การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

ความคิดทำให้เกิดปัญญา

แต่ปัญญาญานที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากความคิด

แต่ก็ต้องอาศัยความคิด เพื่อก่อให้เกิดปัญญา

การดู รู้ ละวาง เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญญา

แต่การเกิดปัญญญาน ที่แท้จริง ไม่ได้เกิด จากการ ดู รู้ ละวาง

แต่ก็ ต้องอาศัย การ ดู รู้ ละวาง เพื่อก่อให้เกิด ปัญญาญาน

 

อย่าประมาทในชีวิต
อย่าผัดวัน ผัดเวลา
ชาตินี้มีโอกาส แล้วไม่ใช้โอกาส ที่เรามี ในความเป็นมนุษย์

แน่ใจเหรอว่า เกิดใหม่ จะเหมือนเดิม
ถ้าเราเกิดเป็น เต่า หละ
เราจะสร้างบุญได้อย่างไร
เราจะไปฟังธรรมกับใคร และไปได้อย่างไร
เราจะทำทานได้อย่างไร
เราจะภาวนาได้อย่างไร

โอกาสอยู่แค่เอื่อม แต่ไม่ไคว้คว้า
วันเวลามันจะทำลาย โอกาสของเราไปเรื่อยๆ
เมื่อถึงวันนั้น แล้วเราจะเสียดายเวลา
ที่ไม่หวนกลับมาได้

 

เย้ๆ มีครูพิเศษมาช่วยติวอีกแล้ว คุณครูขยันกันอย่างนี้ นักเรียนจะกล้าขี้เกียจเหรอ
2-3วันมานี่ ไม่สบาย มึนหัว นั่งก็ไม่รู้เรื่องนอนซะเลย ตัวเล็กเป็นไข้หวัดใหญ่
ตื่นมาเจอ อ้าว ตัวเล็กฉลาดกว่าแม่อีก คลุมผ้าห่มนั่งสมาธิปิดไฟ คงอยาก
หายไข้ สุดท้ายก็ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

จะได้ฤกษ์เริ่มจริงๆจังๆแล้วล่ะ่ค่ะ ตอนนี้โรคคนแก่มาเยี่ยมมาเยือนแล้ว
พี่พลังไฟมีเวลาก็รบกวนมาช่วยแนะนำพวกเรา ช่วยอ.บาส น้องภูมินะคะ
ดีใจกระทู้ครึกครื้น อิอิ

 

ขอบคุณมากครับพี่พลังไฟ
เป็นอย่างไรบ้างครับ สบายดีไหมครับ
ปัญญาญาณเกิดจาก กระบวนการซ้ำๆ
จนเข้าใจที่จิต ไม่ต้องคิด ไม่ต้องดู รู้ ละวาง ใช่ไหมครับ

 

วันนีเจอแต่คนปากกะใจไม่ตรงกัน ดูแล้วเพลียใจเหลือเกิน คนเราโดนสังคมสอนให้ใส่หน้ากากถึงจะเอาตัวรอดได้

ปรากฏว่าชินกับการใสหน้ากากขอนิพาน กลับพูดมั่วการกระทำกับการที่พูดนั้นสวนทางกันน่าดู ทำไมหนอคนช่างทำได้

แล้วมาเจออีกคนมีฌานบารมีดันมีความโลภใช้ไว้ทำมาหากินเห็นแก่ตัวมาปฏิบัติธรรมเพื่อหาคู่ แล้วอย่างนี้มาปฏิบัติแล้วจะได้อะไร ของที่มีติดมาจากอดีต

ก็คงจะหมดไปน่าเสียดาย

 

Thanks จ้า...ที่กระตุ้น
(Inner ขยับแล้ว..แต่ Body ยัง Lazy อยู่เล๊ยย!!!!)
กะไว้ว่า ปีใหม่...แล้วค่อยตั้งต้นใหม่... อะนะ
ช่วงนี้ ขอ....ลั่นล๊า(ขี้เกียจนั่ง)แบบสุดๆก่อนละกัน...นะ

มันเป็นช่วงที่..มีอารมณ์ของการขี้เกียจทำสมาธิหลับตา...
แต่...มันเป็นช่วงที่ได้ใช้...สมาธิลืมตา กับสิ่งต่างๆรอบๆตัว ในชีวิตประจำวัน
มีข้อพิจารณาในหลักธรรมของความเป็นจริง เกิดขึ้นอยู่เกือบจะ..ตลอดเวลา
เหมือนกับการทดสอบตัวเอง(มั๊ง) อารมณ์ สติ ปัญญา และอีกหลายๆอย่างที่มากระทบ
เลยทึกทัก อุปมา..อุปมัย เอาเองว่า คุณพระคุณเจ้าท่านอาจจะคิดว่า " นั่งหลับตาปี๋มาหลายปีแระ ลองลืมตาแป๋วดูซิจะไหวมั๊ย " ทำนองเนี๊ยะ อิอิ

 

เย้ พี่หมูช่วยน้องแล้วว

เชิญพี่หมู เพิ่มเติม แก้ไข ได้เต็มที่เลยนะครับ

ผมยังมือใหม่ครับ

 

สู้ๆครับพี่ ต้องทนให้ได้แบบเกินตายอ่ะครับ

 

นั่งก่อนนะครับช่วงนี้

ถ้าไม่นั่งระวังเจอ Surprise ก่อนปีใหม่

นะครับ

 

พี่จะเป็นกำลังสนับสนุน และกำลังใจให้
ถ้าเราเป็นลูกพระพุทธเจ้า เบื้องหน้าย่อมสว่างเสมอ

 

ครับพี่

 

ขอบคุณพี่หมูค่ะ...ที่เตือน ขอบใจน้องภูมิที่เป็นห่วง...

ไม่ได้เลิกราค่ะ แต่อาจจะเลี้ยวเปลี่ยนทาง ถ้ามีบุญพอ...คงเจอกันข้างหน้านะคะ หนูก้อหวัง... ขอเป็นลูกหลานพระพุทธเจ้า (ที่ผ่านมา) หรือ พระศรีอาริย์ ยังไม่แน่ใจตัวเองค่ะ

หลายๆ ที่ ก็ย้ำเรื่องเวลา กระชั้นเข้ามา... เหลือแต่จะดันตัวเอง เอาชนะความขี้เกียจได้มากน้อย แค่ไหน

 

มาส่งการบ้านครับผม

วันนี้ อากาศร้อน ช่วงแรกๆนั่งลำบากดี พอซักพักก็ไม่ค่อยอะไรมากละ

เหมือนจะยังไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่ เห็นว่าคิดนู่นนี่บ่อยดี บทจะมืดๆ ค้างๆ เติ่งๆ ก็เป้นแบบนั้น

อีกประเดี่ยวก็ เปลี่ยนเป้นอย่างอื่น ไปๆมาๆ เช่นนี้ละครับ

 

พี่สบายดี ยังระลึกถึงทุกๆคน รวมถึงอาจารย์บาสด้วย

ไม่ไช่เพียงการ เข้าใจที่จิต ไม่ต้องคิด ไม่ต้องดู รู้ ละวาง

การดู รู้ ละวาง ยังเป็นสิ่งที่เรา ยังต้องทำ
ต้องหมั่น พิจารณา ระหว่าง ผู้รู้ กับผู้ถูกรู้ ไปเรื่อยๆ

วันหนึ่งเมื่อเหลือ แต่จิตของผู้รู้
ซึ่งสว่างไสว ไปทั่วจักรวาล
เป็นวันไหน ก็ขึ้นอยุ่กับอินทรีย์ ของเราแต่ละคนว่าแก่กล้าเพียงใด
มีบารมีเต็มที่ขนานไหน มีคุณธรรมสมบูรณ์ขนาดไหน

แม้เมื่อเหลือเพียงแค่ จิตผู้รู้ เราก็ยังต้องทำลายจิตผู้รู้ เพราะยังเป็นอวิชชา
เมื่อ อวิชชาถูกทำลายไปแล้วนั้นแหละ เมื่อนั้น เราจึงเข้าสู่กระแสของพระนิพพาน
แต่ทุกสิ่งก็ต้อง พิจารณา ลงสู่ อนิจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นสำคัญเท่านั้น

ปัญญาญาน เป็นสิ่งที่เกิดแล้วไม่มีวันสูญ และเป็นโลกุตรธรรม
แต่ ฤิทธิ และอภิญญา มีได้ ก็สูญได้ เป็นแค่โลกียธรรม
บางคนได้ฤิทธ ิได้อภิญญา ก็สำคัญผิดคิดว่าได้ ปัญญาญาน

ซึ่งมันเป็น คนเรื่องเดียวกัน มันยังต้องใช้เวลาอีกยาวไกล
แต่ฤิทธิ ก็เป็นบันไดที่เสริมส่งทีดีและรวดเร็ว เพื่อเข้าสู่ ปัญญาญาน

 

น้อง daGaz

ลองปรับวิธีการ นั่งสมาธิดู
คนเราแต่ละวัน อารมณ์ที่แปรเปลี่ยน ย่อมแตกต่างกันไป
วันนี้อารมณ์สงบ นั่งได้ดี
วันนี้อารมณ์ฟุ้งซ่าน หลุดบ่อยมาก เป็นกังวลว่า ทำไมไม่เหมือนเดิม
ทุกอย่างมีเหตุ มีปัจจัย

ตลอดทั้งวัน เราวุ่นวาย ฟุ้งซ่าน อยู่กับการเรียน การทำงาน เพื่อนร่วมงาน
กับการหากินหาอยู่ เพื่อปาก เพื่อท้อง เพื่อบริวาร เพื่อครอบครัว
มันเป็นเรื่องตลก ที่เรามานั่งสมาธิ เพียงครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมง แล้วต้องสงบ

ต้องไม่ฟุ้งซ่าน ทั้งๆที่ทั้งวันเราฟุ้งซ่านมาตลอด เรารู้ต้วเรื่องนี้กันหรือเปล่า
กี่ชั่วโมง ที่เราอยู่กับความฟุ้งซ่าน อย่างน้อยก็เป็น สิบชั่วโมง

ลองปรับวิธีใหม่ ให้เรามีสติ กับการทำงาน กับทุกๆเรื่องในชิวิตประจำวัน
เมื่อตลอดทั้งวัน เราสงบ เราฟุ้งซ่านน้อย เมื่อเวลาเรามานั่งสมาธิ
เราย่อมสงบอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการต่อเนื่องของสติ

การนั่งสมาธิแบบของอาจารย์ก็เหมือนกัน
วันใหนทีสมาธิดี ก็ใช้สมถ อบรมสมาธิ
วันไหนเราฟุ้งซ่านมาก ไม่สงบ ก็ใช้ ปัญญาอบรมสมาธิ
ทำอย่างไร ลองตามอารมณ์ ว่ามันจะไปจบที่ไหน
หรือว่า เพียงเฝ้าดูอารมณ์ ว่ามันสิ้นสุดเมื่อไหร่
ดู รู้ แล้ว ละวาง

ขอให้เจริญในธรรม นะน้อง

 

ขอบคุณพี่หมูมากครับที่มาช่วยตอบ

ผมเข้าใจที่เขาเป็นแต่บางครั้งผมพิมพ์ตอบไม่ได้ ไม่รู้จะพิมพ์อย่างไร

ไม่ได้หนีหายไปไหนครับ 2 3 วันมานี้สัญญาณอินเตอร์เน็ทโทรศัพท์

อยู่ดีๆก็หายไปไม่ติด ช้าจนทำอะไรไม่ได้ ออกมานอกบ้านเล่นได้ปกติ

พอเข้าบ้าน เล่นไม่ได้ จะพยายามมาตอบให้ที่ทำงานนะครับ

 

ส่งการบ้านครับ

ลองนั่งแบบที่ 2 ไม่ภาวณา
เริ่มแรกก็สวดมนต์ไหว้พระ จุดเทียนนั่งสมาธิ
นับ 1-100
พุทโธ 1-100 เสร็จแล้วก็นั่งนิ่งๆ พยายามไม่คิดอะไร
ช่วงแรกๆ รู้ว่าคิดก็จะหยุด พยายามนั่งนิ่งไปซักระยะ
พักหลังๆ เริ่มคิดมาแวปๆ ถี่ขึ้น
นั่งไปซักระยะนึง ก็แผ่เมตตา ไหว้พระแบบย่อๆ แล้วก็ออกจากสมาธิครับ
ไม่ทราบทำถูกรึเปล่าครับ

 

ครับ ค่อยๆทำครับ

เกิดอะไรขึ้นก็ ดูเฉยๆครับ

 

เมื่อวาน (05.12.12) ได้มีโอกาสไปร่วมบุญทริปปล่อยปูทะเลที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จำนวนปล่อยประมาณ 102 กิโลกรัม (ซื้อปูจากสะพานปลาอ่างศิลา)เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง

สถานที่ปล่อยปูเป็นป่าชายเลนในฐานทัพเรือ ไม่มีชาวบ้านมาจับปูไปกินแน่นอน เพราะเป็นเขตทหาร ที่สำคัญ คือ เป็นพื้นที่อนุรักษ์และมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ดังนั้นปูที่เราปล่อยจึงมีโอกาสรอดสูง

เนื่องจากปูทุกตัวถูกผูกมัดอย่างแน่นหนามาก ทำให้เค้าต้องทุกข์ทรมานอยู่นานตั้งแต่ขึ้นจากทะเลมาสู่ตลาด พอแก้มัดให้เค้าได้สำเร็จและปล่อยเป็นอิสระ เค้ารีบกระโจนลงน้ำด้วยอาการเริงร่าสุดๆๆเลย

และนอกจากได้ปล่อยปูแล้ว ยังได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของฐานทัพเรือสัตหีบ ปล่อยเต่าทะเล อายุ 3 เดือน จำนวน 9 ตัว เพื่อถวายแด่ในหลวงเช่นกัน เห็นเค้าว่ายน้ำตีปีกขาไปอย่างมีความสุขเช่นกัน

จึงขออานิสงส์ผลบุญนี้ที่ได้จากการปล่อยชีวิตสัตว์ให้เค้ารอดและเป็นอิสระ จงสำเร็จแก่ทุกๆท่านด้วยนะคะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาวเพื่อจะได้อยู่สร้างความดีกันต่อไป และใครที่มีอาการปวดเมื่อยก็ขอให้หายกันนะคะ

 

สาธุครับ