เเจกความรู้เรื่องยาสมุนไพร ทุกขนานครับ

ผมจะลงภาพสมุนไพรทุกต้นตามทีผมเรียนมา ศึกษามา จะได้รู้กันว่าหน้าตาสมุนไพรมันเป็นไงกันบ้าง
ผมจะถ่ายทอดสมุนไพร กับยาทุกชนิดไว้ให้หมดเลยนะครับ บางทีมันอาจคล้ายๆๆกัน ตามเเต่ภาคครับ
ยาเเก้ เสันเอ็นเจ็บปวดหลัง เจ็บเอวเจ็บหลัง
หัวข้าวเย็นเหนือหนัก20บาท
หัวข้าวเย็นใต้หนัก20บาท
มะพร้าวห้าว 1ลูก(เอากะลากับเนี้อข้างใน)
ผ่าออกเป็น4ซีก ต้มรวมกันกินต่างน้ำ
เเกปวดหลัง เเละเอว คลายเส้น

หากเกิดจากการทำงานไม่ใช่โรค
ก็ใช้หญ่างวงช้างมา1กำมือ ต้มกับน้ำตาลตาลเเดงพอประมาณ
กินต่างน้ำวันละเเก้วเช้าเพลเเละเย็น กินจนยาจืด

เอารากต้นเเก้วเเห้งหรือสด มาหนัก2บาทหั่นใสให้เป็นฝอย ใส่รวมกับหางหมู(กี่หางก็ได้) ใส่เหล้าใสน้ำลงไปพอประมาณตุ้นกินทั้งน้ำเเละเนื้อ
เเก้อาการปวดหลังปวดเอวเจ็บอก

เอาต้นบัวบกมาตากเเห้งบดเป็นผง ใส่ขวดโหลไว้ กินวันละ5กรัม
เเบ่งกินสามเวลา เช้าเพลเย็น เเก้ ปวดหลัง เอวหน้าอก


เอาเปลือกเเตงโม(เอาเฉพาะเปลือกผิวสิเขียวติดเนื้อนิดๆๆ) มาล้างให้สะอาดตากเเดดในร่ม จนเเห้งเก็บใสโหล
นำมาต้มเคี่ยว กินเรือยๆๆกับเกลือนดหน่อย เเก้ปวดหลังเอวได้ดี

เอาเปลือกโคคลานเเห้ง ทุบดองเหล้า ไว้กิน ก่อน นอน ก่อนอาหารเช้าเย็น
เเก้เคล็ดเอวหลัง บำรุงกำลังด้วย เเก้โรคไตระยะเริ่มต้นด้วย

เอาต้นกาฝากจามจุรี่ทีอยู่บนต้นจามจุรี่ กับฝักจามจุรี่มาย่างให้เเห้งใส่หม้อดินต้มกินน้ำ เเก้อาการปวดหลังเอว

ลูกใต้ใบทั้ง5มาต้มก็ใช้เเก้ ปวดหลังเหมือนกัน(หาต้นออกสีเเดงไว้จะใช้ได้ผลกว่าต้นขาว)

การปวดเมื่อยๆๆไม่มีสาเหตุก็มียาอยู่ครับ
เอาต้นกระเม็งมาตากเเห้ง บดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งเเท้กินก่อนอาหาร สามเวลา ชั่วระยะเวลา15วันจะหาย

อีกขนาน
น้ำผึ้งเเท้5ช้อน
น้ำมะนาว1ช้อน
ใสโซดาจืด ทีเเช่เย็น
เอามารวมกันให้ได้1เเก้ว กินก่อนนอน 1ครั้งต่อการนอน กิน3-5วัน จะรู้สึกว่ามีกำลัง อาการเพลีย ปวดหลังเอวก็จะหายไป

ครับผมจะถ่ายทอดสูตรตำรายาทั้งหมดทีผมเรียนมาจากทั่วประเทศไทยไว้ให้หมดเลยครับ มียาทุกขนานครับ
(หมายเหตุ ยาทุกชนิด จะให้ผลดีหรือไม่ ขึ้นอยู่ทีโรคหนักหรือเบาเเละธาตุในร่างกายคนจะไม่เหมือนกัน)

 

ยาเเก้ปวดหลังเอว เมื่อยขบทั่วตัว
ขิงเเห้งหนัก2บาท
ไพลเเห้งหนัก2บาท
เกลือป่นหนัก3บาท
มะขามเปียกหนัก4บาท
พริกไทยป่นหนัก5บาท
เอาทั้งหมดมาตำ คลุกเคล้ากันปั้นเป็นลูกกลอน ใสขวดไว้กิน ก่อนครั้ง3-5เม้ด เเก้โรคดั่งกล่าว


เเก้ปวดตามข้อ เบาไม่สะดวก
เม็ดข่อย บอระเพ็ด เเห้วหมู พริกไทย เปลือกทิ้งถ่อน เปลือกตะโกนา
เอาทั้งหมดเท่าๆๆกัน ตำให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้งเเท้ ปั้นเป็นลูกกลอนกิน วัน2-3เม็ด
ก่อนเข้านอน


เเก้หลังยอก เอวยอก คอยอก
ไพล ข่า ดินประสิว ส้มมะขามเปียก ยาดำ เกลือ ทั้งหมดหนัก4บาท
นำตัวยามาตำให้ละเอียด คลุกรวมกับน้ำผึ้นเเท้ กินก่อนนอน เเละเป็นยาระบายอ่อนๆๆเป็นยาระบายเส้นเส้นด้วย อาการยอกจะหายไป

 

ยาเเก้ฝีหัวเเรกให้ยุบหาย
เอาปูนกินหมาก ผสมกับเนื้อมะขามเปียกเท่าๆๆกัน ผสมขยำให้เข้ากันเเล้วฟอกฝีทีขึ้นทีเเรก ฝีจะยุบเร็วขึ้น

ใช้หัวว่านกลิ้งกลางหรือหัวมะรุมปุมเป่า ผ่าตำให้ละเอียดฟอกฝี ฝีจะยุบ ดูดหนองออกได้ไว้
สมุนไพรทีใช้รักษาฝี มีเยอะเดียวจะลงให้อีกนะครับ

ยาทีเเก้ปวดเอวเรื้อรัง
เอาเม็ดบวบ มาคั่วให้เหลืองๆๆบดเป็นผง ใส่โหลไว้ เวลาจะใช้
ตักผสมเหล้า ตักใส่ถ้วยเเล้วหยดเหล้าลงนิดหน่อย พอข้นๆๆ พอกต้องทีปวดเอว ปวดหลัง เรื้อรังได้ผลดี เวลาพอกก้เอาผ้ามาห่อพันเอาไว้

 

ยาเเก้ปวดเมื่อยในร่างกายเเทบทุกวัน
เอาเปลือก เเก่น เเละใบ ของต้นเบนหรือเบนขอหรือหนามเข็มหรือขวากไก่ สุดจะเรียกกันเเละครับ
เนื้อไม้กำลังหนุมาน เนื้อไม้กำลังเสือโคร่ง
เอาเท่าๆๆทั้งหมด ต้มกิน หลังอาหาร เป็นยาบำรุงกำลัง ธาตุพิการ เส้นเอ็นเเข็งเเรง
เเก้กษัยเหน็บชาได้อีกด้วย

ยาเเก้เสมหะในลำคอในทรวงอก
เอาผลมระกรูดมาคั้นเอาน้ำ ผสมเกลือ เเละน้ำตาลนิดๆๆหน่อยๆใส่ปากอมไว้ค่อยให้มันใหลลงไปในคอ ทำวันละ2-3ครั้งต่อวัน ตัวยาจะเข้าไปกัด เสมหะ ในลำคอ บรรเท่าอาการไอได้ด้วย (เเต่ปัจจุบันมียายาอมเเก้เสมหะมากขึ้น)

ถอนยาเบื่อ ยาพิษ
รากรางจืด ฝนกิน น้ำซาวข้าว
เเละรากต้นโลดทะลงฝนกินน้ำซาวข้าวก็หายได้
รากชองระอาเถามาฝนกินน้ำซาวข้าวก้ได้

ยาเเก้เลือดซ้ำใน เลือดคั่งในร่างกาย
เอารากสดๆๆของต้นลำใย มาต้มกับน้ำตาลกรวด กินน้ำครั้งละ 1ถ้วยชา หลังอาหาร3เวลา ยาจะขับเลือดทีคั่งค้างออกมาหมดได้หมด
เลือดเสีย ก้ออกมา
ออกมาทางทวารหนัก
เอาใบหนุมานประสานกลายมาสัก 1-5ช่อ ตำผสมเหล้ากินก็เเก้ได้ ซ้ำใน
หรือใบบัวบก1กำมือตำ กินก้ดี

ยาเเก้ไส้ติ่งอักเสบ
ฟ้าทะลายโจรหนัก1บาท
ดอกเบญจมาศหนัก2บาท
ใสน้ำต้มพอควร กินวันละสองชุด กินติดต่อกันไปเรือยๆๆไม่ช้าก็หาย โดยไม่ต้องผ่าออก

ยาเเก้เเขนขาชา อัมพาต ครึ่งตัว
เอาหญ่าเเพรกมาต้ม เคียวให้เหลือน้ำน้อยๆๆเวลากิน ผสมเหล้า นิดหน่อย กินก่อนอาหาร เเก้โรคดังทีว่ามา

เเก้อาเจียน คลื่นไส้ ทั้งวัน
เอาน้ำอ้อย7ถ้วยชาผสมกับน้ำขิง1ถ้วยชา เเบ่งกินให้หมด3ครั้ง ในวันเดียว หรือเอาน้ำอ้อยมาตั้งไฟให้ร้อนๆๆกินครั้งละ3เวลา ต่อ1เเก้ว เเก้อาเจียนคลื่นไส้ทั้งวัน

อีกขนานเอาหัวใชเท้าสดๆๆมาตำละเอียด ใส่น้ำผึ้งเเท้หรือไม่เเท้ก้ได้ ใส่หม้อต้มพอเดือดๆๆนำมาเคี้ยวกินเเก้คลื่นไส้อาเจียนได้ดี

 

ยาเเก้ระงับปวดฟัน
เอาดอกดาวเรืองมาต้มน้ำกิน
เอารากมะระสดๆๆมาตำพอกฟัน
เอาต้นพญารากเดียวหรือปลาไหลเผือกมาอุดตามช่องฟันทีปวด
เอาใบข่อยหรือต้นมาตำผสมน้ำเเละเกลือนิดหน่อย อมไว้เรื่อยๆๆๆ
เเต่เมือาหายปวดเเนะนำไปถอนออกเสีย ถ้าฟันมีหนอง เเนะนำ อมยาส้มถ้ามีนะ
ยาส้มคือยาแบบไหนไปเปิดเวปดูครับ

เเก้ก้างปลาติดคอ
บัวบก มาต้ม เเล้วกลืนน้ำลงไปเรือยๆๆจนก้างปลาทีเอาไม่ออก จะละลายไปครับ

ยานอนให้หลับเเบบ
เอาต้มไมยราบหรือหญ่าผีหมอบ สดๆๆหรือเเห้ง มาต้มกินบ่อย ๆๆนอนหลับสบาย
ถ้ากินมากๆๆๆก่อนนอน จะกล่อมประสาทนอนหลับสนิท
เอาต้นนมราขสีห์ชนิดใบใหญ่มาต้มกินก็ดี
เอาเมล็ดชุมเห็ดไทย คั่วให้เกรียม ชงน้ำกินเเทนชาก้ได้ดี
เอารากมะลิสดมาเพียงปลายนิ้วก้อย หรือ1กรัม เคียวกินก่อน ทำให้หลับสนิท (กินมากไม่ได้เดียวหลับยาวตื่นยาก) เเต่มันมียาแบบให้กินเเล้วหลับเเต่มันอันตราย ถ้าคนไปใช้ในทางไม่ดี ผมไม่ขอลงนะครับสูตรนี้ใช้ได้ผลเร็ว สมุนไพรครับ
เอารากมะลิสดมาตำเเช่เหล้า กิน (ตามสูตร รากยาว1นิ้ว หลับสบาย) เเต่ถ้าไมตื่น ให้เอาน้ำมะพร้าว อ่อน ให้กิน กรอกลงไปในลำคอ เเล้วล้างหน้า หรือใช้รากลางจืดก้ได้
จะทำให้ตื่น จากการหลับ (หมายเหตุ มันจะได้ผลหรือไม่ ตามเเต่ธาตุของคนทีใช้จะเเข็งมากหรือน้อย)

 

ยาเเก้ไข่ดันบวมหรือลูกหนู
เมื่อตื่นนอนมาให้เอาน้ำลายใต้ลิ้นมาทาทีเป็นลูกหนู ทาสามครั้ง ทำอยู่3วัน (ต้องกลั้นใจในขณะเเต้มน้ำลายทา)เเบโบราณหลายท่านเคยใช้เเละรู้จักกันเป็นอย่างดี

เอาหนามไมยราบหรือหญ่าผีหมอบ มาตำเอาน้ำมาทาทีเป็น ไม่ช้าจะยุบหายไปเอง
หรือหายาเเก้อักเสบมากินก็จะบรรเทา

ยาเเก้ปวดหัวไม่รู้จักหาย
เเก่นขี้เหล็ก ผักเสี้ยนผี เเมงลัก ทั้งหมดหนักเท่ากัน2บาท
เอายาใสหม้อต้มน้ำ3ส่วนต้มให้เหลือ1ส่วน กินวันละ4-5ครั้งต่อ1เเก้ว

เเก้ลมป่วง8ชนิด
อาการของคนเป็นลมป่วง ปวดจนบิดตัว อาเจียน เสียดสีข้าง น้ำลายไหล เมื่อยเเข้งขา มือเท้าฟกบวม กินอาหารไม่ได้ ปวดมวนในท้อง กายเหนื่อยเหงื่อเหนียว
เอาตัวยา เเห้วหมูนา ลูกสัก เเก่นสะเดา เเก่นสน ผลผักชี ทังหมดหนัก6สลึง
ขมิ้นเเละขมิ้นชัน เอาอย่างละ3เเว่น เอาต้มน้ำ ใสน้ำ3ส่วน เคียวจนเหลือ1ส่วน
กินเช้าเย็น ครั้ง1เเก้ว หาย

ขนานที2
เอาเปลือกหอยมา7เปลือก เผาไฟให้ไหม้ เเล้วนำมาตำให้ละเอียด เอาพริกไทยล่อนหนัก1บาท มาคั่วให้สุก เเต่อย่าให้ไหม้ เเล้วนำมาตำละเอียด เอาทั้งสองมาผสมกัน ใสเหล้าโรง พอประมาณ กิน3ครั้งในระยะใกล้ๆๆกัน หาย

ขนานที3
ให้เอาข่า(จะเป็นข่าลิงก็ใช้ได้) เอาสัก2-3หัวใหญ่ๆๆเผาไฟพอสุก ทุบใสหม้อต้ม เวลากิน เเทรกยาลมชนิดใดก็ได้ สามารถเเก้ลม เเก้ปวดท้องอย่างเบาเเละหนัก เเละลมป่วงได้ดี (เว้นปวดเฉพาะไส้ติ่งอักเสบ)

ยาเเก้นิ่วในท้อง
หอมดแง บานไม่รู้โรยดอกขาว รากคนทา สารส้ม หอมโทน เอาเท่าๆๆกันต้มกิน นิ่วจะละลายหายไปหรือสัพปะรดทั้ง5ต้มกินเเก้นิ่ว (หมายเหตุยาเเก้นิ่วมันมีเยอะมากจะลงให้เรื่อยๆๆนะครับ)

เเก้นิ้วในกระเพราะปัสสวะ
รากต้นบานไม่รู้โรย ดอกขาว1กำมือ รากมะละกอตัวผู้ 1กำมือนำมาสับเป็นท่อนๆๆใส่หม้อต้ม ใสน้ำ 3ส่วนเคียวให้เหลือ1ส่วน กินวันละ3ครั้งหรือเรือยๆๆ
นิ่วจะละลายออกหมดเเล

ยาเเก้หวัดเวลาเป็นหวัดน้ำมูกไหล ผมกินหัวหอมเเดง ก็หาย ละครับไม่ต้องกินยาอย่างอื่นเลย (กินสัก5-6หัวเเล้วเเต่จะชอบ)

ยาเเก้ฝีให้หนองออกไวๆๆหรือฝรสุกเร็ว
ข้าวเหนียว3หยิบมือ คั่วให้เหลือง หัวเเห้วหมู1กำมือตำละเอียด เกลือตัวผู้(เกลือทีมีปลายเเหลม) พริไทย5-6เม็ด เอาทั้งหมดตำให้เข้ากัน เเล้วผสมน้ำปูนกินหมาก ทาพอกทีเป็นฝี ดูดหนองออก ถ้าฝียังไม่สุกก็จะทำให้สุกเร็วขึ้น ดูดน้ำหนองออกหมด
ขนานที2
เมล็ดต้อยติ่ง เปลือกเพลา ตำผสมกันพอกฝี ดับพิษฝีได้ดี
ขนานที3
ต้นเเพงพวย ว่านหางเจระเข้ ดินสอพอง ฆ้องสามย่าน ใบลำโพลงนา ขมิ้นอ้อย ตำผสมกันพอกฝีทุกชนิด
ขนานที4
ใช้ใบสิงหโมรา ตำผสมเหล้า พอกรักษาฝี รักษาฝีทีเกิดมาเเต่เเรกให้ยุบหายไปเลย
ขนานที5
ใบเสลดพังพอน สด ตำผสมเหล้าพอก หรือเหงือกปลาหมอ ตำผสมเหล้า พอกฝีใหม่ๆๆจะยุบเร็วขึ้น ทีจะเเตกก้เเตกออกได้ไว ดูดหนองออกหมด

ยาเเก้คางทูม (เเก้มบวม)
เอารังหมาร่า มาฝนกับน้ำส้ม(ถ้าไม่ถูกกับน้ำส้มใช้น้ำมะนาวเเทนได้)ทาวันละ2-3ครั้ง
(เมือ่ก่อนให้คนเกิดปีเสือเขียนใสเเก้มทีเป็นก้หายเเล)

ยาเเก้ไฟรามทุ่ง
(บวมเเดง ร้อน ขึ้นตามบริเวณ ผิวหนัง เเล้วค่อยๆๆรามออกไปจนรอบ ไข้จะขึ้นสูงเเละอาจจะตายได้เมื่อมันชนรอบกันเเละกัน) เอาถั่วเขียว มาตำละเอียด ผสมน้ำซาวข้าว พอกทีเป็น (เอาผ้าพันไว้ด้วย) ไม่ช้าจะหายดี

ขนานที2
เอาใบเสลดพังพอนสด ตำผสมเหล้า ทาบ่อยๆๆก็หายได้

ขนานที3
ใช้ต้น เเละใบ ของ ผักคราดหัวเเดง ตำผสมเหล้า พอกตลอดวัน น้ำกิน กากพอก
(เเก้โรคงูสวัดได้ด้วย)
ยาเเก้ลมพิษ ข่าตำผสมเหล้าทาหรือเเป้งข้าวหมากมาบดผสมเหล้าโรง ทาเเก้ลมพิษ
หรือทาแป้งเย็น หรือใบเสลดพังพอนนำมาขยี้ทา หรือ
ใบตำลึงก็บรรเทาอาการคันได้

 

ขออนุญาตเก็บบันทึกไว้ และรวบรวมไว้พิมพ์เป็นตำรา ในโอกาสต่อไปค่ะ

 

ขอบคุณมากนะคะ ถ้ามีภาพประกอบสมุนไพรที่เป็นตัวยาคงจะเป็นประโยชน์มากๆค่ะ

 

มีครับผม เดียวจะลงให้ดูด้วย ภาพยา โหลหาในเวปนี้เเละครับ เอิกๆๆๆๆ ตำรายา ผมได้รับจากถ่ายจากคุณพ่อ เเต่ไม่ได้ทำสักที จะทำกินเองเสียมากกว่า ยังไม่มีทุนทำรักษาคน
เเต่ก็จบหลักสูตรสมุนไพร ว่าน เเละยา มาเเล้ว เมื่อสมัย สมเด็จย่ายังอยู่นะครับ
อบรมศึกษาสมุนไพร ว่าน ยาต่างๆๆ
ผมจะถ่ายทอด ให้เเจกความรู้กันไปครับผม
ไม่หวงครับ เเต่ต้องไปทำกินกันเองนะครับ เอิกๆๆๆๆๆ
บางชนิดได้ผลเเละก็ไม่ได้ผล ตามเเต่ละธาตุในร่างกายคนเรานะครับ

 

ขออนุโมทนาผู้ใจบุญ ท่านเจ้าของกระทู้ผู้นี้มากๆๆเลยนะครับเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์มากสำหรับคนรุ่นใหม่ๆๆ อย่างผมแต่ก็คงจะติดอยู่ที่ว่าการเปรียบเทียบน้ำหนักและการหาตัวยาคงต้องใช้เวลาค้นหากันอีกแน่นอน เพราะตัวยาบางตัวยังไม่รู้จักและไม่เคยเห็นกันเลย แต่ก็จะพยายามค้นหามาทำรับประทานให้จงได้ ขอขอบพระคุณจากใจจริงครับ จะติดตามตอนต่อไปนะครับท่านเจ้าของกระทู้ สู้ๆๆครับ

 

ถ้าร้อนใน เป็นแผลในช่องปาก หละครับ

 

ร้อนใน เป็นเเผลในปากหลอครับ
ก็มียาเขียว ทีเขาทำเป็นผง นำมาชงกินครับ
รากหญ่าคา ผสมน้ำซาวข้าว ก้ได้ครับ
รางจืดเถา รางจืดต้น ตำผสมน้ำซาวข้าว ก้ได้ครับ รางจืดนี้เเก้ปอดบวม เเก้พิษ
ว่านน้ำ หรือว่านข่าจืด หรือขิงจืด ตำผสมน้ำซาวข้าวกิน ครับ
เถาย่านางหรือเถาวันล์เขียว ตำผสมน้ำนิดๆๆไม่มากเอาน้ำมากิน ก็ดีครับอันนี้เเก้โรค คอพอก คอไทยรอย ด้วยนะครับ
ขิงเเก่ๆๆ ตำเเล้วมาต้ม เเก้ร้อนในอย่างดี เลย
บอละเพ็ด ก็เเก้ร้อนใน
น้ำมะตูม แก้ร้อนใน ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องเสีย ขับเสมหะ ช่วยเจริญอาหาร

น้ำเก็กฮวย แก้ร้อนใน บำรุงตับ บำรุงประสาท บำรุงสายตา ขับลมในลำไส้

น้ำกระเจี๊ยบ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการไอ

น้ำรากบัว แก้ร้อนใน ลดไข้ บำรุงโลหิต ช่วยให้เจริญอาหาร

น้ำใบเตยสะระแหน่ ช่วยลดการกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ ช่วยทำให้สดชื่น

น้ำใบบัวบก แก้ร้อนใน กระหายน้ำ โรคปากเปื่อย ปวดศีรษะข้างเดียว

น้ำองุ่น แก้กระหาย ช่วยขับปัสสาวะ

ชาเขียว ช่วยคลายร้อน ผ่อนคลาย สร้างความสดชื่น

เฉาก๊วยน้ำเชื่อม แก้ร้อนใน กระหายน้ำ

เต้าฮวยเย็นฟรุตสลัด แก้ร้อน ในกระหายน้ำ ขับปัสสาวะ
มีเยอะครับ เอาเเค่นี้ไปก่อนนะครับ

 

ยาเเก้ปัสะวะไม่ออก
ให้เอาต้นน้ำนมราชสีห์มาต้มกินน้ำครับ

ใช้สารส้มยัดเข้าไปในไส้เเตงกวา ให้เต็มพอควร นำไปหมกไฟอ่อนๆๆพอสุก
นำมาคั้นเอาน้ำมากิน จะทำให้ถ่ายสบายเลยครับ

ยาเเก้ฉี่บ่อย ปัสสวะบ่อยๆๆ
หรือฉี่รดทีนอน
ใช้ต้นทองพันชั่งเอาทั้ง5เลยครับ หั่นตากเเดด ใสหม้อดินต้มกินน้ำ หาย

ยารักษาโรคเรื้อรังเเบบพิเศษ
กินไข่จิ้งจกดิบ3ใบ
อาทิตย์ละครั้ง
จนครบเก้าใบ เสกด้วยคาถา นัตถิ กุฏฐัง ภันเต กุฏฐัง หะเว วินัสสตุ

ยาเเก้โรคเริ่ม
ใช้เมล็ดข้าวโพดอ่อนๆๆทีเป็นน้ำนม ตำละเอียด ผสมน้ซาวข้าว ทาทีเป็นเริ่ม
ใช้ใบเสลดพังพอนสดๆๆๆตำผสมเหล้านดหน่อยพอกทาตรงทีเป็นเริ่ม
โรคเริม คือแบบไหน มีลักษณะ คันๆๆเเสบๆๆมีตุ่มเม็ดใสๆๆขึ้นเป็นกลุ่ม รอบๆๆจะผื่นเเดง ชอบเกิดตาม นิ้ว ปาก เเก้ม จมูก ตา หู ก้น อวัยวะสืบพันธ์

ยาเเก้โรคงูสวัด (เเก้ไม่ทันม่องอย่างเดียว)
เอาเปลือกหอยหอยโข่งมา3ฝา เผาไฟให้สุก ตำให้ละเอียดจนเป็นแป้งผสมน้ำส้มสายชูอย่างเเท้ ทาทีเป็นโรคงูสวัด วันละ3ครั้งหายเเล
ขนานที2
ใบน้ำเต้า ใบมะระ ดินสอพอง มูลโคหรือขี้วัว เอามาตำ ละเอียดผสมเหล้า28ดีกรีพอประมาณ
ขนานที3
ใช้ใบเสลดพังพอน สดๆๆ15-20ใบตำผสมเหล้าโรง เเล้วพอกทา
วันทีสองตำผสมน้ำซาวข้าว เอาน้ำซาวข้าวเข้นๆๆ มาเอากิน กากพอกกินก่อนอาหาร3เวลา
ทาพอก หาย 2-3

 

ยอดยาหญิงสตรี กินมีเสน์ห เเรง
ขิ้นอ้อย
ขมิ้น
พริกไทยล่อน
หัวไพล
กระชาย
หัวเเห้วหมู
เอาหนัก10บาททุกตัวยา เอามาหั่นตากเเดด เเล้วนำมาตำให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้งเเท้ ปั้นเป็นลูกกลอน กินก่อนอาหาร เช้า เย็น เเละก่อนนอน ยาไม่ทันหมดอวัยวะทางเพศรัดรูปเหมือนสาวเเรกๆๆ


ยาทำให้ช่องคลอดเล็กลง รัดรูป
เทียนดำหนัก5บาท
เทียนขาวหนัก4บาท
ตรีกฏุกหนัก2บาท
รากเสนียดหนัก2บาท
สารส้มหนัก1บาท
หัวไพลหนัก4บาท
ขมิ้นอ้อยหนัก2บาท
ครั่งหนัก2บาท
ลูกเบญกานีหนัก1บาท
ฝางหนัก2บาท
ยา1หม้อ ใสน้ำสามส่วน ต้มให้เหลือ1ส่วน
กินวันละ1ถ้วยชา วันละ2ครั้ง ช่องคลอดเล็กลง


ยาดองเหล้า ให้มดลูกเเห้ง เเม่เเข็งเเรงหลังคลอดบุตร
เปล้าน้อย เปล้าใหย่ เเสมทะเท เจตมูลเพลิง จันทร์ทั้งสอง ดีปลี พริกไทย ขิง ลูกจันทร์ ลูกกระวาน ดอกจันทร์ กานพลู
นำมาเท่าๆๆกันดองเหล้า นำมาตำพอละเอียด ห่อผ้าขาวดองเหล้าไว้ก่อน คลอดลูกสัก2-3เดือน พอคลอดลูกเเล้วสามวัน จึงตักมากินครั้ง1ถ้วย ก่อนอาหารสัก15นาที3เวลา สุขภาพเเม่เเข็งเเรงสมบูณร์

ยาให้คุณเเม่คลอดลูก ชักมดลูกเข้าอู่ได้ไว
รากมะยมตัวผู้ รากส้มป่อย รากมะขามขี้เเมว ใบขนุน ยางเเสมทะเล ตัวยาหนัก1บาทเท่ากัน
ใส่หม้อ ต้มน้ำ3ส่วน ให้เหลือ1ส่วน
กินครั้งละ1ถ้วย ก่อนอาหาร เช้าเย็น ทำให้มดลูกทีอักเสบหรือหย่อนยาน หลังคลอดบุตรให้กลับคืนทีได้ไว้

อีกขนานที2
รากมะกรูด รากมะนาว รากมะปริง รากมะปราง ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักพังพวย รังหมาร่า
กากตาล เอาตัวยาทั้งหมดหนัก1บาทเท่ากัน
ใส่หม้อต้มกิน เช้าเย็น 1ถ้วยชา กินไปจนกว่ายาจะจืด
เเก้อาการไข้เเละมดลูกอักเสบหาย

 

สมุนไพรทีใช้รักษามะเร็ง
กระเบา กระเบาน้ำ กระเบาเบ้าแข็ง กระเบาใหญ่ กาหลง เบา ข่อย กักไม้ฝอย ส้มพอ ทองพันชั่ง ทองคันชั่ง หญ้ามันไก่ พญาสัตบรรณ สัตบรรณ ตีนเป็ด ตีนเป็ดขาว ชบา ยางขาว หัสบรรณ ราชดัด กระดัด ฉะดัด กาจับหลัก เท้ายายม่อมน้อย มะดีความ ดีคน พญาดาบหัก สะบ้าลิง กระเจี๊ยบ หมามุ้ย หญ้าปักกิ่ง เหงือกปลาหมอดอกม่วง แก้มหมอเล จะเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน แพงพวยฝรั่ง แพงพวยบก นมอิน ผักปอดบก
อันนี้ผมรวมยอดไว้ให้เลยนะครับ เเต่เป็นตัวยา เเบบใช้ตัวเดียวรักษามะเร็ง
กาฝากพุทธา ก็ใช้รักษามะเร็งดีนัก ประดงเลือดม้า ประดงเลือดเเดง ประดงเลือดขาว
นี้ก็ใช้รักษามะเร็ง




โรคมะเร็ง เป็นปัญหาที่ทั้งโลกกำลังแสวงหาทางเลือกในการดูแลรักษา เพราะโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ
และระยะเริ่มของโรคมะเร็งมักจะไม่แสดงอาการใด รวมถึงการรักษาทางการแพทย์ก็จะมีแต่ยาแผนปัจจุบัน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง
อีกทั้งผลข้างเคียงก็สูงมากด้วย ดังนั้นการรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรจึงเป็นแนวทางเสริมอีกทางหนึ่ง

มะเร็ง คือ อะไร
มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต
มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติและในที่สุดก็จะทำให้เกิดการตาย
ของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการ เจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์มะเร็งพวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะ
เรียกชื่อ มะเร็ง ตามอวัยวะนั้นเช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น

เท่าที่มีรายงานไว้ในขณะนี้ มะเร็งที่พบในร่างกายมนุษย์มีมากกว่า 100 ชนิด มะเร็งแต่ละชนิดจะมีการดำเนินของโรคไม่เหมือนกัน เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง จะมีการดำเนินชนิดของโรคที่รุนแรง ผู้ป่วยจะมีชีวิตการอยู่รอดสั้นกว่าผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น

อาการและอาการแสดงของโรคมะเร็ง
1.ในช่วงแรกขณะที่ร่างกายมีเซลล์มะเร็งเป็นจำนวนน้อย จะไม่แสดงอาการใดเลย
2.มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญาณอันตราย 9 ประการ ซึ่งควรไปพบแพทย์ เพื่อการตรวจค้นหาโรคมะเร็ง หรือสาเหตุอื่นๆ
ที่ทำให้มีสัญญาณเหล่านี้ เพื่อการรักษาและแก้ไขทางการแพทย์ที่ถูกต้องก่อนที่จะกลายเป็นโรคมะเร็ง หรือเป็นมะเร็งระยะลุกลาม
3.มีอาการป่วยของโรคทั่วไป เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ร่างกายทรุดโทรม ไม่สดชื่น และไม่แจ่มใส
4.มีอาการที่บ่งบอกว่า มะเร็งอยู่ในระยะลุกลาม หรือเป็นมาก ขึ้นอยู่กับว่าเป็นมะเร็งชนิดใดและมีการกระจายของโรคอยู่ที่
ส่วนใดของร่างกาย ที่สำคัญที่สุดของอาการในกลุ่มนี้ ได้แก่ อาการเจ็บปวดมาก

สัญญาณอันตราย 9 ประการที่ทุกคนควรจะจำไว้เพื่อสุขภาพที่ดี ได้แก่
1.มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระ และปัสสาวะ เช่น ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ หรือปัสสาวะเป็นเลือด
2. กลืนอาหารลำบาก หรือมีอาการเสียด แน่นท้องเป็นเวลานาน
3. มีอาการเสียงแหบ และไอเรื้อรัง
4. มีเลือดหรือตกขาวที่ผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็น
5. แผลซึ่งรักษาแล้วไม่ยอมหาย
6. มีการเปลี่ยนแปลงของหูดหรือไฝตามร่างกาย
7. มีก้อนที่เต้านมหรือส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
8. หูอื้อหรือมีเลือดกำเดาไหล
9.อยากนอนทั้งวัน นอนได้ตลอดเวลา ไม่มีแรง

การสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิดต่างๆ
อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย
1. มะเร็งปากมดลูก
อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้งที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติ อาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูด เนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้
2. มะเร็งในมดลูก
อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อ หรือมีอาการบวมในช่องท้อง
3. มะเร็งรังไข่
อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์
มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปวดหลัง
4. มะเร็งในเม็ดเลือดขาว (Leukemia,Leukeamia:ลูคีเมีย)
อาการ เหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติ มักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่าย
โดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาการปวดตามข้อต่างๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืด และเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวม ที่ด้าน
ซ้ายของช่องท้อง
5. มะเร็งปอด
อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำ หนักลดอย่างรวดเร็ว เจ็บหน้าอกและหายใจลำบาก
หรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
6. มะเร็งตับ
อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด
สมุนไพรที่รักษามะเร็งตับ เช่น เห็ดหลินจือ
7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ
8. มะเร็งสมอง
อาการ ปวดศีรษะนานๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่น อาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียวๆ
แดงๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือการเป็นลมโดยกะทันหัน อวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่น
มีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราว ควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย
9. มะเร็งในช่องปาก
อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือที่ลิ้นเป็นเวลานาน มีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรัง
ที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำ หรือเป็นเวลานาน
10. มะเร็งในลำคอ
อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอ
ที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึก ได้
11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร
อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว อาเจียนออกมาเป็นเลือด ท้องอืด หรืออาหารไม่ย่อยบ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อน
เนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ
12. มะเร็งทรวงอก
อาการ มีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนม บวม หรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้น มีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้
บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานาน ควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอก
โดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่า ซีสต์
ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจน
13. มะเร็งลำไส้
อาการ น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว มีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ
ข้อสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้ว คือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวาร
แต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่น คือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้
14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
อาการ มีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบางส่วนของร่างกาย
15. มะเร็งผิวหนัง
อาการ มีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานาน ตลอดจนไฝ หรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด
นอกจากนี้ อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่า เมลาโนมา (Melanoma) คือ เนื้องอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น
กระจุดด่าง หรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติ

มะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย
เพศชาย มะเร็งตับ มะเร็งปอด
เพศหญิง มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม

การรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพร
ที่ผ่านมามีงานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพถึงการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า
พฤติกรรมเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็ง

โดยร่างกายของคนเรามีเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ถ้าร่างกายเรามีภูมิต้านทานที่ดีมีความสมบูรณ์ แข็งแรง ก็จะสามารถ
ต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ ดังนั้นระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกทำลายด้วยวิธีต่างๆ ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อมะเร็ง ได้แก่ การกินอาหารที่ไม่ถูกต้อง
อาหารมีสารพิษ ไม่สะอาด มีสารก่อมะเร็ง ความเครียด การอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารพิษหรือสารก่อมะเร็ง ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้
ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทั้งสิ้น

ดังนั้นการป้องกันการเกิดมะเร็งที่ดี คือ การมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่เน้นเป็นอาหาร
ธรรมชาติ เส้นใย (fiber) สูง เช่น ผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วย วิตามิน เอ อี ซี สูง เช่น ผักใบเขียว ผักตระกูลกะหล่ำ ตำลึง โหระพา ข่า กระเทียม
หัวหอม กระเทียม มะระ

นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่เป็นอาหารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งและมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ได้แก่ ขมิ้นชัน กุยช่าย กะหล่ำปลี
กะหล่ำดอก ผักคะน้า บรอคโคลี่ มะแว้งเครือ มะแว้งต้น มังคุด หอมแดง กะเพรา โหระพา กระเทียม งา ชะเอม ดีปลี ขมิ้นอ้อย ตำลึง ขิง
ตะไคร้ น้ำเต้า มะเขือเทศ มะเขือพวง มะระขี้นก มะขามป้อม

การรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรนั้น ควรรับประทานอาหารเป็นมังสวิรัติ(เลี่ยงโปรตีน)
และไม่ว่าการรักษาโรคมะเร็งด้วยสมุนไพรหรือด้วยวิธีอื่น เรื่องจิตใจก็เป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นคนรอบข้างต้องให้กำลังใจคนไข้อย่างยิ่ง
ท่านที่ป่วยก็ควรทำสมาธิ(หายใจเข้า ภาวนา “พุท” หายใจออก ภาวนา “โธ”) เลี่ยงความเครียด และที่สำคัญ ถือศีล 5(เป็นอย่างน้อย)
พอดีผมไปเปิดเวปเจอ มะเร็งก็เลยนำมารวมไว้ในกระทู้ผมด้วย
ยอดยาทีผสมหลายตัว ผมจะลงโอกาศหน้านะครับ เอาเเค่ ยา1ต้น ก็รักษามะเร็งได้
ผมก็เลยลง เเบบไม่ผสมตัวยาหลายๆๆๆอย่าง

 

ครับตำรายาของผม มันเยอะเเต่ทีผมใช้ก็มีเยอะพอควร
มันเป็นตำรา สมุยข่อย ดำเเละขาว บางเล่มมีคาถาอาคมด้วย ปนๆๆกันอยู่
นับๆๆดูสองตู้ใหญ่ๆๆก็คงจะนำมา ลงไม่หมดหลอกครับ ผมจะเน้นเฉพาะยาทีสำคัญกับโรคในปัจจุบันนะครับ เเละก็ตำรายาของหลวงปู่สุข หลวงพ่อปาน เเละตำรายาเก่าๆๆจากเกจิดังๆๆหลายท่าน ผมเป็นคนชอบสะสมของเก่าๆๆครับ ตำราสมุยข่อยเลยเยอะ
ก็เลยนำความรู้มาบอกต่อๆๆกันไป เเต่ๆๆผมดูๆๆๆเเล้ว ตำราส่วนใหญ่มักจะมีตัวยาซ้ำกัน ไม่ว่าจะมาจากตำราไหนก็ตาม ก้คล้ายๆๆกันหมดเเละครับ
ขึ้นอยู่กับว่า ตัวยาเเต่ละภาคนั้น มันมีไม่เหมือนกันนะครับ
อันนี้คือเกร็ดความรู้เล็กๆๆน้อย จากผมครับ

 

วันนี้ผมจะลงรูปสมุนไพรไปด้วยเเละอธิบาย ยาไปด้วยเลย
กระดูกไก่ดำ(ทั่วไป) เฉียงพร้าบ้าน เฉียงมอญ มอญผี สันพร้ามอญ เฉียงพร้าม่าน เกียงพา สำมะงาจีน(ภาคกลางใช้เรียก)
กระดูกไก่ดำ(จันทบุรี่)
ปองดำ(ตราด)
กุลาดำ บัวลาดำ(ภาคเหนือ)
สรรพคุณทางยา++++++
นำใบมาตำเเล้วคั้นเอาน้ำมาดื่ม เเก้ปวดหัว โรคหืดหอบ ไอ เเก้อัมพาต
นำใบมาตำผสมเหล้ากินเเก้ไอ อาเจียนเป็นเลือด เเก้ช้ำใน ขับปัสาวะ เเก้บวมตามข้อมือเเละเท้า
กากของใบนำมาพอกเเก้พิษของสัตว์ กัดต่อย ได้ใบเเละยอด นำมาต้มกินเเก้ร้อนใน เเก้ไข้ ขับเลือดให้ข้น กระจายไปทั่วร่างกาย
รากเเละใบนำมาต้มเเก้ผื่นผดคันได้ดี

 

กระโดน(ภาคกลาง-ใต้)
ปุยกระโดน(ใต้) ปุย(เหนือ) ปุยขาว พุย(เชียงใหม) ขุย(กระเหรียง-กาญจนบุรี่)
เส่เจ๊ะอะบะ(กระเหรียง-เเม่ฮ่องสอน) หูกวาง(จันทบุรี่)
กะนอน(เขมร)
ใช้เปลือกเเละผล เป็นยาสมานเเผล
ดอกเเละน้ำจากเปลือกสด ใช้ผสมน้ำผึ้นเป็นยาเเก้หวัด เเก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ เเละเป็นยาบำรุงสตรีหลังคลอดดบุตร
ผล เป็นยาช้วยให้ย่อยอาหาร
ราก เปลือก เเละใบ ใช้ทำเป็นยาเบื่อปลา
เมล็ด เป็นยาเเก้พิาทุกชนิด

 

กระต่ายจันทร์
หญ้าจาม(เชียงใหม่)
กระต่าย หญ้ากระต่ายจาม กระต่ายจาม กระต่ายจันทร์(ภาคกลาง)
หญ้ากระจาม(สุราษฏร์)
หญ้าจาม(ชุมพร)
เหมือดโลด(โคราช)
โฮ่วเกี๋ยอิ้มเจี๋ยะเช้า(จีน)
ลำต้นใบ เป็นยาเเก้ระงับพิษ ดับพิษสุรา
เเก้โรคเยื่อบุตาอักเสบ บำรุงสายตา โรคสิดสีดวงทวาร โรคไข้มาเลเรีย
โรคฟันผุ ใช้ต้นสดๆๆตำพอกเเก้มข้างทีปวดฟันฟันผุ
โรคเกียวกับเดินทางอาหาร
เมล็ด ใช้เป็นยาขับพยาธิ

 

: กระทุงลาย โชด (ภาคกลาง); มะแตก-เครือ มักแตก. มะแตก (ภาคเหนือ-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ). นางแตก (นครราชสีมา)
ลำต้น :ใช้เป็นยาแก้วัณโรค แก้ไข้มาลาเรีย
ใบ :ใช้เป็นยาแก้โรคบิด กระตุ้นประสาท และใช้เป็นถอนพิษฝิ่น
วิธีใช้ด้วยการต้ม หรือคั้นเอาน้ำกิน
เปลือก :ใช้เป็นยาทำแห้ง
เมล็ด :นำมาตำให้ละเอียดใช้พอก หรือกิน เป็นยาแก้โรคอัมพาต และโรคปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ยาแก้ไข้ เมื่อคั้นเอาน้ำมันจากเมล็ด: ใช้เป็นยาแก้โรคเหน็บชา ขับเหงื่อ เป็นต้น
ผล: ใช้เป็นยาแก้ลมจุกเสียด บำรุงเลือด และใช้เป็นยาถอนพิษงู เป็นต้น