ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ภาพวาดจากมนุษย์ต่างดาว ภาพที่ 2

    [​IMG]

    ภาพนี้ เป็นการบอกถึงลักษณะของมนุษย์ต่างดาวจากดาวโลกุกะตาปากะดิกอง ที่มากับยานอวกาศดังภาพ

    รูปร่างของมนุษย์ต่างดาวนั้น จะมีลักษณะคล้ายมนุษย์ แต่ใส่ชุดรัดรูปปรับอุณหภูมิได้ มีพลังงานอยู่บริเวณท้อง ตรงบริเวณที่ทำเป็นตารางสี่เหลี่ยมนั้น

    บริเวณศรีษะ มีลักษณะคล้ายเสาขึ้นไป แต่จริง ๆ แล้วเขาบอกว่า ไม่ได้เป็นโลหะ หรือเหล็ก แต่เป็นคล้ายเส้นผมของมนุษย์นี่แหละ พันกันเป็นเส้นแข็งแล้วยื่นขึ้นไป ใช้ในการรับคลื่นได้ เพราะมนุษย์ต่างดาวที่เกิดมาตั้งแต่เล็ก ๆ ยังไม่สามารถใช้การสื่อสารด้วยจิตได้ จึงต้องใช้การสื่อสารด้วยคลื่น ผ่านเส้นผมที่เปรียบเสมือนเสาอากาศนี้ในการสื่อสารกับบุคคลต่าง ๆ

    ด้านบนซ้าย มนุษย์ต่างดาวเขียนภาพของมด ที่ใช้คลื่นในการสื่อสาร โดยไม่มีการใช้เสียงในการสื่อสาร มดก็ยังต้องมีหนวดยื่นขึ้นไป และใช้หนวดนี้ในการรับรู้ และเพื่อการสื่อสาร มนุษย์ต่างดาว ก็ใช้ผมบนศรีษะ ที่เปรียบเสมือนเสาอากาศ ไว้คอยรับคลื่น และมีการส่งตอบด้วยคลื่นเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2007
  2. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ภาพวาดจากมนุษย์ต่างดาว ภาพที่ 3

    [​IMG]


    ภาพนี้ เป็นการอธิบายว่า ยานอวกาศของเขานั้นก็มีเสาอากาศรับคลื่นสื่อสาร ระหว่างฐานปฏิบัติการ กับยานอวกาศที่ต้องออกไปปฏิบัติงานภายนอก เมื่อมีการส่งคลื่นไปในอวกาศในระดับที่มีแรงส่งสูง ก็มีการไปรบกวนคลื่นที่เขาใช้ในการสื่อสารกัน

    และยานอวกาศ ก็มีที่จอด เป็นฐานสี่เหลี่ยมที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินไว้สำหรับจอดยาน และมีทางลงไปด้านล่าง ซึ่งใช้เป็นที่พักอาศัยได้ เพราะโลกของเขานั้นก็มีการเกิดภัยธรรมชาติเหมือนกัน แต่เมื่อมีการพายุหรือภัยธรรมชาติตามฤดูกาล เขาก็จะขึ้นยานอวกาศไปลอยอยู่ในอวกาศก่อน เมื่อพายุสงบ จึงกลับลงยังโลกของเขาตามเดิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2007
  3. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ภาพวาดจากมนุษย์ต่างดาว ภาพที่ 4

    [​IMG]


    ภาพนี้ มนุษย์ต่างดาวอธิบายเรื่องรูปร่างของเขา เขาบอกว่า ร่างของเขาจะเรืองแสงทั้งตัว และแสงนั้นจะสว่างมาก มองเห็นได้ในความมืด และมีพลังงานอยู่บริเวณท้อง

    ด้านเสาบนศรีษะ ที่ยื่นขึ้นไปนั้น ก็สามารถรับคลื่นเทคโนโลยีได้แบบเป็นทางการได้ ดังนั้น การคุยกันทางจิตก็มี การต้องรับทราบแบบสั่งการผ่านคลื่นเทคโนโลยีก็มี ดังนั้น เสาอากาศที่ศรีษะนั้น จึงทำหน้าที่เหมือนวิทยุเคลื่อนที่ เพื่อรับคำสั่งจากฐานปฏิบัติการ โดยใช้สั่งการในรูปแบบคลื่นเทคโนโลยี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2007
  4. Aspn

    Aspn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +5,303
    **ดวงไฟลึกลับที่ จ.นครสวรรค์ !**

    [vdo]http://palungjit.org/attachments/a.217744/[/vdo]

    อ้างอิงจากกระทู้ที่#48ครับ[​IMG]

    อ้างอิง......ข้อความของคุณ P_POP ที่กระทู้ ..เชิญสัมมนา UFO อ.เทพพนม vs เขากะลา

    - ยินดีด้วยกับคุณ P_POP ด้วยนะคะที่บันทึกภาพลูกไฟลึกลับได้ที่เขากะลา และขอขอบคุณที่ยังติดตามข้อมูลของทางเขากะลาอย่างต่อเนื่องตลอดมา

    - จึงขอนำภาพ ลูกไฟลึกลับที่เขากะลา มาให้ท่านที่สนใจได้รับชมอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งภาพดังกล่าวนี้ พี่สุดใจได้นำไปโพสต์ในกระทู้ของคุณ P_ POP ด้วย อยากดูภาพที่คุณ P_ POP บันทึกไว้ได้ ก็ไปดูได้จากกระทู้ที่อ้างอิงถึงนะคะ

    - ที่เขากะลา จะมีลูกไฟลึกลับหลายรูปแบบ ปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ ทั้งลอยขึ้นจากพื้น เป็นดวงไฟสีส้ม ลอยขึ้นมาช้า ๆ จากพื้นดินบริเวณเขากะลา จนขึ้นไปอยู่กลางท้องฟ้าผ่านดวงดาวไปอย่างรวดเร็ว มิสเตอร์จอห์น ฮอร์เน็ต วิศวกรชาวอังกฤษถ่ายภาพไว้ได้

    -ลูกไฟลอยขึ้นมาจากบึงบอระเพ็ด เป็นลูกไฟสีส้ม พอไปถึงกลางฟ้าก็จะหยุด แล้วเปิดไฟกระพริบ ไม่มีเสียง บินผ่านมาทางที่คณะผู้สนใจยืนอยู่ ให้บันทึกภาพ ซึ่งภาพดังกล่าวคุณอนวัช จากกรุงเทพฯบันทึกไว้ได้ ตั้งแต่เริ่มลอยขึ้นจากบึงบอระเพ็ดเลย

    - ลูกไฟสีส้มอยู่เป็นกลุ่ม หลายลูก หมุนควงสว่านเหนือพื้นดินเขากะลา ซึ่งการหมุนจะมีการหมุนจากด้านในดวงไฟเป็นชั้น ๆ พี่สุดใจ บันทึกภาพไว้ได้

    - และยังมีอีกหลายรูปแบบ ที่จะนำมาให้ชมกัน(ส่วนมากจะถ่ายไว้เป็นวีดีโอ พี่จะทำเป็นภาพนิ่งมาให้ชมกันก่อนนะคะ)

    - สำหรับวันนี้ จะนำภาพลูกไฟลึกลับที่เขากะลา ซึ่งทีมงาน สารคดี UFO เดินทางไปรอถ่ายทำที่เขากะลาถึง 4 วันมาให้ชมกัน เป็นภาพลูกไฟดวงใหญ่ ลอยอย่างรวดเร็วในระดับที่ไม่สูงนัก และลอยเหนือแนวไฟถนนที่พื้นดินด้วยความเร็วมาก ลักษณะเป็นดวงไฟใหญ่สีส้ม ไม่มีลำแสง แต่มีการเรืองแสงจากดวงไฟลึกลับนั้น ซึ่งเราได้บันทึกภาพรถที่วิ่งผ่านมาให้เปรียบเทียบ ทั้งรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์จะมีลำแสงส่องออกมาด้านหน้าเป็นลำยาว แม้จะถ่ายในระยะที่ไกลก็ยังเห็นลำแสงของรถอยู่นั่นเอง

    - ทีมงาน สารคดี UFO เป็นผู้บันทึกภาพไว้ได้

    <LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 ตุลาคม 2007
  5. kingkaewmath

    kingkaewmath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +773
    อยากทราบว่าทางกลุ่ม เขากะลา ได้ประสานงาน เตือนภัยนี้
    กับท่าน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา หรือไม่
    เพราะดิฉันได้เห็นท่านออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์
    ท่านศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
    อีกไม่เกิน 10 ปี เห็นว่าข้อมูลบางอย่างตรงกัน
    และท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่ฝึกสมาธิมานานมาก
    ดิฉันเองก็นับถือท่านมากค่ะ
     
  6. kipo

    kipo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +17
    ข้อมูลที่หลายๆ ท่านรวมทั้งคุณสุดใจ น่าสนใจมากครับ ผมก็ได้ศึกษาเรื่องเหล่านี้มานาน มีความเป็นไปได้สูง เพราะวิทยาศาสตร์เป็นตัวบอกเองอยู่แล้ว ว่าในจักรวาลอันกว้างใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีสิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงอื่น นอกเหนือจากโลก เพียงแต่เขาเหล่านั้นจะเจริญรุดหน้าไปก่อนเท่าใดเท่านั้นเอง

    เรียนถามอีกนิดครับว่า คลิบวีดีโอทั้งหลายที่เผยแพร่มีโครงการจะรวบรวมแจกเป็น DVD หรือเปล่าครับ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรครับผม จะติดตามเรื่อยๆ ครับ
     
  7. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    เนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ได้รับแจ้งจากพื่สุดใจว่าพี่สุดใจจะต้องทำการฝึกเกี่ยวกับเรื่องเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว และมิติต่างๆ(ตามที่เคยได้โพสต์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว)เพิ่มเติม ซึ่งคงต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน และก็ได้มอบหมายหน้าที่ให้ผมเป็นผู้ที่ถ่ายทอดข้อมูลต่างๆ ตามรูปที่พี่สุดใจมอบให้มา และยังให้ผมได้เล่าประสบการณ์ต่างๆ ตอนที่ยังร่วมฝึกอยู่ให้เพื่อนๆ สมาชิกอ่านคั่นเวลาต่อไปได้

    ก็ต้องแนะนำตัวเองบ้างนะครับ คือผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าร่วมฝึกกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ตั้งแต่ประมาณปี2541 ปัจจุบันก็คงเรียกได้ว่าเป็นสมาชิกของกลุ่มคนนึงละครับ มีโอกาสได้เสนอหน้ากับเขาก็ตอนงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา ช่วยบรรยายอยู่ที่บู้ทดร.เทพนม เมืองแมน ตามรูปที่ 1 - 3 และถูกพี่สุดใจเรียกให้ขึ้นไปเล่าประสบการณ์บนเวทีภายหลังจากที่พี่สุดใจบรรยายจบตามรูปที่ 4 – 5 นี่แหละครับ

    ส่วนรูปที่ 6 คือผู้ที่ต้องฝึกเรื่องอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวต่อในตอนนี้อีกประมาณ 1 เดือนดังกล่าวแล้วข้างต้น ตามรูป

    คนแรก (ซ้ายบน) คือคุณวาสนา ชื่นสำนวน เป็นผู้รับผิดชอบแผนกขับเคลื่อนระบบและMaintenanceระบบ
    คนที่สอง (ขวาบน) คือคุณสุดใจ ชื่นสำนวน เป็นผู้รับผิดชอบแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต
    คนที่สาม (ซ้ายล่าง) คือคุณสมจิตร ชื่นสำนวน เป็นผู้รับผิดชอบแผนกพื้นที่
    คนที่สี่ (ขวาล่าง) คือคุณโสภา วรรณอนันต์ เป็นผู้รับผิดชอบแผนกประชาสัมพันธ์ 60 บุคคล<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลังจากนี้อีกประมาณ 1 เดือนพี่สุดใจก็คงจะมีอะไรแปลกๆ มาเล่าให้เพื่อนสมาชิกได้ฟังกันอีกแน่ๆ เลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2009
  8. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    อยากคุยให้ฟังครับ
    <O:p</O:p
    ผมทราบดีว่าหลายๆ ท่านอาจมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)ว่าน่าจะมีอะไรที่มากกว่าการที่จะมาเล่าแค่ประสบการณ์การพบเห็นจานบิน มนุษย์ต่างดาว หรือภาพดวงไฟที่แปลกประหลาดจับไม่ได้ไล่ไม่ทันให้เห็นกันแบบจะจะซักที แล้วทำไมพี่สุดใจถึงคอยจะสอดแทรกธรรมะอยู่บ่อยๆ ตอนนี้พี่สุดใจต้องฝึกเรื่องเครื่องมือมนุษย์ต่างดาวต่ออีก 1 เดือน และมอบหมายให้ผมโพสต์ต่อก็จึงไม่ถือว่าเป็นการเสียมรรยาทถ้าผมจะมาเขียนเยอะๆ โดยที่ไม่ใช่เจ้าของกระทู้ ตอนนี้เลยถือโอกาสเล่าให้ท่านผู้ที่สนใจฟังครับ
    <O:p</O:p</O:p
    ถ้าผมจะเล่าว่ารู้จักเขากะลาได้ยังก็คงไม่ใช่ประเด็นที่น่าสนใจ เพราะตอนนี้ผู้ที่อ่านมาตั้งแต่ต้นทุกท่านก็รู้จักกันอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าตอนปี 2541 ผมเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงกล้าออกจากงานไปฝึกได้ยังไงก็คงน่าสนใจขึ้นมาอีกนิดนึง ถ้าน่าสนใจนิดนึงก็ต้องขอเล่าซักหน่อยนึงละกันครับ <O:p</O:p
    (มีต่อ)<O:p</O:p
     
  9. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ติดตามอ่านอยู่ค่ะ แต่ Server ไม่ค่อยเป็นใจเลย

    เชื่อมาตั้งแต่เด็กจนแก่ค่ะ ว่า มีมนุษย์ที่ดาวอื่นด้วย

    ในใจไม่เคยค้านเรื่องนี้เลย แปลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2007
  10. kingkaewmath

    kingkaewmath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +773
    รอฟังอยู่ ค่ะ
     
  11. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    คงต้องท้าวความถึงก่อนที่จะรู้จักเขากะลา(หมายถึงสถานที่) ตอนนั้นจำได้ว่าประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2541 ผมนั่งสมาธิอยู่ตอนกลางคืนที่บ้าน (จ.พระนครศรีอยุธยา) แต่สังเกตว่าท้องฟ้ามีฟ้าแลบแปลกๆ คือเหมือนเป็นแสงแฟลชของกล้องถ่ายรูป แลบถี่ๆ ทั่วทั้งท้องฟ้าอยู่ครู่ใหญ่โดยที่ไม่มีเมฆฝนหรือลมพายุอะไรเลย ต่อมาประมาณเดือนสิงหาคม – กันยายน จำไม่ได้แต่ปีเดียวกันได้ทราบข่าวจากเพื่อนที่ทำงานด้วยกันว่ามีการอัญเชิญองค์เทพมาเทศนาธรรมที่เขากะลา ก็สนใจน่ะสิครับเหมือนมดได้กลิ่นน้ำตาล ก็ชวนภรรยาไปด้วยกัน ปรากฎว่าคืนนั้นบนเขากะลาฝนตกหนักดูอะไรไม่ได้ พี่สุดใจตอนนั้นก็ต้อนรับขับสู้อยู่บนเขาก็เลยเปิดวีดีโอที่ถ่ายไว้(สมัยยังเป็นม้วน) ให้ผมดูเพลินๆ ปรากฎว่าในวีดีโอเป็นพิธีทำบุญเลี้ยงพระบนเขากะลาในวันที่ 17 พฤษภาคม 2541 งานมีตอนกลางวันเห็นคนที่มาเยอะพอสมควร มีดร.เทพนม ด้วย จนถึงพิธีตอนกลางคืนก็จะเป็นพิธีเปิดโลกครบ 1 ปี โดยมีคุณชูชาติ ชื่นสำนวนเป็นร่างให้องค์พระอินทร์กำลังนั่งอยู่บนอาสนะที่ค่อนข้างสูง และเมื่อวีดีโอเล่นไปถึงตอนที่องค์พระอินทร์กล่าวประมาณว่า “ณ บัดนี้ข้าพเจ้าจะขอทำพิธีเปิดโลก....” เท่านั้นแหละผมก็เห็นต้นไม้ในวีดีโอถูกลมพัดไปพัดมาอย่างแรง และท้องฟ้าก็เกิดฟ้าแลบขึ้นอย่างถี่ยิบ ซึ่งผู้ถ่ายภาพก็ยังหันกล้องไปถ่ายท้องฟ้าให้เห็นอยู่ช่วงหนึ่ง แต่หลังจากนั้นกล้องก็ได้ไปถ่ายภาพยานบินซึ่งลงจอดที่หลังเขา มีมนุษย์ต่างดาวเดินออกมา 3 คนซึ่งทราบภายหลังว่าในวันนั้นมีลูกศิษย์ของดร.เทพนม เดินตามลงไป 6 คน พี่สุดใจอธิบายว่ายานบินของมนุษย์ต่างดาวเขามาอนุโมทนา ในรายละเอียดถ้าพี่สุดใจกลับมาก็คงจะเล่าให้ฟังครับ

    ซึ่งวันนั้นผมก็ได้คำตอบของการที่เห็นฟ้าแลบแปลกๆ ที่อยุธยาแล้ว และคิดว่าครอบครัวของลุงเชิด คงทำอะไรกับเรื่องของฟ้าดินไม่ได้แน่ๆ ทั้งเรื่ององค์เทพ ทั้งเรื่องมนุษย์ต่างดาวน่าจะต้องเป็นของจริง แต่ในตอนนั้นผมสนใจเรื่องฟังเทศน์มากกว่า ส่วนเรื่องมนุษย์ต่างดาวไม่ได้สนใจเลยแม้แต่หางตา(พูดเล่น) จากวันนั้นเป็นต้นมาทุกวันเสาร์ผมจะเดินทางไปเขากะลาตลอดแทบไม่ยอมพลาดเลย แถมยังต้องพ่วงเพื่อนๆ ที่อยู่อยุธยาด้วยกันไปครั้งนึงก็ประมาณ7-8คน การฟังเทศน์ในแต่ละครั้งก็จะขนลุกขนพองอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่ไปกันก็ส่วนมากเขาก็มีตาทิพย์ มีวิชชาอะไรของเขาหลากหลาย ผมไม่มีอะไรก็เลยได้เห็นของแปลกๆ พูดคุยกันสนุกสนานฆ่าเวลาก่อนที่จะได้ฟังเทศน์ในแต่ละครั้ง
    <O:p</O:p
    ส่วนบรรยากาศก็เป็นใจซะเหลือเกินลมพัดเย็นสบายอยู่ตลอดเวลา บริเวณวิวทิวทัศน์ในเวลากลางคืนก็จะมีดวงไฟประหลาดปรากฎให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงบนท้องฟ้าก็จะมีวัตถุบินไปมาบ่อยๆ ให้เราได้เถียงกันว่าใช่ ไม่ใช่ อยู่ตลอดเวลา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2009
  12. kingkaewmath

    kingkaewmath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +773
    ติดตามอยู่ มีอะไรเชิญมาเล่าต่อนะคะ
    คนนอกระบบ ก็อยากรู้
     
  13. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    [/quote]
    สวัสดีครับคุณkingkaewmath ขออนุญาตตอบแทนพี่สุดใจครับ ขอบคุณที่ได้ติดตามเรื่องราวของทางกลุ่มครับ ในเรื่องที่จะนำข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวไปเผยแพร่กับเด็กๆ นั้นสามารถนำข้อมูลทั้งหมดที่พี่สุดใจเผยแพร่มาในกระทู้นี้ไปได้หมดเลยครับ เป็นสาธารณะไปแล้ว ซึ่งก็เป็นขัอมูลที่มีพยานหลักฐานเกี่ยวกับการบันทึกภาพต่างๆ พร้อมบอกวันเวลาที่ชัดเจน แต่ขนาดผู้ใหญ่อย่างเราๆ บางครั้งยังเชื่อได้ยากเลย เพียงแต่เป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่ต้องเปิดเผยข้อมูลแล้วโดยที่เน้นย้ำว่าแจ้งเพื่อทราบ ไม่ได้มีเจตนาที่จะชวนเชื่อหรือชักจูงแต่ประการใดเลย

    ส่วนเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ การฝึกจากมนุษย์ต่างดาว ข้อมูลรายละเอียดว่าเขาสอนอะไรต่างๆ นั้นผมจะพยายามเล่าให้ฟังครับ แต่เนื่องจากไม่ถนัดพิมพ์ซักเท่าไร ใช้แต่นิ้วชี้และต้องรอเวลาที่ไม่ติดธุระเลยช้าไปบ้างต้องขออภัยครับผม
     
  14. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    เรื่องที่พระอินทร์เทศน์ส่วนใหญ่จะเป็นนรกสวรรค์ ชั้นภูมิ การรู้จักบุญคุณบิดามารดา การตัดกรรม การอโหสิกรรม (ผมเคยแอบไปตั้งกระทู้ไว้ที่หมวดพุทธศาสนา จะcopyมาให้เพื่อนได้อ่านข้างท้าย) ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธรรมะล้วนๆ พูดเร็ว เสียงดังฟังชัด เทศน์แต่ละครั้งก็ไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมง แต่หลังๆ นี่ยันเช้าเลยครับ มีครั้งนึงจำได้ว่าผมพาคุณพ่อคุณแม่ไปด้วยท่านเทศน์เสร็จก็บอกให้ทุกคนพนมมือองค์เทพท่านจะอนุโมทนาให้ 1 นาที ปรากฎว่า หลังจากนั้นก็มีละอองฝนเหมือนเราฉีดฟ็อกกี้พรมผ้านั่นแหละตกลงมาจริงๆ ประมาณ 1 นาทีเหมือนละอองฝนที่ตกตอนที่เขาบวงสรวงทำพิธีประดิษฐานองค์พระพรหมองค์ที่ซ่อมแซมใหม่ที่ราชประสงค์ยังไงยังงั้นเลย
    <O:p
    และที่น่าสนใจคือท่านได้การกล่าวถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งตอนนั้นในปี2541 นั้นค่อนข้างจะเชื่อได้ยากครับว่าภัยพิบัติอะไรจะเกิดขึ้นง่ายๆ นานๆ จะมีข่าวแผ่นดินไหวซักทีนึง ไม่เหมือนทุกวันนี้ที่ไม่มีวันไหนที่แผ่นดินไม่ไหว ทีนี้มาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวตรงไหนล่ะครับ ก็ท่านเทศน์บอกว่าองค์เทพทั้งหลายท่านต่างก็จะช่วยกันช่วยเหลือมนุษย์ที่ยังมีบุญ มีบารมีให้อยู่รอดพ้นจากภัยพิบัติ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไปให้ครบ 5,000 ปี พร้อมกับท่านที่มาจากต่างดวงดารา ต่างจักรวาลจะนำเทคโนโลยีมาช่วยเหลือโลกมนุษย์ เพราะมันจะร้ายแรงจนมนุษย์ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ (ผมเล่าตรงเกินไปรึเปล่า อายุต่ำกว่า 18 ห้ามอ่านนะครับ)

    ขณะเดียวกันก็จะมีUFO แปลเป็นไทยว่า“นั่นๆมาแล้ว ทางนู้นๆ” คอยบินผ่านให้เห็นเพื่อเป็นการยืนยันว่าพระอินทร์ท่านพูดจริง ซึ่งถ้ามีเสียงพวกเราก็ฟันธงว่าไม่ใช่ แต่ถ้าเงียบแล้วเปิดไฟแปลกๆ เราก็คิดว่าใช่ (แต่ภายหลังมนุษย์ต่างดาวก็บอกว่าบินมาได้ตั้งไกลแค่ทำเสียงให้ได้ยินแค่เนี๊ยมนุษย์ต่างดาวทำไม่เป็นรึไง) และในส่วนของภาคพื้นดินก็จะมีแสงไฟสว่างจ้าเคลื่อนที่ทั้งทางราบ และบางทีก็ขึ้นเขาลงเขาให้ตากล้องขาประจำต้องคอยวิ่งไล่ถ่ายกันอย่างน่าตื่นเต้น ผมเองก็ชอบแอบยิ้มตอนเห็นเขาวิ่งกัน
    <O:p</O:p
    <O:p</O:pจะมีเรื่องแปลกแทบทุกครั้งเลยครับเมื่อไปที่เขากะลา บางทีก็เป็นไฟไหม้ต้นไม้บนเขาหลายๆจุดตามเขาซึ่งอยู่ด้านข้างและด้านหลังเขากะลา ไฟลุกเป็นรูปสัตว์บ้างเหมือนงูพันรอบเขาบ้าง แต่พอตอนเช้าเอากล้องส่องดูก็ไม่เจอร่องรอยของไฟไหม้เลย
    <O:p</O:p
    <O:p</O:pมนุษย์ต่างดาวโดยในที่นี้มีชื่อเรียกตัวท่านเองว่า ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต ภายหลังจากที่เคยผ่านมาในร่างของอาจารย์ท่านหนึ่งที่งานนิทรรศการมนุษย์ต่างดาวที่นครสวรรค์เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2541 (ตามรูปที่ลงไว้แล้วโพสต์ที่ 243-244 หน้า 13) แล้วได้มาอยู่ในร่างของคุณวาสนา ชื่นสำนวน มาช่วงแรกในรูปแบบคล้ายร่างทรง พูดคุยตอบคำถามธรรมะที่ฟังดูง่ายๆ เข้าใจง่าย และหยิบฉวยจากสิ่งข้างตัวเอามายกตัวอย่างเลย และจะสอนให้ใช้ปัญญาต้องไตร่ตรองตลอดแม้แต่UFOที่มาบินให้เห็น ก็จะต้องแตกต่างจากเครื่องบินนิดๆ หน่อยๆท่านเป็นผู้ที่วางระบบ ในการช่วยเหลือและยกระดับจิตของมนุษย์ตั้งแต่ก่อน ขณะ และหลังจากที่เกิดภัยพิบัติ

    (ยังไม่เข้าเรื่องการฝึกเลย)



    <TABLE id=post713144 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>19-09-2007, 11:51 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#1</TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175>no.9<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_713144", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 11:18 PM
    วันที่สมัคร: Aug 2007
    สถานที่: จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    อายุ: 44 ปี
    ข้อความ: 26 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 2,443 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 237 ครั้ง ใน 22 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

















    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_713144 class=alt1><!-- icon and title -->เคล็ดการขอขมากรรมกับบิดามารดา



    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->กว่าที่เราจะโตมาจนมาอ่านกระทู้นี้กันได้นั้น ผมก็คิดว่าคงจะต้องผ่านร้อนหนาวมากันไม่น้อยหรอกนะครับ และก็แน่นอนว่าไม่มากก็น้อยต้องมีการเผลอหรือตั้งใจล่วงเกินพ่อ แม่ของเราเองกันมาบ้างสะสมมาพอสมควร ซึ่งอาจเป็นบาปเป็นกรรมติดตัวเราไปได้ โดยเฉพาะในปัจจุบันจะทำอะไรก็อาจจะรู้สึกว่าติดขัดโดยที่เราไม่รู้สาเหตุโดยเฉพาะนักปฏิบัติทางจิตหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งผมเห็นว่าส่วนใหญ่ก็มาอยู่ในเว็บพลังจิตนี้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ
    จึงขอนำวิธีที่ผมได้รู้มาประมาน 10 ปีที่แล้วสมัยที่เริ่มไปปฏิบัติธรรมเต็มตัวที่นครสวรรค์มาบอกกัน กล่าวคือการขอขมากรรมนั้นจะสำเร็จผลจะต้องประกอบด้วยผู้ขอขมากรรมและผู้ให้อโหสิกรรม ผู้ขอขมากรรมก็คือเรา เราจะต้องกระทำให้ครบทั้ง 3 ทางคือ กาย วาจา และใจ วิธีการก็คือ ขอให้พ่อ และแม่ของเรามานั่งที่เก้าอี้แล้วเราก็เอากะละมังใส่น้ำมาเอาเท้าพ่อและแม่ (ทีละคน) แช่ลงในน้ำแล้วเอามือล้างให้สะอาดจนเสร็จ แล้วนั่งคุกเข่าพนมมือตั้งใจแล้วพูดออกเสียงว่ากรรมใดที่ลูก (หรือกระผม / หนู) ได้กระทำล่วงเกินต่อพ่อและแม่จะด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งที่ได้ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทั้งในชาตินี้และทุกๆชาติที่ผ่านมา ลูกขอขมากรรม ขออโหสิกรรมจากพ่อและแม่ ขอให้พ่อและแม่ให้อโหสิกรรมแกลูกด้วยเถิด (ไม่จำเป็นต้องตามนี้ทุกคำก็ได้นะครับ) แล้วพ่อและแม่จะต้องกล่าวคำว่า ให้อโหสิกรรม จากนั้นเราก็เอาน้ำล้างเท้าพ่อแม่เรานั่นเหละมาล้างหน้าลูบหัว เป็นอันเสร็จพิธี วิธืที่กล่าวมาทั้งหมดนี้นัยว่าเป็นเคล็ดของสวรรค์ และน้ำล้างเท้าบิดามารดานี้ศักดิ์สิทธิ์มากๆสำหรับลูกครับ
    ดูเหมือนไม่ยากนะครับแต่เอาเข้าจริงอาจจะเขินๆ ไม่รู้จะกล้าเอาน้ำล้างเท้ามาล้างหน้าได้รึเปล่า หรือกล้าแต่จะเริ่มคุยกับพ่อแม่ยังไง แนะนำว่าคุยให้ฟังตรงๆเลยครับว่าจะเป็นมงคลกับลูกอย่างยิ่ง แล้วเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวของเราเองครับโดยเฉพาะนักปฏิบัติ ขอโมทนาในมหาบุญนี้กับทุกๆ ท่านด้วยครับ
    <!-- / message --><!-- edit note -->
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย no.9 : 20-09-2007 เมื่อ 12:05 AM.
    <!-- / edit note -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2009
  15. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    พี่สุดใจเพิ่งแจ้งเข้ามาว่ากำลังเดินทางไปพบพระอาจารย์ใหญ่กับคุณAstro Neemo ที่รามคำแหง เกี่ยวกับเรื่องจานบินลงจอดที่วัดของท่านเมื่อ2-3วันที่ผ่านมา
    ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากพี่สุดใจ ผมจะรีบแจ้งให้เพื่อนๆ ที่สนใจทราบโดยด่วนเลยครับ


    จากหนังสือโหรามหาเวทย์ ฉบับที่ 3 โดย Astro Neemo

    นอกจากกลุ่มที่เคลื่อนไหวเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวหรือว่าพบเห็น UFO ในเมืองไทยแล้วยังมีโอกาสทราบว่า มีบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งที่มีความสามารถพิเศษในการติดต่อกับมนุษย์ต่าวดาวได้คือ พระครูมงคลธรรมโสภณ หรือ “หลวงพ่อใหญ่” แห่งวัดแจ้งเมืองเก่า อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    “หลวงพ่อใหญ่” สามารถติดต่อกับมนุษย์ผู้มาจากโลกอื่นได้คล้ายกลุ่มเขากะลา หรือ ดร.เทพนม เมืองแมน และอีกหลาย ๆ กลุ่มในเมืองไทย ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งใน 100 ครอบครัวที่ระบบแจ้งให้ทราบก็เป็นได้ หลวงพ่อใหญ่เล่าว่าท่านเริ่มติดต่อกับมนุษย์จากโลกอื่นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2540 ซึ่งเป็นเวลาใกล้เคียงกันกับท่านคุณพ่อ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน แห่งเขากะลา (ท่านติดต่อครั้งแรกเมื่อ 2 ธันวาคม 2540 ) ครั้งนั้น ขณะที่ทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญเทวดาเพื่อจะประกอบพิธีกรรมบางอย่างอยู่ ปรากฎว่ารู้สึกเหมือนมีพลังลึกลับอะไรบางอย่างดึงดูดให้ท่านเดินออกไปบริเวณหลังวัด เมื่อไปถึงปรากฎว่ามีจานบินจอดรออยู่ พร้อมกับมีมนุษย์ตัวเล็ก ๆ สูงราว 150 ซม. ศรีษะขนาดปกติไม่มีผม เท้าติดกัน ดูเหมือนไม่มีเท้า ใส่ชุดรัดรูปสีเงิน ยืนรอท่านอยู่<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    “หลังจากที่อาตมาได้พบกับพวกเขาแล้วก็แทบจะไม่ต้องคุยกัน เพราะเหมือนกับเราสื่อสารกันด้วยจิต เขาใช้มือทำท่าทางประกอบคำอธิบายต่าง ๆ แล้วก็เขียนแปลนก่อสร้างอาคารหลังหนึ่งคล้าย ๆ กับเก๋งจีน ส่งให้กับอาตมาด้วยมือ แล้วบอกว่า (ทางจิต) ให้รีบสร้าง ต่อไปจะมีผู้มีบุญญาธิการมาพักและเยี่ยมเยียนที่นี่ แล้วพวกเขาก็มาพบหลวงพ่อบ่อย ๆ ส่วนมากมาตอนกลางคืนหรือขณะที่นั่งสมาธิ แล้วพาหลวงพ่อไปเที่ยวชมเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น สึนามิ เหตุการณ์วางระเบิด แม้แต่ไปชมเมืองบาดาล บางครั้งก็ไปพบพระเถระที่ดับขันธ์ไปแล้ว การเดินทางเป็นการเดินทางไปด้วยจิต ท่านบอกว่าพวกเขาคิดเร็วมาก เร็วกว่าเราประมาณ 100 เท่า พวกเขาคล้ายกับผู้ที่จัดอยู่ในประเภทเทวตาภูมิ คือไปไหนมาไหนด้วยจิต จะมีร่างก็ได้ จะไม่มีร่างก็ได้ เปิดมิติได้ เปิดประตูเวลาได้ เปลี่ยนเวลาสถานที่ได้อย่างง่ายดาย ติดต่อสื่อสารกันด้วยจิต

    และที่สำคัญไปกว่านั้น หลังจากนั้นท่านก็นำแปลนที่ได้นำไปก่อสร้าง เมื่อสร้างเสร็จก็พอดีมีเจ้านาย ซึ่งเป็นพระราชวงศ์ชั้นสูงเสด็จมาเยี่ยมที่วัดนี้ และได้ประทับ ณ ศาลาหลังนั้น ก็เป็นจริงดั่งคำทำนายทุกประการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระบารมีมิเพียงแต่จำกัดเฉพาะพวกเราชาวไทยเท่านั้น แต่ก็ได้ปกคลุมแผ่ไพศาลไปไกลจนสุดขอบจักรวาลเลยทีเดียว!!!
    <!-- / message --><!-- attachments --><!-- / message --><!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2009
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    น่าสนใจครับเรื่องของพระอาจารย์ใหญ่
    คุณนีโม่กำลังประสานงานอยู่ คงได้รายละเอียดใหม่ๆมาเล่าให้ฟังนะครับ รอฟังอยู่ครับ
     
  17. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    การสรรหา 60 บุคคล<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ต้องขอบอกก่อนครับว่าไม่มีใครในกลุ่มเขากะลา (ชื่อเรียกสมัยนั้น)ทราบมาก่อนเลยว่าวันนึงๆ จะต้องทำอะไรบ้าง ในที่นี้หมายรวมถึงครอบครัวของพี่สุดใจ ตั้งแต่ที่ต้องมายังสถานที่เขากะลานี้ จะต้องเตรียมอะไร? นัดกับใคร? หรือใครจะมาใครจะไป อย่างที่ทราบกันคือในเบื้องต้น คุณลุงเชิด ชื่นสำนวน เป็นผู้สื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้ โดยมีการสื่อสารนัดหมายให้UFOมาปรากฎให้เห็น จนเป็นข่าวมาแล้วหลายครั้ง อีกทั้งยังมีเรื่ององค์เทพเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งคุณลุงเชิดเองก็ไม่ได้เป็นผู้ที่สื่อหรือติดต่อไปก่อน ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่จะต้องทำก็คือได้รับคำสั่งให้ทำ เรื่องการนัดหมายจากมนุษย์ต่างดาวว่าจะมาปรากฎให้เห็น หลายงานที่เราทราบกันแล้วนั้น มนุษย์ต่างดาวเป็นผู้สั่งให้จัดงานเลย ประกาศไปเลยจนถึงกับรายการทีวีมารอถ่ายทำ พี่สุดใจก็เคยเล่าให้ผมฟังว่าเป็นการลุ้นระทึก ถ้าเขาไม่มาแล้วจะเป็นยังไง จะไม่ทำก็ไม่ได้ แต่ในที่สุดก็ทุกข์ฟรีกันไป จนตอนหลังก็มีความมั่นใจแค่ทำตามที่สั่งเท่านั้น ผมเคยได้ยินคุณลุงเชิดท่านพูดเองว่า พระอินทร์สั่งให้ทำอะไรก็ทำไป ดังนั้นเรื่องราว ขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องการนัดหมายที่จะมาปรากฎให้เห็น การสรรหา 60 บุคคล เพื่อมาทำการฝึกจิต วิธีการฝึก สถานที่ ระยะเวลา ฯลฯ ตั้งแต่เริ่มจนถึง ณ เวลานี้ จึงหาตัวบุคคลผู้ที่จะรับผิดชอบที่เป็นมนุษย์เป็นๆ ไม่ได้เลย

    ทีนี้พอมาในช่วงการเทศนาธรรมจากพระอินทร์ ก็จะมีบุคคลจากหลากหลายเดินทางไปที่เขากะลา เพื่อฟังเทศน์บ้าง ดูภาพแปลกๆ จากมนุษย์ต่างดาวบ้างตามอัธยาศัย แต่ในส่วนที่ฟังเทศน์จะมากันมากขึ้นๆ และเริ่มอยู่ตัวคือหน้าเดิมๆ และจำนวนครบ 60 คน ก็โดยการนำของพระอินทร์ ท่านจะสั่งให้ทำหมายเลขมา มีเลข 1 – 60 ครบตามจำนวนคน ซึ่งนับรวมคุณชูชาติ ร่างของพระอินทร์ด้วย (เบอร์ 43 ให้เว้นไว้) ก็จับกันไปเรื่อยๆ ส่วนตัวผมเองจับได้หมายเลข 9 (เป็นที่มาของชื่อที่ผมใช้ในเว็ปนี้) คุณลุงเชิดจับได้หมายเลข 2 พี่สุดใจจับได้หมายเลข 6 แต่ที่สำคัญคือพระอินทร์ ในร่างของคุณชูชาติ เหลือเบอร์สุดท้ายให้ปรากฎว่าเป็นหมายเลข 1 ก็น่าแปลกดีครับ แต่ตอนนั้นเรื่องเว่อร์ เรื่องแปลก เป็นเรื่องปกติของกลุ่มเขากะลา ส่วนคุณวาสนารู้สึกจะไม่ได้จับ (จำไม่ได้) แต่ท่านให้เป็นหมายเลข 2/1 และมีกติกาว่าถ้าใครไม่ไปฟังเทศน์ติดต่อกัน 3 ครั้ง ก็ถือว่าสละสิทธิ ทีนี้ก็ได้แล้วครบ 60 บุคคล
    <O:p</O:p
    <O:p</O:pส่วนหมายเลข 43 นี่แปลกมากครับ มีบุคคลท่านหนึ่งผมก็จำชื่อไม่ได้ เป็นผู้ชายพี่สุดใจเล่าให้ฟังอีกต่อหนึ่งว่า ไม่รู้ว่าหมายเลข 43 ทำไมมันมีความหมายกับท่านมาก "ผมรู้มา 10 ปีแล้ว ว่าผมคือหมายเลข 43 แต่หาคำตอบไม่ได้ ว่าหมายเลขนี้คืออะไร เพราะไปที่ไหนก็ไม่เห็นเขามีหมายเลขกัน และผมสงสัยเรื่องเลขนี้มานานหลายปีแล้ว"

    แล้วมาคุยให้พี่สุดใจฟัง เมื่อ 2- 3 ปี ที่ผ่านมานี่เองนะครับ ไม่ใช่ในช่วงนั้น (รายละเอียดคงต้องพี่สุดใจเล่าดีกว่า) และเมื่อพอเล่าเรื่อง ว่าตัวเองรู้ว่ามีหมายเลข 43 มานานแล้ว พี่สุดใจก็เลยไปหยิบกระดาษที่บอกรายชื่อหมายเลข 1 - 60 มาให้ดู และบอกว่า ที่นี่มีการฝึก 60 บุคคลมาหลายปีแล้ว และมีหมายเลขหนึ่งที่เขาให้เว้นไว้ คือหมายเลข 43 นั่นเอง ซึ่งท่านผู้นั้นก็ยังงงว่าทำไม เลขที่ท่านรู้ จึงเป็นเลขเดียวกันที่เว้นว่างไว้ที่เขากะลา

    และท่านผู้นี้เองได้มาบูรณะศาลาที่ร้างจากพระสงฆ์บนเขากะลา เทปูนปูกระเบื้องศาลาใหม่ ลานมนุษย์ต่างดาว บันไดทางขึ้นองค์พระ ก็ต้องขออนุโมทนาบุญด้วยอย่างสูงละครับ<O:p</O:p <!-- / message --><!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2009
  18. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    ยินดีครับ ผมจะขอให้คุณโม่ลงรายละเอียดของท่านให้ฟัง ผมเองก็อยากทราบในเบื้องต้น ทราบแต่ว่าท่านสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้เหมือนกัน ส่วนเรื่องยานลงจอดที่วัดนี่ ถ้าเป็นเมืองนอกละข่าวกระจายเลย แต่อย่างว่านะครับยานฯ เขาค่อนข้างจะเกี่ยวพันกับมิติ ซึ่งบางครั้งตาเนื้อก็มองไม่ค่อยถนัดนัก

    แนะนำด้วยนะครับ คุณmeadก็รู้จักกลับทางกลุ่มฯ มาตั้งนานก่อนผมซะอีก:d
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ตุลาคม 2007
  19. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    หลังจากนั้นองค์พระอินทร์ได้มีการขอให้ผู้ที่มาเขากะลาแต่งกายชุดขาวเพื่อมาฟังธรรม จากในรูปด้านล่างนี้เป็นการเวียนเทียนในวันมาฆบูชา เป็นวันจันทร์ที่ 1 มีนาคม 2542 โดยการนำขององค์พระอินทร์ในร่างของคุณชูชาติ ชื่นสำนวนซึ่งขณะนั้นบวชเป็นสามเณร

    รูปบนเป็นรูปที่ผมใช้กล้องMINOLTA DYNEX7000i ตอนก่อนจะซื้อหนังสือกล้องเอามาลงปกว่าฉลาดที่สุดในโลก ถ่ายภาพAuto Focusในที่มืดสนิดได้ฯลฯ ภาพไม่เคยเสียเลย จะมีเสียที่คนกดดันไปถ่ายพื้นบ้างเท่านั้นใช้ฟิล์มครับ กล้องDigitalมีหรือยังไม่ทราบ วันนั้นใส่ฟิล์มKodak Gold200 พอไปอัดภาพมาเห็นเป็นขาวๆ ก็เลยโวยวาย โทษร้านอัด โทษกล้อง แต่พอมาสังเกตที่ฟิล์มที่ล้างแล้วปรากฎว่าสีขาวบนฟ้าในภาพนั้นอยู่เฉพาะในกรอบภาพที่ถ่ายมาและยังเป็นภาพที่37 หลังจากนั้นยังมีภาพสุดท้ายถ่ายออกมาเป็นภาพที่38 ดังภาพล่างก็ยังเป็นปกติ (กล้องผมถ่ายได้ม้วนละ 38 ภาพ) ก็แปลกดี<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 ตุลาคม 2007
  20. p.apichart

    p.apichart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    401
    ค่าพลัง:
    +4,041
    เข้าเรื่องดีกว่าครับ ทีนี้เมื่อได้ครบ 60 คนแล้ว องค์พระอินทร์ก็ไม่มาแล้วละซิ ก็จะเป็นหน้าที่ของคุณวาสนา ชื่นสำนวน โดยการผ่านข้อมูลจากท่านผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโตมาเป็นครูสอนแทน ไม่เทศน์แล้ว ตอนนี้ถ้าใครจะฝึกต้องออกจากงาน (ก็จะขอตัดฉากละครเรื่องราวการขัดใจญาติๆ ออกไป เพราะต่างคนต่างต้องออกจากงานถ้าต้องการจะฝึกโดยสมัครใจ)

    การฝึกในเบื้องต้นยังใช้สถานที่บนเขากะลา โดยการให้แบ่งออกเป็น 4 แผนก ตามปัจจัย 4 ที่ทุกคนจำเป็นต้องมี ก็ได้แก่

    - แผนกอาหาร หรือแผนกแม่ครัว มีหน้าที่ซื้อหา-ทำอาหาร หุงข้าว ล้างจาน และอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันทั้งหมด ซึ่งก็จะต้องทำทั้งเจและไม่เจ เพราะผู้ที่อยู่ฝึกมีหลากหลาย แต่จะกี่มื้อ มื้อไหนกี่โมงต้องรอคำสั่งจากครูเท่านั้น (ขออนุญาตเรียกสั้นๆว่า “ครู” หมายถึงท่านผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต โดยผ่านข้อมูลมาทางคุณวาสนา ชื่นสำนวน เป็นการรับข้อมูลทางเดียวหรือ ONEWAY COMUNICATION เมื่อถึงเวลารับประทานก็จะมีการเคาะระฆังเล็กๆ หรือกระดิ่งใหญ่ๆ ผมก็เรียกไม่ถูกแขวนอยู่บนง่ามไม้บนลานฝั่งตรงข้ามองค์พระ (ถ้าปัจจุบันยังฝึกอยู่ก็คงเคาะไม่ถึงแล้ว)

    <O:p</O:p- แผนกเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม มีหน้าที่ซักผ้าตากผ้า แต่ไม่ต้องรีดเพราะแต่ละคนจะมีชุดขาวได้เพียง 3 ชุด เท่านั้น ส่วนเครื่องในก็ของใครของมัน การมีหมายเลขทำให้ง่ายในการจดเขียนหมายเลขแต่ละคนลงบนเสื้อผ้าของตนเอง เวลาเก็บหรือเคลื่อนย้ายก็จะใช้ถุงดำพกหิ้วกันคนละถุงแทนกระเป๋าเดินทาง


    <O:p</O:p- แผนกที่อยู่อาศัย หรือเรียกว่าแผนกพื้นที่ ก็จะมีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ฝึก กวาดลานพระ ปูแผ่นรองนั่งสำหรับนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ จัดวางเก้าอี้พับและก็งานหนักๆ คือบรรทุกน้ำจากบ่อน้ำผุดหรือเรียกว่าตาน้ำที่พุตาฉิ่งบ้าง บ่อโยกที่โรงเรียนปากทางด้านล่างบ้าง ขึ้นมาใช้บนเขาผมเองทำหน้าที่นี้บางทีไปเอาน้ำจากบ่อมาก็จะมีลูกอ๊อดติดมาด้วย ทำไงได้ล่ะครับ (สงสัยจะลูกกบแต่พอหลังจากนั้นก็เห็นเจอแต่คางคกอยู่แถวห้องน้ำ)

    <O:p</O:p- แผนกยารักษาโรค ก็ไม่ต้องหาที่ไหนเพราะทั้งพี่สมจิตร และคุณวาสนาก็เป็นพยาบาลโดยอาชีพอยู่แล้ว<O:p</O:p
    (มีต่อ)<O:p</O:p <!-- / message --><!-- edit note -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 พฤษภาคม 2009
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...