ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

โทรไปหาแม่เมื่อกี้ 5.30 pm. แม่บอกว่า น้ำที่บ้านยังไม่ลดเลยนะ (แถวลาดพร้าว) ตอนนี้แม่โทรไปบอกที่เขตแล้วว่า อาจจะท่อตัน บอกแม่ว่า แม่ นี่มันอาจเป็นการเตือนนะ ของจริงมาเนี่ยะ จะหนีกันอย่างไร

 

<table class="contentpaneopen"><tbody><tr><td class="contentheading" width="100%"> ปักษ์แรกกันยา 50 ยอดเสียชีวิต 36 ราย เหยื่อไฟใต้รวมจาก 4 ม.ค. 47 ขยับขึ้น 2,579 ราย </td> <td class="buttonheading" align="right" width="100%">
</td> <td class="buttonheading" align="right" width="100%">
</td> </tr> </tbody></table> <table class="contentpaneopen"><tbody><tr> <td colspan="2" class="createdate" valign="top"> วันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2007 12:27น. </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> สถาบันข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

คนร้ายเสียชีวิตหลังลอบยิงผช.ผญบ.อาลียะ แมะแม
เมื่อ8กย. เทือกเขกาลอ พท.อ.รามัน
พี่น้องไทยพุทธและไทยมลายู รวมถึงข้าราชการในพท.3 จชต. ยังคงตกเป็นเป้าการทำร้ายจากกลุ่มก่อความไม่สงบในพท. จนท.ทหารในพท.โดยกองกำลังศรีสุนทร และกองกำลังสันติสุข ยังคงกดดันด้านการทหารในพท.อย่างต่อเนื่องในช่วงปักษ์แรกเดือนกันยายน ทำให้จำนวนเหตุร้ายและยอดผู้เสียชีวิตไม่ต่างมากนักกับช่วงปักษ์หลังเดือนสิงหาคมที่จำนวนเหตุความไม่สงบลดจำนวนน้อยลง ยอดผู้เสียชีวิตปักษ์แรกกันยายนอยู่ที่ 36 รายบาดเจ็บ 31 ราย ผู้เสียชีวิตขยับขึ้นเป็น 2,579 รายจากยอดปลายเดือนสค.ที่ 2,543 ราย
ผลจากการกดดันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ โดยวิธีการตรวจค้น
จับกุมผู้ต้องสงสัยซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้กระทำกันมาต่อเนื่องตั่งแต่เดือนมิถนายน จนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้กว่า 600 คนในช่วงที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เหตุการณ์ไม่สงบในพท.ลดความรุนแรงลง ไม่ต่างจาก15 วันหลังของเดือนสิงหาคมมากนัก
เหตุการณ์ความไม่สงบที่สำคัญที่เกิดขึ้นในรอบ 15 วันแรกของเดือนกันยายน เริ่มขึ้นเหตุการณ์แรกในช่วงบ่ายของวันที่ 1 กันยายน ได้มีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนประกบยิง นายปิยะพงศ์ เพชรเงิน อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จนเสียชีวิต ขณะขับรถจักรยานยนต์กับกลุ่มเพื่อนนักศึกษาเพื่อไปทำธุระในพื้นที่
จ.ยะลา เหตุเกิดที่ริมถนนสายปัตตานี- ยะลา บริเวณสะพานก่อนถึงบ้านต้นมะขาม ม.3 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ในคืนวันเดียวกันได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิด
ขึ้นที่บริเวณหน้าร้านเซเว่นฯ ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. ในพื้นที่ อ.จะนะ
จ.สงขลา โดยคนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ซุกระเบิดมาจอดไว้ที่บริเวณหน้าร้านเซเว่น และทำการกดระเบิด แต่ระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ มีเพียงเสียงดัง
แต่ไม่มีสะเก็ดระเบิดออกมา ทำให้ไม่มีทรัพย์สินเสียหายและผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

เหตุการณ์ต่อมาในช่วงเที่ยงของวันที่ 2 กันยายน 50 ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนยิงใส่นายฉลอง อาภากร อายุ 53 ปี เป็นนิเทศก์ ประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจังหวัดปัตตานีเขต 3 จนเสียชีวิตขณะที่กำลังเดินอยู่บริเวณหน้าบ้าน เลขที่ 86/4 ม.2 ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของนายฉลอง ผู้ตาย

ถัดมาในช่วงเย็นวันที่ 4 กันยายน ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่นางนิภาพร นาคทอง อายุ 59 ปี เป็นพัฒนากรอำเภอทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี จนเสียชีวิต เหตุเกิดขึ้นขณะที่นางนิภาพร กำลังขับรถยนต์กระบะ ออกจากที่ว่าการอำเภอทุ่งยางแดง เพื่อกลับไปยังบ้านพักในพื้นที่ที่ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุเกิดขึ้นบนถนนสาย 407 บริเวณหน้าโรงเรียนพระราชประสงค์บ้านทรายขาว ม.2 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะของนางนิภาพร
หลบหนีไปด้วย

ในสายของวันที่ 5 กันยายน ได้เกิดเหตุคนร้ายได้ลักลอบแอบนำระเบิดเข้าไปซุกซ่อนไว้ภายในตู้แช่เครื่องดื่มภายในร้านวีระมินิมาร์ท ขึ้งตั้งอยู่ใกล้ สภ.อ.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย

นอกจากนั้นในวันเดียวกันนี้ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่
อ.เมืองยะลา 2 จุด อ.ยะหา 1 จุด อ.รามัน 1 จุด และก่อเหตุป่วนลอบวางวัตถุต้องสงสัยอีก 3 จุดในพื้นที่ อ.เมือง และ 1จุดในพื้นที่ อ.รามัน สร้างความปั่นป่วนให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทั้ง 3อำเภอเป็นอย่างมาก
เหตุการณ์ต่อมาช่วงเช้าวันที่ 6 กันยายน 50 เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุด พัน ร.1732 ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางด้วยการเดินเท้า เมื่อมาถึงริมถนนบริเวณบ้านกรงปินัง ม.7 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา ห่างจากอำเภอประมาณ 800 เมตร ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดได้รับบาดเจ็บ หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์ หลักฐานเข้ามาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุคนร้ายได้จุดระเบิดขึ้นอีกครั้งทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย คือ ด.ต.นิรันดร์ ขุนปราชญ์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วิทยาการ และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บอีก 2 นาย
เหตุการณ์ในเย็นวันที่ 8 ก.ย.50 ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนได้มาลอบดักซุ่มยิงนายอาลียะ แมะแม อายุ 45 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และลูกชาย ซึ่งทั้งสองกำลังเดินทางเข้าไปทำงานในสวน บริเวณเทือกเขากาลอ ใกล้น้ำตกฉัตรมงคล ม.3 ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา คนร้ายได้ยิงนายอาลียะเสียชีวิต ด้านลูกชายของนายอาลียะได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงตอบโต้คนร้ายทำให้คนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย ทราบชื่อ นายซาการียา มะซูเป๊ะ อายุ 33 ปี และนายอิบรอเฮง ลีเกียะ
ทั้งสองเป็นคนในพื้นที่ ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา
ต่อมาในช่วงค่ำวันเดียวกัน ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาเสาสัญญาโทรศัพท์ จำนวน 2 แห่ง และอุปกรณ์โทรศัพท์ที่ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ ต.ปะกาฮะรัง และ ต.รูสะมิแล ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี
เหตุการณ์อุกอาจต่อมาเกิดขึ้นช่วงบ่ายของวันที่ 10 กันยายน 50
ได้เกิดเหตุคนร้ายแฝงตัวเป็นผู้โดยสายขึ้นไปลอบยิงนายอาแว มูลู อายุ 52 ปี เสียชีวิตบนรถประจำทางสายปัตตานี – ยะลา ทั้งคนร้ายยังได้กราดยิงใส่ประชาชนจนได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ก่อนที่จะหลบหนีลงจากรถประจำทางไปขึ้นรถยนต์กระบะของคนร้ายที่ขับตามมารับแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดขึ้นบริเวณหน้าโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ม.1 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
ปิดท้ายเหตุการณ์ความไม่สงบในลอบ 15 วันแรกของเดือนกันยายน เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 15 กันยายน ได้เกิดเหตุคนร้ายได้ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่หารสังกัด ชป.ร้อย ร.15311 ฉก.25 ขณะที่กำลังออกลาดตระเวณ บริเวณสะพาน ม.7 บ.บูเกะกุง ต.ลูโบ๊ะยือไร อ.มายอ จ.ปัตตานี และหลังจากกดระเบิดได้ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต1 นาย และบาดเจ็บอีก 4 นาย

สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในในช่วงวันที่ 1-15 กัยยายน เกิดขึ้นทั้งหมด 65 เหตุการณ์ (ปักษ์หลังสิงหา มี 70 เหตุการณ์) หากแยกตามพื้นที่ในระดับอำเภอและจังหวัดได้ดังนี้
จังหวัดปัตตานี เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นทั้งหมดจำนวน 22 เหตุการณ์
เกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอเมือง 5 เหตุการณ์ อำเภอโคกโพธิ์และอำเภอยะรัง
อำเภอละ 4 เหตุการณ์ อำเภอสายบุรีอำเภอมายอ อำเภอทุ่งยางแดง
และอำเภอหนองจิก อำเภอละ 2 เหตุการณ์ อำเภอไม้แก่น 1 เหตุการณ์

จังหวัดยะลา เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น ทั้งหมดจำนวน 21 เหตุการณ์
เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมือง 9 เหตุการณ์ อำเภอรามัน 5 เหตุการณ์
อำเภอกรงปินัง 3 เหตุการณ์ อำเภอบันนังสตา 2เหตุการณ์
อำเภอยะหาและอำเภอเบตง อำเภอละ 1 เหตุการณ์
จังหวัดนราธิวาส เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น ทั้งหมดจำนวน 21
เหตุการณ์ เกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอระแงะ 4 เหตุการณ์ อำเภอบาเจาะ
อำเภอศรีสาครและอำเภอรือเสาะ 3 เหตุการณ์อำเภอสุไหงปาดี และอำเภอสุคิริน อำเภอละ 2 เหตุการณ์ อำเภอยี่งอ อำเภอสุไหงโกลก
อำเภอเจาะไอร้อง และ อำเภอจะแนะ 1 เหตุการณ์
จังหวัดสงขลา เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น ทั้งหมดจำนวน 1 เหตุการณ์
เกิดขึ้นในพื้นที่ อำเภอจะนะ 1 เหตุการณ์
หากแบ่งตามลักษณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพื้นที่เกิดเหตุได้ดังนี้
เหตุการณ์ลอบยิงรายวัน เกิดขึ้นทั้งหมด จำนวน 41 เหตุการณ์ แยกเป็นพื้นที่
จังหวัดปัตตานี 14 เหตุการณ์ จังหวัดยะลา 12 เหตุการณ์ จังหวัดนราธิวาส 15 เหตุการณ์
เหตุลอบวางเพลิง เกิดขึ้นทั้งหมด จำนวน 4 เหตุการณ์ แยกเป็นพื้นที่
จังหวัดปัตตานี 2เหตุการณ์ จังหวัดนราธิวาส 2 เหตุการณ์

เหตุลอบวางระเบิด เกิดขึ้นทั้งหมด จำนวน 14 เหตุการณ์ แยกเป็นพื้นที่ จังหวัดปัตตานี 2 เหตุการณ์ จังหวัดยะลา 9 เหตุการณ์ จังหวัดนราธิวาส 2 เหตุการณ์ จังหวัดสงขลา 1เหตุการณ์ เหตุการณ์โปรยตะปูเรือใบ เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งหมด จำนวน 2เหตุการณ์ แยกเป็นพื้นที่ จังหวัดปัตตานี 1 เหตุการณ์ จังหวัดนราธิวาส 1 เหตุการณ์

ทำลายทรัพย์สิน เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งหมด จำนวน 4 เหตุการณ์ แยกเป็นพื้นที่
จังหวัดปัตตานี 3 เหตุการณ์ นราธิวาส 1 เหตุการณ์

ด้านเหยื่อความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมทั้งสิ้น 67 ราย แบ่งเป็น เสียชีวิต 36 ราย บาดเจ็บ 31 ราย (ปักษ์หลังสิงหาคม เสียชีวิต 27 ราย บาดเจ็บ 54 ราย)
แยกตามจังหวัด กลุ่มและอาการของเหยื่อความรุนแรงได้ดังนี้
จังหวัดปัตตานี เหยื่อความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบ จำนวน 25
ราย มีเจ้าหน้าที่รัฐ เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 7 ราย ประชาชนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 6 ราย
จังหวัดยะลา เหยื่อความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบ จำนวน 24 ราย มีเจ้าหน้าที่รัฐ เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ประชาชนเสียชีวิต
9 ราย บาดเจ็บ 9 ราย ผู้ก่อความไม่สงบ เสียชีวิต 2 ราย
จังหวัดนราธิวาส เหยื่อความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบ จำนวน 18 ราย มีเจ้าหน้าที่รัฐเสียชีวิต 1 ราย ประชาชนเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บ 6ราย

ส่วนจังหวัดสงขลาไม่มีเหยื่อความรุนแรงจากสถานการณ์ความไม่สงบเสียชีวิตและบาดเจ็บ
</td></tr></tbody></table>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• น้ำท่วมบังกลาเทศวิกฤตหนัก ปชช.ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 1.5 ล้านคน

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ผู้จัดการออนไลน์ [ 18-09-2550 | 13:05 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> สถานการณ์น้ำท่วมในบังกลาเทศ ยังอยู่ในภาวะวิกฤต และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 850 คน ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 1.5 ล้านคน ประชาชนกว่า 500,000 คน ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ และตั้งแต่เกิดอุทกภัย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบเลวร้ายที่สุด
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• ไต้หวันเตือนภัยพายุวิภา

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%"> โดย ทีมข่าว INN News [ 17-09-2550 | 16:07:45 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> พายุโซนร้อนวิภาทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นในวันนี้ ทำให้ทางการไต้หวัน ออกประกาศเตือนอันตรายจากพายุลูกนี้ ทั้งทางบกและทางทะเล
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พายุวิภาเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไต้หวันโดยมีความเร็วลมถึง 126 กม./ชม. ศูนย์กลางของพายุอยู่ห่างจากเมืองอี้หลานไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 540 กม. และหากพายุลูกนี้ยังคงมีกำลังแรงต่อไป คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อไต้หวันในบ่ายวันพรุ่งนี้
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเตือนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือของไต้หวัน ให้ระมัดระวังกระแสลมแรงและฝนตกหนัก และเตือนบรรดาเรือที่อยู่ในน่านน้ำทางตอนเหนือ และตะวันออก



<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• ทางการนครเซี่ยงไฮ้อพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไต้ฝุ่นวิภา

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 18-09-2550 | 11:04:10 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ทางการนครเซี่ยงไฮ้อพยพผู้คนหลายแสนคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือไต้ฝุ่นวิภา
ทางการนครเซี่ยงไฮ้เตรียมอพยพชาวเมืองร่วม 2 แสนคน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังที่พักชั่วคราว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับไต้ฝุ่นวิภา ที่คาดว่าจะเคลื่อนเข้าถล่มนครเซี่ยงไฮ้ ของจีนในช่วงเย็นวันนี้ ก่อนหน้านี้ไต้ฝุ่นวิภาได้โหมกระหน่ำทางตอนเหนือของไต้หวัน ส่งผลให้ โรงเรียน สำนักงาน รวมทั้งร้านค้าต่างๆ ต้องปิดทำการ เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องมาตั้งแต่เย็นวันจันทร์ หลังจากที่เคลื่อนเข้าถล่มเซี่ยงไฮ้แล้ว คาดว่า ไต้ฝุ่นวิภาจะพัดออกสู่ทะเลอีกครั้ง ก่อนมุ่งหน้าสู่คาบสมุทรเกาหลี
</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• อังกฤษสั่งฆ่าแกะหลังติดโรคปากเท้าเปื่อย

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดยทีมข่าว INN News [ 18-09-2550 | 09:22:52 น. ] </td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> กระทรวงเกษตร อังกฤษ เตรียมออกฆ่าแกะในฟาร์มทางตอนใต้ของประเทศ หลังพบติดเชื่อโรคปากเท้าเปื่อย
กระทรวงเกษตรอังกฤษแจ้งว่า จะฆ่าแกะทุกตัวในฟาร์มแห่งหนึ่งทางตอนใต ้ของประเทศ หลังจากผลตรวจตัวอย่างเลือดพบว่า ติดเชื้อโรคปากเท้าเปื่อย
ฟาร์มดังกล่าวอยู่ในเขตควบคุมทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ที่ตั้งขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากพบโรคปากเท้าเปื่อยระบาดครั้งใหม่ มีการฆ่าสุกร และวัวควายไปเป็นจำนวนมาก กรมสิ่งแวดล้อม อาหารและกิจการชนบทแถลงผ่านเว็บไซต์ว่า ผลการตรวจเลือดเบื้องต้นพบว่า แกะสุขภาพดีในฟาร์มแห่งหนึ่งที่อยู่ในเขตควบคุมติดเชื้อโรคปากเท้าเปื่อย แกะเหล่านี้อยู่ในกลุ่มแกะที่ถูกตรวจสอบ เพื่อเฝ้าระวังโรคในบริเวณดังกล่าว ทางการจะฆ่าแกะทุกตัวในฟาร์มแห่งนี้ และจะตรวจสอบในห้องทดลองต่อไป
ฟาร์ม 2 แห่ง ที่อยู่ใกล้เคียงฟาร์มแห่งนี้เกิดโรคปากเท้าเปื่อยระบาดเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากคณะผู้เชี่ยวชาญสัตวบาลของสหภาพยุโรปมีมติได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมงว่า จะประกาศให้อังกฤษปลอดโรคปากเท้าเปื่อย และยกเลิกคำสั่งห้ามอังกฤษส่งออกปศุสัตว์ที่ประกาศใช้ ตั้งแต่พบโรคปากเท้าเปื่อยในฟาร์ม 2 แห่ง เมื่อเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมปีก่อน อังกฤษเคยเกิดโรคปากเท้าเปื่อยระบาดใหญ่เมื่อปี 2544 ทำให้ต้องฆ่าสัตว์ไปกว่า 6 ล้านตัว ส่งผลกระทบต่อการเกษตรและการท่องเที่ยวอย่างหนัก เศรษฐกิจเสียหายราว 8,500 ล้านปอนด์ (ราว 595,000 ล้านบาท)
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• ไต้ฝุ่นนารีถล่มเกาหลีใต้ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 17-09-2550 | 19:45:53 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ไต้ฝุ่นนารีที่เคลื่อนเข้าถล่มพื้นที่ทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน
ยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นนารีที่เคลื่อนเข้าถล่มเกาะเชจู พื้นที่ทางตอนใต้ ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 9 คน บ้านเรือนหลายร้อยหลัง รวมทั้งถนนหนทาง และพื้นที่การเกษตรจมอยู่ใต้น้ำ พายุฝนและกระแสลมแรงจัด เนื่องจากอิทธิพลของ ไต้ฝุ่นนารี ยังส่งผลให้มีผู้สูญหาย 5 คน ผู้คนร่วม 740 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ไต้ฝุ่นนารีจะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวม รายงานความเสียหาย นอกจากนี้ เที่ยวบินจำนวน 280 เที่ยวบินไม่สามารถขึ้นบินส่งผลให้ผู้โดยสารจำนวนถึง 1 หมื่น 5 พันคนตกค้างอยู่ที่สนามบิน
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">

• อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นวิภาส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในไต้หวัน

</td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [ 18-09-2550 | 12:21 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ประชาชนทางภาคเหนือของไต้หวัน กำลังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของ พายุไต้ฝุ่นวิภา ซึ่งทำให้เกิดลมกระโชกแรง และฝนตกหนัก ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยโรงเรียน และสำนักงานต่างๆ ในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ รวมทั้งนครไทเป ถูกสั่งปิด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นที่ปิดทำการในวันนี้ ขณะที่สายการบินภายในระงับ การให้บริการชั่วคราว ส่วนสายการบินบางเที่ยวที่จะไปยังกรุงโตเกียว และเมืองโอซากาของญี่ปุ่นถูกยกเลิก
พายุไต้ฝุ่นวิภาซึ่งมีความรุนแรงอยู่ในระดับ 4 ด้วยกำลังลมกว่า 250 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง คาดว่าจะพัดเข้าถล่มไต้หวัน ก่อนเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งทางตะวันออก ของจีนไปยังนครเซี่ยงไฮ้ และกลับลงสู่ทะเลอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ทางการจีน ได้เร่งอพยพ ประชาชนประมาณ 200,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยในนครเซี่ยงไฮ้แล้ว ก่อนที่ คาดว่าพายุลูกนี้ จะพัดขึ้นฝั่งใกล้เมืองเหวินโจว ห่างไปทางตอนใต้ของนครเซี่ยงไฮ้ ประมาณ 400 กิโลเมตร ในเย็นวันนี้
</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>

 

2โหรดังทัก สิ้นปีบินตกอีก <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> ชาวไทยทั้งประเทศยังร่วมเศร้าสลดใจในโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของสายการบินโลว์คอสต์ “วัน-ทู-โก” ที่ลื่นไถลออกนอกรันเวย์
ขณะร่อนลงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต แล้วพุ่งชนเนินดินจนเกิดไฟลุกท่วม ทำให้มีผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างชาติเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 16 ก.ย. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรงอีกครั้ง และเคยถูกทำนายทายทักโดยหมอดูชื่อดังเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยตรงกับคำพยากรณ์ของนายภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ที่ได้ทำนายไว้ในการอภิปราย เรื่องโหราศาสตร์กับการเมือง และเศรษฐกิจไทยปี 2550

ซึ่งสถาบันพระปกเกล้าจัดขึ้น ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา

ในการอภิปรายในวันดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเชิญนักโหราศาสตร์ชื่อดังของประเทศหลายคน มาร่วมพยากรณ์ผ่าดวงเมือง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองและเรื่องปากท้องของประชาชน โดยช่วงหนึ่งในการพยากรณ์ นายภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์ นานาชาติ ได้นำดวงเมืองไทยขึ้นทำนายว่า ในช่วงวันที่ 30 ก.ค.-25 ก.ย. จะเกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตทรัพย์สินมากมาย เนื่องจากในช่วงดังกล่าวเป็นวันที่เกตุ กุมราหู มฤตยู ในราศีกุมภ์ และเล็งเสาร์และอาทิตย์ ในราศีสิงห์ และให้ระวังวันที่ 15-17 ก.ย. จะเกิดภัยครั้งใหญ่ ซึ่งวันที่เครื่องบินของสายการบินวัน-ทู-โก ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนภูเขาจนเกิดไฟไหม้ เมื่อ 16 ก.ย. อยู่ในช่วงวันที่มีการเตือนให้ระวังภัยครั้งใหญ่พอดี

</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td></td></tr><tr><td align="center">
</td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> นายภิญโญได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ถึงคำพยากรณ์เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ว่า
มีคนที่ไปร่วมงานและเก็บคำพยากรณ์ไว้ โทรศัพท์มาสอบถามกันมาก เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงกับที่ได้ทำนายไว้ โดยตนได้บอกไปว่าตั้งแต่เดือน มี.ค. จะมีอุบัติเหตุเครื่องบินตก จะมีเหตุไฟไหม้ เพราะดาวเสาร์ยกกำลังโดยโคจรยกเข้าราศีสิงห์ธาตุไฟ อาทิตย์ โคจรกุมดาวเสาร์ตรงราศีธาตุไฟ ขณะที่ราหู ธาตุลม โคจรอยู่ตรงราศีกุมภ์ ธาตุลม ร่วมกับพระเกตุและดาวมฤตยู ซึ่งเป็นอากาศธาตุ ประกอบกับวันที่ 15 ก.ย. ดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวอุบัติเหตุ ธาตุลม ได้โคจรเข้าสู่ราศีธาตุลม เมื่อดาวบาปเคราะห์ 4-5 ดวง โคจรสัมพันธ์กันในราศีธาตุลม และธาตุไฟ จึงทำนายได้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางลม และไฟ จึงได้เตือนไว้ให้ระวังช่วงวันที่ 15-17 ก.ย. จะเกิดภัยใหญ่ ซึ่งเครื่องบินเป็นยานพาหนะทางอากาศที่เกี่ยวข้องกับลมด้วย และดาวชุดนี้กุมดาวเสาร์ ธาตุไฟ โคจรอยู่ตรงราศีสิงห์ เวลาเกิดอุบัติเหตุจึงมีไฟไหม้

นายภิญโญกล่าวว่า แม้เหตุการณ์ร้ายจะผ่านไปแล้วแต่ยังต้องระวัง

เพราะในช่วงนี้ดวงดาวโคจรช้า ราหูจะอยู่ที่ราศีกุมภ์ไปจนถึงเดือน เม.ย. 51 ดาวเสาร์จะอยู่ ต่อไปอีก 2 ปีครึ่ง ขณะที่ดาวอังคารโคจรวิปริต ตามปกติจะโคจรใน 1 ราศีแค่ 45 วัน แต่ครั้งนี้จะอยู่ตรงราศีเมถุนนานถึง 8 เดือน ขอให้ระวังช่วงวันที่ 15 ธ.ค. 2550-17 ม.ค. 2551 และระหว่างวันที่ 13 ก.พ.-15 มี.ค. 2551 พระอาทิตย์จรอยู่ตรงราศีธนูธาตุไฟ เล็งไปยังราศีเมถุน อาทิตย์เล็งอังคาร และเสาร์ยังเล็งราหูกับมฤตยู ดวงเมืองลัคนาอยู่ที่ราศีเมษ ดาวอังคารจะทับมฤตยูในราศีมิถุนในดวงเมือง ขณะที่อาทิตย์ทับพฤหัสบดีกับเสาร์ ดาวทุกดวงล้วนแต่เป็นดาวบาปเคราะห์ธาตุลมกับธาตุไฟมากันครบชุด และทำมุมค่อนข้างแปลก จึงขอให้ระวังเรื่องลมกับไฟ อุบัติเหตุทางอากาศอาจเกิดขึ้นได้อีก หรืออาจเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นอย่างอื่น โดยเฉพาะเรื่องลมพายุช่วงเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ จะค่อนข้างรุนแรงมากโดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย

ด้านนายปิโย จันทราภรณ์ หมอดูสัมผัสที่ 6 กล่าวว่า

ในการทำนายดวงชะตาต่างๆนั้นตนใช้วิธีนั่งสมาธิถือศีลและปฏิบัติธรรม โดยก่อนหน้านี้เคยทำนายไว้ว่า ช่วงเดือน มิ.ย.-ธ.ค.นี้ จะเกิดภัยทางอากาศขึ้น ซึ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็เกิดเหตุเครื่องบินเล็กตกอยู่หลายครั้ง กระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมนี้ขึ้น เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าปี 2550 นั้นเลข 0 ถือเป็นเลขที่สูญเสีย ประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ครบรอบของดวงภัยพิบัติพอดี ที่สำคัญปลายปีนี้ในเดือน ธ.ค. จะเกิดเหตุการณ์อุบัติภัยทางอากาศที่รุนแรงขึ้นอีกครั้ง และจะหมดไปในเดือน มี.ค.ปีหน้า นอกจากนี้ในช่วง

วันที่ 15-30 พ.ย. 2550 นี้ จะมีดาราเป็นชายเสียชีวิต หรือหากไม่มีดาราเสียชีวิต ก็จะมีดาราเตียงหักจนเกิดเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้งหนึ่ง

และระหว่างวันที่ 5-30 พ.ย.นี้ จะเกิดภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว โดยเฉพาะตามแนวรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ที่มีเขื่อนตั้งอยู่ใกล้ใน จ.กาญจนบุรี ต้องระมัดระวังคอยตรวจสอบดูแลให้ดี อย่างไรก็ตาม ขอเตือนว่าไม่ว่าจะทำอะไร ควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท สร้างความดี รักกันสามัคคีกันให้มากๆ สังคมจะดีขึ้น แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง

</td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
</center></td></tr></tbody></table>

 

คลังแสงกะเหรี่ยงระเบิด-หนีตายอลหม่าน <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td></td></tr><tr><td align="center">ภาพประกอบทางอินเตอร์เนต</td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 16 กันยายน

เกิดเหตุระเบิดคลังแสงเก็บกระสุนและอาวุธหนักของทหารกะเหรี่ยงพุทธ (ดีเคบีเอ) ที่ค่ายโก๊กโก่ ตรงข้ามบ้านวังผา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก โดยมีเสียงระเบิดดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเกิดไฟลุกไหม้เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ระหว่างเกิดเหตุทหารกะเหรี่ยงพุทธและชาวบ้านกะเหรี่ยงในหมู่บ้านโก๊กโก่ต่างแตกตื่นวิ่งหนีหาที่กำบัง และเข้าไปในหลุมหลบภัย ขณะที่ราษฎรไทยบ้านวังผาต่างวิตกเตรียมอพยพ เพราะเข้าใจว่าทหารกะเหรี่ยงสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) เข้าโจมตีที่มั่นฝ่ายดีเคบีเอ

ทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอแจ้งว่า

คลังแสงเก็บอาวุธและเครื่องกระสุนปืนได้ระเบิดจริง เนื่องจากเกิดไฟฟ้าลัดวงจร แต่ไม่มีประชาชนและทหารได้รับอันตราย เพราะคลังเก็บอาวุธอยู่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร

ข่าวแจ้งว่า สำหรับค่ายโก๊กโก่ เป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกะเหรี่ยงดีเคบีเอกองพลน้อย 999

นำโดย พ.อ.หม่อง ชิตู่ ผบ.พลน้อย 999 ซึ่งเป็นทั้งค่ายทหารและหมู่บ้านขนาดใหญ่ ซื้อไฟฟ้าจากบริษัทเอกชนไทยที่ อ.แม่สอด
</td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
</center></td></tr></tbody></table>