ทานอาหารซีฟู๊ด บาปไหมค๊ะ?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย catgirlpat, 6 ตุลาคม 2007.

  1. catgirlpat

    catgirlpat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +8
    ท่านผู้รู้ ช่วยตอบหน่อยนะค๊ะ

    1. เวลาไปร้านอาหาร แล้วเราสั่ง กุ้งเผา ปูเผา หรือว่าหอยแคลงลวก นี่บาปไหมค๊ะ อาหารแต่ละอย่างอร่อยทั้งนั้น แต่ว่าทานแล้วก็กลัวบาป เพราะว่าอาหารพวกนี้สด ๆ คือเค๊ายังเป็น ๆ อยู่ และต้องถูกเผาเป็น ๆ อย่างปูนี่ถ้าจะผัดผงกระหรี่ ก็เห็นเค๊าสับกล้าม ทั้งที่เค๊ายังไม่ตายเลยค่ะ น่าสงสารมาก หอยนี่ก็ยังไม่ตาย ต้องถูกลวกในน้ำเดือด ๆ ปูหรือ กุ้ง ก็ถูกเผาทั้งเป็น เค๊าก็ดิ้น ๆ แล้วคนเผาก็เอาอะไรกดทับไว้ ดูแล้วทรมานมาก

    จริง ๆ แล้ว ชอบทานค่ะ แต่ว่าไม่กล้าสั่งทานเอง ถ้าจะได้ทานก็ต่อเมื่อคนอื่นสั่ง เพราะคิดไปเองว่า ถ้าเราไม่ได้สั่งฆ่าคงไม่บาป ทั้งที่ในใจอยากทาน เป็นคำถามที่ติดค้างในใจมานานแล้วค่ะ ใครรู้ช่วยบอกทีนะค๊ะ

    2. อีกเรื่องค่ะ เรื่องใยแมงมุง ถ้าเราปัดกวาด ทำความสะอาดบ้าน เราจะบาปไหมค๊ะ เพราะว่าเห็นตัวเค๊าเล็ก ๆ กว่าจะชักใยสร้างบ้านเของเค๊าได้ แต่เราเอาไม้กวาดไป ปัดทีเดียว เหมือนทำลายบ้านเค๊า แต่ถ้าเราไม่ทำความสะอาด บ้านเราก็สกปรก อย่างนี้เราควรทำงัยดีค๊ะ

    3. เกี่ยวกับแมงมุมอีกค่ะ ใยแมงมุมจะดักจับพวกแมลงต่าง ๆ ที่บินหลงเข้ามาติดใยกับดัก พวกแมงมุมก็จะมาชักใยพันเจ้าพวกแมลงพวกนั้นเก็บไว้กินเป็นอาหาร บังเอิญ เราก็ไปเห็น ก็เลยช่วยเจ้าพวกแมลงพวกนั้น อย่างนี้จะบุญ หรือจะบาปค๊ะ เพราะว่าเหมือนเราไปช่วยแมลง ทำให้แมงมุมไม่มีอาหารกิน คิดไม่ตกจริง ๆ ค่ะ

    ไม่รู้ว่ามาตั้งกระทู้ในหัวข้อตรงนี้ถูกหรือเปล่านะค๊ะ ถ้าไม่ถูกก็ขออภัยด้วย

    ยังงัยก็ช่วยตอบกันหน่อยนะค๊ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ตอบ

    ๑.มีข้อแนะนำว่า อย่ามอง อย่าเลือก นั่งโต๊ะแล้วสั่งเลย กินอาหารทะเลเผา เพราะมันบาป

    ถ้าคุณมานั่งคิดนะว่าเขา ต้องทำการฆ่า จินตนาการต่าง ๆ นานา อย่าสั่งครับ จิตตก ต้องเลิกกินแล้วครับ

    ๒.ปัดใยแมงมุม ศีลไม่ขาดครับ เพราะไม่ตาย

    ๓.ทางใครทางมันครับ มันเป็นกรรมของแมลง ช่วยอีกฝ่าย ทำร้ายอีกฝ่าย คงไม่ดี ธรรมชาติของเขาอย่าไปยุ่งกับเขาจะดีกว่า



     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2014
  3. catgirlpat

    catgirlpat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอบคุณค่ะ ที่ช่วยแสดงความคิดเห็น จะเก็บไปพิจารณาดู
     
  4. นืเฟร

    นืเฟร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +433
    เพื่อความสบายใจก้ไม่ต้องหรอก เพราะร้านอาหารซีฟู๊ดเค้าก็มักจะเอามาฆ่าเอามาปรุงสดๆเลย จะแกล้งหลอกตัวเองไปวันๆ ว่าไม่เกี่ยวข้อง ก้ไม่สามารถหนีความจริงที่ว่า เค้าเลี้ยงรอไว้เพื่อประเคนให้เราโดยตรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2007
  5. วังพญา

    วังพญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +373
    เป็นคำถามที่น่าสนใจดี ก็ยังนึกๆสงสัยแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ก็ทำตามอย่างที่คุณ เฮียปอ ตำมะลัง ว่าไว้ทุกข้อ โดยเฉพาะการไม่สั่งฆ่า สั่งกินเฉยๆ ยิ่งเวลาไปร้านกุ้งเผาปลาเผาที่เขาเอาตู้ปลามาโชว์ไว้ (ประมาณว่าโชว์ว่าของเขาสดจริงๆ) เราก็นั่งหันหลังให้เอา :) และไม่ชี้ว่าเอาตัวนั้นตัวนี้ ทำไงได้เพราะเวลาไปกับเพื่อนๆ กับครอบครัว มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่เข้าร้านแบบนี้

    มันอาจจะเหมือนการหลอกตัวเอง ก็ยอมรับ เพราะเรายังไม่ใช่คนถือศีลกินเจอย่างเป็นจริงเป็นจัง ก็เอาความสบายใจไว้ก่อนดีกว่า

    สมัยเด็กๆ เคยเห็นพ่อซื้อลูกวัวมาเพื่อฆ่าในตอนเช้ามืด เรายังไม่นั่งคุยกับมัน รู้ว่ามันจะต้องตาย เราจะช่วยก็ไม่ได้ ก็ได้แต่บอกว่าขออย่าให้เจ็บได้ทรมาณก็แล้วกัน พอตื่นมาตอนเช้ามันก็อยู่ในถ้วยแกงเสียแล้ว เราก็ยังกินอยู่ ก็เด็กเน๊อะ
    พอมีงานรื่นเริงที่บ้าน ก็เห็นผู้ใหญ่เขาฆ่าหมู ฆ่าควาย ที่บ้าน ยังจำเสียงกรีดร้องได้ ใจนี่หดหู่มาก แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง

    ทุกวันนี้ก็ยังกินเนื้อสัตว์อยู่ (ยกเว้นเนื้อวัวเนื้อควาย เลิกกินได้แล้ว) แต่เวลากลับไปเยี่ยมบ้าน จะบอกพ่อไว้ก่อนว่า มีงานอะไรที่บ้านก็แล้วแต่ อย่าฆ่าสัตว์เป็นอันขาด ก็รู้ว่าจะให้พวกแขกเหรื่อกินแต่ผักก็ไม่ได้ ก็บอกพ่อว่าซื้อที่เขาทำเสร็จแล้วชั่งขายเป็นกิโลเอา ไม่เอาแล้วที่ซื้อเป็นตัวมาฆ่า ถึงแม้ว่าราคาจะถูกกว่าก็ตาม ก็เอาความสบายใจเข้าตัดสินเอา
     
  6. catgirlpat

    catgirlpat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +8
    พระเจ้าจ๊อดดด กระทู้นี้เราโพสไว้เมื่อ 8 ปี ที่แล้ว ยังอยู่เลย :cool::cool: ว่าแต่ผู้คนมาตอบน้อยจัง
     
  7. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    เรื่องบุญบาป อยู่ที่ความรู้สึก รู้สึกผิด ก็บาป ไม่รู้สึกผิดก็ไม่บาป
    แต่เวรกรรมได้เน้นๆ ไม่เกี่ยวกับความรู้สึก
    ถ้าไม่เห็นภาพ ก็ให้จินตนาการว่าเราเป็นสัตว์เหล่านั้นแล้วถูกฆ่าด้วยวิธีการเหล่านั้นดู
    พึงรู้ว่าสัตว์ทั้งหลายที่เรากิน สัตว์เหล่านั้นเคยเป็นมนุษย์มาแล้วทั้งสิ้น
    เพราะกรรมแบบเดียวกับที่เรากำลังกระทำนั่นแล ที่เป็นปัจจัยให้ไปเป็นสัตว์เหล่านั้น
    อย่าพลาดไปเกิดอบายภูมิเชียวล่ะ สัตว์อะไรที่เคยฆ่าเคยกินไว้ ได้เป็นหมด
    และก็อย่าได้คิดว่า ตายอยู่ก่อนแล้วจะไม่เป็นเวรกรรม
    เพราะเรากิน ก็ถือเป็นผู้บงการให้เขาตาย มีส่วนร่วมในการฆ่าแล้ว
    ถ้าเราถูกฆ่า เราย่อมเกลียดคนที่ฆ่าเรา และเราก็เกลียดคนที่สั่งฆ่า เกลียดคนที่กินเราเช่นกัน

    มีสองทางเลือก
    หนึ่ง
    ชีวิตมนุษย์ที่เลือกกินเนื้อสัตว์ ถือว่ารับเวรเข้าเสมอๆ
    ต้องฉลาดในการคิด ต้องปล่อยวางความหม่นหมองของจิตให้ได้
    ถ้ากินเนื้อสัตว์แล้วมัวสำนึกผิดบาป จิตเศร้าหมองจะทำให้ลงนรกได้
    อย่าคิดว่าแผ่เมตตาให้สัตว์นั้น แล้วกรรมเวรจะหาย ไม่เลย
    กรรมเวรลบล้างไม่ได้ แต่กรรมเวรหลีกเลี่ยงให้ห่างได้
    ด้วยการภาวนานี่เอง ลดความยึดมั่นต่ออกุศลที่ได้กระทำไป
    ช่วยให้รอดพ้นอบายภูมิ เมื่อไม่ลงอบายภูมิก็ยังไม่ต้องไปเป็นสัตว์ให้เขาฆ่า
    สอง
    งดเว้นจากการกินอาหารเบียดเบียนเลือดเนื้อของเหล่าสัตว์ทั้งหลาย
    เพื่อทำใจให้สว่าง ไม่หม่นหมอง ก็มีโอกาสพ้นนรกได้

    เลือกข้อใดข้อหนึ่ง ทำให้ดี แล้วจะมีโอกาสหลบกรรมได้
    เลือกทำได้สองข้อยิ่งดี ถือเป็นยอดคนแท้ๆ
     
  8. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ขอถามต่อได้มั้ยคะ
    -แล้วถ้าซื้อเนื้อสัตว์ให้ผู้อื่นกิน (ซึ่งเป็นหน้าที่..ซื้อให้ลูกกับแฟน ) แล้วจิตใจหม่นหมองล่ะ จะทำอย่างไร

    เคยมีเจ้าอาวาสท่านนึงท่านเมตตาสอนว่า หากสังฆทานนี้ แม้อาตมาจะไม่ได้ฉัน แต่หากเนื้อสัตว์นั้น พระสามเณรรูปอื่นๆฉันได้ ก็ได้บุญเหมือนกัน

    พยายามจะทำใจค่ะ แต่ยอมรับว่า แม้การซื้อถวายสังฆทาน ยังไม่อยากจะซื้อ แต่ด้วยประโยชน์ของเนื้อสัตว์ จึง(ขอใช้คำว่าจำใจนะค่ะ) ต้องซื้อถวายด้วย เพราะทราบดีว่าโปรตีนจากพืชไม่เหมือนกับเนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์จะได้ประโยชน์กว่า

    เคยคิดจะตั้งกระทู้แต่กลัวโดนว่า ว่าโอเวอร์นะค่ะ

    เจริญสติไม่ออกค่ะ เพราะปล่อยวางไม่ได้ ทั้งๆที่ทราบว่า ไม่บาป
     
  9. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090

    -แล้วถ้าซื้อเนื้อสัตว์ให้ผู้อื่นกิน (ซึ่งเป็นหน้าที่..ซื้อให้ลูกกับแฟน ) แล้วจิตใจหม่นหมองล่ะ จะทำอย่างไร
    ตอบ...ก็อย่าคิดให้ใจหม่นหมองสิครับ

    เคยมีเจ้าอาวาสท่านนึงท่านเมตตาสอนว่า หากสังฆทานนี้ แม้อาตมาจะไม่ได้ฉัน แต่หากเนื้อสัตว์นั้น พระสามเณรรูปอื่นๆฉันได้ ก็ได้บุญเหมือนกัน
    ตอบ...แต่อาตมาก็ไม่ฉันใช่ไหมล่ะ เอาเถอะ บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป กรรมส่วนกรรม
    เราถวายสังฆทาน เราก็ได้อานิสงส์ เราไปเอาเนื้อเขามาถวาย มันก็เป็นวิบากกรรม
    ในภายหน้า เราเกิดมีโอกาสไปเกิดเป็นสัตว์นั้นๆบ้าง ก็เอาเนื้อไปให้คนอื่นกินบ้าง
    และหากเอาเนื้อเขามาถวายแล้วใจหม่นหมองด้วย รู้สึกผิดมากๆ ก็บาปเสียอีก
    ถ้ากลัวบาป ก็ไม่ต้องถวายเนื้อสัตว์ เต้าหู ไข่ไก่ นมวัว นมแพะ ผัก ผลไม้ ถวายได้เยอะแยะ

    เพราะทราบดีว่าโปรตีนจากพืชไม่เหมือนกับเนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์จะได้ประโยชน์กว่า
    ตอบ...อย่างนี้คือ ความคิดแบบฉาบฉวยของบุคคลส่วนมากในโลกนี้เท่านั้นครับ
    ลองพิจารณาดีๆ เนื้อสัตว์มีประโยชน์จริงหรือ? เรื่องให้พลังงานมากนั้น จริง
    แต่ประโยชน์นั้นเป็นเรื่องของข้อแก้ตัว พิจารณาเรื่องของสารตกข้าง โปรตีนที่ย่อยยาก ทำให้อวัยวะภายในทำงานหนัก ตัดถอนอายุตนเองลงไป กำเนิดโรคร้ายสารพัด
    บุคคลที่ทานมังสวิรัติหรือทานเจตั้งแต่อายุยังน้อย ต่างมีสุขภาพที่ดี เพราะอวัยวะทำงานแต่พอดี ไม่เสื่อมไว โรคภัยเลยถามหาช้า
    ถ้ารักความอร่อย และต้องการพลังงานมากๆ ไม่ห่วงชีวิตในบลั้นปลาย โปรตีนจากเนื้อสัตว์ก็คงตอบสนองความต้องการได้ดี

    เจริญสติไม่ออกค่ะ เพราะปล่อยวางไม่ได้ ทั้งๆที่ทราบว่า ไม่บาป
    ตอบ...บาปไม่บาป อยู่ที่จิตสำนึกเท่านั้นเอง กรรมที่เราไม่ได้ทำ แต่รู้สึกผิด ก็บาปได้ครับ กรรมดีที่ไม่ได้ทำ แต่เรายินดี ก็ได้บุญได้เหมือนกัน กรรมชั่วที่กระทำไป อาจไม่บาปก็ได้ ถ้าเราไม่ยึดติดกับอกุศลจิต พุทธองค์ยังบอกให้อยู่กับปัจจุบัน กรรมชั่วเก่าๆ มันไม่สำคัญเลย ถ้าเจริญสติเป็น สามารถหลบหลีกกรรมเก่าๆ ทำปัจจัยให้กรรมเก่าไม่ออกผลได้

    อย่างผมเอง ทุกวันนี้ ก็ไม่ได้ทานเนื้อสัตว์มาได้สองปีแล้ว
    เพราะทำใจให้วางเฉยต่อการเบียดเบียนเลือดเนื้อสัตว์ไม่ได้
    พอกินแล้ว ใจมันทุกข์ มันบาป เลิกกินแม่งเลย
    ทุกวันนี้ก็ เน้นไข่ไก่(ไข่ลม) นมวัว นมถั่ว ถั่วเหลือง เห็ดหอม เป็นหลัก
    นานๆทีก็กินพวกชอคโกแลต ขนมหวานเหมือนกัน
    ผมทานอย่างนี้มาสองปีแล้ว ไม่เห็นจะขาดสาร ก็แข็งแรงดี
    ผมทานเพียงวันละมื้อด้วยนะ (แต่จัดหนัก)
    เพราะช่วงเที่ยงเป็นต้นไป ท้องจะได้ว่าง นั่งสมาธิจะสงบได้มาก
     
  10. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    ขอบคุณมากค่ะ
    เรื่องโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ต่างกันพืช อันนี้ ลองมาด้วยตัวเองค่ะ ว่ามันไม่เหมือนกัน
    ทำให้ตัวเองต้องกินไข่ค่ะ เพราะตอนนั้น คิดจะไม่กินไข่ ประมาณ 1 เดือน อยู่แทบไม่ได้เลย หมดแรง คิดอะไรไม่ออก
    ไปอ่านเจอะ กรมอะมิโนบางตัในพืชวจะไม่เหมือนจากสัตว์ (ซึ่งจะส่งผลสำหรับบางคนเท่านั้น) อย่างดิฉันเป็นหลายโรค ต้องการพลังงานจากโปรตีนหน้าที่ต่างกันไป เพื่อให้ร่างกายคงอยู่ได้

    แต่ในส่วนของโทษของเนื้อสัตว์ อันนั้นทราบดีว่า มีโทษมากกว่าเยอะ พอดีญาติธรรมดูให้ว่าจะเป็นมะเร็งค่ะ เลยทำให้ร่างกายรับเนื่้อสัตว์ไม่ได้แล้ว (เพื่อนบอกว่า ในท้องเห็นเนื้อเน่าไปหมด) ส่วนตัวเองตั้งแต่มาปฎิบัติ ก็ทานเนื้อสัตว์ไม่ได้เอง เพราะเหม็น

    นน.กลับขึ้นดีกว่าตอนที่กินเนื้อสัตว์ค่ะ (ตอนกินเนื้อสัตว์ผอมกว่านี้)

    -แล้วถ้าซื้อเนื้อสัตว์ให้ผู้อื่นกิน (ซึ่งเป็นหน้าที่..ซื้อให้ลูกกับแฟน ) แล้วจิตใจหม่นหมองล่ะ จะทำอย่างไร
    ตอบ...ก็อย่าคิดให้ใจหม่นหมองสิครับ

    ....นั่นสิคะ หยุดคิดไม่ได้ เจริญสติแล้วก็ยังเครียด พยายามบอกตัวเองว่า หน้าที่ๆๆๆๆๆ ไม่ทำแล้วใครจะทำอะ

    เพิ่มเติมค่ะ ในส่วนของสังฆทาน อาจจะเขียนไม่ละเอียด เป็นปลาตากแห้งที่เขาขาย ไม่ได้ฆ่าเองค่ะ เจ้าอาวาสท่านบอกว่า สามเณรเป็นโรคขาดสารอาหารรุนแรง ซึ่งดิฉันคิดว่า โปรตีนเกษตรที่ถวายไปอาจจะให้โปรตีนไม่เพียงพอกับบุคคลที่เป็นโรคนะค่ะ



    ผมทานเพียงวันละมื้อด้วยนะ (แต่จัดหนัก)
    ยอดเลยค่ะ ดีใจด้วย
     
  11. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090

    เพิ่มเติมค่ะ ในส่วนของสังฆทาน อาจจะเขียนไม่ละเอียด เป็นปลาตากแห้งที่เขาขาย ไม่ได้ฆ่าเองค่ะ
    ตอบ...ถ้ามีความเบียดเบียนมาเกี่ยวข้องแล้วล่ะก็มี วัตถุทานจะบริสุทธิ์ไปไม่ได้ครับ

    สามเณรเป็นโรคขาดสารอาหารรุนแรง ซึ่งดิฉันคิดว่า โปรตีนเกษตรที่ถวายไปอาจจะให้โปรตีนไม่เพียงพอกับบุคคลที่เป็นโรคนะค่ะ
    ตอบ...ถ้าโปรตีนหรือสารอาหารจากพืชมันไม่น้อยมันเบา ก็ถวายไปเยอะ ให้กินไปเยอะ คนเป็นโรคขาดสารอาหารส่วนมากก็มีพฤติกรรมในการบริโภคเพียงน้อย หรือเลือกกิน ทางเลือกที่ดีที่สุดคือเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของบุคคลนั้นๆ
    และหากเป็นโรคขาดสารอาหารขั้นรุนแรง ควรจะกินยาแทนข้าวแล้วล่ะครับ
    เพราะต่อให้บริโภคเนื้อสัตว์ มันก็ขาดสารอาหารได้อยู่ดี เป็นเรื่องของกรรมบุคคล

    สุดท้ายอยากบอกว่า
    การละเว้นการเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นเพื่อนำมาจุนเจือชีวิตตนได้นั้น
    เป็นคุณสมบัติเด่นของสัตว์ประเสริฐ
    เป็นสิ่งที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากดิรัจฉานครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2014
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เราก็กินมังสาวิรัตอยู่ เคยอ่านในบทความวิชาการถึงข้อเสียของการกินมังสาวิรัตมีคราวๆดังนี้คือ ให้รดอะมิโนที่ร่างกายต้องการไม่ครบต่างจากเนื้อสัตว์ซึ่งมีครบ

    โรคซึมเศร้า คนที่กินอาหารมังสวิรัตินานๆ เสี่ยงต่อการขาดวิตามินบี12 ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโต และทำหน้าที่ของเซลล์ประสาท ทำให้มีอาการระบบประสาทอ่อนๆ เช่น อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ซึมเศร้า อ่อนเพลีย วิธีแก้คือ กินยีสต์ วิตามินบี หรือวิตามินรวมเสริม อีกทางเลือกหนึ่งคือ กินเนื้อนานๆ ครั้งค่ะ

    กล้ามเนื้อเหี่ยว การกินมังสวิรัติ เสี่ยงขาดโปรตีนทำให้มีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ทางแก้คือ เปลี่ยนข้าวขาว เป็นข้าวกล้อง ขนมปังขาวเป็นขนมปังโฮลวีท เพิ่มถั่วโปรตีนเกษตร เต้าหู้ งา และกินผักให้มากชนิดขึ้นไม่ว่าจะกินผักหรือกินเนื้อ ถ้าไม่ออกกำลังกายต้านแรง

    การ กินอาหารมังสวิรัติประเภทที่กินนมและผลิตภัณฑ์นม กับประเภทที่กินนม และไข่ผู้กินจะได้รับสารอาหารครบตามต้องการของร่างกาย แต่ในประเภทที่กินแต่พืช ผัก ผลไม้ ถั่ว งา จะทำให้มีโอกาสขาดสารอาหารหลายชนิดได้แก่วิตามินบี 2 แคลเซียม เหล็ก กรดโฟลิค และวิตามินบี 12 ซึ่งมีอยู่ในเนื้อสัตว์เท่านั้น อาหารที่มีวิตามินบี 2 สูงในพืชผัก ได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม เช่น ผักโขม คะน้า ถั่วต่าง ๆ อาหารที่มีแคลเซียมสูงได้แก่ เต้าหู้ ผักใบเขียวพวกใบย่านาง ใบชะพลู ใบแค ใบยอ เป็นต้น ส่วนพืชที่มีธาตุเหล็กและกรดโฟลิคสูง คืองาดำผู้ที่กินมังสวิรัติแบบเคร่งนี้จึงควรเลือกกิน อาหารดังกล่าวให้มากเพื่อที่ร่างกายจะได้รับสารอาหารครบถ้วนและไม่กระทบ กระเทือนต่อการเผาผลาญสารอาหารและนำสารอาหารไปใช้ ประโยชน์ ส่วนวิตามินบี 12 อาจพิจารณาเสริมด้วยยาเม็ดวิตามินในรายที่จำเป็น จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาเม็ดเสริมวิตามินเพื่อจะได้ไม่ใช้ ยาเกินความจำเป็นเพื่อสุขภาพโดยรวมที่สมบูรณ์แข็งแรง
     
  13. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    เพราะวัดนี้ฉันมื้อเดียวนะค่ะ จึงทานได้น้อย บวกกับยากจนมากจนไม่มีอะไรฉันเลย ไม่มีชาวบ้านตักบาตรให้ ทำให้เป็นโรคขาดสารอาหาร แม้พระยังปฎิบัติลำบากเพราะหิวมาก
    ยังสงสัยว่า แล้วพระที่สามารถ ทนกับการฉันแค่ 1 มื้อ นอนน้อยกินน้อย อยู่ได้อย่างไร (อย่างดิฉันนอนเยอะ กินเยอะค่ะ)


    ขอบคุณคุณดัชเชสนะค่ะ อ่านแล้วรีบเดินไปกิน เฮโมวิดเลยค่ะ (มีวิตะมิน12)
    ....ดิฉันเลยเป็นซึมเศร้าได้ง่ายเพราะเหตุนี้หรือเปล่า

    ปกติดิฉันทานโฟลิคเพิ่ม เพราะร่างกายขาดมาก มากจนลูกอาจจะพิการได้ โชคดีที่เขาเกิดมาครบค่ะ อาการเป็นแค่ที่เคยเล่าให้ฟังตอนโน้น (อาจจะเพราะลูกขาดออกซิเจนบ่อยตอนอยู่ในท้อง)
    กับเพิ่งเพิ่มธาตุเหล็กค่ะ เพราะตรวจเลือดคราวที่แล้วหมอ ทำหน้าไม่ค่อยดีนัก บอกว่า เลือดจางมาก ให้ทานธาตุเหล็กเพิ่ม

    เวลาวัดความดันดิฉันยังเบื่อ ต้องวัดหลายรอบ เอาค่าที่มากที่สุดให้ได้
     
  14. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    โรคซึมเศร้านั้น จะไม่เกิด สำหรับผู้เจริญภาวนาอยู่เสมอครับ
    การทานมังสวิรัติ เป็นเพียงเรื่องของการกิน
    เราจะไม่ทำเพียงแค่กินอาหารละเว้นจากเนื้อสัตว์
    แต่เราต้องทำความเข้าใจเรื่องการเบียดเบียน
    ไม่กิน เพื่อไม่อยากเบียดเบียน
    มีเมตตาแล้ว ก็รักษาศีลได้ง่ายตามไปด้วย
    พอมีศีลแล้ว จิตใจก็ห่างจากอกุศล
    ก็สามารถภาวนาได้ผลง่าย
    สำรวม ระวัง ละเว้น ทางกาย วาจา และใจ
    จะเรียกว่าปฏิบัติ "เจ" ก็ไม่ผิด
    ทางวิทยาศาสตร์มักจะหาข้อสรุปที่ง่ายๆ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
    เช่น ปวดหัว ก็กินยาพารา แต่ไม่เน้นที่ต้นเหตุของปัญหา
    โรคซึมเศร้ามันเกิดอยู่กับจิต ต้นเหตุก็คือจิต
    แต่จะให้ทานอาหารให้มีวิตามิน ให้มีประโยชน์ มันก็เป็นแค่ปัจจัยส่วนเล็กๆ
    บุคคลที่ทานอาหารอุดมสมบูรณ์แล้วยังเป็นโรคซึมเศร้าก็มี
    เหตุปัจจัยจากสังคม ครอบครัว การงาน การใช้ชีวิต ฯลฯ
    แก้ที่จิต ก็ต้องด้วยการภาวนา
    ผู้ภาวนาอยู่เสมอ เป็นบุคคลที่ไม่โกรธง่าย เมื่อโกรธก็หายในทันที
    ไม่ค่อยมีความเครียด สุขภาพก็แข็งแรงตามสภาพจิต
    ฉะนั้น หากใช้ชีวิตสัมมะเลเทเมาเหลวแหลก แม้จะกินมังสวิรัติ
    ก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

    เพราะวัดนี้ฉันมื้อเดียวนะค่ะ จึงทานได้น้อย บวกกับยากจนมากจนไม่มีอะไรฉันเลย ไม่มีชาวบ้านตักบาตรให้ ทำให้เป็นโรคขาดสารอาหาร แม้พระยังปฎิบัติลำบากเพราะหิวมาก
    ยังสงสัยว่า แล้วพระที่สามารถ ทนกับการฉันแค่ 1 มื้อ นอนน้อยกินน้อย อยู่ได้อย่างไร (อย่างดิฉันนอนเยอะ กินเยอะค่ะ)

    เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ ผมทานมื้อเดียวอยู่ได้ หลังจากที่เริ่มฝึกสมาธินั่นแล ก่อนหน้ารู้แต่เพียงว่าต้องกินให้ครบสามมื้อ
    ถึงเวลาก็ต้องกิน ท้องร้องก็ต้องกิน แต่จริงๆแล้ว ท้องร้องไม่ต้องให้มันกินก็ได้ ถึงเวลายังไม่ต้องกินก็ได้
    กินวันละสามมื้อ เป็นแค่ค่านิยมที่ทำกันมานาน ปลูกฝังในใจเราไว้ตั้งแต่เกิด พอไม่ได้กินก็อึดอัดทุรนทุราย บางทีก็ไม่หิวด้วยซ้ำ
    พอเริ่มกินมื้อเดียว ร่างกายจะเริ่มปรับสภาพ จะทรมานตนในช่วงแรก หิวก็กินเล็กน้อย อาจจะเป็นนมหรือขนมสักชิ้น
    พอผ่านไปสักครึ่งปี หรือปีหนึ่ง สภาพร่างกายมันปรับ ไม่หิว จะเหลือก็แต่ความอยากเท่านั้น เราก็ต้องสู้กับมัน

    เรื่องกินนั้นผมมื้อเดียว ส่วนเรื่องนอนผมไม่อด ไม่ฝืน สำหรับคนอื่นไม่รู้ แต่ถ้าง่วง ฝึกสมาธิไม่ได้ผลอะไรเลย
    ง่วงเมื่อไรผมจะนอน ผมไม่ฝึกสมาธิตอนกลางคืน ส่วนมากจะอ่านหนังสือธรรมะต่างๆ เอามาพิจารณาก่อนนอนมากกว่า
    เมื่อสองปีก่อน เคยตื่นมานั่งสมาธิประมาณเที่ยงคืนถึงตีสอง เป็นเวลาสองชั่วโมง เป็นเวลาเดือนหนึ่ง
    ต้องทนกับเวทนาจากการนั่งนิ่งนานๆ และก็อดทนต่อความง่วง ผลออกมาคือ ไม่ได้อะไร เสียเวลาเปล่า
    สมัยบวชเป็นสมณะ นั่งสมาธิช่วงบ่ายๆ เพียงสามสิบนาทีกลับได้ผลลัพที่ดีขึ้นตามลำดับ

    สรุปคือ กินน้อยนอนน้อย เป็นของบุคคลที่ฝึกฝนมาระยะยาวนานพอสมควร
    หากเราเพิ่งฝึกใหม่ ไปทำตามเขา นอกจากไม่เกิดประโยชน์ ยังให้ผลเสียต่อสุขภาพกายและจิตอีกด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2014
  15. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    อย่าไปทานพวกที่ต้องสั่งทำโดยที่มันยังไม่ตายก็ไม่บาป เลือกเฉพาะเมนูที่มันตายมานานแล้ว
     
  16. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    แล้วแต่บุคคล แล้วแต่สถานการณ์ ผมเลิกกินกุ้งเผาปูเผาที่ต้องสั่งฆ่านานแล้ว เพราะว่าผมสบายใจกว่าเวลาไปกินกันทั้งครอบครัวผมก็ไม่กิน ผมเอาชัวร์
     
  17. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    บาป แต่เค้าทำเป็นอาชีพฆ่าอยู่แล้ว เมื่อทานแล้วก็แผ่เมตตาให้เค้าด้วย

    เนื้อสัตว์ทานได้คือ ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้ฆ่าเพื่อท่าน
     
  18. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    เคยอ่านในวรสาร์น วิทยาศาตร์ด้วยคะ ว่าร่างกายมนุษย์ต้องการกรดอะมีโนชื่ออะไรบ้างไม่รูจำไม่ได้ แต่ประมาณ เก้าหรอ สิบสองตัวนี้แหละคะ แต่ มันจะมีครบในเนื้อสัตว์ แต่ในโปรตีนถั่วมีไม่ครบ

    สิ่งนึงที่ดิฉันเห็นๆเลยจากการทานมังสาวิรัตคือ หุ่นมันจะเหมือนคนบอบบาง อ่อนแอ อย่างอายุ สามสิบ ตัวสูงปานกลางจริง แต่ หุ่นมันจะลีบๆเหมือนเด็กอะคะ
    ตอนที่ดิฉันทานปลารู้สึกอารมย์จะดี เคลียดน้อยกว่านี้ แต่ตอนนี้กินมังฯ แบบ เต็มขั้น รู้สึกเคลียดง่าย ต้องหาน้ำผลไม้มาหรือ น้ำผึ้ง ดื่ม แต่ตอนนี้ทานมังฯจนชิน เลยกินปลาไม่ได้แล้วคะ คือเนื้อสัตว์ ยังไงก็กินไม่ได้
     
  19. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    ไม่บางนะ แต่ต้องทานให้ครบ หมุนเปลี่ยน ไม่ใช่มีแต่เต้าหู้
     
  20. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    แต่ดิฉัน มังฯ หลักๆคือ แกงเห็ด ส่วนเนื้อเทียม ต่างประเทศทำได้อร่อยใกล้เคียงเนื้อสัตว์มาก แต่ปัญหาของมังสาวิรัติ คือ กินเข้าไป ก็อิ่มยาก เพราะโปรตีนมันน้อย ต้องกินดับเบิ้ลของอาหารปกติ ไม่งั้นเป็นโรคกะเพาะ ดิฉันทานมังสาวิรัติเป็นปกติ คือ เช้า คอนเฟร็ค ผสมช็อกโกแล็ต ผลไม้แห้ง กับนม ส่วนกลางวันไม่กิน มากินเย็น จะทำแกงเผ็ด ใส่มะเขื่อเทศ สัปรส เห็ด และเนื้อเทีม บางวันทาน วีทโลป (ผักของยุโรป) ต้ม ราด ซอสครีม ลาดข้าว

    หุ่นบอบบางมาก ทานแบบนี้ บางคนแซว ระวังกระดูกจะหัก
     

แชร์หน้านี้

Loading...