การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 10 เมษายน 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    * วิจัยชี้โลกร้อนอาจทำให้สูญพันธุ์ครั้งใหญ่

    โดย มติชน [ 25-10-2550 | 09:39 น. ]




    ผลวิจัยชี้ภาวะโลกร้อนอาจทำให้พืช-สัตว์มากกว่าครึ่งบนโลกนี้สูญพันธุ์ภายในไม่กี่ร้อยปี ไอพีซีซีทำนายอุณหภูมิเฉลี่ยโลกจะเพิ่มขึ้น 1.8-4 องศาในศตวรรษนี้ ทำให้อาจเท่ากับอุณหภูมิครั้งเมื่อเกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่สุดเมื่อ 250 ล้านปีที่แล้ว

    ผลการศึกษาของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยยอร์ก ประเทศอังกฤษ ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นอาจทำให้สัตว์และพืชสปีชีส์ต่างๆ มากกว่าครึ่งหนึ่งบนโลกสูญพันธุ์ภายในระยะเวลาไม่กี่ศตวรรษข้างหน้า

    ผลการศึกษาดังกล่าวที่ตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ของราชสมาคมแห่งอังกฤษ เป็นงานศึกษาวิจัยชิ้นแรก ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสภาพอากาศ อัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต และความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยผลการศึกษาพบว่า ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ ในระดับมหภาคของสิ่งมีชีวิต

    ทีมนักวิจัยได้ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลของฟอสซิล และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลกในช่วง 500 ล้านปีที่ผ่านมา และพบว่าการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตครั้งใหญ่ที่สุด 3 จาก 4 ครั้ง ซึ่งหมายถึงครั้งที่มีสปีชีส์ของพืช และสัตว์มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ บนโลกนี้สูญพันธุ์ เกิดขึ้นในระหว่างช่วงเวลาที่โลกมีอุณหภูมิสูง

    ปีเตอร์ เมย์ฮิว นักนิเวศวิทยา หนึ่งในทีมวิจัยชุดนี้ระบุว่า เห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์โดยทั่วไป ระหว่างอุณหภูมิกับอัตราการสูญพันธุ์ หากอุณหภูมิสูงขึ้น อัตราการสูญพันธุ์ก็จะสูงขึ้น และความหลากหลายทางชีวภาพ มีแนวโน้มที่จะลดลง

    ขณะที่คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (ไอพีซีซี) ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่พึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประมาณการว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกมีแนวโน้มว่า จะเพิ่มขึ้นระหว่าง 1.8-4 องศาเซลเซียส (3.2-7 องศาฟาเรนไฮท์) ก่อนหน้าที่จะสิ้นสุดศตวรรษนี้ (ค.ศ.2100 หรือ พ.ศ.2643) ซึ่งส่วนหนึ่งมีผลมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

    โดยหากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้นถึง 4 องศาเซลเซียส จริง จะทำให้โลกมีอุณหภูมิใกล้เคียงกับเมื่อยุคเพอร์เมียน ซึ่งเป็นยุคสุดท้ายของมหายุคเก่า คือ เมื่อ 250 ล้านปีที่แล้ว ที่มีพืชและสัตว์ที่มีอยู่บนโลก ในขณะนั้นสูญพันธุ์ ไปถึง 95 เปอร์เซ็นต์

    การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ในอดีตบางครั้งใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ร้อยปี ซึ่งเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน จะทำให้เกิดผลกระทบอย่างเดียวกัน

    เมย์ฮิวกล่าวว่า ผลการศึกษานี้ช่วยให้เรารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ หากอุณหภูมิยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ และยังบอกเราได้อีกว่าสิ่งที่เราคิดว่า ต้องใช้เวลานานสามารถเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆ (รอยเตอร์/เอเอฟพี)

    หน้า 21
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3>
    • เกิดภาวะหมอกลงจัดหลายเมืองทั่วประเทศจีน ส่งผลให้การจราจรติดขัดนานหลายชั่วโมง[​IMG]
    </TD></TR><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="8%"> </TD><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 25-10-2007 | 16:04:40 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เกิดภาวะหมอกลงจัดหลายเมืองทั่วประเทศจีน ส่งผลให้การจราจรติดขัดนานหลายชั่วโมง และเที่ยวบินภายในประเทศล่าช้า
    รายงานแจ้งว่า หลายมณฑลทั่วประเทศจีน โดยเฉพาะในแถบตะวันออกของประเทศ เช่น มณฑลหูเป่ย์ ซานตง และเหลียวหนิง ต้องประสบภาวะหมอกลงจัด ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ภาวะดังกล่าวส่งผลให้ทางการท้องถิ่น ต้องสั่งปิดถนนหลายสาย ทำให้การสัญจรเป็นไปด้วยความล่าช้า บางแห่งรถติดขัดนานหลายชั่วโมง สร้างความเสียหายต่อธุรกิจการค้าเป็นจำนวนมาก
    ขณะที่การเดินทางด้วยเครื่องบินก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเที่ยวบินภายในประเทศต้องถูกยกเลิก และบางเที่ยวบินต้องล่าช้า ทำให้ผู้โดยสารตกค้างอยู่ที่สนามบินหลายชั่วโมงด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ปภ.เชียงรายคาดปีนี้หนาวหนัก เตรียมเปิดศูนย์ช่วยปชช.
    วันที่ 28 ตุลาคม 2550 - เวลา 11:21:55 น.

    นายเชษฐา โมสิกรัตน์ หัวหน้าศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่เย็นตัวลงอย่างต่อเนื่องมามากว่า 1 สัปดาห์ ใน จ.เชียงราย อาจจะทำให้ปีนี้ภัยหนาวจะมีความรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา ซึ่งจะมีผู้ประสบภัยกับความหนาวเกินกว่า 100,000 คน โดยเฉพาะราษฎรที่อาศัยอยู่บนภูเขาที่ อ.แม่ฟ้าหลวง แม่สาย แม่จัน แม่สรวย เวียงป่าเป้า และอ.เทิง
    ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย ได้เตรียมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภาวะภัยจากอากาศหนาว ด้วยการเตรียมเงินงบประมาณ 300,000 บาท มาจัดซื้อเครื่องนุ่งห่มกันหนาวไว้แจกช่วยเหลือผู้เดือดร้อน นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเพื่ออนุมัติการตั้งศูนย์เฉพาะกิจ ทั้งยังของบประมาณฉุกเฉินอีก 50 ล้านบาท เพื่อนำมาช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงอีกด้วย

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=8810&catid=19
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    เผยอากาศกทม.ดีขึ้นพรวดในรอบ 10 ปี
    วันที่ 27 ตุลาคม 2550 - เวลา 19:01:38 น.

    กรมควบคุมมลพิษเผย มลพิษในกทม.ลดลง 47% นับตั้งแต่ปี 2540 ต่างชาติชมกทม.ใช้หลายมาตรการฟื้นสภาพอากาศ โดยร่วมมือกับประชาชน รวมทั้งการลดน้ำมันมาใช้แก๊สของรถยนต์ท้องถนนที่กำลังเพิ่มขึ้นในกทม.


    สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างการเปิดเผยมลภาวะทางอากาศของกรุงเทพเมื่อเร็ว ๆ นี้ อ้างกรมควบคุมมลพิษระบุว่า มลภาวะทางอากาศของกรุงเทพหรือกทม.ดีขึ้นกว่าในช่วง 10 ปีที่แล้ว เพราะมลพิษได้ลดลงลง 47 % แม้ว่าปัจจุบันกรุงเทพจะยังคงมีกิติศัพท์ครองแชมป์เมืองอากาศแย่ที่สุดของเอเชียเช่นเดียวกับโตเกียวและสิงคโปร์ แต่สถิติดังกล่าวถือว่ามลภาวะทางอากาศของกทม.ได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยรายงานยังอ้างว่า แม้แต่คนงานในกทม.ก็ยอมรับว่า มลพิษในเมืองหลวงแห่งนี้ลดลง
    ด้านจิเตนดรา ชาห์ ผู้ประสานงานของธนาคารโลกด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเคยทำงานวิจัยเรื่องมลพิษในกรุงเทพ นับตั้งแต่ปี 2533 บอกว่า ตัวเลขดังกล่าวเป็นเรื่องที่ชาวกทม.สามารถพิสูจน์ได้ว่า คุณภาพอากาศของกรุงเทพดีขึ้นอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันผู้คนสามารถเดินไปตามท้องถนนและหายใจกันได้อย่างปลอดโปร่งขึ้น เนื่องจากชาวกทม.ได้ร่วมมือกันกำจัดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม จนอากาศในเมืองนี้ปลอดโปร่งขึ้น โดยกทม.มีการปรับปรุงคุณภาพของอากาศ และมาตรฐานของการปล่อยควันรถยนต์และมลพิษดีขึ้นมาก
    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้ว่ากทม.จะมีอากาศดีขึ้น แต่ยังต้องเผชิญกับปัญหารถยนต์ที่เพิ่มขึ้นบนท้องถนนในทุก ๆ ปี เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์ถือว่าไปได้สวย ปริมาณซื้อรถยนต์ใหม่ไม่ได้ลดลง ส่วนใหญ่มาจากคนในชานเมืองที่ต้องใช้รถยนต์เดินทางเข้ามาทำงานในกทม.

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=8794&catid=27
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ปะการังฟอกสีเพราะโลกร้อน

    ปะการังฟอกสี ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสีของปะการังจางลง เป็นตัวบ่งบอกว่าปะการังกำลังเผชิญกับสภาวะกดดัน

    โดยปกติแล้ว สีของปะการังจะขึ้นอยู่กับชนิดของสาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ตามเนื้อเยื่อของปะการัง ทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบพึ่งพากัน ปะการังให้ที่อยู่อาศัยแก่สาหร่ายเซลล์เดียวและปล่อยของเสียออกมาให้สาหร่ายเซลล์เดียวนำไปสังเคราะห์แสง ส่วนสาหร่ายเซลล์เดียวจะให้พลังงานกับปะการัง และช่วยปะการังในการก่อหินปูน

    เมื่อน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นเนื่องจากโลกร้อน ปะการังก็ขับไล่สาหร่ายเซลล์เดียวเหล่านี้ไปจากตัวมันเอง ทำให้ปะการังไม่เจริญเติบโตอย่างที่เคยเป็น

    เนื่องจากปรากฏการณ์การฟอกสีของปะการังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผิดปกติ นักวิทยาศาสตร์กว่า 50 คนที่เชี่ยวชาญด้านปะการังของ ARC Centre of Excellence for Coral Reef Studies ได้ออกมาประกาศอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ เรียกร้องให้สังคมและรัฐบาลประเทศต่างๆลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ถ้าไม่มีการตั้งเป้าการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ปรากฏการณ์โลกร้อนอาจทำลายแนวปะการังถึงจุดที่ไม่สามารถแก้ไขได้

    เมื่อมีคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศมากขึ้น น้ำทะเลที่ละลายคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นก็จะมีความเป็นกรดสูงกว่าปกติ ปะการังซึ่งมีส่วนประกอบของแคลเซียมคาร์บอเนตก็จะได้รับผลกระทบโดยตรง การลดลงของแนวปะการังก็จะกระทบสัตว์น้ำในระบบนิเวศปะการังโดยปริยาย

    แนวปะการังมีความสำคัญในทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่น Great Barrier Reef แนวปะการังนอกชายฝั่งออสเตรเลีย สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศออสเตรเลียปีละเกือบ7พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปีจากการท่องเที่ยว การนันทนาการ และการประมง ในขณะเดียวกัน ยังสร้างงานได้ทั้งหมด 65,000 งาน

    ภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป การจับปลามากเกินไป และมลภาวะล้วนทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของแนวปะการังลดลง แม้กระทั่งแนวปะการังไกลจากชายฝั่งออกไปที่ไม่มีมนุษย์ไปรบกวน ยังได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะโลกร้อนขึ้น

    การฟอกสีของปะการังเกิดขึ้นบ่อยขึ้นในช่วง30ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศไม่ใช่แค่ภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ได้แสดงอานุภาพการทำลายแนวปะการังแล้ว ในช่วงปี 1998-2002 การฟอกสีของปะการังใน Great Barrier Reef เกิดขึ้นในวงกว้างอย่างเห็นได้ชัด

    นักวิทยาศาสตร์แนะนำว่า ต้องรีบลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทันที ไม่ใช่รออีก 10 หรือ20 ปี และควรกำหนดพื้นที่ที่ห้ามมีการจับปลาเพื่อปล่อยให้ระบบนิเวศได้ฟื้นตัว นอกจากนี้ สัตว์ใหญ่ที่อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง เช่น เต่า ปลาฉลาม และพยูน ควรได้รับการคุ้มครองจากการประมงและการค้า

    ชาวบ้านที่อาศัยตามชายฝั่งก็สามารถช่วยให้แนวปะการังฟื้นตัวได้ โดยการไม่ปล่อยของเสียจากบ้านเรือนและการเกษตรลงในแหล่งน้ำ มิฉะนั้น สาหร่ายจะเจริญเติบโตมาแทนที่ปะการังอย่างรวดเร็ว

    ข่าววันที่: 24 ตุลาคม 2550
    แหล่งข่าว: ARC Centre of Excellence for Coral Reef Studies
    เวบไซต์: http://www.sciencedaily.com/releases/2007/10/071021225256.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 59953.gif
      59953.gif
      ขนาดไฟล์:
      65.2 KB
      เปิดดู:
      59
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ญี่ปุ่นปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="626"><tbody><tr><td bgcolor="#414141" width="14">[​IMG]</td> <td valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="599"> <tbody><tr><td valign="top" width="599"> <table border="0" cellpadding="5" cellspacing="5" width="599"> <tbody><tr><td class="text4">17:06 น.

    <dd>
    </dd><dd>หนังสือพิมพ์โยมิอูริ รายงานอ้างข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่น ที่ระบุว่า ปริมาณการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกลดลงร้อยละ 1.3 ในช่วงระยะเวลา 1 ปี นับจนถึงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะฤดูหนาวที่อบอุ่นขึ้น แต่ปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้เพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนต่อมา เมื่อเทียบกับปีก่อน
    </dd><dd>
    </dd><dd>กระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่น รายงานว่า ญี่ปุ่นปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,341 ล้านตัน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 ในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน ปีนี้ ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ให้ได้ร้อยละ 6 ภายในช่วงปี 2551-2555</dd><dt>http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=T&newsid=288058</dt><dd>
    </dd></td>
    </tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ก๊าซโอโซนที่เพิ่มขึ้นส่งผลร้ายต่อการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

    นักวิทยาศาตร์พบว่ามลพิษทางอากาศทำลายต้นไม้และหยุดยั้ง
    การสังเคราะห์แสงของพืชได้


    เขียนโดย ไมเคิล ฮอปกิ้น


    นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยผลการศึกษาที่น่าสนใจว่า ระดับของก๊าซโอโซนที่กำลังเพิ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อต้นศตวรรษนี้จะทำให้ต้นไม้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศได้น้อยลง
    <table align="right"> <tbody><tr> <td width="15">
    </td> <td valign="top"><table cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc">[​IMG]</td> <td bgcolor="#cccccc">[​IMG]</td> <td bgcolor="#cccccc">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc">[​IMG]</td> <td>[​IMG]</td> <td bgcolor="#cccccc" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc" width="1">[​IMG]</td> <td bgcolor="#cccccc">[​IMG]</td> <td bgcolor="#cccccc" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td>
    </td> <td valign="top"><table bgcolor="#ebebeb" border="0" cellpadding="3" cellspacing="2" width="215"> <tbody><tr> <td class="smalltext" bgcolor="#ebebeb">
    หมอกควันที่ปักกิ่งเป็นสัญญาณอันตรายของมลพิษที่จะทำให้ก๊าซโอโซนสูงขึ้น​
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody> </table> สตีเว่น ซิทช์ นักวิทยาศาสตร์ของศูนย์พยากรณ์อากาศและการวิจัยของประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ปกติเรารู้จักก๊าซโอโซนว่าเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับก๊าซชนิดอื่น แต่นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาใหม่และพบว่า มันมีความสำคัญถึงขั้นจะทำให้เป้าหมายการลดอุณภูมิโลกที่ตั้งเป้าไว้ที่ปี 2100 ต้องเลื่อนออกไป ระดับก๊าซโอโซนที่สูงขึ้นจะทำลายพันธุ์พืชและทำให้พืชสังเคราะห์แสงได้ยากลำบากขึ้น
    ก๊าซโอโซนที่อยู่ในบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียจะช่วยปกป้องโลกจากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต แต่ถ้าระดับของก๊าซโอโซนอยู่ต่ำลงมาก็จะเป็นผลร้ายต่อพืชและสัตว์ ก๊าซโอโซนเกิดขึ้นจากออกไซด์ของไนโตรเจนที่มีปฏิกิริยากับสารเคมีในอากาศส่วนมากเกิดจากท่อไอเสียรถยนต์และโรงงานไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล
    พื้นที่ที่มีมลพิษสูงของโลกจะมีปริมาณความหนาแน่นของโอโซนสูงกว่า 40 ต่อพันส่วน ซึ่งเพียงพอต่อการทำลายพันธุ์พืชได้ และในตอนปลายศตวรรษนี้ (หรือราวปี 2099) นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่า พื้นที่ที่มีมนุษย์อยู่บนโลกใบนี้ทุกหนแห่งจะมีก๊าซโอโซนสูงกว่าระดับอันตราย
    การปลูกพืชจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนได้ ซึ่งคาดว่าจะดูดซึมคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1 ใน 4 ของทั้งหมดที่ปล่อยสู่บรรยากาศโลก ซิทช์ กล่าวว่า “ การศึกษานี้ เป็นการเรียนรู้ 2 เรื่องควบกันคือ ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ และความรู้เกี่ยวกับสารเคมีในบรรยากาศโลก ซึ่งยังไม่เคยมีการศึกษาก่อน
    เขากล่าวเสริมว่า “ ยังไม่เคยมีคนนึกถึงผลกระทบของก๊าซโอโซนที่มีต่อพืชมาก่อน
    หัวข้อเรื่องก๊าซโอโซนนี้มีความซับซ้อนระหว่างการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งก่อให้เกิดกระแสการปลูกต้นไม้ทั่วโลก แต่การเพิ่มขึ้นของก๊าซโอโซน กลับทำลายต้นไม้ที่ปลูกนั้น นักวิทยาศาสตร์เคยทำนายว่าคาร์บอนไดออกไซด์สามารถลดลงได้ภายในศตวรรษหน้านี้ด้วยการปลูกต้นไม้มาก ๆ ทั่วโลก แต่ก๊าซโอโซนที่เพิ่มขึ้นก็ดูเหมือนจะทำให้การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต้องเลื่อนระยะต่อไปอีก
    อีวา เพล นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังศึกษาผลกระทบของโอโซนต่อพืชที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเพนซิลวาเนีย แต่อยู่คนละทีมกับซิทช์ ก็พบความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ เธอกล่าวว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนจะหันมาสนใจประเด็นเรื่องก๊าซโอโซนมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์
    เป็นไปได้ว่าผลเสียจากก๊าซโอโซนจะทำให้คาร์บอนไดออกไซด์มีเพิ่มมากขึ้นไปอีก และต้นไม้ที่คอยดูดซับคาร์บอนในธรรมชาติจะเสียความสามารถนี้ไปจากปริมาณก๊าซโอโซนที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง ” เธอกล่าว
    จากการคำนวณของนักวิทยาศาตร์ ระบุว่าในปี 1901 ต้นไม้ช่วยดูดซับคาร์บอนทั่วโลกได้ถึง 113,000 ล้านตัน และภายในปี 2100 ต้นไม้ทั่วโลกจะดูดซับคาร์บอนได้ 171,000 ล้านตัน แต่ถ้าไม่มีก๊าซโอโซนมาขวางต้นไม้จะดูดซับคาร์บนได้มากกว่า 200,000 ล้านตัน ผลการวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์อยู่ในอินเตอร์เน็ตที่ ( S. Sitchet al .Nature doi:10.1038/nature06059; 2007 ).
    บิล คอลินส์ นักวิทยาศาสตร์แห่งสำนักงานพยากรณ์อากาศ ของอังกฤษ กล่าวว่า พืชแต่ละชนิดมีปฏิกิริยาต่อโอโซนแตกต่างกัน และจำนวนชนิดพืชที่เสียหายนั้นมักอยู่ในถิ่นที่มีมลพิษสูงมาก นักวิทยาศาสตร์คำนวณตัวเลขที่ต่ำสุดที่เป็นไปได้ และพบว่า คาร์บอนประมาณ 15,000 ล้านตันจะยังคงไม่ถูกดูดซับโดยพืช เพราะเป็นผลกระทบมาจากก๊าซโอโซนที่เพิ่มสูงขึ้น
    เขากล่าวว่า “ ต้องจำไว้ว่าโอโซนก็คือก๊าซเรือนกระจกตัวหนึ่ง ดังนั้นมันย่อมก่อให้เกิดปรากฎการณ์เรือนกระจกอยู่ดี การศึกษาของพวกเรากำลังบอกว่า เราต้องเพิ่มความพยายามขึ้นเป็น 2 เท่าเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้
    ซิทช์ บอกว่า โอโซนไม่เหมือนก๊าซเรือนกระจกทั่วไป เพราะมันมีอายุสั้น เราทุกคนจึงสามารถช่วยลดก๊าซโอโซนได้ด้วยการลดมลพิษทางอากาศ วิธีหนึ่งก็คือ หันมาติดตั้งเครื่องกรองอากาศ ( Catalytic Converter) ในเครื่องยนต์ ก่อนที่ควันดำจะออกมาเป็นมลพิษและก่อให้เกิดก๊าซโอโซนในที่สุด

    http://www.wwfthai.org/th/newsandfa...rbon_sinks_threatened_by_increasing_ozone.asp
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ยอดดอยอินทนนท์อุณหภูมิเหลือ 9.5 องศาฯ <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> อุตุฯ เตือน "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง" ทำให้ภาคเหนือมีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนภาคใต้อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ล่าสุดยอดอินทนนท์เหลือเพียง 9.5 องศาฯ คาดภายใน 2-3วัน ยอดดอยลดวูบแตะ 7 องศาฯ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ออกประกาศฉบับที่ 1 (336/2550) ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2550 เรื่องประกาศเตือนภัย "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง"

    โดยหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงได้ก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมภาคใต้ตอนล่างในช่วงวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2550 ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

    อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยในช่วงวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2550

    ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง มีอากาศเย็นลงโดยทั่วไปกับมีลมแรง คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ไว้ด้วย ด้านนายพงศ์ภรณ์ พนัชกร เวรพยากรณ์อากาศ กลุ่มพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคเหนือพบว่าจะมีอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 19 องศาเซลเซียส สูงสุด 32 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ล่าสุดเช้าวันนี้บริเวณยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิต่ำสุดวัดได้ 9.5 องศาเซลเซียส ซึ่งคาดว่าอุณหภูมิจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย ซึ่งจะทำให้มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-10 องศาเซลเซียส

    </td></tr></tbody></table></td></tr> <tr><td><center>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</center></td></tr></tbody></table>
     
  9. LuckyFriday

    LuckyFriday เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,153
    <TABLE style="FILTER: progid:DXImageTransform.Microsoft.Gradient(startColorStr=#C0FFFFCC, endColorStr=#10FFFFFF, gradientType=0)" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: gray 1px solid; BORDER-LEFT: gray 1px solid" align=middle width="100%" colSpan=3>[SIZE=+1]ประกาศเตือนภัย
    "หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง"
    [/SIZE]
    ฉบับที่ 8 (343/2550) ลงวันที่ 04 พฤศจิกายน 2550
    </TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: gray 1px solid; PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px; PADDING-BOTTOM: 10px; BORDER-LEFT: gray 1px solid; PADDING-TOP: 10px" align=middle width="100%" colSpan=3> <DD>ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป มีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในช่วงวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2550 <DD>สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นโดยทั่วไป
    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • asiasat_720x486.jpg
      asiasat_720x486.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.9 KB
      เปิดดู:
      43
    • wp2107.gif
      wp2107.gif
      ขนาดไฟล์:
      35.3 KB
      เปิดดู:
      49
    • wp200721.gif
      wp200721.gif
      ขนาดไฟล์:
      28.6 KB
      เปิดดู:
      50
  10. LuckyFriday

    LuckyFriday เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,153
    ขอเชิญดาวน์โหลดเพลง long live the king of thailand
    อัพไฟล์ฝากเวปไว้แล้ว คำร้อง คำแปล และที่มา
    http://www.uploadtoday.com/download/?618e379722377d7da865d5f2f86a7ccf
    ลิ้งสำรอง
    http://www.uploadtoday.com/download/?653575d535d66434bd3946511fa2c1b0
    http://www.up2box.com/download.php?file=0711058db0575e5ca6cc58c6337a5f133d7d76
    *****รอให้นับถอยหลังเสร็จ กดดาวน์โหลด*****
    เพลงที่คนต่างชาติแต่งให้ในหลวง สมควรแก่การเก็บ และฟัง ไพเราะมาก...
    หม่อมหลวงปริยดา ดิศกุล ประธานมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมได้นำเยาวชนในเครือข่ายเยาวชนพัฒนาศักยภาพประมาณ 20 คน ร่วมร้องเพลงถวายพระพร
    โดยมี นางเคลลี นิลตั้น (Kelly Newton)
    นักร้องนักแต่งเพลงชาวออสเตรเลียซึ่งได้เดินทางร้องเพลงมาแล้วทั่วโลก
    เป็นต้นเสียงในการร้องนำ ในเพลง Long live The King of Thailand ซึ่งนางเคลลี เป็นผู้เขียนเนื้อเพลง และทำนองด้วยตนเอง
    สำหรับเนื้อหาในเพลงนางเคลลีกล่าวว่า ตนเป็นชาวต่างชาติแต่ได้ทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    และรู้สึกประหลาดใจว่า ผู้ชายคนนี้ได้ทำให้ประเทศชาติมากมายขนาดนี้ ทรงเป็นสามี เป็นพ่อที่ดี
    ขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงมีพระอัจฉริยะภาพหลายด้าน ทางด้านการแต่งเพลงดนตรี หรือการเกษตร
    พระองค์ทรงเป็นนักแต่งเพลงและดนตรีที่แต่งเพลงและทรงดนตรีได้เยี่ยมยอดมาก ซึ่งตนก็ชื่นชอบเพลง ที่พระองค์แต่งทุกเพลง
    นางเคลลีกล่าวอีกว่า แรงบันดาลใจสำคัญที่นำมาซึ่งเนื้อหาในบทเพลงนี้เริ่มต้นมาจาก...
    .. ตนได้นั่งเครื่งบินของการบินไทยและได้เห็นวีทีอาร์พระราชกรณียกิจในหลวง ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นพระองค์ท่าน
    ก็ประหลาดใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมถึงได้ทำอะไรมากมายขนาดนี้ เมื่อลงจากเครื่อง
    จึงได้สอบถามเพื่อนและทราบว่าเป็นพระองค์ท่าน แรงบันดาลใจสำคัญจึงมาจากพระองค์เอง
    ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ทรงมีความรัก ความเมตตาให้แก่ประชาชนของพระองค์ทุกคน
    ซึ่งตนสามารถเห็นและสัมผัสได้ พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่างของผู้นำที่ดีของโลกนี้ ที่ผู้นำทุกคนควรจะเป็น
    นางเคลลีกล่าวด้วยว่า ตนกับสามีทำฟาร์มอยู่ที่ออสเตรเลีย โดยไม่ใช้สารเคมี มา 20 ปีแล้ว
    ซึ่งพอทราบว่าพระองค์ท่านมีพระราชดำริเกี่ยวกับการเกษตร ให้ใช้ปุ๋ยชีวภาพ ปลูกพืชปลอดสารพิษ ก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในพระองค์ท่าน
    ...คิดว่าเป็นบุคคลที่หาได้อยากที่สุดในโลกแล้ว
    และเมื่อได้มาประเทศไทย ก็ถามคนที่นี่ว่า ทุกคนรู้สึกอย่างไรกับในหลวง
    ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เรารักในหลวง
    ซึ่งตนไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนในโลกว่า ความรักที่ประชาชนมีต่อผู้นำประเทศจะมากมายขนาดนี้
    และเมื่อทราบว่า ...
    พระองค์ประชวรจากเพื่อนจึงได้เดินทางมาถวายพระพร..
    .. ด้วยการร้องเพลงที่แต่งเอง ซึ่งได้แต่งเพลงนี้เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2550 ใช้เวลา 15 นาที ก็ได้เพลงนี้ออกมา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นางเคลลีได้นำเด็กๆในเครือข่ายร้องเพลงนี้บริเวณด้านหน้าศาลา 100 ปี ศิริราช...
    ก็มีประชาชนให้ความสนใจ โดยเมื่อถึงท่อนฮุก Long live the king Long live of Siam
    .....ประชาชนที่อยู่ในบริเวณก็ร่วมร้องท่อนฮุกนี้ไปพร้อมๆ
    ===============================================
    เนื้อเพลง + คำแปล
    The king of Siam
    --------------------------------------------------------
    Ever since I saw the face of this man
    หลังจากที่ฉันได้เห็นหน้าผู้ชายคนนั้น
    The king of Thailand, The king of Siam
    กษัตริย์ของประเทศไทย กษัตริย์ของประเทศสยาม
    I felt in love with his soul loves this land
    ฉันก็หลงรักในความรักที่ท่านมีให้แก่แผ่นดินของท่าน
    It's in his eye, it's in his heart, it's in his hand
    มันเห็นได้จากสายตาของท่าน จากหัวใจของท่าน และจากมือของท่าน
    He is the husband, the father and the king
    ท่านเป็นสามี เป็นพ่อ และเป็นกษัตริย์
    A great photographer , musician so many things
    เป็นช่างภาพผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักดนตรี และอีกหลายๆอย่าง
    The way he lives his life is something to be hold
    การดำเนินชีวิตของท่านมันเป็นสิ่งที่น่าถนุถนอมไว้
    His grace, his wisdom , an example to the world
    สติปัญญาและความสามารถของท่านเป็นตัวอย่างที่ดีแก่โลกนี้
    Long live the king of Thailand
    Long live the king of Siam
    And in the time when the rain came flooding down
    และเมื่อถึงเวลาที่ฝนตกน้ำท่วม
    He saved the city with a building of the dam
    ท่านก็ช่วยเหลือจังหวัดนั้นไว้ด้วยการสร้างเขื่อน
    In time of conflicts, he has always been there
    เวลาเกิดความขัดแย้งกัน ท่านก็อยู่ตรงนั้นเสมอ
    To stop the fighting just like the father who really cares
    เพื่อช่วยหยุดการต่อสู้เหมือนกับพ่อที่ห่วงใยสนใจลูก
    Long live the king of Thailand
    Long live the king of Siam
    I'm watching wonder at the things he understands
    ฉันเฝ้ามองท่านและพิสวงสงสัยในหลายๆอย่างที่ท่านทำ
    His love for his people, his love for this land
    ความรักของท่านต่อประชาชนของท่าน และต่อแผ่นดินของท่าน
    His working a great culture, he is one of a kind
    ท่านสร้างวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงาม ท่านเป็นหนึ่งในล้านจริงๆ
    His vision for the future way ahead of their time
    ท่านมองเห็นการณ์ไกลมาก
    Long live the king of Thailand
    Long live the king of Siam
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2007
  11. LuckyFriday

    LuckyFriday เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,153
    เตรียมตัวแจ๊คพ๊อตแตก พายุ น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด
    รูป1-3 พายุ
    รุป4-6 ภูเขาไฟที่ทำเหมือนว่าจะระเบิดพร้อมๆกัน3ลูก
    รูปที่6 พื้นที่ที่จะได้รับผล

    นักวิทยาศาสตร์ ชาวอังกฤษ เปิดเผยว่า อีกไม่นาน ภูเขาไฟในอินโดนีเซียจะระเบิดครั้งใหญ่ เเละใหญ่กว่า ภูเขาไฟพีนาทูโบอีกด้วย
    ทั้งนี้การระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟครั้งล่า สุด ปี 1991 คือภูเขาไฟพีนาทูโบ ซึ่งได้ส่งเถ้าถ่าน มาถึงประเทศไทย เเละกระจายไปทั่วโลก กว่าเถ้าถ่านจะหายได้ใช้เวลาหลายต่อหลายปี
    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
  12. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    <TABLE cellSpacing=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Title height=30>สภาพอากาศประเทศไทย </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=2 width="100%"><TBODY><TR vAlign=top><TD><SCRIPT type=text/javascript> var strSrcFile='./animation/thai?ver=2007-11-06';var strXmlFile='.%2Fanimation%2Fthai_query.php%3Fd%3D2007-11-06'; AC_FL_RunContent ( 'codebase' ,'http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=9,0,28,0', 'width' ,'235', 'height' ,'385', 'src' ,strSrcFile, 'quality' ,'high', 'pluginspage' ,'http://www.macromedia.com/go/getflashplayer', 'movie' ,strSrcFile, 'FlashVars' ,'file=' + strXmlFile ); </SCRIPT></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="98%" 0?><TBODY><TR><TD><TABLE class=Panel cellSpacing=0 cellPadding=1 width="100%" border=0><TBODY><TR class=PH><TD class=PTL></TD><TD class=PLH>ลักษณะอากาศทั่วไป </TD><TD class=PRH>เมื่อเวลา 22:00 น.วันนี้</TD><TD class=PTR></TD></TR><TR><TD></TD><TD colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 <tr><TBODY><TR><TD style="HEIGHT: 2px"></TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR class=PMT><TD></TD></TR><TR style="HEIGHT: 2px"><TD></TD></TR><TR><TD class=PM><DD>หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้บริเวณภาคใต้ตั้งแต่ จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในบริเวณ จังหวัดดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงในระยะ 1-3 วันนี้ ส่วนคลื่นในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ระมัดระวัง ในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และผู้ที่อาศัยตามแนวชายฝั่งขอให้ระมัดระวังจากคลื่นลมที่ซัด เข้าหาฝั่ง สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา <DD>อนึ่ง พายุใต้ฝุ่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤศจิกายน 2007
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    เตือนภัย"หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง" <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="626"><tbody><tr><td bgcolor="#414141" width="14">[​IMG]</td> <td valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="599"> <tbody><tr><td valign="top" width="599"> <table border="0" cellpadding="5" cellspacing="5" width="599"> <tbody><tr><td class="text4">06:17 น.

    <dd> กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย"หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง" ฉบับที่ 12 วันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยตอนล่าง ทำให้บริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติดังกล่าวในระยะ 1-3 วันนี้
    </dd><dd> ส่วนคลื่นในอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และผู้ที่อาศัยตามแนวชายฝั่งขอให้ระมัดระวังจากคลื่นลมที่ซัดเข้าหาฝั่ง สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน ยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นโดยทั่วไปและอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา
    </dd><dd> อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “เพผ่า”บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ยังไม่มีผลกระทบต่อลมฟ้าอากาศของประเทศไทยในระยะ 1-2 วันนี้</dd>
    http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=T&newsid=288998</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  14. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    พยากรณ์อากาศประจำวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.. 2550

    ออกประกาศเวลา
    2300 .

    ลักษณะอากาศทั่วไป

    หย่อมความกดอากาศต่ำก่อตัวขึ้นในทะเลจีนใต้ตอนล่างใกล้ปลายแหลมญวน
    และจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทย ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลัง
    แรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้เดินเรือด้วยความ
    ระมัดระวังเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วง 11-13 ..50 นี้ สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมาก
    ขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ในระยะนี้
    อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจาก
    ประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณ
    ดังกล่าวมีฝนในระยะแรกต่อจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศา ส่งผลให้มีอากาศหนาวเย็น
    โดยทั่ว ไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • THAI1_1.pdf
      ขนาดไฟล์:
      349.1 KB
      เปิดดู:
      114
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3">
    • เกิดพายุหิมะตกหนักในกรุง"เวียนนา"ของออสเตรีย
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย ช่องเจ็ดสี [ 17-11-2550 | 15:10 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> พื้นที่หลายส่วนในกรุง"เวียนนา"ของออสเตรเลีย ถูกพายุหิมะพัดถล่มอย่างหนัก โดยหิมะได้ตกทับถมพื้นดินสูงถึง 20 เซ็นติเมตร และเป็นพายุหิมะที่ตกหนัก ครั้งแรกแห่งฤดูกาลของหิมะในปีนี้
    พายุหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้เจ้าหน้าถึงกับปิดเส้นทาง"มอเตอร์เวย์" ที่สำคัญ แห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุง"เวียนนา" เป็นการชั่วคราว เนื่องจากหิมะตกมาก เป็น 2 เท่าเมื่อเปรียบกับส่วนอื่นๆของเมือง และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้รถยนต์ เป็นจำนวนมาก ต้องติดอยู่ตามท้องถนนเป็นเวลาหลายชั่วโมง ก่อนที่จะได้รับ การช่วยเหลือ ขณะที่คนขับบางรายต้องนอนแรมอยู่ในรถยนต์ของตนเองตลอดทั้งคืน ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ต้องออกไปแจกจ่ายผ้าห่ม และที่นอนฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความหนาวให้คนขับรถยนต์ที่เข้าไปอาศัยอยู่ตามโรงเรียน และที่พักชั่วคราว
    พายุหิมะครั้งนี้ยังก่อให้เกิดการขัดข้องของระบบจ่ายกระแสไฟฟ้า ไปยังพื้นที่บางส่วน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักด้วย
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  16. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
    พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 20 พ.ย. 50 เวลา 07.00 น.

    <DD>กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีน ได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรงในช่วงวันที่ 20-22 พ.ย.50 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในช่วงนี้ไว้ด้วย <DD> <DD>พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (20 พ.ย.50) จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ <DD><DD> <DD>ภาคเหนืออากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว <DD> <DD>ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา สุรินทร์ และอุบลราชธานี ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว <DD> <DD>ภาคกลาง อากาศเย็น อุณหภูมิ 1-2 องศา มีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม <DD> <DD>ภาคตะวันออก อากาศเย็น อุณหภูมิ 1-2 องศา และมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร <DD> <DD>ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร <DD> <DD>ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร <DD> <DD>กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง ประมาณ 1 องศา และมีฝนฟ้าคะนองฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ <DD> <DD>อิทธิพลน้ำทะเลในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ <DD>วันพรุ่งนี้ น้ำขึ้นเต็มที่เวลา 14.58 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 25 เซนติเมตร <DD>น้ำลงเต็มที่เวลา 06.45 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 7 เซนติเมตร และเวลา 22.46 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 64 เซนติเมตร <DD>วันนี้ ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.05 น. <DD>กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 17.47 น.</DD>
     
  17. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    พยากรณ์อากาศภาคเที่ยง อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศา - ใต้ฝนหนัก 21-23 พ.ย.
    วันที่ 20 พฤจิกายน 2550 เวลา 11:57:17 น

    กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศภาคเที่ยงประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 ว่า ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 10:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลงต่อไปได้อีก 1-3 องศาเซลเซียส โดยจะมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า

    สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรงในช่วงวันที่ 21-23 พ.ย. 50 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ และคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

    อนึ่ง พายุดีเปรสชั่นปกคลุมบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ตอนล่าง คาดว่า จะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้ ( 20 พ.ย. 50)

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
    อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคเหนือ
    มีหมอกในตอนเช้า และอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ ตากและสุโขทัย อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 31 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-13 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    มีหมอกบางในตอนเช้า และอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศา กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18 องศา สูงสุด 30 องศา ส่วนบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-14 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ ชม.

    ภาคกลาง
    อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศา และมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ ชม.

    ภาคตะวันออก
    อากาศเย็นทางตอนบนของภาค อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=11264&catid=27
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="3">
    • การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกกระทบต่อการพัฒนาของเอเชีย
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 19-11-2550 | 18:25:23 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> ลอนดอน 19 พ.ย.- คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ เป็นกลุ่มความช่วยเหลือ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวเตือนว่า การพัฒนาของเอเชียเดินหน้ามาหลายทศวรรษจะตกต่ำ เพราะการเปลี่ยนแปลงของ สภาพอากาศ ซึ่งจะกระทบต่อชีวิตของประชาชนหลายล้านคน
    คณะทำงานฯ ระบุว่าเอเชียอยู่ในแถวหน้าที่จะถูกคุกคามจากสภาพอากาศ เปลี่ยนแปลง และที่สำคัญเอเชียเป็นที่อยู่อาศัยของประชากรเกือบ 2 ใน 3 ของโลก แม้เอเชียมีความก้าวหน้าในการลดความยากจน แต่สิ่งเหล่านี้จะหยุดชะงัก เพราะผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
    ทางเลือกเดียวจะป้องกันหายนะภัยจากภาวะโลกร้อนคือ ประเทศร่ำรวย จะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างสำคัญ เพื่อจะทำให้ประชาชน ในประเทศยากจน ที่จำเป็นต้องสร้างก๊าซเรือนกระจก เพื่อความอยู่รอด สามารถดำเนินการต่อไปโดยไม่เพิ่มความเสียหายให้กับโลก
    รายงานระบุด้วยว่า ประชากรในเอเชียกว่า 2,000 ล้านคน อาศัยอยู่ติดทะเล จะได้รับอันตรายหากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ขณะที่สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง อย่างรุนแรง จะกระทบต่อประชาชนทั้งภูมิภาค
    </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td width="1%"> </td> <td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td colspan="3">
    • โลกร้อนส่งผลธารน้ำแข็งในนิวซีแลนด์ลดลง
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 19-11-2550 | 16:50:55 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> เวลลิงตัน 19 พ.ย. -รายงานของสถาบันแห่งชาติว่าด้วยการวิจัยน้ำและบรรยากาศ ของนิวซีแลนด์ (NIWA) ระบุว่า ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ กำลังหดตัวลงอย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อน
    รายงานระบุว่า ปริมาณน้ำแข็งในแถบเทือกเขาเซาเธิร์น แอลป์ส ของนิวซีแลนด์ หดตัวลงเกือบร้อยละ 11 ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา กว่าร้อยละ 90 ของการละลายของธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุด 12 แห่ง เกิดจากสภาวะโลกร้อน รายงานระบุว่า แทสมัน กลาเซียร์ ซึ่งยาวที่สุดในนิวซีแลนด์ มีความยาว 23 กม.ในปัจจุบัน และมีทะเลสาบขนาด 5 กม.ก่อตัวที่บริเวณด้านล่างในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อราวคริสต์ทศวรรษที่ 1880 (พ.ศ.2423) ธารน้ำแข็งดังกล่าวมีความยาว 28 กม. นอกจากนี้ ยังพบว่า ฟรานซ์ โจเซฟ กลาเซียร์ ในขณะนี้ ก็หดตัวลงกว่าในช่วงปี พ.ศ. 2443 และ 2543
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  19. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="2">
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td colspan="3">
    • เตือนเอเชียเหยื่อโลกร้อน หนักหน่วงและรุนแรงสุด [​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="8%"> </td> <td width="92%">โดย คม ชัด ลึก [ 20-11-2550 | 03:17 น. ]</td> </tr> <tr> <td> </td> <td> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td valign="top"> </td> <td colspan="2" valign="top"><table border="0" bordercolor="#666666" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="2%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="93%"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td width="7%"> </td> <td width="93%"> กลุ่มสิ่งแวดล้อมเตือนเอเชียจะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน หนักหน่วงรุนแรงที่สุด
    อ็อกซ์แฟมและกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกรีนพีซได้ออกรายงานเตือน เมื่อวันจันทร์ (19 พ.ย.) ว่าทวีปเอเชียจะได้รับผลกระทบที่หนักหน่วง และรุนแรงที่สุดจากภาวะโลกร้อน ซึ่งจะทำให้ความเจริญก้าวหน้าทั้งด้านสังคม และเศรษฐกิจ ที่ดำเนินมาเป็นเวลา หลายสิบปีต้องพลิกกลับ ขณะภาวะขาดแคลนอาหารปรากฏเค้าลาง และมีคน ในภูมิภาค ถึง 4,000 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ชายฝั่งเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม
    รายงานชิ้นนี้มีชื่อว่า เอเชีย-อัพ อิน สโมค ได้รับการรวบรวมโดยองค์กรเพื่อการพัฒนา และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆ กว่า 35 กลุ่ม มีใจความสำคัญว่า ประเทศในเอเชีย ทุกประเทศจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นในศตวรรษนี้ ผลพวงที่จะติดตามมาคือ สภาพฝนฟ้า ไม่ตกต้องตามฤดูกาล พลอยทำให้ปริมาณอาหารสำรองได้รับผลกระทบตามไปด้วย ขณะที่พายุฤดูร้อน อาทิ พายุไซโคลน ซิดร์ ที่ถล่มบังกลาเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะเกิดบ่อยกว่าเดิมและมีความรุนแรงมากขึ้นด้วย
    ทั้งนี้ ฟาร์มขนาดเล็กที่มีอยู่ 400 ล้านแห่งในโลกนี้ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียถึง 81% และฟาร์มเหล่านี้ก็เปราะบางเป็นพิเศษ ต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพราะต้องพึ่งพิงฝนตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งการที่อุณหภูมิตอนกลางคืน ช่วงฤดูเพาะปลูกเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศาเซลเซียสเท่านั้น ทำให้ผลผลิตข้าวของเอเชีย ลดลงถึง 10% ขณะที่การผลิตข้าวสาลีอาจตกลงราว 32% ภายในปี 2593 หรืออีก 43 ปีข้างหน้า
    รายงานฉบับนี้เตือนด้วยว่า การขยายพื้นที่เพาะปลูกพืชที่นำไปผลิตไบโอดีเซล ที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้การทำลายพื้นที่ป่าเลวร้ายลง และอาจทำให้ ภาวะโลกร้อนแย่ลง ทั้งยังคุกคามวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ด้วย และได้เสนอแนะ ทางออกเอาไว้ว่า ประชาคมโลกต้องรับปากว่า จะหาทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรับประกันว่า อุณหภูมิของโลกจะไม่เพิ่มขึ้นเกินกว่า 2 องศาเซลเซียส โดยประเทศร่ำรวยจะต้องทำตามคำมั่นว่า จะนำพลังงานที่สามารถ นำกลับมาใช้ได้ ขณะที่ชาติเอเชียก็ต้องหาทางนำมาใช้มากขึ้น และชาติร่ำรวย ต้องยกเลิกข้อจำกัดด้านทรัพย์สินทางปัญญา และยอมถ่ายโอนเทคโนโลยี เพื่อโลกสีเขียวไปให้ประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น
    รายงานฉบับนี้ออกมา 2 วัน หลังจากที่คณะทำงานระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ภายใต้การสนับสนุนของ องค์การสหประชาชาติ เพิ่งจะออกรายงานฉบับสุดท้ายที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกันว่า เอเชียซึ่งประชากรกว่าครึ่งอาศัยอยู่แถบชายทะเล จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  20. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 0000 น. วันพุธ จนถึงเวลา 0000 น.วันพฤหัสบดี

    พยากรณ์อากาศ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • THAI1_1.pdf
      ขนาดไฟล์:
      190.9 KB
      เปิดดู:
      82

แชร์หน้านี้

Loading...