นิโคลา เทสลา อัจฉริยะที่โลกลืม บิดาแห่งศตวรรษที่ ๒๐

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nuttadet, 18 เมษายน 2013.

  1. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    [​IMG]

    ในบรรดาสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดที่จำเป็นต่อวิถีชีวิตอันสะดวกสบายของคนสมัยนี้ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีมากกว่าธรรมชาติแทบทุกคนคงนึกถึงหลอดไฟฟ้าและระบบจ่ายไฟฟ้าของ โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) อัจฉริยะผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์มากมายจนได้รับสมญา “พ่อมดแห่งเมนโลปาร์ก”

    เอดิสันมิใช่นักประดิษฐ์ยุคปลายศตวรรษที่ ๑๙ “รุ่งอรุณแห่งเทคโนโลยีสมัยใหม่” เพียงคนเดียวที่เราสำนึกบุญคุณจวบจนปัจจุบัน ผู้ยิ่งใหญ่ร่วมรุ่นหลายคนเป็นตำนานที่คนทั่วไปจำขึ้นใจตั้งแต่สมัยเรียน อาทิ กูกลีเอลโม มาร์โคนี (Guglielmo Marconi) นักประดิษฐ์รางวัลโนเบลผู้ได้รับการขนานนามว่า “บิดาแห่งวิทยุ” เจ.พี. มอร์แกน (J.P. Morgan) นายธนาคารผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ หรือ จอร์จ เวสติงเฮาส์ (George Westinghouse) ผู้คิดค้นเบรกรถไฟและเผยแพร่ระบบจ่ายไฟฟ้กระแสสลับที่เอาชนะระบบจ่ายไฟฟ้ากระแสตรงของเอดิสันในการต่อสู้อันน่าตื่นเต้นที่คนปัจจุบันรู้จักในชื่อ “สงครามคลื่น” (War of Currents แต่ตอนนี้ก็มีแนวโน้มว่าในอนาคตเอดิสันอาจหัวเราะทีหลังดังกว่า เพราะระบบจ่ายไฟกระแสตรงแบบกระจายศูนย์ที่ใช้พลังงานทดแทน เช่นพลังแสงอาทิตย์และพลังลม กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ)

    ถึงแม้ว่ายุครุ่งอรุณแห่งเทคโนโลยีจะมีคนที่เรายกย่องเป็น “วีรบุรุษ” มากมาย ชื่อของ นิโคลา เทสลา นักประดิษฐ์และวิศวกรชาวยูโกสลาเวีย (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของโครเอเชีย) กลับเลือนหายไปจากกระแสสำนึกของสังคม ทั้งที่เขาไม่เพียงเป็นอัจฉริยะเจ้าของสิทธิบัตรกว่า ๓๐๐ รายการ หากยังเป็นบิดาแห่งวงการวิศวกรรมศาสตร์ไฟฟ้า มีชื่อเสียงโด่งดังทัดเทียมเอดิสันในครึ่งแรกของชีวิต เป็นผู้ประดิษฐ์และค้นพบสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เวสติงเฮาส์เอาชนะเอดิสันในสงครามคลื่นได้) ขดลวดเทสลา (Tesla coil) เครื่องวัดความเร็วติดรถยนต์ การกระจายเสียงผ่านวิทยุ และวิธีการเปลี่ยนสนามแม่เหล็กเป็นสนามไฟฟ้า อันเป็นที่มาของหน่วยวัดสนามแม่เหล็กเทสลาซึ่งวิศวกรรุ่นหลังตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา

    การค้นพบเหล่านี้ล้วนเป็น “ฟันเฟือง” สำคัญที่ทำให้สังคมได้รับประโยชน์อย่างยั่งยืนจากงานของเอดิสัน มาร์โคนี เวสติงเฮาส์ และนักประดิษฐ์อีกจำนวนมาก จนกล่าวได้ว่าวิถีชีวิตสมัยใหม่ที่เราคุ้นเคยไม่อาจสัมฤทธิผลได้ถ้าปราศจากงานของเทสลา

    [​IMG]

    นิโคลา เทสลา ในห้องทดลองของเขาี่ที่เมืองโคโลราโด สปริงส์ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๑๘๙๙ ถ่ายคู่กับเครื่องส่งกระแสไฟฟ้ายักษ์ ซึ่งมีความถี่สูงมากจนสามารถส่งกระแสไฟนับล้านวัตต์

    [​IMG]

    มอเตอร์กระแสไฟฟ้าสลับของเทสลาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ ๑๐ ชิ้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์​

    แต่แล้ว เทสลากลับกลายเป็นคน (ไม่) สำคัญที่โลกลืมก่อนตัวเขาจะล่วงลับนานนับสิบปี ถูกเย้ยหยันจากนักวิทยาศาสตร์ด้วยกันและสังคมอย่างไม่ไยดี ตายอย่างยากไร้และเดียวดายในห้องน้ำของโรงแรมโกโรโกโสแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ไม่มีใครรู้วันตายที่แน่นอน งานทั้งชีวิตของเขาถูกรัฐบาลอเมริกันตีตรา “ลับที่สุด” และห้ามใครพูดถึงในที่สาธารณะจวบจน ๑๐๐ ปีให้หลัง

    สาเหตุที่ชีวิตของนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่พลิกผันชนิดหน้ามือเป็นหลังมืออาจเป็นส่วนผสมระหว่างอัจฉริยภาพ นิสัยส่วนตัวตั้งแต่เกิด กับความบังเอิญ (บางคนอาจเรียกมันว่า “โชคชะตา”) ที่เล่น “ตลกร้าย” กับเขาอย่างเหลือเชื่อ

    ดร. โรเบิร์ต โลมัส (Robert Lomas) คลี่คลายปริศนาเกี่ยวกับบั้นปลายชีวิตของเทสลาไว้อย่างน่าประทับใจในบทความเรื่อง “Spark of Genius” ตีพิมพ์ในวารสาร The Independent วันที่ ๒๑ สิงหาคม ค.ศ. ๑๙๙๙ ผู้เขียนได้แปลและตัดต่อบางตอนมาพอสังเขป

    ………………………………………………………………

    นิสัยของเทสลาเองเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของความไร้ชื่อเสียงของเขา เทสลาไม่เหมือนกับเอดิสัน เวสติงเฮาส์ มาร์โคนี หรือมอร์แกน ตรงที่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทที่ช่วยอนุรักษ์ชื่อเสียงและเชิดชูผลงานต่อสาธารณชนตลอดมา หากคนทั่วไปจะจำเทสลาได้ พวกเขาก็จำได้แต่ในฐานะคนประหลาดที่เขียนบทความส่งหนังสือพิมพ์ (ด้วยหัวข้ออย่าง “คลื่นยักษ์ของเทสลาในการทำสงคราม”, “การนอนหลับด้วยไฟฟ้า”, “วิธีส่งสัญญาณไปดาวอังคาร” ฯลฯ) …ในช่วงบั้นปลายชีวิต ๒๖ ปีสุดท้าย ภาพพจน์ของเขาในสายตาคนทั่วไปเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คนเลิกมองเขาว่าเป็นวิศวกรผู้เก่งกาจ กลับมองว่าเขาเป็น “คนแก่สติเฟื่อง” ที่พยากรณ์ปาฏิหาริย์ต่างๆ ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงที่ว่าปาฏิหาริย์ส่วนใหญ่ที่เทสลาพยากรณ์และเกิดขึ้นจริงๆ นั้นดูเหมือนจะไม่ช่วยให้ชื่อเสียงของเขาดีขึ้นเลย

    ในวันเกิดครบรอบ ๗๕ ปี เทสลาขึ้นปกนิตยสาร Time ในขณะที่เขาพำนักฟรีอยู่ในโรงแรม Grosvoner Clinton ด้วยความเอื้อเฟื้อของผู้จัดการ ก่อนหน้านี้เขาถูกเชิญออกจากโรงแรมหลายแห่งเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง หลังจากเหตุการณ์นี้เขาต้องอพยพออกจากโรงแรม Grosvoner Clinton และยอมทิ้งสัมภาระไว้เป็นค่าห้องแทน วิกฤตเศรษฐกิจ (Great Depression) ในอเมริกาช่วงนั้นซ้ำเติมให้เทสลามีปัญหาการเงินมากกว่าเดิม เขาพบ “บ้าน” ที่จะอาศัยอยู่ไปชั่วชีวิตก็ต่อเมื่อรัฐบาลยูโกสลาเวียรู้สึกสงสารพลเมืองที่โด่งดังที่สุดของประเทศ เลยอนุมัติเงินบำนาญให้เทสลาจำนวน ๗,๒๐๐ เหรียญสหรัฐต่อปี แต่ถึงกระนั้นเทสลาก็ยังต้องย้ายโรงแรมบ่อยครั้ง เพราะเขาชอบให้อาหารนกบนโต๊ะ ทำให้มีนกพิราบบินเข้ามาในห้องอยู่เสมอ

    เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เทสลาไม่เคยตีพิมพ์ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงที่มีพลวัตของเขา องค์ความรู้ที่เรามีเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงในปัจจุบันบอกว่า เมื่อวัตถุหนักเคลื่อนที่ มันจะแผ่คลื่นแรงโน้มถ่วง (gravity wave) ออกมา ซึ่งมีความเร็วเท่ากับความเร็วแสง คลื่นแรงโน้มถ่วงนี้มีคุณสมบัติคล้ายกันกับคลื่นชนิดอื่นๆ อีกหลายชนิด สิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทสลาล้วนตั้งอยู่บนองค์ความรู้เกี่ยวกับคลื่น เขาเชื่อมั่นว่า เสียง แสง ความร้อน รังสีเอกซเรย์ และคลื่นวิทยุ ล้วนเป็นคลื่นที่เกี่ยวข้องกัน และเราสามารถค้นคว้าได้ด้วยสมการคณิตศาสตร์ประเภทเดียวกัน ความเห็นของเทสลาที่ไม่ตรงกันกับไอน์สไตน์สะท้อนให้เห็นว่าเขาได้ขยายแนวคิดนี้ไปสู่แรงโน้มถ่วงด้วย

    [​IMG]

    ขึ้นปกนิตยสาร Time

    [​IMG]

    ศูนย์ HAARP ในมลรัฐอะแลสกา​

    ในทศวรรษ ๑๙๘๐ ความคิดของเทสลาได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง ผลการวิจัยเรื่องการสูญเสียพลังงานในพัลซาร์ดาวคู่นิวตรอน (double neutron star pulsar) ชื่อ PSR 1913+16 พิสูจน์ว่าคลื่นแรงโน้มถ่วงมีอยู่จริง ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจกับความคิดของเทสลาที่ว่า แรงโน้มถ่วงเป็นสนามพลัง มากกว่าที่ไอน์สไตน์ให้ความสนใจ โชคร้ายที่เทสลาไม่เคยอธิบายว่าอะไรทำให้เขาสรุปแบบนี้ และไม่เคยอธิบายทฤษฎีแรงโน้มถ่วงของเขาให้โลกรู้ การโจมตีงานของไอน์สไตน์ทำให้แวดวงวิทยาศาสตร์ตอนนั้นโจมตีเทสลาอย่างมหาศาล เราเพิ่งจะเข้าใจแรงโน้มถ่วงมากพอที่จะระลึกได้ว่าความคิดของเทสลานั้นถูกต้องเมื่อไม่นานมานี้เอง

    ในปี ๑๙๔๐ หลังวันเกิดครบรอบ ๘๔ ปีไม่กี่วัน เทสลาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ The New York Times ฉบับวันที่ ๒๒ กันยายน ค.ศ. ๑๙๔๐ ว่า “…เขาพร้อมที่จะเปิดเผยความลับเกี่ยวกับพลัง ‘โทรกำลัง’ (teleforce) ต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา พลังนี้มีอานุภาพหลอมละลายเครื่องยนต์ของเครื่องบินจากระยะไกลถึง ๒๕๐ ไมล์ ทำให้สามารถสร้างแนวกำแพงป้องกันรอบประเทศแบบกำแพงเมืองจีน แต่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า”

    ไม่มีนักวิทยาศาสตร์ร่วมสมัยคนใดวิจารณ์บทความชิ้นนี้ กว่าจะถึงตอนนั้น ชื่อเสียงของเทสลาในฐานะคนอยากดังก็พุ่งสูงกว่าความสามารถของเขาที่จะทำให้คนเชื่อ และขณะที่ฮิตเลอร์กรีฑาทัพเข้ายุโรป ทุกคนก็มีเรื่องอื่นให้ปวดหัวมากกว่า

    ในปีถัดมา สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ ๒ และเทสลาเองก็คงเป็นกังวลกับการที่ยูโกสลาเวีย ประเทศบ้านเกิดของเขา ได้พ่ายแพ้ต่อกองทัพเยอรมัน เทสลาต้องการยก “รังสีหายนะ” (Death Ray ชื่อที่หนังสือพิมพ์ขนานนามขีปนาวุธ “โทรกำลัง” ของเขา) ให้แก่รัฐบาลอเมริกัน เพื่อช่วยทั้งประเทศบุญธรรมและประเทศบ้านเกิดเมืองนอน ดังนั้น อีก ๒ ปีต่อมาคือปี ๑๙๔๓ เทสลาจึงโทรศัพท์ไปที่แผนกการสงครามสหรัฐฯ ขอคุยกับพันเอกเออร์สไกน์ (Colonel Erskine) เสนอยกความลับของขีปนาวุธ “โทรกำลัง” ทั้งหมดให้แก่รัฐบาล เออร์สไกน์ไม่รู้ว่าเทสลาคือใคร คิดว่าเขาเป็นแค่คนบ้าคนหนึ่ง เออร์สไกน์ให้สัญญากับเทสลาว่าจะติดต่อกลับ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ลืมสนิท นั่นคือครั้งสุดท้ายที่เทสลาติดต่อกับโลกภายนอก ถึงตอนนี้เขาล้มป่วยอย่างรุนแรง หัวใจที่อ่อนแอของเขาทำให้เกิดอาการเวียนหัวบ่อยครั้ง ตอนนั้นเทสลาพักอยู่ในโรงแรม New Yorker ในเย็นวันที่ ๕ มกราคม วันเดียวกัน เทสลาแจ้งทางโรงแรมว่าไม่ต้องการให้ใครรบกวน แล้วหลังจากนั้นก็เข้านอน เขามักแจ้งพนักงานโรงแรมว่าไม่ให้ใครรบกวนเป็นช่วงๆ ช่วงละ ๒-๓ วัน แต่นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่มีคนเห็นเขาขณะมีชีวิต

    เหตุการณ์ต่อจากนั้นเกิดขึ้นเหมือนบทหนังเกรดบี เทสลาตายด้วยอาการหัวใจล้มเหลวระหว่างเย็นวันอังคารที่ ๕ มกราคม และเช้าวันศุกร์ที่ ๘ มกราคม พนักงานทำความสะอาดเป็นคนพบศพเขาในเช้าวันศุกร์ ญาติคนเดียวของเทสลาที่คนรู้จักคือหลานชายที่ชื่อ ซาวา โคซาโนวิช (Sava Kosanovich) นั้นเป็นผู้อพยพจากยูโกสลาเวียที่หลบหนีกองทัพเยอรมันมายังอเมริกา เขาก็เหมือนผู้อพยพอื่นๆ อีกหลายคน คืออยู่ภายใต้การสอดแนมของตำรวจเอฟบีไอในฐานะคนที่อาจเป็นสายลับของศัตรู

    เย็นวันเดียวกัน พันเอกเออร์สไกน์แจ้งกับตำรวจเอฟบีไอว่าเทสลาตายแล้ว และบอกว่าหลานชายของเขาคือโคซาโนวิชยึดเอกสารต่างๆ ที่อาจใช้ในการทำสงครามกับรัฐบาลอเมริกันได้ เมื่อได้ยินดังนั้น เอฟบีไอจึงขอให้หน่วยพิทักษ์ทรัพย์สินคนต่างด้าว (Alien Property Custodian) รีบไปยึดทรัพย์สินต่างๆ ของเทสลา เนื่องจากเอฟบีไอกลัวว่าโคซาโนวิชจะนำความลับเกี่ยวกับอาวุธสงครามที่เทสลาออกแบบไปบอกศัตรู ประธานาธิบดี เจ. เอดการ์ ฮูเวอร์ (J. Edgar Hoover) ได้ส่งบันทึกไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ว่า เรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับ นิโคลา เทสลา ต้องถูกจัดการอย่างลับที่สุด และทุกฝ่ายต้องรักษาความลับของสิ่งประดิษฐ์ของเขาให้เป็นความลับตลอดไป

    ด้วยเหตุนี้ งานทั้งชีวิตของเทสลาจึงถูกตีตรา “ลับที่สุด” และห้ามไม่ให้ใครอภิปรายเรื่องนี้อีกเลย

    คงเป็นตลกร้ายที่รังสีหายนะของเทสลากลับกลายเป็นเรื่องจริง วงการวิทยาศาสตร์เพิ่งตามเขาทันเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง ในปี ๑๙๙๓ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เริ่มก่อสร้างศูนย์วิจัยไอโอโนสเฟียร์ (ionosphere คือชั้นบรรยากาศโลกที่ความสูงตั้งแต่ ๗๐-๕๐๐ กิโลเมตร) ในเมืองกาโคนา มลรัฐอะแลสกา ศูนย์นี้มีชื่อว่า HAARP (High Frequency Active Auroral Research Program) ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง อาทิ อะแลสกา สแตนฟอร์ด คอร์แนลล์ ยูซีแอลเอ และเอ็มไอที ในการดำเนินโครงการเพื่อศึกษาคุณสมบัติการสะท้อน (resonant properties) ของโลกและชั้นบรรยากาศโลก โครงการนี้มีความเกี่ยวโยงกับงานของเทสลาอย่างชัดเจน กล่าวคือ HAARP กำลังศึกษาปรากฏการณ์เดียวกันกับที่เทสลาค้นคว้าที่โคโลราโดเมื่อกว่า ๑๐๐ ปีก่อน

    ฉะนั้น เทสลาจึงมีเรื่องให้ “หัวเราะทีหลังดังกว่า” ถึง ๒ ข้อด้วยกัน ข้อแรกคือ รัฐบาลได้สร้าง “โทรกำลัง” ของเขาขึ้นมาจริงๆ และข้อสอง เขาเป็นผู้ชนะในสงครามสิทธิบัตรกับมาร์โคนี หลังจากเขาตายไปแล้ว ๖ เดือน เมื่อคำตัดสินของศาลสูงอเมริกายืนยันว่า นิโคลา เทสลา เป็นผู้ประดิษฐ์วิทยุเป็นคนแรกของโลก ไม่ใช่มาร์โคนี อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นชัยชนะที่ว่างเปล่า เพราะสิทธิบัตรทั้งสองได้หมดอายุไปแล้ว นักประดิษฐ์ทั้งคู่ก็ตายไปแล้ว และก็ไม่มีใครคุยกันเรื่องนี้ได้เพราะรัฐบาลมีคำสั่ง “ลับที่สุด” ห้ามทุกคนพูดถึงงานของเทสลา

    ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากห่วงโซ่เหตุการณ์ที่น่าเศร้าดังกล่าวคือ ผู้ทำประโยชน์มหาศาลให้แก่มนุษยชาติคนหนึ่งต้องกลายเป็นบุคคลที่โลกลืม เทสลาตายแบบเดียวกับที่เขาใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างเดียวดาย ว้าเหว่ และลับที่สุด กลายเป็นคนลึกลับนานหลายปีเพียงเพราะยื่นข้อเสนอที่น่าตกใจต่อรัฐบาลอเมริกันในบั้นปลายชีวิต งานทั้งหมดของเขาถูกตีตรา “ลับที่สุด” จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ ๑๐๐ ปี

    เทสลาเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ชาญฉลาดอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เป็นนักทำนายที่มองเห็นอนาคตได้จริง แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นปัจเจกชนที่เอาแต่ใจตัวเสียจนไม่เคยมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับใคร เข้าสังคมไม่เป็น ปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามและไม่ยอมแตะเนื้อต้องตัวใคร แม้กระทั่งจับมือทักทายคน (ด้วยการโกหกว่ามือของเขาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง) มีนิสัยเพี้ยนๆ มากมาย เช่น เชื่อว่าตัวเองมีพลังจิต ทำสิ่งต่างๆ ซ้ำซากในจำนวนครั้งที่หารด้วย ๓ ลงตัว (ตัวเลขที่เขาชอบเป็นพิเศษคือ ๒๗ เพราะเท่ากับ ๓๓) แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เป็นคนที่มีวัฒนธรรมสูงส่ง เทสลาพูดได้หลายภาษาและอ่านหนังสืออย่างกว้างขวาง

    เมื่อไรก็ตามที่คุณเห็นเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ส่งพลังงานมาบันดาลให้ชีวิตสมัยใหม่ของคุณเป็นจริง ลองซุกมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋า ใช้เวลาอึดใจหนึ่งขอบคุณผู้มอบสิ่งนั้นให้แก่คุณ–นิโคลา เทสลา คน (ไม่) สำคัญผู้ว้าเหว่ พูดมาก หมกมุ่น และปราดเปรื่อง ผู้ใฝ่ฝันถึงการแปลงโลกทั้งใบให้เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทุกคนจะได้ใช้ไฟฟ้าอย่างเสรี ผู้อุทิศชีวิตให้แก่การไล่ตามความฝันนี้อย่างไม่ใส่ใจว่าจะได้รับอะไรตอบแทนหรือไม่

    ที่มา
    - ตีพิมพ์ใน นิตยสาร สารคดี ฉบับที่ 294 สิงหาคม 2552
    - คน(ไม่)สำคัญ – นิโคลา เทสลา อัจฉริยะที่โลกลืม บิดาแห่งศตวรรษที่ ๒๐
     
  2. phloiwang

    phloiwang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +244
    ว่ากันว่า เหตุระเบิดที่ทังก้สการ์ในไซบีเรียเมื่อกว่าร้อยปีที่แล้ว ก็น่าจะเกิดจากงานทดลองของนิโกล่า เทสล่า เท็จจริงยังไงไม่ทราบ HARRPอาวุธแบบใหม่ของอเมริกาก็อีกผลงานหนึ่งที่น่าทึ่งของอัจฉริยะผู้นี้
     
  3. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ครับ ผมก็ได้ฟังข้อมูลมาจากคนอื่นว่า เขาทำการทดลองเรื่องการยิงอาวุธให้ไปตก
    อีกที่ได้ ลักษณะเหมือน วาร์ป อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ Free Energy ถ้ามีคนเอา
    มาพัฒนาต่อผมว่าสามารถทำให้เป็นจริงได้แน่ ๆ แล้วถ้าข้อมูลการทดลองของเขาถูกเปิดเผยแบบไอนสไตเขาอาจจะดังมาก ๆ แน่นอน
     
  4. itemnoi

    itemnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2013
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +323
    ขอบคุณค่ะ ที่เล่าเรื่องนิโคลา เทสลา อัจฉริยะ
     
  5. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    ผมชอบนักฟิสิกส์คนนี้มากเลยครับ
     
  6. L-Walkers

    L-Walkers เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2013
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +176
    เราชอบ Nikola Tesla นะ มากด้วยล่ะ
    และที่สำคัญเขายังเกิดวันเดียวกับเราด้วย หุหุ (deejai)
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,435
    ค่าพลัง:
    +35,016
    น่าเสียดายครับ..
     
  8. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    ขอบคุณ ครับ
    อันที่จริงแล้วก่อนหน้า นิโคลา เทสลา ก็มี เบนจามิน แฟรงคลิน Benjamin Franklin ผู้ค้นพบประจุไฟฟ้าในชั้นบรรยากาศ โดยเขาทำการทดลองครั้งแรกในปี ค.ศ. 1749 (ก่อน นิโคลา เทสลา ประมาณ 150 ปี เพราะนิโคลา เทสลา ทดลองที่ห้องของเขาที่เมืองโคโลราโด สปริงส์ วันที่ 31 ธันวาคม 1899) โดยใช้ว่าวที่ทำด้วยผ้าแพรแทนกระดาษ อีกทั้งมีเหล็กแหลมติดอยู่ที่ตัวว่าว ส่วนปลายสายป่านเขาได้ผูกลูกกุญแจเอาไว้ และผูกริบบิ้นไว้กับสายป่านอีกทีหนึ่ง เพราะฉะนั้นว่าวของแฟรงคลินก็จะเป็นตัวนำไฟฟ้า แฟรงคลินได้นำว่าวขึ้นในขณะที่มีฝนตกฟ้าคะนอง เมื่อฝนตกและทำให้สายป่านเปียก ผลปรากฏว่ามีประจุไฟฟ้าไหลลงมาทางเชือกเข้าสู่ลูกกุญแจ แต่แฟรงคลินไม่ได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้านั้น เนื่องมาจากเขาจับริบบิ้นซึ่งเป็นฉนวนไฟฟ้า จากนั้นเขาจึงลองใช้เศษหญ้าแห้งจ่อเข้ากับลูกกุญแจ ปรากฏว่าเกิดประจุไฟฟ้าไหลเข้าสู่มือเขา จากนั้นเขาก็นำลูกกุญแจวางลงพื้นดิน ก็เกิดประกายไฟฟ้าขึ้นอีก จากนั้นเขาจึงนำขวดเลเดน มาต่อเข้ากับกุญแจ ปรากฏว่าประจุไฟฟ้าไหลลงมาในขวด จากผลการทดลองแฟรงคลินสามารถสรุปถึงสาเหตุของการเกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่า ว่าเกิดขึ้นจากประจุไฟฟ้าบนท้องฟ้า ซึ่งเกิดจากการเสียดสีระหว่างก้อนเมฆกับอากาศ ทำให้เกิดไฟฟ้า
    ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่ประเทศพัฒนาแล้ว สามารถสร้างอาวุธ โดยอาศัยพลังงานบรรยากาศ (Atmosphere Energy) นำมาใช้เป็น รังสีหายนะ (Death Ray) หรือ โทรกำลัง (Teleforce) หรือเลเซอร์อวกาศ ตามโครงการ star war ที่ประธานาธิบดี โรนัล เรแกน นำมาใช้ต่อต้าน สงคราม 7 ชั่วโมง ของประเทศโซเวียตรัสเซีย ที่สำคัญคือแต่ละโครงการใช้เงินลงทุนสูงมาก
     
  9. เซ่งไต้ซิม

    เซ่งไต้ซิม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +31
    เจ๋งมากค่ะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ โดยส่วนตัวแล้วแค่รู้จักเทสล่าว่าเป็นนักคิดค้นพัฒนาเกี่ยวกับไฟฟ้า ไม่นึกว่าจะอัจฉริยะมีงานประดิษฐ์มากมายมีชื่อเสียงขนาดนี้เก่งมากๆๆๆๆๆๆ
    ปล ในหนังเรื่อง the prestige เทสล่าประดิษฐ์เครื่อง clone ที่ไม่ต้องใช้ dna แต่ใช้ไฟฟ้าแทนให้ robert angier ด้วยแหละ
     
  10. sakirei

    sakirei Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2013
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +26
    น่าจะมาทำเป็นหนังนะ
     
  11. beerwar

    beerwar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +132
    ขอบคุณครับ
     
  12. HeroX

    HeroX สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +10
    โลกเรามันยังมีกลุ่มคนที่คอยกันสิ่งที่จะขัดต่อผลประโยชน์ ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง
    ไอ้ของที่จะเป็นประโยชน์โดยไม่มีสิ่งตอบแทนให้กลุ่มคนเหล่านี้ ยากครับ
     
  13. Thammasawasdee

    Thammasawasdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    292
    ค่าพลัง:
    +869
    ขอบคุณค่ะ...มาเกี่ยวความรู้ไปเก็บก่อน ^^

    ธรรมะสวัสดี :)

    ขออนุโมทนา สาธุจร้า

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. Followdream

    Followdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +12,448
    บุคคลในตำนาน
    ..ผู้ยังประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ :cool:
    ขอบคุณมากๆค่ะที่ย้อนรอยให้ทราบกัน ^^ ยิ้มมมมมม
     
  15. khunfongbeer

    khunfongbeer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +668
  16. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    505
    ค่าพลัง:
    +433
    เทสล่า นี่เป็นรูปแบบหนึ่งของ Time capsules ของโลกนี้ด้วยนะครับ
    Kryon กล่าวถึงบ่อย ล่าสุดก็ในบทความนี้


    :cool:

    The Time Capsules Of Gaia > Kryon


    Tesla the Man


    There was a point in time when humanity almost stumbled, by the way. You were having a hard time with electricity. So a man came along who was way ahead of his time and was available and his name was Nikola Tesla. He gave you a principle that today you call alternating current. Dear ones, I challenge you to understand this principle. Most of you can't, because it is not in 3D. The attributes are still considered "genius-level thinking" to this day. The whole idea of the kind of electricity you use today comes from this man's quantum mind.

    That was all he was allowed to do. Tesla himself was a kind of time capsule, delivered at the right time. He had more, but alternating current was all that was allowed to be given to the planet at that time. Oh, he tried to give you more. He knew there were other things, but nothing was able to be developed. If I told you what else he had discovered, you might not be aware of it at all, since it was never allowed to get out of the box. Earth was not ready for it.

    Tesla discovered massless objects. He could alter the mass of atomic structure using designer magnetics, but he never could control it. He had objects fly off his workbench and hit the ceiling, but he couldn't duplicate or control it. It just wasn't time yet. Do you know what else he was known for? It was seemingly the failure of the transmission of electricity. However, he didn't fail at all.

    There are pictures of his tower, but every time a Human Being sees a tower, there is a biased assumption that something is going to be broadcast through the air. But in the case of Tesla, he had figured out how to broadcast electricity through the ground. You need towers for that because they have to pick up the magnetics within the ground in a certain way to broadcast them and then collect them again from the nodes of the planet's magnetic grid system. We talked about this before. He was utilizing the grid of the planet that is in the earth itself! He was on the edge of showing that you could use the whole grid of the planet magnetically to broadcast electricity and pick it up where you need it, safely, with no wires. But the earth was not ready for it.

    Tesla died a broken man, filled with ideas that would have brought peace to planet Earth, but he was simply not allowed to give any of them to you.

    Now I'll tell you why he was stopped, dear ones, and it's the first time we have ever told you – because these inventions were too easy to weaponize. Humanity just isn't ready for it. You're not ready for massless objects, either, for the principles are too easy to weaponize.

    "So," you might say, "when will we be ready for it?" I think you already know the answer, don't you? At the time when Human consciousness reaches a point where that which is most important is unification and not separation, it will happen. A point where conquering and power are not desirable ideas or assets. A point where humanity will measure the strength of its population by how healthy they are and not by economic growth. A point where coming together with your neighbor is the main objective to social consciousness, and not conquering them or eliminating them. That's coming, dear ones. It's a ways away, but it's coming. Look around the planet at the moment. The old energy leaders are obvious, are they not? It's like they are relics in a world of thinking that is passing them by.


    (good)

    The Time Capsules Of Gaia > Kryon
     
  17. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
  18. ziang

    ziang สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +12
    pig_cryyเปิดใจให้กว้าง อย่าให้อะไรมาตีกรอบจินตนาการของเรา ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันของมนุษย์เรานั้น ยังห่างใกลจากความเจริญที่แท้จริงอยู่มาก แม้ว่าจะมีคนที่จะต้องมีชะตากรรมเดียวกับ เทสลา อีกมาก แต่ก็ขออย่าให้พวกเราเป็นต้นเหตุให้เขาเป็นเช่นนั้นเพราะคนที่ตายไปแล้วเขาไม่อยากฟังคำว่าเสียใจจากใครหรอกนะครับ....http://www.dreamcontrol.in.th
     
  19. ratercracker

    ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    ไอดอลผมเอง อิอิ:cool:
     
  20. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    ยกนิ้วให้ครับ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...