การจัดแสงมาตราฐานในการพิจารณา"พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์นิยม"

เรียนท่านสมาชิก 24hrs ข้าพเจ้าไม่ทราบที่มา ที่ไป ที่แน่ชัด แต่ก็ยังสามารถพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ จากภาพได้สรุปว่ายัง"ไม่แท้"ครับท่าน ไม่ได้ทั้งพิมพ์,เนื้อ,คราบ(เป็นคราบเทียมครับ)ด้วยความเคารพ
หมายเหตุ การพิจารณาเนื้อแท้"พระพิมพ์สมเด็จ"ส่องด้วยกล้อง ต้องทะลุเนื้อ.

 

ความคิดเห็นของข้าพเจ้าสำหรับคำว่า"พระสมเด็จเหนือหัว"จากเนื้อหา+มวลสาร,พิธีปลุกเสกผงพุทธคุณถึง 780 อำเภอ และพิธีปลุกเสกใหญ่เฉพาะเนื้อสีขาว(โซนภาคกลาง)เรียกว่า เนื้อขาววัดระฆัง ปลุกเสกที่วัดระฆัง ด้วยเหตุ และผลทั้งหลาย ทั้งปวงเหล่านี้ ข้าพเจ้าจึงไม่ยอมนำไปขอคืนเงิน เนื้อหามวลสาร+พิธีกรรม สุดยอดขนาดนี้ ในฐานะที่เป็นนักสะสมคนหนึ่ง 1,000 บาท คิดว่าคุ้มค่า เก็บไว้ให้ลูกหลาน ไว้ศึกษาประวัติศาสตร์ จากองค์จริงครับ ข้าพเจ้าพิจารณาพุทธศิลป์โดยรวม ตีความหมายเป็น"การเสริมความมั่นคง,แข็งแรง"ให้กับชีวิตของผู้ที่บูชาไว้ติดตัว และบ้านเรือนครับ.
"พระสมเด็จเหนือหัว"(เนื้อขาววัดระฆัง)

 

"ด้านหลัง พระสมเด็จเหนือหัว"

 

นำภาพมาฝากเพื่อนสมาชิก เป็นเหรียญที่เป็นสุดยอด"คงกระพัน"อีกเหรียญหนึ่ง ไม่เป็นสองรองใครเช่นกันครับ"หลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม"(สมุทรสงคราม)
"เหรียญเสาร์ห้า รุ่นแรก ปี 2516"(สร้างเพียงเนื้อเดียว)

 

"ด้านหลังเหรียญหลวงพ่อวิไล วัดโพธิ์งาม"

 

ขอนำลักษณะของเหรียญที่เรียกว่า"ผิวหิ้ง"มาขยายความให้เพื่อนสมาชิกได้ทราบโดยทั่วกันดังนี้ เป็นเหรียญที่วางอยู่บนหิ้งพระเป็นเวลานาน เหรียญนี้อยู่ในลักษณะวางหน้าขึ้น ผงฝุ่นจึงจับเฉพาะที่ด้านหน้า ผู้ที่มีความชำนาญเรียกเหรียญที่มีลักษณะอย่างนี้ว่า"ผิวหิ้ง"เหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่นที่4 ของหลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน ปี 26 สร้างน้อย(หายาก)
"เหรียญผิวหิ้ง"(แท้ตาเปล่า)

 

ภาพเหรียญด้านหลัง"หลวงพ่อชื้น วัดญานเสน"

 

เหรียญ"หลวงพ่อคูณ"ปี22 เป็นอีกเหรียญหนึ่ง ที่หายไปจากแผง"พระเครื่อง"โดยเฉพาะ"พิมพ์นิยม"(ไม่มีเม็ดตา)บังเอิญข้าพเจ้ามี แต่อยู่ในกรอบพลาสติก ก็ยังพอเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่มีความสนใจที่จะศึกษาครับ
"เหรียญหลวงพ่อคูณ"ปี 22(พิมพ์นิยม)

 

ด้านหลัง"เหรียญหลวงพ่อคูณ"ปี 22(พิมพ์นิยม)

 

ทีนี้ลองมาชม"พระสมเด็จวังหน้า"ที่เซียนรุ่นเก่าท่านหนึ่งเชื่อว่าเป็นของปลอม(ตามกระแส)ข้าพเจ้าจึงได้ขอซื้อมา หลังจากที่ได้รับ"พระสมเด็จวังหน้า"มาแล้ว ข้าพเจ้าก็นำมาผ่านขั้นตอน ด้วยการแช่น้ำร้อน เพื่อดูฟองอากาศ เมื่อผ่านแล้วก็นำลงแช่"แอลกอฮอล์ เห็นสีเข้มๆอย่างนี้ ไม่มีการละลายออกมาเลย ล้างปัดด้วยภู่กันเบอร์สิบ(ตัดสั้น) ยิ่งปัดทองยิ่งสุกเหลืองอร่าม ผ่านมาเป็นปีแล้วทองยังไม่ดำเลยครับ โดยเฉพาะด้านหลังปรากฏ"พระราชลัญจกร"(ทรงพุ่ม)เป็นชั้นๆดูสวยงามมาก ข้าพเจ้าภูมิใจที่ได้ครอบครอง"พระสมเด็จวังหน้า"องค์นี้อย่างยิ่ง ลองชมกันดูครับ(มีองค์เดียวครับ)
"พระสมเด็จวังหน้า"

 

"หลังพระราชลัญจกร"

 

สวัสดีครับผม
จัดแสงถ่ายมาใหม่ ร่วมพิจาณาครับ
หลังจากอาราธนามาเกือบปีครับ

 

ไม่ทราบว่า เทคนิค แช่ทินเนอร์
เป็นเทคนิคทดสอบพระที่มีอายุมากอย่างนึงหรือเปล่าครับ

ลุงแกไม่ได้แช่แอลกอฮอล์
แต่แกแช่ทินเนอร์ เนื้อก็ไม่ละลายเหมือนกันครับ

 

เทคนิคการตรวจดูอายุ(ความเก่า)ใช้วิธีแช่น้ำร้อนในแก้วใส
-เพื่อดูฟองอากาศ(ชนิดละเอียด)พวยพุ่งขึ้นเหนือน้ำ เป็นสายอย่างช้าๆและยาวนาน
-จะเป็นกี่จุดก็ได้ ยิ่งมากจุด ยิ่งมีความเก่ามาก และมีความชัดเจน
-เมื่อสรง"พระสมเด็จ"ขึ้นต้องแห้งเร็ว
-ไม่มีกลิ่นสารเคมี จะมีก็เพียงแต่ กลิ่นตุๆอับๆแบบธรรมชาติความเก่า
ส่วนทินเนอร์ และแอลกอฮอล์ แค่นำมาพิสูจน์ว่าเป็นตัวทำ"ละลาย"หรือไม่ใช้สำหรับ
-ใช้แช่"พระสมเด็จองค์ลงรัก"ในกรณีนี้ออกนิดหน่อยเฉพาะผิวๆแต่"รักแท้"ที่ติดองค์พระจะเหนียวมาก
-ใช้แช่"พระสมเด็จเบญจะสิริ"ถ้าไม่ละลาย จะเป็นสีที่นำเข้าจาก"เมืองจีน"ในยุคสมัยนั้นครับ.
สรุป ใช้แช่เพราะจะดูว่าสีละลายหรือไม่ ถ้าไม่ก็ผ่านไปอีกขั้นตอนหนึ่ง ครับท่าน.

 

ขอบคุณท่าน pathommatash เป็นอย่างยิ่งครับ ที่ช่วยดูให้ ดูจากพิมพ์แล้วท่านว่าน่าจะเป็นของที่ใดครับ เคารพในความคิดเห็นของท่านครับ แต่พระองค์นี้มีอายุไม่ต่ำกว่า40-50ปี เลยอยากทราบว่าถ้าไม่แท้ ก็น่าจะมีวัดให้ลอกเลียนแบบบ้าง ส่วนสมเด็จสายรุ้งที่ท่านนำมาให้ชม ผมเพิ่งเคยเห็นของจริง เมื่อสามวันก่อน มีเด็กล้างรถมาเล่าให้ฟังว่า เพื่อนชวนไปขนของที่บ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านไม้ เก่าแก่ชำรุดทรุดโทรมมาก ในบ้านมีพระวางเกลื่อนกลาดไปหมด เด็กพวกนี้จึงแอบหยิบมาคนละหลายองค์ แม่บ้านที่ดูแลบ้านก็เห็นแต่ไม่ว่าอะไร เด็กคนนี้นำมาให้ผมดู สีสรรก็คล้ายกับของท่าน เนื้อหาก็ดูดีมาก องค์จะใหญ่กว่าสมเด็จทั่วไป ด้านหลังเป็นตราครุฑทีลึกและชัดเจนมากๆ ไม่เหมือนที่คนนำมาลงถามกันบ่อยๆ แต่เนื้อหาดูแล้ว ยังไงก็ไม่ทันสมเด็จโตท่านแน่นอน แต่เป็นพระที่งดงามมาก ผมเอ่ยปากขอเช่า เด็กไม่ยอมให้ จะขอถ่ายรูป ก็ไม่ยอม รีบคว้าพระไปเลย เสียดายจริงๆ ว่าจะนำรูปมาให้ท่านชมซักหน่อย คราวหน้าถ้ามีโอกาส จะได้ถ่าย จะนำมาลงให้ชมครับ

 

ข้าพเจ้าได้พิจารณาภาพ"พระสมเด็จ"ของท่านสมาชิก ปราบเทวดา อย่างละเอียดแล้วมีความเห็นว่าเป็นความเก่า ที่ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยเฉพาะการตัดข้างทั้งสี่ด้าน เป็นเส้นตรง และเป็นรอยฝนข้าง รอยด้านข้างไม่ได้เกิดขึ้นจากรอยตอกตัดครับ ลักษณะโดยรวมเป็นการทำให้เก่าด้วยการ"ฝังดิน"ครับ.

 

เรียนท่านสมาชิก 24hrs การเลียนแบบพิมพ์"พระสมเด็จ"ในยุคก่อนไม่ต้องการให้เหมือนใคร เพียงแต่ให้มองออกว่าเป็น"พระสมเด็จ"ก็ขายได้ ข้าพเจ้าได้เปรียบเทียบพิมพ์ดูแล้ว ไม่เข้าทั้ง วัดระฆัง,วัดบางขุนพรหม,วัดขุนอินทประมูล,วัดดักคะนน
หมายเหตุ "พระสมเด็จ"สมัยก่อนราคายังไม่แพงครับท่าน.การทำ"พระสมเด็จ"ปลอมที่ต้องมีความเหมือนน่าจะมาเริ่มต้นในปี 2525 เริ่มจะมีเกรด A เนื่องจาก"พระสมเด็จวัดระฆัง"มีราคาหลายแสน ถึงล้านต้นๆ

 

"พระสมเด็จวังหน้า"(เนื้อดำผสมผงใบลาน)หลัง"ครุฑพ่าห์"

 

ด้านหลัง"ครุฑพ่าห์"

 

ขอบคุณครับ ท่านเจ้าของกระทู้

ผมตั้งข้อสังเกตุหลายข้อเลยครับ

ขอถามข้อที่ 1เพื่อการศึกษา


แมงกินพระที่เขาเรียกกัน
จะเกิดขึ้นจากพระเก่าหรือพระที่นำมาทำใหม่ๆครับ

เป็นไปได้ไหมหากเกิดขึ้นกับพระเก่า จะมีความเก่าตั้งแต่กี่ปี

หรือ หากเป็นพระใหม่ จะเกิดขึ้นได้
หลังจากที่สร้างได้ไม่นาน ภายใน 1ปี 2ปี หรือเปล่าครับ

2รูปนี้ แสกนมาหลังจาก ได้รับมาเป็นเวลาได้เกือบเดือนครับ