คาดว่าในอนาคตจะมีศาสนาใหม่ๆ,ลัทธิใหม่ๆที่มีคำสอนเกี่ยวกับอะไรเกิดขึ้น

อยากสอบถามความเห็นว่าในอนาคตอันใกล้-ไกลจะมีศาสนาหรือลัทธิที่มีคำสอนเกี่ยวกับอะไร-แนวๆไหนเกิดขึ้นมาบนโลกนี้บ้าง ล่าสุดที่ดังๆคนเยอะๆก็มีลัทธิnew age ซึ่งมีคำสอนแนวกฏการดึงดูด ความรัก ความสมบูรณ์แบบของจักรวาล ฯลฯ ที่มีคนพากันไปอยู่ในลัทธินั้นเพียบเลยหลังจากที่เดอะ ซีเคร็ตตีตลาดได้สำเร็จ

ก็เลยอยากทราบว่าในอนาคตจะมีศาสนา,ลัทธิที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้าง คุณคิดว่าไงครับ

 

ยกตัวอย่้างเช่น ศาสดาของศาสนาใหม่เนี่ย น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากfacebookก็ได้นะครับ
เช่น เอาคำคมคำสอนของศาสนามาลงแล้วก็มีคนไปปฏิบัติเห็นผลจนความคิดกระจ่างจำนวนมาก แล้วก็มีคนติดตามเยอะแยะเลย อะไรแบบนี้

 

ถ้ามีศาสตร์ของศาสนาใหม่้ๆผมว่าน่าจะมีการปฏิบัติจิตแบบอื่นๆน่ะครับ ในโลกปัจจุบันมนุษย์ชอบทำสมาธิกัน

ศาสนาใหม่ๆที่จะถึงน่าจะมีการปฏิธรรมแบบอื่นที่ไม่ใช่ฝึกสมาธิ เช่นอาจเป็นการยืนนิ่งๆ การทำท่าทางแปลกๆ หรือปฏิบัติที่แบบมีลักษณะท่าทางเฉพาะตัวของศาสนานั้นๆก็ได้นะครับ

 

ถ้าพูดตามหลักด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันคือ ศาสนาหรือลัทธิใหม่ๆเกิดขึ้นได้ง่ายจริงๆ เพราะว่ามีเทคโนโลยี มีช่องทางแสดงตัวตนที่ทำให้คนรู้จักเยอะหลายอย่าง รวมทั้งใครทำอะไรนิดหน่อยก็สามารถเป็นข่าวดังไปทั่วได้
ไม่แน่อีกปีสองปีอาจจะมีศาสนาใหม่ๆเกิดขึ้น หรืออีกสักสิบปีข้างหน้าอาจจะมีศาสนาเกิดขึ้นบนโลกและคนนับถือกันมากมายอย่างเป็นทางการก็ได้นะครับ คนหลายคนอาจอยากเปลี่ยนศาสนาก็ได้ถ้ามีศาสนาใหม่ๆที่มีเนื้อหาโดนๆปฏิบัติเห็นผลอย่างรวดเร็ว

 

ศาสนา มีไว้เป็นเครื่องมือ ดับทุกข์
คำสอนใด ใช้ประโยขน์ดังกล่าวได้
สมควรนับถือ เที่ยวหาทางลอกเลียนเขามา
อ้างว่าเป็นของตน ไม่น่านับถือ

พิสูจน์ไม่ได้ ที่มาที่ไป ไม่มีหลักฐาน
รู้ได้อย่างไร ว่า มีผลประเสริฐจริง
สมัยนี้ ผลประโยชน์มันเยอะ
ไม่เกรงกลัวนรก บาปกรรมไม่มี

มาช้า กลัวอดมากกว่า ใช้การเข้าทรง
แอบอ้างให้กลัว ห้ามคัดค้าน
ต้องเชื่ออย่างเดียว ห้ามใช้สมอง
แล้วอย่างนี้ จะเอามาเป็นศาสดา ได้ไหม???

 

พวก New Age - Law of Attraction ไม่ใหม่แล้วครับ เก่ามาาาาาาาากกกกก

 

ก็ประมาณนั้นแหละครับ หลายๆคนเหมือนจะคิดจะตั้งศาสนาของตัวเองขึ้นมาแต่ทว่าก็ไปก็อบของคนอื่นมา แถมยังบังคับให้เชื่ออีก เท่าที่เห็นคนที่อยากเป็นเจ้าของศาสนาลัทธิใหญ่ๆเท่าที่ทำได้หลายๆคนคือมีคนกลุ่มเล็กๆติดตาม ไม่ได้ถูกบัญญัติเป็นศาสนาใหม่แห่งโลกใบนี้

แต่ถ้าเก่งมากๆก็น่าจะตั้งได้นะครับ ขอแค่มีคำสอนโดนๆ แนะนำอะไรแล้วเห็นผลตามจริงที่ปฏิบัติ ผู้คนจำนวนมากมายหายทุกข์ แถมปัจจุบันยังมีช่องทางมากมายในอินเตอร์เน็ตให้เผยแพร่แนวคิดของตัวเอง ถ้าคนนั้นเก่งจริงแป้บเดียวก็ดังได้แล้ว
มนุษย์หลายคนเป็นทุกข์และหาทางออกไม่ได้ซะเหลือเกิน ไม่แน่หลายๆคนอาจจะรอคนที่มีแนวคิดเด็ดๆมาตั้งศาสนาใหม่ๆก็ได้นะครับ ขอย้ำแค่แนวคิดเด็ดๆปฏิบัติเห็นผลจริง ผู้คนจำนวนมากหายทุกข์ ก็ดังได้ง่ายแล้วสมัยนี้ขอให้เก่งจริงเหอะ

 

ที่ไหม่ล่าสุดก็เป็นข่าวไปก็คือ ลัทธิ copyism สอนให้คน copy paste ข้อมูล แชร์ข้อมูล 555

สำคัญ เราจะเชื่ออะไรก็ตามใจ แต่มันจะเป็นความจริงหรือเปล่า นี่แหละ อันไหนจริง อันไหนหลอก อันไหนมีโทษ อันไหนเป็นทางสว่างจริง อันนี้แล้วแต่ปัญญาของแต่ละคนจะพิจรณา

บางลัทธิอาจทำให้รู้สึกดี เช่น บอกว่าทำแค่เนี้ย จบละ ไปสวรรค์ จะสบาย แต่ความเป็นจริงมันเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เราต้องแยกเรื่องความจริง กับ ความรู้สึกดีเพราะคิดไปเองว่าเราพบทางแล้ว

ลัทธิมักจะมีอะไรที่มันง่ายๆ เป็นจุดขาย ไม่ต้องลำบาก ทำให้คนชอบ เพราะไม่ต้องเหนื่อยทำไม่มาก ก็ได้ไปสวรรค์ ได้สิ่งดีๆ เป็นต้น

 

ท่านอาจารย์มีความเห็นเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติ (วิธีภาวนา) วิธีอื่นๆอย่างไรครับ ทุกวันนี้ดูเหมือนว่าจะมีอาจารย์มากมาย และมีแนวทางการทำสมาธิวิปัสสนาหลายแบบ จนทำให้สับสน
มันก็เหมือนกับการจะเข้าไปในเมือง บางคนอาจจะเข้าเมืองทางทิศเหนือ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯทางถนนหลายสาย โดยมากแล้วแนวทางภาวนาก็แตกต่างกันเพียงรูปแบบเท่านั้น ไม่ว่าท่านจะเดินทางสายหนึ่งสายใด เดินช้าหรือเดินเร็ว ถ้าท่านมีสติอยู่เสมอ มันก็เหมือนกันทั้งนั้น ข้อสำคัญที่สุดก็คือแนวทางภาวนาที่ดีและถูกต้องจะต้องนำไปสู่การไม่ยึดมั่นถือมั่น ลงท้ายแล้ว ก็ต้องปล่อยวางแนวทางภาวนาทุกรูปแบบด้วย ผู้ปฏิบัติต้องไม่ยึดมั่นแม้ในตัวอาจารย์แนวทางใดที่นำไปสู่การปล่อยวาง สู่การไม่ยึดมั่นถือมั่น ก็เป็นทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ท่านอาจจะอยากเดินทางไปเพื่อศึกษาอาจารย์ท่านอื่นอีก และลองปฏิบัติตามแนวทางอื่นบ้างก็ได้ พวกท่านบางคนก็ทำเช่นนั้น นี่เป็นความต้องการตามธรรมชาติ ท่านจะรู้ว่าแม้ได้ถามคำถามนับพันคำถามก็แล้ว และมีความรู้เรื่องแนวทางปฏิบัติอื่น ๆ ก็แล้ว ก็ไม่อาจจะนำท่านเข้าถึงสัจจธรรมได้ ในที่สุดท่านก็ จะรู้สึกเบื่อหน่าย ท่านจะรู้ว่าเพียงแต่หยุด และสำรวจตรวจสอบดูจิตของท่านเองเท่านั้น ท่านก็จะรู้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสสอนอะไร ไม่มีประโยชน์ที่จะแสวงหาออกไปนอกตัวเอง ผลที่สุดท่านต้องหันกลับมาเผชิญหน้ากับสภาวะที่แท้จริงของตัวท่านเอง ตรงนี้แหละที่ท่านจะเข้าใจธรรมะได้
ถาม-ตอบ แนวการปฏิบัติธรรม
โดยหลวงพ่อชา สุภัทโท
ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม...

 

ลัทธิที่ใช้ศาสนาดังๆ ยิ่งมีเยอะ คือเอาศาสนาดังๆ เป็นตัวตั้ง แล้วบิดเบือนเปลี่ยนเป็นคำสอนของตัวเอง แบบนี้มีเยอะทั่วโลก เช่น ที่อเมริกา มีคนบอกว่าตัวเองคือ พระเยซู บอกไม่มีนรกละ ทุกคนก็ชอบ... บ้านเข้าใหญ่โต ขับรถแพง ใส่ rolex

เราจึงต้องระวังเรื่องการบิดเบือนคำสอน เพราะเป็นการเริ่มลัทธิที่ทำได้ง่าย

สุดท้ายคล้ายจะเป็นการทดสอบศรัทธา ใครศรัทธาไม่มั่นคง ก็โดนลัทธิต่างๆ เอาไปเป็นสาวก

อันนี้พูดกลางๆ ตามเหตุตามผล เชื่อว่าคงมีคนเห็นด้วยกับกระผม

 

แต่ต้องระวังนิดนึง ถ้าจะบอกว่า อะไรใช้ดับทุกข์ได้นั้นดี ดับทุกข์นี่ดับนานแค่ไหน ดับไปตลอด นิพพานได้หรือเปล่า

หรือตอนนี้เหมือนจะสุข แล้วไปรับทุกข์ทีหลัง? เช่น ถ้ามีคนมีความเชื่อผิดๆ ว่าเราอยากทำอะไรบาป บุญไม่มีจริง ทำตามใจฉันได้ทุกอย่าง แบบนี้อาจจะรู้สึกมีความสุขกับการได้ทำตามใจชอบในชั่วเวลาหนึ่ง แต่ยังไงมันก็ต้องรับกรรม ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า

นี่คือสิ่งที่น่ากลัว ของการมีความเชื่อที่ผิด ที่อาจทำให้มีความสุขปลอมๆ แต่ต้องไปรับทุกข์ภายหลัง นี่คือความเห็นของกระผม ท่านว่าจริงหรือไม่

สิ่งที่คิด ที่ทำให้รู้สึกเป็นสุข อาจจะไม่ใช่ความจริง อาจจะต้องทำให้ลำบากในอนาคตได้

 

เห็นด้วยครับ พวกไม่แน่จริงอ่ะครับซึ่งเจอและพบเห็นได้เยอะแยะ พวกcopy+paste+แก้ไขต่อเติมนิดหน่อย เก่งจริงต้องคิดคำสอนของตัวเองวิธีปฏิบัติของตัวเองมาเลย

ศาสดาหลายๆท่านเนี่ยยุคนั้นก็ไม่มีเทคโนโลยีอะไรก็มีผู้ศรัทธากระจายคำสอนไปได้ทั่วหมด

 

ยกตัวอย่างไม่ยาก บางลัทธิ จุดจบคือการฆ่าตัวตาย ศาสดาของเขาเพ้อไปว่าอนาคตจะมีเอเลี่ยนมารับ วันนั้นวันนี้ ได้ไปอยู่ยูโทเปีย และอื่นๆ คนที่เชื่อแบบนี้ก็รู้สึกมีความสุข ว่าอีกไม่นานจะได้ไปอยู่ดินแดนที่เป็นดั่งสวรรค์ ท้ายที่สุดเมื่อเวลานั้นมาถึงกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จุดจบฆ่าตัวตาย ซึมเศร้า ชีวิตพังเพราะหวังไว้กับฝันที่ไม่เกิด แบบนี้มีให้เห็นมากไปศึกษาได้ หรือจะเป็นการฆ่าตัวตายหมู่ทั้งลัทธิ เช่น Heaven's Gate ก็มีเกิดขึ้นหลายครั้ง

ดังนั้นการจะฟังใคร จะเชื่อใครนั้น ควรจะใช้สติ ปัญญา หลักกาลามสูตร ในการรับฟัง พิจรณา ท่านทั้งหลายเห็นด้วยหรือไม่

 

สุดท้าย ยุคนี้เป็นยุค IT จะเป็นเด็ก เป็นผู้ใหญ่ มิจฉาชีพ คนบ้า หรือเป็นใครก็สามารถตั้งตัวเป็นผู้รู้ได้ เพียงมีเน็ตใช้ ก็สามารถเผยแพร่ความคิด ความเชื่อของตัวเองได้อย่างไม่ยาก

แต่แม้ความคิด ความเชื่อนั้น จะน่าสนใจ จะถูกจริตเพียงใด มันอาจจะไม่ใช่ความจริง และอาจทำให้คนที่เชื่อลำบากได้

 

ศาสนาใหม่คงเกิดยาก
แต่ที่เกิดขึ้นมากคือลัทธิความเชื่อแปลกๆพิศดาร
เรียกว่ามีผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเลย ทั่วทั้งโลก
เอาเป็นว่าเห็ดดอกใหม่ที่ผุดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นการ รวม ยำ ผสม หลายศาสนาใหญ่เข้าไว้ด้วยกัน
แล้วอ้างตนว่า ตนเป็นจุดกำเนิดของศาสนาเหล่านั้น
ทั้งๆที่ศาสนาใหญ่เหล่านี้ล้วนมีต้นกำเนิดมาหลายพันปี
ส่วนลัทธิตนเพิ่งจะมีเอง

การปฏิบัติของลัทธิพิศดารพวกนี้มักเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่ต้องทำอะไรมากก็ได้ไปสวรรค์
หรือได้ไปในที่ๆเขาวาดขึ้น
ง่ายเข้าไว้ ขายดี

พวกนี้มักไม่มีศาสนสถาน

ชอบอ้างเรื่องโลกแตก ภัยพิบัติ ฯลฯ ทำให้กลัวเข้าไว้ เมื่อกลัวคนก็มักจะทำตามที่สั่ง

ดูคล้ายจะดี แต่ล้างสมองไปในตัว

การบิดเบือนมีมากในปัจจุบัน
ขอให้ใช้ปัญญาในการพิจารณา

 

มีศาสนาใหม่เกิดแล้วครับชื่อ บาฮาย เกิดในอิสราเอล ทำนองว่ามีพระเจ้าองค์เดียว
แต่ว่ามีหลายคนที่สอนแต่มีที่มาจากองค์เดียวกัน ในบาฮายแบ่งเป็น คริสต์ อิสลาม ยิว พุทธ ฯลฯ เห็นเขาว่างี้น่ะ คิดว่าถ้าได้รับการยอมรับอย่างมากมายในอนาคตพระพุทธศาสนาเราจะอยู่ลำบากมาก เห้อหนักใจแทนหน่อพุทธางกูลในอนาคต

ตั้งแต่ 14:12 ถึง 19:57
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=m95nWUgAwuU]พท.ชีวิต - อิสราเอล แห่งพันธะสัญญา 2May12 - YouTube[/ame]

 

ตอนนี้มีอีกหนึ่งลัทธิคือ อนุตตรธรรม
ที่ทำการแอบอ้างหลายศาสนาเข้าไว้ด้วยกัน
มีคนหลงงมงายไปกับลัทธินอกรีตนี้อยู่มากเลยครับ

 

อยากให้มีเยอะๆนะ 55555555+

 

กฏของธรรมชาติหรือกฏของจักรวาลมีอยู่เพียงหนึ่งเดียว
แต่ศาสดาของแต่ละศาสนากลับสอนไม่เหมือนกัน 100% มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ เรื่อง ดูแค่เฉพาะศาสนาใหญ่ ๆ 4 ศาสนาที่มีคนนับถือศรัทธามากที่สุดคือ อิสลาม คริสต์ ฮินดู และพุทธ ก็มีความแตกต่างขัดแย้งกันในความเชื่อหลายเรื่อง(ไม่รวมถึงเรื่องการสอนให้คนทำดี ละความชั่ว ห้ามการเบียดเบียน ซึ่งแต่ละศาสนาจะสอนเหมือนกัน) เช่น
บางศาสนาเชื่อว่ามีเพียงชาตินี้ชาติเดียว ไม่มีชาติอดีตและชาติอนาคต ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์เป็นเพราะพระเจ้าต้องการและบันดาลให้เป็นไป
บางศาสนาเชื่อว่ามีหลายภพชาติที่ต้องเวียนว่ายตายเกิด ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตมนุษย์เป็นเพราะผลของวิบากกรรมในอดีตและผลของการกระทำในปัจจุบันประกอบกัน
แต่กฏของธรรมชาติหรือกฏของจักรวาลมีอยู่เพียงหนึ่งเดียว แล้วตกลงมนุษย์จะเชื่อใคร?
มันต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดและอีกฝ่ายหนึ่งถูก แต่เราจะยังไม่ตัดสิน
นั่นแสดงให้เห็นว่า คำสอนในคัมภีร์ของศาสนาขนาดใหญ่ก็อาจไม่รู้จริงไปเสียทั้งหมด สาเหตุอาจจะมาจากผู้เขียนคัมภีร์ไม่ใช่ตัวศาสดา หรืออาจเป็นเพราะตัวศาสดาเองหากเป็นผู้เขียนเอง
ฉะนั้น เราจะใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินคำสอนว่า ถูกหรือผิด?
เราก็ต้องใช้ความจริงที่ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดโดยทั่วไปหรือสามารถพิสูจน์ได้เป็นเกณฑ์ตัดสิน ใช่หรือไม่?
ดังนั้น หากจะมีศาสนาหรือลัทธิใหม่ใด ๆ เกิดขึ้น หากศาสนาหรือลัทธินั้นสามารถแสดงถึงความเป็นจริงใด ๆ ทีอยู่นอกเหนือจากคำสอนของศาสดาของศาสนาที่มีอยู่แล้ว ให้ปรากฏชัดแจ้งขึ้น อาทิเช่น ความจริงอันใดที่จัดอยู่นอก"ใบไม้ในกำมือ" ก็น่าจะเป็นศาสนาหรือลัทธิหรือปรัชญาที่มีคนจำนวนมากหันมาสนใจศรัทธานับถือและปฏิบัติตาม เพราะมันสอดคล้องกับความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทั้ง classical physics และ modern physics โดยเฉพาะ quantum physics

 

ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงตัวตนว่า ผมไม่ใช่คนที่จะมาสร้างลัทธิศาสนาใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น
ผมเพียงแค่ต้องการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจจะมีคนไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมากก็ได้
ผมเป็นชาวพุทธ มีความสนใจศึกษาในวิถีพุทธมายาวนานเกือบ 40 ปี
และในศานาพุทธก็ไม่เคยกล่าวถึงพระผู้สร้างหรือสิ่งศักดิ์สูงสุดของจักรวาล
(ขอให้ข้อมูลก่อนว่า พระผู้สร้างในความหมายที่ผมกล่าวถึงนี้ แตกต่างจากพระเจ้าในศาสนาคริสต์และอิสลามในแง่รายละเอียดของคุณลักษณะและสภาวะ)
แต่ผมมีความเห็นว่า พระผู้สร้างหรือสิ่งศักดิ์สูงสุดของจักรวาลนั้นต้องมีอยู่จริง
พระผู้สร้างหรือสิ่งศักดิ์สูงสุดของจักรวาลคือผู้กำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของจักรวาล รวมถึงกฎแห่งกรรมด้วย