ทำบุญมากได้บุญมากจริงหรือ ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย tamsbaygang, 21 สิงหาคม 2011.

  1. tamsbaygang

    tamsbaygang สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +5
    ข้อความต่อไปนี้นำมาจาก หนังสือ เสบียงทิพย์

    หลายคนในตอนนี่ยังเข้าใจผิดๆ ว่าต้องทำบุญด้วยทรัพย์สินเงินทองเยอะๆ จึงจะได้บุญมากนั้น ซึ่งในเรื่องนี้นั้นไม่ตรงกับความจริงเลยแม้แต่น้อย ในการทำบุญด้วยทรัพย์สินเงินทองนั้น ไม่ใช่ประเด็นสำคัญว่าจะได้บุญมากตามค่าของเงิน

    เพราะบางครั้งการทำบุญเป็นล้านบ้านอาจจะได้บุญน้อยกว่าบาทเดียวเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นในเรื่องของมูลค่าของทรัพย์ที่ทำบุญนั้น ในบางครั้งเราไม่สามารถจะวัดถงผลของอานิสงส์บุญได้

    การทำทานให้ได้บุญมากนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า มีองค์ประกอบ 3 ประการ คือ

    ๑.วัตถุบริสุทธิ์ คือ สิ่งของที่ให้ทานนั้นได้มาด้วยความสุจริตถูกต้อง หามาจากแรงงานหยาดเหงื่อของตนมิได้เบียดเบียนทุจริตมา
    ๒.เจตนาบริสุทธิ์ คือ มีจิตตั้งมั่นเลื่อมใสศรัทธา ที่จะทำอย่างแท้จริง ไม่ได้หวังผลตอบแทน หรือไม่มีเจตนาหวังประโยชน์แอบแฝง และเมื่อให้แล้วก็ไม่นึกเสียดายภายหลัง
    .บุคคลบริสุทธิ์ คือ ผู้รับเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีคุณธรรมสูง ยิ่งมีคุณธรรมสูงมากเท่าใด้ บุญก็ยิ่งมากไปตามส่วน เช่น ทำบุญกับคนไม่มีศีลย่อมได้บุญน้อยกว่าทำบุญกับคนมีศีล ๕ ที่เรียกกันว่า เนื้อนาบุญที่ดี อย่างเช่น ทำบุญกับพระสงฆ์ ที่ถือศีล ๒๒๗ ข้อ ซึ่งเป็นสมมุติสงฆ์นั้นได้บุญไม่เท่ากับพระอริยสงฆ์แน่นอน มันเป็นระดับขึ้นอยู่กับผู้รับนั้นมีคุณธรรมสูงเท่าใด้
    ผู้ที่ให้ทานด้วยทรัพย์แม้เป็นจำนวนน้อย แต่มีความตั้งใจ มีความเลื่อมใสศรัทธาเต็มเ้ปี่ยม และได้ให้ทนกับคนที่มีเนื้อนาบุญสูง ก็อาจได้บุญมากกว่าผู้ที่ทำด้วยทรัพย์มากแต่มีความเลื่อมใสศรัทธาน้อย และถ้าให้กับคนที่มีเนื้อนาบุญต่ำยิ่งน้อยกว่าเป็นร้อยๆเท่าก็ได้
    ดังตัวอย่าง เรื่องที่เล่ากันมานานแล้ว แต่อธิบายเรื่องของอานิสงส์ผลบุญได้ดีคือ ในสมัย ร.๕ มีผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อยายแฟง เป็นแม่เล้าเข้าของซ่อง แกมีรายได้มาจากการขายตัวของหญิงงามในสังกัด ในแต่ละวันยายแฟงไม่ต้องทำมาหากินอย่างอื่นเลย เขาหากินบนความทุกข์ยากของคนอื่น อาชีพแม่เล้าทำให้แกร่ำรวย มีทรัพย์สินเงินทองมากขึ้นทุกวัน จนใครๆ ต่างก็นับถือแก พากันขอความช่วยเหลืออยู่บ่อยๆ เมื่ออายุแกมากขึ้นใกล้จะตายยายแฟงแกกลัวจะตกนรก เพราะทั้งชีวิตของแกได้สร้างแต่กรรมไม่ดีไปเบียดเบียนผู้อื่นและประกอบอาชีพที่้เป็นบาป ยายแฟงจึงคิดอยากทำบุญใหญ่สักครั้งหนึ่ง เผื่อว่าบุญนี่จะช่วยลบล้างบาปกรรมที่สร้างไว้ลงได้บ้าง จึงได้บริจาคเงินจำนวนมากจนแทบหมดตัวและได้สร้างวัดชื่อ วัดใหม่ยายแฟง หรือ วัดคณิกาผล ที่เรียกกันในเวลาต่อมา ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ
    ในวันฉลองวัดใหม่ยายแฟง ยายแฟงได้มีโอกาสสำคัญในชีวิตได้ไปนิมนต์พระมาแสดงธรรมเทศนา ซึ่งก็คือ ท่านสมเด็จพุฒาจารย์ฯ (โต) พรหมรังสีท่านก็รับนิมนต์ไปเทศน์แสดงอานิสงส์ของการสร้างวัด บทธรรมเทศนาของ สมเด็จฯโต ตอนหนึ่งในวันนั้นมีว่า

    “ยายแฟงสร้างวัดครั้งนี้ ได้ผลอานิสงส์บกพร่อง ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะเงินที่สร้างวัดเป็นเงินที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของคนอื่นที่ไม่ชอบด้วยธรรม ถ้าเปรียบอานิสงส์ด้วยเงิน ๑ บาท ยายแฟงก็ได้เต็มบาท จะได้สักสลึงเฟื้องเท่านั้น นี่ว่าอย่างเกรงใจกันนะ

    ถ้าข้าพเจ้าพิมผิดแต่อย่างใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
     
  2. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ต้องรอบคอบนิดหนึ่งนะครับเรื่องนี้
    เพราะถ้าเจตนาบริสุทธิ์ วัตถุบริสุทธิ์ บุคคลบริสุทธิ์เท่ากันแล้ว
    ถ้าทุกอย่างเท่ากันหมด เสมอกันหมด การบริจาคทานมากย่อมได้อานิสงส์มากด้วย
    จะไปบอกว่าคนบริจาคเงินล้าน มีผลเท่าบริจาคร้อย มันฟันธงไม่ได้แน่นอน
    ดังนั้น อย่าไปคิดอะไรมากในเรื่องนี้ ทำเต็มที่เต็มกำลังใจของเราก็พอ มากน้อยมันก็เป็นเรื่องของกำลังใจนี่แหละ
    ไอ้คนที่คิดมากในเรื่องนี้ คือ หนึ่งไม่เข้าใจ
    สองคิดแต่จะเปรียบเทียบบุญ
    ซึ่งมันไม่ได้เรื่องทั้งนั้น
     
  3. bteezi

    bteezi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +43
    สำหรับผู้ที่สงสัยก็อ่านพระสูตรนี้ประกอบได้นะ ไม่เสียหลาย เวลามสูตร
     

แชร์หน้านี้

Loading...