อาตมาไม่เคยแม้แต่จะคิดถลกหนังพระพุทธเจ้าขายเลย

ที่มาของคำสอนนี้มีว่า ในปัจจุบันมีอาชีพใหม่เกิดขึ้นมากมายในวงการพระศาสนา มีพ่อค้าและบุคคลยึดอาชีพหากินตามวัดมันสบายดี การเสี่ยงอันตรายมันมีน้อย มีพ่อค้าและบุคคลเที่ยวซื้อสังฆทาน จีวร ผ้าอาบน้ำฝน สบง และอื่นๆ มาซื้อกับพระเข้าในกุฏิเลย แสดงว่าเคยขายกันในราคาถูกๆ เพื่อไปขายต่อ พระบางรูปเมื่อมาบวชแล้วก็ยังไม่ทิ้งนิสัยของฆราวาสเลย ยังมีความโลภและพฤติกรรมเหมือนฆราวาส ได้ของที่ญาติโยมมาถวายก็เก็บไว้ขาย เพราะรู้จักกันกับพ่อค้าเป็นอย่างดี

มีอยู่วันหนึ่งมีคนมาหาหลวงพ่อถึงบนเขา ผู้เขียนอยู่ด้วยก็ถามเขาว่ามาหาใคร เห็นเขาแต่งตัว ลักษณะท่าทางพูดจาดีจึงบอกทางให้ไปหาหลวงพ่อเผื่อว่าเขาจะมีธุระอะไร ต่อมาเมื่อตอนเช้ารุ่งขึ้นผู้เขียนนำภัตตาหารไปถวายหลวงพ่อจึงรู้พฤติกรรมของคนพวกนี้ หลวงพ่อพูดขึ้นว่า คุณสมพงษ์ คุณทองเติม " อาตมาไม่เคยแม้แต่จะคิดถลกหนังพระพุทธเจ้าขายเลย " อาตมาสงสารพ่อของอาตมาเหลือเกิน อาตมาเห็นพระรูปอื่นๆ ขายจีวร สบง แล้ว อาตมาสะเทือนใจมาก เขาคิดกันอย่างไร ทำได้อย่างไร เขาเป็นอะไรกัน ( พะมั้ง ) เข้ามาวัดกันอยู่วัดกันจะให้ขาดทุนกันไปถึงไหน เขาไม่ตายกันหรืออย่างไร คติชีวิตเรามี 4 อย่างนะโยม 1. มามืด ไปสว่าง 2. มาสว่าง ไปมืด 3. มามืด ไปมืด 4. มาสว่าง ไปสว่าง

หลวงพ่อยังพูดต่อไปถึงคำโบราณทำนองที่ว่า

เกิดมาทั้งที ต้องเอาดีให้ได้
อยู่ในโลกทั้งที ต้องทำดีฝากไว้
จะตายทั้งที อย่าลืมเอาดีติดตัวไปด้วย

สุดท้ายท่านก็พูดสรุปว่ากว่าจะเกิดเป็นคนได้ไม่ใช่ของง่ายนะโยม

ที่มา : หนังสือ มาทำความรู้จักกับวัดถ้ำสาริกากันเถอะ
เนื่องในวันครบรอบอายุ 82 ปี ท่านหลวงพ่อ ( พระครูปลัดเจือ กิจจธโร )
เจ้าอาวาสวัดถ้ำสาริกาองค์ปัจจุบัน ตำบลสาริกา นครนายก

 

โมทนาสาธุค่ะ ในการบอกกล่าว
น่าสังเวชใจแท้....ไม่สามารถหาคำบรรยายได้
ขอบคุณค่ะ

 

ขออนุโมทนาครับ ปัจจุบันธุรกิจแนวนี้มาแรง กระผมอยากให้มีการสอดส่องดุแลกันบ้าง อย่ายกให้ศาสนาเป็นเรื่องของพระอย่าเดียว เราๆฆารวาส ก้อต้องช่วยดูแล ชาวพุทธ อย่า..ใช้คำว่า"อุเบกขา" มากเกินไป...เลิกใช้คำว่าแกรงใจกันได้แล้ว
​

 

ขอเชิญร่วมสร้างบันไดพยานาค วัดถ้ำสาลิกา นครนายก

 

อนุโมทนา สาธุ ด้วยนะครับ ที่มีจิตเป็นกุศล
ปัจจุบันหลวงพ่อเจือท่านอาพาธด้วยโรคชรา ผมไปมาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ท่านพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครนายกครับ