ผีที่โรงพยาบาลต่างประเทศ

ดิฉันเคยไปเฝ้าผู้ป่วยที่โรงพยาบาลที่ต่างประเทศใกล้ๆบ้านของดิฉัน
ตอนนั้นเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงจะไปฤดูหนาว
ในทีแรกหมอและพยาบาลได้จัดเตียงผู้ป่วยอีกเตียง
มาให้ดิฉันนอน ตรงริมหน้าต่าง ในห้องนั้นมีกันสาม
คนคือ ดิฉัน ผู้ป่วย และ น้องสาวของผู้ป่วย ในคืนแรก
ดิฉันได้สวดชิณบัญชร ตอนกลางวัน พอกลางคืน
ก็เจอดีเลยคะ ดิฉันจำได้ว่ามันดึกมากกว่าจะได้นอน
วันนั้นก็ปาเข้าไป เที่ยงคืน ประกอบกับไม่ได้นอนติด
กันหลายวันจากภาระต่างๆที่ต้องวิ่งวุ่นเรื่องโรงบาล
ทำให้ดิฉันง่วงมาก และไม่ได้ทันนึกเรื่องผีใดๆทั้งสิ้น





แต่ครั้นพอเริ่มง่วงสิ่งที่ปรากฏ ในขณะหลับมันไม่
ใช่ความฝัน ดิฉันเห็นผู้ชายคนนึงสวมเสื้อเชิร์ตทำงาน
ลายทาอ่อนๆ มายืนอยู่ข้างเตียงและก้มมองลงมา
ส่วนที่ปลายเตียงอีกด้าน มีผู้หญิงสามคน ใส่ผ้าคลุม

หัวยาวๆสีขาวยืนเป็นลุ่มอยู่ ดิฉันตกใจมากว่าเป็นใคร

จึงลุกขึ้น แต่ด้วยความที่งวงจัดจึงเข้าใจว่าเราคงฝันไป
ก็นอนต่อ แต่พออยู่ในภวังง่วงอีก ก็เห็นคนคนเดิมอีก
เป็นผู้ชายฝรั่งใส่ชุดทำงาน และก็กลุมผู้หญิงสามคน
ในชุดผ้าคลุมหัวสีขาว หน้าขาว จ้องแบบสงบ เยือก
เย็นมาทีเตียง ทีนี้ดิฉันจึงจึงลุกขึ้นจากการนอน มองไป
รอบๆห้อง ผู้ป่วยที่นอนเตียงข้างๆ ก็ถามว่า ยูเห็นอะไร
เหรอ ดิฉันก็เล่าให้เขาฟัง ผู้ป่วยก็ดูเหมือน เชื่อห้าสิบๆ

ทีนี้ดิฉันก็จะนอนต่อแต่พอหลับตาก็เห็นอีก แต่คราวนี้
ตัวผู้ชายย้ายไปอยู่ที่มุมห้อง ยืนกอดอก และมองมาแบบ
หน้าเฉยๆ ทำนองรู้ว่าเรากลัวจึงย้ายมุม แบบเดียวกะที่
เจอที่ บ้านโบราณในตะวันตกของอังกฤษ แต่อันนี้คน
ละประเทศ แต่ผู้หญิงสามคนมายืนใกล้ๆ และก้มหน้า
มาที่หัวดิฉัน ทีนี้ดิฉันเลยลุกไม่นอนอีกเลย






คืนต่อมาดิฉันไม่กล้านอนในห้องผู้ป่วยนี้อีกต่อไป

เลยไปนอนที่โซฟา ในห้อง ร็อบบี้ชั้นบนของโรงบาล

แต่ไม่หลับหรอกคะ แค่นอนบนโซฟาเฉยๆ สักพักอยู่ๆ
ดิฉันก็เห็น ผู้ป่วยเป็นชายชราชาวฝรั่งคนนึงใส่ชุดโรงบาล
สีฟ้า เขาเดินแบบช้าๆกะโพลกกะเพลิก ต่ที่น่าสงสัยคือ

ผิวเขาซีดจนเแป็นสีเขียว เหมือนคนตาย เขาค่อยๆเดิน
มาช้าๆผ่านประตูห้อง แพนทรี่ ที่ดิฉันนอนอยู่ตรงโซฟา
เขาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยเดี่ยวห้องนึงที่อยู่ตรงกัน
ข้าม เสร็จแล้วอยู่ๆไฟมันก็กะพริ้บเหมือนจะดับ แล้วไฟ
มันก็ดับคะ ดิฉันรู้เลยว่า สงสัยผีหลอกแน่ๆ ดิฉันจึงลุก
เดินไปทั้งๆมืดๆจะกลับไปห้องผู้ป่วย ที่เพื่อนนอนอยู่
แล้วไฟมันก็กระพริ้บติดๆดับๆอีกครั้ง ดิฉันเห็นชัดเจนว่า
ชายแก่ผิวสีเขียวคนนั้นมีตาเป็นสีขาวแห้งๆเหมือนคนตาย
เขามองมาที่ดิฉัน แต่ดิฉันไม่ไดพูดอะไรก็เดินมุดๆผ่านไป
คราวนี้พอไปถึงห้องพักผู้ป่วยที่เป็นเพื่อนของดิฉันไฟก็มา
ดิฉันกลับไปที่ห้อง สักพักพยาบาลก็มา
ดิฉันจึงถามเธอถึงห้องพักของผู้ป่วยที่ดูคล้ายศพเดินได้
และชี้ให้พยาบาลดู

พยาบาลก็บอกว่าห้องนั้นตอนนี้ไม่มีคนไข้มาสองวัน
แล้วเพราะมีผู้ป่วยเป็นชายชราเสียชีวิตไปเมื่อสองวันก่อน
และไม่มีคนในห้องนั้น และในชั้นนั้นเป็นชั้นพิเศษ
มีผู้ป่วยอยู่ไม่ถึงสิบคน ไม่มีชายชราคนดังกล่าวอยู่ในห้องใดๆ


กลับเข้าเรื่องเพื่อนของดิฉัน หมอ ได้ผ่าตัดเขาอีกรอบ
ในวันต่อมา ในระหว่างเมายาสลบ และหมอได้นำเขามา
พักฝื้นที่ห้องพัก เขาพูดตลอดตลอดทังที่รับตาราวกับ
คุยกับใครอูยู่ กระทั้งพอเขาฟื้น ดิฉันจึงถามเขาว่า
คุยกับใครอยู่ตลอดเวลาที่สลบนะ เขาก็ตอบว่า
ระหว่างสลบฉันฝันไปว่า นอนบนหิมะ และเจอผู้หญิง
สามคน มีผ้าคลุมหัวสีขาวๆ มานั่งรอบๆ พวกเธอ
กอบหิมะขึ้นมาและ โปรยใส่หน้าเขาแบบ เล่นด้วย
ดิฉันได้ยินดังนั้น ก็นึกถึง ผีสาวสามตนในชุดผ้าคลุม
หัวสีขาวที่มายืนรอบเตียงตอนนอน ว่าเหตุใดเราสอง
คนจึงเจอเหมือนกัน






[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.2773853/[/MUSIC]


เพลงประกอบ คือ operatic metal เมททอล ที่ผสมกับเพลงคลาสสิก คือ จะมีเสียง คอนแทรสกันระหว่างเสียงใสแบบนางฟ้าของผู้หญิง แทนตัวแทนนางฟ้า ตัดกับเสียงน่ากลัวแบบซาตานของผู้ชาย เป็นเพลงที่มีศิลปะลงตัวมาก เพลงอันนี้ยังไม่นับว่าดีเท่าไร

 

รึว่าผู้หญิงสามคนในชุดผ้าคลุมหัวสีขาว จะเป็นยมฑูต(ฝรั่ง) มารับดวงวิญญาณลุงแก่ อันนี้เดาเอาอ้ะ

แต่ถ้าเจอเข้ากับตัวเอง ก่อนอื่นคงจะจ้องแล้วจ้องอีกเพือความแน่ใจว่าใช่ แน่ๆ (เพราะสายตาสั้น ที่ผ่านมาจะคิดว่าตาฝาดไปเอง)

หลังจากนั้นคงคลุมโปงแล้วตั้งสติสวดมนต์ ลองแผ่เมตตาหรืออุทิศบุญกุศลไปให้ (ว่าแต่ว่าผีฝรั่งจะสามารถรับได้รึป่าวก้อไม่รู้)

ที่แน่ๆ ไม่เจอจะดีกว่า หุ หุ

 

เตียงที่หมอเอามาให้ดิฉันนอนนั้นก็คงเคยมีใครตายไปไม่รู้เท่าไรบนเตียงนั้น
พูดแล้วเศร้าคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยมะเร็ง ดิฉันเคยเห็นหมอช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังจะตาย ดูแล้วน่าสลดมาก ดิฉันต่อต้านทุกคนที่ให้กำเนิด มนุษย์ หรือลูกหลาน ถ้ามนุษย์ยังคงออกลูกออกหลาน ต่อไป ความทุก์ ทมาน และความเจ็บปวดก็จะมีไม่สิ้นสุด เราทุกคนต้องเผชิญกับความตาย ที่เราไม่ได้เป็นผู้สร้าง ป.ล แต่โชคดีที่ดิฉันร่างกายปกติและไม่เป็นมะเร็ง แต่ ได้คลุกคลีกะคนที่เป็นมะเร็งมา พวกนี้มีสภาพศพที่น่าเวทนามาก ดิฉันเคยอาสาดูแลผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เห็นแล้วน่าสงสารมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาพวกเขากำลังจะไป หมอจะเอาสายยางใหญ่มากใส่เข้าไปในท่อปัสสวะ ใส่เข้าไปจนมิด แล้วมันก็มีอะไรต่อมิอะไรไหลออกมา...... มันโหดร้ายและน่ากลัวมาก ดิฉันเคยช่วยไปเฝ้าอยู่สองราย เป็นแบบนักเรียนฝึกงาน เขาก็ให้ออก เพราะบอกว่าเราลักษณะไม่เหมาะกับงานแบบนี้ ช่วยยกผู้ป่วยก็ไม่ไหว ปัญญาแค่ช่วยเจาะเลือดยังทำไม่ได้เลย

 

อย่าไปต่อต้านการให้กำเนิดเลยครับ ที่เขาได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นการให้โอกาสมาสร้างบารมีครับ

 

สงสัยอยู่เหมือนกันคะถ้า ทั้งมนุษย์ และสัตว์ สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้วัฏการเกิดก็จบสิ้นลงนะซิ

 

ถ้าสูญพันธุ์จากโลกนี้จริง หรือโลกแตกจริง ก็จะมีโลกใหม่มารอเราเสมอ วัฏจักรแห่งการเกิด-ดับไม่มีวันจบ นอกเสียจากจะเข้านิพพานกันหมด ถึงเป็นการหยุด

 

การเกิดเป็นทุกข์ การมีชีวิตอยู่ยิ่งทุกข์กว่า

 

รูปผีน่ารักดีครับ ชอบ ศิลป์
rat_wting

 

อวตารของท่านก็เช่นกันคะ

 

เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์ การมีชีวิตและลมหายใจอยู่ก็เป็นสิ่งยืนยันว่าเราคงต้องทนกับความทุกข์ต่อไป

 

เนื้อเพลง วีนัส ที่เปิดขณะนี้

Venus




ภาษา ลาติน
Circa mea pectora multa sunt suspiria
De tua pulchritudine, que me ledunt misere.

Venus! - I trow'd thou wast my friend -
Professed to Heaven thou wouldst send;
As a disciple of a villain
Didst thou act the tragedienne.

Iam amore virginali totus ardeo.
Amor volat undique, captus est libidine.

Venus! - I trow'd thou wast my friend -
Professed to Heaven thou wouldst send;
As a disciple of a villain
Didst thou act the tragedienne.

Iam amore virginali totus ardeo.
Circa mea pectora multa sunt suspiria
De tua pulchritudine, que me ledunt misere.
Tui lucent oculi sicut solis radij,
Sicut splendor fulguris, qui lucem donat tenebris


แปลเป็นอังกฤษ

In my heart with sighing
Of your beauty, which wound me sorely.

Sex! - 1 trow'd Toi Waste my friend -
Professed to Heaven thou wouldst send;
By a disciple of a town as
Didst thou act the tragedienne.

I am aflame with love.
Love flies on every side, is seized by desire.

Sex! - 1 trow'd Toi Waste my friend -
Professed to Heaven thou wouldst send;
By a disciple of a town as
Didst thou act as feminine.

I am flame with love.
In my heart with sighing
Of your beauty, which wound me sorely.
Your eyes shine like the rays of the sun,
Just as the splendor of lightning, who gives light in the darkness.





...