การถอดจิตมี3วิธี

หนังที่สร้างมาเพื่อความบันเทิง น่าเชื่อถือ ในมุมมองธรรมะ?

 

บทความเจ้าของกระทู้นี้ มาจาก หนังสือการฝึกสมาธิ ของสมเด็จพุฒาจารย์โต นี่ครับ
ผมจำได้เลย เพราะอ่านมา หลายปีแล้ว สมัยปี 34 น่ะครับ จำบทความได้อยู่ ปัจจุบัน
หนังสือเล่มนี้ ก็ยังเก็บ อยู่ที่บ้าน

 

การถอดจิต (การถอดกายทิพย์)

เป็นการเดินทางเพื่อไปภพภูมิ ที่่ไม่สามารถไปด้วยกายเนื้อ หรือไปอีกมิตินึง เพราะการไปด้วยกายเนื้อ ผู้เป็นเจ้าของกายเนื้อ ไม่สามารถไปได้ สาเหตุที่ต้องการถอดกายทิพย์ มีเหตุผลหลายประการ โดยผมขอสรุปความคือ
ต้องการที่จะทราบ หรือเห็น หรือคุย กับบุคคลที่เราต้องการสนทนาด้วย แต่การที่กายทิพย์เดินทางไปมั่วซั่ว มีอยู่นะครับ ลองอ่านประสบการณ์หลายๆ เล่ม ดังนั้นการถอดกายทิพย์ประเภทนี้จะค่อนข้างอันตราย แต่จะมีสายใยวิญญาณ ผูกติดระหว่างกายเนื้อกับกายทิพย์เข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้วิญญาณอื่น ไม่สามารถแทรกแซงกายเนื้อได้ แต่ถ้าวิญญาณนั้นมีสมาธิ หรือวิบากกรรม ก็สามารถตัดสายนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นควรจะ สวดมนต์ แล้วอธิฐานจิตก่อนทำการถอดกายทิพย์ครับ

เท่าที่ทราบมานะครับ แต่ยังไม่เคยถอด

หวังว่าคงช่วยผู้อ่านได้บ้างครับ

 

ต้องขออธิบายเพิ่มเติมแต่เป็นหัวข้อประเด็นเรื่อง พระอรหันต์ครับ (เท่าที่อ่านมาจากพระไตรปิฏก)
พระอรหันต์มีรูปแบบ มีแค่ 1 เดียว แต่มีสถานะ 2 สถานะ (ดิบกับสุก) [พระพุทธทาส]
1.) ดิบคือ การเสวยอารมณ์ของพระอรหันต์ขณะที่ยังมีชิวิตอยู่
2.) สุกคือ การเสวยอารมณ์ของพระอรหันต์ขณะที่จิตจุติ หรือช่วงดับจิต หรือที่เรียกว่า ตาย

กับรูปแบบการเป็นพระอรหันต์ อีกรูปแบบนึง
3.) ขณะดับจิต หรือตาย ในช่วงเสี้ยวเวลา เราสามารถเข้าถึงสภาวะ พระอรหันต์ได้ ก็สามารถเป็นพระอรหันต์ได้เช่นกัน แต่ยากครับ เพราะขณะที่เสี้ยวเวลาของจิตมันไวมากครับ กรณีนี้ ไม่ได้กำหนดว่า จะอยู่ขั้นไหน ธรรมดา หรือโสดาบันขึ้นไป หากสามารถดำรงภาวะจิตนี้ได้ เป็นพระอรหันต์ได้เช่นกัน

การเป็นพระอรหันต์ ในรูปคนธรรมดา (ไม่ใช่พระนะครับ) สามารถดำรงเพศนี้ได้แค่ 7 วันเท่านั้น เพราะหากเลยเวลานี้จะเสียชีวิต (ผมยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเสียชีวิต แต่เท่าที่รู้มาคือ ภาวะของกายเนื้อที่ไม่สัมพันธ์กับจิตที่สะอาดแล้ว ทำให้กายเนื้อดับ)

ส่วนระดับพระอื่นๆ ที่ต่ำกว่าพระอรหันต์ สามารถบรรลุได้ใน กายเนื้อปรกติได้ครับ (คนธรรมดาที่ทำมาหากิน แต่กิเลสจะเบาบางตามลำดับขั้น แต่เมื่อตายแล้ว ก็จะเกิดอย่างน้อย 7 ชาติเท่านั้น [ระดับโสดาบันติผล] แต่จะเกิด 7 ชาติในรูปมนุษย์ หรือเปล่าผมไม่ทราบ แต่ในพระไตรปิฏก กล่าวแค่ ไปเป็นเทวดาบนสวรรค์ และเปลี่ยนระดับขั้นของสวรรค์ไปเรื่อยๆ จนบรรลุ อย่างนี้ถือว่าเป็นการเกิดของชาติใหม่เช่นเดียวกันครับ

หวังว่าคงช่วยผู้อ่านบ้างครับ

 

กระทู้ฮอตข้ามหลายปีจริงๆ(deejai)(deejai)(deejai)

 

โอ๊ย อ่านแล้ว ต้องลุกไปวัดที่อยากไปซะที ประมาณว่า เดี๋ยวก่อน
ขึ้้้้้้นกรรมฐาน ให้้ แน่นหนัก ให้ สะใจ ไปเลย
ขอบคุณ น้องกระเจียว
เขา เรียก จุดไฟ ในตัว ครับพี่น้องครับ

 

พอดีแว๊บเข้ามาอ่าน ...

... เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ ... เท่าที่เคยได้ยินพระอาจารย์วัดแถวบ้าน ท่านก็เคยพูดถึงเรื่องกายทิพยืเหมือนกัน แต่ท่านไม่ได้สอน ... เราเองไม่มีความรู้เรื่องนี้ .. ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ที่เอามาเล่าสู่กันฟังคะ

 

เป็นอีกเสียงที่เข้ามายืนยันว่าการถอดจิตเป็นไปได้จริง

ในส่วนตัวผมเองเคยผ่านประสบการณ์นี้มา 3 - 4 ครั้งเมื่อประมาณ สองสามปีมานี้

ตอนแรกไม่เชื่อหรอกครับว่าเป็นการถอดจิต ตอนนั้นผมเริ่มต้นด้วยอาการวูบจนออกมานั่งอยู่นอกร่างกาย พอหันไปก็เจออีกร่างของตัวเองอยู่ข้าง ๆ และได้รับการสั่งสอนธรรมจากดวงวิญญาณดวงหนึ่งเรื่องของกรรม พอจบเราก็ถูกดูดเข้าร่าง แบบขาทับขา แขนทับแขน จนลืมตาขึ้นมาแบบร่างกายชามาก ๆ เรายังคิดว่าเป็นอุปทาน หรือ ฝัน

ครั้งที่สอง
เราก็วูบออกมาจนลอยทะลุกำแพงเสี้ยววินาที ไปตกอยู่ไกลจากที่ ๆ เราอยู่ร้อยกว่ากิโล ไปอยู่ในวัดแห่งหนึ่งที่อำเภอปากพนัง เจอกับหลวงพ่อรูปหนึ่งท่านบอกชื่อด้วยตอนนี้จำไม่ได้แล้วเพราะผานมาหลายปี ท่านเรียกเรามาสอนธรรมะ พอจบก็ถูกดูดมาทับร่างเหมือนเดิม

ครั้งที่สาม
ออกมาแค่ครึ่งตัว ได้แค่นี้

ครั้งที่สี่
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ชัดเจนที่สุดและทำให้ผมเชื่อในเรื่องของการถอดจิต เรืองของวิญญาณได้แบบสนิทใจ

หลังจากเกิดเหตุการสามครั้งข้างบน ผมบังเอิญไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ว่า "ประสบการณ์จากฌาณสมาธิ ถอดจิต ทางสงบ ตามแนวทางสมเด็จโต"
พออ่านไปเรื่องราวของคนในนั้นคล้ายกับเรามาก ก็เลยลองฝึกตามนั้นดู โดยการเพ่งที่หน้าผากตรงจุดอุณาโลมบ่อย ๆ จนตึงเสียวอยู่ที่หน้าผาก ฝึกได้สักระยะหนึ่งเห็นว่าไม่เกิดผลสำเร็จ จึงเลิกฝึกวิธีนั้น มาฝึกอาณาปานสติเหมือนเดิม ( แบบไม่ค่อนสม่ำเสมอ ) จนวันหนึ่งผมตื่นขึ้นมาตอนตีสามเพื่อพาพ่อไปโรงพยาบาล กลับมาถึงราวตีห้าครึ่ง ก็เลยคิดจะนอนต่อ จนมาเจอเหตุการณ์ที่ชัดเจนที่สุดในชีวิตเกิดขึ้น

คือ ในระหว่างที่ผมล้มตัวกำลังจะนอนบนเตียง ก็เกิดอาการเสียว ๆ กลางหน้าผากตรงจุดที่ผมเพ่งเป็นประจำ และผมก็เห็นกระแสไฟฟ้าเป็นเส้นสีออกฟ้า ๆ เงิน ๆ ไหลจากหัวคิ้วทั้งสองมาบรรจบกันที่กลางหน้าผากแล้วหมุนวนเป็นจุดวงกลมอยู่พักหนึ่งจนสว่างจ้า และก็ดันกายทิพย์ผมช้า ๆ ให้ออกมาจากกายเนื้อที่เป็นโพลงสีดำท่อนนี้ จนออกมาอยู่ข้างนอก หลังจากนั้นผมคิดถึงอีกที่หนึ่งก็ไปปรากฎที่นั่นทันที ไปเห็นทุกอย่างที่นั่นทั้งที่ไม่เคยเข้าไปในบ้านหลังนั้นไปเห็นว่าเค้าทำอะไร ใส่เสื้อสีอะไร พูดอะไร ( เค้าพูดภาษามอญแต่ผมฟังเข้าได้ยังไงก็ไม่รู้ ) จนร่างถูกดูดเข้ามาทับอีกร่างที่นอน ตอนนั้นเห็นเป็นกระบวนการเข้าชัดเจนเลยครับ เข้าใจเลยที่พระท่านบอกว่าเหมือนชักดาบออกจากฝักเป็นยังไง จนเราลืมตาขึ้นมาตอนแรกขยับตอนไม่ได้เพราะเกิดอาการชาทั้งตัว หลังจากนั้นผมก็สอบถามถึงคนที่เห็นตอนถอดจิตออกไปถึงเรื่องราวที่ผมเห็นเค้าถึงกับตกใจเพราะทุกอย่างถูกหมดเลย ยังถามอีกว่าผมเห็นตอนเค้าอาบน้ำไหม 555

ครั้งนี้แหละครับที่ทำให้ผมเชื่อเรื่องนี้แบบสนิทใจ สำหรับท่านที่บอกว่าทางนี้ไม่ใช่แก่นนั่นก็ถูก แต่ถ้าเจอกับตัวเองแล้วเอามาพิจารณา ก็จะเห็นว่าสิ่งที่พระพุทธองค์เคยตรัสมีจริง อย่างน้อยก็ได้รับรู้ด้วยตัวเองว่า กายอันหนึ่ง จิตอันหนึ่ง ลดอัตตราตัวองได้บ้างไม่มากก็น้อย

หลังจากนั้นมา ผมก็ไม่มีประสบการณ์นั้นอีกเลยจนถึงทุกวันนี้

 

อยากถอดจิตจังครับ มีวิธีง่ายๆ เข้าใจง่ายป่าว

 

วิชาถอดกายทิพย์ต้องดูของหลวงปู่ชอบ จังหวัดเลย ครับ ท่านเคยเทศน์ ผมเคยฝึกอยู่ช่วงหนึ่ง ความรู้สึกเบา ๆ หวิว สักครู่จะมีความรู้สึกว่าตัวลอยขึ้นมา แต่ขายังติดพื้นอยู่ หันมาเห็นตัวเองนอนอยู่ ตกใจ รู้สึกเหมือนเราตกจากเหว วูบลงเลย แล้วจึงรู้สึกตัว กายทิพย์ต้องของหลวงปู่ชอบครับ ลองศึกษาดู