ใครรู้จักหรือเคยไปวัดถ้ำดาวเขาแก้วขอรายละเอียดด้วยครับ

ผมกำลังจะบวชครับ อายุจะครบ20 แล้วครับ ผมอยู่ที่โคราชครีบ
ตอนแรกอยากจะบวชวัดเขาแจงธรรมที่สีคิ้วครับเพราะเคยบไปปฏิบัตธรรมเข้าค่าย บวรกับโรงเรียนที่นั่น เห้นว่าน่าจะสงบดี แต่เมื่อวานนนี้คุณน้าผมบอกว่า ให้บวชวัดไหนก็ได้ที่พาเราปฏิบัตจริง ๆ น้าก็บอกว่าน้าแนะนำวัดถ้ำดาวเขาแก้วครับที่ปากช่อง มันไกลมา น้าบอก ผมเลยอยากได้ข้อมูล เพราะหลังจากที่น้าบอก ผมก้ฝันว่าไปวัดนั้นแล้วเห็นเหล่าไม่รุ้จะเรยีกไรดี เทพ เทวดา หรือผี หรือมา เยอะแยะไปหมด รวมถึงพยานาคด้วยครับ กล้า ๆ กลัว ๆ (b-wow) ไม่ทราบว่าผมคิดมากไปหรือป่าว อยากให้ท่านพี่ ๆ แนะนำทีครับ ว่าพระท่านจะพาปฏิบัตแบบไหน เวลาปฏิบัติสั้น ๆได้มั้ยครับ 2อาทิตย์ หรือ อย่างมาก 1เดือน อะไรอย่างงี้ครับ ผมจะบวชเดือนพฤศจิกายนรี้ ขออนุโมนทนาด้วยครับ
ขอบคุณครับ

 

ที่วัดถ้ำดาวเขาแก้วนั้น ผมเคยไป เพราะว่าแม่บุญธรรมของผมเป็นคนโคราช ดังนั้น การทำบุญที่โคราชจึงไปบ่อย และที่วัดถ้ำดาวเขาแก้ว มีพระอาจารย์ประทวน เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ที่วัดมีการปฏิบัติธรรมบ่อย
ในเรื่องของพระอาจารย์ประทวนนั้น ครั้งหนึ่งมีงานจัดพุทธาภิเษกที่วัดหนองโจด โคราช ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้านแม่บุญธรรมผม ในงานมีการพุทธาภิเษก พระพุทธรูปเพื่อแจกให้กับญาติโยม พ่อขาวแม่ขาวที่มาปฏิบัติธรรม พระอาจารย์ประทวน คือ ท่านนั้งปรกเดี่ยวในโบสถ์ วันที่ 2 โดยวันแรกคือหลวงพ่อ อินทร์ วัดบัว โคราช วันที่ 2 พระอาจารย์ประทวน และปิดท้ายคือครูบากฤษณะ ในวันที่ 3
เหตุการณ์ จะถือว่าอัศจรรย์ก็ได้คือ ในวันที่พระอาจารย์ประทวนนั่งปรกนั้น ท่านนั้ง 3 ชั่วโมงไม่ลุกหรือเปลี่ยนอริยาบทเลย และในขณะนั้นนั้งปรกในฦโบสถ์นั้น ก็มีละอองฝนโบรยมา แม่จะเป็นเดือน พฤศจิกายน ก็ตาม เพราะงานจัดก่อนกฐิน 3 วัน ช่วงปลาย ๆ พฤศจิกายน ถ้าจำไม่ผิดวันอาทิตย์ที่ 27
และเหตุการอันเป็นมงคลคือ ได้มีสายรุ้งพาดผ่าน ข้ามโบสถ์ เป็นแบบคล่อมโบสถ์ สวนงามมาก พ่อขาวแม่ขาวผู้ปฏิบัติธรรมเห็นกันทั่วหน้า แสดงความดีใจ และโมทนากันเป็นที่สุด

 

ส่วนในเรื่องของถ้ำดาวเขาแก้วนั้น พระอาจารย์นพดลแห่งวัด หนองโจดที่จัดงานพุทธาภิเษกนั้น ท่านเป็นเพื่อสหธรรมมิกกับพระอาจายืประทวน ท่านได้เล่าว่า พระอาจารย์ประทวนท่านสามารถนอนสมาธิในโรงศพได้ 7 วันโดยไม่ออกจากโลงเลย ( อันนี้ ต้องไปเรียนถามรายละเอียดกับพระอาจาย์ประทวนเอาเองด้วยเพื่อพิสูทธิความจริง ) และส่วนที่ถ้ำนั้น ผมเคยไปมา และได้ถามผู้มีญาณวิเศษว่าในถ้ำมีพญานาคไหม ท่านบอกว่ามีพญานาคอาศัยอยู่ด้วย
และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น พระอาจารย์นพดล ท่านเล่าว่า เมื่อตอนที่ไปนำมวลสารเพื่อมาสร้างพระสาริกา และผีเสื้อจำแลง ของครูบากฤษณะนั้น ท่านและคณะรวมถึงพระอาจารยประทวน ได้ลงไปในถ้ำดาวเขาแก้ว ส่วนที่ลึก และไม่ให้คนเข้าไป ท่านบอกว่ามันเป็นปล่องหรือรูลงไป ต้องใช้ผะอง พาดหย่อนลงไป ในนั้นไม่มีแสงสว่างเข้าไป เป็นรูเล็ก ๆ ลงได้ทีละคน เมื่อลงไปถึง ท่านบอกว่า เป็นห้องโถงกว้าง มาก ๆ ขนาดเท่าสนามฟุตบอลเลย และในนั้นได้มีดิน ศักดิ์สิทธิ์ที่นิยมนำมาเป็นมวลสารด้วย ชื่ออะไรผมจำไม่ได้แล้ว และมีสิ่งอัศจรรย์อีกมากใน้น ที่ท่านไม่ได้เล่าให้ฟัง ผมเองก็คอยโอกาสจะให้ท่านพาลงไปเหมือนกัน แต่ยังไม่ว่างจากงานสักที แต่ต้องไม่พลาดแน่
และเมื่อคุญกับพี่เจ แกเป็นลูกศิษท์ของหลวงพ่อพระฤาษีลิงดำ แกเป็นผู้หญิงที่เก่งและแกร่ง เป็นศิษท์ทีทันหลวงพ่อและได้รับใช้หลวงพ่อ แม้กระทั้งปัจจุบัน แกเองก็ได้มโนมยิทธิ และสามารถสื่อกับหลวงพ่อได้ด้วย พี่เจ บอกว่าที่ถ้ำดาวเขาแก้วนั้น มีพระธาติมาก แต่ต้องอธิฐานขอเทวดาในถ้ำก่อน และท่านจะเปิดให้ พี่เจเคยนำคณะผู้ปฏิบัติธรรม 2-3 คนเข้าไปด้วย แกบอกว่า ได้พระธาตุออกมามาก ( สำหรับพี่เจได้มาก แต่คณะอื่น พี่เจบอกว่า ไม่รู้นะว่าจะได้มากหรือเปล่า ) และเรื่องที่น่า รำคาญใจคือ พวกแม่ชีบางคน ที่ชอบพูดมากและหวงของ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ยึดมั่นเป็นของตัวเอง พูดนู่นพูดนี่ พี่เจเลยไม่นำพระธาตุกลับ มอบให้แม่ชีคนนั้นไปเลยทั้งหมดเพื่อตัดปัญหา ได้เราก็บอกว่า ให่ไปทำไมน่าเสียดาย น่าจะเก็บไว้ เพื่อไปบรรจุที่พระเจดีย์ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย

นั่นคือเรื่องราวบางประการของถ้ำดาวเขาแก้ว ที่กว้างใหญ่มาก และลี้ลับ อ้อ พระอาจารย์ประทวนท่านก็เป็นลูกศิษท์ของหลวงปู่เทพโลกอุดร ( พระอาจารย์นพดลท่านบอก เพระผมถามท่านว่า ทำไมมีรูปของหลวงปู่เทพโลกอุดอนด้วยที่วัดและในถ้ำ ท่านบอกว่า ท่านอารย์ประทวนท่านสื่อกับหลวงปู่เทพ ฯ ได้ อันนี้ ไม่รู้นะครับไปพิสูทธ์ถาเอาเองจากพระอาจารยืประทวน )
แต่ความศักดิสิทธืนั้น มีมากที่ถ้ำดาวเขาแก้ว อันนี้ กล้าการันตีเลยทีเดียว ครับ

 

อนุโมทนา ครับ ถ้ารู้ตัวว่า มีเวลาบวชน้อย ก็ควรปฏิบัติให้เต็มที่ครับ โดยเฉพาะ ศีล สมาธิ ศีลอย่าให้ขาดตกบกพร่อง วินัยอย่าให้ผิด เหมือนกับที่เรารู้ว่า เหลือเวลา 2 อาทิตย์หรือ 1 เดือน แล้วก็จะต้องตาย เราก็ควร ปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ เท่าที่จะทำได้ ครับ

 

อนุโมทนาสาธุด้วยครับที่จะบวช
และที่จะไปอยู่ที่วัดถ้ำดาวเขาแก้วด้วยครับ

ผมเองเพิ่งกลับจากการไปปฏิบัติธรรมที่วัดนี้มา
เมื่อวันที่ 16/9/07 ที่ผ่านมานี้เองครับ
ไปมา 9 วัน 9 คืน นอนในถ้ำตลอดครับ
เงียบสงบมาก บางคนอาจกลัว ไม่กล้านอนในถ้ำก็ได้

ถ้ำมี 4 ถ้ำ ,3 ถ้ำ เป็นถ้ำเปิดเผย
อีก 1 ถ้ำ เป็นถ้ำที่ยังไม่เปิดเผยเป็นสาธารณะนัก
อย่างที่คุณ 33 เล่าไว้นั่นแหละครับ

2 ถ้ำแรก เป็นถ้ำที่เชื่อมต่อถึงกันได้
กว้างประมาณ 10 บางช่วงก็กว้างเป็น 100 เมตร
ส่วนความยาว ถ้ำแรกน่าจะ ซัก 100 เมตร
แต่ถ้ำที่ 2 นี่ยาวกว่า น่าจะ 300-400 เมตร
จุคนได้เป็น 1000 คน หรือมากกว่านั้น

ในบริเวณวัดมีศาลาหลักๆอยู่ไม่กี่หลังครับ
แค่ 3 หลัง ซึ่งอยู่ที่เชิงเขา
คือกุฎิเจ้าอาวาส, ศาลาใหญ่ และโรงทาน
ที่เหลือก็จะเป็น โรงนอนของญาติ-โยม
และมีกุฎิพระอีก น่าจะ 5-6 หลัง อยู่บนเขาเป็นส่วนใหญ่

การปฏิบัติกรรมฐานหลวงพ่อท่านสอนทั้งสมถะและวิปัสนา
ซึ่งสมถะท่านจะใช้แบบกำหนดยุบ-พอง
คล้ายๆกับของหลวงพ่อจรัญวัดอัมพวัน สิงหบุรี
แต่ท่านจะปล่อยให้เป็นสมถะ คือเข้าฌานก่อน
แล้วค่อยเดินวิปัสสนา ไม่ตั้งหน้าตั้งตาเดินวิปัสนาเลย
เหมือนวัดอัมพวันครับ
และท่านก็จะไม่ปล่อยให้นั่งสมาธิแบบค่อยๆให้จิตรวม
แบบสายพุธ-โธ ด้วยครับ เพราะกว่าจิตจะรวมลงได้
จะใช้เวลานาน ท่านจะมีเทคนิคในการกระตุ้นให้
ผ่านฌาน 2 ไปได้เร็วๆเข้าสู่ฌาน 3-4 ต่อไป

หลวงพ่อท่านรู้จิตรู้ใจเราหมดนั่นแหละครับ
เวลาท่านนำนั่งสมาธิก็คอยตั้งใจฟังให้ดี
บางทีท่านก็จะเทศน์เจาะจงมาเพื่อเราคนเดียวก็มี

ไปดูข้อมูลอื่นๆของวัดนี้เพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=92125

และที่นี่
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=719296

 

ร่วมทำบุญและปฏิบัติธรรมปาริวาสกรรมกับหลวงพ่อประทวน แห่งถ้ำดาวเขาแก้ว
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->

ขออนุโมทนาสาธุกับพระภิกษุสงฆ์ทุกๆรูป
และอุบาสก-อุบาสิกาทุกๆท่าน ที่จะเข้าร่วมงานปาริวาสกรรม
ในครั้งนี้ด้วยนะครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

[b-wai] [b-wai] [b-wai]

แต่สำหรับท่านที่ไม่สามารถเดินทางไปร่วมได้
ก็สามารถบริจาคทรัพย์-ข้าวสาร-อาหารแห้งต่างๆ
เพื่อเลี้ยงพระ และผู้ปฏิบัติธรรมในงานนี้ได้
ซึ่งคาดว่าน่าจะร่วม 1000 คนโน่นแหละครับ

บัญชีสำหรับโอนเงินทำบุญนะครับ
ชื่อบัญชี พระครูประโชติบุญญาภรณ์
ธนาคารกรุงไทย สาขาโพธิ์กลาง
เลขที่ 323-0-00107-9​

<!-- / message --><!-- attachments -->

 

นี่ครับรูปของหลวงพ่อประทวน หรือพระครูประโชติบุญญาภรณ์
พระเกจิชื่อดัง แห่งวัดถ้ำดาวเขาแก้ว จ.สระบุรี

 

ที่วัดถ้ำดาวเขาแก้วของท่าน
มีการจัดงานปาริวาสกรรมทุกปรนั่นแหละครับ
ประมาณช่วง 20-29 เมษายน ของทุกปี

และในปีนี้ท่านไปจัดที่วัดหนองพลวงน้อยเพิ่มเติมด้วยครับ


<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>




</FIELDSET>
<!-- / attachments --><!-- sig -->

____________________________________________________________
เชิญทำบุญบวชพระ-เณร 80 รูป+ผู้ปฏิบัติธรรม 1468 คน ดูรายละเอียดที่http://www.palungjit.org/board/showt...d3ca14&t=82906
<!-- / sig -->

 

ภาพบรรยากาศของวัดถ้ำดาวเขาแก้วบางส่วนครับ


<!-- / message --><!-- sig -->

 

ต่อครับ

<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



<!-- / message --><!-- sig -->

 

ภาพในถ้ำครับ...ถ้ำนี้เป็น 2 ถ้ำเชื่อมถึงกันได้
แต่ละถ้ำยาวประมาณ 500 เมตรได้มั๊ง
จุคนได้เป็น 1000 คน ดังนั้นท่านจึงมีการจัดงาน
ปาริวาสกรรมขึ้นทุกปี ปีที่แล้วก็จัดในถ้ำครับ
ภายในถ้ำมีเทพ นาค และวิญญานต่างๆอยู่กันเยอะครับ

<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

<!-- / message --><!-- sig -->

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Chayutt
เดี๋ยวคุณพรหมประกาศิตรับปากว่าจะนำรูปมาให้ดูเพิ่ม
รอดูหน่อยนะครับ

............

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เอาภาพมาเพิ่มตามคำขอครับ แต่ว่าไม่เห็นมีใครเข้ามาดูเลยอ่ะครับคุณชาหยุด
ไปคราวนี้ได้เจออะไรที่พิเศษมั่ง ก็อย่าลืมนำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>



</FIELDSET>

อันนี้เป็นบริเวณยอดเขานะครับ
ยกเว้นพระพิฆเนศร์ที่อยู่ทางขึ้นเขาครับ

 

เอาภาพมาให้ชมกันอีกนะครับ

ถ้ำดาวเขาแก้วแห่งนี้มีเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่เยอะมากๆครับ
ลองดูจากภาพถ่ายจะเห็นดวงเทพมากมายครับ
รวมถึงถ้ำนี้ ท่านว่าเป็นประตูมิติเชื่อมต่อกับภพของคนบังบดด้วยครับ

ใต้ถ้ำนี้เป็นดินแดนของพญานาคด้วยครับ
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


</FIELDSET>

 

ท่านว่าใครที่มีความเกี่ยวพันธ์กับพญานาคมาก่อน
เช่นเคยเกิดเป็นนาคมาก่อน ขอแนะนำให้ไปนั่งสมาธิในถ้ำนี้สักครั้งหนึ่งครับ
ท่านจะสัมผัสได้ถึงความสงบที่ลุ่มลึกกว่าการนั่งสมาธินอกถ้ำมากๆเลยครับ
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


</FIELDSET>
<!-- / attachments --><!-- sig -->

 

ทางขึ้นถ้ำมีบันได 162 ขั้นให้เดินขึ้นไปจากตีนเขา พอถึงใกล้ๆปากถ้ำก็จะสัมผัสถึงลมเย็นๆและสดชื่นพุ่งออกมาจากในถ้ำมาปะทะที่ตัวพวกเราอยู่ตลอดเวลา จากนั้นพวกเราก็ไปกราบขออนุญาตเจ้าถ้ำ ซึ่งอยู่ในศาลเจ้าหน้าปากถ้ำ เพื่อขออนุญาตเข้าไปชมถ้ำ

เสร็จแล้วก็เข้าไปในถ้ำ ภายในถ้ำจะมีหลายส่วน คล้ายๆจะเป็นห้องๆ ห้องแรกเปรียบเสมือนห้องรับแขก จะเป็นถ้ำขนาดไม่ใหญ่มากนักน่าจะกว้างประมาณ 6-8 เมตร ยาวซัก 8-10 เมตรกระมัง ประดิษฐานพระประธานและพระพุทธรูปหลายองค์ มีรูปพระอาจารย์ประทวนขนาดใหญ่ด้วย มีสมเด็จโต มีพระประจำวันเกิด มีรูปปั้นพญานาคแช่อยู่ในอ่างน้ำขนาดต่างๆกันหลายตัว และก็มีพระฤาษีด้วย พวกเราก็ไปกราบขออนุญาตจุดนี้เป็นจุดที่ 2


จากนั้นก็เดินเข้าไปต่อในส่วนถัดไปของถ้ำ ลึกเข้าไปอีกประมาณ 10 เมตรก็จะมีหินย้อยที่ย้อยลงมาจนถึงพื้นถ้ำ ขนาดใหญ่ ลักษณะเหมือนเสา หลายๆต้น ที่เสาหินย้อยต้นหนึ่งมีลักษณะพิเศษท่านได้นำพระประธานมาประดิษฐานไว้อีกจุดหนึ่ง เรียกว่าพระประธานกลางถ้ำ

หน้าพระประธานท่านได้เทพื้นปูกระเบื้องไว้ เหมาะสำหรับเดินจงกลม นั่งสมาธิ และนอนก็ได้ครับ พวกเราก็มากราบพระและอธิษฐานขออนุญาตอีกเช่นเดิมครับ

ไม่ว่าจะกราบขออนุญาตที่จุดไหนก็ตามผมจะอธิษฐานเสมอว่า "พวกข้าพเจ้ามาที่นี่ เพื่อมาขอพบคุณวิเศษที่มีในพระพุทธศาสนา ดังนั้นสิ่งใดดี สิ่งใดวิเศษที่สถิตย์อยู่ในที่แห่งนี้ ก็ได้โปรดเปิดให้ข้าพเจ้าได้ชม ได้สัมผัสได้ด้วยอายตนะทั้ง 5 และด้วยกายนี้ด้วยเถิด และหากมีสิ่งใดที่สมควรแก่พวกข้าพเจ้าและเป็นของพวกข้าพเจ้าคนใด ก็ขอได้โปรดมอบให้แก่พวกข้าพเจ้ากับมือด้วยเถิด" (อันนี้มีคนเขาแนะนำให้ผมอธิษฐานแบบนี้นะครับ)

บริเวณพระประธานกลางฯนี้จะยาวประมาณ 10 เมตร กว้างประมาณ 6 เมตร
ท้ายๆถ้ำจะมีช่องอุโมงค์เล็กๆพอลอดผ่านทะลุไปอีกถ้ำหนึ่งได้ครับ<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

อุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างถ้ำแรกกับถ้ำที่ 2 นั้นจะมีลมเย็นๆพุ่งออกมาจากฝั่งโน้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้รู้สึกเย็นสดชื่นมาก พวกเราก็ค่อยๆลอดเข้าไป ไปโผล่อีกถ้ำหนึ่ง ซึ่งใหญ่กว่าถ้ำแรกประมาณ 2 เท่าตัว และยาวกว่า 3 - 4 เท่าตัว

เดินไปทางซ้ายมือก็จะมีรอยพระพุทธบาทอยู่

เลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นลานกว้างจุคนได้หลายร้อยคน ที่ท่านใช้ปฏิบัติธรรมในงานปริวาสกรรม ที่จัดขึ้นทุกปี ในช่วง 20-29 เมษายน ของทุกปี บริเวณนี้เองจะมีพระประธานองค์เล็กๆประดิษฐานอยู่ แต่ท่านกำลังจะสร้างพระประธานขนาดใหญ่มาประดิษฐานไว้บริเวณนี้

ทางซ้าย เลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นบริเวณที่ประดิษฐานรูปปั้นพระฤาษี 5 ตนอยู่ ท่านบอกว่าตรงบริเวณนี้เองจะเป็นทางเชื่อมต่อระหว่างมิติของมนุษย์และเมืองลัลแล หรือทางโน้นท่านเรียกว่าชาวบังบด จากการสนทนากับพระในวัดรูปหนึ่งในภายหลัง ท่านเล่าให้ผมฟังว่า ถ้าอยากจะทดสอบจิตของตัวเองให้ไปนั่งสมาธิบริเวณหน้าพระฤาษีนี่แหละ ท่านว่า พอจิตสงบก็จะได้ยินเสียงคนเดินผ่านไปผ่านมาเหมือนมีเป็น 10 คนเลย แต่พอลืมตามาดูก็ไม่มีใคร
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

คืนแรกที่เราไปพักกัน ผม คุณพรหมประกาศิต และคุณเช้าใหม่นอนในถ้ำ บริเวณหน้าพระประธานกลาง

คุณคนกิเลสหนา คุณกิ๊ก และคุณแจงนอนนอกถ้ำที่เรือนพักที่ท่านจัดไว้ให้

ผมก็ขอสารภาพว่ามันกล้าๆกลัวๆปนๆกันอยู่ รู้สึกดีใจที่ได้มาอยู่ มานอนที่ถ้ำนี้ด็ดีใจ แต่ก็กลัวจะเจออะไรแปลกๆมากๆก็กลัวอยู่ (เพราะที่ถ้ำนี้เป็นที่รู้กันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เยอะมากๆครับ รวมถึงใต้ภูเขานี้ก็เป็นเมืองพญานาคด้วยครับ) จึงนอนไม่หลับทั้งคืนเลยครับ ส่วนคุณเช้าใหม่กับคุณพรหมประกาศิตดูเหมือนจะนอนหลับได้เป็นปกติครับ

ในส่วนของความเป็นทิพย์ที่สัมผัสได้นั้น ตัวผมเองมีภูมิจิตไม่ถึงขั้นนั้น ต้องรอให้คุณกิ๊ก คุณแจง และคุณคนกิเลสหนาเข้ามาเล่าให้ฟังครับว่าได้สัมผัสอะไรบ้างครับ เห็นว่าคุณแจงถูกพาไปเที่ยวทั้งคืนเลยนี่ครับ แทบไม่ได้นอนเลย จนต้องขอกลับว่างั้นนะครับ

แต่ที่แน่นอน และสัมผัสได้จริงๆแทบทุกคนก็คือ การนั่งสมาธิในถ้ำนั้น มันทำให้สงบได้ดำดิ่งและล้ำลึกกว่านอกถ้ำมากมายนัก บอกไม่ถูก แต่มันสงบ มันเยือกเย็น มันรู้สึกดีๆไงไม่รู้นะครับ

คืนที่ 2 เหลือพวกเราอยู่ 3 คนคือคุณเช้าใหม่ ผม และคุณพรหมประกาศิต ที่เหลือกลับไปแล้ว เราก็ยังนอนกันที่หน้าพระประธานกลางอยู่

คืนที่ 3 เหลือผมกับคุณพรหมประกาศิต เราก็นอนที่หน้าพระประธานกลางเหมือนเดิมครับ
(เอ่อ..คือผมจำผิดหนะครับ..
ขอแก้ไขเป็นเราเข้าไปนอนลึกเข้าไปอีกในถ้ำอีกถ้ำหนึ่ง
หน้ารูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมครับ)

คืนที่ 4 คืนสุดท้าย เราเลยแยกกันนอน ผมเข้าไปนอนคนเดียวหน้าพระฤาษี ที่อยู่อีกถ้ำหนึ่ง แต่คืนสุดท้ายนี้ไม่ค่อยกลัวแล้วครับ ก่อนนอนก็นั่งสมาธิก่อน โอ้โฮ...เยี่ยมยอดเลยครับ

เสียดายนะที่บริเวณหน้าพระฤาษีเขาไม่อยากให้เราถ่ายรูป เห็นบอกว่าอาจจะเจออะไรเข้าว่างั้นนะ
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ฤาษีหิมพานต์บรรพตอนุโทนากับกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->

​

เมื่อวันที่ 7 - 16 กันยาน 2550 ที่ผ่านมานี้
ผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่ถ้ำดาวเขาแก้ว
ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

เผอิญวันที่ 7-8-9 ก.ย.50 เป็นวันที่ท่านมีพิธีกรรมใหญ่ๆ
อะไรหลายอย่าง คือ
วันที่ 7 ทานถวายกองทาน
วันที่ 8 ท่านปลุกเสกวัตถุมงคล-ฉลองสมโภชน์และเบิกเนตรพระประธาน
วันที่ 9 ซึ่งตรงกับวันครบรอบวันแก่ของหลวงพ่อ (พระอาจารย์ประทวน)
ท่านมีพิธีมุทิตาจิต-สรงน้ำหลวงพ่อ

งานนี้พระเกจิ และ ฤาษี ไปกันเยอะพอสมควรครับ
เท่าที่ผมนับๆดู มีฤาษีประมาณ 12 ตน พระเกจินี่ก็ไม่น้อยกว่ากันเลยครับ

ในคืนวันที่ 8 หลังเสร็จพิธีปลุกเสกพระแล้ว ฤาษีบางตนท่านก็กลับเลย
แต่บางตนท่านก็ยังไม่กลับ

ก็พอดีผมนึกยังไงไม่รู้ เดินไปทางที่มีฤาษี 2 ตน
กำลังคุยอยู่กับญาติโยมอยู่พอดี ประมาณ 6 โมงเย็น

ผมก็เลยเข้าไปกราบท่าน แล้วก็เลยได้สนทนาธรรมกับท่าน
ฤาษีตนหนึ่ง ท่านให้เรียกท่านว่า "ฤาษีหิมพานต์บรรพต"
ท่านมีญานของเทพองค์ใหญ่ องค์หนึ่งอยู่ด้วย
(แต่ผมไม่กล้าถามว่าองค์ไหนหนะครับ)
ท่านได้เมตตาแนะนำสิ่งที่ผมติดขัดอยู่ ทั้งทางโลกทางธรรม
หลายอย่าง และรู้สึกท่านจะพูดถูกหมดทุกอย่างซะด้วยสิครับ
ประมาณว่า รู้ไปหมดเลยว่าเราเป็นอย่างไร แต่โชคดีที่สิ่งที่เป็น
เรื่องความชั่วร้ายของเราท่านไม่ได้พูดออกมาตรงๆให้เราได้อาย
เพียงแต่พูดเป็นนัยๆ เป็นรหัส ให้เรากับท่านสื่อสารกันได้เท่านั้นครับ

หลังจากที่ เมื่อผมไม่รู้จะถามอะไรท่านต่อแล้ว ก็เลยลองถาม
ทานเกี่ยวกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้
โดยที่ผมใช้คำว่า "มีกระแสข่าว" นำหน้านะครับ

ท่านก็บอกว่า
"พุทธพยากรณ์ก็ได้บอกไว้แล้ว
และมันก็เป็นกฎธรรมดาของธาตุทั้ง 4 ที่จะต้องแปรปรวน
ทำให้เกิดโทษกับมนุษย์ และค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ
ตอนนี้แกนโลกก็เอียงแล้ว (ไม่รู้ท่านไปอ่านหนังสือ
ของ อ.ปริญญามาหรือเปล่านะครับ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็นับว่าเป็น
ข้อมูลที่ตรงกันอย่างน่าตกใจทีเดียว)
น็อต-แหวนมันหลวม เพราะขีปนาวุธของมหาอำนาจ
ดังนั้น เวลามันหมุน มันก็ไม่สมดุลย์แบบนี้แหละ"

ประมาณนี้นะครับ อาจจะไม่เป๊ะตามที่ท่านพูดนะครับ

"ระบบกาแล็กซี่เองก็มีปัญหาเกี่ยวกับฤดูกาลแปรปรวน
อะไรก็เกิดขึ้นได้หมดแหละ"

"จะอยู่ได้เฉพาะพวกที่มีศีล-มีธรรมเท่านั้น
ระยะเวลา 7-9 ปีนี้แหละ น้ำจะมาก่อน
กรุงเทพจะน้ำท่วมมาถึงสระบุรี"

"พวกที่มีธาตุบุญอยู่ดี จะมีสัญชาตญาณรู้ก่อนเขา
จะมีอะไรดลใจให้อพยพหนีออกมาได้ทัน
กลุ่มผีบ้า (กลุ่มคนที่คนอื่นคิดว่าบ้า คิดว่าเพี้ยน
อย่างกลุ่มพลังจิตฯ นี่แหละครับ) กลุ่มผีบ้านี่แหละ
จะรอดตายก่อนเขา"

จากนั้นผมก็เลยได้เรียนท่านไปว่าพวกเราเอง
ก็ทราบข่าวภัยพิบัตินี้กันมานานแล้ว และตอนนี้
พวกเราก็กำลังพยายามแจ้งข่าวสาร เผยแพร่ข้อมูล
รวมถึงทำกิจกรรมอื่นๆ อันจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้อยู่

ท่านก็ว่า
"ประเสริฐแล้ว สูงส่งแล้ว ที่เสียสละช่วยเพื่อนมนุษย์
เป็นวิสัยของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย หลวงปู่ก็อนุโมทนาบุญด้วย"

พอได้ทีเช่นนี้ผมก็เลยลองถามท่านเรื่องเวลาบ้าง
เผื่อท่านจะรู้อะไรที่ชัดเจนอยู่

ท่านก็บอกว่า

"ประเทศอื่นๆจะหนักกว่าเราเยอะ เรียกได้ว่า
แทบจะหายสาบสูญกันไปเลยทีเดียว
ประเทศเรายังเบากว่าเขานัก
อาจจะแค่ 60 เหลือ 10"

อะไรประมาณนี้ครับ
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

ก็พูดถึงเรื่องวัน-เดือน-ปี เกิด และอายุของหลวงพ่อฯนี่แหละ
ที่ทำให้ผมเจ็บใจตัวเองนัก

เพราะตอนที่มีคนอยู่กับท่านไม่มากนัก ทานก็พูดว่า

"งานก่อนโน้นที่หลวงพ่อจัดงานทำบุญครบรอบ
ที่อยู่ที่ถ้ำดาวเขาแก้วแห่งนี้ครบ 7 ปี 7 เดือน 7 วัน
หวยมันก็ออก 777 หลวงพ่อยังจำได้"

"คราวนี้หลวงพ่อทำบุญครบรอบวันแก่ของหลวงพ่อ
คือวันที่ 9 เดือน 9 และหลวงพ่ออายุ 45 ปี
ขนาด 4+5 ก็ยังเป็น 9 อีกนะ ลองพิจารณาดูนะ
เพราะหวยมันมักจะออกอะไรที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อนี่แหละ

อาจจะเป็น 999 หรือ 99 หรือ 45 อะไรพวกนี้แหละ"

ท่านพูดทำนองนี้นะครับ อาจจะไม่เป๊ะทุกคำพูด
ผมก็เจ็บใจนัก ที่ซื้อแต่ 999 และ 99 ไม่ได้ซื้อ 45 ด้วย
ก็เลยอดได้ลาภกับเขาเลย
ป่านนี้ไม่ใช่คนแถวนั้นเขาถูกกันตรึมแล้วหรือเนี่ย

มิหนำซ้ำ ตอนนอนอยู่ในถ้ำคืนวันที่ 14 ซึ่งผมอธิษฐาน
ขอโชคขอลาภไว้ก่อนนอนแล้ว ก็ได้ฝันไปว่า

ได้ดูทีวีรายการหนึ่ง ปรากฎมีตัวเลขอยู่บนจอทีวี
สว่างสีทอง ตัวโตพอสมควรขึ้นมา 2 ชุดๆละ 6 ตัว

แถวแรกในฝันรู้สึกว่าคือเลขที่มันออกไปแล้วงวดที่แล้วนี่เอง
ส่วนแถวที่ 2 เป็นตัวเลขที่กำลังจะมาถึง
ผมจำได้แต่ตัวท้ายๆ ซึ่ง 2 ตัวท้ายคือ 63
แต่ก็ยังรู้สึกว่าเขากำชับว่านี่คือ ณ.วันนี้นะ ถ้ายังไม่มีใคร
ไปเปลี่ยนอะไรมัน แต่ถ้ามีใครไปเปลี่ยนมัน
มันก็จะเพิ่มแต้มขึ้นได้อีกเรื่อยๆ และก็มีกำชับมาอีกนะว่า
"คิดว่ามาหลอกหรือไง"
(เพราะปกติถ้าผมฝันเรื่องหวยแล้ว ถ้าซื้อไม่ถูก
ผมชอบคิดว่าพวกเจ้ากรรมนายเวร หรือเทวบุตรมารมาหลอกเล่น
ให้เสียทรัพย์หนะครับ)

แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ เพราะความที่ผมโทรไปซื้อตัวอื่นไปเยอะแล้ว
ผมก็เลยคิดว่าเขามาหลอกอีก หรือเขามาลองใจเรา
สุดท้ายก็เลยไม่ซื้อครับ..

พอหวยออกมาแล้ว มันน่าจะเอาหัวไปชนเสาจริงๆเลย

บน 336 ล่าง 45

..ก็เลยอดครับงานนี้...

เพราะความที่ผมแยกแยะยังไม่ได้ว่าอันไหนจริง
อันไหนหลอกหนะครับ..

แม้ว่าที่ผ่านๆมา เวลาผมฝันเกี่ยวกับหวยทีไร
เฉพาะที่ซื้อแล้วถูกด้วยนะครับ
มักจะฝันเห็นเป็นตัวๆแทบทุกครั้งไป
ไม่ต้องแปล ไม่ต้องตีความอะไรให้ยุ่งยากเลยครับ

แหะ แหะ แหะ...โลภะเอ๋ย โลภะ
<!-- / message --><!-- sig -->

 

มีรูปอยากให้ดู 2 รูปครับ
คือรูปนี้



และอีกรูป คือรูปนี้ครับ



ไม่ใช่ฤาษีที่ไหนหรอกนะครับ
แต่เป็นพระอาจารย์ประทวนเองแหละครับ
เป็นรูปที่ท่านกลับมาจากธุดงค์เข้าป่าไป 3 เดือน
ไม่ฉันข้าว ฉันแต่ยาสมุนไพร เช่น บระเพ็ด
อะไรแบบนี้ครับ และท่านก็ไม่ปลงผม ไม่โกนหนวดใดๆทั้งสิ้น

ท่านก็เลยดูเหมือนฤาษีแบบนี้แหละครับ
<!-- / message --><!-- attachments -->