รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย hiflyer, 8 พฤศจิกายน 2012.

  1. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    แผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเรียกร้องหรือบังคับให้เกิดได้ มันเกิดของมันเองตามธรรมชาติ แต่เกมฮาท้านรกของกระทู้นี้ เพียงแค่อยากเดาใจธรรมชาติ เท่านั้นเองครับ และท้ายที่สุด อยากให้เขย่าแบบนุ่มนวล เบาๆ บ่อยๆก็ได้ แต่อย่าสร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตเลย

    ;aa30
    .
     
  2. ชูบดี

    ชูบดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +2,271


    จิบน้ำบ่อยๆท่าน..แล้วหาหมอที่ใกล้บ้าน..อาจติดหวัด..ไมเกรน..ความดัน..หรือเครียด..พักผ่อนน้อย..ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ..ตอนเย็นๆคงดีขึ้น.ส่วนกระทู้ก็ให้เจ้าของเขาเฝ้าไปพลางๆ..ด้วยความห่วงใยพ่อตาแมว..จ้า
     
  3. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    เป็นเวียนหัวบ้านหมุนหรือเปล่าคะ คุณ llilliilliiill ควรไปพบแพทย์ค่ะ

    เวียนหัวบ้านหมุนเป็นเรื้อรังต้องหาสาเหตุ (เดลินิวส์)

    เวียนหัวบ้านหมุนเป็นอาการชนิดหนึ่งที่พบได้ทุกวัย มิใช่จะเกิดกับผู้สูงอายุเสมอไป เกิดกับใครจะมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานประจำก็ต้องหยุดงาน หากไปเกิดขณะเดินทางยิ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ขี่จักรยาน ขับรถยนต์ ว่ายน้ำ เดินลัดเลาะตามที่สูง ไหล่เขา ริมทะเล ล้วนทำให้เกิดอันตราย ถ้ากะทันหันมีคนช่วยเหลือไม่ทัน

    เวียนหัวหรือเวียนศีรษะ กินความหมายกว้างมาก อาจเล็กน้อยเพียงมึนๆ งงๆ หนักศีรษะ ตัวเบา ลอย คล้ายจะล้ม ไปจนถึงอาการรุนแรงจริงๆ จะเกิดมีความรู้สึก 2 อย่าง อย่างแรกตัวเราอยู่นิ่ง แต่สิ่งแวดล้อมรอบตัวเคลื่อนที่ หมุน หรืออีกแบบหนึ่ง ตัวเราเองรู้สึกว่ากำลังหมุน เคลื่อนที่ ในขณะที่สิ่งแวดล้อมรอบตัวอยู่นิ่ง ทั้งสองแบบจะมึนหัวเวียนหัวหรือบ้านหมุนด้วยกันทั้งคู่

    อวัยวะที่เกี่ยวข้อง อวัยวะที่จะทำให้เกิดการเวียนหัวคือ เรื่องของหู ตา และ ระบบ ประสาท จะส่งคลื่นมายังสมองเป็นศูนย์กลางการควบคุม ทั้ง 3 อย่างต้องทำงานด้วยกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันด้วย เช่น เวลาเรานั่งรถที่กำลังวิ่งแล้วอ่านหนังสือ คนที่หู ตา ประสาท มั่นคงจะไม่เป็นอะไร ผู้ที่อ่อนไหว ตาไม่ค่อยดี อ่านหนังสือขณะรถเคลื่อนที่ เขย่าอาจเวียนหัวได้ วิธีแก้คือหยุดอ่าน มองไกลเสีย ให้เคลื่อนไหวไปในทางเดียวกัน เวียนหัวจะหาย

    ความหมายเวียนศีรษะ Virtigo จะหมายถึงเวียนหัวแบบมีการเคลื่อนไหว Dizziness เวียนหัวทั่วๆ ไป Light headedness เบาโหวงๆ, Unsteadyness ทรงตัวไม่ได้, Loss Balance ไม่สมดุล

    นพ.วิรัช ทุ่งวชิรกุล แพทย์ทางโสต ศอ นาสิก หัวหน้างานโสตประสาท รพ.ราชวิถี หัวหน้าคือ นพ.เกียรติยศ โคมิน ผู้สนใจและมีประสบการณ์ทางด้านเวียนหัวมาก ไปศึกษาต่างประเทศเรื่องเวียนหัวมาเล่าให้ฟังว่า เวลาคนไข้ไปหาหมอ มีอาการเวียนหัวแล้วเล่าอาการต่างๆ ให้คุณหมอฟัง มักได้คำตอบจากคนไข้ว่า หมอเขาบอกว่าคงเกิดจากน้ำในหูไม่เท่ากัน คุณหมอวิรัชบอกว่า เวียนหัวจากน้ำในหูไม่เท่ากันนั้นเป็นไปได้ แต่จากประสบการณ์พบน้อยมากอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ อีกได้

    โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere’s Disease) ซักประวัติดูจะมีอาการหูอื้อ การได้ยินลดลง เวียนหัวหมุนเกิน 20 นาที แต่ไม่เกิน 2 ชม. มีลมออกหู ต้องเป็นข้างเดียวกับการสูญเสียการได้ยิน และข้างเดียวกับการทรงตัวด้วย สาเหตุที่น้ำไม่เท่ากันเพราะการดูดซึมกลับไม่เท่ากัน ยังลึกลับ พิสูจน์ไม่ได้ วิจัยกันมานานแล้วยังไม่สำเร็จว่ามาจากเหตุใด ใครที่เป็นแล้วครั้งเดียวหายจะไม่ใช่โรคนี้ โรคนี้ต้องเป็น 2 ครั้งขึ้นไป แล้วเป็นๆ หายๆ โอกาสที่จะเป็นโรคนี้จึงน้อยมาก พบเพียง 10%[/COLOR]

    สาเหตุจากอื่นๆ จากสมองราว 5% จากยาต่างๆ เช่น ยาฆ่าเชื้อ และที่พบบ่อยคือ โรคความดันโลหิตสูง พอสบายใจขึ้นความดันลดลง ความดันลงมากไปก็เกิดอาการเวียนหัวได้[/COLOR] ต้องฝึกวัดความดันไว้ ตรวจดูหรือปรึกษาแพทย์แล้วอาการเวียนหัวจะหายไป หินปูนหลุด ปกติหินปูนจะเกาะอยู่อวัยวะรับเสียงของหูด้านใน พออายุมากขึ้นหรือถูกกระทบกระเทือน จะหลุดเป็นชิ้นเล็กๆ ออกมาตกลงไปในท่อของรูหู ซึ่งมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ โรคนี้มักเป็นตอนตื่นนอน ลุกขึ้นเวียนหัวทันที แก้โดยให้นอนหัวสูงไว้ อยู่นิ่งๆ ไม่ก้มหัว ท่านี้เศษหินปูนจะกลับเข้าที่เดิม ด้านจิตใจ พบมากถึง 15% จึงต้องมองทางสุขภาพจิตเพิ่มอีก

    ในภาพรวม โรคเวียนหัวบ้านหมุนจะเกี่ยวกับหูเพียง 50% เกี่ยวกับเรื่องนอกหูอีกครึ่งหนึ่ง จึงควรนึกถึงเรื่องนอกหูไว้ด้วย

    การค้นหาสาเหตุ ผู้ที่เป็นซ้ำๆ เรื้อรังทรมานมาก ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ อย่าไปมุ่งฝังใจแต่เรื่องน้ำในหูไม่เท่ากัน เรื่องนอกหูยังมีอีก 50% เรื่องน้ำในหูไม่เท่ากันจะมีอาการนำให้รู้ก่อน เช่น หูอื้อ การได้ยินลดลง ลมออกหู ฯลฯ แก้ไขได้โดยลดอาหารพวกของเค็มจัด บุหรี่ กาแฟ ผงชูรส จะช่วยให้ทุเลาลงได้

    ไมเกรน พบบ่อยจะปวดหัวตุบๆ และเวียนหัว เกิดจากเส้นเลือดหดตัว เวลากินยาขยายหลอดเลือดอาจจะหายชั่วคราว แต่ถ้านอน ให้เต็มอิ่มอย่างน้อย 8 ชั่วโมง จะทุเลามากทีเดียว

    โมชั่น ซิกเนส อาการเมารถ เมาเรือ อดนอน ทำให้เวียนหัวได้ บางรายยังเพิ่มคลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก หน้าซีดด้วย ผมเคยเดินทางไปแม่ฮ่องสอนทางรถยนต์ เลี้ยวไปเลี้ยวมาหลายโค้งมากมาย คนในรถเวียนหัวฟุบไปตามๆ กัน นั่งเรือ กลางทะเลคลื่นแรงๆ ก็เช่นกัน พอเหตุการณ์ผ่านไปร่างกายจะปรับตัวได้ หายไปเอง ใครที่รู้ตัวรู้ว่าจะเมาเรือเมารถ กินยาไว้ล่วงหน้าก่อนก็ทำให้ทุเลาลง ไปเที่ยวได้สนุกสมใจ

    เวียนหัวบ้านหมุนเป็นอาการอย่างหนึ่งเป็นซ้ำๆ เรื้อรังจะทรมานมาก จึงควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุดู ขอขอบคุณเอกสารความรู้เรื่องเวียนหัวของ พญ.กิ่งกาญจน์ เติมสิริ ด้วย


    ที่มาข้อมูล: บ้านหมุน เวียนหัว โรคเรื้อรัง ต้องหาสาเหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  4. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    เยี่ยมมากครับ ท่าน champ11110 ความรู้จะเพิ่มพูนมากน้อยอยู่ที่ความสนใจ ใฝ่หา อย่าลืมนำเรื่องดีๆมาแชร์ ให้กับทุกท่านได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันด้วยนะครับ

    [​IMG]

    โปรแกรม solar system จะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  5. ราชบดินธร

    ราชบดินธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +564
    เริ่มได้กลิ่น ดราม่าแล้ว เพื่อนๆพี่คิดว่าถ้า 21 ธค 2555 ไม่เกิดอะไรสำนักต่างๆจะแถอย่างไร ผมว่าต้องมีแนวนี้ว่าประเทศไทยมี คนทำดีมาก สภาเทวะจึงมีมติชนะฝ่ายมาร ปัดภัยพิบัติไปเกิดที่อื่นแทน แล้วก็กด google หาข้อมูลแผ่นดินไหว ซึ่ีงมันเกิดทุกวันอยู่แล้ว หรือภัยทางธรรมชาติ เอามาลง เห็นมะเค้ามะได้โกหกนะ เกิดจริงๆ สาวกมาชาบูชาบู องค์เทพเรามีนิมิตรแม่นมากกก ตบท้ายแอบใบ้หวยนิดๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  6. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    คงไม่ใช่เพราะไปปรามาสใครเค้าไว้นะครับท่าน ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คืนก่อนเห็นท่าไม่ดี ต้องกินพาราเซท 2 เม็ดก่อนนอนเลย กันไว้ดีกว่าแก้ :cool:

    วิธีแก้เคล็ด : พกยาแก้แพ้ใส่กระเป๋าเสื้อไว้ เป็นการสร้างเสริมกำลังใจได้นะท่าน ( ถ้าไม่เชื่อก็จ่ายสดไปเลย อีกหน่อยเงินอาจไม่มีความหมาย )

    ;39

    .
     
  7. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    ครับผม สำหรับผมวันเสาร์อาทิตย์คือวันของครอบครัวภรรยาและลูกครับเขาคือเจ้านายส่วนผมเป็นคนรับใช้
    วันจันทร์ ถึง ศุกร์ เป็นวันแห่งการทำงาน(ทำมาหากิน)ตั้งแต่เวลา08.00-17.00 ส่วนตอนเช้าและเย็นของทุกวันเป็นพ่อครัวมีภรรยากับลูกรอรับประทานอย่างเดียว อีกหน้าที่ของเวลาเช้าเย็นคือโทรหาแม่ที่อยู่ต่างจังหวัดครับ สำหรับวันหยุดพิเศษ หากหยุด1-2 วันก็เป็นวันครอบครัวอีกนั่นล่ะแต่หากหยุดหลายวันก็เป็นวันของครอบครัวใหญ่พาหลานไปพบย่าหรือไม่ก็ยาย

    บางท่านอาจสงสัยว่าถ้าอย่างนั้นวันไหนล่ะเป็นวันของผมแล้วมีอะไรที่ผมทำเพื่อตัวผมเองบ้าง

    อิอิอิ ก็ทุกวันทุกเวลานี่ล่ะครับคือวันของผมอย่างชอบธรรม ส่วนที่ดูเหมือนมีแต่ทำอะไรเพื่อคนอื่นนั้นแท้ที่จริงผมทำเพื่อตัวผมเองครับ ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจทำเพื่อตัวเองเป็นหลัก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ที่ผมทำแล้วผมสบายใจและไม่ทำให้ใครเดือดร้อนจากการกระทำของผม ผมก็จะทำเป็นประจำและถือเป็นกิจวัตรครับ
     
  8. มณีจำปา

    มณีจำปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,423
    ค่าพลัง:
    +9,369
    เยี่ยมเลยค่ะ ทำหน้าที่ครบถ้วน พ่อที่ดี สามีที่ดี และลูกที่ดี 555 คุณ Sestulee รอดพ้นจากภัยพิบัติในครอบครัวอย่างแน่นอนค่ะ :cool:
     
  9. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    วันนี้วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2555 ขึ้น 4 ค่ำเดือนอ้าย(1)ปีมะโรง เป็นวันเริ่มต้นของอะไรหลายอย่าง
    - วันเริ่มทำงานวันแรกของสัปดาห์ใหม่
    - วันแรกหลังโดนหวยรับประทาน
    - วันจันทร์ที่ 17 วันแรกหลังวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2555
    - วันจันทร์วันแรกของหลานสาวที่ไม่ไปโรงเรียนเพราะครูไปประชุม
    ฯลฯ

    แต่ไม่ใช่วันแรกของการเริ่มต้นแห่งภัยภิบัติ เชื่อผมซิ ผมรู้ผมเห็นเพราะตอนนี้มนุษย์ต่างดาวฝ่ายดีต่อสู้จนชนะฝ่ายร้ายแล้ว และทางเทวะสภากำลังส่งจดหมายเชิญให้มาช่วยปราบฝ่ายมารที่จ้องล้างโลกต่อ ผลการติดต่อสื่อสารและประชุมเป็นอย่างไรผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
     
  10. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    ใจจริงไม่อยากให้เกิดอยู่แล้วอย่างที่ท่านว่าครับ อิอิอิแบบว่าผมสับสนตอนอ่านสัญญาณฟ้าน่ะครับ ลืมสังเกตุจุดไหวให้ดีเห็นแค่ไหวและดูเวลาของตัวเองเลยเป็นเช่นนี้แล 5555 คือแบบว่าเวลามันคนล่ะโซนกันน่ะครับ
     
  11. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    เอามาใส่ไว้เพื่อศึกษาครับ
     
  12. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    จริงหรือที่จะเกิดหายนะครั้งใหญ่ในปี 2556

    ตามที่มีผู้สอบถามมาที่ข้าพเจ้าจำนวนมากว่า จริงหรือในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน – จะเกิดหายนะครั้งใหญ่บนโลกใบนี้ นั้น

    ข้าพเจ้าขออนุญาตเรียนให้ทราบอีกครั้งว่า ข้าพเจ้าได้ทราบมาจากพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานที่สำคัญในยุคปัจจุบันท่านหนึ่ง ในสายสมาธิหมุน (หมุนพระธรรมจักร) ท่านศึกษารายละเอียดเชิงลึกจากสาส์นของชาวมายัน และจารึกโบราณจากสโตนเฮ้นจ์ ที่ประเทศอังกฤษ (มิใช่ข้อมูลในพระพุทธศาสนา) และ ท่านทำกรรมฐานเชิงลึกขั้นถอดจิตออกจากกายได้ หรือ ถอดกายละเอียดออกจากกายหยาบได้ โดยไปรับรู้เรื่องของอดีต และ ไปรับทราบเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยท่านให้ลูกศิษย์ที่มีคุณวิเศษทำการตรวจสอบ เป็นข้อมูลคู่ขนาน คือ พระชัยวัฒน์ พนมยงค์ หลาน ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ และ ดร.สรัญฯ อาจารย์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ได้ข้อมูลตรงกันว่า

    “ในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะใดๆทุกชนิดในโลก ไม่ว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานถีบด้วยเท้า ไม่มีเรือบิน หรือ การเดินทางในทางน้ำ ระบบการสื่อสารคมนาคมจะล่มในทุกระบบ และ ผู้คนทั้งหลายจะไม่สามารถเดินทางไปเรียน ไปอบรม ไปทำงานในสถานที่ต่างๆได้ แม้จะเป็น Home office ก็ลุกจากที่นอนมาทำงานไม่ได้ หมายความว่า ในช่วงเวลา 42 วันดังกล่าว จะไม่มีการประกอบอาชีพใดๆบนโลกใบนี้ เป็นช่วงที่ไม่มีโจรขโมย เพราะ ทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่สามารถยืนทรงตัวได้ และ ไม่สามารถเดินได้ด้วยสองขาของตนในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจาก จะถูกพลังงานอันมหาศาลกดทับร่างของทุกชีวิตบนโลก ไม่ให้ทรงตัวยืนได้ ต้องล้มลงนอนทุกคน จะกินอาหาร จะดื่มน้ำ ก็จะต้องนอนกินนอนดื่ม รวมทั้งนอนขับถ่ายด้วย”

    เรื่องดังกล่าว ท่านพระอาจารย์รัตน์ฯ ท่านกล่าวอย่างขึงขังจริงจังในการสอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ศิษย์รุ่นสุดท้าย เมื่อวันที่ 8-9 ธันวาคม 2555 ซึ่งข้าพเจ้าก็เป็น 1 ใน 150 คนของศิษย์รุ่นสุดท้ายของพระอาจารย์รัตน์ฯ ในยุคของพลังงานเก่า ยุคที่กระแสแม่เหล็กขั้วลบ ของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก และ กระแสไฟฟ้าลบ จากกาแล็คซี่อัลโดรมีด้า มีอิทธิพลสูงบนสรรพสิ่งในโลกมนุษย์ โดยข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังมากับหูของตนเอง อีกทั้งท่านให้ผู้มีพลังฌานสำนักใดก็ตาม จะร่วมทำการพิสูจน์ทราบด้วยก็ได้ ศิษย์กรรมฐานทุกรุ่นของท่านจะร่วมการพิสูจน์ก็ได้ โดยบรรดาศิษย์กรรมฐานของท่านนั้น พระอาจารย์รัตน์ฯ ให้ใช้พีระมิดแปดเหลี่ยมชนิดหลอด (พีระมิดแปดเหลี่ยมสี่ก้อนหันปลายแหลม ชนกันสองคู่) โดยให้จิตไปหมุนพีระมิดรอบละ 1 วันเป็นอุปกรณ์ช่วยในการตรวจสอบว่า จะมีเหตุการณ์ณ์อะไรเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
    บรรดาศิษย์กรรมฐานของท่าน ที่ยังไม่มีพลังแก่กล้ามากนัก ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ได้ข้อมูลที่คล้ายกัน และ แตกต่างจากพระอาจารย์รัตน์ฯ ก็มีประปราย
    ฐานข้อมูลที่เป็นองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ฯ นั้น มี 2 ช่วงเวลา ที่ท่านให้สังเกตความผิดปกติ คือ ในวันที่ 17 ธันวาคม 2555 และวันที่ 25 ธันวาคม 2555
    แต่ข้อมูลจากศิษย์กรรมฐานบางท่าน และ ครูบาอาจารย์สายอื่น พบว่า ขณะนี้ บรรดาครูบาอาจารย์ และ บรรดาเทพเทวาฝ่ายดี หรือ ฝ่ายสัมมาทิฏฐิ หรือ ฝ่ายขาวนั้น ตั้งขบวนทัพได้รวม 8 ทัพใหญ่แล้ว โดยได้พยายามผนึกกำลัง เพื่อให้เลื่อนเวลาของการเกิดของหายนะใหญ่ในครั้งนี้ออกไป โดยได้พยายามบรรเทาความหายนะดังกล่าวอย่างเร่งรีบ
    ในขณะที่ฝ่ายมาร หรือ เทพเทวาฝ่ายมิจฉาทิฏฐิ หรือ เทวดาที่มีใจหยาบช้า หรือ ฝ่ายซาตาน หรือ ฝ่ายมาร ได้จัดกำลังเพียง 5 ทัพเท่านั้น แต่ ฝ่ายมาร หรือ เทพเทวาฝ่ายมิจฉาทิฏฐินั้น เป็นการนำโดยท่านท้าววสวัตตีมาร ซึ่งเป็นผู้ปกครองสวรรค์ชั้นสูงสุด คือ สวรรค์ชั้นที่ 6 (สวรรค์นั้น ในพระไตรปิฎกท่านกล่าวไว้ว่า มีทั้งหมด 6 ชั้น คือ
    สวรรค์ชั้นแรก คือ จาตุมหาราชิกา
    สวรรค์ชั้นที่สอง คือ ดาวดึงส์
    สวรรค์ชั้นที่สาม คือ ยามา
    สวรรค์ชั้นที่สี่ คือ ดุสิต
    สวรรค์ชั้นที่ห้า คือ นิมมารดี
    สวรรค์ชั้นสูงสุด คือ ปรนิมมิตวสวัตตี
    จำนวนทัพของพญามาร แม้มีเพียง 5 ทัพ แต่ฤทธิ์อำนาจนั้น มีมากกว่าบรรดาครูบาอาจารย์ และ บรรดาเทพเทวาฝ่ายดี หรือ ฝ่ายสัมมาทิฏฐิ แม้มีมากถึง 8 ทัพก็ตาม แต่ฤทธิ์อำนาจมีค่อนข้างน้อย ดังนั้น ท่านพระอาจารย์รัตน์ฯ จึงค่อนข้างมั่นใจว่า หายนะครั้งใหญ่นี้ จะไม่มีการเลื่อนออกไปอีกแล้ว
    สำหรับลูกศิษย์ของท่านบางราย และ ครูบาอาจารย์สายอื่น นั้น ได้ตรวจพบกระแสพลังงานว่า กระแสพลังงานในโลก ยังแปรปรวนอยู่ ซึ่งในวันที่ 17 ธันวาคม และวันที่ 25 ธันวาคม 2555 อาจยังไม่ปรากฏสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นตามที่พระอาจารย์รัตน์ฯตรวจพบในนิมิตก็ได้ นั่นคือ อาจมีการเลื่อนเวลาการเกิดหายนะออกไปได้อีกระยะหนึ่ง จากการดำเนินการด้วยเมตตาของ 8 กองทัพเทพเทวาฝ่ายดี แต่ สภาวะการเฝ้าระวัง นั้น ครูบาอาจารย์ท่านให้ใช้หลัก ของ 8 – 8 – 8 เป็นสิ่งบอกเหตุเช่นเดียวกัน
    8 สิ่งบอกเหตุดังต่อไปนี้ ไม่ต้องเกิดครบ หากเกิดเพียง 4 ใน 8 ประการ ท่านต้องเริ่มเตรียมเสบียงอาหารโดยเร็ว และ เตรียมการอพยพ เหตุ 8 ประการ ที่จะปรากฏ คือ

    1. การยืน หรือ เดินของตัวเรา ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ลูกหลาน หากเริ่มปรากฏอาการโครงเครงตอนลุกขึ้นยืน หรือ ในเวลาเดิน จะมีอาการสะดุดคล้ายตกหลุมอากาศ ในพื้นที่ราบเรียบธรรมดา หรือ มีการเดินไม่ตรงทางตามปกติ เดินเอนเอียงคล้ายคนเมา หรือ มีอาการอ่อนเพลียง่าย และ/หรือ

    2. มีแผ่นดินไหวในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    3. มีภูเขาไฟระเบิดในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    4. มีแผ่นดินยุบตัวลงในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    5. ระบบนำร่องของเรือเดินทะเลมีปัญหา เกิดอุบัติเหตุทางเรือในสถานที่ต่างๆ และ/หรือ ระบบนำร่องของเครื่องบินมีปัญหา ทำให้เกิดเครื่องบินตก เครื่องบินชนกัน ในสถานที่ต่างๆ และ/หรือ

    6. มีไฟฟ้าดับในสถานที่ต่างๆ ในประเทศต่างๆ เป็นครั้งคราว เป็นวัน หรือ หลายวัน (เช่น ที่เกาะสมุย ไฟฟ้าดับไป 3 วัน 3 คืนทั้งเกาะ เมื่อสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา เป็นต้น)

    7. ระบบสื่อสารคมนาคมมีปัญหา ไม่ว่าทีวี โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ท ไอแผ็ด ไอโฟน จะมีการขัดข้องของระบบการสื่อสารโทรคมนาคมบ่อย สายหลุดบ่อยกว่าที่เคยปรากฏ เชื่อมอินเทอร์เน็ทไม่ค่อยได้ โดยปรากฏในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

    8. ระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมทั่วโลกมีปัญหา มีข่าวดาวเทียมตก

    เมื่อใดก็ตาม มีเหตุเกิดถึง 4 ประการจาก 8 ประการแรกแล้ว ท่านต้อง เฝ้าสังเกตไปอีก 8 วัน ถ้า มีแรงดันที่ท้องของแต่ละคนมากขึ้น จนรู้สึกอยากโค้งตัวลง หรือ งอตัวลง จึงจะรู้สึกสบาย คือ เกิดสภาวะการยืดตัวตรงลำบาก เพราะพลังงานกดทับมีมาก นั่นคือ ในช่วงที่เรานั่งอยู่ หรือ ยืนอยู่ก็ตาม เผลอตัวหน่อยเดียว เราเองก็นั่งงอ หรือ งุ้มตัวไปแล้ว นั่นคือเมื่อไรก็ตาม เรารู้สึกอยากงอตัวลง หรือ งอตัวลงอย่างไม่รู้สึกตัว มองไปที่คนอื่นๆ ก็ทำท่างอตัวคล้ายๆกับเรา เหมือนๆกับตัวเราที่งอตัว โดยเราสามารถจะเห็นได้จากคนอื่นๆ และ ตัวของเราเองด้วย อีกทั้ง เริ่มมีการหายใจติดขัด หายใจไม่คล่องจมูกมากขึ้น

    ท่านใด หรือ ญาติพี่น้อง ลูกหลานผู้ใด ที่อยู่ต่างระเทศ จะอยู่ที่ญี่ปุ่น ยุโรป หรือ สหรัฐอเมริกาก็ตาม ขอให้รีบหาเครื่องบิน เพื่อเดินทางกลับมาเมืองไทยโดยเร็ว หากเดินทางได้ในวันที่นั่งงอตัว หรือ เดินงอตัวในวันแรกได้ ย่อมปลอดภัยมากที่สุด ค่าเครื่องบินจะสูงกว่าปกติ 10 เท่าตัวก็ควรจ่าย เพราะถ้าลังเล โอกาสการมีชีวิตอยู่รอด เพื่อเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่นั้น จะมีน้อยมากๆ ในการอยู่อาศัยในประเทศอื่นๆ หากหาตั๋วเครื่องบินไม่ได้ในวันแรก ท่านจะมีเวลาไม่เกิน 8 วันสุดท้าย ที่จะต้องหาตั๋วเครื่องบินให้ได้ ก่อนที่ทุกคนบนโลกใบนี้ จะหยุดการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด และ ต้องนอนกับพื้นถึง 42 วัน โอกาสรอดชีวิตในต่างประเทศนั้นมีน้อยมากๆ ขอให้ทุกท่านกลับมาเมืองไทย มาอยู่ในสถานที่ที่แวดล้อมไปด้วยญาติพี่น้อง ในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณ ย่อมมีความปลอดภัยมากกว่าอย่างแน่นอน


    รวมทั้ง ท่านทั้งหลายที่อยู่ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก ขอให้ท่านรีบเดินทางไปหาที่พักในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณโดยเร็ว น่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ท่านอยู่อาศัยในปัจจุบันโดยเร็ว (ชายทะเลใหม่อาจไปอยู่ที่สระบุรี ลพบุรี และ นครสวรรค์ สำหรับพื้นที่ภาคกลาง จะมีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่าปี 2554) โดยท่านมีเวลาเหลือเพียง 8 วันสุดท้ายที่จะอพยพออกจากที่อยู่อาศัย และ ที่ทำงาน ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก

    นั่นคือ จะมีการเปลี่ยนสัณฐานของโลกครั้งใหญ่ พื้นดินในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตกนั้น อาจยุบจมหายไปได้

    ความรุนแรงมากที่สุด น่าจะเกิดขึ้น เป็นเวลารวม 42 วัน โดยครูบาอาจารย์สายอื่นท่านว่า 8 ทัพเทพเทวา สายมิจฉาทิฏฐิ อาจเลื่อนหายนะออกจากวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 ได้สำเร็จก็ได้ แต่ ถ้าเลื่อนไปแล้ว ต่อไปจะเกิดเมื่อไรนั้น ครูบาอาจารย์สายอื่นท่านว่า ให้สังเกตสัญญาณ 8 – 8 – 8 ดังกล่าว เมื่อมีเหตุปัจจัยดังกล่าว ย่อมมีหายนะในช่วง 42 วันต่อไป ขอย้ำว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว จะไม่มีการเรียน ไม่มีการอบรม ไม่มีการทำงาน และ ไม่มีการประกอบอาชีพใดๆ รวมทั้ง จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด หากอยู่ระหว่างการเดินทาง ต้องหยุดการเดินทางทั้งหมดก่อน เพราะพลังงานของกระแสแม่เหล็กโลก และ พลังงานกระแสไฟฟ้าลบ เข้ามาในโลกอย่างรุนแรงหนาแน่น จนไม่เหลือช่องว่าง และ ทุกคนย่อมไม่สามารถทรงตัวยืน เดิน ตามปกติได้ และ ถ้าจะเคลื่อนไหว ต้องเคลื่อนไหวโดยการคลานสี่เท้า รวมทั้งต้องนอนตะแคงใบหน้ากินอาหาร และ กรอกน้ำใส่ปากในช่วง 42 วันอันตรายดังกล่าวนี้ก็อาจเป็นได้

    ขออนุญาตเรียนให้ทราบอีกครั้งว่า ก่อนหน้าวิกฤติช่วง 42 วันนี้ ท่านต้องรีบเตรียมสำรองอาหาร ที่รับประทานได้ง่ายที่สุด หากเป็นแคปซูลได้ยิ่งดี อาหารที่ไม่ต้องเสียเวลาปรุง ไม่ต้องสนใจในรสชาติ ขอให้ท้องอิ่ม เพื่อให้รักษากายหยาบ ให้มีลมหายใจอยู่ให้รอดในช่วง 42 วันที่ยืนเดินไม่ได้ ท่านต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มบนพื้นห้องนอนด้วย

    ขอให้ท่าน และ ครอบครัวของท่าน มีสติในทุกสถานการณ์ มีความปลอดภัย รอดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากในช่วง 42 วันดังกล่าว เพื่อจะได้มีชีวิตในยุคพลังงานใหม่ที่ดี ที่กาแลคซี่ไตรแองกูลัม ซึ่งจะมีพลังมโนธาตุ และ พลังปราณที่ดี ผู้คนจะมีจิตใจที่ดีงาม มีศีลธรรมสูง และ ขั้วโลกจะได้เปลี่ยนเป็นขั้วโลกตะวันออก แทนขั้วโลกเหนือ มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีท่านว่า จะมีอุณหภูมิ 17-24 องศาเซลเชียสในประเทศไทย

    ด้วยความปรารถนาดี จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ
    อดีต Senior Vice President บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าของเว็บไซต์ mongkoldham.com และ ที่ปรึกษาสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ
    ผู้รวบรวม และเรียบเรียงอย่างเร่งรีบ เพื่อการแจ้งภัยให้ทราบอย่างเร่งด่วน

    .................................
    เพื่อไว้ติดตามศึกษา
     
  13. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เจ้าอาวาสวัดดอยเกิ้ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐานที่สำคัญในยุคปัจจุบันท่านหนึ่ง ในสายสมาธิหมุน (หมุนพระธรรมจักร) ท่านศึกษารายละเอียดเชิงลึกจากสาส์นของชาวมายัน และจารึกโบราณจากสโตนเฮ้นจ์ ที่ประเทศอังกฤษ และ ทำกรรมฐานเชิงลึกขั้นถอดจิตออกจากกายได้ โดยให้ลูกศิษย์ทำการตรวจสอบ เป็นข้อมูลคู่ขนาน คือ พระชัยวัฒน์ พนมยงค์ หลานฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ และ ดร.สรัญฯ อาจารย์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ได้ข้อมูลตรงกัน

    เนื่องจากข้าพเจ้า นายมงคล กริชติทายาวุธ ซึ่งได้เข้ารับการอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เป็นครั้งแรกจากพระอาจารย์รัตน์ฯ และ พระอาจารย์รัตน์ฯ แจ้งว่า การอบรมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในครั้งนี้ จะเป็นการจัดอบรมเป็นครั้งสุดท้ายของปี 2555 ในระหว่างวันที่ 8-9 ธันวาคม 2555 ณ ห้องกาหลา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยได้แจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ท่านจะกลับขึ้นเขาไปที่แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อทำกิจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่อไป ใครจะนินทาให้ร้ายอย่างไร จะเชื่อหรือไม่เชื่อในเรื่องที่ท่านนำมาเตือนภัยนี้ ก็สุดแต่จะพิจารณากันเอาเอง

    ขออนุญาตเรียนย้ำว่า ท่านพระอาจารย์รัตน์ฯ ได้องค์ความรู้ฯ จากการศึกษาค้นคว้าในศาสตร์โบราณ และ จารึกโบราณ ว่าด้วยการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ และ เสริมด้วยองค์ความรู้ฯ ที่ได้มาจากการศึกษาทาง “จิต” ที่สงบนิ่งได้องค์ฌาน เป็นญาณทัศนะ ถอดจิตออกจากกายไปรับรู้เรื่องราวในอดีต และ ทราบเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้พระอาจารย์รัตน์ฯ รู้ถึงเหตุและผล ของแต่ละปรากฏการณ์ ในความเชื่อมโยงของแต่ละเหตุการณ์ ได้ด้วยการใช้ แรงสืบต่อ หรือ แรงสันตติ สาวหาเหตุและผล ของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ สลาย ของสรรพสัตว์ ปรากฏการณ์ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ และจักรวาล ฯลฯ

    ทำให้ได้เห็นความจริงที่ผูกโยงเป็นเงื่อนไขว่า เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนั้นย่อมมี เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงเกิด เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนั้นย่อมไม่มี เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนั้นจึงดับไป ซึ่งเป็นความรู้ที่ไม่ได้เกิดมาจากการทำงานของสมองและใจ ตามปกติที่สามัญชนกระทำกัน จึง
    ไม่ใช่การพยากรณ์ มิใช่การทำนาย แต่เป็นการบอกแจ้งให้ทราบว่า หรือ เพียงแจ้งให้ท่านทราบว่า ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นแล้ว อะไรจะเกิดตามมาในลำดับต่อไป

    ตามเงื่อนไขที่ผูกโยงไว้อย่างเป็นเหตุและผลต่อกัน ส่วนท่านใดจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้น หาใช่สิ่งสำคัญไม่ เพียงแต่ว่า หากมีปัจจัยนี้เกิดขึ้นแล้ว พระอาจารย์รัตน์ฯท่านจึงออกมาเตือนให้ทราบว่า จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นต่อไป เพื่อให้การช่วยเหลือมนุษยชาติให้ได้มากที่สุด

    ในส่วนของการได้เรียนรู้ เกี่ยวกับการทำวิปัสสนา การตรวจหาสิ่งที่มีชีวิต สิ่งที่ไร้ชีวิต และ การรักษาโรคนั้น ขออนุญาตไม่กล่าวถึงในวันนี้ แต่ขอกล่าวถึงในส่วนที่ท่านพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้มาเตือนเรื่องภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ โดยสรุปดังนี้

    “ในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะใดๆทุกชนิดในโลก ไม่ว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานถีบด้วยเท้า ไม่มีเรือบิน หรือ การเดินทางในทางน้ำ ระบบการสื่อสารคมนาคมล่มในทุกระบบ และ ผู้คนทั้งหลายจะไม่สามารถเดินทางไปทำงานในสถานที่ต่างๆได้ แม้จะเป็น Home office ก็ลุกจากที่นอนมาทำงานไม่ได้ หมายความว่า ในช่วงเวลา 42 วันดังกล่าว จะไม่มีการประกอบอาชีพใดๆบนโลกใบนี้ เป็นช่วงที่ไม่มีโจรขโมย เพราะ ทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่สามารถยืนทรงตัวได้ และ ไม่สามารถเดินได้ด้วยสองขาของตนในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากถูกพลังงานอันมหาศาลกดทับร่างของทุกคนบนโลก ไม่ให้ทรงตัวยืนได้ ต้องล้มลงนอนทุกคน จะกินอาหาร จะดื่มน้ำ ก็จะต้องนอนกินนอนดื่ม รวมทั้งนอนขับถ่ายด้วย”
    ทั้งนี้ ท่านแจ้งว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่นั่นเอง

    เพราะทุกๆรอบ 13,000 ปี สุริยจักรวาล กาแลคซี่ทางช้างเผือก และ กาแลคซี่ไตรแองกุลัม จะโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ซึ่งจะมีผลให้ โลก และสุริยจักรวาล จะเปลี่ยนเข้าสู่แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ทางทิศตะวันออก

    เดิมนั้น พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ได้เปิดสอนหลักวิปัสสนากรรมฐาน โดยการเคลื่อนที่ของจิต ด้วยอุบายหลัก 2 วิธี คือ การเจริญสติ เพื่อฝึกจิตให้เห็น การเกิด – ดับ ของการกระทบที่เกิดขึ้น เป็นปัจจุบันขณะ และ

    อุบายของการหมุนธรรมจักร เพื่อฝึกจิตไม่ให้ติดในการกระทบที่เกิดขึ้นทั้งสองส่วน คือ ที่อายตนะภายนอก และ อายตนะภายใน อีกทั้งยังได้ประยุกต์ หลักการเคลื่อนที่ของจิต มาเป็นการเคลื่อนที่ของพลังจิต ของพลังงาน โดยใช้ศาสตร์พีระมิด ของชาวแอตแลนตีส เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้าง ฟื้นฟู บำบัด รักษาร่างกายด้วยตนเองให้แก่ผู้สนใจมานาน


    พระอาจารย์ฯ ท่านว่า เรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกของเราในเร็วๆนี้นั้น แท้ที่จริงแล้ว กล่าวได้ว่า เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และ ไม่เลื่อนเวลาอีกแล้ว

    เพราะโลกของเราเคยเปลี่ยนแปลงเช่นนี้มาแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น ตามความรู้ที่ได้จาก สโตนเฮนจ์ (Stone Henge) ซึ่งบ่งชี้ว่า ทุกๆ 13,000 ปี จะมีการสลับเปลี่ยนขั้วของแรงดึงดูด ที่มีอิทธิพลต่อโลก สุริยจักรวาล เนื่องจากกาแลคซี่ ที่มีอิทธิพลต่อสุริยจักรวาลมีด้วยกันถึง 3 กาแลคซี่ ได้แก่

    1. กาแลคซี่ทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy) มีศูนย์กลางของแรงดึงดูดอยู่ทางทิศเหนือในปัจจุบัน โลก สุริยจักรวาล ตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่นี้

    2. กาแลคซี่ไตรแองกุลัม (Triangulum Galaxy) มี ศูนย์กลางของแรงดึงดูดอยู่ทางทิศตะวันออก มีขนาดเล็กกว่ากาแลคซี่ทางช้างเผือก ในอนาคตโลก สุริยจักรวาล จะถูกดึงเข้าสู่แรงดึงดูดของกาแลคซี่นี้ ตามวาระการวนครบรอบอีกครั้ง

    3. กาแลคซี่อันโดรเมดา (Andromeda Galaxy) เป็นกาแลคซี่ที่มีขนาดใหญ่มาก แผ่อิทธิพลควบคุมทั้ง 2 กาแลคซี่ ไม่ส่งผลกับโลกโดยตรง

    ดังนั้น จึงพอสรุปได้ว่า ใน 1 รอบใหญ่ คือประมาณ 26,000 ปี ตามปฏิทินดาราศาสตร์ที่สโตนเฮนจ์ โลก สุริยจักรวาล จะตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้าง เผือก 13,000 ปี และสลับไปอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม อีก 13,000 ปี

    การประสบกับภัยพิบัติอย่างรุนแรง ถึงกับมีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของพื้นผิวโลก นั่นคือ จะมีการเปลี่ยนพื้นที่ตั้งของภูเขา ไปเป็นมหาสมุทร จากป่าฝนไปเป็นทะเลทราย จากเขตร้อนกลายเป็นเขตหนาว ฯลฯ นอกเหนือจากเป็นการทำงานตามวาระของธรรมชาติแล้ว ยังมีองค์ประกอบที่ส่งผลร่วมอย่างร้ายแรง คือ การกระทำของมนุษย์ในแต่ละยุคสมัยด้วย

    เมื่อประมาณ 26,000 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงวาระที่โลก สุริยจักรวาล อยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม ที่สมบูรณ์ไปด้วยพลังงานที่ดี เช่น กระแสลมปราณ และ มโนธาตุ ส่งผลให้มหาอาณาจักรแอตแลนตีส เจริญสูงสุดในทุกด้าน

    แต่จุดเสื่อมย่อมเพาะเชื้อก่อกำเนิดมาจากจุดสูงสุดเสมอ เมื่อคนเรามีความรู้มาก เก่งมาก จึงนำไปสู่การผลิตอาวุธสงครามที่ร้ายแรง เรียกว่า “อาวุธเส้นแสง”

    เมื่อ อาวุธเส้นแสง ถูกนำมาใช้ในการทำสงคราม สิ่งที่เกิดตามมา คือ เกิดแรงอัดกระแทกอย่างมหาศาลลงสู่พื้นดิน พร้อมๆ กับการโคจรมาเรียงตัวเป็นเส้นตรงของ สุริยจักรวาล กาแลคซี่ทางช้างเผือก และกาแลคซี่ไตรแองกุลัม

    ด้วยขนาดของกาแลคซี่ทางช้างเผือกที่ใหญ่กว่า จึงทำให้แกนขั้วโลกจากทิศตะวันออก พลิกเปลี่ยนชี้ไปทางทิศเหนือ มหาอาณาจักรแอตแลนตีส จึงจมลง เปลี่ยนสภาพจากแผ่นดิน กลายเป็นมหาสมุทรในชั่วข้ามคืน เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพ บนพื้นผิวโลกอย่างมโหฬารไปทั่วทุกส่วนของ โลก ตามอัตราส่วนของการมีพื้นน้ำ 3 ส่วน และพื้นดิน 1 ส่วน มนุษย์เสียชีวิตมากมายเหลือคณานับ เป็นการสิ้นสุดของยุคทองแห่งแอตแลนตีส

    ชาวแอตแลนตีสกลุ่มหนึ่ง มี ผู้นำเป็นนักบวชที่มีพลังจิตสูง ได้ลงเรือเดินทางออกจาก มหาอาณาจักรแอตแลนตีส ก่อนจะเกิดเหตุภัยพิบัติอย่างรุนแรง ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ขึ้นฝั่งในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ ประเทศอียิปต์ในปัจจุบันนี้ การถ่ายทอดอารยธรรมแอตแลนตีส จึงได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง สัญลักษณ์ สิ่งแรกที่ยิ่งใหญ่แสนมหัศจรรย์ที่นักบวชได้สร้างขึ้นด้วยพลังจิต และอาศัยความช่วยเหลือจากชาวดาวอังคาร คือ การสร้างสฟิงซ์ (Sphinx) ด้วย เทคนิคการใช้พลังจิต เปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงานแสง และเปลี่ยนพลังงานแสงเป็นวัตถุ เป็นรูปสิงโตหมอบ เหยียดขาหน้าทั้งคู่ไปด้านหน้า ลำตัวทอดยาวไปตามแนวทิศตะวันออก และทิศตะวันตก เพื่อเป็นสิ่งบ่งบอกว่า ในอนาคตข้างหน้า เมื่อถึงวาระครบ 13,000 ปีอีกครั้ง

    ณ ที่ตั้งสฟิงซ์แห่งนี้ จะกลายเป็นตำแหน่งของขั้วโลกใหม่ และ ขั้วโลกจะชี้ไปทางทิศตะวันออก อยู่ในอิทธิพลแรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม อีกครั้ง โดยใช้เวลารอบใหม่เป็นเวลานานอีกประมาณ 13,000 ปี

    ชาวแอตแลนตีส มีความชำนาญในการใช้พลังพีระมิดอย่างหลากหลาย และได้ถ่ายทอดสู่ชาวอียิปต์จากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งอีกหลายพันปีต่อมา จึงได้มีมหาพีระมิดเกิดขึ้น

    เชื้อสายชาวแอตแลนตีสรุ่นต่อๆมา มีการย้ายถิ่นฐาน สร้างเมือง สร้างประเทศใหม่ อารยธรรมแอตแลนตีสจึงกระจายออกไปหลายส่วนของโลก ที่รู้จักกันดี คือ ชนเผ่ามายา หรือ มายัน ผลงานชิ้นสำคัญของพวกเขา คือ การจัดวางเสาหิน แท่งหิน ขนาดมหึมาเป็นรูปวงกลมซ้อนกันอยู่ 3 วง เรียกว่า สโตนเฮนจ์ (Stone Henge) อยู่ที่เมือง ซาลเบอรี่ (Salisbury) ประเทศอังกฤษ มีเทคนิคการสร้างเหมือนกับการสร้างสฟิงซ์ คือ

    การใช้พลังจิต เปลี่ยนวัตถุเป็นพลังงานแสงก่อน และ เมื่อนำไปจัดวางได้เรียบร้อยแล้ว จึงเปลี่ยนพลังงานแสง คืนกลับเป็นวัตถุอีกครั้ง

    สโตนเฮนจ์ เป็นปฏิทินดาราศาสตร์ ใช้หลักคำนวณจากการโคจรของกาแลคซี่ ทั้ง 3 ใน 1 รอบ คือ 26,000 ปี โดยสามารถถอดรหัสได้ว่า ในช่วงระยะเวลา 26,000 ปี สุริยจักรวาล จะตกอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้างเผือก 13,000 ปี และ อีก 13,000 ปี จะสลับมาอยู่ในอิทธิพลของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม

    ฉะนั้น การสร้างสโตนเฮนจ์ มีจุดมุ่งหมาย เพื่อเตือนภัยแก่ชาวโลก เมื่อถึงวาระของการสลับเปลี่ยนขั้วของแรงดึงดูดอีกครั้ง

    การเกิดภัยพิบัติในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นความสัมพันธ์ เชื่อมโยงระหว่างอดีตกับปัจจุบัน และอนาคต ระหว่างกาแลคซี่ทั้ง 3 กับสฟิงซ์ สโตนเฮนจ์ และ แกนพลังงานโลก โดยมีทั้งมนุษย์ และธรรมชาติเป็นพลังงานขับเคลื่อน

    แกนพลังงานโลก เป็นแกนพลังงานที่ทอดยาวควบคู่ไปกับแกนสสาร ที่ปัจจุบันชี้ไปทางขั้วโลกเหนือและใต้ แกนพลังงานประกอบด้วยพลังงานสำคัญ 3 ประการ คือ

    1. พลังงานแม่เหล็กโลก หรือ พลังงานแรงดึงดูดจากศูนย์กลางกาแลคซี่ทางช้างเผือก เป็นแรงร้อยรัดที่ดึงโลก ให้อยู่กับสุริยจักรวาล และ กาแลคซี่ ตามลำดับ เป็นพลังงานที่มีคุณสมบัติที่ร้อนและหนัก มีสีเข้ม คล้ายสีเทา เกือบดำ และอยู่นอกสุดของแกนพลังงาน

    2. พลังงานกระแสลมปราณ มีสีออกเหลือง ออกส้ม เป็นพลังงานที่โลกเราได้รับมาจากดวงอาทิตย์ เป็นพลังงานที่ดี มีประโยชน์ เป็นเสมือนภูมิต้านทานร่างกาย ที่มนุษย์ทุกคนได้รับอย่างเท่าเทียมกัน โดยลมหายใจเข้า

    3. พลังงานมโนธาตุ มีสีออกขาว อยู่ชั้นในสุดของแกนพลังงาน เป็นพลังงานดี ช่วยเสริมจิตใจให้มีคุณธรรม

    เทคโนโลยี ที่เกิดจากการผลิตอุตสาหกรรมหนัก ทำให้เกิดสารตกค้าง CFC หรือ สาร คลอโรฟลูออโรคาร์บอน และยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถทำลายสาร CFC นี้ได้สำเร็จ

    สาร CFC มีคุณสมบัติ “เบา กว่าธาตุอื่นๆทุกชนิด” จึง สามารถแทรกเข้าไปทำลายแกนพลังงานโลก เริ่มขบวนการทำลายมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2540-2544 จนกระทั่งแกนพลังงานโลกตัน ทำให้แรงร้อยรัด หรือ พลังงานแม่เหล็กโลก ที่ส่งออกมาจากกาแลคซี่ทุกวินาที ไม่สามารถไหลทะลุผ่านขั้วโลกเหนือ-ใต้ได้ พลังงานจึงแผ่กระจายไปทั่วทุกส่วนของโลก ทั้งพื้นน้ำ มหาสมุทร พื้นแผ่นดิน แผ่นหิน เปลือกโลก ร่างกายมนุษย์ สัตว์ และ พืช ฯลฯ

    ความร้อนและหนัก จึงฝังตัวติดแน่น สะสมเป็นเชื้อร้ายแฝงอยู่ และเพิ่มอันตรายมากทวีคูณ เกินกว่าจะพรรณนาได้ กล่าวได้เพียงว่า
    พลังงานแม่เหล็กโลก จากกาแลคซี่ทางช้างเผือกในปัจจุบัน คือ พลังงานสำคัญที่ทำลายมนุษย์ และเปลี่ยนโลกใบนี้ในอนาคต

    ผู้คนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ คือ ผู้ปล่อยยักษ์ใจร้ายตนนี้ออกมาเอง และหากสมมุติว่า จะเนื่องด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทำให้ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนขั้วโลกใหม่ไม่เกิดขึ้น มนุษย์ สัตว์ และ พืช ทั้งหลาย ก็อาจถูกทำลายอย่างรุนแรง ด้วยพลังงานแม่เหล็กโลก และ พลังกระแสไฟฟ้าลบ อาจสิ้นชีวิตลงเกือบ 3 ใน 4 ส่วนของประชากรโลก ภายใน 14 กุมภาพันธ์ 2556 โดยประเทศไทย จะเป็นประเทศที่มีประชากรเหลือมากกว่าประเทศอื่นๆ และ พุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองสูงใน 2,500 ปีต่อจากนี้

    พลังงานกระแสลมปราณ และ พลังมโนธาตุ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ได้ลอยสูงขึ้นๆ ไปอยู่ในบรรยากาศชั้นบนสูง เกินกว่ามนุษย์จะนำเข้าสู่ร่างกายได้ ด้วยลมหายใจ เข้า ดังนั้น ด้วยองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ จึงได้นำพลังพีระมิดมาใช้เพื่อช่วยมนุษยชาติในการแก้ปัญหาดังกล่าว

    พลังงานกระแสแม่เหล็กขั้วลบ จากกาแล็กซี่ทางช้างเผือก และ พลังงานไฟฟ้าขั้วลบจากกาแล็กซี่อัลโดรมีด้า ได้แผ่กระจายเข้ามาในโลกอย่างรุนแรงหนาแน่นมาก ในทุกพื้นที่บนโลก โดยจะเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงของแผ่นเปลือกโลก จะเกิดการเคลื่อนที่สับเปลี่ยนของผืนแผ่นดิน แผ่นน้ำ จะเกิดลมพายุ จะเกิดน้ำท่วมใหญ่มากกว่าปรากฏการณ์ในปี 2554 หลายสิบเท่าตัว จะเกิดการหล่นกระจายของแผ่นฝ้าน้ำแข็ง เพดานโลกที่เกิดจากการสะสมของควันน้ำมัน บางก้อนมีน้ำหนักถึง 40 กิโลกรัม ฯลฯ

    สิ่งที่จะยืนยันว่าจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นนั้น จะเริ่มเห็นชัดมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ถ้า

    1. การยืน หรือ เดินของตัวเรา ญาติพี่น้อง พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ลูกหลาน หากเริ่มปรากฏอาการโครงเคลงตอนลุกขึ้นยืน หรือ ในเวลาเดิน หรือ มีอาการสะดุดคล้ายตกหลุมอากาศ ภูมิต้านทานโรคลดต่ำลง มีอาการป่วยง่าย มีอาการอ่อนเพลียมาก และ/หรือ

    2. มีแผ่นดินไหวในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    3. มีภูเขาไฟระเบิดในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    4. มีแผ่นดินยุบตัวลงในสถานที่ต่างๆมากขึ้น ถี่ขึ้น และ/หรือ

    5. ระบบนำร่องของเรือเดินทะเลมีปัญหา เกิดอุบัติเหตุทางเรือในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

    6. ระบบนำร่องของเครื่องบินมีปัญหา ทำให้เกิดเครื่องบินตก เครื่องบินชนกัน ในสถานที่ต่างๆถี่ขึ้น และ/หรือ

    7. ระบบสื่อสารคมนาคมมีปัญหา ไม่ว่าทีวี โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ท ไอแผ็ด ไอโฟน หรือ ระบบไฟฟ้าสายเมนใต้น้ำ ใต้ดินระเบิด จะมีการขัดข้องบ่อย สะดุดบ่อย สายหลุดบ่อยกว่าที่เคยปรากฏ โดยปรากฏในสถานที่ต่างๆ ถี่ขึ้น และ/หรือ

    8. ระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมทั่วโลกมีปัญหา


    หากมีเหตุต่างๆหลายประการเกิดขึ้น และต่อมา ในช่วงตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไป ถ้า มีแรงดันที่ท้องของแต่ละคนมากขึ้น จนรู้สึกอยากโค้งตัวลง หรือ งอตัวลง จึงจะรู้สึกสบาย คือ เกิดสภาวะการยืดตัวตรงลำบาก ซึ่งจะเห็นได้จากคนอื่นๆ และ ตัวของเราเอง มีการหายใจติดขัด ไม่คล่องจมูกมากขึ้น และ สิ่งบอกเหตุ 8 ประการก็มีมากขึ้น ท่านทั้งหลายที่อยู่ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก ขอให้ท่านรีบเดินทางไปหาที่พักในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณโดยเร็ว น่าจะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ท่านอยู่อาศัยในปัจจุบันโดยเร็ว (ชายทะเลใหม่อาจไปอยู่ที่สระบุรี ลพบุรี และ นครสวรรค์ สำหรับพื้นที่ภาคกลาง จะมีปริมาณน้ำท่วมสูงกว่าปี 2554 ได้)

    นั่นคือ จะมีการเปลี่ยนสัณฐานของโลกครั้งใหญ่ พื้นดินในเขตภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตกนั้น อาจยุบจมหายไปได้

    ความรุนแรงมากที่สุด น่าจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน ที่อาจไม่มีการทำงาน และ ไม่มีการประกอบอาชีพใดๆได้ นั่นคือ จะไม่มีการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกชนิด หากอยู่ระหว่างการเดินทาง ต้องหยุดการเดินทางทั้งหมด เพราะพลังงานของกระแสแม่เหล็กโลก และ พลังงานกระแสไฟฟ้าลบ เข้ามาในโลกอย่างรุนแรงหนาแน่น จนไม่เหลือช่องว่าง และ ทุกคนอาจไม่สามารถทรงตัวยืน เดิน ตามปกติได้ และ อาจต้องเคลื่อนไหวโดยการคลานสี่เท้า รวมทั้งต้องนอนตะแคงใบหน้ากินอาหาร หรือ กรอกน้ำใส่ปากในช่วง 42 วันดังกล่าวนี้ก็อาจเป็นได้

    ก่อนหน้าวิกฤติช่วง 42 วันนี้ ท่านต้องรีบเตรียมสำรองอาหาร ที่รับประทานได้ง่ายที่สุด หากเป็นแคปซูลได้ยิ่งดี อาหารที่ไม่ต้องเสียเวลาปรุง ไม่ต้องสนใจในรสชาติ ขอให้ท้องอิ่ม เพื่อให้มีลมหายใจอยู่ให้รอด 42 วันที่ยืนเดินไม่ได้ ท่านต้องเตรียมอาหารและน้ำดื่มบนพื้นห้องนอน

    อาหารที่ท่านต้องรีบเตรียมการโดยด่วน อาทิ อาหารที่ใช้รับประทานในอวกาศต่างๆ เช่น อาหารที่ผลิตใส่ในแคปซูลเม็ด หากหาไม่ได้ ก็ต้องเป็นประเภทนำใส่ปากรับประทานได้เลย เพราะช่วง 42 วันดังกล่าว จะไม่มีไฟฟ้าใช้ ผู้ที่อยู่คอนโดมิเนียมทั้งหลายจะเดือดร้อน อาหารแห้งที่ต้องเตรียมพร้อม เช่น สาหร่ายประเภทต่างๆ ไมโล โอวัลติน ถั่วต่างๆ เมล็ดทานตะวัน เม็ดมะม่วง ข้าวเม่า ข้าวตัง กล้วยอบแห้ง ผลไม้อบแห้ง ฯลฯ ต้องหาอาหารที่ไม่ต้องขับถ่ายมากมารับประทาน
    น้ำดื่มสะอาดจำนวนมาก พร้อมหลอดดูด ต้องเตรียมไว้ให้มากพอ

    ท่านต้องนอนกับพื้น และ มองหาที่พอคลานไปขับถ่ายได้ อย่าลืม จะทรงตัวยืนไม่ได้ในช่วงระหว่างวันที่ 3 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นเวลารวม 42 วัน สำหรับเรื่องอาบน้ำนั้น ไม่ต้องสนใจ

    หลังจาก 14 กุมภาพันธ์ 2556 ไปแล้ว ในช่วง 7 วันแรก ไม่ควรออกมานอกบ้าน เพราะพลังงานในโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ยังปรับสมดุลไม่ได้ดี ร่างกายของมนุษย์อาจมีอันตราย

    หลังจาก 21 กุมภาพันธ์ 2556 ไปแล้ว ต่อไปในประเทศไทยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 17-24 องศาเซลเชียส มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับเกาหลี และ ญึ่ปุ่น ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน 2556 ประเทศไทยจะมีอากาศเย็นสบาย พระอาจารย์รัตน์ฯ ให้ติดตามดูต่อไป

    สำหรับผู้ที่อยู่ภาคอิสาณนั้น พื้นที่ริมฝั่งโขงทั้งหมด จะได้รับอันตรายจากเขื่อนใหญ่หลายแห่งในประเทศจีนแตก ภูเขาหิมาลัยจะทรุดตัวลง ปริมาณน้ำแข็งจะละลายเป็นปริมาณน้ำมหาศาล ย่อมท่วมเข้ามาในพื้นดินริมโขงทุกจังหวัดของไทย และ ลาว

    ช้าที่สุด คือ ต้องอพยพออกจากพื้นที่ในเขตภาคใต้ ภาคกลาง(กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงครม ฯลฯ) ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันตก โดยรีบเดินทางไปเข้าที่พักในเขตภาคเหนือ และ ภาคอิสาณก่อน 24 นาฬิกาของวันที่ 2 มกราคม 56 จะปลอดภัยมากกว่า

    มนุษย์เรานั้น ประกอบด้วย จิตและกาย หากยังมีความคิดว่า “ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ควรรักษาไว้” จึงควรแสวงหาทางรอด ตามวิถีความเชื่อของแต่ละบุคคล สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับการฝึกจิต ควรเข้าใจให้ชัดเจนว่า พลังงานแม่เหล็กโลกที่ไม่ได้อยู่ในแกนพลังงานโลก เป็นพลังงานกั้นบัง ฉุดรั้ง เป็นเสมือน ตัณหาที่ฉาบทาโลก ส่งผลให้การฝึกจิต ทำได้ยากยิ่งขึ้น หากโลกเราได้แกนพลังงานใหม่ เปลี่ยนเป็นขั้วโลกตะวันออก เป็นกาแลคซี่ใหม่ที่ สมบูรณ์ด้วยพลังงานกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ ซึ่งเหมาะแก่การฝึกจิตเป็นอย่างยิ่งในช่วงหลังจากปรากฏการณ์ครั้งสำคัญนี้แล้ว ในช่วงเวลานี้ พีระมิดแปดเหลี่ยมเท่านั้น ที่ช่วยพอประทังให้ประคับประคองความเป็นอยู่ได้บ้าง ด้วยการถอดจิต หรือ กายละเอียดไปพักนอกกาแล็คซี่ทั้งสาม ที่ขอบอนันตจักรวาล ซึ่งบรรดาศิษย์จำนวนหนึ่งของพระอาจารย์รัตน์ฯก็ต้องเร่งฝึกทุกวัน นับแต่วันนี้ (ที่ 9 ธันวา 55) เพื่อให้ทันภายใน 3 มกรา 56

    ในที่สุด คำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ ก็จะสำเร็จตามจิตประสงค์ มหาอาณาจักรแอตแลนตีส ที่เคยจมหายไปร่วม 13,000 ปี จะได้มีโอกาสโผล่ขึ้นมาอวดโฉมอีกครั้ง พื้นที่มหาสมุทรแอตแลนติค จะกลายเป็นพื้นดินขึ้นมาใหม่ ส่วนที่เคยเป็นพื้นดินในทวีปอเมริกา อัฟริกา ยุโรป และ เอเชียหลายส่วน จะกลายเป็นผืนน้ำที่ถาวรใน 13,000 ปีต่อจากนี้ไป

    สิ่งเตือนใจ คือ อายุขัยของมนุษย์ และ สัตว์ นั้นแสนจะสั้น มีอายุได้อย่างมากเฉลี่ยแล้วประมาณ 100 ปีเป็นอย่างมาก หากยังดับกิเลสได้ไม่หมดสิ้น ท่านย่อมจุติ หรือ ตายไป แล้วไปปฏิสนธิ หรือ ไปเกิด หรือ อุบัติบังเกิดในภพภูมิต่างๆ เวียนว่ายตายเกิดต่างภพ ต่างภูมิ ตามผลกรรมของตน หรือ ผลของการกระทำที่เคยสร้างไว้ในครั้งยังมีชีวิตอยู่ และถ้าหากไม่เคยฝึกจิต คงไม่สามารถรู้ถึงเหตุและผล ของการตกอยู่ในสังสารวัฏ และการวนรอบของปรากฏการณ์ทุกอย่างได้ จึงมักจะเชื่อเฉพาะสิ่งที่รู้ได้ด้วยสมอง และ สัมผัสต่างๆด้วยตนเองเท่านั้น

    ทั้งๆที่ความจริงที่มีอยู่ในโลกของเรานั้น ทุกคนเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ก็เชื่ออย่างสนิทใจว่ามี เช่น มีลม มีอากาศ มีคลื่นวิทยุ มีคลื่นโทรทัศน์ มีคลื่นโทรศัพท์ มีรังสีเอ็กซเรย์ มีรังสีแกรมม่า มีรังสีแอลฟ่า มีแสงอุลตราไวโอเล็ต ฯลฯ แต่ ถามจริงๆเถอะว่า มีใครมองเห็นสิ่งต่างๆตามตัวอย่างเหล่านี้บ้าง แม้จะมองไม่เห็น ทุกคนที่มีความรู้ ก็ย่อมเชื่ออย่างสนิทใจว่ามีอยู่จริง แต่ ในเรื่องพลังจิต กับถูกปฏิเสธว่า ไม่มีอยู่ จริง

    เรื่องของจิต และ พลังจิตของแต่ละท่านนั้น เป็นเรื่องที่มีอยู่จริง แต่มีมากน้อยแตกต่างกันเท่านั้น ท่านที่ไม่เคยมีพลังจิต หรือ มีเพียงน้อยนิด โปรดอย่าปรามาส หรือ สบประมาทครูบาอาจารย์ที่ท่านมีพลังจิตที่เหนือกว่า เข้าทำนองว่า “ไม่เชื่อ ก็อย่าลบหลู่" แต่ ก็มิได้บังคับให้ท่านต้องเชื่ออย่างงมงาย

    เพียงแต่เรื่องใดที่ท่านไม่มีฐานความรู้ หรือ ไม่มีองค์ความรู้ในเรื่องนั้นๆมาก่อน ก็อย่าด่วนปฏิเสธทันที หรือ ดูหมิ่นความรู้ของผู้อื่น ที่นำเรื่องราวมาบอกกล่าวตักเตือน โปรดทำการศึกษาและติดตาม ทดลองและลงมือปฏิบัติ สักวันหนึ่งในอนาคต ท่านอาจได้พบความจริง เพียงแต่ หากลังเล หรือ ล่าช้าในการลงมือปฏิบัติ ในวันที่ท่านยอมรับความจริงนั้น อาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิตท่านก็ได้ เข้าทำนองว่า “ไม่เห็นโลงศพ ก็ไม่หลั่งน้ำตา”

    ขอให้ท่าน และ ครอบครัวของท่าน มีสติในทุกสถานการณ์ มีความปลอดภัย รอดพ้นจากความทุกข์ยากลำบากในช่วง 42 วันดังกล่าว เพื่อจะได้มีชีวิตในยุคพลังงานใหม่ที่ดี ที่ผู้คนมีจิตใจที่ดีงาม มีศีลธรรมสูง และ ขั้วโลกได้เปลี่ยนเป็นขั้วตะวันออก-ตะวันตก แทนขั้วเหนือ-ใต้

    ***********************************************
    ด้วยความปรารถนาดี จาก นายมงคล กริชติทายาวุธ
    อดีต Senior Vice President บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ ผู้อำนวยการหลักสูตรวิปัสสนากรรมฐาน เจ้าของเว็บไซต์ mongkoldham.com และ ที่ปรึกษาสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ ผู้รวบรวม และเรียบเรียงอย่างกระทันหัน

    ..............................
    คล้ายๆด้านบนจากผู้เรียบเรียงคนเดียวกัน เอามาไว้ใกล้ๆกันก็น่าจะดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  14. nprofcomp

    nprofcomp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +339
    วันที่ใกล้เคียงกัน
    น่าสนใจดี
    รอการพิสูจน์

    [​IMG]
    South Pole Telescope (SPT) - America

    America is now spending huge sums to deploy the massive South Pole Telescope (SPT) in Antarctica. The final installation will be the size of a mini-mall and will require a massive C-130 airlift effort to transport pre-assembled modules and a large staff to the most desolate, inhospitable and inaccessible region of the world.

    Why? Because Planet X / Nibiru was first sighted in 1983 and this discovery spurred the USA to build the SPT — humanity's new Planet X tracker.

    Amongst independent researchers like us at YOWUSA.COM and the equally committed researchers with whom we share data, the 1983 IRAS observation of Planet X / Nibiru has always been a hot topic. On a private level, we often discuss how the NASA's IRAS spacecraft first captured infrared images of it back in 1983 with the same lament. Given the lack of corroboration, how can you publish a story that can easily be shot down as a rumor? That was then.

    Now we have the corroboration we've lacked for years, The South Pole Telescope (SPT). Far more powerful capable and survivable than the 1983 IRAS spacecraft and Hubble Space Telescope put together, this manned observatory will soon begin tracking Planet X / Nibiru from the pristine skies of Antarctica.

    Why is America spending a massive fortune to transport this massive facility with massive C-130 airlift to the most desolate, inhospitable and inaccessible region of the world to track this massive inbound? Because this is where astronomers will find their ultimate Kodak moment and this is good news.

    Their resulting multi-spectrum observations will translate into life-saving data.
    [​IMG]

    [​IMG]

    http://mextremel.com/blog/wp-content/uploads/2011/11/national-geographic-milky-way-reference-map.jpg

    http://farm4.static.flickr.com/3433/3362827925_4198be913e_o.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  15. Sestulee

    Sestulee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +2,386
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman อ่านข้อความ
    Credit: Pranee Vidhyameth
    องค์ความรู้ พอจ รัตน์

    วันนี้ พอจ ให้ความรู้แบบเปิดหน้าตักโดยไม่หวั่นต่อคำครหา ด้วยความเมตตาต้องการให้มีผู้รอดชีวิตมากที่สุด กราบอนุโมทนาและขอบพระคุณ พอจ เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ พยายามให้บทสรุปต่อไปนี้ครอบคลุมเนื้้้อหาสำคัญๆให้ากที่สุดค่ะ และเอกสารที่แนบเป็นเพียงใบแทรกยังมีอีก 11 หน้า จะถ่ายรูปและทะยอยลงต่อไปค่ะ

    - วันที่ 17/12 เริ่มมีแรงดันจากภายนอกโลกและเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ให้เราสังเกตุภัยธรรมชาติที่จะมีมากขึ้นและรุนแรงขึ้น
    - วันที่ 21/12 กาแล็กซี่ทั้ง 3 เรียงตัวกัน โลกจะหยุดหมุนชั่วคราว ลาวาม้วนตัว และเกิดแผ่นดินไหว
    - พอจ ได้ทดลองระหว่างลูกศิษย์ในการเข้าสมาธิจำลองเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ทำการทดลอง (ประมาณสัปดาห์ที่แล้ว) พบว่าตั้งแต่วันที่ 17/12 มีแรงดันเข้าและมากขึ้นเรื่อยๆจนคนตัวงอเป็นรูปตัวยูและค่อยๆพลิกหงายขึ้น จนถึงวันที่ 3/1/13 แรงกดดันจะผลักให้ต้องล้มตัวนอนและไม่สามารถลุกขึ้นได้ แม้แต่จะยกแขนหรือผงกหัว เหตุการณ์จะยาวไปถึงวันที่ 14/2/13 ซึ่งในระหว่างนั้นอากาศจะหนาวเย็นมากและบางคนที่อยู่ในการจำลองเหตุการณ์รู้สึกว่าอากาศหนาวเย็นถึงเดือนมีนาคม และ 14/2/13 โลกเราจะไปอยู่ที่กาแล็กซีไตรแองกูลัม

    - ในระหว่างนั้น :
    = ดาวเทียมจะตกลงมาหมด การสื่อสารจะไม่สามารถทำได้
    = ให้เตรียมอาหาร น้ำ โดยต้องให้ทุกอย่างอยู่ในระดับและที่ๆเราสามารถหยิบฉวยได้ แต่จะมีปัญหาเรื่องการขับถ่าย อาจทานเป็นข้าวกล้องปิรามิดแคปซูลที่ให้พลังงานและสามารถอยู่ได้
    = หากต้องการหลบจากสถานการณ์บนโลกก็สามารถใช้ปิรามิดแปดเหลี่ยมช่วยยกจิตไปข้างบนและอธิษฐานให้ลงมาเมือเหตุการณ์สงบลง (รายละเอียดขอผู้ที่สามารถอธิบายได้ช่วยหน่อยค่ะ)

    - ให้หาที่หลบภัยซึ่งเป็นที่สูง ท่านไม่สามารถบอกได้แต่ให้เราใช้ปิรามิดแปดเหลี่ยมในการช่วยบอกตัวเราเองว่าที่ใด

    - ที่ดอยปอมิโจ๊ะ แม่ฮ่องสอน จะเป็นที่ที่มีแรงหมุนจะช่วยให้ไม่ต้องล้มตัวนอน และเป็นที่ที่มนุษย์ต่างดาวจะส่งยานสองลำมารับคนสำคัญๆ (ท่านให้ขอผ่านปิรามิดว่าให้ช่วยรับเราไปด้วย) ทั้งนี้ เหตุการณ์ภัยพิบัติเกิดขึ้นทั้งจักรวาลที่เราอยู่ และเกิดขึ้นตามรอบ ดังนั้น ในหมู่ดวงดาวต่างๆเป็นที่รู้และมนุษย์ต่างดาวจากหลายดวงดาวต้องการช่วยโลกให้พ้นภัยพิบัติ มีทั้งหมด 8 กลุ่มที่จะมาช่วยแต่ก็มีมิจฉาต่างดาว 5 กลุ่มที่ต้องการทำร้ายเรา

    - ทางช่วยเราได้บ้างคือให้แขวนปิรามิดแปดเหลี่ยม ตอนนี้ท่านพยายามทำตัวช่วย(ซึ่งเป็นปิรามิดเจ็ดเหลียมจำนวน 6 ชิ้นทำเป็นแกนตั้งและ 3 ชิ้นทำเป็นวงกลมพันรอบเอว - ปราณี) ตัวช่วยนี้ท่านจะพยายามให้ครอบครัวละ
    1 ชุดเพื่อให้ดูแลคนอื่นๆ

    - ควนออกเดินทางไปยังสถานที่ที่คิดว่าปลอดภัยภายในวันที่ 2/1/13

    ข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกศิษย์
    - ความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกจะเป็นน้ำ 3 ส่วนดิน 1 ส่วนเสมอและสลับกัน ประเทศไทยอยู่บนแผ่นเปลือกโลกเดียวกับญุี่ปุ่น เมื่อ 13,000 ปีที่แล้วอาณาจักรลีมูเลียซึ่งอยู่ใต้ญี่ปุ่นได้จมลงและขณะนี้ถึงวงรอบที่จะขึ้นมา หากเกิดอะไรขึ้นกับแผ่นเปลือกโกนี้โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ประเทศไทยก็จะได้รับผลกระทบด้วยทั้งจากทางอันดามันและอ่าวไทย ทางเหนืออันตรายจากเขื่อนหลายแห่งจากประเทศจีนที่อาจแตกจากแผ่นดินไหว น้ำจะไปตามเส้นทางของมันแต่ถ้ามหาศาลก็จะทะลักเข้ามากลายเป็นทะเล แม่น้ำโขงจึงเป็นจุดที่ต้องระวัง

    - วันฟ้าดับไม่มีเพราะยังคงมีแสงจากกาแล็กซี่อื่น
    - ผลึกน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆจะตกจากฟ้า หลัง 14/2/13 ซึ่งจะละลายกลายเป็นมวลน้ำมหาศาล
    - ให้ช่วยคนในครอบครัวอย่างเต็มกำลัง เตรียมอะไรได้ก็ให้เตรียมส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ ไม่ต้องสนใจ
    - หากสนใจอาหารปิรามิด ติดต่อที่คุณโก้ 085-6228153 ซึ่งเป็นผู้ผลิต

    หากจะแชร์ข้อมูลนี้ ขอความกรุณากระทำอย่างระมัดระวังเพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อ พอจ รัตน์ นะคะ ขอบคุณค่ะ — กับ Pang Apimonraksa

    ........................
    อีกหนึ่งข้อมูล อันนี้มีมนุษย์ต่างดาวมาร่วมแจมด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  16. เข้าหาธรรม

    เข้าหาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2011
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +514
    แหม...มีพาดพิงนะคะ ห้าๆๆ

    เมื่อคืนฝันว่าไฟไหม้ค่ะ ที่ไหนไม่แน่ใจ แต่เหตุเกิดจากบุหรี่มวนเดียวของใครไม่รู้ แต่เอาน้ำมาดับทัน

    สรุปว่าวันนี้ ที่มหาลัยมีซ้อมหนีไฟเฉยเลย ไม่คิดว่าตัวเองจะมีญาณล่วงหน้ากับเค้าด้วยนะคะเนี่ย ห้าๆๆๆๆ (เป็นญาณชื่อ 'มั่วสะญาณ' น่ะค่ะ^^)
     
  17. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    กระทู้ไปแรงตามแซงไม่ทัน ๕๕๕๕๕๕


    เยอะมากค่ะ ท่าน Sestulee อ่านแล้วพาลจะเป็นเหน็บไปอีกคน

    แต่ล้วนด้วยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ อ่านแล้วควรได้พิจารณาอย่างระมัดระวัง
    ทำใจให้เป็นกลาง และไม่ประมาท ไปพร้อมๆกัน เป็นดีที่สุด ขอบคุณข้อมูลมาก ค่ะ


    เรื่องการสื่อสาร ง่ายๆ ใกล้ตัว เร็วที่สุด น่าจะเป็นการสังเกตจาก โทรศัพท์ใช้ไม่ได้ ต่อเน็ตไม่ติด กระมังคะ :z8
     
  18. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    ไม่ปล่อยให้รอนาน

    อินโดนีเซียมาทักทาย ตั้งแต่วันแรกแห่งสัปดาห์อันน่าติดตาม

    ที่ 6.1 ริกเตอร์
     
  19. hiflyer

    hiflyer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    3,321
    ค่าพลัง:
    +15,681
    ฝ่ายหาข่าว โฉบไปมา 2-3 ที ได้ข่าวติดกรงเล็บเก็บมาด้วย :cool:

    .
     
  20. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ถึงไม่ใกล้ ก็พาไปได้น่า ช่วงหยุดยาวปีใหม่ คุณhiflyer น่าจะพาครอบครัวไปเที่ยวด้วย

    แถวนั้นถ้าจะ survey ที่น่าไปมี เขื่อนลำปาว สวนสะออน พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ภูกุ้มข้าว วัดภูค่าว สะพานเทพสุดา

    ทั้งหมดนี้ อยู่ใกล้กัน ใช้เวลาไม่นาน ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...