เปิดตำนานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ภาค 2

กราบหลวงปู่ทิม ครับ

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ

 

น้อมกราบหลวงปู่ทิม อิสริโก ลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย เซมเบ้ พี่นาย พี่รักรังสิต พี่โต้งชลบุรี พี่ทหารเก่า พี่apichet40 พี่เอ็มรังสิต พี่เตอร์ และสมาชิกผู้ศรัทธาในหลวงปู่ทิมทุกคนนะครับ

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณตาสาย แก้วสว่าง
สวัสดี อ.แก้วสว่าง และ พี่ ๆ ทุก ๆ ท่านครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

มีอะไร มีไม่เป็น ก็เป็นทุกข์
ถึงมีสุข ก็ยิ่งทุกข์ เพราะสุขนั่น
ดูให้ดี อย่าเสียที ให้กับมัน
จะพากัน มาเพิ่มทุกข์ ให้ทุกที
ถ้าเราเผา ตัวตัณหา ก็น่าสุข
ถ้ามันเอา เราก็สุก หรือเกรียมได้
เขาว่าสุข สุขหนอ อย่าเห่อไป
มันสุขเย็น หรือสุกไหม้ ให้แน่เอย

 

กราบหลวงปู่ และสวัสดีทุก ๆ ท่านครับ

 

ช่วงนี้กระทู้เงียบเหงาจังแหะๆ เอาเป็นว่าวันนี้ผมขอยกเรื่องเล่าจากคำของชาวบ้านแถบ
"วัดไร่" อีกซักเรื่องนึงนะครับ เรื่องจริงเป็นอย่างไรโปรดใช้วิจารณญาณ ในการบริโภคนะครับพี่ เพราะเรื่องราวต่อไปนี้ เป็นอีกหนึ่งมุมมองของ ลุงคนนึงที่มีรอยสักของหลวงปู่ทิมเป็นเพียงคนเดียวที่ผมเคยเห็น เป็นคนที่ยืนยันว่าหลวงปู่ก็สักยันต์ นับเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับผมที่ได้มารู้ว่าหลวงปู่ทิมก็สักยันต์ ประวัติของลุง พ. (ผมขออณุญาติใช้ชื่อย่อนะครับ) คนนี้น่าสนใจมากพอได้รับรู้หลายๆคนที่ฟังแกเล่าถึงกับอึ้งและ งง กันเป็นแถบๆ ลุง พ. เป็นลูกของ หลวงพ่อ แก้ว เกสาโร เป็นพี่ชายของ พระ ย. หรือทิศ ย. ในปัจจุบัน หลายๆท่านคงเคยได้ยินชื่อพระเย็นกันมาบ้างแล้ว เพราะพระเย็นเป็นอีก หนึ่ง ชื่อ ที่ถูกยกขึ้นมาประกอบกับเรื่องราวของหลวงปู่ทิมในเวปต่างๆ ในวันนั้นคณะตามล่าหาความจริงโดยมีผมแอบร่วมขบวนไปด้วย แหะๆ ได้ฟังเรื่องราวจากลุงแกหลายๆเรื่องหลังจากที่พี่ๆทุกท่านได้รับรู้ความเป็นมาของลุงแกแล้ว แต่ในบทความนี้ ผมสกิดใจอยู่เรื่องนึงจากที่ลุงแกเล่า เป็นการขุดพบ ของสำคัญอย่างนึงในบริเวณวัดละหารไร่ ขุดพบโดยลุง "แมง" ลุง พ. ได้ชี้ให้ดูในจุดที่ขุดพบอยู่บริเวณหลังโบสปัจจุบัน เป็นน้ำมันจำนวนหนึ่งลุงแกเรียกว่า "น้ำมันผี" ผมเลยถามแกว่าทำไมถึงเรียกแบบนั้นหละลุง ลุงแกบอกว่า ในสมัยก่อน คนที่มีวิชาอาคมทางไสยเวท นิยมเล่นน้ำมันกันผมคิดว่าน่าจะเป็นน้ำมันทางเสน่เมตตา พอถึงเวลาจะด้วยเเพราะอะไรผมไม่ทราบได้มีการนำเอาน้ำมันเหล่านี้มาฝังไว้ ในบริเวณวัดหรือที่เรียกกันว่าปล่อยของ ทำไมถึงต้องฝังเพราะอาจจะกันคนอื่นมาพบเห็นแล้วนำไปใช้แล้วเกิดอันตรายที่คาดไม่ถึงได้ ก็เลยต้องฝังเอาไว้ในดิน ลุง พ. บอกว่าน้ำมันที่ขุดเจอมานั้นกลิ่นแรงมากเหม็นมาก จะไม่เหม็นได้ไงหละครับก็เป็นน้ำมันที่เน่าแล้วอ่าฝังไว้กี่ปีไม่รู้ ในปัจจุบันน้ำมันพวกนี้ได้มีคนตั้งชื่อให้และถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในวงการพระหลวงปู่ทิม ลุงแกก็เล่าไปหัวเราะไปในตอนนี้ผมสงสัยอยู่ว่าน้ำมันพวกนั้นใครฝังเอาไว้และฝังทำไม ใครที่มีความรู้เรื่องไสยศาสตร์ ช่วยตอบผมทีเถอะครับให้ผมคิดเองผมก็คิดเป็นเรื่องน้ำมันพรายอะไรไปนู่น แหะๆตามประสาคนขี้สงสัยของผมแหละครับ ในกระทู้นี้มีคนเล่นของไหมอ่า ให้ความรู้เรื่องน้ำมันนี้หน่อยนะครับ สวัสดีครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

เทคนิคการเติมพลังใจในชีวิตประจำวัน
เรามักจะได้ยินคำว่า “พลังใจไร้ขีดจำกัด” หรือ “พลังใจไม่มีวันหมด” หรือคำอื่นๆที่บอกว่าคนเรามีพลังใจมีแรงจูงใจไม่มีขีดจำกัด แต่ในชีวิตจริงแล้วทำไมในบางช่วงบางเวลาเรารู้สึกท้อ รู้สึกเบื่อ รู้สึกไม่มีแรง หมดพลัง ฯลฯ
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าแม้คนเราจะไม่มีข้อจำกัดในการสร้างพลังงานใจก็ตาม แต่…เรามีข้อจำกัดในการเก็บ กักตุนพลังงานใจ และพลังงานใจของเราจะค่อยๆลดลงเพราะเราต้องเอาพลังใจออกมาใช้ในการต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตตลอดเวลา ปัญหาใหญ่บ้างเล็กบ้างขึ้นอยู่กับเส้นทางชีวิตของแต่ละคน เหมือนน้ำที่ใช้ดับไฟ หากกองไฟขนาดเล็กก็ใช้น้ำน้อย หากเป็นกองไฟขนาดใหญ่ก็ต้องใช้น้ำมากขึ้นถึงจะดับไฟได้ และบางครั้งเราต้องเอาพลังงานใจมาใช้มากกว่าปกติในช่วงเวลาที่เราต้องการเร่งความเร็วในชีวิตเพื่อให้ประสบความสำเร็จเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ เหมือนรถที่วิ่งเร็วก็ย่อมกินน้ำมันมากกว่ารถที่วิ่งช้า ดังนั้น เพื่อให้เราบริหารพลังงานใจให้มีเต็มเปี่ยมอย่างต่อเนื่อง จึงขอแนะนำเทคนิคการเติมพลังใจให้ตัวเองดังนี้
§ สร้างพลังงานใจจากแรงผลักในอดีต
เวลาเราจะเข็นรถโดยทั่วไปเราจะอยู่ด้านหลังรถ เพราะมีแรงเข็นมากกว่า ง่ายกว่า เช่นเดียวกับการสร้างแรงจูงใจในชีวิตด้วยการนำเอาเรื่องราวในอดีต เช่น
- ใครเบื่อพ่อแม่ให้นึกถึงตอนเด็กๆเวลาเราป่วยแล้วท่านมาดูแลเรา
- ใครเบื่องานขอให้นึกถึงวันเริ่มงานวันแรก
- ใครเบื่อสามีหรือภรรยาให้นึกถึงวันที่แต่งงาน
- ใครเบื่อลูกให้นึกถึงวันที่คลอดลูกหรือไปรอหน้าห้องคลอด
- ใครเบื่อคนรอบข้างให้นึกถึงวันที่เราเคยไปหลงป่าอยู่คนเดียว หรือวันที่เราต้องอยู่บ้านคนเดียว
- ใครเบื่อตัวเองให้นึกถึงวันที่เราเคยให้คำปรึกษาผู้อื่น
สร้างพลังงานใจจากแรงดึงในอนาคต
การเข็นรถจากด้านหลังทำได้เพียงระยะสั้นๆ เข็นไกลมากไม่ได้เพราะไม่สามารถบังคับทิศทางได้ ไม่มีคนคอยบังคับพวงมาลัย หากต้องการให้รถยนต์คันนี้เคลื่อนที่ไปได้ไกลๆและเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาได้ ก็ต้องเอารถคันอื่นมาลากรถยนต์ที่เสียไปซ่อม ชีวิตเราก็เช่นเดียวกัน เราสามารถสร้างพลังงานใจโดยการเอาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมาฉุดหรือดึงให้ชีวิตเราเดินไปข้างได้ดีกว่าและเร็วกว่า เช่น
- ใครเบื่อพ่อแม่ สามี ภรรยา ขอให้นึกถึงวันสุดท้ายที่เขาจากเราไป
- ใครเบื่องาน ขอให้นึกถึงวันที่เขาจะให้เราออกจากงานหรือวันที่เราจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
- ใครเบื่อลูกให้นึกถึงวันที่ลูกประสบความสำเร็จ
- ใครเบื่อคนรอบข้างให้นึกถึงวันที่คนเหล่านั้นมาร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเรา
- ใครเบื่อตัวเองให้นึกถึงวันที่เราจะประสบความสำเร็จ
สรุป พลังงานใจหรือแรงจูงใจ ไม่ต้องไปเติมที่ปั๊มไหน เพราะมันอยู่ในตัวของเราอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะมีเทคนิควิธีการในการดึงมันขึ้นมาใช้ และจัดเก็บรักษามันไว้ได้อย่างไร สำหรับเทคนิคที่ผมแนะนำไปนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ผู้อ่านหลายท่านอาจจะมีเทคนิคเฉพาะของตัวเองอีกหลายวิธี ขอให้ลองฝึกดึงพลังภายในโดยการสร้างกำลังใจให้กับตัวเองบ่อยๆ รับรองได้ว่า “พลังงานไม่มีวันหมด” อย่างแน่นอนครับ

“ท้อได้แต่ต้องไม่ถอย ถอยได้แต่ต้องไม่ท้อ
ท้อได้ถอยได้ แต่..ต้องไม่ยอมแพ้”

 

กราบ หลวงปู่ทิมครับ

สวัสดีพี่ๆทุกคนครับ

 

กินใจมากครับ ^^
ขอบคุณสำหรับบทความดีีครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

ในยุคตอนที่ท่านได้ไปศึกษาร่ำเรียนวิชาอาคมต่างๆกับหลวงปู่ซึ่งถ้าจะย้อนเวลากลับไปโดยประมาณ 60กว่าปี หมอเปี่ยมท่านนี้ตระกูลดั้งเดิมของท่านมีพื้นฐานทางด้านนี้โดยเฉพาะเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะบิดาของท่านเป็นหมอแผนโบราณมาก่อน หมอเปี่ยมท่านจึงเรียนรู้วิชาอาคมได้อย่างรวดเร็ว ในยุคสมัยที่หมอเปี่ยมท่านมีชีวิตอยู่ท่านได้เล่าเรื่องราวให้กับทายาทของท่านว่า หลวงปู่ทิมท่านเป็นพระที่มีอาคมแก่กล้ามากและวิชาอาคมต่างๆของหลวงปู่ท่านมีมากมายหลายประการในการศึกษาเรียนรู้ หลวงปู่ทิมท่านมีจิตรู้ว่าแต่ละคนนั้นสามารถที่จะเรียนวิชาประการใดได้หรือสามารถรับวิชาที่จะถ่ายทอดนั้นได้ มันอาจเป็นเพราะว่าจิตวิญญาณของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกันในการสื่อรับวิชาอาคมแต่ละอย่างกัน และเมื่อถึงเวลารับเป็นศิษย์ครอบครูเพื่อเรียนวิชาหลวงปู่ทิมท่านกล่าวกับหมอเปี่ยมว่าวิชาอาคมบางอย่างต้องเรียนเป็นคู่ถึงจะเรียนได้ซึ่งมันอาจจะแสดงว่าวิชานั้นต้องมีทั้งคนทำและคนแก้เพื่อความผิดพลาดในการทำอย่างอาทิเช่นวิชาหมองู ที่ต้องเรียนเป็นคู่เท่านั้นจึงจะได้รับการถ่ายทอดได้ และจากนั้นเองหลวงปู่ท่านก็ได้รับลูกศิษย์อีกท่านในการรับการถ่ายทอดวิชาคือ นายหว่าง ( หมอหว่าง ) อัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นชาวบ้านละหารไร่ ต่อมาทั้งหมอเปี่ยมและหมอหว่าง ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมและการรักษาทางแพทย์แผนโบราณจากหลวงปู่ทิม โดยหลวงปู่ท่านยังได้ถ่ายทอดวิชาหลักสำคัญๆให้อย่างเช่นการทำน้ำมนต์ปัดเป่า ไล่ของหรือเสนียดจัญไร ไล่ผีหรือแม้กระทั่งวิชาการคลอดบุตรหรือหมอตำแย ฯลฯ....

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์และพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ

 

สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง..เพื่อนๆและ พี่ๆทุกคน..

ผมเพิ่งมาไล่หาอ่านเกี่ยวกับพระเนื้อขาวได้ไม่กี่สิบหน้า..กะเอาไว้ว่าเมื่ออ่านจบก้อจะมาโพสต์สวัสดีทุกคน

แต่วันนี้มาเห็นบทความข้อเขียนของอาจารย์แก้วสว่างแล้วอดไม่ได้ที่จะมาสวัสดีก่อนกำหนด

เป็นตรรกกะและมีมุมมองวิธีคิดที่บางทีคนเราก้อนึกไปไม่ถึง..บางทีเราก้อไปขวนขวายหาวัตถุที่เราเชื่อว่าสิ่งนั้นจะช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น..บางคนหวังถึงขั้นปาฏิหารย์โดยพลัน

แต่บางทีปาฏิหารย์ที่เราหวัง อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เมื่อเราเปลี่ยนมุมมองชีวิตและวิธีคิดของเราก้อได้

สวัสดีครับทุกคน..เดี๋ยวผมกลับไปอ่านต่อก่อนครับ..ฮะฮะ

 

ศิษย์สำนวนไทยเข้ามาติดตามเช่นเคยครับอาจารย์แก้วสว่าง

 

ชอบบทความของอ.แก้วสว่างครับ ให้กำลังใจดีมากๆครับ
ขอบคุณมากครับ

 

หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่

“จงรู้จัก ตัวเอง” คำนี้หมาย
มีดีร้าย อยู่เท่าไร เร่งไขขาน
ข้างฝ่ายดี มีไว้ ในดวงมาน
ข้างฝ่ายชั่ว รีบประหาร ให้หมดไป
จงรู้จัก ตัวเอง คำนี้หมาย
ว่าในกาย มีกิเลส เป็นเหตุใหญ่
จึงสาระแน แต่จะทำ บาปกรรมไกล
ต้องควบคุม มันไว้ ให้รักบุญ
จงรู้จัก ตัวเอง คำนี้หมาย
สังขารไร้ ตนตัว มัวแต่หมุน
ไปตามเหตุ ปัจจัย ที่ไส-รุน
พ้นบาปบุญ ชั่วดี มีนิพพานฯ

 

กราบนมัสการหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง กราบสวัสดียามเช้าท่านอาจารย์แก้วสว่าง พี่รักรังสิต น้าต๋อย เซมเบ้ พี่ส่างปา พี่แควใหญ่ พี่(ก้องครับ) และพี่ๆศิษย์หลวงปู่ทิมทุกๆท่านครับ ขอทุกท่านโชคดี และมีสุขสมปองนะครับ

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณตาสาย แก้วสว่าง
สวัสดี อ.แก้วสว่าง และ พี่ ๆ ทุก ๆ ท่านครับ

 

กราบหลวงปู่ทิม วันนี้ลูกชายแต่งงาน
ขอบารมีหลวงปู่ให้งานเรียบร้อยทุกประการเทอญ

 

กราบหลวงปู่ทิม คุณลุงสาย แก้วสว่าง สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง น้าต๋อย พี่โต้ง พี่รัก พี่เดชา พี่ภู พี่คนบนเกาะ พี่เตอร์ พี่ทหารเก่า คุณโอ๊ด คุณอภิเชษฐ์คุณlaweeและพี่ๆเพื่อนๆลูกศิษย์หลวงปู่ทิมทุกท่าน สบายดีกันทุกคนนะครับ