บุญ -กรรม อะไรนะ?ทำให้แตกต่างกันได้ขนาดนี้

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Igiko_L, 19 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    :z16 เมื่อคืน มีพี่สาวในหอ มาคุยด้วย(เค้ามาเองไม่ได้ชวน)มาบ่นๆ(อารมณ์เสียมาจากที่ทำงาน) มาเล่า(ระบายให้ฟัง) ว่ามีปัญหา กับที่ทำงาน จนต้องออก ใครๆในหอ ก็รู้ว่าพี่สาว คนนี้แรง เกือบตี กับคนข้างห้อง แม่บ้านหอพักเลยมาพูดกับหนู ขอให้พี่สาวคนนี้ มาอยู่ห้องข้างๆหนูคะ
    :z17 พี่สาวคนนี้ ที่หนูจะเล่าให้ฟัง อายุย่าง30ปี จบปริญญาตรี 5 ใบ ทั้งวิศวะฯ กฎหมาย เภสัช บริหาร และ รัฐศาสตร์ หน้าเด็ก เวลาไปทำงานก็มีคนคิดว่าจบใหม่ (พี่สาวเป็นคนเล่า) เรียนวิศวะฯคอม มา เรียนเภสัช ควบ กฎหมาย ทำงาน เรียนต่อ เพราะทำงาน แล้วมีปัญหา กับเพื่อนร่วมงาน ไม่มีเพื่อนเลย มีคนอิจฉา กลัวมาแย่งตำแหน่ง แย่งแฟน (ทั้งๆที่พี่ไม่เคยอยากมีแฟน)ทำให้เปลี่ยนงานบ่อย
    ฟังแล้วอิจฉานะคะ หนูพยายามสอบเข้ามหาลัยมาหลายครั้ง แต่ไม่ติด หางานทำก็ไม่ได้ มาดูพี่สาวอีกคนที่หอ เรียนนิติ ที่รามฯ 8ปี ยังไม่จบ นั่งอ่านหนังสือ หัวฟู (สภาพเหมือนหนูเลย) แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จเลย หน้าตาก็โทรม
    ;k02 พี่ๆเพื่อนๆ ทางธรรม และท่านผู้รู้ ช่วย ชี้แนะด้วย บุญ และกรรมอะไร ที่ทำให้เป็นแบบนี้คะ
    thaxx
     
  2. คมวรรณ

    คมวรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +1,050
    เดี๋ยวผมขอเวลาแป๊บนะครับ..เสียอะไรก็เสียได้..แต่อย่าให้ใจมันเสีย..สู้ๆอดทนขอรับ..ใจเป็นนาย..กายเป็นบ่าว..
     
  3. จิตสีฟ้า

    จิตสีฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +192
    ไปตัดสินว่าเป็นกรรมด้านเเย่เสมอไปก็ไม่ได้หรอก ผู้หญิงเก่งบางคนเกิดมาเพื่อบำรุงสังคมให้ดีขึ้น มีความสามารถมากกว่าผู้ชายเเละด้วยกรรมเก่าที่ไปทำผู้หญิง ชาตินี้เลยต้องเกิดเป็นหญิง ส่วนการที่ประสบความสำเร็จด้านการศึกษามากมายนั้น กรรมตัวที่เป็นการกระทำ ความตั้งใจของเขาเป็นตัวส่งเสริมให้เขาทำสำเร็จเอง
     
  4. คมวรรณ

    คมวรรณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +1,050
    แนะวิธีแก้ไข..ให้กรรมเบาบางและมีสมองดีขึ้นในการเรียน(จะไม่พูดถึงอดีตชาติและกรรมเก่าว่าเคยทําอะไรมานะคับ-เน้นทําดีในปัจจุบันนี้แหละคับ)..และลดกิเลสความโลภ-โกรธ-หลงในตัวเองลงได้คับ.." ศีล " นั้น แปลว่า " ปกติ " คือสิ่งหรือกติกาที่บุคคลจะต้องระวังรักษาตามเพศและฐานะ ศีลนั้นมีหลายระดับคือ ศีล๕ ศิล ๘ ศิล ๑๐ และ ศีล ๒๒๗ และในบรรดาศีลชนิดเดียวกันก็ยังจัดแบ่งออกเป็นระดับธรรมดา มัชฌิมศีล ( ศีลระดับกลาง ) และอธิศีล ( ศีลอย่างสูง ศีลอย่างอุกฤษฏ์ )

    คำว่า " มนุษย์ " นั้น คือผู้ที่มีใจอันประเสริฐ คุณธรรมที่เป็นปกติของมนุษย์ที่จะต้องทรงไว้ให้ได้ตลอดไปก็คือศีล ๕

    บุคคลที่ไม่มีศีล ๕ ไม่เรียกว่ามนุษย์ แต่อาจจะเรียกว่า " คน " ซึ่งแปลว่า " ยุ่ง " ในสมัยพระพุทธกาลผู้คนมักจะมีศีล ๕ ประจำใจกันเป็นนิจ

    ศีล ๕ จึงเป็นเรื่องปกติของบุคคลในสมัยนั้น และจัดว่าเป็น " มนุษย์ธรรม " ส่วนหนึ่งในมนุษย์ธรรม ๑๐ ประการ ผู้ที่จะมีวาสนาได้เกิดมาเป็นมนุษย์จะต้องถึงพร้อมด้วยมนุษย์ธรรม ๑๐ ประการเป็นปกติ ( ซึ่งรวมถึงศีล ๕ ด้วย )

    การรักษาศีล เป็นการเพียรพยายามเพื่อระงับโทษทางกายและวาจา อันเป็นเพียงกิเลสหยาบมิให้กำเริบขึ้น และเป็นการบำเพ็ญบุญบารมีที่สูงขึ้นกว่าการให้ทาน

    ทั้งในการถือศีลด้วยกันเองก็ยังได้บุญมากและน้อยต่างกันไปตามลำดับต่อไปนี้ คือ

    ๑ . การให้อภัยทาน แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล ๕ แม้จะถือเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๒ . การถือศีล ๕ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล ๘ แม้จะถือเพียงครั้งเดียวก็ตาม

    ๓ . การถือศีล ๘ แม้จะมากถึง ๑๐๐ ครั้ง ก็ยังได้บุญน้อยกว่าการถือศีล ๑๐ คือการบวชเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา แม้จะบวชมาได้เพียงวันเดียวก็ตาม

    ๔ . การที่ได้บวชเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนา แล้ว รักษาศีล ๑๐ ไม่ให้ขาด ไม่ด่างพร้อย แม้จะนานถึง ๑๐๐ ปี ก็ยังได้บุญน้อยกว่าผู้ที่ได้อุปสมบทเป็นพระในพระพุทธศาสนาที่มี ศีลปาฏิโมกข์สังวร ๒๒๗ ข้อ แม้จะบวชมาได้เพียงวันเดียวก็ตาม

    ฉะนั้น ในฝ่ายศีลแล้ว การที่ได้อุปสมบทเป็นพระในพระพุทธศาสนาได้บุญบารมีมากที่สุด เพราะเป็นเนกขัมบารมีในบารมี ๑๐ ทัศ ซึ่งเป็นการออกจากกามเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติธรรมขั้นสูง ๆ คือการภาวนาเพื่อมรรค ผล นิพพาน ต่อ ๆ ไป ผลของการรักษาศีลนั้นมีมาก ซึ่งจะยังประโยชน์สุขให้แก่ผู้นั้นทั้งในชาตินี้และชาติหน้า

    เมื่อได้ละอัตภาพนี้ไปแล้ว ย่อมส่งผลให้ได้บังเกิดในเทวโลก ๖ ชั้น ซึ่งล้วนแต่ความละเอียดประณีตของศีลที่รักษาและที่บำเพ็ญมา ครั้นเมื่อสิ้นบุญในเทวโลกแล้ว ด้วยเศษของบุญที่ยังคงหลงเหลืออยู่แต่เพียงเล็กๆ น้อยๆ หากไม่มีอกุลกรรมอื่นมาให้ผล ก็อาจจะน้อมนำให้ได้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ที่ถึงพร้อมด้วยสมบัติ ๔ ประการ เช่น อานิสงส์ของการรักษา ศีล ๕ กล่าวคือ

    ๑ . ผู้ที่รักษาศีลข้อที่ ๑ ด้วยการไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ด้วยเศษของบุญที่รักษาข้อนี้ เมื่อน้อมนำมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะมีพลานามัยที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัย ไม่ขี้โรค อายุยืนยาว ไม่มีศัตรูเบียดเบียนให้ต้องบาดเจ็บ ไม่มีอุบัติเหตุต่างๆที่จะทำให้บาดเจ็บหรือสิ้นอายุเสียก่อนวัยอันควร

    ๒ . ผู้ที่รักษาศีลข้อที่ ๒ ด้วยการไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เจ้าของมิได้เต็มใจให้ ด้วยเศษของบุญที่น้อมนำมาเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้ได้เกิดในตระกูลที่ร่ำรวย การทำมาหาเลี้ยงชีพในภายหน้ามักจะประสบกับช่องทางที่ดี ทำมาค้าขึ้นและมั่งมีทรัพย์ ทรัพย์สมบัติไม่วิบัติหายนะไปด้วยภัยต่างๆเช่น อัคคีภัย วาตภัย โจรภัย ฯลฯ

    ๓ . ผู้ที่รักษาศีลข้อที่ ๓ ด้วยการไม่ล่วงประเวณีในคู่ครอง หรือคนในปกครองของผู้อื่น ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลในข้อนี้ เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ก็จะประสบโชคดีในความรัก มักได้พบกับรักแท้ที่จริงจังและจริงใจ ไม่ต้องอกหัก อกโรย และอกเดาะ

    ครั้นเมื่อมีบุตรธิดา ก็ว่านอนสอนง่าย ไม่ดื้อด้าน ไม่ถูกผู้อื่นฉุดคร่าอนาจารไปทำให้เสียหาย บุตรธิดาย่อมเป็นอภิชาตบุตร ซึ่งจะนำเกียรติยศชื่อเสียงมาสู่วงศ์ตระกูล

    ๔ . ผู้ที่รักษาศีลข้อที่ ๔ ด้วยการไม่กล่าวมุสา ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลข้อนี้ เมื่อนำมาเกิดเป็นมนุษย์ จะทำให้เป็นผู้ที่มีสุ้มเสียงไพเราะ พูดจามีน้ำมีนวลชวนฟัง มีเหตุมีผลชนิดที่เป็น พุทธวาจา มีโวหารปฏิภาณไหวพริบในการเจรจา จะเจรจาความสิ่งใดก็มีผู้ฟังและเชื่อถือ สามารถว่ากล่าวสั่งสอนบุตรธิดาและศิษย์ให้อยู่ในโอวาทได้ดี

    ๕ . ผู้ที่รักษาศีลข้อที่ ๕ ด้วยการไม่ดื่มสุราเมรัย เครื่องหมักดองของมึนเมา ด้วยเศษของบุญที่รักษาศีลข้อนี้ เมื่อนำมาเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมทำให้เป็นผู้ที่มีสมอง ประสาท ปัญญา ความคิดแจ่มใส จะศึกษาเล่าเรียนสิ่งใดก็แตกฉานและทรงจำได้ง่าย ไม่หลงลืมฟั่นเฟือนเลอะเลือน ไม่เสียสติวิกลจริต ไม่เป็นโรคสมอง โรคประสาท ไม่ปัญญาทราม ปัญญาอ่อน



    อานิสงส์ของศีล ๕ มีดังกล่าวข้างต้น สำหรับศีล ๘ ศีล ๑๐ และศีล ๒๒๗ ก็ย่อมมีอานิสงส์เพิ่มพูนมากยิ่ง ๆ ขึ้นตามระดับและประเภทของศีลที่รักษา แต่ศีลนั้นแม้นจะมีอานิสงส์เพียงไรก็ยังเป็นแต่เพียงการบำเพ็ญบุญบารมีในชั้นกลาง ๆ ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น เพราะเป็นแต่เพียงระเบียบหรือกติกาที่จะรักษากายและวาจาให้สงบ ไม่ให้ก่อให้เกิดทุกข์โทษขึ้นทางกายและวาจาเท่านั้น ส่วนทางจิตใจนั้นศีลยังไม่สามารถที่จะควบคุมหรือทำให้สะอาดบริสุทธิ์ได้

    ฉะนั้น การรักษาศีลจึงยังได้บุญน้อยกว่า การภาวนา เพราะการภาวนานั้น เป็นการรักษาใจ รักษาจิต และซักฟอกจิตให้เบาบางหรือจนหมดกิเลสคือ ความโลภ ความโกรธ และความหลง อันเป็นเครื่องร้อยรัดให้บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสงสารวัฏ การภาวนา จึง เป็นการบำเพ็ญบุญบารมีที่สูงสุด ประเสริฐที่สุด ได้บุญมากที่สุดเป็นกรรมดีอันยิ่งใหญ่เรียกว่า " มหัคคตกรรม " อันเป็นมหัคคตกุศล
     
  5. โยมแถวหลัง

    โยมแถวหลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +854
    แต่ละคนมีกรรมเป็นแดนเกิด ซึ่งไม่เหมือนกัน เราไม่ควรดูถูกตัวเรา เพราะคนที่เราเห็นว่าดีประสบความสำเร็จทุกอย่าง เขาก็มีความทุกข์ในใจอยู่มาก อย่างคนที่คุณยกตัวอย่างมาเขาไม่มีความสุขในในเขาหรอกครับ เราเองก็เหมือนกันตราบใดที่ยังคงน้อยใจในวาสนาชาตินี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ดี ลองตั้งหลักจิตหลักใจใหม่ ว่าต่อแต่นี้ไปเราจะไม่คิดคำนึงถึงอดีตที่ผ่านไปแล้ว เราจะตั้งใจทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เราจะไม่น้อยเนื้อต่ำใจในบุญวาสนา เราจะเร่งสร้างบุญบารมีของเราด้วยการให้ทาน ถือศิล ภาวนา ตามกำลังที่เราพอมี ลองดูนะครับ ใจเราจะได้สงบ และมีสติปัญญาในการครองตนมากขึ้น
     
  6. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    pig_cryy หนู(สอบเข้ามหาลัยไม่เคยติด)กับ รุ่นพี่(สาว) อีก2 คน(เรียนนิติทั้งคู่)เรียนมา8-9ปี แล้ว ยังไม่จบ เราทั้ง3 เป็น พุทธมามกะ ก็ปฏิบัติธรรม และมีปฏิธาน ด้วยกันคะ
    ผิดกันตรงที่ หนูเป็นศิษย์ พระอาจารย์สมเด็จโต จำคำสอน พระอาจารย์โตได้ (ไม่ให้ไหว้ขอ หากกุศลถึง แม้ฟ้าดินจะขว้างก็ไม่สำเร็จ) หนูก็ตั้งใจ(บางทีมีแอบขอ...พระอาจารย์สมเด็จโต ท่านก้จะทราบ) ส่วนพี่2คน คนหนึ่งนับถือ หลวงปู่(ไม่บอกดีกว่า) อีกคน นับถือเจ้าแม่กวนอิม........ชอบบน ชอบขอให้เรียนจบ หนูก็มอง ปกติ เรียนมานานก็อยากจบ
    ถ้าพี่เค้าขี้เกียจ หนูก็คงมองว่า....ธรรมดาเพราะขี้เกียจ (แต่พี่เค้าขยัน มากด้วยนะคะ)แต่พอไม่จบ พี่2คน หมดศรัทธา ไปนับถือ....เข้าศาสนา อื่น (คราวนี้ ขอได้เต็มที่เลย)
    ส่วนหนู ก็ยังยึด ถือ พระพุทธเจ้าเป็นแบบ อย่าง ในความเพียร (สอบไม่ติดอีกแล้ว) หนูคิดว่า หนูคง หมดบุญ(หมดวาสนา จะได้เรียนต่อ ให้จบปริญญาตรี) ไม่ได้เสียใจ ว่าทำไม่ได้ แค่เสียใจที่ ชีวิต ไม่เป็นแบบอย่างให้คนอื่นเห็นเลย ว่า ความเพียร ด้วยตัวเอง สุดท้าย ไม่ได้อะไรเลย pig_cryy มันตอกย้ำ ให้พี่สาวทั้ง2 เห็นว่า พระพุทธศาสนา ไม่ได้ช่วยไรเลย
    ต้องไป.....ท่านช่วยได้จริงๆ
    หนูคิดว่า หนูคงหมดหน้าที่ ทางโลกแล้ว
     
  7. naithammada

    naithammada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +283
    คนในปัจจุบันเปลี่ยนไปเยอะ อ่านตามข้างลางนี้

    ความเป็นจริงแล้วมนุษย์มีความอิจฉาริษยาทุกคน ปริมาณมากน้อยต่างกัน

    ถ้าใครมีมากจะแสดงออกจนเห็นได้ชัด เมื่อแสดงออกบ่อย ๆ ก็เข้าข่ายเป็นนิสัย เป็นสันดานอิจฉาริษยา

    ถ้ามาอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ก็จะเข้าข่ายอันธพาล พร้อมจะแสดงความก้าวร้าว ทำลาย ทำร้ายคนอื่นที่เขาอิจฉาริษยาได้ง่าย

    ความอิจฉา: เป็นความรู้สึกที่ไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี กลัวว่าเขาจะดีเด่นเกินหน้าหรือเท่ากับตนจึงทนไม่ได้

    ความริษยา: เป็นนิสัยที่เวลาเห็นคนอื่นได้ดีแล้วทนไม่ได้ มักจะเกิดลักษณะริษยา อาฆาต คือ การคิดแค้น เพราะไม่อยากให้ใครได้ดี

    เรามักจะใช้คำสองคำนี้รวมๆ กัน คืออิจฉาริษยา

    ตัวอย่างเหตุการณ์และลักษณะของความอิจฉาริษยาในชีวิตประจำวันมากมาย เช่น

    เพื่อนอิจฉาเพื่อน: ถ้าได้ข่าวว่าเพื่อนปลูกบ้านใหม่ เมื่อไปเห็นแล้วว่าบ้านเพื่อนสวยงาม จะเกิดความอิจฉาริษยาว่าทำไมเขามีบ้านสวยงามกว่าบ้านตน ทนไม่ได้ จะไม่ยอมไปบ้านเพื่อนอีกเลย และหาทางว่าเขาไม่ดีอย่างโน้ยอย่างนี้

    พี่น้องอิจฉากัน: ซึ่งมักมีอยู่แล้ว เรียกว่า siblihg rivaliy และอิจฉากันมากขึ้นถ้าพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ดีมีอคติ ลำเอียงให้เห็นชัก หรือไปใส่ไฟของคนคนอิจฉามากขึ้น จะทำให้ลูกกลายเป็นคนมีลักษณะขี้อิจฉา

    ผู้หญิงอิจฉาผู้ชาย: ในทางจิตวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้หญิงมีปมในใจที่อยากมีองคชาตแบบผู้ชายและไม่สามารถมีได้ จึงอิจฉาผู้ชายที่มีองคชาย ( ehvy) จะเห็นได้ชัดในผู้หญิงเก่งๆ ที่แข่งขันกับผู้ชายทุกรูปแบบ ทั้งแอบแฝงและเปิดเผย

    ผู้ชายอิจฉาผู้หญิง: ถ้าอิจฉามากและแข่งขันกันมาก ในทางจิตวิเคราะห์เชื่อว่าเขามีปมลึก ๆในใจคิดว่าผู้ชายที่ประสบความสำเร็จมากกว่าที่จะมีองคชาตใหญ่กว่าเขา จึงอิจฉาเขาที่องคชาติชายใหญ่กว่า(ehvy for bigger pehis)

    ผู้หญิงอิจฉาผู้หญิง: พบได้มาก แสดงออกเปิดเผยชัดเจน มักอิจฉาคนที่ดีกว่า เก่งกว่า สวย รวยกว่าเป็นเพราะมีปมในใจลึกๆที่คิดว่าคนที่ดีกว่านั้นเขามีเต้านม (breast) ใหญ่กว่า และตนเองมีเต้านมเล็กกว่า จึงอิจฉาเขา (ehvy for bigger breast)

    คนที่มีนิสัยขี้อิจฉาริษยามีมากขึ้นในสังคมทุกวัน

    ใครที่ทำความดีและถูกชมเชยมากๆก็ถูกอิจฉาและหมั่นไส้ได้ง่าย

    บางคนเห็นเพื่อนได้ดี ถูกชมเชยมากๆ เลยเลิกคบเพื่อนไปเลยก็มี

    ความอิจฉาริษยาเป็นเรื่องของความก้าวร้าว สันดานดิบ ที่ทำให้มนุษย์อยู่รวมกันได้ยาก ซึ่งตรงข้ามกับคุณธรรม ที่ทําให้มนุษย์อยู่รวมกันได้ดี คือความรัก ความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ซึ่งนับวันจะไม่มีคนสั่งสอน และคนมักจะไม่สนใจทำตาม

    ทำให้ทุกวันนี้เราต้องอยู่ในสังคมของคนที่มีนิสัยอิจฉาริษยามากขึ้น ทั้งมนุษย์ปุถุชนทั่วไปหรือแม้นักบวชก็เห็นได้มากขึ้น


    Crdit By : http://internationalschool.eduzones.com/ajarnboo/9183
     
  8. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    หนูพึงทราบตามพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าโดยหลักๆ คือ ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ..กรรมดีให้ผลน่าปรารถนา และกรรมชั่วให้ผลเป็นทุกข์...

    เมื่อได้หลักเช่นนี้ก็ย่อมสามารถวินิจฉัยที่มาที่ไปของสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ตนต้องเกี่ยวข้องได้โดยไม่ต้องไปถามใครที่ใหนๆว่าทำกรรมอะไรมาเพราะไม่มีใครทราบได้แน่แท้ ยกเว้นเสียแต่จะไปถามพระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่จะทรงสามารถพยากรณ์ได้แม้ว่าทำกรรมนี้มาเมื่อชาติใด เวลากี่โมง ทำนานกี่วันฯลฯเป็นต้น ผลจึงเป็นเช่นนี้..



    นี้เป็นตรรกะที่ไม่ประกอบด้วยปัญญาอะไร ๆเลย หนูมีศรัทธาที่ไม่มีปัญญาประกอบจึงเข้าถึงความ"งมงาย"เสียแล้ว..น่าเห็นใจว่า หนูมีบุญมากที่แม้คนนับพันล้านทั่วโลกไม่อาจมีได้คือ..การได้เกิดมาเป็นคน..มีโอกาสพบพระพุทธศาสนา สามารถมีจิตเลื่อมใสได้ แต่เพียงเพราะเข้าใจผิดคิดว่า สิ่งที่ตนปรารถนาจะสำเร็จได้เพียงเพราะ"อ้อนวอนร้องขอ"จากอิทธิฤทธิ์ของใครๆ หรือเพราะเข้าใจว่าเมื่อทำดีที่สุดมีการเพียรพยายาม อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูแล้ว ย่อมได้สิ่งทั้งปวง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามต้องการหรือคาดหวังเสมอ..เช่นนี้นับว่า ไม่ใช่ความคิดเห็นที่ถูกต้องที่ชาวพุทธแท้จะพึงมีเลย.......ความรู้ผิดเห็นผิดลักษณะนี้ มีโทษภัยและอันตรายอย่างยิ่งแก่ตน ..หนูพึงทราบ และแก้ไขเสีย...

    เพราะการตกไปจากศรัทธาที่ถูกในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า หมายุถึงการปิดขังตนเองไว้ในสังสารวัฏ หาทางออกไม่ได้เลย..ส่วนบุคคลผู้ถือลัทธินิกายอื่น ไม่จำเป็นต้องพูดถึงว่าจะออกจากสังสารทุกข์ได้..เพราะไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นได้..

    ขอให้หนูทำความเห็นให้ถูกตรงว่า สิ่งทั้งปวงไม่ใช่อะไรของใคร ดังนั้นจึงไม่มีใครหรืออะไรจะสามารถ บังคับบัญชา ร้องขออ้อนวอนเอาได้ดังปรารถนา...ถ้าว่าใครๆสามรถสมปรารถนาได้เพราะการร้องขอแล้วไซร้ คนทั้งโลกคงไม่มีใครทุกข์เลย เพราะนั่งนอนอ้ิอนวอนเอาสบายๆก็ได้แล้ว..จริงใหม?

    ทุกสิ่งที่เกิดกับสรรพสัตว์ล้วนมีมาจากเหตุปัจจัยจำนวนมากที่ประชุมพร้อมเสมอ หาได้มีอะไรเกิดเองลอยๆไม่.. พึงทราบว่าในสังสารวัฏอันหาเบื้องต้น เบื้องปลายไม่พบนี้..เราทุกคนทำทั้งดีและชั่วมาเกือบทุกอย่างแล้ว..ชีวิตจึงเต็มไปด้วยสุขทุกข์คละเคล้ากันตลอดเวลา..เรื่องที่เกิดกับหนูก็เป็นเรื่องปรกติ ที่คนอื่นอีกนับไม่ถ้วนก็ประสบพบพานกันมากบ้างน้อยบ้าง ต่างกันเพียงรายละเิีอียดเท่านั้น..ขอหนูจงเข้าใจ และพิจารณาด้วยปัญญาด้วยดีเถิด..และขอให้หนูพ้นจากความเห็นผิด จนท้อแท้ไปหมด อย่าลืมว่า หนูเองก็ทำบุญมามากมายแล้วเช่นกัน..

    ใครจะรู้ว่า ในไม่ช้าผลบุญที่ดีเหล่านั้นจะได้ช่องมาส่งให้ได้รับความชื่นใจบ้างเช่นกัน...เป็นกำลังใจให้นะครับ...
     
  9. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    มันเกียวกับ ราศีเกิดด้วยจ้า ว่ามีควมทนทาน เรื่องอะไรมากกว่ากัน บางราศี เรื่อง เรียน เรื่องอ่านหนังสือ เขาชำนาญ เป็นของชอบของปกติของเขา ในขณที่ บางราศี ชอบสนุกชอบเที่ยวเล่น บางราศีก็เหมาะทน กับทำงานแรงงานมากกว่า สิ่งเหล่านี้แหละทำให้คนต่างกัน
     
  10. ฟูจิ0007

    ฟูจิ0007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    608
    ค่าพลัง:
    +829
    เป็นกำลังใจให้นะคะ ตอนนี้รอสอบเข้าหมอเหมือนเดิมหรือเปล่าคะ
     
  11. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    เขาทำบุญมา แต่ไม่ได้บอกบุญคนอื่น เลยไม่มีเพื่อน
     
  12. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    pig_cryy ประกาศผลสอบ หนูไม่ติดอีกแล้ว (เรื่องอื่นๆ หนูมีปาฏิหาร์ มีลาง มีเซน แต่เรื่องเรียน ตั้งใจแค่ไหน เซนแค่ไหน ดวง แค่ไหน ก็ไม่เคยสำเร็จ)หนูก็คงปล่อยวางแล้ว
    catt19 หนูคงหมดบุญที่จะเรียนแพทย์แล้วละคะ หมดวาสนา ในการเรียนต่อให้จบ ป.ตรี เพราะถ้ามีฐานะ(หรือ ไม่ถูกโกงเงิน ตอนแม่เสีย อย่างน้อยๆก็คงจบ วิศวะฯราม ที่เรียนรอ สอบกสพท อีกครั้ง)
    หน้าที่ทางโลกหมดแล้ว ไปพร้อมๆกับ แม่เสีย น้อง ตั้งใจทำงานขึ้น หนูคงหาวัด บวชชี คงบวช นาน ที่สุด(มีพี่ท่านหนึ่ง บอกว่า อย่าบอกว่า บวชจน ตาย มารจะมาขว้างคะ)
    ....หน้าที่ทางโลก ของเราคงหมดแค่นี้ กะมั้ง
     

แชร์หน้านี้

Loading...