาย ที่มีผู้ปกครอง หรือครอบครองหวงห้าม หรือหวงแหน อยู่
จะอายุเท่าใดก็ตาม แม้กระทั่งคู่มั่นของคนอื่น (หรือแม้กระทั่งคู่มั่นของตน )
ถือว่าผิดศีลข้อ3 ทั้งนั้น