การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 10 เมษายน 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    การเฝ้าระวังปรากฏการณ์เอลนีโญ/ลานีญา

    ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนอย่างใกล้ชิดเพื่อสังเกตสัญญาณที่จะบ่งบอกถึงการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ/ลานีญานั้น ขณะนี้มีข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน ซึ่งสรุปได้ดังนี้
    ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2549 อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนสูงกว่าปกติมากกว่า 0.5 oซ. เกือบทั้งหมด และมีบางพื้นที่สูงกว่าปกติมากกว่า 1 oซ. (ดังแสดงในภาพ) ลักษณะเช่นนี้บ่งบอกถึงแนวโน้มในการพัฒนาเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้านี้ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนส่วนใหญ่จะยังคงอยู่ในภาวะใกล้เคียงปกติและจะพัฒนาเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังอ่อนในช่วงประมาณปลายปีนี้
     
  2. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    ลมหนาวเริ่มมาแล้วหล่ะ..สัมผัสได้วันนี้ เข้าเทศกาล ค้นเสื้ออุ่นมาใส่แล้ว จิ
    <TABLE borderColor=#000000 cellSpacing=3 cellPadding=1 width=560 align=center bgColor=#ffffcc border=2><TBODY><TR><TD class=bold style="COLOR: #ff0000" vAlign=top borderColor=#ffffff align=justify bgColor=#ffffff height=24>

    ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ ฉบับที่ 1 ( 36/2550)
    เรื่อง ฤดูหนาวของภาคเหนือ
    --------------------------​
    </TD></TR><TR><TD style="COLOR: #000000" vAlign=top borderColor=#ffffff align=justify bgColor=#ffffff height=24>ด้วยฤดูหนาวของภาคเหนือ ปี พ.ศ.2550 จะเริ่มต้นปกติ ประมาณกลางเดือนตุลาคม 2550 เมื่อมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน และ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมและมีกำลังแรงขึ้นเป็นระยะๆ ประกอบกับคลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนผ่านเป็น ครั้งคราว ทำให้มีเมฆมากขึ้น และฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในระยะแรก แล้วอากาศจะเย็นลงกับมีหมอกในตอนเช้า กลางฤดูหนาวในเดือนธันวาคม 2550 ถึงมกราคม 2551 มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะเสริมเข้าปกคลุมบ่อยครั้งขึ้น ทำให้อากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่บนยอดดอย เดือนกุมภาพันธ์ มวลอากาศเย็นจะมีกำลังอ่อนลงต่อเนื่อง และจะสิ้นสุดฤดูหนาวกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ฤดูหนาวปีนี้จะมีอากาศหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา และมีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
    ภัยธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ คือ
    พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ส่วนมากตอนบนของภาค ในเดือน ตุลาคม และ พฤศจิกายน 2550 ซึ่งจะทำความเสียหายให้แก่ทรัพย์สิน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ตลอดจนพืชผลทางการเกษตร
    น้ำค้างแข็งบนเทือกเขาและยอดดอย และหมอกหนา ในเดือนธันวาคม 2550 และ มกราคม 2551 น้ำค้างแข็ง จะทำความเสียหายให้แก่พืชผลการเกษตรในที่สูง และหมอกหนาจะเป็นอุสรรคในการคมนาคมในตอนเช้า
    ภัยแล้ง ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งปริมาณฝนรวมในระยะที่ผ่านมามีน้อย อาจทำให้น้ำสำหรับอุปโภค บริโภคไม่เพียงพอ
    จึงขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพร่างกายให้อบอุ่น เพิ่มความระมัดระวังขณะเดินทางผ่านหมอกหนา เตรียมการป้องกันและระวังภัยธรรมชาติดังกล่าวในพื้นที่เสี่ยงภัย วางแผนการเพาะปลูกและการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนติดตามสภาพอากาศ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-277919 , 053-922365 และ 053-281271 และพื้นที่ฝนตกจากเรดาร์ตรวจอากาศ ใน www.cmmet.tmd.go.th ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    ประกาศ ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2550
    ออกประกาศเวลา 15.39 น. .​
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. ปฐวี

    ปฐวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +457
    <TABLE id=table1 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="85%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=titlehead align=middle>:cool: คำแนะนำในการใช้ตารางกำหนดเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกัน
    (Table of Initial Isolation and Protective Action Distances)</TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD class=bullet>ตารางกำหนดเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกัน ใช้ประโยชน์ในการป้องกันประชาชนให้พ้นจากบริเวณที่มีการรั่วไหลของวัตถุอันตราย ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเป็นพิษเมื่อสูดหายใจเข้าไป (Toxic by Inhalation, TIH) รวมทั้งวัตถุที่ใช้ในสงคราม หรือให้ก๊าซพิษเมื่อสัมผัสกับน้ำ ตารางดังกล่าวใช้เป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับผู้ดำเนินการโต้ตอบภาวะฉุกเฉินในขั้นต้น ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญและผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินจะเดินทางมาถึง ระยะทางที่ปรากฏในตารางจะแสดงขอบเขตพื้นที่ซึ่งจะได้รับผลกระทบภายในระยะเวลา 30 นาทีแรก หลังจากที่มีการหกรั่วไหลของสารอันตราย และอาจจะขยายเพิ่มขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป เขตอันตราย (Initial Isolation Zone) หมายถึง พื้นที่โดยรอบอุบัติภัยที่เกิดขึ้นซึ่งอาจทำให้ประชาชนในทิศเหนือลมได้รับอันตรายและอาจทำให้ประชาชนในทิศใต้ลมเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
    เขตควบคุมป้องกัน (Protective Action Zone) หมายถึง พื้นที่ใต้ลมของอุบัติภัยที่เกิดขึ้นซึ่งอาจทำให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการป้องกันอันตรายและ/หรือได้รับผลกระทบต่อสุขภาพในขั้นร้ายแรงหรือในขั้นที่ไม่สามารถหวนเป็นปกติได้
    ตารางดังกล่าวจะให้คำแนะนำเฉพาะสำหรับการหกรั่วไหลปริมาณเล็กน้อยและปริมาณมากซึ่งอาจเกิดขึ้นในเวลากลางวันหรือกลางคืน
    การปรับเปลี่ยนระยะเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกันสำหรับเหตุการณ์เฉพาะบางอย่างควรจะกระทำโดยบุคลากรด้านเทคนิคที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะกรณี ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีแนวทางแน่นอนในการปรับเปลี่ยนตารางดังกล่าวในเอกสารเล่มนี้ อย่างไรก็ตามอาจใช้แนวทางทั่วไปต่อไปนี้
    <HR width="85%" color=#000000 noShade>ปัจจัยที่อาจเปลี่ยนระยะควบคุมป้องกัน
    คู่มือจะกล่าวถึงระยะอพยพที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม หากเกิดเพลิงไหม้ในบริเวณที่มีวัตถุอันตรายจะทำให้อันตรายจากพิษของวัตถุมีความสำคัญน้อยกว่าอันตรายจากอัคคีภัยหรือการระเบิด ถ้ามีจำนวนภาชนะหรือถังบรรจุมากกว่า 1 ถัง หรือรถขนส่งมากกว่า 1 คัน ที่เกี่ยวข้องกับการรั่วไหล อาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มระยะ หากเกิดการรั่วไหลขนาดใหญ่
    สำหรับวัตถุซึ่งมีระยะควบคุมป้องกัน 11.0+ ก.ม. (7.0+ ไมล์) ระยะที่แท้จริงจะเพิ่มมากขึ้นในบางสภาวะอากาศ เช่น กรณีที่ถ้ากลุ่มของไอระเหย (Vapor Plume) ของวัตถุอันตรายผ่านเข้าไปในหุบเขาหรืออยู่ระหว่างตึกสูงๆ ระยะดังกล่าวอาจจะมีขนาดเพิ่มขึ้นมากกว่าที่แสดงในตาราง เนื่องจากการผสมกันของไอระเหยกับบรรยากาศมีน้อยกว่า อีกกรณีหนึ่ง เช่น การรั่วไหลในช่วงเวลากลางวันในบริเวณซึ่งมีความแปรปรวนของอากาศต่ำหรือมีหิมะปกคลุมหรือเกิดขึ้นในช่วงพระอาทิตย์ตกและมีลมสงบ อาจต้องการระยะควบคุมป้องกันเพิ่มขึ้น เนื่องจากในสภาวะดังกล่าวสิ่งปนเปื้อนในอากาศจะผสมกันและแพร่กระจายตัวได้ช้ากว่าและอาจเคลื่อนตัวไปได้ไกลกว่าในทิศทางตามลม นอกจากนั้น เขตควบคุมป้องกันอาจมีระยะทางเพิ่มขึ้น หากอุณหภูมิของของเหลวที่หกรั่วไหลหรืออุณหภูมิของอากาศขณะนั้นสูงกว่า 30 C (86 F)
    วัตถุที่เมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำ แล้วให้ก๊าซพิษจำนวนมาก จะมีอยู่ในตารางกำหนดเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกัน อย่างไรก็ตาม ต้องจำไว้ว่าวัตถุพวก TIH (เช่น Bromide trifluoride, Thionyl chloride เป็นต้น) สามารถให้วัตถุ TIH ชนิดอื่น เมื่อหกรั่วไหลลงในน้ำ สำหรับวัตถุพวกนี้ต้องเปิดตารางของทั้ง 2 สาร (สารตั้งต้น และสารผลิตภัณฑ์) ในกรณีที่ไม่ชัดเจนว่ามีการหกรั่วไหลลงบนพื้นดินหรือแหล่งน้ำ หรือทั้งพื้นดินและแหล่งน้ำ ให้เลือกระยะควบคุมป้องกันที่มากกว่า ตารางต่อจากตารางกำหนดเขตอันตราย และเขตควบคุมป้องกัน จะเป็นตารางแสดงสารเคมีที่ เมื่อหกรั่วไหลลงน้ำแล้วให้ก๊าซพิษ และแสดงก๊าซพิษที่สารที่ทำปฏิกิริยากับน้ำผลิตออกมา
    สารที่ทำปฏิกิริยากับน้ำแล้วให้ก๊าซพิษรั่วไหลสู่แหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำ หรือลำธาร แหล่งกำเนิดของก๊าซพิษนี้ อาจเคลื่อนที่ไปตามกระแสน้ำ ห่างจากจุดที่รั่วไหลเป็นระยะทางไกล
    ตารางกำหนดเขตอันตราย และเขตควบคุมป้องกันจะแสดงวัตถุอันตรายที่ใช้เป็นอาวุธสงครามบางอย่าง ซึ่งระยะทางจะกำหนดโดยการคำนวณจากเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด ในกรณีที่ใช้วัตถุนี้เป็นอาวุธเท่านั้น
    <HR width="85%" color=#000000 noShade>ปัจจัยในการตัดสินใจควบคุมป้องกัน
    ทางเลือกในการป้องกันภัยในแต่ละสถานการณ์จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละปัจจัย ในบางกรณีการหนีภัยอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด บางกรณีการหาที่กำบังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ในบางครั้งอาจจะต้องใช้ทั้ง 2 วิธีร่วมกัน ในภาวะฉุกเฉินหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องให้คำแนะนำแก่สาธารณชนโดยเร็วที่สุด เนื่องจากสาธารณชนจำเป็นต้องทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนคำแนะนำต่างๆ ในการหนีภัยหรือการโต้ตอบภาวะฉุกเฉิน
    การประเมินปัจจัยต่างๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไปนี้ จะช่วยให้การหนีภัย หรือการป้องกัน ณ สถานที่เกิดเหตุให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ความสำคัญของปัจจัยดังกล่าวอาจแปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ของภาวะฉุกเฉินในกรณีเฉพาะบางกรณี ปัจจัยอื่นๆ อาจมีความจำเป็นในการวิเคราะห์และพิจารณาด้วยเช่นกัน รายการต่อไปนี้จะเป็นตัวชี้ชนิดของข้อมูลซึ่งอาจจะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจขั้นต้น
    <TABLE class=bullet id=table2 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>วัตถุอันตราย
    - ความรุนแรงของอันตรายต่อสุขภาพ
    - ปริมาณที่เกี่ยวข้อง
    - ภาชนะบรรจุ/การควบคุมการถ่ายเท
    - อัตราการเคลื่อนที่ของไอระเหย
    กลุ่มประชากรซึ่งได้รับผลกระทบ
    - สถานที่
    - จำนวนประชากร
    - เวลาในการหนีภัยหรือการป้องกัน ณ สถานที่เกิดเหตุ
    - ความสามารถในการควบคุมการหนีภัย หรือการหลบภัย ณ จุดเกิดเหตุ
    - ชนิดของตัวอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวก
    - สถาบันหรือกลุ่มประชากรที่สำคัญ เช่น สถานรับเลี้ยงเด็ก โรงพยาบาล เป็นต้น
    สภาพทางอุตุนิยมวิทยา
    - ผลต่อการเคลื่อนที่ของก้อนเมฆและไอระเหย
    - ความแปรปรวนของอากาศ
    - ผลต่อการหนีภัย หรือการป้องกันภัย ณ สถานที่เกิดเหตุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE><HR width="85%" color=#000000 noShade>การควบคุมป้องกัน
    การควบคุมป้องกัน (Protective Actions) เป็นขั้นตอนที่ทำให้เจ้าหน้าที่ระงับเหตุเบื้องต้น และสาธารณชนมีความปลอดภัยจากวัตถุอันตรายที่หกรั่วไหล ตารางกำหนดเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกัน (แถบสีเขียว) ในข้อมูลขนาดของพื้นที่ใต้ลม ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากกลุ่มก๊าซพิษ ประชาชนในบริเวณนี้ควรอพยพออกจากพื้นที่ และ/หรือหาที่หลบภัยในอาคาร
    เขตอันตรายและห้ามเข้า (Isolate Hazard Area and Deny Entry) คือ บริเวณที่ต้องกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องในการระงับเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระงับเหตุที่ไม่ได้สวมชุดป้องกันสารเคมีออกนอกบริเวณ การกั้นเขตอันตรายควรทำเป็นอันดับแรก เพื่อควบคุมบริเวณที่ต้องใช้ระงับเหตุ ให้ดูตารางกำหนดเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกันสำหรับข้อมูลของวัตถุแต่ละตัว
    การอพยพ (Evacuate) หมายถึง การเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากบริเวณอันตรายไปที่ที่ปลอดภัยกว่า ในการอพยพต้องมีเวลามากพอเพื่อการเตือนประชาชน เตรียมพร้อมและย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งหากมีเวลามากพอ การอพยพจะเป็นวิธีการควบคุมป้องกันที่ดีที่สุด เริ่มต้นโดยการอพยพประชาชนใกล้เคียงหรือที่จุดเกิดเหตุ เมื่อหน่วยงานช่วยเหลืออื่นมาถึงให้เพิ่มพื้นที่การอพยพในทิศใต้ลมและทิศตั้งฉากกับกระแสลมเป็นระยะทางอย่างน้อยเท่ากับตามที่คู่มือแนะนำ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีการอพยพตามระยะทางที่กำหนดไว้ในคู่มือแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าประชาชนจะมีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ไม่ควรให้ประชาชนรวมตัวกันอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ควรอพยพประชาชนให้อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุเพียงพอ และเป็นระยะที่ไม่ต้องอพยพอีกหากลมเปลี่ยนทิศ
    ที่หลบภัยในที่เกิดเหตุ (Shelter In-Place) ประชาชนในที่เกิดเหตุต้องหาที่หลบภัยในอาคาร และอยู่ในนั้นจนกว่าเหตุการณ์จะสงบลง การหลบภัยในอาคารจะทำต่อเมื่อการอพยพประชาชนทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น หรือไม่สามารถทำการอพยพประชาชนได้ เจ้าหน้าที่ควรนำประชาชนเข้าไปหลบในตัวอาคาร ปิดประตูและหน้าต่างทุกบาน รวมทั้งปิดระบบระบายอากาศ ระบบทำความร้อนและความเย็นทั้งหมด การหลบภัยในอาคาร อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด ถ้าหาก (ก) ไอระเหยสามารถติดไฟได้ (ข) ใช้เวลานานในการลดความเข้มข้นของก๊าซในที่เกิดเหตุ หรือ (ค) ไม่สามารถปิดอาคารได้อย่างมิดชิด นอกจากนั้นยังสามารถใช้ยานพาหนะเป็นที่หลบภัยได้ชั่วคราว ซึ่งต้องปิดหน้าต่างและระบบระบายอากาศของยานพาหนะนั้น อย่างไรก็ตามการใช้ยานพาหนะเป็นที่กำบังจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการหลบภัยในอาคาร สิ่งที่จำเป็นมากอีกประการหนึ่งคือ ต้องมีการติดต่อกับผู้ที่หลบภัยอยู่ในตัวอาคาร เพื่อแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอก ผู้หลบภัยควรอยู่ห่างจากหน้าต่าง เนื่องจากอาจได้รับอันตรายจากเศษกระจก หรือโลหะจากการติดไฟและ/หรือการระเบิด
    อุบัติภัยจากวัตถุอันตรายแต่ละเหตุการณ์จะมีความแตกต่างกัน แต่ละเหตุการณ์จะมีปัญหาและจุดวิกฤตแตกต่างกัน ดังนั้นต้องเลือกการแก้ไขปัญหาเพื่อปกป้องประชาชนอย่างระมัดระวัง ข้อมูลต่างๆ ในคู่มือ เป็นการช่วยตัดสินใจเบื้องต้นว่าควรให้การปกป้องสาธารณชนอย่างไร เจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม และประเมินสถานการณ์จนกระทั่งสามารถแก้ไขเหตุการณ์ให้เป็นปกติ
    <HR width="85%" color=#000000 noShade>
    ข้อมูลพื้นฐานในการกำหนดเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกัน
    การกั้นบริเวณเบื้องต้น และระยะควบคุมป้องกันในคู่มือเล่มนี้ ถูกกำหนดให้ใช้ในกรณีที่มีการรั่วไหลทั้งในปริมาณน้อยหรือการรั่วไหลในปริมาณมาก เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน การประเมินและวิเคราะห์ได้พิจารณาข้อมูลแหล่งกำเนิดแบบจำลองการแพร่กระจายกลุ่มไอของวัตถุ การประยุกต์ทางสถิติ ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา และมาตรฐานการสัมผัสทางพิษวิทยาสำหรับวัตถุอันตรายแต่ละชนิด
    ปริมาณและอัตราการแพร่ของวัตถุสู่บรรยากาศ พิจารณาจาก 4 ปัจจัย
    1. ข้อมูลจากฐานข้อมูลของ U.S.DOT HMIS
    2. ขนาดของภาชนะบรรจุสำหรับการขนถ่ายวัตถุอันตราย
    3. อัตราการรั่วไหลจากภาชนะบรรจุที่ถูกทำลาย
    4. การปล่อยไอสาร โดยการระเหยจากของเหลวที่มีการหก/รั่วไหล หรือการปล่อยไอก๊าซโดยตรงจากภาชนะบรรจุออกสู่บรรยากาศหรือทั้งสองกรณี นอกจากนั้นแบบจำลองการแพร่ของวัตถุสามารถคำนวณจากไอก๊าซพิษที่เกิดจากการหกรั่วไหลของวัตถุที่ทำปฏิกิริยากับน้ำ การพิจารณาว่าวัตถุที่รั่วไหลออกมาปริมาณมากน้อยเพียงใดพิจารณาจาก
    • การรั่วไหลปริมาณเล็กน้อย (Small Spills) หมายถึง การรั่วไหลของวัตถุอันตรายปริมาณน้อยกว่าหรือเท่ากับ 200 ลิตร
    • การรั่วไหลปริมาณมาก (Large Spills) หมายถึง การรั่วไหลของวัตถุอันตรายปริมาณมากกว่า 200 ลิตร
    แบบจำลองของการแพร่กระจายในทิศใต้ลมนั้นจะคำนวณปริมาณความเข้มข้นของไอระเหยในทิศทางตามลมในระยะเวลา 24 ชั่วโมง โดยใช้ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา 120 เมือง ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก มากกว่าระยะเวลา 5 ปี การคำนวณการแพร่กระจายของวัตถุขึ้นกับเวลาที่วัตถุแพร่ออกจากแหล่งกำเนิด และความเข้มข้นของกลุ่มไอระเหยของวัตถุอันตราย เนื่องจากการผสมของวัตถุกับอากาศในบรรยากาศจะมีผลต่อการแพร่กระจายของกลุ่มไอระเหยของวัตถุในเวลากลางคืนน้อยกว่าเวลากลางวัน ดังนั้น จึงมีแนวทางในการป้องกัน/ควบคุมที่แตกต่างกันในเวลากลางวันและกลางคืน สำหรับตารางนี้
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">
    • ลูกเห็บขนาดยักษ์พัดถล่มออสเตรเลีย[​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ทีมข่าว INN News [ 09-10-2550 | 16:24:29 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ลูกเห็บขนาดใหญ่โตเท่าลูกเทนนิสถล่มเมืองชายฝั่งทะเล ด้านตะวันออกของออสเตรเลีย สร้างความเสียหายให้กับหน้าต่างบ้านเรือน รถยนต์ และอาคารจำนวนมาก
    รายงานแจ้งว่า พายุลูกเห็บพัดถล่มเมืองลิสมอร์ เป็นเวลา 15 นาที มีรายงานว่า บางพื้นที่ลูกเห็บ ขนาดประมาณ 5-6 เซนติเมตร ผู้เชี่ยวชาญสภาพอากาศกล่าวว่า อุณหภูมิลดลงอย่างรุนแรง จาก 29 องศาเซลเซียส เหลือ 15 องศาเซลเซียส ภายใน 1 ชั่วโมงทันทีที่พายุพาดผ่าน และมีคำเตือนว่า จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองตามมาอีก
    การเกิดลูกเห็บขนาดใหญ่เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย คือ เกิดอากาศชื้น และอบอุ่นใกล้ผิวดินปะทะกับชั้นบรรยากาศเย็นจัดที่อยู่สูงขึ้น
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ระดับน้ำทะเลสาบซูพีเรีย ลดลงต่ำสุดในรอบ
    [FONT=Cordia New,Cordia New]81 [/FONT]ปี

    [FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]
    ความแห้งแล้งที่สหรัฐกำลังประสบ ทำให้ระดับน้ำในทะเลสาบซูพีเรีย ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดและลึกที่สุดของสหรัฐ ลดลงมากที่สุดในรอบ ​
    [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]81 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ปี นางซินเธีย เซลลิงเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยสิ่งแวดล้อมเกรตเลกส์ กล่าวว่า ระดับนำที่เพิ่งวัดได้นี้ ต่ำกว่าระดับน้ำที่วัดเมื่อค[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]1926 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ถึง [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]1.6 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]นิ้ว และมีทีท่าว่าจะลดลงไปเรื่อยๆ ระดับน้ำในทะเลสาบซูพีเรีย ลดลงกว่าปกติตลอด [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]10 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ระดับน้ำต่ำสุดในประวัติศาสตร์เท่าที่มีการบันทึก นายโจเอล จอห์นสัน เจ้าของธุรกิจท่าเรือ [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]"[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]เลกเฮดโบ้ตเบซิน[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]" [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]เมืองดูลูต รัฐมินเนโซตา กล่าวว่า ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อ [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]48 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ปีก่อน ระดับน้ำในปีนี้ต่ำที่สุด และในบางพื้นที่ไม่สามารถนำเรือออกไปท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนได้เลย ระดับน้ำต่ำนี้ ยังกระทบต่อธุรกิจขนส่งสินค้าที่ต้องใช้ทะเลสาบซูพีเรีย ซึ่งปีนี้ต้องใช้เรือขนส่งสินค้าได้แต่น้ำหนักเบาๆ เท่านั้น

    [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]
    .​
    [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]"[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]เกรตเลกส์[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]" [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]คือทะเลสาบทั้ง [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]5 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ของสหรัฐ ต่างมีระดับน้ำลดลงถ้วนหน้ากัน [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]"[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ทะเลสาบฮูรอน[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]" [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]และ [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]"[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ทะเลสาบมิชิแกน[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]" [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]มีระดับน้ำต่ำกว่าปกติประมาณ [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]24 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]นิ้ว [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]"[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ทะเลสาบซูพีเรีย[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]" [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]มีระดับน้ำต่ำกว่าปกติ [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]20 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]นิ้ว [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]"[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ทะเลสาบออนตาริโอ[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]" [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]มีระดับน้ำต่ำกว่าปกติ [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]7 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]นิ้ว ส่วน [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]"[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ทะเลสาบอีรี[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]" [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]มีระดับน้ำต่ำกว่าปกติ [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]2-3 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]นิ้ว นักวิทยาศาสตร์พยายามอธิบายสาเหตุของระดับน้ำ [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]"[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]เกรตเลกส์[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]" [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ที่ต่ำลง มีทั้งเป็นวัฏจักรตามธรรมชาติ เป็นไปตามสภาวะอากาศ รวมทั้งโลกร้อน

    [/FONT]
    ที่มา ​
    [FONT=Cordia New,Cordia New]:
    [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]หนังสือพิมพ์ข่าวสด [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]([/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]วันอังคารที่ [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]9 [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ตุลาคม พ[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC].[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC][/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]. [/FONT][FONT=Cordia New,Cordia New]2550[/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC])

    <DIR><DIR>
    [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]
    ศูนย์ภูมิอากาศแห่งชาติ
    กรมอุตุนิยมวิทยา ​
    [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]
    9 ​
    [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]ตุลาคม [/FONT][FONT=CordiaUPC,CordiaUPC]2550

    </DIR></DIR>
    [/FONT]
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • โลกร้อนเร็วกว่าที่คาด
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย มติชน [ 10-10-2550 | 08:18 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">ซิดนีย์ - นายทิม แฟลนเนอรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ชาวออสเตรเลีย เปิดเผยรายงานของคณะกรรมการรัฐบาลระหว่างประเทศ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของอากาศโลกแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ระบุว่า จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ได้ถึงระดับที่เป็นอันตรายแล้ว ทั้งนี้เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ ที่แข็งแกร่งทั่วโลก ส่งผลให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ อยู่ในระดับอันตรายเร็วขึ้น ไม่ใช่ในอีก 10 ปี อย่างที่เคยคาดเดาเอาไว้ (เอพี)
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  7. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=4 width=600 border=0><TBODY><TR><TD class=style5 height=34>อุบลฯ - อุตุฯ ภาคอีสานแจง ต.ค. นี้ปลายฝนต้นหนาว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=179 cellSpacing=0 cellPadding=5 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>อุตุฯ ภาคอีสานเตือนประชาชนรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยมี
    ทั้งฝน และอากาศหนาวเย็นควรหมั่นดูแลสุขภาพไว้ด้วย

    ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.อุบลราชธานี แจ้งเตือนประชาชนทั่วทั้งภาครับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวน โดยช่วงเดือนตุลาคมนี้จะเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ประชาชนควรหมั่นดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิดด้วย สำหรับสภาวะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00 วันนี้ ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ปกคลุม
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองกระจาย และอากาศจะเย็นลงในระยะนี้ ขณะการพยากรณ์อากาศตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึงเวลา 18.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองกระจาย ประมาณ 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 33 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาซลเซียส
    (11/10/50)


    [​IMG]
    http://www.becnews.com/data/regional.html



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2007
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    นายกฯ แดนกีวี เปิดตัวยุทธศาสตร์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 ตุลาคม 2550 14:37 น.


    นายกรัฐมนตรีเฮเลน คลาร์ก ของนิวซีแลนด์ ได้เปิดตัวยุทธศาสตร์พลังงานถึงปี ค.ศ. 2050 ซึ่งนางคลาร์ก ระบุว่า นิวซีแลนด์นั้นมีจุดยืนที่ชัดเจน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านพลังงานอย่างยั่งยืน โดยจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการขนส่งลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2583 และจะขยายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้ได้ร้อยละ 90 ภายในปี 2568 โดยการแก้ปัญหาในภาคขนส่งนั้น จะส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงชีวภาพ และส่งเสริมการใช้รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ลูกผสม หรือไฮบริด ให้มากขึ้น ทั้งนี้ ทางการตั้งเป้าว่า ภายในปี 2563 จะลดการใช้เชื้อเพลิงคาร์บอนลงร้อยละ 25 โดยจะนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้ และตั้งเป้าจะเพิ่มให้ได้ถึงร้อยละ 85 ในปี 2593
    ปัจจุบันพลังงานที่ใช้ในการขนส่งส่วนมากมาจากน้ำมันปิโตรเลียม ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 44 ของการใช้พลังงานทั้งหมดของนิวซีแลนด์ และมีก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาถึงร้อยละ 44
    ด้านรัฐมนตรีพลังงานของนิวเซีแลนด์ระบุด้วยว่า การใช้พลังงานลม และพลังงานความร้อน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้นิวซีแลนด์สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ โดยลดการพึ่งพาการผลิตโดยใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติก็ตาม
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    เกาะเสม็ดเตรียมประกาศห้ามใช้กล่องโฟม-พลาสติก

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 11 ตุลาคม 2550 17:40 น.


    นายสิทธิชัย เสรีสงแสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เสนอ 3 ปัญหาของเกาะเสม็ดในการประชุมคณะกรรมการสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัด วันนี้ (11 ต.ค.) ว่า ปัญหาที่สำคัญคือมลภาวะ ซึ่งที่ผ่านมาหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันทำยุทธศาสตร์แก้ปัญหาขยะ เพื่อเสนอของบประมาณจากจังหวัดนำมาจัดการระบบกำจัดขยะบนเกาะเสม็ดให้เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ศึกษาวิจัยแล้วพบว่ากล่องโฟม ถุงพลาสติก ก่อให้เกิดมลภาวะมากที่สุด จึงเตรียมประกาศห้ามนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ นำวัสดุชนิดดังกล่าวขึ้นมาบนเกาะ เพราะพื้นที่ทิ้งขยะบนเกาะเสม็ด จำนวน 5 ไร่ ใช้งานเต็มหมดทุกพื้นที่ ไม่สามารถขยายพื้นที่รองรับได้อีก เพราะจะกระทบป่าไม้ขึ้นเรื่อยๆ และธรรมชาติจะลดลง จึงต้องหาวิธีกำจัดขยะไม่ให้มีผลกระทบกับธรรมชาติ การประกาศดังกล่าวจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะควบคุมปัญหาขยะได้
     
  10. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    <TABLE class=news2006_topic cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=585 height=10><TABLE class=news2006_topic width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left>อุตุฯชี้ภาคเหนือปีนี้หนาวมาก

    </TD><TD align=right width=100></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=news2006_graylight height=10>โดย ข่าวสด<SCRIPT language=JavaScript src="/global_js/global_function.js"></SCRIPT> <!--START-->วัน เสาร์ ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2550 04:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD height=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=news2006_black cellSpacing=0 cellPadding=0 width=595 border=0><TBODY><TR><TD width=10 rowSpan=4></TD><TD width=575><!img001:m:r>แม่ฮ่องสอน - นายจำนง แก้วชฎา ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ ปีนี้ฤดูหนาวจะเริ่มต้นตามปกติประมาณกลางเดือนต.ค.เป็นต้นไป จากนั้นในช่วงกลางฤดูหนาวตั้งแต่ เดือนธ.ค.50-ม.ค.51 มวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนจะเสริมเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง ทำให้อากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยเฉพาะยอดดอย และในเดือนก.พ.51 มวลอากาศเย็นจะอ่อนกำลังลงอย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูหนาว โดยปีนี้อากาศจะหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา และมีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ส่วนภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูหนาว คือพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยเฉพาะในเดือนต.ค.-พ.ย.50 ส่วนมากทางตอนบนของภาคเหนือ ซึ่งอาจทำความเสียหายแก่ทรัพย์สิน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร และในเดือนธ.ค.50-ม.ค.51 จะมีน้ำค้างแข็งบริเวณยอดเขาและยอดดอย กับมีหมอกหนา ซึ่งเป็นอุปสรรคแก่การคมนาคม จึงขอให้ประชาชนรักษาสุขภาพ เพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรไปมา รวมทั้งให้ติดตามรับฟังสภาวะอากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือและสถานีอุตุนิยมวิทยาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    หนาวแล้วครับ รักษาสุขภาพกันเอาไว้กันด้วยครับ

    ลมหนาวมาเมื่อไร ใจฉันคงเหน็บหนาว.......
     
  12. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    หนาวกายไม่เท่าไร หนาวใจนี่สิ ตัวดี อิอิ
     
  13. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    (b-flower)


    อะว้าว ว วว ว..มีครวญ..มีครวญ..
    วันนี้ที่ลำพูนอากาศหนาวค่ะ ตอนเที่ยงม่ะต้องเปิดแอร์เลย
    ยิ่งตอนเย็นๆ มืดๆ..เซอเวย์ตลาดผัก..จื๊ยยย..ลมหน้าว..หนาว

    ปีนี้ท่าจะหนาวเอาเรื่องเหมือนกัน เด็กดอยแก้มเริ่มแตกเป็นลูกท้อแล่ะ
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    อืมมมมม สงสัยคุณคณานันท์กะคุณเปี๊ยกคงจะหนาวจริง ๆ นะครับ ก้ออย่างว่าแหลาะครับหนาวกายไม่เท่าไหร่ แต่หนาวใจนี่สิ ทรมานนนนน เจงเจง อิอิอิ
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กหวั่นจมทะเลเนื่องจากโลกร้อน

    โดยทีมข่าว INN News 15 ตุลาคม 2550 17:29:53 น.





    ประเทศซึ่งเป็นหมู่เกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิก เรียกร้องให้นานาประเทศร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศโลก ที่อาจเป็นสาเหตุทำให้เกาะขนาดเล็กถูกน้ำทะเลท่วม



    ในการประชุมที่กรุงนูกูอะโลฟา ของราชอาณาจักรตองกา บรรดาผู้นำของประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็ก ได้แก่ คิริบาติ ตูวาลู นาอูรู นีอูเอ หมู่เกาะคุก และหมู่เกาะมาแชลล์ ต่างระบุว่า ประเทศต่าง ๆ ที่มีส่วนรับผิดชอบในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะต้องดำเนินการ โดยนายกรัฐมนตรีของนีอูเอ ระบุว่า ปัญหาดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องจริงจัง และจะต้องเร่งดำเนินการทันที ไม่เช่นนั้นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

    ปัจจุบันประเทศเหล่านี้เริ่มได้รับผลกระทบจากการเพิ่มระดับของน้ำทะเลบ้างแล้ว ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้น้ำจืดถูกน้ำทะเลปนเปื้อน และยังส่งผลกระทบต่อถิ่นที่อยู่อาศัยของประชาชนอีกด้วย ทั้งนี้ บรรดาประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิกเคยเรียกร้องให้นานาชาติใส่ใจปัญหานี้มาตั้งแต่เมื่อ 15 -20 ปีที่แล้ว แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากประเทศใหญ่ ๆ

    การประชุมครั้งนี้มีขึ้นก่อนที่จะถึงการประชุมประจำปีสุดยอดผู้นำประเทศที่เป็นเกาะในแปซิฟิก ซึ่งประกอบด้วย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศอื่น ๆ อีก 14 ประเทศ โดยการประชุมจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.).
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ไทยหนาวที่สุดในรอบ 30 ปี เจออิทธิพล'ลานีญา'ใจกลางกรุงเทพ อุณหภูมิระดับ 18 องศา

    'ดร.อานนท์' นักวิจัยจุฬาฯ ระบุดัชนี 'ลานีญา' แรงที่สุดในรอบ 30 ปี ฉุดน้ำทะเลมหาสมุทรแปซิฟิคฝั่งตะวันออกเย็นจัด ขณะที่ปลายปีนี้เมืองไทยจะหนาวที่สุด หนาวนานกว่าทุกปี สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมโคราช น้ำเริ่มลดลงแล้ว 5 โรงเรียนเปิดได้ 22 ต.ค.


    วันที่ 17 ตุลาคม ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรม การเปลี่ยนแปลงของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงนี้ อากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนเกือบตลอดทั้งวัน และมักจะมีฝนตกในช่วงบ่าย เป็นเพราะประเทศไทยยังไม่สิ้นสุดฤดูฝน จากการตรวจสอบยังพบว่า ร่องฝนยังอยู่บริเวณภาคกลาง ลมที่พัดผ่านเข้ามาก็เป็นลมฝน เพราะไม่ได้พัดมาจากทิศเหนือ แต่เป็นลมฝนที่ค่อนข้างเย็น เพราะได้รับอิทธิพลของความกดอากาศต่ำเป็นระยะ บวกกับอิทธิพลของปรากฏการณ์ลานีญาที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้สภาพอากาศไม่แจ่มใสนัก

    ชี้ปีนี้หนาวเป็นประวัติการณ์-ใจกลางกทม.เหลือ18 องศาฯ

    'จากการตรวจสอบดัชนีลานีญาล่าสุด พบว่า หลังจากนี้ เมื่อเข้าถึงฤดูหนาวเต็มตัวช่วงเดือนพฤศจิกายน อากาศในประเทศไทยจะหนาวกว่าปีที่ผ่านๆ มา เพราะดัชนีลานีญาแรงมาก แรงที่สุดในรอบ 30 ปี แรงกว่าช่วงปี 2543 ที่ถือว่าช่วงเวลานั้น ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจาก ปรากฏการณ์ลานีญาแรงที่สุดแล้ว จากอิทธิพลดังกล่าวนี้ ทำให้ให้น้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิคฝั่งตะวันออกเย็นจัด ในขณะที่ฝั่งตะวันตกยังอุ่น ความกดอากาศระหว่าง 2 ฝั่ง จึงแตกต่างกันมาก ส่งผลให้ร่องฝนอยู่ในประเทศไทยนานกว่าปกติ และทำให้อุณหภูมิช่วงฤดูหนาวต่ำกว่าปกติ และอยู่นานกว่าปีที่ผ่านๆ มาด้วย' ดร.อานนท์ กล่าว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า ปีนี้ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวที่สุดในรอบ 30 ปี หรือไม่ ดร.อานนท์ กล่าวว่า ต้องดูสถิติ ยังไม่สามารถฟันธงได้ แต่ยืนยันว่าฤดูหนาวปีนี้ หนาวกว่าปกติ แต่อุณหภูมิจะเหลือกี่องศาเซลเซียส ต้องดูกันที่สถานที่

    'ที่น่าสนใจคือ ตัวเมือง อย่างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) หากอากาศหนาว จะพบปรากฏการณ์แบบนี้แถบบางนา บางขุนเทียน อุณหภูมิราวๆ 18 องศาเซลเซียส แต่ปีนี้ อิทธิพลของลานีญา จะส่งผลให้พื้นที่ชั้นในอย่างสีลม สุขุมวิท หนาวด้วย โดยเฉพาะช่วงเช้ามืด อิทธิพลที่เข้มข้นของลานีญา ทำให้เกิด ลมเย็น ที่จะเข้าไปสลายโดมความร้อนกลางเมือง ทำให้กทม.ชั้นในมีอากาศหนาวด้วย' ดร.อานนท์ กล่าว

    http://www.matichon.co.th
     
  17. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ยูเอ็นวอนทั่วโลกร่วมมือกันแก้ปัญหาโลกร้อน

    โดยทีมข่าว INN News 19 ตุลาคม 2550 12:17:38 น.





    ประธานคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือไอพีซีซี ของสหประชาชาติกล่าวขณะเยือนญี่ปุ่นว่า ยังพอมีเวลาที่ทั่วโลกจะหันมาใส่ใจต่อปัญหาโลกร้อน

    นายราเชนดรา ปาเชารี ประธานไอพีซีซี แถลงที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ถึงการตัดสินใจของไอพีซีซี ที่เชื่อว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศโลกนั้น เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพโลก ซึ่งหากยังไม่มีการแก้ปัญหาดังกล่าว เสถียรภาพและสันติภาพของโลกจะต้องถูกคุกคามอย่างแน่นอน

    นายปาเชารี กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมหนัก พายุรุนแรง คลื่นความร้อน และภัยแล้งที่เกิดขึ้น ล้วนมีสาเหตุมาจากปัญหาโลกร้อนที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ทั้งสิ้น และภัยเหล่านี้ก็ย้อนกลับมาสร้างความเสียหายให้กับมนุษย์อย่างแสนสาหัส แต่ก็นับว่ายังโชคดีที่ยังพอจะมีทางแก้ไขได้ โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน

    ในเดือนหน้านี้ ไอพีซีซี จะเปิดเผยรายงานเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อบรรดาผู้มีอำนาจในการตัดสินใจทั่วโลก พร้อมกันนี้ นายปาเชารี เรียกร้องให้ญี่ปุ่นเป็นผู้มีบทบาทนำในการแก้ปัญหาโลกร้อน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการแก้ปัญหาดังกล่าว

    ไอพีซีซี ซึ่งเป็นหน่วยงานแก้ปัญหาโลกร้อนชั้นนำของโลก ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญราว 3,000 คน ซึ่งในปีนี้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกับอดีตรองประธานาธิบดีอัล กอร์ ของสหรัฐ ซึ่งผันตัวเองมาเป็นผู้นำการรณรงค์ต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <TABLE height=45 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD vAlign=bottom width=500 height=24><!-- Show Head -->เผยคาร์บอนไดออกไซด์มีปริมาณเพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ <!-- End Show Head --></TD><TD width=10> </TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD bgColor=#d7d4d2>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD width=10> </TD><TD height=20>โดยทีมข่าว INN News <!-- Show Date -->22 ตุลาคม 2550 13:15:22 น. [​IMG] <!-- End Show Date --></TD><TD width=10> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=664 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD width=644>
    [​IMG]
    </TD><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width=20> </TD><TD width=584 bgColor=#dae4ea><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=522 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD width=500 bgColor=#d3d4d4>[​IMG]</TD><TD align=left width=10></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- ถึงนี่แล้ว--><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=664 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD><TD width=1 bgColor=#d3d4d4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width=140></TD><TD width=1 bgColor=#d3d4d4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top width=2>
    </TD><TD vAlign=top width=495>
    <!-- Show Detail -->คณะนักวิจัยเรื่องปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศโลกเผยแพร่รายงานผลการศึกษาล่าสุดในรายงานชื่อ โพรซีดดิ้ง ออฟ เดอะ เนชันแนล อคาเดมี ออฟ ไซเอินซ์ ในสหรัฐ ระบุว่าปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลก จากการเติบโตทางเศรษฐกิจมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้



    รายงานระบุว่า ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลกในรอบปี 2549 มีปริมาณสูงถึงเกือบ 10,000 ล้านตัน มากขึ้นกว่าปริมาณจากการสำรวจเมื่อปี 2533 ถึงร้อยละ 35 เนื่องจากการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เติบโต ในขณะเดียวกัน การเผาผลาญของเครื่องจักรที่ไม่สมบูรณ์ก็เป็นสาเหตุของการเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับปัญหาการลดน้อยของทรัพยากรธรรมชาติทั้งป่าไม้และมหาสมุทรที่มีส่วนสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ

    ทั้งนี้ พิธีสารเกียวโตมีเป้าหมายในการลดอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศโลกลงในอัตราร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อปี 2533 ภายในไม่เกินปี 2555.
    <!-- End Show Detail -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    "โลกร้อน : มหันตภัยหรือเข้าใจผิด!?"

    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 ตุลาคม 2550 11:47 น.


    น้ำแข็งขั้วโลกละลาย - น้ำทะเลจะสูงขึ้น - แผ่นดินจะจมหาย - น้ำจะท่วมประเทศไทย แล้วจังหวัดไหนจะปลอดภัยที่สุด ?? -แผ่นดินไหวเกี่ยวอะไรกับโลกร้อน และสึนามิล่ะเกี่ยวด้วยไหม?

    "โลกร้อน" หันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง ถูกบ้างผิดบ้าง ต่างๆ นานา ตามแต่ข้อมูลที่เข้าใจบ้าง-ไม่เข้าใจบ้าง (หรือเชื่อบ้าง-ไม่เชื่อบ้าง)

    เวลาเม้าเรื่องโลกร้อนกับเพื่อนทีไร แหล่งอ้างอิงที่นิยมเอ่ยถึงมากที่สุดก็คือ "กอร์บอกไว้" (ในหนังเรื่อง An Inconveninet Truth) ที่อดีตรองประธานาธบดีสหรัฐฯ ลงทุนอำนวยการสร้างและแสดงนำ จนได้ทั้งออสการ์ และโนเบลสันติภาพปี 2007 ไป

    ดูเหมือนหนังเรื่องนั้น (และหนังสือชื่อเดียวกัน) จะกลายเป็นตัวจุดกระแสโลกร้อน ให้ฮอตฮิตติดลมบนไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ทว่า มุมมองของ ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ด้านสมุทรศาสตร์ ซึ่งคร่ำหวอดกับปัญหาภาวะโลกร้อน และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมานานกว่า 20 ปี บอกว่า ถ้าหนังสือเล่มนี้ออกมาเมื่อ 7-8 ปีก่อน ก็อาจจะไม่ดังขนาดนี้ เพราะช่วงนี้ประจวบเหมาะกับสถานการณ์ภูมิอากาศผันผวนเปลี่ยนแปลงทั่วโลก

    แท้จริงแล้ว...โลกร้อน เป็นสาเหตุของทุกๆ ความผิดปกติทางธรรมชาติ อย่างที่ใครต่อใครหยิบยกมากล่าวอ้างกันทั่วหรือไม่??

    ด้วยความเชี่ยวชาญและที่ทำงานของ ดร.อานนท์ คือ ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์ วิจัย และฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้เขาต้องตอบคำถามทำนองนี้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    หลายครั้งที่ ดร.อานนท์ได้ให้ข้อมูล-ความคิดเห็น และพยายามชี้ให้ผู้คนพยายามหาหนทางแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างมีสติ มากกว่าจะสร้างเป็นแค่กระแสฮือฮา

    ผลพวงของการตอบคำถามและการให้ข้อมูลต่างๆ ของ "ดร.อานนท์" นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในบ้านเรา จึงกลายเป็นหนังสือชื่อ "โลกร้อน : มหันตภัยหรือเข้าใจผิด!?" โดยสำนักพิมพ์มาร์ส พับลิชชิง

    "โลกเรายังไม่ได้ถึงขนาดที่ว่าต้องเยียวยา เรายังอยู่ได้ แต่ว่าเหมือนคนเพิ่งเริ่มจะป่วย หรือยังไม่ทันจะป่วย...แต่เรากำลังคาดการณ์ว่า เราจะป่วยในอีก 50-60 ปีข้างหน้า เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามที่จะป้องกันไม่ให้ป่วย" 1 ใน 65 คำถามคาใจที่ ดร.อานนท์ตอบไว้ใน "โลกร้อน : มหันตภัยหรือเข้าใจผิด!?"

    นับเป็นหนังสือที่พยายามทำความเข้าใจภาวะโลกร้อนในหลายมิติ จัดเรียงข้อมูลให้อ่านกันแบบง่ายๆ พร้อมตอบคำถามคาใจมากมาย โดยเฉพาะ "สถานการณ์โลกร้อนกับเมืองไทย" กับคำถามสุดฮิตอย่าง...

    "ทำไมกรุงเทพฯ ถึงเย็นขึ้นและหนาวนาน?"
    "ถ้าโลกร้อนทำให้น้ำท่วมประเทศไทย อยู่จังหวัดไหนถึงจะปลอดภัย?"

    ดร.อานนท์ตอบไว้อย่างชัดเจน...แวะหาเฉลยได้ในหนังสือ "โลกร้อน : มหันตภัยหรือเข้าใจผิด!?" ที่งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ บูธต้าเจียวห่าว - สำนักพิมพ์มาร์ส พับลิชชิง โซนเอเทรียม/ดับบิว 05 (W05) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันนี้ถึง 28 ต.ค.50
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ผลกระทบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...