มาเล่าเรื่องบรรลุปฐมฌานกับ วสีครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ballbeamboy2, 25 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อย่างแรก ผมเอานี่มาก่อน



    เมื่อผู้บรรลุปฐมฌานกุศลเห็นโทษของวิตกเจตสิก ซึ่งเป็นเจตสิกที่

    จรดในอารมณ์ว่า ปกติย่อมจรดในอารมณ์ที่เป็นกามอารมณ์ คือ รูป เสียง กลิ่น

    รส โผฎฐัพพะ จึงยังใกล้ชิดต่ออกุศลธรรมทั้งหลาย ถ้าสามารถให้ฌานจิตนั้น

    ปราศจากวิตกเจตสิก ให้มีแต่วิจารเจตสิก ปีติ สุข เอกัคคตา ก็ย่อมสงบประณีต

    กว่า จึงเพียรระลึกถึงอารมณ์ของปฐมฌานกุศลที่บรรลุแล้ว และพยายาม

    ประคองให้จิตสงบมั่นคงที่อารมณ์ของปฐมฌาน โดยไม่ให้วิตกเจตสิกต้องจรด

    ในอารมณ์นั้นเลย ซึ่งจะสำเร็จได้เมื่อถึงพร้อมด้วย วสี ๕ คือ ความชำนาญ

    แคล่วคล่องในฌาน ๕ ประการก่อน วสี ๕ คือ๑ ...

    ๑. อาวัชชนวสี ความชำนาญในการนึกถึงปฐมฌานได้ ณ สถานที่และ

    ขณะตามที่ปรารถนา

    ๒. สมาปัชชนวสี ความชำนาญในการเข้าฌาน คือ ให้ฌานจิตเกิดได้

    ณ สถานที่และขณะตามที่ปรารถนา

    ๓. อธิษฐานวสี ความชำนาญในการให้ฌานจิตเกิดดับสืบต่อนานมาก

    น้อย ณ สถานที่และขณะตามที่ปรารถนา

    ๔. วุฎฐานวสี ความชำนาญในการออกจากฌานได้ ณ สถานที่และขณะ

    ตามที่ปรารถนา

    ๕. ปัจจเวกขณวสี ความชำนาญในการนึกถึงองค์ฌานแต่ละองค์ได้ ณ

    สถานที่และขณะตามที่ปรารถนา

    เครดิตครับ วสี ๕

    (อันนีไม่ได้พูดเพราะอยากมาโชว์กิเลสว่าเราทําได้จะให้คนยกย่องสรรเสริฐนะครับ แต่อยาก บอกว่า ฌานมีจริง ธรรมของพระพุทธเจ้านี่ยังอยู่มรรคผลนิพพานมีจริงแน่)

    ผมเคยบรรุลุปฐมฌาน (แต่ตอนนี้ทรงไม่ได้) ตอนนั้นนะครับ ผมภาวนา พุทโธ (ง่ายครับไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้อยากอะไร แล้วตอนนั้นก็มีจิตนับถือพระรัตนตรัย เชื่อว่า พระพุทธเจ้า จากกษัตริย์มาเป็นนักบวช นี่ต้องมีเหตุแน่ๆ แล้วก็ ก็มีคนบอกว่า ไม่แน่ใจพระพุทธเจ้ารึเปล่า อย่าเพิ่งเชื่อต้องพิสูจน์ ผมก็พิสูจน์ด้วย) แล้ว ภาวนาพุทโธไป แล้วจู่ๆลืมคําภาวนา (ไม่ได้ไปตั้งใจลืมนะมันตัดเอง) แล้วสุขมากๆแบบเปรียบเทียบไม่ถูก ภาษาพูดบอกไม่ได้ บอกไดเแค่สุข แต่มันสุขไม่ใช่แบบ แช่น้ำอุ่นๆกินอาหารอร่อยๆ หรือมีอะไรกับสาวสวยๆ ไม่ใชแบบนั้นครับ มันสุขมากๆๆๆ แล้วตอนนั้น หูผมเริ่มไม่ได้ยินเสียง แล้วตอนนั้นก็ลืมตาขึ้นมา จิตสงบมากครับ แล้วมีแมวที่วัดตัวหนึ่งสีดําครับ ผมบอกในใจว่า ท่านมาหาเราเถอะเราไม่ทําอะไรท่านหรอก เราเป็นมิตร (แมวดันมาซบตักผมจริงๆครับ) แต่น่าเสียดายตอนนั้น ป้าผม(คือตอนนั่นวันพระ เค้าให้ทําสมาธิระยะหนึ่ง) พอเสร็จแล้ว ป้าผมก็เรียก ผมก็ ได้ยินเสียงป้าแต่ ตอนนั้นแบบเบาๆ พอระยะก็ได้ยินปกติ แล้วก็สักพักเหมือน มีความรู้สึกคนพลักผมจากที่สูงครับ (อารมณ์คือไม่ชินกับฌาน อันนี้เป็นวิธีแก้สูดหายใจยาวลึกสองสามครั้ง เดี๋ยวก็หายครับ)

    แต่ตอนนั้น ผมเหมือนคนไม่มีกิเลส ไม่ได้ใส่ใจกับหญิงอะไรเลย (ตอนนั้นผมกะจะบวชพระเลยเอาจริงๆ มั่นใจจริงๆว่าบวชแล้วจะสุขสบายแน่)อารมณ์สงบมากแต่ไม่กี่วันต่อมา เห็นหญิงสวยๆแล้วผมเสือกคิดลามก (ตอนนั้นหลงคิดว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ด้วยซ้ำ)



    ไม่แปลกครับ ผมฌานโลกีย์ ถ้าผมเป็นพระอริยเจ้านี่สบาย สมาธิทรงตัว จิตเป็นสุขสบายครับ


    ขอเล่าอีกหน่อยครับ ตอนนั้นผมรู้สึกตัวเบามาก ไม่รู้ทําไมไม่เหมือนตอนนี้เหมือนมันหนักไม่เบาเลย (น่าจะเป็นกิเลส เยอะมันเลยหนัก คนกิเลสน้อยนี่น่าจะไม่หนัก) ตอนนั้นถ้าผมบินได้ ผมบินไปนานแล้วครับ (มันตัวเบาจริงๆ)


    แล้วอีกตอนหนึ่ง ภาวนาไปเรื่อยๆ แล้วเจอแสงสีขาว สว่างจ้าเลย สงสัยคือไร แล้วพอลืมตา แสงหาย แล้วเป็นแบบนี้2-5 ครั้ง ล่าสุดที่เป็นคือตอนกลับมาเดนมาร์ค(ผมอยู่เดนมาร์คนะครับ) นั่งสมาธิ ตัวตรง ดูลมหายใจ แล้วก็เห็นแสง แต่ตกใจตื่นเต้นคือไร แสงก็หายไป แล้วมีอีกอัน ตอนนี้เป็นปีก่อนครับ

    ตอนนั้นผมภาวนาก่อนนอน ทุกวัน (จิตสบายมากครับ เคารพพระรัตนตรัย ตอนนั้นอาการปรามาสพระรัตนตรัยไม่มี) แล้วก็บางครั้งเห็นแสงระยิบระยับ ก่อนเวลานอน ก็ตกใจคือไร สักพักหาย แล้วผมก็หลับ พอตืนมาก็จิตสุข



    แต่อาการปรามาสพระรัตนตรัยนี่มีทุกคนส่วนใหญ่ครับ ถ้าจะเอาดีจริงๆในพระพุทธศาสนา (บางคนไม่เป็น ก็ถือว่าดีมากครับ เพราะอารมณ์นี้ ทําให้ผมไม่ได้นอน มาหลายวัน ปวดหัวโคตรๆ หงุดหงิดมาก) แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาหน่อย มีอานาปนุสติ เป็นที่พึ่งครับ กับขอขมาพระ




    ล่าสุดครับ เมื่อวาร24.กุมภา ผมเล่นเกมแล้วคิดว่าอยากภาวนาดู สักสองนาที (ตอนนั้นอาการปรามาสพระมีอยู่ทุกอย่าง) แล้วก็ขอขมาพระ แล้วก็ภาวนาดูครับ รู้สึกจิตสงบดีปกติ (แต่ไม่ได้เห็นอะไรนะครับ) แต่จิตสงบ รู้สึกโอเคดีมากครับ ผมก็กะจะทําแบบนี้ทุกวัน ติดต่อกัน กะจะให้เป็น วสี ครับ


    อ่อผมอายุ 16ปีครับ ก่อนจะบรรลุปฐมฌาน นี่ ก็ปกติ ชอบสาวสวยๆ เล่นเกม ปกติแต่ ปกติผมไม่ใช่คนมักโกรธ แต่ถ้าโกรธจริงๆก็ห้ามไว้ในใจ ยกเว้นทนไม่ไหว จริงๆ จะต่อย (คือโกรธมาก เหอๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2013
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    อะไรที่ผ่านมาแล้ว ก็ผ่านไปครับ อย่าเก็บมาคิด

    เวลาปฏิบัติ ถ้าตัดตรงนี้ไม่ได้ มันจะเป็นอารมณ์ที่คอยกวน เวลาปฏิบัติ ทำให้คอยคิดแต่เรื่องในอดีต ที่เคยได้มา


    ปัจจุบันจะได้หรือไม่ได้ ก็ไม่ต้องสนใจ ทำให้ดีที่สุด มีสติ อยู่กับปัจจุบัน เวลาปฏิบัติ ครับ
     
  3. โทรศัพท์

    โทรศัพท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +114
    ผมแนะนำดูนะครับ ลองเพิ่มงานให้จิตโดยระลึกถึงลมหายใจเข้า-ออก ตลอดเวลาเพื่อประคองอารมณ์นี้ให้อยู่ตลอดทั้งวัน แต่ถ้าให้เป็นวสีอาจจะต้องอาศัยคำภาวนาจนสามารถจำอารมณ์นั้นได้ แล้วก็ค่อยอาศัยลมหายใจเข้า-ออก ควบไปเลย /ส่วนเรื่องแสงสว่างสีขาวที่มีความสว่างเท่ากับดวงอาทิตย์ แสงเหมือนนีออนนั้น ลองใช้วสีของใจที่เป็นสุขประคองภาพนั้นไว้ คุณอาจจะโดนดูดเข้าไปในแสงนั้น และอาจจะได้ท่องเที่ยวแบบเดินทางโดยวิธีใหม่ๆ ก็ได้ เมื่อเบื่อแล้วอย่าลืมกลับมาระลึกถึงภาพพระพุทธเจ้าประคองอารมณ์นั้นไว้ โชคดีครับ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    อายุ ๑๖ ขวบ..ได้ขนาดนี้เก่งแล้วคุณชาย..ลองตั้งเป้าไว้ในใจ..อย่างน้อย
    ให้เข้าถึงอารมย์ฌาน ๔ ดูก่อนซิ.

    ได้ไม่ได้ถึงไม่ถึงไม่ต้องซีเรียส.สภาวะช่วงอายุหลายคนอ่านพอเข้าใจ.แต่อย่าเพิ่งรีบ
    ด่วนสรุปอาการ.กริยา หรือ สภาวะต่างในสมาธิและวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง.ไม่ใช่
    ว่าที่สรุปจะผิดหรืออะไรนะ..แต่การมีปลายทางไว้ก่อนในเบื้องต้น.เป็นทุนในจิต

    และก็ปฏิบัติของเราไป.ไม่ต้องสนสภาวะข้างทางที่มิใช่ปลายทาง.จะทำให้ไปได้เร็วกว่า
    .เด่วตอนนั้นค่อยย้อนกลับมามอง มองมุมสูงเห็นชัดกว่า รายละเอียดเยอะกว่า
    ใครถามก็ตอบได้เพราะเห็นมาแล้ว.ไม่เหมือนถามใครแล้วรู้..แต่ไม่เห็น


    มองจากล่างขึ้นไปข้างบน เพราะอาจยังไม่เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ เปรียบได้กับคำ
    แนะนำถึงบอกไป.ใช่ว่าใจตนเชื่อ หากยังไม่พิสูจน์ด้วยตัวเอง.
    อารมย์ฌาน ๔ ก็เคยอ่านอยู่ใช่ว่าไม่รู้..จริงไหมครับ...​
     
  5. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    มีสติรักษาศีลจากภายในใจ ซึ่งเป็นผู้บังคับ กาย วาจา และตามดูจิต เพื่อให้เข้าถึง "จิตนิพพาน" อยู่อย่างสม่ำเสมอ แล้วอะไรจะเกิดก็ปล่อยให้เกิดไป แต่ต้องไม่ไปยึดติดกับนิมิตพวกนั้น สุดท้ายก็จะละขันธ์ 5 ได้เอง
     
  6. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    จริงๆสภาวะมันเป็นเช่นใดหนอ..อารมณ์ฌาน
    คิดอะไรก็มีพลัง จิตใจสดชื่นไม่มีทุกข์ จิตเป็นหนึ่งเฉพาะหน้าตลอดเวลา จิตมีกำลังอยู่เสมอใช่ไหมครับ
     
  7. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    คับจิตนี่เป็นสุด แต่จะพูดแบบจริงๆ คือว่ามันทุกข์นั้นแหละ แต่ทุกข์หยาบๆๆ (คือว่าทุกอย่างนี่ทุกข์หมด แต่จะทุกข์มาก หรือน้อยแค่ไหนก็แค่นั้น)

    จิตมีกําลังอันนี้ ผมขอยืนยันว่าจริง (ถ้าตอนนั้นผม เจริญวิปัสสานาด้วย) ดีไม่ดีผมเป็นพระโสดาบันเลย เพราะเหมือนมีกําลังใจตัดกิเลส


    อารมณ์ฌาน4 อันนี้รู้ครับ แต่ รู้ไม่จริง เพราะ ธรรมของพระพุทธเจ้า ถ้าปฎิบัติจริงๆ อารมณ์มันจะละเอียมาจริงๆ อย่างฌานนี่ ถ้าไปบอกว่า สุขมากๆ คนไม่เคยได้ฌานก็คิดว่า อาจจะเหมือนกินอาหารอร่อยๆ ก็ได้ หรือมีไรกับสาวสวยๆ แต่ถ้าปฎิบัติแล้วเจออารมณ์นี้ ต่อให้สาวสวยแค่ไหน ก็ไม่มีอารมณ์ทางเพศแน่ ยังไม่อยากมองด้วยซ้ำ
     

แชร์หน้านี้

Loading...